ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (จบแล้ว) #จินฮวานพันทิป | JUNHOE x JINHWAN

    ลำดับตอนที่ #15 : 13 : การเป็นสก๊อยไม่ปลอดภัยอีกต่อไป

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.24K
      18
      31 ธ.ค. 59

      
      CR.SQW



     13 
    การเป็นสก๊อยไม่ปลอดภัยอีกต่อไป
                    


                       จินฮวานกะพริบตา เขามองเห็นใบหน้าของจุนฮเวชัดไปถึงรูขุมขน ใกล้เสียจนเห็นสิวผดเม็ดเล็กๆที่อยู่บนหน้าผากของจุนฮเว ถ้ามองไม่ผิด ดูเหมือนว่าจุนฮเวมันจะแอบหน้าแดงด้วย...


                       "ก...แก.....ก....เรา......" จินฮวานพยายามจะพูดว่า แกจูบเราทำไม แต่ตอนนี้รู้สึกเหมือนลิ้นกระปลกกระเปลี้ยพูดให้เป็นคำแทบไม่ไหวเลย ได้แต่ทำปากพะงาบๆและมองหน้าจุนฮเวด้วยสายตาตะลึงตึงตึง

                       จุนฮเวก็ดูเหมือนจะพะงาบพะงาบ ตะลึงตึงตึงพอกัน น้องมันเกาท้ายทอยและอ้อมแอ้มพูดไม่เต็มเสียง

                       "เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้า..ผมรอหน้าบ้านนะครับ..."

                       ผม...
                       'ผม'ก็มา...

                       แถม'รอหน้าบ้าน'.....แล้วยัง'นะครับ'ด้วย...

                       มนุษย์ต่างดาวจากกาแล็กซี่ไหนลักพาตัวกูจุนฮเวคนเดิมไป ได้โปรดเอามันกลับมาคืนที จินฮวานไม่ชินกับน้องเวอร์ชั่นพูดเพราะเลย รู้สึกเหมือนมันจะลุกมาต่อยหน้ายังไงก็ไม่รู้

                       "งั้น...เรา...." จินฮวานพยายามพูดออกมาให้เป็นคำแต่รู้สึกว่ามันช่างยากเย็นเข็ญใจยิ่งกว่าการท่องสูตรคูณแม่13ซะอีก

                        "เดี๋ยว....เราเข้าบ้านแล้ว.."

                       พูดจบจินฮวานก็หันหลังขวับและเตรียมตัวจะเปิดประตูเข้าบ้าน แต่เสียงเรียกของจุนฮเวก็ทำให้เขาต้องชะงักและค่อยๆหันมามองเจ้าของเสียงทุ้มนั้นอย่างระแวดระวัง บรรยากาศเหมือนหนังผีเรื่องศุกร์สิบสามไม่มีผิด

                       "เดี๋ยวครับพี่!"

                       "อ...อะไร"

                       เขาทำใจดีสู้เสือหันไปมองหน้าจุนฮเว ไอ้เด็กนั่นกระตุกยิ้มนิดๆที่มุมปากแล้วค่อยๆเลียริมฝีปาก ท่าทางประหม่า และพูดเสียงเบา แต่ทำเอาขนแขนของจินฮวานลุกเกรียว


                       "ฝันดีนะครับ.."


                       จินฮวานทนมองจุนฮเวเลียปากตัวเองไม่ได้อีกต่อไปแล๊ววววว ไอ้บ้าเอ้ยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


    จิ น ฮ ว า น พั น ทิ ป


                       "จินฮวาน เป็นอะไรหรือเปล่าลูก"

                       "เปล่าแม่ ไม่มีอะไร"

                       ซะที่ไหนกันล่ะ หลังจากเขากลับเข้าบ้านมา จินฮวานก็สภาพเหมือนจิตหลุดไปถึงดาวเนบิล กาแล็กซี่สีกุหลาบเป็นที่เรียบร้อย เขาเหมือนคนสติไม่เต็ม แปรงฟันแบบเหม่อลอย แต่พอนึกถึงลิ้นของจุนฮเวที่สอดเข้ามาในปากของเขาเมื่อไม่กี่สิบนาทีก่อนหน้านี้ จินฮวานก็ร้องโอดครวญขึ้นมาอีกแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย

                       แค่ขอโทษมันจำเป็นต้องจูบด้วยเหรอ มึงจูบทุกคนบนโลกที่อยากจะขอโทษเลยปะเนี่ย

                       "ไม่มีอะไรแล้วจะแหกปากทำไม ข้างบ้านเขานอนกันหมดแล้ว ฌ#@ฏโฆฌ%ฏโฌ^@#ฆฏฌ$โฆฏ&ฌฆ"

                       แม่ด่ายาว.... จินฮวานสะบัดหัวไล่ความรู้สึกฟุ้งซ่านที่อยู่ในหัวออกไป แต่มันสำเร็จที่ไหนกันเล่า เขานอนลืมตาโพล่งในความมืดทั้งคืนก็เพราะพอหลับตาเขาก็จะนึกถึงใบหน้าที่มันเคลื่อนเข้ามาใกล้มากของจุนฮเว มันเหมือนเมื่อสามปีที่แล้วตอนจุนฮเวเคยละเมอจูบเขาเป๊ะๆ แต่สิ่งที่ต่างกันคือ คราวนี้มันมีสติ 

                       มีสติดีมากด้วย... เพราะเขาเห็นว่าจุนฮเวยิ้มหลังจากจูบเสร็จ
                       เขารู้..เขารู้ว่าจุนฮเวแม่งตั้งใจ มันมีสติดี....แต่คนที่กำลังจะเสียสติน่ะ มันคือเขาเองนี่แหละ




    จิ น ฮ ว า น พั น ทิ ป



                       อรุณเบิกฟ้านกกาโบยบิน หลังจากโดนแม่หลอกว่าแปดโมงแล้ว(ทั้งที่จริงเพิ่งหกโมงเช้า) จินฮวานก็อาบน้ำแต่งตัวและเดินหาวหวอดลงมาที่ชั้นล่างของบ้านเพื่อรอจุนฮเวที่ป่านนี้น่าจะยังอาบน้ำแต่งตัวไม่เสร็จ แต่ผิดคาด... 

                       จุนฮเวอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว นั่งผิวปากเล่นมือถืออย่างอารมณ์ดี ยืนกึ่งนั่งพิงบิ๊กไบค์คันโตของตัวเองอยู่หน้าบ้าน พอเห็นจินฮวานเดินลงมา มันก็เก็บมือถือใส่กระเป๋ากางเกงแล้วส่งยิ้มโง่ๆมาให้เขาพร้อมกับเอ่ยคำที่ทำให้จินฮวานต้องอึ้ง..


                       "อรุณสวัสดิ์ครับพี่"

                       ....

                       นี่มันพีคมากๆ
                       พีคภัทรศยาชัดๆ....


                       "เอ้อ หวัดดีนะ" จินฮวานยกมือขึ้นโบกยึกนึงประกอบการทักทายยามเช้าและเดินเก้ๆกังๆ จับสายกระเป๋านักเรียนยืนบิดไปบิดมามองมอเตอร์ไซค์คันใหม่ของจุนฮเวด้วยสีหน้าเด๋อๆ

                       แต่ไหนแต่ไรมาจุนฮเวมันขี่ฮอนด้าเวฟ จินฮวานก็คิดว่าดีอยู่แล้วเพราะว่ามันก็กะทัดรัด ขับขี่ง่าย ปลอดภัย ใช้งานสะดวกดี แต่สามปีผ่านไป มันเปลี่ยนมาขี่บิ๊กไบค์แบบนี้จินฮวานว่ามันเกินเหตุ



    (ภาพจากกูเกิ้ล)



                       คือ...ชื่อก็บอกอยู่แล้วอ่ะนะว่า บิ๊กไบค์ มอเตอร์ไซค์คันโต
                       แต่คือมึงจะใหญ่ไปไหน 

                       เขายืนมองบิ๊กไบค์ของจุนฮเวแล้วกะพริบตาสามที รู้สึกสตันท์อย่างไรก็ไม่รู้


                       "พี่ขึ้นเป็นไหมครับ"

                       เดชะบุญที่จุนฮเวคงเข้าใจในชะตากรรมของคนเตี้ยๆ และขาสั้นๆของเขา น้องเดินมาจูงมือเขาและชี้ที่วางเท้า อธิบายขั้นตอนการปีนขึ้นนั่งบิ๊กไบค์อย่างเป็นขั้นเป็นตอนลื่นไหล ไม่มีทีท่าอาการขัดเขินใดๆทั้งสิ้น ซึ่งแตกต่างกับเขาราวฟ้าและเหว.....

                       ทำไมจุนฮเวมันไม่เกร็งเลยวะ มันลืมไปแล้วหรือเปล่าว่า เมื่อวานนี้มึงจูบกูนะ...

                       หรือการจูบจะเป็นฟังก์ชั่นการขอโทษขอโพยของกูจุนฮเว แบบนี้ถ้าน้องมันจะขอโทษอาจารย์ฝ่ายปกครองหรืออาจารย์หัวล้านที่สอนวิชาเกษตร ก็ต้องจูบปากอาจารย์ด้วยเหรอ แค่คิดเขาก็ขนลุกแล้ว มันไม่มีคนบ้าที่ไหนจูบคนอื่นเพื่อแสดงความเสียใจเวลาขอโทษหรอก นี่มันบ้าาาา บ้าชัดๆ

                       "ลองขึ้นดูครับพี่"

                       จุนฮเวจับมือเขา ช่วยพยุงเพื่อให้จินฮวาน(ปีน)ขึ้นไปนั่งซ้อนบิ๊กไบค์ ซึ่งกว่าจะขึ้นไปนั่งได้ก็หลายนาที เทียบกับจุนฮฮเวที่ขับขี่บิ๊กไบค์ลูกรักได้อย่างคล่องแคล่วแล้ว ถ้าน้องมันไถข้างและระเบิดหูอีกนิด เขาจะคิดว่ามันเป็นเด็กแว๊นแล้วจริงๆ 

                       ว่าถึงแว๊นแล้ว แต่เดิมเวลาเห็นเด็กแว๊นกับสก๊อยที่ซ้อนบิ๊กไบค์กอดเอวแล้วเอานมแนบแผ่นหลังผู้ขับขี่ยวดยานชนิดนี้ จินฮวานจะต้องเผลอค่อนขอดในใจทุกครั้ง ว่าอะไรมันจะรักกันปานกลืนกินขนาดนี้ ถึงต้องกอดเอวพี่แว๊นแน่นแล้วเอานมไปแนบหลังเขาขนาดนั้น แถมพี่แว๊นก็ต้องหมอบตัวให้ลู่ๆ เวลาบิด ไม่แน่ใจว่าทำไปเพราะความเท่หรืออะไรกันแน่

                       แต่แล้ว วันนี้จินฮวานก็เข้าใจ เมื่อเขาเองก็จำต้องเอานม(ที่ไม่มี)แนบกับแผ่นหลังจุนฮเวและกอดเอวน้องมันแน่น...


                       คือลมมันตีหน้า.....แล้วอีกอย่างคือ มันสูงโว้ย กูกลัวตก T_T





    จิ น ฮ ว า น พั น ทิ ป



                       "ฮั่นแหน่ะ น้องแชเห็นน้าว่าเมื่อเช้ามากะใคร"

                       หลังจากรอดพ้นจากชีวิตเสี่ยงภัยบนท้องถนนมาได้เป็นที่เรียบร้อย จินฮวานก็ได้เรียนหนังสือตามปกติอย่างที่ควรจะเป็นเสียที แม้ว่าวันนี้จะเห็นสายตาแปลกๆจากคนที่โรงเรียน แต่จินฮวานพยายามทำเป็นไม่สนใจและเรียนศิลปะไปจนหมดคาบ

                       คาบนี้อาจารย์ให้พวกเขาลองวาดสีน้ำ แน่นอนว่าฝีมืออนุบาลแบบจินฮวานก็วาดออกมาได้แค่พอผ่าน แต่ก็ยังดีกว่าจุนฮเว เพราะมันไม่ยอมตั้งใจวาดเลยด้วยซ้ำ จุนฮเวนั่งเล่นทั้งคาบ บางทีก็เอาสีมาป้ายแขนให้จินฮวานต้องแยกเขี้ยวใส่

                       เอาจริงๆเขาก็เริ่มเข้าใจแล้วล่ะว่าเหตุผลที่จุนฮเวเรียนไม่ดี ไม่ใช่เพราะมันโง่หรืออะไร แต่เป็นเพราะมันไม่ตั้งใจเรียนเลยต่างหาก..


                       "ก็บ้านอยู่ข้างกัน ก็เลยมาพร้อมกันเฉยๆอะ" จินฮวานตอบน้องแชกลับไปเรียบๆ ระหว่างที่ยืนคุยกันตอนล้างถาดสี ในใจจินฮวานแอบอยากให้จุนฮเวมายืนล้างถาดสีและพู่กันอยู่ใกล้ๆนี่ เพราะเขารู้ว่าฮยองวอนกลัวจุนฮเว คงไม่กล้าแซวแบบนี้..

                       อย่าว่าแต่แชฮยองวอนเลยที่กลัวจุนฮเว ถ้ามันยืนอยู่ตรงนี้และรู้ว่าเขากับน้องแชนินทามัน จินฮวานก็กลัวมันจะเอาพู่กันทิ่มตาเขาเหมือนกันนั่นแหละ...


                       "รู้เปล่า ว่าบรรดาผู้หญิงที่เคยนอนกะจุนฮเว ไม่มีใครเคยได้ซ้อนพี่เบิ้มเลยนะ"

                       เดี๋ยวนะ

                       "พี่เบิ้ม?"

                       "บิ๊กไบค์ของนางไงคะคุณพี่"

                       พระเจ้า แม่งมีชื่อด้วย...
                       ตั้งชื่อให้ของใช้กันแบบนี้ เห็นทีจินฮวานจะต้องกลับไปตั้งชื่อให้กางเกงในที่บ้านบ้างแล้ว

                       "หมายความว่าไงที่บอกว่าไม่เคยมีใครได้ซ้อน"

                       "ก็ตามนั้นเลย นางหวงบิ๊กไบค์นางนะคุณพี่ มีผู้หญิงเคยพยายามจะขึ้นไปซ้อนมอไซค์นางโดยที่นางไม่อนุญาต แถมทำเบาะหนังเป็นรอยอีก มีข่าวลือว่านางตีผู้หญิงคนนั้นจนต้องเรียกรถพยาบาลมารับเลย นอนหยอดน้ำข้าวต้มอยู่ในไอซียูอยู่เกือบอาทิตย์อ้ะ"

                       ....เดี๋ยวนะ นี่มันน่ากลัวไปมั้ย

                       "นางตีผู้หญิงจริงๆนะ น่ากลัวเว๊อ"

                       "แต่พี่เป็นผู้ชายนะ..." แม้จะเตี้ยก็เถอะ แต่เขายังมีจู๋อยู่

                       "ผู้ชายก็เหอะ พี่เป็นคนแรกเลยจริงที่นางให้ซ้อนบิ๊กไบค์ เอาจริงถ้าไม่บอกว่าสนิทกันมาก่อน น้องแชจะนึกว่าพี่กะนางเป็นแฟ...."


                       "อะแฮ่ม"

                       เสียงกระแอมแบบฟังก็รู้ว่าเสแสร้งและแกล้งทำดังขึ้นขัดคอน้องแชที่กำลังโม้แหลกนินทาจุนฮเวอยู่ บทสนทนาของจินฮวานและฮยองวอนเลยจบไปแบบอัตโนมัติ มีก็แต่ความเงียบที่แผ่เข้ามาปกคลุมไปทั่วทั้งบริเวณ เจนนี่เดินมายืนล้างจานสีอยู่ก็อกน้ำตรงกลางระหว่างจินฮวานและฮยองวอน ตอนนี้เธอเปลี่ยนชุดเป็นชุดพละเสื้อยืดสีขาวขลิบขอบน้ำเงินกับกางเกงขาสั้นสีน้ำเงินตามสีประจำโรงเรียน ผิวขาวละเอียดและผมหยักศกเหมือนดัดลอนอ่อนๆที่รวบตึงเอาไว้ของเธอทำให้เธอดูสวยมากทีเดียว..


                       แต่ในขณะเดียวกัน ก็ดูน่ากลัวด้วย...



    (เจนนี่และชุดพละ)




                       "อปป้ากับจุนฮเวดูสนิทกันดีนะคะ" เจนนี่เรียกจุนฮเวด้วยชื่อเฉยๆเพราะเธอโตกว่าจุนฮเวหนึ่งปี ในขณะที่เรียกจินฮวานว่าพี่ซึ่งก็ถูกต้องแล้วแหละ ว่าแต่...เราสนิทกันขนาดนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่วะ อปป้าเลยเหรอ

                       "ก็ไม่ได้สนิทกันมากหรอกครับ แค่บ้านใกล้กันเฉยๆน่ะ" จินฮวานตอบอย่างสุภาพ อย่างน้อยเจนนี่ก็เป็นผู้หญิงล่ะนะ เขาพยายามเว้นระยะจากน้องพอประมาณ มุบมิบค่อยๆเก็บจานสีและพู่กัน ก่อนจะเอ่ยปากชิ่งไปจากที่ตรงนั้นโดยไว 

                       "ขอตัวนะครับ"

                       บายเด้อออออ จินฮวานรู้สึกถึงรังสีอำมหิตบางๆจากเจนนี่จนไม่สามารถยืนใกล้น้องเขาต่อได้แม้แต่นาทีเดียว และน้องแชก็คงคิดเช่นเดียวกัน จึงรีบล้างจานสีและวิ่งตามจินฮวานมาโดยไว

                       "พี่จิ๊นนน  รอน้องแชด๊วยยย"



    จิ น ฮ ว า น พั น ทิ ป



                       "เอาล่ะ คาบนี้ครูจะแบ่งพวกเธอเป็นสองทีมให้ลองเสิร์ฟและรับส่งลูกวอลเล่บอล ไม่ยาก ตั้งใจนะ เดี๋ยวอาทิตย์หน้าครูจะมีสอบเสิร์ฟลูกแล้วก็รับลูก สอบเป็นกลุ่มนะ กลุ่มละสามคน เอาล่ะไปซ้อมกันได้" ครูพละเป่านกหวีดเป็นสัญญาณแก่การเริ่มให้แต่ละคนไปฝึกซ้อม แน่นอนว่าคนที่ซ้อมจริงๆ(เช่น จินฮวาน) ก็มี และคนที่นั่งเฉยๆ เล่นโทรศํพท์ เม้าท์กับเพื่อนๆก็มีเช่นกัน กลุ่มที่นั่งหล่อๆเล่นโทรศัพท์ก็คือแก๊งโปเกม่อนโกF4ของจุนฮเวนั่นเอง 

                       น้องวอนอู(ผัวอีจี้) น้องซึงชอลคิ้วเข้ม(ที่จินฮวานคิดว่าตอนนี้ทั้งสูงทั้งหล่อขึ้นจากสมัยม.ต้นจนหล่อที่สุดในกลุ่ม) น้องมินกยู(ที่จินฮวานคุ้นหน้าน้อยที่สุดเพราะไม่ค่อยเข้าเรียน) และคนสุดท้ายก็คือจุนฮเว นี่แหละค่ะคุณผู้ชม แก๊ง F4 ที่จินฮวานเคยกล่าวถึง พวกนี้เล่นดนตรีดีหรือไม่ ไม่มีใครสนใจ แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ มันหล่อ...


                       และนอกจากหล่อ..ก็ไม่ทำอะไรเลย....



    วอนอู(ผัวจี้) / มินกยู / ซึงชอล / จุนฮเว 
    4หนุ่ม ตียิมแบนด์


                       
                       เช่น...ไม่เรียนหนังสือและนั่งกดมือถือเล่นโปเกม่อนโก แข่งกันยึดยิมทั้งแก๊ง 
    เขาละอยากจะตั้งชื่อวงให้ใหม่ว่า 'ตียิม Band' จริงๆ



                       ผลั่ก!!


                       ขณะที่เขากำลังยืนมองตียิมแบนด์และชื่นชม(ด่า)พวกมันอยู่ในใจ ก็เหมือนกรรมตามทันเพราะลูกวอลเล่บอลที่ลอยอย่างไม่รู้ที่มา ดันแลนดิ้งมากระแทกท้ายทอยจินฮวานเข้าอย่างจัง และถึงแม้จินฮวานจะเป็นผู้ชาย แต่แรงอัดจากลูกวอลเล่ก็ทำเอาเขาหน้าทิ่ม แทบลืมทางกลับบ้านไปเลย

                       "พี่จินฮวาน"

                       "เฮ้ยพี่เป็นไงบ้าง"

                       "เจนนี่แกทำอีท่าไหนถึงไปโดนพี่เค้าเนี่ย"

                       จินฮวานรู้สึกวิ๊งๆยังไงชอบกล แต่พอได้ยินชื่อของเจนนี่เขาก็ถึงบางอ้อว่าลูกบาสนี้มีที่มาอย่างไร....รอยรักในแรงแค้นสินะ....อัดมาเต็มๆหัวกูเลย

                       "ขอโทษนะคะอปป้า ฉันเสิร์ฟพลาดไปนิดนึง... อุบัติเหตุในการเล่นกีฬามันเกิดกันได้.. ใช่ไหมคะจินฮวานอปป้า"

                       ป้ามึงสิ..

                       "ไม่เป็นไรครับ ผมโอเค"

                       จินฮวานแค่เดินเซๆไปนิดหน่อย แต่ก็หันไปยิ้มแหยๆให้เจนนี่และเพื่อนๆน้องๆที่กำลังตระหนกตกใจเพราะแรงกระแทกจากลูกวอลเล่เมื่อกี้ก็พอสมควรอยู่... โชคดีที่จินฮวานกระโหลกหนา...เพราะถ้าเขากระหม่อมบางกว่านี้หน่อย มีหวังอาจจะติงต๊องหรือสมองกระทบกระเทือนได้เลย...

                       "พี่ ไปห้องพยาบาลเถอะ เดี๋ยวผมพาไป"

                       ระหว่างที่เขาเดินกระย่องกระแย่งอยู่นั้น น้องบยองคนเดิมคนดีก็เข้ามาแตะเบาๆที่ศอกและก้มหัวขออาจารย์พาเขาเดินออกจากโรงยิมไปที่เรือนพยาบาลซึ่งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากยิมวอลเล่ย์บอล .. แว๊บๆว่าเขาเห็นจุนฮเววิ่งตามมาแต่จินฮวานไม่กล้าหันไปมองเพราะรู้ดีว่าเจนนี่ต้องกำลังมองอยู่

                       ว่าแต่มันจะวิ่งตามเขามาทำไม
                       อย่าตามกูมา.... กูกลัวบรรดาเมียของมึง...


                       จินฮวานเสียวสันหลังแว๊บๆ ได้แต่หวังว่าพลังแห่งหัวเหม่งของน้องบยองจะช่วยคุ้มครองเขาจากภัยยันต์อันตรายจากพวกผู้หญิงของจุนฮเว



    จิ น ฮ ว า น พั น ทิ ป





                       "หัวปูดเลยเนอะ แต่ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวทายานิดหน่อยก็หายแล้วจ้ะ" 

                       อาจารย์ฮวังมิยอง หรือที่เด็กๆมักจะเรียกกันว่า ครูฟานี่ อาจารย์ห้องพยาบาลคนสวยเอ่ยปากบอกจินฮวานอย่างใจดีพลางก็ลูบหัวเหม่งที่ปูดขึ้นมาตรงท้ายทอยให้เขาไปด้วย ก่อนจะเดินไปค้นยาหม่องในตู้ จังหวะนั้นแหละที่จุนฮเวเดินตามมาถึงห้องพยาบาลและยืนเก้ๆกังๆอยู่ข้างเตียงพยาบาลที่ห่างจากจินฮวานไปสองเตียง


                       "ถ้าปวดหัวก็นอนพักสักหน่อยนะจ๊ะ เดี๋ยวให้เพื่อนไปเช็คชื่อกับอาจารย์ให้เนอะ"

                       ครูฟานี่สรุปและส่งยิ้มตาหยีน่ารักมาให้จินฮวานที่ลูบหัวปูดของตัวเองอยู่บนเตียง ส่วนน้องบยองก็หันมาพยักหน้ากับจุนฮเวอย่างรู้กันราวกับการส่งไม้ต่อให้จุนฮเวเข้ามายืนใกล้ๆจินฮวานมากกว่าเดิม


                       "พี่เป็นไงบ้าง"

                       .... "ก็ยังไม่ตายอ่ะ"

                       "พี่ไปยืนให้เขาแกล้งทำไม"

                       ไอ้........ จินฮวานหมดแรงจะด่า

                       "ไม่ได้ยืนให้แกล้ง ก็ยืนเฉยๆ มันแค่บังเอิญน้องเค้าเสิร์ฟพลาดนิดหน่อย..."

                       บังเอิญพอดีหัวกูเลยเนี่ย 
                       ถึงแม้เขาจะโดนน้องเจนนี่ชู้ตเข้ากลางกระหม่อม แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่เขาจะไปว่านางหรอก แม้จะเห็นๆอยู่ว่านางตั้งใจก็ตาม จินฮวานแมนพอที่จะไม่ด่าผู้หญิงละกัน.. 

                       "ยัยนั่นมันชักจะมากเกินไปล่ะ" จุนฮเวบ่นพึมพำแต่เขาได้ยินชัดแจ้งเต็มสองรูหู =_=  

                       ท่าทางกระฟัดกระเฟียดไม่พอใจของจุนฮเวทำให้จินฮวานเลิกคิ้วและเอ่ยถามอย่างมีความหวัง(?) พลางก็นึกถึงเรื่องที่น้องแชเม้าท์ให้ฟังเมื่อกลางวันขึ้นมา ที่ว่าจุนฮเวตีผู้หญิงจนเข้าไอซียู

                       ^_^

                       "นายจะไปตีเจนนี่เหรอ"  

                       จุนฮเวขมวดคิ้วและทำท่าจะอ้าปากตอบ แต่ยังไม่ทันพูดอะไร เสียงโอดโอยครวญคราง พร้อมกับเด็กผู้หญิงอีกฝูงใหญ่ก็แห่กันเข้ามาในห้องพยาบาล และการมาถึงของน้องแช มินมุง และอีกหลายๆคนพร้อมกับแก๊งผู้หญิงนั้นก็ทำให้จินฮวานพอเดาได้ว่า ผู้บาดเจ็บรายใหม่จะต้องเป็นเด็กห้องเดียวกับเขาแน่นอน


                       "แหวกหน่อยจ้ะ ให้ครูดูเพื่อนหน่อย..โอ๋ไม่ร้องนะลูก เลือดกำเดาไหลเอง เดี๋ยวประคบก็หายนะคะ"

                       "อาจารย์ขา จมูกหนูมัน..ฮือ...จมูกมันจะเบี้ยวมั้ยคะ ฮือ ซิลิโคนหนูพังหมดแล้ว" เสียงโอดครวญที่ฟังคุ้นหู ผนวกกับการแหวกออกให้ครูฟานี่เข้าไปดูคนเจ็บ ทำให้ทั้งจินฮวานและจุนฮเวถึงบางอ้อ...


                       เจนนี่กำลังร้องไห้งอแงและเอามือป้องจมูกของตัวเองเอาไว้ไม่ยอมให้ใครมอง รอยเลือดกำเดาที่เสื้อของเธอทำให้เดาได้ว่าเธอเลือดกำเดาไหลด้วย


                       คำว่าเวรกรรมตามทันไวเหมือนติดจรวด มันเป็นแบบนี้นี่เอง -..-


                       "ฮือ จมูกหนู ฮือ มันแพงนะ" เจนนี่ยังร้องไห้ไม่ยอมหยุด วีนแตกเสียงดังแถมหันมาด่าพวกเกาหลีมุงที่ยืนล้อมเตียงอยู่ด้วย "พวกแกจะมายืนมองกันทำบ้าอะไร ไปไหนก็ไปไป๊"


                       หึหึหึ จินฮวานพยายามกลั้นยิ้ม เขาจะไม่บอกใครว่าจริงๆแล้วเขาก็สะใจอยู่เหมือนกัน

                       "โดยอน" เสียงเย็นของจุนฮเวทำให้จินฮวานหยุดชะงักการหัวเราะเยาะน้องเจนนี่และหันไปมองตามเสียงเรียก เด็กผู้หญิงที่เรียนห้องเดียวกันกำลังยืนกอดอกมองเจนนี่อย่างสะอกสะใจ แถมชีคุณน้องโดยอนยังทาปากแดง รวมผมตึง ตาเฉี่ยว ผมยาว หน้าวีเชฟ ดูสวยเลวสเป็คจุนฮเวแบบบอกไม่ถูก


    (ชีน้องโดยอน)


                       "เธอทำใช่ไหม"

                       จุนฮเวขมวดคิ้วและเดินอ้อมเตียงมาบีบแขนน้องโดยอนและเค้นเสียงถาม น้องโดยอนกดยิ้มมุมปากและตอบอย่างไม่ยี่หระ

                       "นายก็ได้ยินที่เจนนี่พูด อุบัติเหตุในการเล่นกีฬามันเป็นเรื่องปกติ... เนอะคะพี่จินฮวาน" ชีคุณน้องนางยักไหล่แบบโนสนโนแคร์และหันมาเนอะกับจินฮวานก่อนจะถูกจุนฮเวลากตัวออกไปคุยนอกห้องพยาบาล โดยมีจินฮวานมองตามและยิ้มอย่างเพลิดเพลิน 

                       แบบว่า เขารู้สึกถูกชะตากับน้องคนนี้อย่างบอกไม่ถูก



    จิ น ฮ ว า น พั น ทิ ป




                       "โดยอนหรอคุณเจ๊ นางคืออีตัวแสบเลยนะ"

                       ขึ้นต้นมาแบบนี้ ขี้เม้าท์เบอร์นี้ คงไม่ต้องแนะนำว่าใคร

                       "แล้วนางเป็นใครอ่ะ ตีวอลเล่ใส่หน้าเจนนี่ทำไม" จินฮวานตักต็อกปกกีใส่ปากเคี้ยวหยับๆแล้วถามข้อมูลจากแชฮยองวอนไปด้วย บางทีเขาก็รู้สึกว่าน้องแชแม่งเป็นเอ็นไซโคปีเดียเหมือนกันนะ ในรอบสามปีที่ผ่านมา ไม่ว่าเรื่องอะไรที่เขาอยากรู้เกี่ยวกับจุนฮเว ก็ต้องมาถามน้องแชนี่แหละ

                       "โดยอนนางเป็นดรัมไม้หนึ่งของโรงเรียน ชีสวยนะ เรียนเก่งด้วย มีข่าวลือว่านางชอบจุนฮเว แต่จุนฮเวไม่ยอมเดทกะนาง" อู้ววววววว.....

                       ใครๆก็ชอบอีเน่แหละเขาว่า

                       "งั้นนางก็ตีวอลเล่ใส่เจนนี่เพราะหึงจุนฮเวเหรอ?"

                       "นางจะหึงทำไม๊ เจนนี่โดนจุนฮเวเขี่ยทิ้งไปชาตินึงละคุณเจ๊ แต่นางไม่ยอมจบ อยากรีเทิร์นจนเหนียงสั่น ชีโดยอนนางคงแค่หมั่นไส้ เจนนี่นางชอบทำตัวมั่นหน้าหมั่นโหนก สองคนนี้ไม่ได้แค่แย่งจุนฮเวกันนะ พวกนางแย่งตำแหน่งดรัมไม้หนึ่งกันด้วย แต่ชีนางโดยอนได้ไป เพราะสูงกว่า สวยกว่า"

                       เออนั่น... สงครามนางงามยังไม่ดุเดือดเท่านี้

                       เอาจริงๆลองมาคิดดูแล้ว จินฮวานว่าต้นเหตุความวุ่นวายทั้งหมดมันมาจากจุนฮเวนี่แหละ ที่สาวๆมาตีกันแย่งมัน แถมยังลามมาทำร้ายร่างกายเขาด้วยเหตุอันใดก็ไม่อาจทราบได้อีก.. นี่มันน่ากลัวมากๆ


                       เขาเคี้ยวต็อกในปากและครุ่นคริสสสสถึงวิธีที่จะพาตัวเองออกจากปัญหาทั้งหลายเหล่านี้...



    จิ น ฮ ว า น พั น ทิ ป



                       "พี่ย้ายที่ทำไม!!"

                       หลังจากฟังเรื่องสยองสองสามบรรทัดเกี่ยวกับชีคุณน้องโดยอนและชีคุณน้องเจนนี่แล้ว คาบบ่ายจินฮวานก็เลยขอแลกที่นั่งกับน้องบยอง และมานั่งข้างวอนอูที่อีกฝั่งของห้องเรียนแทนโดยให้จุนฮเวนั่งกับน้องบยองหัวเหม่งไป 

                       เอาจริงเขาก็ห่วงสวัสดิภาพตัวเองเหมือนกันน่ะ..
                       แต่ดูเหมือนว่าจุนฮเวจะไม่ยอม..

                       นั่งข้างน้องบยองมันไม่ดีตรงไหน... จะได้ดื่มด่ำในรสพระธรรมไง...

                       "ผมถามว่าพี่ย้ายที่ทำไม!! กลับมานั่งที่เดิม"

                       "อะไรเล่า" จินฮวานทำเสียงสั่น "เมื่อเช้ายังพูดดีๆกับเราอยู่เลย แกตะคอกเราอีกแล้วนะ.."

                       "ผมบอกให้พี่กลับมานั่งที่เดิม!!"

                       ไม่เอา... กูกลัว....
                       เดี๋ยวนั่งๆอยู่โดนบรรดาสาวในสต็อกมึงลอบยิงจะทำยังไง

                       "ไม่นั่ง"

                       "ทำไมพี่ถึงไม่นั่ง"

                       ก็ลมมันเย็นนะ

                       จินฮวานเงียบ ได้แต่ตอบในใจตามโฆษณายาแก้ริดสีดวงในยุคเก่าก่อน กลัวว่าถ้าตอบไปแล้ว จุนฮเวอาจจะต่อยเขา แต่ก็ดีกว่าย้ายกลับไปนั่งข้างๆมันให้พวกเมียเก่าอีเน่มันมารุมทึ้ง... ถึงแม้จินฮวานจะเป็นผู้ชายที่แรงเยอะกว่าพวกเด็กผู้หญิงแต่เขาก็ไม่ตีเพศแม่ และอีกอย่าง...ถ้าผู้หญิงมาหลายคนเขาก็คงสู้ไม่ไหว...

                       "ผมถามว่าทำไมพี่ถึงไม่มานั่งที่เดิม"

                       จุนฮเวคว้าต้นแขนแขาไว้แล้วเริ่มออกแรงบีบจนจินฮวานขมวดคิ้วและจิ๊ปากใส่มันอีกครั้ง

                       "อย่าบีบแขน เจ็บ!!"

                       "ผมไมได้บีบ!"

                       ไม่ได้บีบก็เหี้ยล่ะ 

                       จินฮวานยกแขนข้างที่จุนฮเวบีบอยู่ขึ้นให้คนอื่นๆในห้องเห็นชัดๆว่าจุนฮเวกำลังบีบแขนเขาอยู่ ก่อนจะพูดเสียงแข็ง

                       "ปล่อย เราเจ็บ"

                       และไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าจุนฮเวปล่อยจริงๆ

                       "เราไม่อยากจะทะเลาะกับแก หรือผิดใจกะใครเพราะแก แล้วทำให้คนอื่นลำบากใจไปด้วย เราไม่ชอบ"

                       จินฮวานกวาดตามองไปรอบๆ เพื่อนในห้องกำลังจ้องที่เขาและจุนฮเวอย่างสนใจ รวมถึงเจนนี่ที่ทำสีหน้าไม่พอใจอยู่ด้วย แต่คนอื่นๆในห้องก็ต้องหลบสายตาและแสร้งว่าไม่ได้มองอยู่ เมื่อจุนฮเวกวาดสายตาดุๆนั้นมองคนอื่นๆบ้าง ราวกับจะตะคอกใส่ว่า 'มองทำส้นตีนอะไรไม่ทราบ'

                       แน่นอนว่าการทะเลาะทั้งหมดนั้นอยู่ในสายตาของชีน้องเจนนี่กับน้องโดยอนด้วย... และทุกครั้งที่จุนฮเวมันวีนเขา มันจะชอบส่งเสียงดังจนคนอื่นรู้กันทั้งห้อง...คือจินฮวานรู้สึกเหมือนสวัสดิภาพของเขามันกำลังริบหรี่ยังไงก็ไม่รู้


                       "งั้นก็ได้! ตามใจพี่แล้วกัน!!"


                       ..สาบานได้ว่าทันทีที่จุนฮเวทำเสียงแบบนั้นใส่เขา เพื่อนๆเกาหลีมุงในห้องเรียน แม้แต่น้องโดยอนและวอนอู ก็ต่างหันมาส่งกำลังใจให้ทางแววตาอย่างเห็นอกเห็นใจ (ยกเว้นแค่น้องเจนนี่)
     



    จิ น ฮ ว า น พั น ทิ ป





                       หลังจากผ่านชีวิตในโรงเรียนไปได้อาทิตย์นึง จินฮวานก็โล่งใจอย่างบอกไม่ถูกที่เขายังมีชีวิตรอดและไม่โดนผู้หญิงที่ไหนดักตบเอาซะก่อน ชีคุณหน่องโดยอนและเจนนี่ก็เขม่นกันสุดฤทธิ์สุดเดช ปล่อยพลังใส่กันจนจินฮวานกลัวไปหมด

                       เขาเหนื่อยมากที่ต้องมาอยู่ท่ามกลางสนามพลังแบบนี้ ดังนั้นแม้ว่าจุนฮเวจะยืนยัน นั่งยัน นอนยันว่าอยากไปเรียนและกลับบ้านพร้อมเขา(ด้วยอีเบิ้ม บิ๊กไบค์ที่ปีนขึ้นไปนั่งยากสัสๆ) แต่จินฮวานก็ปฏิเสธท่าเดียว จนสุดท้ายจุนฮเวก็เลยตกลงกันว่าจะให้น้องบยองซึ่งบ้านก็อยู่ละแวกเดียวกันกับพวกเราสองคนมารับจินฮวานไปเรียนตอนเช้าแทน ส่วนตอนเย็น จินฮวานก็ชอบไปตะแล๊ดแต๊ดแต๋กับเพื่อนๆแก๊งลีดสมัยก่อน แล้วก็ให้เพื่อนมาส่งบ้าง ผัวเพื่อน(aka อีจี้และน้องวอนอู)มาส่งบ้าง

                       จุนฮเวมันก็คงรู้อยู่นั่นแหละ ว่าชีวิตจินฮวานก็ตกอยู่ในอันตรายพอสมควร
                       เขาเองก็ไม่ได้อยากจะเอาชีวิตเข้าไปเสี่ยงกะอะไรน่ากลัวๆเลยถ้าไม่จำเป็น แค่อยากจะเรียนๆให้จบม.หกไปตามใจแม่ต้องการ แต่ดูเหมือนว่าอะไรๆมันจะไม่ค่อยให้ความร่วมมือกับจินฮวานนัก

                       ยกตัวอย่างเช่น การทำรายงานที่อควาเรียมวันนี้

                       ถ้ายังจำกันได้ เขาและจุนฮเวโดนลงโทษร่วมกันข้อหาทะเลาะกันในห้องน้ำ แถมยังมีก้นบุหรี่(ของจุนฮเว)อยู่ในนั้นอีก อาจารย์ก็เลยให้เขาและจุนฮเวมาทำรายงานเรื่องสัตว์น้ำจืดและวิธีการเพาะเลี้ยงด้วยกัน

                       แน่นอนว่าถ้าหากทำได้จินฮวานก็อยากจะชวนเพื่อนๆไปด้วยเยอะๆ แต่โลกมันก็ไม่เป็นเช่นนั้นเพราะอีจี้ต้องไปกินข้าวกับแม่น้องวอนอู มินโฮก็ต้องไปสัมภาษณ์งานที่สมัครไว้ สุดท้ายและท้ายสุด เขาเลยจำใจต้องไปอควาเรียมกับจุนฮเวสองคน


                       "จินฮวาน อาบน้ำเสร็จยังลูก จุนฮเวรอ"

                       "เสร็จแล้วแม่ แป็บนึง"

                       หลังจากทำใจอยู่นาน จินฮวานก็ต้องแปลกใจเมื่อลงมาที่หน้าบ้านแล้วพบกับจุนฮเวที่สวมเสื้อยืดกางเกงยีนส์ และกระเป๋าสะพายพาดไหล่แบบเฉียงๆ นั่งเล่นโปเกม่อนโกอยู่บนมอเตอร์ไซค์ฮอนด้าเวฟคันเก่าเก๋ากึ้กที่เขาคุ้นเคยดี

                       "มาและ" จินฮวานรู้สึกสดใสขึ้นมานิดนึง 

                       อย่างน้อยกูก็ไม่ต้องปีนบิ๊กไบค์ล่ะวันนี้


                       จุนฮเวไม่ตอบอะไร แต่จากสีหน้าและท่าทาง จินฮวานก็สัมผัสได้ว่าน้องมันก็พอจะอารมณ์ดีอยู่เหมือนกัน เพราะงั้นถือว่าวันนี้เป็นลางดีใช่ไหม

                       "ใส่หมวกกันน็อคด้วย เดี๋ยวตำรวจจับ"

                       พอเปลี่ยนมอไซค์ หมวกกันน็อคก็เปลี่ยนตาม ราวกับมี theme ที่เข้าคู่กันทุกอย่างอะไรเทือกนั้น จินฮวานรับหมวกกันน็อคอันเดิมมาสวมแล้วเงอะงะอยู่นานกับการติดสายรัดใต้คาง 

                       ไม่อยากโชว์ความโง่เลย แต่ว่า......
                       แม่ง สามปีที่แล้วเคยใส่ยากยังไง วันนี้แม่งก็ยังใส่ยากแบบนั้นเป๊ะ


                       "มานี่" เสียงทุ้มแหบของจุนฮเวพูดเบาๆจนเกือบจะกลายเป็นเสียงกระซิบ ก่อนที่มือหนาจะเชยคางเขาขึ้นและล็อคสายรัดใต้คางให้เหมือนที่เคยทำให้เขาเสมอเมื่อสามปีที่แล้ว..


                       และสิ่งที่จินฮวานโคตรโมโหตัวเองคือ
                       สามปีที่แล้วเคยใจสั่นยังไง...วันนี้แม่งก็ยังใจสั่นแบบนั้นเป๊ะ


     
                      เกลียดตัวเองจังโว้ยT_T



        
     




      #จินฮวานพันทิป มาแล้วค่ะ ใจจริงอีพีนี้วางแผนจะให้มีฉากจูบและชานอูด้วย แต่คิดไปคิดมา อยากจะเกลี่ยบทตัวร้ายให้มันดูมีที่มาที่ไปมากขึ้น ฉากจูบจุนจิน และการปรากฏตัวของชานอูเลยต้องไปอยู่ที่อีพีหน้าแทน

    จะบอกว่า เรื่องบิ๊กไบค์นี่ประสบการณ์ตรง คือเพื่อนสนิทเคยยืมบิ๊กไบค์พี่ชายขับไปส่งเราที่บ้าน ถ้าไม่หมอบลงหรือกอดเอว แล้วนั่งเด๋อต้านลมเหมือนซ้อนมอไซค์ปกติ ลมมันตีหน้าจริงๆนะ 55555555555555 และปีนขึ้นยากมาก อาจจะเป็นเพราะความเตี้ยของเราก็เป็นได้ (สูงเท่าจินฮวาน)

    สวัสดีปีใหม่เด้อเด็กๆ เป็นเด็กดีนะ อ่านแล้วอย่าลืมเม้นอย่าลืมแท็ก เผื่อจะอัพไวขึ้นนนน



    รักทุกท่าน จาก ฟายเดของคุณไงจ๊ะ
    30/12/59  23.25น.

    ปล.อินเสิร์ทรูปตัวละครเพิ่มให้ด้วยล่ะ เวลาอ่านจะได้นึกภาพออก

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×