ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (จบแล้ว) #จินฮวานพันทิป | JUNHOE x JINHWAN

    ลำดับตอนที่ #5 : 04 : โปเกม่อนโกนั้นสำคัญไฉน

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.64K
      23
      22 ส.ค. 59

     


     
     

    theme by:
    CR.SQW




     04
    โปเกม่อนโกนั้นสำคัญไฉน




     


                             "หมวยยยย" เสียงโหยหวนของไอ้เด็กโข่งทำให้จินฮวานต้องขมวดคิ้วแล้วเปิดประตูห้องนอนลงมาชะโงกบันไดดู จุนฮเวยืนโบกมือเย้วๆ อยู่หน้าบ้าน พร้อมกับเพื่อนพ้องที่สนิทสนมอันได้แก่จีวอนและน้องบยอง



                             "มีไร"


                             "เค้าขอเข้าไปนั่งเล่นโปเกม่อนในบ้านหมวยได้เปล่า" 


                             เดี๋ยวนะ นี่ถึงขั้นพาเพื่อนมาบ้านกูแล้ว


                             จินฮวานขมวดคิ้ว มุ่ยหน้าทำท่าจะปฏิเสธ แต่จุนฮเวก็พูดต่อเหมือนจับทางได้ว่าเขากำลังจะไม่อนุญาตให้เข้ามา 


                             "พ่อนั่งอยู่ข้างล่างอะ เค้าไม่อยากเจอพ่อ"


                             เนี่ย เอาเรื่องนี้มาต่อรองอีก
                             ก็รู้ๆกันอยู่ว่าจินฮวานหล่อและใจดี


                             "เออๆ เข้ามาก็ได้ แต่อย่าเสียงดังนะ นั่งเล่นกันไปเงียบๆ"


                             สิ้นคำอนุญาต เด็กๆก็เข้ามาในบ้านของจินฮวาน โค้งทักทายเขาอย่างสุภาพ(ยกเว้นแค่จุนฮเวคนเดียวที่ไม่ทำและจินฮวานก็คิดว่าน้องคงไม่มีวันทำ) นั่งล้อมวงกันอยู่หน้าโซฟาและเริ่มต้นเปิดเกมในโทรศัพท์มือถือ


                             โปเกม่อนโก ---อีกแล้ว


                             จินฮวานเดินลงบันไดไปนั่งยองๆอยู่ข้างน้องบยองซึ่งยิ้มอายๆให้เขาด้วยท่าทีสุภาพเรียบร้อยเมื่อจินฮวานไปนั่งข้างๆ


                             "บยอง"


                             "ครับพี่จินฮวาน"


                             "ไอ้เกมนี่มันเล่นยังไงเหรอ" 


                             จินฮวานรู้สึกดีเวลาคุยกับเพื่อนจุนฮเวก็เพราะแบบนี้ มีมารยาทขั้นสุด เจอหน้ากันทีก็ก้มหัวโค้งทักทายเขาจนหน้าผากแทบจะชิดหัวเข่าอยู่แล้ว ต่างกันกับไอ้เบื๊อกที่นั่งยืดแข้งยืดขาอยู่ไม่ไกล


                             "มึงไม่ต้องไปอธิบายหรอก หมวยแม่ง พูดไปก็เท่านั้น เขาไม่ได้โตมากับซาโตชิจากเมืองมาซาระแบบพวกเรา เขาไม่อินหรอกมึง"


                             ไอ้เชี่ย.. จินฮวานอยากจะถีบจุนฮเวขึ้นมาตะงิดๆ


                             "ถ้าพี่ไม่ได้โตมากับซาโตชิแล้วพี่โตมากะอะไรอ่ะ" น้องบยองทำหน้างงๆกับคำพูดของกูจุนฮเว กะพริบตาปิ๊งๆ และหันหน้าหันหัวเหม่งๆมามองหน้าจินฮวาน เขาอยากจะตอบมันกลับไปจริงๆ ว่า
    โตมากับเพื่อนมึงนั่นแหละ'แต่ยังไม่ทันพูด จุนฮเวก็ชิงตอบเพื่อนรักเสียก่อน


                             "หมวยเหรอ โตมากะโสนน้อยเรือนงาม สี่ยอดกุมาร แล้วก็จ้ามะจ๊ะทิงจา"


                             จ้าบ้านมึง


                             "เพื่อนเล่นเหรอ" เขาทำเสียงเขียวใส่จุนฮเว แม้อีกฝ่ายจะหาได้มีท่าทีสนใจไม่ จุนฮเวยังคงตั้งหน้าตั้งตาปกป้องยิมอย่างเอาเป็นเอาตาย ส่วนไอ้เหยินจีวอนก็พยายามจับเต่าสีฟ้าๆที่จินฮวานจำชื่อไม่ได้ด้วยการโยนโปเกบอลใส่ จะมีก็แต่น้องบยองเท่านั้น ที่หันมายิ้มตาหยีหัวเหม่งใส่เขาอย่างสุภาพ 


                             "พี่อย่าไปโกรธมันเลยครับ เสียอารมณ์เปล่าๆ"


                             ก็นั่นสินะ จินฮวานถอนหายใจ พยายามทำเป็นลืมๆความหงุดหงิดไปซะ


                             "แล้วนี่พวกเราไม่ซ้อมบาสกันหรอ จับโปเกม่อนกันทั้งทีมเลยปะเนี่ย"


                             "อ๋อเปล่าครับพี่ คือวันนี้โค้ชไม่ค่อยสบายนิดหน่อยครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้ซ้อมกันอาจจะเลิกค่ำหน่อย ซึ่งก็ดีเลยครับพี่ ช่วงเย็นๆ เห็นว่าสีฟ้าจะมีคัดเชียร์ลีดเดอร์แถวๆสนามบาสด้วย แฮ่ๆ"


                             น้องบยองยิ้มตาหยี ปิดบังความหน้าม่อไม่มิด


                             "อะไร จะไปส่องสาวหรอเรา" จินฮวานหยอกด้วยความเอ็นดู "ใครอ่ะ เผื่อพี่ติดต่อให้"


                             "เอ่อ แอบบอกไม่ได้นิดนึงครับพี่"


                             แหม่ มีความลับ


                             "มีความลับกะพี่เหรอ พี่ก็ลงคัดลีดนะเว้ย เผื่อพี่เป็นพ่อสื่อให้ไง"


                             "ห้ะ พี่จินฮวานจะไปคัดลีด!!"
                             "ห้ะ พี่จินฮวานจะไปคัดลีด!!"
                                "ห้ะ หมวยจะไปคัดลีด!!"


                             แล้วนี่จะแย่งกันพูดเพื่อ


                             "เออ...ก็รุ่นพี่บังคับอะ แต่ก็คงไม่ได้เป็นหรอก แค่เต้นง่อยๆก็คงไม่ได้เป็นแล้วอ่ะ" จินฮวานบุ้ยหน้า บอกน้องๆอย่างไม่ค่อยใส่ใจนัก 


                             "แล้วสรุปนี่จะบอกได้ยังอะ ว่าเหล่ใครอยู่ หวังเคลมใครบอกได้นะเว้ย"


                             เกิดความเงียบขึ้นอึดใจใหญ่ เพราะจีวอนและจุนฮเวก็หยุดเล่นเกมและยื่นหน้ายื่นตามารอเสือกกันอย่างพร้อมเพรียง น้องบยองยิ้มแหยอย่างขอความเห็นใจคล้ายจะบอกว่าหากเล่าเรื่องสาวน้อยปริศนาขึ้นมาตรงนี้ อาจจะโดนเพื่อนรักล้อไปอีกเจ็ดวันเจ็ดคืน


                             "อ่ะๆ ไม่บอกก็ไม่บอก พี่ไปอ่านหนังสือแล้ว เล่นกันเบาๆอ่ะ อย่าเสียงดัง"


                             "ครับผม" หึๆ แน่นอนว่าเป็นคำตอบรับของน้องบยอง


                             "หมวย หิวข้าว" เพราะไอ้เบื๊อกนี่ไม่มีวันจะพูดเพราะกับเขาแน่ๆ


                             "ไม่ข้าวอะไรทั้งนั้น!! เราเป็นพี่แก!!  เลิกเรียกเราหมวยได้แล้ว!!!"


                             จินฮวานแสร้งปึงปังเสียงดังและเดินขึ้นบันไดบ้านมา จุนฮเวคงไม่รู้ หรือไม่ก็รู้แต่ลืมว่าบ้านของเขามันเสียงก้อง แม้จะขึ้นมาที่ชั้นบนแล้ว ก็ยังได้ยินเสียงพูดของคนที่อยู่ด้านล่างอย่างชัดเจนอยู่ดี


                             "พี่จินฮวานนี่เขาก็น่ารักดีนะ"


                             "เออ น่ารักแต่ตีนหนักชิบหายเลยนะ" 


                             "น่ารักอยู่ดี พี่เค้าใจดีด้วย"


                             "น่ารักเชี่ยไร ห้ามชม!! ห้ามยุ่ง หมวยของกู!!"


                             คนที่เรียกเขาว่าพี่จินฮวานทุกคำ คงไม่ต้องเดาว่าเป็นบยองยุน ส่วนคนที่บอกว่าเขาตีนหนัก ก็คงเป็นใครไม่ได้นอกจากคนที่เคยโดนเขากระโดดเตะปากสมัยเด็กๆ อย่างไอ้เหยิน


                             แต่ไอ้คนที่เรียกเขาว่าหมวยหมวยหมวยมาตั้งแต่เด็ก แถมกำลังแสดงความเป็นเจ้าของจินฮวานอยู่น่ะ มาเป็นเจ้าของเขาตั้งแต่เมื่อไหร่หรอ



                             อยากรู้จัง อิอิ



    # จิ น ฮ ว า น พั น ทิ ป 




                             "น้องอาจจะแค่หวงเวลาที่เพื่อนน้องเค้าชมก็ได้นะ"


                             "ไม่รู้เหมือนกัน แต่คือจะหวงทำไมอ่ะ ถ้าเป็นพี่น้องกัน ถูกมั้ย"


                             จินฮวานเองก็ไม่อาจเก็บความสงสัยไปได้นาน ครั้นจะไปตั้งกระทู้พันทิปถามก็เกรงว่าจะถูกจิ้นให้ได้กันเหมือนกระทู้ที่แล้ว แต่คือเรื่องมันก็น่าคิดหรือเปล่าวะ 


                             เมื่อไม่รู้จะหันหน้าไปหาใคร สุดท้ายยุนฮยองกับฮันบินจึงเป็นตัวเลือกถัดมาจากพันทิป


                             "แล้วที่มึงมาเวิ่นเว้อกะพวกกูอยู่นี่ แสดงว่ามึงชอบน้องเหรอวะ" ยุนฮยองกลอกตาเป็นกราฟพาราโบล่าคว่ำ เบ้ปากใส่จินฮวานหนึ่งที "มีความกินเด็กเนอะ"


                             "กูไม่ได้จะกินเด็กนะ!" ถ้าอ้างอิงจากจูบคราวที่แล้ว กูว่าเด็กมากกว่าที่จะกินกู


                             "แล้วว่าไง ตกลงมึงชอบน้องมันเหรอ"


                             "ก็...นิดนึง"


                             "ว้าว" ฮันบินยิ้มโง่ๆเหมือนลูกหมาร่าเริงอย่างล้อเลียน จินฮวานอยากจะตบกบาลสักทีแต่ก็เห็นแก่ความน่ารักของมันเลยตบไม่ลง ส่วนยุนฮยองก็ยังคงเบ้หน้ามองเขาด้วยสายตากึ่งเห็นใจ กึ่งเสียดสี


                             "กูว่าจากที่เล่า ก็ไม่นิดละนะ แล้วน้องก็ดูท่าทางจะชอบมึงออก"
     

                              จินฮวานรู้สึกสวยขึ้นมาทันใด เผลอเอามือเสยผมหน้าม้าโดยไม่ตั้งใจ เรื่องความหน้าตาดีนี่มันห้ามกันยากจริงๆ "ชอบกูเลยเหรอ จริงเหรอวะ"


                             "ก็ถ้าไม่ได้ชอบมึงแต่พูดกะมึงแบบนี้ ทำกะมึงแบบนี้ กูว่าควรด่านะ แม่งอ่อยมึงแรงมากเลยเอาจริง"


                             จินฮวานขอยิ้มอ่อนหนึ่งที
                             คนหน้าตาดีนี่วางตัวลำบากจริงๆ มีแต่คนมารักมาชอบ


                             "ฮันบิ๊นนนนน" นั่นแหน่ มีความเสียงสูง 


                             ทั้งจินฮวาน ฮันบิน และยุนฮยองหันไปมองต้นเสียง เห็นจีวอนยืนฟันเหยินโบกมือเย้วๆมาให้ พอเห็นจินฮวานกับยุนฮยองก็ก้มหัวให้นิดๆเป็นการทักทาย


                             "พี่จินฮวานไม่ไปคัดลีดเหรอครับ"


                             เอิ่ม 
                             คำทักทายมันควรเป็นคำว่าสวัสดีไม่ใช่หรอกหรอ 


                             จินฮวานมองจีวอนที่ยืนหัวหยอยฟันเหยิน สวมเสื้อบาสสีเขียวอื๋อและส่งยิ้มงงๆมาให้ พอพูดถึงเรื่องคัดลีดก็อยากจะแกล้งป่วยขึ้นมากระทันหัน แต่จีวอนก็ทำให้ความฝันของเขาพังทะลาย


                             "พี่โจควอนบอกว่า ถ้าไปช้า จะไม่ต้องคัดอะพี่"


                             เหยดเข้ งั้นไม่ไปดีกว่า


                             "แต่จะให้เป็นเลย"


                              อ้าว

                             วอทเดอะ-ฟัคคคคคคคคคคค


                             "แล้วทำไมมึงพึ่งบอกวะคิมจีวอนนนนน"





    # จิ น ฮ ว า น พั น ทิ ป 







                             "ลีด ปีนี้นะ พวกเธอจะต้องเอาแชมป์มาให้สีฟ้า โอเคป้ะ คือเจ๊ก็ไม่อยากจะอะไรมาก แต่แชมป์มันได้มาทุกปี และปีนี้เจ๊ก็เลือกมาแล้ว ว่าพวกเธอจะต้องมาเป็นหน้าเป็นตาให้สีเรา"


                             ตอนที่จินฮวานไปถึงเจ๊โจควอนก็กำลังกล่าวโอวาทให้น้องๆที่มาคัดตัว จินฮวานสอดส่ายสายตามองหน้าพวกเพื่อนๆไปทั่วๆทุกคน มีทั้งคนที่รู้จัก คุ้นหน้า และคนที่ไม่รู้จักเลย 


                             เขาอาศัยจังหวะที่พี่โจควอนกำลังโม้สะบั้นหั่นแหละนั้น เดินเนียนๆไปนั่งข้างยองแจ เพื่อนห้องสิบที่อยู่สีฟ้าเช่นเดียวกัน


                             "เฮ้ย พี่เค้าคัดไปยังวะ"


                             "คัดแล้ว" 


                             จินฮวานกะพริบตาตี่ๆของตัวเองและพาลนึกถึงคำที่จีวอนบอกกับเขาขึ้นมา ว่าถ้าเขามาช้า พี่โจควอนจะให้เป็นลีดเลยโดยไม่ต้องคัด 


                             "แล้วมีใครได้เป็นตัวจริงบ้างอะ.."


                             "ไม่ใช่กูอ่ะ"


                             "นังจินฮวาน!! มาสายแล้วยังจะชวนเพื่อนคุยอีก" พี่โจควอนชี้นิ้วมาที่เขาและส่งผลให้เพื่อนทั้งเก่าและใหม่หันมามองหน้าจินฮวานโดยอัตโนมัติ และเมื่อเขาเบือนหน้าหลบสายตาทุกคน เสมองไปทางสนามบาส ก็กลายเป็นพีคภัทรศยากว่าเก่า เมื่อนังเน่และผองเพื่อนกำลังนั่งมองเขาโดนด่ากันหน้าสลอน


                             เด๋อกว่าการคัดลีดก็คือการโดนด่าต่อหน้าน้องนี่แหละ


                             "คอนเซปของสีฟ้าปีนี้คือเล็กพริกขี้หนู เพราะงั้นชั้นก็เลยเลือกเฟ้นมาแต่พวกที่ตัวเตี้ย" 


                             แหม่ 
                             ถ้าตาไม่ฝาด เขาเห็นจีวอนและจุนฮเวหันไปหัวเราะคิกคักให้แก่กันพอพี่โจควอนพูดคำว่าเตี้ยออกมา ถ้าพี่เขาจะพูดดังขนาดนี้ วันหลังนอนพูดอยู่ที่บ้านเสียงก็น่าจะดังมาถึงโรงเรียนพอดีนะ



                             "จีจี้"


                             "ค่ะพี่โจควอน"


                             "หร่อนบอกเรื่องนัดซ้อมให้จินฮวานด้วย เจ๊ขี้เกียจพูดซ้ำ เดี๋ยวเจ๊จะต้องไปแล้วจริงๆ เพราะผัวเจ๊มีความมายืนคอย เอาเป็นว่าพรุ่งนี้ทุกคนมาเจอกันให้พร้อมตรงนี้นะจ๊ะ แยกย้ายได้จ่ะ"


                             พี่โจควอนหันไปพูดกับอูจี เด็กห้องสิบที่ตัวเล็กพอๆกันกับจินฮวาน แต่หน้าตาจิ้มลิ้มน่ารักกว่าจินฮวานเยอะ พอพูดจบก็มีความอวดผัวเบาๆ พูดไปก็ชะม้ายตามองผัวกล้ามโตที่มาจอดฮาร์เล่ย์รอไปด้วย


                             บายยยย



                             จินฮวานกะพริบตาปริบๆ เพราะยังคงอึ้งอยู่



                             สรุปว่านี่เป็นลีดแล้วเหรอ
                             ไม่ให้โอกาสกูได้เต้นง่อยๆก่อนเลยเหรอ เลือกกูทำไม



                             "จีนาน" เสียงหวานใสระดับแปดสิบของอูจีจี้ "เราชื่ออูจีนะ เรียกจีจี้ก็ได้" 

    (จีจี้)



                             เขาพยักหน้า ไมได้แนะนำตัวอะไรเพราะอูจีดูเหมือนจะรู้จักเขาอยู่แล้ว ที่จริงจินฮวานก็รู้จักชื่ออูจีแหละ แต่ไม่เคยคุยกัน เพิ่งมีครั้งนี้เป็นครั้งแรก


                             "ปีนี้ลีดมีแปดคน ชะนี4 คนสวย4"


                             เดี๋ยวนะ


                             "ยังไงนะ"


                             "คือหมายถึงมีผู้หญิงเนี่ย 4 คน แล้วก็พวกเราอีก 4 คน"


                             เอ่อ คนสวยที่ว่า----


                             "ก็มีฉัน มีแก มีนังเตนล์ฐา เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนคนไทย แล้วก็นังมยองซู มิงฐาห้องแก"


                             เมื่อจีจี้แนะนำเพื่อน'ชาวเรา'ในทีมครบ4คน จินฮวานก็รู้เลย.........



                             ตุ๊ดล้วน (ยกเว้นจินฮวาน)



                             "พรุ่งนี้เจ๊เค้านัดซ้อมห้าโมงเย็นนะแก รีบมาด้วย"



                             แล้วเดี๋ยวนะ


                             "ซ้อมตรงนี้เหรอ"


                             "อื้อ เจ๊โจควอนบอกว่า ซ้อมตรงนี้แหละ วิวดี จะได้ส่องนักบาสไปด้วย" พูดจบอูจีก็หันมายิ้มอ่อน ส่งสายตามีเลศนัยให้จินฮวาน "ดูสิ คนที่ชู้ตบาสอยู่คนโน้นอ่ะ น่ารัก น่ากิน"


                             จินฮวานมองตามสายตาของจีจี้ไป และก็พบว่า


                             "อ๋อ จุนฮเวอ่ะ"


                             จินฮวานยิ้มแรง ลืมเรื่องจะอายที่ต้องซ้อมลีดอยู่ข้างสนามบาสไปเลย  
                             คือของกูมั้ยล่ะคะลูกสาว


     


                             "มองไร จะกลับมั้ยอ่ะบ้านเนี่ย"


                             และพ่อหนุ่มที่ตกเป็นหัวข้อสนทนาก็เดินเข้ามาหาจินฮวานกับจีจี้หลังจากนั้นไม่นานเหมือนมันเล่นบาสรอเวลาให้จินฮวานเสร็จธุระมากกว่าซ้อมเพื่อไปแข่ง พ่อชู้ตลูกสุดท้ายลง มันก็เดินดุ่มๆมาหาเขากะอูจี จุนฮเวยัดหมวกกันน็อคใส่มือจินฮวานและหันไปมองคนที่ยืนเตี้ยอยู่ข้างๆ เขา



                             จินฮวานอยากจะมองบนให้ทะลุชั้นบรรยากาศไปถึงบนอวกาศเมื่อจีจี้ชม้ายตาทำตาหวานใส่จุนฮเว



                             "หวัดดีครับน้อง"


                             นังจีจี้!! นังงูเห่าสารพัดพิษ!!


                             "หวัดดี พี่ชื่ออูจีใช่ปะ"
     

                             เอ๊า จุนฮเว๊!! ไอ้บ๊าาาาาาา



                             จินฮวานโกรธกว่าเดิมตรงที่จุนฮเวมีความทักกลับ แถมรู้จักชื่อนี่แหละ 
                             ลาก่อน เด็กเลว เลี้ยงเสียข้าวผัดจริงๆ


                            "ใช่ เราชื่ออูจี หรือจะเรียกจีจี้ก็ได้นะ"

                            นังอ้วน
                            บิดเข้าไป เขินมากมั้ง ยืนบิดเป็นกางเกงในม้วนเลขแปดขนาดนี้


                            จินฮวานหรี่ตามองความแรดของเพื่อนร่วมทีมและความหล่อจนน่ารำคาญของน้องชายข้างบ้านแล้วก็รู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก เดินหลีกจุนฮเวและใส่หมวกกันน็อคครอบหัวเอาไว้ นั่งคร่อมมอเตอร์ไซค์ที่จอดอยู่และกอดอก



                            ไม่ได้งอน ไม่ได้งอนเลยสักนิด


                            เขาเหลือบมองจุนฮเวด้วยหางตา ไอ้เน่มันหยิบโทรศัพท์มากดอะไรซักอย่างเหมือนจะเมมเบอร์


                            บาย 

                            อย่าหวังเลยว่าจากนี้จะมาอ้อนให้เขาทำกับข้าวให้กิน  เกลียดความทักตอบ เกลียดความรู้จักชื่อ เกลียดความขอเบอร์ เกลียดที่สุดก็คือความหน้าตาดีก็เลยมีแต่คนมาชอบนี่แหละ จุนฮเวแม่งทำให้เขาเซ็งอย่างถึงที่สุดจริงๆ


                            เขานึกถึงตอนจุนฮเวเรียนป.2
                            ตอนนั้นปิดเทอมใหญ่ตอนจินฮวานจบม.หก แล้วหน้าร้อนที่เกาหลีปีนั้นมันร้อนมากๆ จินฮวานก็เลยบอกแม่ว่าอยากเปิดร้านขายน้ำแข็งไสแล้วจะให้จุนฮเวมาช่วยขาย


                            ผลปรากฏว่า ขายได้วันละสามถ้วย แต่กินกันเองคนละห้าถ้วย

                            

                            "จุนฮเวย่า"


                            "ห้ะ" ไอ้เด็กจมูกรั้นที่นั่งอยู่ข้างๆเขาขมวดคิ้วและเอ่ยขานโดยไม่หันมามองหน้า จินฮวานในตอนนั้นตัวสูงกว่าจุนฮเว เรียกได้ว่าเป็นช่วงเวลาเดียวในชีวิตเลยก็ว่าได้ 


                            "ช่วยเรียกลูกค้าหน่อยดิ"


                            "ไม่เอา หมวยเรียกเองเลย"


                            "ช่วยขายหน่อยดิ" จินฮวานวัยสิบเอ็ดในตอนนั้นพยายามดึงมือน้องชายวัยแปดขวบให้ลุกขึ้นยืน หลังจากอิดออดอยู่ครู่ใหญ่ ไอ้เด็กหน้าตูดก็ลุกขึ้นยืนเท้าสะเอว กางเกงบอลยืดๆและเสื้อกล้ามเก่าๆสีขาวยังติดตรึงอยู่ในความทรงจำของจินฮวาน รวมถึงน้ำเสียงนักเลงๆ ตอนที่จุนฮเวเรียกลูกค้าด้วย


                            "ลูกค้า!! ลูกค้ามานี่!! มาซื้อหน่อย"



                            หึๆ... เรียกลูกค้าแบบนี้ ไปลากคอเสื้อเขามาเลยก็ด้าย


                            "เหม่อไร"


                            ภาพจุนฮเวคนเด๋อๆวัยแปดขวบสลายหายไป เหลือไว้แต่เด็กหนุ่มม.ต้นที่ตัวสูงปรี้ดกำลังยืนค้ำหัวเขาอยู่ ขนาดนั่งบนมอเตอร์ไซค์ก็ยังรู้สึกว่าเตี้ยกว่าจุนฮเวมาก จินฮวานขมวดคิ้วแล้วสะบัดหน้าใส่ ไม่พูดอะไรกับจุนฮเว เขาล่ะคิดถึงจุนฮเวคนเด๋อๆในอดีตชะมัด อยากจะให้จุนฮเวเด๋อๆตลอดไป จะได้ไม่ต้องมีใครมาชอบ


                            โกรธเว้ย



                            "เป็นไร ไมตึงจัง ปวดอึหรอ"


                            แต่ไอ้เด็กบ้าก็หาได้มีความสะทกสะท้านไม่ ยื่นมือมารัดสายหมวกกันน็อคใต้คางเขาราวกับจินฮวานเป็นเด็กเจ็ดขวบก็ไม่ปาน 


                            คือนี่แก่กว่าปะวะ ขอความเคารพด้วย


                            "เดี๋ยววันนี้พาไปทำไรสนุกๆ"


                            ขณะที่เขากำลังสาปแช่งและด่าจุนฮเวในใจ จู่ๆน้องก็พูดขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ก่อนจะสตาร์ทมอเตอร์ไซค์และยื่นมือถือให้เขา..


                            โปเกม่อนโก..
                            อีกแล้ว


                            "ถ้ามีตัวไรโผล่มารีบบอกเลยนะ"

                            "โอเค"

                            จินฮวานรับมือถือของน้องมาถือไว้ในมือ ลืมไปเสียสนิทว่าเมื่อตะกี้โกรธจุนฮเวอยู่ 

                            เกมที่จุนฮเวเล่นจะเชื่อมต่อกับสัญญาณจีพีเอส แสดงผลเป็นแผนที่จริงๆที่มีอยู่ มีจุดที่เป็นวงกลมอยู่เป็นระยะ แต่จินฮวานก็ไม่เข้าใจว่ามันคือะไรและสนุกยังไง

                            "จุนฮเวๆๆๆๆๆ" จินฮวานเรียกเสียงหลงเมื่ออยู่ๆ โปเกม่อนหน้าตาเหมือนปลาขาดอากาศหายใจก็กำลังดิ้นอยู่ในจอโทรศัพท์ "มันมีปลาโผล่มา"

                            นั่นแหละ จุนฮเวก็จอดมอเตอร์ไซค์ และสอนเขาจับไอ้ปลานั่น จุนฮเวอธิบายซ้ำสองรอบ เอาคางเกยไว้ที่ไหล่ของจินฮวานและจับมือข้างขวาของจินฮวานให้จิ้มโปเกบอลในจอและโยนไปจับเจ้ามอนสเตอร์ในเกม


                            ขณะที่เขากำลังตื่นเต้นกับเกม จินฮวานก็นึกขึ้นได้
                            คือ...

                            นี่มันก็ไม่ต่างอะไรกับการแบคฮัคเลยนะ


                            "นี่ไง จับได้แล้ว" 

                            จุนฮเวกระซิบและหัวเราะเบาๆ มันดังอยู่ข้างๆหู ดังก้องและแทรกซึมเข้าสู่ทุกโสตประสาทที่จินฮวานจะสัมผัสได้ เขาสูดหายใจเข้าและจิ้มจอไปมั่วๆ ตรงที่มีจุดกลมๆอยู่บนแผนที่เพื่อแก้อาการประหม่า


                            "แล้วไอ้นี่มันคืออะไร ทำไมมันแปลกๆ"


                            "อธิบายยากอะ เดี๋ยวพาไปดูดีกว่า"




    # จิ น ฮ ว า น พั น ทิ ป 





                            "มึงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง กูเขินนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน"


                            จินฮวานทนไม่ไหวแล้วววว ทันทีที่ถึงบ้าน เขาก็วิ่งเข้าห้องโทรหายุนฮยอง ละล่ำละลักพูดตั้งแต่เพื่อนรักยังไม่ทันพูดฮัลโหลจบคำ

                            "อะไรนะ"

                            "มึงงงง กูเขินอ่า วันนี้กูกะน้องจุนฮเวไป--"

                            "เดี๋ยวๆแป็บนะ กูคุยงานกะพวกประธานสีอยู่ว่ะ"

                            อ่า


                            "ไว้ค่อยคุยกันพรุ่งนี้นะมึง บาย"

                            เอ่อ


                            แล้วยุนฮยองก็วางสายไป ทิ้งจินฮวานไว้กลางทางกับอารมณ์ตื่นเต้นที่ไร้การสนใจใยดี เขากะพริบตา รู้สึกน้อยใจขึ้นมาวูบนึง จินฮวานเงียบไป รู้สึกว่าอารมณ์ตื่นเต้นเมื่อครู่ถูกดร็อปลงไปเสียเกือบครึ่ง


                            หลังจากจินฮวานจับปลาตัวแรกได้ จุนฮเวก็พาเขาไปที่สนามบาสเก็ตบอลแห่งนึงในสวนสาธารณะใกล้บ้าน บริเวณโดยรอบร่มรื่นและควรจะเงียบสงบ แต่มันดันกับกลายเป็นว่ามีคนมายืนกดมือถือกันเป็นกลุ่มๆเยอะแยะไปหมด 

                            จุนฮเวพาไปหาเพื่อนๆนักเล่นโปเกม่อนและสอนให้จินฮวานเล่นโปเกม่อนโกอะไรนี่ด้วย


                            แต่นั่นยังไม่เท่ากับสิ่งที่จินฮวานได้ยินจุนฮเวพูดกับเพื่อนคนอื่นๆ ตอนที่พาเขาไปแนะนำ เขาแอบได้ยินมา และก็แอบคิดมากเข้าข้างตัวเองไปแล้วด้วย---


                            ตอนนี้สิ่งที่จินฮวานต้องการก็แค่การได้เล่าหรือปรึกษาให้เพื่อนสักคนฟัง ฮันบินคงกำลังเดทกับจีวอน ส่วนยุนฮยองก็กำลังยุ่งวุ่นวายกับเรื่องของตัวเอง


                            จินฮวานจึงตัดสินใจเริ่มต้นจรดนิ้วลงบนแป้นพิมพ์อีกครั้งแทน



     



    \ friday talk ; 
    สวัสดีค่ะ รู้สึกเหมือนนานมากที่ไม่ได้มาพิมพ์ทอล์คถึงทุกคนแบบนี้ ช่วงนี้งานหนักมากๆเลยค่ะ ฟายเดเริ่มทำงานเต็มเวลาแล้ว เป็นงานกราฟิกของนิตยสารเล่มนึง ช่วงประมาณวันที่10กว่าๆ ถึง20นิดๆ ฟายเดจะทำงานหนักและกลับบ้านดึกมากเลยค่ะ นั่นเป็นเหตุผลที่บางวันก็หายไป บางทีก็มาไม่ครบ100%
    แอบรู้สึกนอยตัวเองเหมือนกันแหละ ว่าภาษาเขียนเริ่มแย่ลง T_T แต่ด้วยความที่เรื่องนี้เป็นฟิคตลก พยายามหาสมดุลย์ที่ดีในงานเขียนของตัวเองอยู่เหมือนกันค่ะ จะตั้งใจพัฒนาตัวเองและเขียนอะไรสนุกๆออกมาให้ทุกคนได้อ่านเรื่อยๆนะคะ คิดถึงทุกคนค่ะ :>


    ฟายเดของพวกคุณ
     @skipmetofriday <3
    23:29 22/8/2559  
     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×