ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (จบแล้ว) #จินฮวานพันทิป | JUNHOE x JINHWAN

    ลำดับตอนที่ #6 : 05: ช่วยบอกได้ไหมที่จริงเธอคิดเช่นไร

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.73K
      19
      2 ต.ค. 59

      
      CR.SQW




     05 
           ช่วยบอกได้ไหมที่จริงเธอคิดเช่นไร



     สวัสดีครับเพื่อนๆชาวพันทิป จากที่เคยตั้งกระทู้ไปเมื่อนานมาแล้ว ซึ่งก็คือกระทู้นี้นะครับ ความสัมพันธ์ระหว่างผมกับเน่ก็ดำเนินไปเป็นปกติ ไม่มีการพูดถึงจูบคืนนั้นหรืออะไรอีก เน่กับผมต่างคนก็ต่างเรียนหนังสือครับ เหนื่อยๆ แล้วช่วงนี้ก็ใกล้กีฬาสีแล้ว ก็เลยยุ่งๆกัน

    เน่เป็นนักบาสครับ อยู่สีเขียว ส่วนผมอยู่สีฟ้า พึ่งไปคัดเชียร์ลีดเดอร์มา สรุปว่าได้เป็นลีดครับแล้วก็ต้องซ้อมตรงที่สีเขียวซ้อมบาส ซึ่งก็คือสีของเน่ รู้สึกเกร็งมากเลยครับ รู้ตัวเลยว่าจะต้องถูกจับตามองแน่ๆ ทีนี้ล่าสุด เน่มันเดินมารับผมกลับบ้านตรงที่ซ้อมลีดครับ ปรากฏว่าเขาเหมือนจะมาจีบๆเพื่อนในกลุ่มเชียร์ลีดเดอร์ที่เป็นตุ๊ด ผมยอมรับว่าผมไม่ค่อยพอใจแต่ก็ไม่ได้แสดงออกอะไรมากครับ 

    ผมคิดว่าสิ่งที่ผมทำอยู่มันคือการหวงเน่ครับ หวงทั้งที่ไม่ได้เป็นอะไรกัน ผมทำเกินกว่าเหตุไปไหมครับ



                   จินฮวานพิมพ์กระทู้แล้วนั่งจ้องเคอร์เซอร์ที่กะพริบอยู่ในจอคอมพิวเตอร์ กะพริบมาเป็นรอบที่ร้อยแล้วมั้ง แต่จินฮวานรู้สึกเหมือนสมองว่างเปล่าขึ้นมาดื้อๆ



                   เอาจริงๆระหว่างที่เขากำลังพิมพ์กระทู้ พอเรียบเรียงเรื่องทั้งหมด เขาก็ได้คำตอบที่มันชัดเจนอยู่แล้วว่าคืออะไร 



                   เขาหึงจุนฮเว ---หรือไม่ก็หวง ไม่อยากจะเห็นน้องไปยุ่งกับใคร
                   แถมไอ้คำพูดที่น้องมันเคยพูดกับเพื่อนว่า 'หมวยของกู' อะไรนั่น ก็ทำให้จินฮวานยังคงสับสนอยู่



                   ชอบกูดิวะ แบบนี้ต้องชอบกูแน่ๆ 
                   เป็นอย่างอื่นไปไม่ได้แล้วล่ะจุดเนี้ย


                   จินฮวานจรดนิ้วลงบนคีย์บอร์ดอีกครั้งและพยายามเรียบเรียงเรื่องราวต่อจากนั้นออกมาเป็นข้อความบนหน้าจอ



    มีครั้งนึง ผมแอบได้ยินเน่มันคุยกับเพื่อนครับ เพื่อนเน่ชมผมว่าน่ารัก(ชมจริงๆนะครับผมไม่ได้หลงตัวเอง) แต่พอเพื่อนมันชม เน่ก็โวยวายใส่เจ้าพวกนั้นครับ บอกว่า อย่ามายุ่ง (ชื่อผม)ของกู


                   จินฮวานจ้องมองข้อความที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอแล้วก็รู้สึกเขินชอบกล
                   นี่มันเหมือนเขาเอาเรื่องของจุนฮเวมาฟ้องคนในเน็ตยังไงยังงั้น ฟ้องว่าจุนฮเวมันไปขอเบอร์นังจีจี้ แต่ก็พูดว่าเขาเป็นหมวยของมัน 


    ล่าสุดเน่มันติดเกมโปเกม่อนโกครับ มันก็พาผมไปตรงโปเกสต็อปที่สนามบาสเก็ตบอลในสวนสาธารณะแถวบ้าน แถวนั้นจะมีพวกนักบาสและเด็กบอร์ด บีบอยไปตั้งรกราก ซ้อมบาส ซ้อมเต้นอะไรกันเป็นปกติอยู่แล้วครับ แต่เห็นเน่บอกว่าตรงนั้นเป็นเสาที่ไว้ปล่อยซากุระดักโปเกม่อน เขาก็พาผมไปแล้วก็สอนให้ผมฝึกตียิมของคนอื่น ไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่ครับ แต่ก็สนุกดี


                   จินฮวานมองแถบเคอร์เซอร์ที่ยังคงกะพริบปริบๆแบบไม่รู้จักหยุดจักหย่อน เขาเลียริมฝีปากและตั้งใจพิมพ์เล่าต่อไปเพราะมันกำลังใกล้จะถึงช่วงไคลแม็กซ์แล้ว


    แล้วบังเอิญเน่ก็เจอคนรู้จักถามว่าเน่มากับใครครับ จังหวะนั้นผมรู้เลยว่าเขาพูดถึงผมกันอยู่ ผมก็เลยแกล้งทำเป็นก้มหน้าก้มตา หาเศษสตางค์ที่พื้นไปเนียนๆ แต่หูนี่เงี่ยฟังทุกคำเลย เน่ไม่ได้ตอบอะไรครับ คนรู้จักก็เลยถามต่อว่า ถ้าไม่ใช่แฟน ก็แนะนำให้หน่อยได้มั้ย น่ารักดี (เขาชมผมจริงๆนะครับ ไม่ได้มโน) แต่เน่ปฏิเสธแบ่งรับแบ่งสู้ครับ บอกว่าผมยังไม่อยากมีความรักตอนนี้ (ถามกูบ้างหรือยังงงง) 


                   จินฮวานใส่อารมณ์ แต่ก็นึกได้ว่าโอเวอร์เกิน เลยลบวงเล็บออกแล้วพิมพ์คำใหม่ลงไปแทน


    เน่ปฏิเสธแบ่งรับแบ่งสู้ครับ บอกว่าผมยังไม่อยากมีความรักตอนนี้ ทั้งที่ผมไม่เคยพูดแบบนั้นเลย แบบนี้ผมสามารถคิดเข้าข้างตัวเองไปได้ไหมครับ ว่าเน่เขาคิดอะไรกับผมหรือเปล่า ทำไมต้องคอยกันท่าไม่ให้คนนั้นมาชม คนนี้มาจีบ หรือเขาแค่คอยกันคนอื่นออกเพราะเขาหวงผม


    หวง


    ว่าแต่จะหวงในฐานะไรล่ะวะ 


    จินฮวานขมวดคิ้วแล้วตั้งคำถามกับตัวเอง ก่อนจะลบวรรคสุดท้ายออกพิมพ์ใหม่


    ทำไมต้องคอยกันท่าไม่ให้คนนั้นมาชม คนนี้มาจีบด้วย เพื่อนๆชาวพันทิปมีความเห็นยังไงบ้างครับ รบกวนขอคำแนะนำด้วยนะครับว่าผมจะทำตัวยังไงต่อไปดี

    ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าผมชอบน้องจริงๆแหละครับ (ปล.แต่คอมเม้นท์ที่เชียร์ให้ผมเยิ้บกับน้องทำเอาผมเสียหลักไปเหมือนกันครับ จนผมต้องเลิกอ่าน เพราะเจอแต่คนจิ้นให้ได้กัน ผมมองหน้าน้องไม่สนิทใจไปหลายวันเลย) 

    แต่ผมไม่รู้เลยว่าน้องคิดยังไงกับผม ที่น้องทำมันคลุมเครือ เก็บอะไรมาคาดเดาไม่ได้เลย ผมควรทำยังไงดีครับ ขอบคุณมากครับ

        จินนี้ขยี้ใจ
    15 กันยายน 2559 เวลา 0:10 น.



                   เมื่ออ่านทบทวนเรียบร้อยดีแล้ว จินฮวานก็กดโพสท์ก่อนจะปิดคอมพิวเตอร์และทิ้งตัวลงนอนบนเตียง ตอนนี้จุนฮเวก็กลับไปนอนบ้านตัวเองแล้ว ส่วนเขาก็กลับมาครอบครองเตียงคิงไซส์หกฟุตของตัวเองอย่างเต็มภาคภูมิอีกครั้ง แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมความรู้สึกตอนที่ไอ้เด็กโข่งนั่นมานอนอยู่ข้างๆ มันยังชัดเจนอยู่ในความทรงจำ แบบแค่หลับตาก็นึกออก


                   จินฮวานคว้าหมอนข้างมากอดแล้วหัวเราะหึๆกับตัวเองอย่างเขินๆ เดชะบุญที่ในห้องนอนไม่มีคนอื่นอยู่นอกจากจินฮวาน ไม่งั้นเขาคงโดนหาว่าสติไม่ดีแน่ๆ ที่นอนหัวเราะอยู่คนเดียว


                   เอาจริงๆตอนนี้ถึงแม้คนในพันทิปจะไม่ได้แนะนำอะไรก็เหอะ แต่จินฮวานเนี่ยฟินไปเองถึงโลกหน้าแล้ว เล่าละเอียดยังไงก็คงไม่มีใครรับรู้ความรู้สึกนี้ดีเท่ากับเขา


                   ไม่ว่าจะสายตาตอนที่เน่มองมา ตอนที่เน่ยิ้มให้ หรือการดูแลที่อบอุ่น ตอนที่ปลดสายรัดใต้คางหมวกกันน็อคให้ ตอนที่จับมือเขาให้เกาะเอวดีๆ เพราะจินฮวานง่วงนอนตอนที่ซ้อนมอเตอร์ไซค์อยู่ หรือจะตอนที่เน่ยิ้มกว้างออกมา บอกว่าชื่นอกชื่นใจกับข้าวผัดที่เขาทำให้กิน


                   จินฮวานมั่นใจมาก ว่ามันต้องมีความชอบเขามั่งล่ะวะ อยู่ที่ว่าจะบอกให้เขาได้รู้ตอนไหนก็เท่านั้นเอง


                   คิดอย่างนี้แล้วจินฮวานก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมากับตัวเองอีกรอบ ก่อนจะหลับไปอย่างมีความสุข 
                   คอยดูเถอะ จินนี่ขยี้ใจขอบอกเรยว่า เดี๋ยวสุดท้ายก็ได้กัน!


     



    # จิ น ฮ ว า น พั น ทิ ป 








                   "เมื่อวานมึงโทรมามีไรหยอ"


                   จินฮวานหรี่ตามองซงยุนฮยองแล้วพ่นลมหายใจพรืดจนจมูกบาน กรรมการนักเรียนเพื่อนรักก็ยื่นหน้ายื่นตา เท้าคางรอฟังเรื่องที่เขาตั้งใจจะเล่าเมื่อวานอย่างใจจดใจจ่อ แต่จินฮวานส่ายหน้าไหวๆ 


                   "ไม่มีไรอะ กูลืมและ"


                   ลืมความรู้สึกตื่นเต้นไปหมดแระ 
                   เซ็งไงบอกตรงๆ

                   "ไรมึง งอนกูเหรอ มึงเขินไร เล่าให้กูฟังเร๊ว" ไม่พูดเปล่า กรรมการนักเรียนเพื่อนรักยังยื่นมือมาเขี่ยเหนียงประกอบการง้อด้วย "กูขอโทษ แต่ตอนนั้นกูประชุมอยู่ไง"


                   จินฮวานทำท่ากระเง้ากระงอด แล้วก็ส่ายหน้าดิกๆใส่ยุนฮยอง พยายามเปลี่ยนเรื่องเพราะไม่อยากจะพูดถึงเรื่องที่โทรไปแล้วโดนกรรมการนักเรียนเพื่อนรักเมินอีก


                   "ไม่มีอะไรอะ แล้วนี่ฮันบินมันไปไหนเนี่ย ไม่มาเรียนเหรอ"


                   "เห็นว่าเมื่อวานไปค้างบ้านน้องจีวอนอ่ะ สงสัยหนักไปหน่อยมั้ง"


                   ยุนฮยองตอบชิวๆเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เปิดสมุดการบ้านและตรวจคำตอบในสมุดโดยไม่สนใจจินฮวานเลยว่าตอนนี้ทำหน้าเหวอเหมือนเห็นหมาพุดเดิ้ลมีปีก


                   "อะไรมึง"


                   อะไรคือหนักไปหน่อย


                   "หนักไปหน่อยอะไร"


                   "ก็ปั่มปั๊มกันไงวะ"


                   ปั๊มพ่องงงงงงงงง ทำไมซงยุนฮยองพูดออกมาได้หน้าตาเฉย


                   "มึงงงง ไอ้ฮันบินกับน้องจีวอนมันมีอะไรกันแล้วเหรอ ยังดิ ฮันบินยังเด็กอยู่เลยนะเว้ย"


                   จินฮวานรู้สึกรับไม่ได้ นี่เขาโดนจุนฮเวปั่นหัวคนเดียวไม่พอ นี่ดูเหมือนว่าไอ้เหยินก็พยายามจะล่อลวงเพื่อนตัวน้อยผู้ใสซื่อของเขาด้วย มึงมันเลว!! ฮันบินยังเด็กอยู่เลยนะ!


                   "มึง แต่ฮันบินก็อายุเท่ากูกะมึงนะ"


                   เออ 


                   "เออว่ะ"


                   เขาลืมไปว่าฮันบินก็อายุ17ขวบเท่าเขากับยุนฮยอง แต่ท่าทางเด๋อด๋าเหมือนเด็กอนุบาลนั่นมันทำให้เขาคิดว่ากำลังเลี้ยงเด็กอ่อนอยู่ทุกที


                   "ถึงยังงั้นมันก็ยังเด็กอยู่ดีอะ" หมายถึงนิสัย --บางทีจินฮวานแทบจะอยากบดกล้วยให้ฮันบินกินด้วยซ้ำ


                   "เอาน่ะมึง แฟนกัน เรื่องยิ้มกันมันเรื่องธรรมชาติ ปล่อยเพื่อนไป เพื่อนมีความสุข"


                   ยุนฮยองพูดเปรยๆ คล้ายจะบ่นพร่ำถึงปรัชญาชีวิต 
                   แต่เดี๋ยวนะ

                   แฟนกัน เรื่องยิ้มกัน มันเรื่องธรรมชาติ


                   อืม..


                   แล้วนี่ทำไมจินฮวานต้องเขินกับประโยคนี้ด้วย
                   ช่วงนี้รู้สึกจิตใจอ่อนไหว เขินง่ายฟินง่ายไปหมด




                   "แล้วนี่มึงแอบยิ้มอะไรของมึงวะ"


                   พอสิ้นคำที่ยุนฮยองถาม จินฮวานก็หันขวับไปมองด้วยความร้อนตัว และก็เป็นไปดังคาดเมื่อยุนฮยองส่งสายตาฉงนสงสัยอันเต็มไปด้วยการจับผิดมาให้เขา 

                   "กูยิ้มหรอ"

                   "เออเนี่ย ก็มึงยิ้มอยู่"

                   จินฮวานเลิกคิ้ว ทำเป็ไม่รู้ไม่ชี้ 

                   "กูไม่เห็นรู้ตัวเลยว่ากูยิ้ม กูจะยิ้มทำไม กูโกรธไอ้จีวอนอยู่นะ ที่ล่อลวงเพื่อนกู---อ้าว ฮันบิน!"


                   คิดถึงไก่ ไก่ก็มา พูดถึงฮันบิน ฮันบินก็โผล่มา 
                   ทำหน้าตาง่วงๆ งงๆ ตามประสาฮันบิน สวมเสื้อนักเรียนที่ปักชื่อคิม ฮันบิน กางเกงนักเรียนสีน้ำเงินที่ดูเป็นไซส์ของฮันบิน ไม่มีอะไรบุบสลาย หรือแปลกไปแม้แต่น้อย


                   จินฮวานพุ่งไปหาเพื่อนรัก ก่อนจะจับฮันบินหมุนๆดูว่าลูกน้อยบอบช้ำหรือเปล่า
    ก็บอกแล้วไงว่าสำหรับเขาฮันบินเหมือนเด็กสามขวบอยู่เสมอ ถ้าบดกล้วยหรือต้มซีรีแลคให้ฮันบินกินได้ จินฮวานคงทำไปแล้ว


                   "อะไร เป็นอะไรอ่ะ"


                   ฮันบินเอ่ยปากถามงงๆ พอเขาจับร่างของอีกฝ่ายหมุนไปหมุนมาดูจนพอใจ 


                   "นี่ไปนอนบ้านไอ้จีวอนมาหรอ"


                   "อื้อใช่ ก็แม่จีวอนชวนไปกินข้าว" 

                   "แล้วทำไมมาสาย"

                   "ก็ จีวอนขี่มอไซค์มาส่งอ่ะ แต่ว่า รถมันเสีย" ฮันบินพูดเจื้อยแจ้ว อธิบายให้จินฮวานฟังเป็นฉากๆ แต่จินฮวานก็ยังคงไม่พอใจอยู่ดี หรี่ตาเล็กๆมองเจ้าเพื่อนรัก

                   "ก็ถ้ารถเสียทำไมไม่มาเอง"

                   "เอ๊า" ฮันบินทำเสียงสู๊งแบบน้องปันปัน "ก็จีวอนอุส่าห์มาส่งฮันบิน"

                   "ก็รถมันเสีย"

                   "แต่ฮันบินจะรอช่างซ่อมเป็นเพื่อนน้องจีวอนนี่นา ก็น้องจีวอนเป็นแฟนฮันบินนะ"




    (ใครที่นึกไม่ออกว่าฮันบินเถียงหมวยด้วยน้ำเสียงยังไง ให้นึกถึงวีแอปอันนี้ไว้เป็นเคสสตัดดี้)



                   เจ้าเด็กโข่งทำหน้างอแงใส่เขา จินฮวานมุ่ยหน้ากลับอย่างไม่พอใจ เขาล่ะไม่ไว้ใจไอ้เหยินจีวอนเลย ไอ้เหยินนี่มันต้องพยายามจะล่อลวงเพื่อนเขาแน่ๆ ปกติฮันบินไม่แม้แต่เถียงเขาด้วยซ้ำ


                   "นี่เถียงเหรอ!!"


                   "ไม่ได้เถียงนะ!!" ฮันบินเถียงเสียงหลง "ทีจินฮวานกลับบ้านกับจุนฮเวทุกวัน ไปจับโปเกม่อนกับจุนฮเว ฮันบินยังไม่เคยว่าเลย ทำไมต้องดุฮันบินด้วย"


                   อ้าว ทำไมโกรธกลับล่ะ แบบนี้ก็ได้เหรอ


                   "รู้ได้ไงว่าไปจับโปเกม่อน"


                   "จีวอนเล่า! ไม่คุยด้วยแล้ว จินฮวานหัวร้อน"


                   จินฮวานอ้าปากจะเรียกแต่ก็ไม่ทัน เพราะฮันบินงอนสะบัดตูดเดินออกจากห้องเรียนไปเลย ทั้งที่ได้ข่าวว่ามึงก็พึ่งจะมาเมื่อกี้แท้ๆ ทิ้งจินฮวานไว้กับคำพูดประโยคที่ว่า ทีจินฮวานกับกลับจุนฮเวทุกวัน ทีจินฮวานกับกลับจุนฮเวทุกวัน ทีจินฮวานกับกลับจุนฮเวทุกวัน ทีจินฮวานกับกลับจุนฮเวทุกวัน ทีจินฮวานกับกลับจุนฮเวทุกวัน ทีจินฮวานกับกลับจุนฮเวทุกวัน ทีจินฮวานกับกลับจุนฮเวทุกวัน ทีจินฮวานกับกลับจุนฮเวทุกวัน ทีจินฮวานกับกลับจุนฮเวทุกวัน ทีจินฮวานกับกลับจุนฮเวทุกวัน ทีจินฮวานกับกลับจุนฮเวทุกวัน ทีจินฮวานกับกลับจุนฮเวทุกวัน ทีจินฮวานกับกลับจุนฮเวทุกวัน ทีจินฮวานกับกลับจุนฮเวทุกวัน ทีจินฮวานกับกลับจุนฮเวทุกวัน 


                   
                   
                   โอยยยยย
                   ก็บ้านอยู่ข้างกันมั้ยละเฮ้ย


                   ไม่ให้กลับด้วยกันแล้วจะให้ใครไปส่ง สถานการณ์มัไม่เหมือนกัน เอามาเถียงแบบนี้ก็ได้เหรอ แล้วอีกอย่าง จีวอนกับฮันบินมันเป็นแฟนกันแล้ว แต่เขากับจุนฮเวน่ะ.....


                   โว้ย 
                   แล้วนี่จินฮวานจะเขินทำไมเนี่ย




                   "เหนื่อยเราไม่เหนื่อย เมื่อยเราไม่เมื่อย เราเล่นไปเรื่อยๆ เราไม่เมื่อย เราไม่เหนื่อย"


                   อูจีร้องเพลงทีละท่อนพร้อมทั้งสอนท่าเพื่อนๆอีก5-6คนรวมทั้งจินฮวานด้วย หลังจากเลิกเรียน จินฮวานก็ต้องมาเจอพวกเพื่อนๆและเจ๊โจควอนที่หลังสแตนด์เชียร์ข้างสนามบาสอันเป็นที่ซ้อมของสีเขียวของน้องจุนฮเว


                   แน่นอนว่าจุนฮเวและผองเพื่อนหลังจากซ้อมบาสเสร็จ ก็นั่งกินไอติมหลอดและดูพวกเขาซ้อมเต้นด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะน้องบยองที่ดูเหมือนจะปลื้มสาวสักคนในกลุ่มเชียร์ลีดเดอร์สีฟ้าอยู่

    ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ bomi cuteผลการค้นหารูปภาพสำหรับ mint tiny g hanbokผลการค้นหารูปภาพสำหรับ dahyun smileผลการค้นหารูปภาพสำหรับ kisum

    (โบมี , จีอึน , ดาฮยอน และ เฮรยอง ตามลำดับ)



                   ลีดปีนี้แบ่งเป็นหญิงและชายฝั่งละสี่  ก็มีเขา นังจีจี้ เตล์นฐา นักเรียนแลกเปลี่ยนจากเมืองไทย และมิงฐาเพื่อนร่วมห้องเดียวกันกับจินฮวาน ส่วนฝั่งผู้หญิงก็มียัยโบมี ที่วันๆเอาแต่กินแล้วก็ทำตัวติงต๊อง จีอึนที่วันๆก็เอาแต่กิน แล้วก็ทำตัวบ้าๆบอๆ  ดาฮยอน ที่ป้ำๆเป๋อๆชอบทำตัวซุ่มซ่ามและคนสุดท้ายก็เฮรยอง ยัยเปี๊ยกที่เต้นเก่งชิบหาย แต่นิสัยโคตรทอมบอย

                   มองแล้วมองอีก เขาก็ไม่เห็นว่าจะมีใครที่น่าจะตรงสเป็คน้องบยองสักคน


                   "จินฮวาน ฟังอยู่หรือเปล่า"

                   "อ..อะไรนะ"

                   "จีจี้บอกว่า ท่อนนี้ เราเล่นไปเรื่อยๆ--" จีจี้ร้องซ้ำ ช้าชัดทีละคำ พร้อมกับเต้นเลื้อยและเด้งตูดก่อนจะสั่งให้จินฮวานทำตาม "เราไม่เมื่อย--เราไม่เหนื่อย-- ต้องเต้นเน้นตูดแบบนี้นะ"


                   พูดจบจีจี้ก็ลูบผมหน้าม้าของตัวเองนิดๆ และชม้ายตามองแก๊งหนุ่มๆนักบาสนิดหน่อย แหม จินฮวานคิดว่าเนื้อเพลงที่เหมาะกับอูจี น่าจะเป็น เราแรดไปเรื่อยๆ มากกว่าเราเล่นไปเรื่อยๆซะอีก


                   "เต้นตามเร็ว"


                   จินฮวานอยากจะกลั้นใจตาย แต่ก็ยอมเต้นตามแต่โดยดี แวบหนึ่งที่เหลือบไปเห็นว่าจุนฮเวมองอยู่พร้อมกับรอยยิ้มและสายตาที่ดูสนใจ แค่นั้นเขาก็แทบทำอะไรไม่ถูก


                   กว่าจะซ้อมเสร็จ ความอายที่มีอยู่ก็หายไปเกลี้ยงแล้ว เขาอาจจะออสโมซิสความใจกล้าบ้าบิ่นมาจากนังจีจี้ก็ได้



                   "วันนี้แกได้ดูที่เราซ้อมปะ"


                   หลังจากซ้อมเสร็จเขาก็กลับบ้านพร้อมจุนฮเวเหมือนเดิม รู้สึกดีที่อีกฝ่ายรอจนเขาซ้อมเสร็จเสมอเพื่อจะได้กลับพร้อมกัน ทั้งๆที่เพื่อนในสนามบาสก็กลับกันเกือบหมดแล้ว ตอนที่จุนฮเวติดสายรัดใต้คางให้ จินฮวานก็เลยลองชวนคุยดู ซึ่งก็ถามไปอย่างนั้นแหละ เพราะจินฮวานก็เห็นอยู่แล้วว่าจุนฮเวมองเขาอยู่ น่ะ


                   "ก็ดูนะ"


                   "เราเต้นเป็นไงบ้าง น่าเกลียดหรือเปล่า"


                   ลองตอบว่าน่าเกลียดสิ กูจะตบมึง


                   "ไม่นะ ก็น่ารักดี" จุนฮเวตอบอย่างไม่ใส่ใจนัก เอาหมวกกันน็อคของตัวเองมาใส่บ้าง แล้วพับเสื้อนักเรียนสีขาวเก็บใส่กระเป๋าเป้ สวมอยู่แค่เสื้อกล้ามสำหรับซ้อมบาสกับกางเกงนักเรียนเท่านั้น "อาจจะเป็นเพราะเค้าไม่เคยเห็นหมวยทำไรแบบนี้มั้ง ก็แปลกตาดีนะ"


                   หน่ะ เป็นไงล่ะ
                   มีความชอบกู


                   "ก็ถ้าน่ารัก....." จินฮวานอมยิ้มและหัวเราะหึๆอยู่ในใจ อยากตอบกลับไปว่า น่ารักก็รักเล้ย แต่ในจังหวะที่เขากำลังจะปล่อยมุขต่อนั้นเอง จุนฮเวซึ่งง่วนกะการพับเสื้อเมื่อกี้ จู่ๆก็เงยหน้าขึ้นมาจ้องหน้าเขาและรอฟังว่าจะพูดอะไรต่อ


                   เกร็งโว้ย


                   "อย่าจ้องหน้าสิ" 

                   -_- แม่ง ไม่รู้จังหวะเลย
                   หมดกันมุขเสี่ยวของคิมจินฮวาน


    # จิ น ฮ ว า น พั น ทิ ป 

     


                   คืนนั้นจินฮวานนึกครึ้มอกครึ้มใจ กลับมาถึงห้องตั้งท่าจะเปิดกระทู้พันทิปอ่าน แต่ยังไม่ทันจะได้เปิดคอมพิวเตอร์ทิ้งตัวลงนั่งหน้าคอมพิวเตอร์ เตนล์ เพื่อนชาวไทยที่เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนประจำทีมลีดสีฟ้าก็โทรมาหาซะก่อน 


                   "สวัสดีครับ จินฮวาน นี่เตนล์นะครับ"

                   "จ้าจ้าาา" ก็เมมชื่อไว้แล้ว เขารู้น่าว่าใคร

                   "พอจะมีเวลาว่างมั้ยครับ เตนล์อยากจะรบกวนถามการบ้านจินฮวานนิดหน่อยครับ"

                   จินฮวานร้องอ้อแล้วตอบรับ ช่วยสอนการบ้านภาษาเกาหลีให้เพื่อนต่างชาติทางโทรศัพท์ตามที่อีกฝ่ายร้องขอ เพียงไม่นานเตนล์ก็ทำการบ้านของตัวเองจนเสร็จและเอ่ยขอบคุณจินฮวานเป็นการใหญ่ จินฮวานขยี้จมูกตัวเองนิดหน่อย คิดไตร่ตรองทบทวนว่ามันอาจจะดี ถ้าเขาลองปรึกษาเรื่องจุนฮเวจากเตนล์ดูบ้าง เผื่อว่าตุ๊ดไทยใจดีจะมีทัศนะใหม่ๆแนะนำให้เขา

                   "นี่ เตนล์"

                   "ครับ"

                   "ขอปรึกษาอะไรหน่อยได้ไหม เรื่องความรัก"

                   "ได้ครับ จินฮวานมีความรักอยู่เหรอครับตอนนี้"

                   แหม่
                   พอมาถูกถามตรงๆแล้วเขาก็ไม่รู้จะตอบยังไงเหมือนกันนะ เขาอึกอักนิดหน่อยก่อนจะเริ่มต้นเล่าโดยใช้วิธีสมมติสถานการณ์ เขาอยากรู้ว่าถ้าหากเป็นเตนล์จะจัดการสถานการณ์ที่เขากำลังเจอยังไง

                   "ก็..จะว่าไปมันก็คล้ายๆ คือสมมตินะเตนล์ สมมติว่าเตน์ลมีคนรู้จักคนนึง.."

                   "เดี๋ยวนะครับจินฮวาน"

                   "อื้ม" 

                   ...
                   
                   

                   "ไอ้ที่สมมติเนี่ยเป็นเรื่องของจินฮวานใช่ไหมครับ"


                   ............ "ใช่"


                   "อ๋อครับ เล่าต่อเลย" 


                   เตนล์ทำเสียงโล่งใจแล้วพูดเจื้อยแจ้ว จินฮวานอยากจะกัดหูเพื่อนต่างชาติคนนี้แล้วเอาตัวมันไปฆ่าหมกป่าเหลือเกิน คือถ้าถามมาขนาดนั้นแล้วเขาจะสมมติไปทำไมล่ะวะน่ะ



                   "ก็ สมมติมีคนนึงที่สนิทกับเตนล์มานานแล้ว รู้จักกันมาหลายปี แต่เตนล์ไม่เคยมองเขาในแบบนั้นเลย จนวันนึง.."



                   "เดี๋ยวนะครับ แบบนั้นนี่หมายถึงแบบแฟนใช่ไหม"

                   


                   ..... "ใช่"



                   "อ๋อครับ เล่าต่อเลย"



                   จินฮวานสูดหายใจพยายามสะกดกลั้นอารมณ์และเรียบเรียงเรื่องที่อยู่ในหัวเพื่อนเล่าให้เตนล์ฟังต่อ



                   "แต่มาวันนึง เราก็รู้สึกถึงอะไรบางอย่างระหว่างเรากับคนนั้น ที่มันเกิดขึ้นมาโดยที่เราก็ไม่รู้ตัว ถ้าเป็นเตนล์ จะทำยังไง จะบอกไปเลยไหม จะเดินหน้าจีบหรือเปล่า ถ้าแบบ..เราไม่ชอบเวลาเขาอยู่ใกล้ใคร ไม่ชอบเวลามีคนมาเจ๊าะแจ๊ะใส่เขา แบบนี้เราควรทำไงเหรอ"


                   "อืม...." ปลายสายเงียบไปครู่ใหญ่ก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงมั่นอกมั่นใจ "จีบสิครับ ถ้าชอบเค้าก็ต้องจีบ"


                   บ้ะ! นั่นไง


                   "แต่มันจะไม่น่าเกลียดเหรอ ถ้าจีบก่อน"


                   "น่าเกลียดยังไงเหรอครับ ก็ผู้ชายเหมือนกัน"


                   เออว่ะ จริงด้วย จินฮวานก็ไม่ทันได้นึก


                   "แบบนี้ถ้าเป็นที่ไทยนะครับ เขาจะมีสุภาษิตว่า ด้านได้อายอด ด้านหมดอดได้ แปลว่า ถ้าไม่กล้าจีบเขา เราก็จะนกครับ"

                   โอโห นก 

                   นก

                   นก

                   นกนานาชนิดเต็มหูจินฮวานเลย ไม่เข้าใจว่าเตนล์จะเน้นเสียงอะไรเบอร์นั้น


                   "งั้นเราก็ควรบอกเขาไปตรงๆเลยเหรอว่าชอบอะ"



                   ก็ในเมื่อตอนนี้จุนฮเวดูยังไม่มีท่าทีว่าจะพูดออกมาตรงๆเลยว่าชอบจินฮวาน บางทีมันอาจจะกำลังรออะไรสักอย่างก็ได้ เป็นต้นว่า รอให้เขาเริ่มบอกรักก่อน หรือไม่ก็รอให้ทุกอย่างมันพร้อม



                   "ถ้าสุ่มสี่สุ่มห้าบอกไปไม่ดูจังหวะ เขาก็ไม่ชอบเราอยู่ดีหรือเปล่าอ่ะ"


                   "ไม่นะครับ เตนล์คิดว่า ควรจะพูดไปเลยครับ ถ้าไม่พูด ก็จะไม่มีทางรู้ได้เลยครับ"


                   "โอเคๆ เข้าใจแล้ว" จินฮวานแอบถอนหายใจแบบไม่มีเสียง ถ้าเตนล์มันจะไซโคให้เขารีบสารภาพรักกับน้องไปซะขนาดนี้ล่ะก็นะ


                   "ขอบคุณนะ ไว้พรุ่งนี้เจอกันที่ซ้อมเนาะ"


                   "ได้ครับ ขอบคุณมากครับจินฮวาน สวัสดีครับ"


                   ทันทีที่เตนล์วางสายเขาก็ทิ้งตัวหงายแผ่ปลาดาวลงบนเตียง ไม่รู้แล้วว่าจะเอายังไงต่อดี


                   เตนล์มันก็พูดง่าย พูดได้หมดแหละเพราะมันไม่ใช่เรื่องของตัวเองนี่หว่า แต่คนที่มองว่าทุกอย่างยากอ่ะ มันคือจินฮวานที่ต้องเป็นคนบอกกับน้องนี่ 

                   คิดแล้วอยากจะเอาตีนขึ้นมาก่ายหน้าผาก 


                   ทุกคนก็เป็นซะอย่างงี้ พูดกันง่ายหมดอะแหละถ้าไม่ใช่เรื่องของตัวเอง แต่พอต้องมาแบกรับผลที่ตามมาอ่ะ มีแต่กูคนเดียวเลย เพราะงั้นจินฮวานคิดว่าเชื่อตัวเองน่าจะดีที่สุด


                   ก็เขารู้เรื่องนี้ดีที่สุดนี่หว่า
                   เขารู้แล้วว่ายังไงซะก็ต้องบอก แต่แค่ตอนนี้มันยังไม่ถึงจังหวะและเวลาที่เหมาะสมก็เท่านั้นเอง

     



      
     

    talkแป้บ.
    หลังจากพิมพ์ค้างไว้นาน ตอนนี้ก็มาต่อครบ100%แล้วนะ ฮื่อ ตอนนี้ก็ปิดต้นฉบับทางสายเปย์เรียบร้อยแล้ว กำลังอยู่ในขั้นตอนตรวจปรูฟและแก้ไขให้สมบูรณ์  สัญญาว่าหลังจากนี้ก็จะพยายามต่อพันทิปตอนใหม่ให้ไวขึ้นกว่านี้ ไม่ปล่อยให้รอให้ทวงอีกแล้ว /ก้มกราบ/ คิดถึงทุกๆคน อย่าพึ่งจ๊อยในและทิ้งเค้าไปนะ ;__;) 

    ด้วยรัก จาก ฟายเดของพวกคุณ
    2/10/2559 22:34น.
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×