Aztia
ดู Blog ทั้งหมด

ลิฟต์ฝั่งอินเตอร์

เขียนโดย Aztia

เราไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่นะ แต่อยากถามนิดว่า เดี๋ยวนี้เขาอบรมเด็กยังไงมิทราบกัน บอกตามจริงว่าวันนี้เรากับเพื่อนโกรธมากๆ คือถ้าใครอยู่ร.ร.เดียวกับเรา ตึกใหม่น่ะนะ มันจะมีลิฟต์แล้วแผนอินตอร์มันก็อยู่ชั้น 4-6 มันแบ่งงี้

ชั้น4: G.1- G.6

ชั้น5: G.7-G.12

ชั้น6: จะเป็นห้องทะเบียน ห้องธุรการ ห้องสมุด ห้องดนตรี ห้องศิลปะ (อยากเรียกว่าห้องศิลป์เปรอะมากกว่า) ห้องประชุมเล็ก ห้องคอมพิวเตอร์สองห้อง ห้องแล่บ แล้วก็ห้องว่างอีกสองสามห้อง

อ้อชั้น7เป็นดาดฟ้า ไว้พวกแบรนด์มันซ้อมกัน

เราเป็นมัธยมเราก็เรียนอยู่ชั้นห้า ทีนี้น้องประถมมันก็อยู่ชั้นสี่ เวลาเราขึ้นตึก ปกติถ้ากระเป๋าไม่หนักแทบตายนี่เราก็ไม่คิดจะขึ้นลิฟต์นะ ถึงแม้textเรามันจะอันเบ้อเริ่มแล้วก็หนักมากๆก็ตาม สามเล่มยักษ์พันกว่าหน้าไม่นับรวมกับการบ้านและหนังสือวิชาอื่นๆที่เป็นภาษาไทยและชีทเซนต์ปอล (ชีทของเครือเซนต์ปอล เดอร์ ชาร์ต เครือโรงเรียนเราเอง) มันก็หนักมากๆ ในขณะที่น้องชั้นสี่หนังสือโคตรบาง แถมยังกระเป๋าสะพายเป้ ไม่ต้องแบกหนังสืออันเบ้อเริ่มเหมือนพวกเราชั้นห้า

เวลาเราขึ้นลิฟต์เรามักจะใช้ลิฟต์ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นกี่ครั้งๆพวกพี่ก็ให้น้องเข้าก่อนตลอด เสียสละให้น้องเข้าลิฟต์ตลอด เวลาขึ้นไปชั้นห้าลงมาชั้นสี่พี่ก็เปิดลิฟต์ให้น้องเข้าตลอด ช่วยกันเบียดให้พวกครูเข้าด้วย แต่ทุกๆครั้งที่ตอนกลับบ้าน ลิฟต์จากชั้นหนึ่งก็จะเคลื่อนที่ขึ้นมาจอดชั้นสี่เสมอ แล้วมันจะต้องจอดชั้นห้าด้วยเพราะพี่กระเป๋าและของหนักกว่าน้อง จำเป็นที่จะต้องใช้ลิฟต์และน้อยครั้งที่เราจะใช้มัน ปกติเราก็ขึ้นบันไดตลอด

บ่อยมากที่เวลาจอดชั้นสี่ พวกเราก็ดีใจมากๆที่จะได้กลับบ้านแล้วระหว่างที่รอลิฟต์ขึ้นมาจอดที่ชั้นห้า ทั้งๆที่ประมาณสี่โมงครึ่งน้องๆก็กลับบ้านไปเยอะแล้ว แต่พวกชั้นห้าจะเรียนกันหนักและบางทีก็เลิกช้าเพราะเราจะต้องทำงานและแผ่นฟีเจอร์บอร์ด เรากับเพื่อนรอลิฟต์ขึ้น แต่ปรากฎว่าข้างลิฟต์มันก็แสดงว่าชั้นสี่ไม่ขึ้นมาแต่กลับลงไปข้างล่างแทน เราก็รู้แล้วว่าน้องกดปุ่มre stop เป็นปุ่มที่จะคล้ายๆยกเลิกโปรแกรมในการขึ้นไปอีกชั้น แล้วพอกดอีกครั้งก็จะสามารถลงไปชั้นล่างได้ แถมไม่ต้องกลับขึ้นมาชั้นห้าด้วย

พวกเราก็ไม่ว่าอะไรก็คิดว่า อืม น้องคงรีบมั้ง แต่ก็แอบเซ็งๆเพราะพรุ่งนี้มีสอบนี่ แล้วการบ้านมันแหลกเลย ก็เอ่อ รอรอบต่อไปแต่พอมารอบที่สอง มันกลับลงไปอีก ก็เริ่มหงุดหงิด มันจะห้าโมงแล้วต้องรีบกลับไปทำงาน ก็รอต่อ พอรอบต่อมา น้องมันก็กดอีก ทีนี้เพื่อนเราตะโกนบอกข้ามบันไดว่า น้องคะ อย่ากดre stopสิ พวกพี่ต้องรีบกลับและต้องใช้ลิฟต์จริงๆ เราก็เลยบอกน้องว่า เอ่อน้อง พวกพี่กระเป๋าหนักนะ อย่าre stopสิ ไอเราก็นึกว่าน้องเขาจะสำนึกผิดนะ แต่กลับพูดใส่กลับมาว่า ก็กดจะทำไมล่ะ กดแล้วมันยังไงล่ะ ประมาณเนี๊ยะ ทีนี้เพื่อนเราสองคนมันก็โมโห เราก็เหมือนกัน มากๆด้วย สุดท้าย เหลืออด เรากลับบ้านเย็นแล้ว เลยลงไปชั้นสี่ ถามโครมใส่ทันทีว่า น้องคนไหนเป็นคนกด re stop แต่ปรากฎว่าไอเด็กนั่นมันเผ่นหนีไปแล้ว กดลิฟต์ลงไปเลย จะวิ่งตามก็เหนื่อยเปล่า สรุปเลยต้องลงชั้นสี่ แถมเทศนาน้องที่เหลือเป็นชุด

เรารู้ด้วยว่าน้องเค้าทำไมกด ตอนเมื่อวันพุธที่ผ่านมาอาทิตย์ที่แล้วน่ะ ปัจฉิมเสร็จก็ขึ้นมา ผ่านชั้นสี่ เราก็จอดรับน้องนะ ความจริงมันจะขึ้นไปชั้นห้า น้องรู้สึกจะไม่รู้การทำงานของre stopมั้ง รู้สึกเคยคนกดพลาด ลิฟต์ค้าง เพื่อนเราพลอยซวยไปด้วย น้องประถมเล็กๆชุดเอี๊ยมสีน้ำเงินออกน้ำทะเล มีโบว์คอซองผูกไว้ เสื้อคอบัว เชิ้ตสีขาว แขนสั้น (ขอบรรยายหน่อยเถอะนะ) อ้อ มีดอกลิสด้วย คิดว่าน่าจะเป็นโบว์ม่วง เหลือง หรือฟ้านี่แหล่ะ เอี๊ยมปีนี้มีแค่นี้ เพราะโบว์แดงปีนี้น้องเค้าใส่ชุดเสื้อแขนยาวแล้ว

น้องสองคนบอกเพื่อนว่าเรามาช่วยกันกันไม่ให้พวกพี่มัธยมเข้ามาได้ดีกว่า น่าเสียดายแฮะ ที่ไม่ได้อัดเสียง ไม่งั้นเราจะเอาไปส่งครูกับมาเซอร์ประจำชั้นแน่ ยิ่งมาเซอร์สายชั้นเป็นอธิการวาเลนตินด้วยแล้วน่ะนะ พอจอดชั้นห้า น้องเตรียมขวาง เราเลยพูดกับน้องไปเลยว่า น้องคะ ถอยหน่อย พี่จะออก แถมน้องยังมามีหน้ามาโต้กลับอีกว่า แค่นี้หงุดหงิดหรอคะ ไปอารมณ์บูดมาจากไหน

ดูเด็กมัน... เราไม่เอาตายก็บุญแล้ว เพราะจริงๆเราไม่ค่อยมีอคติกับคนเท่าไหร่ แต่ว่ารอบนี้ขอบอกว่า น้องทำให้รู้สึกแย่สุดๆ

ตอนเกรด7 เราก็สงสัยว่าทำไมลิฟต์ไม่ขึ้น เลยไปกับเพื่อนไปดูว่าน้องทำอะไร ก็เห็นน้องกดre stop แล้วก็หัวเราะกันคิกคักเมื่อเห็นลิฟต์ไปชั้นห้าไม่ได้ เรากับเพื่อนแทบจะฆ่าน้องเลย เพราะสมัยประถม ยังไม่เคยทำขนาดนี้เลย เพื่อนเราทำเฉพาะที่เพื่อนอีกคนเขานั่งรถเข็น แล้วลิฟต์มันเต็มจริงๆ ไม่อยากให้เสียเปล่า แต่ดูน้องมันทำสิ คนก็โล่ง แถมยังมาบอกอีกว่า มีพวกพี่อยู่แล้วมันอึดอัด

ขอถามน้องซักคำนะ ลิฟต์นี่เป็นของใครกันแน่ เผลอๆค่ากิจกรรมของพี่มากกว่าน้องซะด้วยซ้ำ เอาเข้าจริงๆค่าใช้จ่ายพวกพี่แพงกว่า น้องมีสิทธิ์อะไรที่จะไม่ให้พี่ขึ้นลิฟต์ ขอถามหน่อย ครั้งหน้าถ้าเป็นอย่างงี้อีก พี่คงต้องอัดเสียงน้องไปเสียบประจานซะแล้วล่ะมั้ง จะได้รู้สำนึกเสียบ้าง อยู่ดีๆไม่ชอบนะ คุณน้อง ต้องให้เล่นกันแรงๆ แถมเด็กเล็กๆดันไปฟ้องผู้ปกครองอีก แล้วผู้ปกครองก็มาว่าๆๆๆๆๆๆๆๆ

แถมไม่รู้ตัวเลยว่า ใช้ลูกคุณจะพูดความจริงเสมอไป ไม่ต้องยึดติดกับคำว่าเด็กมักพูดตามที่เห็นและพูดความจริงเสมอก็ได้ สมัยนี้สังคมมันเปลี่ยนแล้วนะ กลายเป็นเด็กมันโกหกเก่ง สตรอเบอร์รี่ด้วย ไม่ได้ตักน้ำใส่กระโหลกชะโงกดูเงาตัวเองเลยว่า เป็นเด็กเฮงซวยแค่ไหน ครูกับพ่อแม่ควรจะมองทั้งสองฝ่ายแล้วค่อยตัดสินนะ ไม่งั้นโลกนี้จะมีกฎหมายไว้ทำซากหาพระแสงอะไร? แถมอะไรๆก็หาว่าพวกรุ่นพี่เป็นตัวอย่างไม่ดีกับน้อง คิดเสียบ้างว่าการที่เด็กจะเป็นอย่างไรนั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับบ้านและโรงเรียนเท่านั้น แต่อย่าลืมสิว่าสื่อต่างๆน่ะ ก็มีผล เช่นละครไทยนางเอกนางร้ายตบกันไร้สาระน่ะนะ กับตัวละครที่มันสตรอเบอร์รี่สุดๆด้วย นั่นก็เป็นผล เอะอะอะไรก็รุ่นพี่ทำตัวไม่ดีให้กับน้อง อะไรๆก็รุ่นพี่ พอได้ยินบางคนพูดคำหยาบก็พูดตาม แถมยังมาบอกอีกว่าเห็นรุ่นพี่พูดเลยพูดตาม (แต่เราไม่เคยพูดคำสมัยพ่อขุนรามนะ)

มิทราบว่าเด็กเล็กสมัยนี้ไม่รู้จักคิดหรือถามผู้ปกครองบ้างรึไง หรือว่าไม่มีหัวคิดในการใช้วิจารณญาณ ในการตัดสิน เราไม่ใช้คำว่าโง่ สมองไส้เดือนดินก็บุญแล้ว

หากเกิดเรื่องนี้อีก พวกพี่อาจไม่อยู่เฉย และที่สำคัญนะ... ถึงพี่มัธยมจะไม่ใช้ผู้ใหญ่ แต่ยังไงพวกพี่ก็โตกว่า และรู้อะไรมากกว่า อยากให้รู้จักเคารพซึ่งกันและกันเสียบ้าง ธนาคารคุณธรรมก็บอกไว้โต้งๆ แล้วไอกิจกรรมสวัสดีค่ะพี่ น้องๆ เพื่อนๆนี่ก็เอามาใช้เสียบ้าง เพราะคุณธรรมไม่ใช่แค่สักแต่ว่าฟัง แต่ควรจะมาปฏิบัติหรือประยุกต์ใช้ในทางที่ถูกต่างหาก

ไม่รู้ว่าน้องคนที่ทำทั้งหลายจะได้อ่านรึเปล่า แต่ขอให้รู้ไว้ว่า อย่าเอาตนเองเป็นศูนย์กลาง คิดเสียบ้างสิ ว่าถ้าเกิดเป็นน้องมาเป็นพวกพี่ แล้วถูกre stopถี่ๆอย่างงี้น่ะ น้องจะรู้สึกยังไง ก็รู้สึกโกรธใช่มั้ยล่ะ หวังว่าจะปรับปรุงตัวได้นะ ไม้อ่อนดัดง่ายไม้แก่ดัดยาก จำใส่ใจไว้ให้ดีๆด้วย

เป็นเด็กเป็นเล็กอย่าทำกิริยาที่แก่แดดหรือโง่แต่อวดฉลาด เตือนไว้ก่อน สงสารครูบาอาจารย์

ความคิดเห็น

ยังไม่มีความคิดเห็น