ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fanfic]Bleach:Soul Reaper Revelation

    ลำดับตอนที่ #12 : *Season 1*Episode12:Don't enter into my world

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 425
      0
      5 พ.ค. 52

    ราวกับเวลาหยุดนิ่ง เด็กหนุ่มขยับตัวไม่ออก ลมหายใจถี่กระชั้นเมื่อรู้ถึงชื่อจริงของคนๆนี้ เจ้าหญิงแห่งราชวงศ์ที่แข็งแกร่งที่สุด หากแต่ตอนนี้เธอไร้ความทรงจำ พลันหวนคิดถึงตอนที่สามคนนั้นมาติวหนังสือที่บ้าน สิ่งที่จำได้ไม่มีวันลืมคือวินาทีที่เล่าถึงโศกนานาฏกรรมของราชวงศ์คุนะยูกิ เมื่อเกือบสิบปีก่อน และที่สำคัญท่าทีของเซนริที่แปลกไป สิ่งที่ทุกคนรู้ได้ว่าเขาสูญเสียสิ่งสำคัญที่สุดไปในวันนั้นก็คือ...

     

    คนๆนี้ ยูกิ หรือเจ้าหญิงโซเคนโย โทโอยะมีสีหน้าสงบนิ่ง ต่างจากดวงตาที่เบิกกว้างของคุโรซากิ อิจิโกะโดยสิ้นเชิง เพราะเชื้อพระวงศ์ชั้นสูงและทุกคนต่างสงสัยว่าพวกนี้จะรักการฆ่าคนซักแค่ไหนได้มาอยู่ตรงหน้า แถมยังเลี้ยงไอศกรีมเขาอีก ชวนคุยและเดินเล่นอีก เป็นไปไม่ได้เลยที่จะเป็นคนรักการฆ่าฟัน ออกจะรักสงบอย่างเห็นได้ชัด แต่สิ่งที่เขาหวาดกลัวก็คือ ท่าทางที่อ่านไม่ออกเลยแม้แต่น้อยของเขา

     

    ไอศกรีมที่กินนั้นหมดแล้ว จนเด็กหนุ่มหมดโอกาสจะกลบสีหน้าตัวเอง เขาไม่กล้าประสานสายตากับหญิงสาวซึ่งเป็นราชวงศ์ที่ร้ายกาจที่สุดเลยแม้แต่น้อย เขากลัวจนตัวสั่นความกลัวที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อนแต่โซเคนโย โทโอยะสามารถจะรื้อมันขึ้นมาได้อย่างง่ายดาย

     

                เทพและปีศาจเป็นขุมพลังที่น่าสนใจสำหรับพวกมนุษย์ เพราะไม่เคยมีเลือดผสมที่เท่ากันเป๊ะมาก่อนนั่นอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้พวกเราถูกล่าก็เป็นได้

     

                พลังของพวกเธอมัน...

     

                โหดร้ายใช่มั้ยยูกิพูดเรียบๆ ใช่ มันโหดร้าย สำหรับพวกที่ไม่มีสิ่งนี้ ในขณะที่พวกฉันสามารถสลายพลังของพวกนายได้ทุกเมื่อตราบเท่าที่ฉันต้องการ แม้แต่พลังของเซนริฉันย่อมทำได้

     

    อิจิโกะเงยหน้าขวับเพราะตกตะลึงกับคำว่า พลังของเซนริ เธอก็สามารถทำให้มันหยุดไปได้สบายๆเลย แต่ทันใดนั้นหญิงสาวก็สะดุ้งเฮือก ดวงตาสีน้ำเงินที่สวยที่สุดตวัดฉับไปยังด้านบน ทำให้เด็กหนุ่มมองตาม ทันใดนั้น บรรยากาศชวนขนลุกก็คลืบคลานเข้ามาใกล้ ให้ความรู้สึกคล้ายกับเวลาดูหนังเรื่องเกี่ยวกับแวมไพร์หรืออมนุษย์

     

    บรรยากาศนี่มันของใครกัน...

     

    และแล้วอิจิโกะรู้สึกเหมือนวิญญาณเขาถูกกระชากให้ยืนขึ้น ด้วยพลังของยูกิที่บังคับอยู่ เธอเหลือบมองรอบๆด้านอย่างพิจารณา ก่อนจะเริ่มออกวิ่ง และยังใช้พลังบังคับให้ตัวของเด็กหนุ่มออกวิ่งด้วย

     

                เดี๋ยวสิ เกิดอะไรขึ้น

     

                นายต้อง... ออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้!!”

     

    อีกฝ่ายส่งเสียงดังใส่ แต่ยังคงไม่หันหน้ากลับมา ยังคงตั้งหน้าตั้งตาลากอิจิโกะออกไปโดยไม่สนว่ามันจะเจ็บหรือไม่เจ็บ หญิงสาวกัดฟันกรอด

     

                ไม่ทันแล้ว

     

    ร่างเงาร่อนลงกับพื้นดิน สวมผ้าคลุมปิดหน้ากันทั้งหมด มีประมาณนับสิบ และที่สำคัญยังมี

     

                พวกblank (ใครงงไปดูthe movie 1ใหม่ซะนะ) มาได้ไงกันอิจิโกะพึมพำอย่างตื่นตระหนก ยูกิมองซ้ายมองขวาปรากฏว่าถูกล้อมไว้ซะหมด เธอเม้มริมฝีปากบางเฉียบ

     

                ไสหัวไปซะน้ำเสียงเธอกดลึกเบาและเย็นจนเหงื่อของเด็กหนุ่มไหลซึม ทำให้พวกแบลงค์สลายไปทั้งหมด เธอพ่นลมหายใจเล็กน้อยแล้วเหลือบมองร่างเงารอบๆที่ยังคงเป็นปัญหาอยู่ ยูกิหันมามองรุ่นน้องที่อายุน้อยกว่า เธอหรี่ตาลง ทันใดนั้นวิญญาณของเด็กหนุ่มก็ถูกกระชากออกมาในรูปแบบยมทูต ดาบฟันวิญญาณอยู่ในมือ กะจังหวะหนีไปซะ

     

                เดี๋ยวสิ แล้วเธอล่ะอิจิโกะที่ยังเอ๋อเพราะวันนี้เขาเล่นถูกกระชาก ถูกกดดันซะจนมึนไปหมด แถมไม่คาดคิดว่าอีกฝ่ายจะบังคับให้เขากลายร่างเป็นยมทูตได้อีกด้วย

     

                ฉันจะอยู่ที่นี่ แต่นายอยู่ไม่ได้

     

                ไม่รู้เรื่อง กำกวม

     

    โครม

     

    เสียงเหมือนอะไรแหวกอากาศบวกกับสิ่งของที่ถูกชนระเนระนาด เช่นเดียวกับพวกร่างเงาและแบลงค์ที่ค่อยๆมาลุกฮือขึ้น เจ้าหญิงผู้สูงศักดิ์ฉวยคอเสื้อยูคาตะของอิจิโกะขึ้นแล้วกระโดดลอยขึ้นบนฟ้าไป จากนั้นจึงร่อนลงบนพื้นกำแพง และทั้งสองก็ได้เห็นอาคันตุกะผู้มาเยือนใหม่ เร็นจิ ฮิตซึกายะ ลูเคีย อิกคาคุ อิชิดะ ยูมิจิกะและรันงิคุ... มากันหมด

     

                พาเพื่อนนายออกไปจากที่นี่ให้หมดหญิงสาวพูดสั่งเสียงเครียด มนุษย์ไม่ควรจะมารับรู้โดยไม่จำเป็น ขอสั่งในฐานะที่เป็นเจ้านาย

     

    ฮิตซึกายะเบิกตากว้างก่อนจะรีบคุกเข่าชันขาให้ทันที

     

                ขออภัยที่กระหม่อมไม่ทันสังเกต มันเริ่มแล้วหรือพ่ะย่ะค่ะ

     

                นี่มันหมายความว่ายังไงน่ะอิชิดะที่ไม่รู้เรื่องถามช้าๆ หรือว่า...

     

                ระวัง!!!”เสียงลูเคียแว่วเข้ามาในโสตประสาทของทุกคน แต่คนหนึ่งกลับไวกว่า ยูกิมองร่างเงาที่สวมชุดเกราะแม่ทัพกระโจนเข้ามาใส่พร้อมกับอาวุธขนาดยักษ์เพียงแค่เธอหรี่ตาเล็กน้อย พวกมันก็กระเด็นไปไกลทั้งหมด

     

    ที่เหลือจ้องมองด้วยสีหน้าไม่อยากจะเชื่อเพราะไม่ค่อยเห็นยูกิใช้พลังเท่าไหร่ แต่นี่ใช้ให้เห็นและความสามารถนั้นน่าทึ่ง ไม่ต้องขยับตัวก็ทำทุกอย่างได้แล้ว

     

                สรุปว่าไม่ต้องบอกก็รับรู้ได้ด้วยตัวเองสินะหญิงสาวคนหนึ่งพูดขึ้นผมยาวพลิ้วไหวและดวงตาเรียวคมสีงาช้างก้าวย่างออกมาจากฝุ่นตลบอวล เธอมองมายังยูกิก่อนจะย่อกายอย่างเคารพสูงสุด ขอประทานอภัยเพคะที่มารับช้าไปหน่อย

     

                สายไปหนึ่งชั่วยามนะเจ้าหญิงผู้สูงศักดิ์พูดเสียงเย็นทำให้อีกฝ่ายสะดุ้ง จากเรื่องที่ไม่อยากให้รู้ก็ดันมาให้รู้ หน่วยองครักษ์ทำงานพลาดงั้นหรือ

     

    พวกยมทูตที่ดูเหตุการณ์จากเบื้องหลังได้แต่ตัวสั่นสะท้าน เพราะรู้สึกถึงความน่ากลัวที่แผ่ออกมาจากหญิงสาวผมสีรัตติกาลได้ แต่ทันใดนั้นเสียงคุ้นหูก็กล่าวขึ้นมาจากเบื้องหน้าระหว่างที่เขาคนนั้นเดินฝ่าออกมา

     

                แต่เอาเข้าจริงๆเธอก็อยากให้รู้ใช่มั้ยล่ะ ไม่อย่างนั้นคงไม่พาเจ้าหนูผมส้มมาที่นี่ด้วย เพราะอีกไม่นานวิกฤตที่ส่งผลต่อโลกทั้งหมดกำลังจะเข้ามาสังหารมนุษย์ไม่เหลือซากตามที่เธอเคยพูดเอาไว้ เธอจึงจงใจให้รู้เพื่อจะให้แข็งแกร่งขึ้น

     

    คาอิน เซ็ทสึเดินเข้ามา ใบหน้าที่เคยประดับด้วยรอยยิ้มทิ้งไว้แต่ความเย็นชาและไม่หยี่ระต่อสิ่งใด ดวงตาสีเงินที่กลายเป็นเหมือนใครบางคนที่พวกอิจิโกะไม่รู้จัก เสื้อคลุมของชายหนุ่มพลิ้วไหวตามลม และที่มือนั้นมีพลังที่คล้ายคลึงกับร่างเงาพวกนั้น!!!

     

    หันมาเล่นงานพวกเดียวกัน... งั้นหรือ???

     

                จะว่าอย่างนั้นก็ได้ แล้วนายจะว่ายังไงล่ะยูกิตอบกลับด้วยท่าทีนิ่งเฉย ว่ามาสิ

     

                ฉันไม่อยากให้เธอต้องไปเป็นเครื่องสังเวยในเรื่องบ้าๆนั่นที่โซลโซไซตี้ และไม่อยากจะจับเธอไปสู่ความตายด้วยวิธีรุนแรง ดังนั้นฉันจึงจะรีบลงมือก่อนที่พวกคนของวังกลางจะมา ดังนั้น รีบๆไปซะ

     

    อิจิโกะมองบทสนทนาจากคนสองคนสลับไปมาอย่างงุนงง ส่วนฮิตซึกายะก้มหน้าไม่พูดอะไรเพราะเขาคือหัวหน้าหน่วยย่อมรู้เรื่องอยู่แล้ว

     

                เครื่องสังเวย...รันงิคุพูดช้าๆ ถ้าหากว่าไม่ใช่หัวหน้าหน่วย แม้จะเป็นรองหัวหน้าก็ยังไม่รู้เรื่องนี้ หัวหน้านี่มันหมายความเช่นไรหรือ

     

                ก็หมายความว่า เอาชีวิตไปแลกเพื่อให้ขุมพลังของฮูเอโก้มุนโด้สลายไปได้มากๆ และอาจทำให้ฮูเอโก้มุนโด้สลายไปได้ในพริบตายังไงล่ะเสียงแหบแห้งดังมาจากด้านบนฟ้าทำให้แต่ละคนเงยหน้าขึ้นไปดู ผู้ปรากฏเป็นชายวัยกลางคน พร้อมกับองครักษ์ที่ปรากฏมารอบๆกาย แต่ตราที่ประทับก็บ่งบอกได้ไม่ยากว่ามันเป็นของ46ห้องวังกลาง...

     

                ซวยแล้วคาอินพูดอย่างหัวเสีย แต่เมื่อพวกยมทูตรู้เรื่องต่างเริ่มมีการเคลื่อนไหวเมื่อรู้ว่าโซลโซไซตี้คิดจะทำอะไร

     

                จะบ้าหรอ ทำไมถึง

     

                ยังไม่บอกหรือพ่ะย่ะค่ะชายชราหันมาถามหญิงสาวซึ่งมองตนมาด้วยสายตายากจะหยั่งถึง แต่เธอกลับยักไหล่เป็นเชิงว่าไม่แยแส จนอีกฝ่ายหัวเราะหึหึ ดวงตาเลื่อนมาสบกับยมทูตแต่ละคนที่มีสีหน้าโมโหสุดขีด เพราะจะเอาชีวิตของคนๆหนึ่งไปทำเพื่อประโยชน์ของตนเอง แต่ก็คัดค้านไม่ได้เพราะคำสั่งลงมาเรียบร้อยแล้ว

     

    คำสั่งของวังกลาง ไม่ว่าใครหน้าไหนก็ไม่มีสิทธิ์จะคัดค้าน

     

                เจ้าหญิงโซเคนโย โทโอยะแห่งคุนะยูกิ เจ้าของพลังที่มากที่สุดในจักรวรรดิ ท่านผู้ควบคุมระบบการปกครองคนที่13 และจะเป็นคนสุดท้าย เชิญมาเถอะนะ

     

    ยังไม่ทันจะลงมือทำอะไร ธนูของอิชิดะก็พุ่งเป็นสายขึ้นไปก่อน แต่ทว่าองครักษ์รอบๆนั้นกลับปัดมันไปได้อย่างง่ายดาย แล้วพุ่งลงมาโจมตีอีกรอบ

     

    โครม!!

     

    ร่างของควินซี่กระเด็นไปชนกำแพงอีกฟากอย่างรวดเร็ว ยังไม่ทันที่ใครจะไปช่วย องครักษ์อีกนายก็เข้ามาขวางไว้เสียก่อน เร็นจิยกดาบขึ้นตั้งรับเมื่อองครักษ์ต่อมาพุ่งเข้ามาหาพร้อมอาวุธในมือทั้งสองดันดาบกันไปมาอย่างหนักหน่วง ตัวดาบค่อยๆกดลงมาเรื่อยๆ เร็นจิยกขาถีบหมายจะเล่นงานส่วนอื่นแต่อีกฝ่ายกลับรู้ทันดันดาบออกไปถอยก่อนพร้อมกับองครักษ์อีกนายเอาดาบฟาดลงมาเต็มๆหลังด้วยความเร็วที่ไม่คาดคิด!!

     

                อั๊ก

     

                เร็นจิลูเคียที่กำลังจะเดินเข้าไปดูแต่กลับถูกขัดขวางด้วยศัตรูอีกราย เด็กสาวเม้มริมฝีปากบางเฉียบก่อนจะหันไปปะทะด้วย แต่ไม่นานนักก็กระเด็นไปไกลเพราะไม่อาจต้านทานไหว อิจิโกะที่กำลังจะไปช่วยอีกแรงกลับถูกหญิงสาวที่ดูจะเป็นรองหัวหน้าหน่วยองครักษ์ที่ว่าและคาอินเป็นหัวหน้าหน่วยเรียกเธอว่าฮาริเนะ ยูโนกิ

     

                พวกคุณคิดจะทำอะไรกันแน่เด็กหนุ่มกระชากเสียงถามเพราะแม้จะกลัวเจ้าหญิงโทโอยะแต่เขาก็ไม่อยากให้ตายเท่าไหร่ เพราะตลอดเวลาก็ช่วยพวกเขามาเยอะ ดังนั้นจะต้องไม่ตายเด็ดขาด

     

                จะให้ฉันทำยังไง อย่างกับพวกฉันอยากทำนักนี่ไอหนู

     

    เสียงตะคอกกลับทำให้คนฟังสะดุ้งไปพักใหญ่แต่ยังคงประดาบอย่างต่อเนื่อง เหลือแต่คาอินที่ยังไม่เคลื่อนไหว แต่ทันใดนั้นดวงตาของเขาก็เบิกกว้างเมื่อเห็นด้านบนว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้น ยูกิรู้สึกว่ามีบางอย่างกระชากเธอก็ลอยขึ้นไป ซึ่งคนทำนั้นก็คือตาเฒ่าวังกลางนั่น ในมือของเขาปรากฎประจุวิญญาณโลงศพดำเตรียมจะเล่นงานทุกคน คาอินรู้ตัวก่อนแต่เขาไม่มีเวลาจะสลายอะไรทั้งนั้น ส่วนยูกิรีบสลายสิ่งที่พันธนาการเธอไว้ก่อนจนร่างหล่นลงมา

     

                เฮ้ยอิกคาคุร้องลั่นเมื่อเห็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไป ชายชรานั้นไม่สามารถจะแก้ไขเพราะคนที่ต้องไปเป็นเครื่องสังเวยเล่นจะไปอยู่กลุ่มกับพวกนั้นเรียบร้อย

     

                ระวัง

     

    เปรี้ยง!!!

     

    พลังนั้นถูกทำให้สลายไปในทันที เมื่อรู้สึกเหมือนมีอะไรผ่านตัวแค่ชั่ววูบเดียวเท่านั้น เมื่อดูอีกทีก็พบว่าที่ข้อมือของวังกลางนั้นมีเข็มนาฬิกาสีฟ้าใสปักอยู่

     

    เข็มนาฬิกางั้นหรือ...

     

    ฟึ่บ

     

    ร่างสูงสง่าของใครคนหนึ่งร่อนลงบนพื้นดิน ใบหน้าหล่อเหลาเกินกว่าจะจินตนาการได้ถึงฉายแววเย็นยะเยือกอย่างน่ากลัวที่สุด ผมสีน้ำตาลอบอุ่นพลิ้วตามสายลมและดวงตาสีฟ้าเทอควอยซ์ที่งดงามกว่าอัญมณีใดๆเรียวคมกริบดูสง่า แม้จะอยู่ในเสื้อธรรมดาแต่ความหล่อเหลาและทุกอย่างก็บ่งบอกว่าเป็นราชนิกูลชั้นสูงอย่างเห็นได้ชัด เซนริตวัดมือวูบหนึ่งเข็มนาฬิกาก็หายไปพร้อมๆกับประจุพลังก็หายไปทั้งหมด ดวงตาสีฟ้าจ้องไปยังวังกลางซึ่งตัวสั่นกลางอากาศก่อนจะรีบร่อนลงบนพื้นดินคุกเข่าให้อีกฝ่าย

     

                ทะ ท่าน ท่าน

     

                ฉันไม่ควรจะไว้ใจวังกลาง นับว่าคิดผิดจริงๆ

     

                ขะ ขออภัย

     

    เซนริเหลือบมองคนแต่ละคนและในอ้อมแขนเขามีเจ้าหญิงแห่งคุนะยูกิอยู่ซึ่งเขารับได้ทันพร้อมกับสลายพลังได้นพริบตา ชายหนุ่มวางหญิงสาวลง

     

                คงจะยาก ถ้าเกิดไม่ต้องรับโทษใดเลย

     

    คาอินเองก็ตัวสั่นอย่างไม่รู้ตัวระหว่างที่ถอยมาอยู่ด้านหลังเพื่อนซึ่งน่ากลัวกว่าเดิมนัก เซนรินั้นใจเย็น และไม่ค่อยระเบิดอารมณ์ แต่เวลาเขาโกรธก็เก็บอารมณ์ได้ดี แต่แววตาเขาจะน่ากลัว และไม่ควรจะไปแหยมอะไรทั้งนั้น คาอินรู้จักเจ้าชายพระองค์นี้มาสามสี่ปี และแน่นอนว่า เคยเห็นบรรยากาศแบบนี้มาแล้ว

     

                ถ้าเกิดตัดสินใจจะทำพิธีกรรมนั่นจริงๆเซนริหรี่ตาลง หลังจากเสร็จพิธีกรรม ในฐานะมกุฎราชกุมารผู้คุมทัพสูงสุด ขอเอาชีวิตวังกลางทุกคนเป็นเครื่องแลกเปลี่ยน นั่นคือสิ่งที่ปรานีที่สุดเพราะชีวิตของยูกิแค่ชีวิตพวกเจ้าทุกคนมันไม่พอ

     

    เพราะมันต้องแลกมาด้วยชีวิตของคนทั้งหมดทั้งโซลโซไซตี้เลยก็ว่าได้ แต่เจ้าชายหนุ่มตระหนักว่า ไม่ควรจะเอาด้วยเพราะพวกนั้นไม่ได้ผิด เขาจึงเลือกแค่วังกลางที่บังอาจใช้อำนาจบาดใหญ่ และสังหารคาอินและฮาริเนะก็ไม่ใช่สิ่งที่จะให้อภัยได้ เพราะชีวิตของสองคนนี้โดยเฉพาะคาอินก็ต้องจ่ายมากเหมือนกัน แค่วังกลางก็ไม่พอเช่นเดียวกัน

     

    ถือว่าฮายาเตะ เซนริใจดีมามากพอแล้ว

     

                เดี๋ยว นายคิดจะอิจิโกะร้องถาม เอาชีวิตเพื่อนตัวเองจริงๆงั้นหรือ

     

    อีกฝ่ายไม่ตอบ แต่ทันใดนั้นร่างของเจ้าหญิงก็สั่นสะท้าน ดวงตาสีน้ำเงินเบิกกว้างพลางยกมือกุมหัว เซนริ คาอิน และวังกลางหันขวับมามองพร้อมกัน คาอินสบถพรืดก่อนจะพยักหน้าให้มกุฎราชกุมารให้ทำบางอย่างที่แม้แต่วังกลางยังไม่เข้าใจ

     

                ใช้พันธะ

     

    เซนริจับไหล่บางทั้งสองข้างและทันใดนั้นหญิงสาวก็หมดสติไปในทันที ชายหนุ่มรับมาก่อนจะอุ้มขึ้น โดยไม่ปริปากพูดอะไรทั้งนั้น เขานิ่งคิดก่อนจะถอนหายใจเฮือก

     

                ฉันก็ไม่ต้องการสิ่งนั้น แต่เรื่องของพวกฉัน พวกนายก็ไม่มีวันเข้าใจถึงความรู้สึกที่ต้องมาแบกรับชีวิตของคนทั้งโลกได้

     

                หมายความว่ายังไง

     

    ชายชราจากวังกลางตั้งท่าจะพูดอะไร แต่ผู้สูงศักดิ์กลับมีสายตาเย็นและทรงอำนาจทำให้ไม่สามารถเปิดปากพูดอะไรทั้งนั้น

     

                การประหารจะหยุดหรือไม่ขึ้นอยู่กับฉัน

     

    พอพูดจบ คาอินก็เดินเข้ามาขวางตรงหน้า ชายหนุ่มขยับรอยยิ้ม แต่มันแฝงความเศร้าเล็กน้อย

     

                อย่าโกรธกันเลยนะ

     

    คาอินสะบัดมือครั้งเดียวร่างของแต่ละคนก็ขยับไม่ได้ ทันใดนั้น ความเจ็บปวดก็ทะลักเข้ามา เมื่อเข็มนาฬิกาสีฟ้าใสได้มาปรากฏอยู่รอบๆร่างเลือดสดๆหลั่งเทออกมาไม่หยุดหย่อน

     

                อย่าเข้ามาในโลกของพวกฉันจะดีที่สุด

     

    อิจิโกะเบิกตากว้างก่อนจะค่อยๆล้มลงไป ในใจยังคงได้ยินคำพูดที่ว่า

     

    อย่าเข้ามาในโลกของพวกฉันจะดีที่สุด

     

    อย่าเข้ามาดีกว่า เพราะมันไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์ควรจะมาทุกข์ด้วย

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×