ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fanfic]Bleach:Soul Reaper Revelation

    ลำดับตอนที่ #18 : *Season 1*Episode 17:Ichigo VS Kain

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 298
      0
      16 ธ.ค. 51

    ติ๊ด ติ๊ด

     

    เสียงเครื่องอีซีจียังคงส่งเสียงอย่างต่อเนื่องขณะที่กำลังตรวจสอบชีพจรของคนเจ็บ ในที่ทำการหน่วยที่สี่ พวกหมอต่างทำงานกันอย่างต่อเนื่อง

     

                พ้นขีดอันตรายแล้วย้ายไปห้องพักธรรมดาด้วยเสียงตะโกนโหวกเหวกต่อเนื่องดังตลอดเวลา จนหัวหน้าอุโนะฮานะต้องมาปรามให้เงียบเสียงลง ขณะที่ลูกน้องช่วยการย้ายเตียงไป หัวหน้าหน่วยสี่พอเห็นยกไปเรียบร้อยหมุนตัวกลับมาก็เจอกับหญิงสาวคนหนึ่ง อายุดูๆคงประมาณยี่สิบปี ผมสีน้ำตาลอ่อนซอยหน้าม้าบางๆ ผมปล่อยสยายยาวถึงพื้นดัดเป็นลอนตรงปลาย กับดวงตาสีเมเปิ้ลในชุดกิโมโนหรูแบบท่านหญิงขุนนาง

     

    เธอเป็นหญิงสาวร่างสูงคงซักร้อยเจ็ดสิบต้นๆหรือมากกว่านั้นเล็กน้อย

     

                ท่านอาคาเนะ ซากุระหัวหน้าอุโนะฮานะคำนับทักทายอย่างนอบน้อม หญิงสาวผู้นำตระกูลของมิโกะยมทูตแห่งมิติวังราชันย์ เธอคนนี้เป็นผู้หญิงหน้าตาดีทีเดียว แต่ค่อนข้างจะสงบเสงี่ยมนิดๆและดวงตาที่มีแต่ความเมตตาและอ่อนโยนกิริยามารยาทงดงาม

     

    สมกับเป็นผู้นำยิ่งนัก

     

                ท่านหญิงปลอดภัยแล้วนะคะนายเหนือแห่งหน่วยที่สี่บอก

     

                ข้าก็พอจะรู้ซากุระเอ่ยตอบ ดวงตาอ่อนหวานคู่โตมองไปรอบๆสถานพยาบาลได้ยินว่า มีการสู้กันภายในเซย์เรย์เทย์ข้าเลยรีบมาดู

     

                ค่ะ พวกตัวแทนยมทูตสู้กับพวกหน่วยองครักษ์

     

    หญิงสาวถอนหายใจเบาๆเมื่อสัมผัสถึงการปะทะครั้งใหม่

     

                โซลโซไซตี้เวลานี้ช่างย่ำแย่นัก

     

     

    เคร้ง เคร้ง

     

    เปรี้ยง

     

    ดาบและเคียวปะทะกันอย่างต่อเนื่อง อิจิโกะฟาดดาบไปข้างหน้า คาอินสลับมือแล้วพลิกเคียวสลายพลังเขี้ยวจันทราของอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว เขาไม่มีท่าทางว่าจะเหนื่อย ร่างสูงพลิกเคียวแล้วเปลี่ยนมืออีกครั้งคราวนี้พายุกรรโชกกระหน่ำ อิจิโกะเผลอยกมือป้องตา เมื่อรู้สึกตัวอีกที ก็เห็นคมเคียวฟาดใส่ร่างเต็มๆ

     

    อัก

     

    เด็กหนุ่มแทบกระอัก เมื่อเลือดเริ่มไหลรินราวกับก๊อก ความเร็วที่ตามแทบไม่ทัน แม้จะใช้ขั้นบันไคแล้วก็ตาม นี่หรือหัวหน้าองครักษ์ฝั่งเซย์เรย์เทย์ ฝีมือต่างจากรองหัวหน้ามากมายนัก ทั้งทักษะทุกอย่าง

     

    ไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้ใดๆก็ตามทักษะและพื้นฐานควรมีความจำเป็นทั้งสิ้น หน่วยองครักษ์ต่างรู้ดี จึงฝึกตั้งแต่การจับดาบ การฟัน ทักษะพื้นฐานทุกชนิด ทั้งการพลิกข้อมือขออีกฝ่ายด้วยเทคนิคไม่ยากมากนักซึ่งเทคนิคพวกนี้ หน่วยอื่นๆไม่ค่อยใช้กัน แต่หัวหน้าหน่วยพิทักษ์ก็ใช้บางคน

     

    แต่อิจิโกะ ยังขาดพื้นฐานพวกนี้อยู่

     

    อีกฝ่ายจึงได้เปรียบ

     

    คาอินยกเคียวขึ้น

     

                ปรับเปลี่ยนสภาพทันใดนั้น เคียวก็เริ่มขนาดขยาย คมเคียวที่เหมือนกับจะงอยปากของนกฟีนิกซ์เริ่มอ้าขึ้น ประจุวิญญาณแปรสภาพให้เป็นสีเหลืองทองพุ่งเข้ามาตรงจะงอยปาก จนลำแสงเริ่มใหญ่และปากของนกก็เริ่มอ้ากว้างมากขึ้น จนเกิดวงแหวนคล้ายของพวกที่เซนริหรือยูกิเคยใช้ ทำให้กระแสพลังเริ่มขยายขึ้นไปมากขึ้น อิจิโกะรีบฉวยจังหวะนี้ เข้าฟาดฟัน เข้าที่ด้านหลัง คาอินหันขวับมาทันทีราวกับมองเห็นได้ทัน มือขวาจับด้ามเคียว แต่มือซ้ายสะบัดทำให้เกิดวงแหวนเกราะมีหลายของซามูไรอยู่ เป็นเกราะคุ้มกัน ดวงตาสีเงินของอีกฝ่ายมองมาอย่างอำมหิต ขณะที่พยายามต้านทานพลังของคุโรซากิ อิจิโกะ!!!!

     

    คนที่ลงดาบไปนั้นเหลือบมองกระแสพลังที่ต้องใช้เวลาค่อนข้างนานอยู่ แต่หัวหน้าองครักษ์ไม่ปล่อยให้โอกาสพลาด

     

                เก็บกักพลัง เปลี่ยนเป็นโหมดโจมตีพลังหยุดชาร์ตแต่ก็ยังอยู่เท่าเดิม มือขวาวาดเคียวอย่างกว้างๆแล้วฟันเข้าที่ร่างของเด็กหนุ่มผมส้มทันที ภาพที่น่าสยดสยองถ้าได้มาเห็นคงต้องอาเจียนออกมาเป็นแน่

     

    อิจิโกะกระโดดถอยลงไป มือขวารีบจับดาบค้ำกายไม่ให้ล้ม

     

                รู้ไหม ทำไมนายถึงบาดเจ็บจากการโจมตีเล็กๆน้อยๆนี้ได้คาอินถามเสียงนิ่ง ขณะคู่ต่อสู้เริ่มหอบหายใจต่อไปเพราะนายยังไม่ได้ฝึกพื้นฐานก่อนจะมา

     

    คนที่กำลังหอบชะงักแล้วเงยหน้ามอง

     

                ว่า... ไง... นะ

     

                การต่อสู้กับองครักษ์อย่าคิดว่ามันจะเหมือนกับการสู้ของอารันคาร์หรือหัวหน้าหน่วยพิทักษ์หรือเบาท์เขาอธิบายเสียงนิ่งพวกองครักษ์ไม่ควรจะลืมว่า แต่ละคนพื้นฐานค่อนข้างจะแน่น และพื้นฐานคือจุดเริ่มต้นของการต่อสู้ที่ต้องเริ่มตั้งแต่แรก แค่พื้นฐานที่ฉันใช้นายก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว

     

    จริงอย่างที่คาอินพูด ไม่ว่าจะทำอะไรทุกอย่างล้วนต้องการพื้นฐานทั้งสิ้น พื้นฐานคือสิ่งจำเป็นแต่เขากลับมองข้ามไปได้

     

                แล้วมันยังไงเล่า ยังไงฉันก็จะสู้ว่าแล้ว ศึกครั้งที่สองก็เริ่มต้นขึ้นอย่างรวดเร็ว อิจิโกะออกวิ่งไปก่อนเพื่อนมาที่มุมโล่งๆ จะได้สู้โดยที่ดาบไม่ติด คาอินเพียงใช้ก้าวพริบตาครั้งสองครั้งก็มาถึงเป็นที่เรียบร้อย ร่างสูงมองคู่ต่อสู้อย่างว่า จะเอายังไงกันแน่ อิจิโกะสูดลมหายใจลึกๆ แล้วตวัดดาบฟันใส่ไม่ยั้ง คาอินตวัดเคียวครั้งเดียว แต่ก็ชะงัก เขารีบดึงเคียวทีเดียว ทำให้ซันเงสึครูดกับตัวมีดเข้าอย่างจัง

     

    เท่าที่จำไม่ผิด เคียวเป็นอาวุธโจมตีระยะไกลหน่อย การจะพลิกมาอีกทีทำได้ยากนัก ทำได้ยากกว่าดาบเสียอีก ดังนั้นถ้าเป็นด้านมุทะลุ อิจิโกะค่อนข้างได้เปรียบว่ามาก

     

                ไง ประมาทไปหน่อยมั้งอิจิโกะใส่ไม่ยั้งอีกครั้ง คาอินเหลือบมอง แขนแข็งแรงตวัดเคียวขึ้นทำให้ดาบกระทบจนเกิดเสียงกังวานเมื่ออีกฝ่ายลงดาบมา เด็กหนุ่มผมส้มกดดาบลงไปเพื่อจะหยุดการเคลื่อนไหวและเล็งจุดตาย ถ้าไม่ฆ่าเขาก็ฆ่า นั่นคือสิ่งที่เขาคิดในใจ เด็กหนุ่มผมเงินเองก็ไม่ได้ยอมอะไร คาอินเหยียดยิ้ม

     

                เปลี่ยนโหมด ชาร์จพลังเสร็จเรียบร้อย

     

    ดวงตาสีน้ำตาลเบิกกว้างเมื่อจะงอยปากของเคียวทรงนกอ้าปากกระแสพลังอัดร่างของอิจิโกะกระเด็นไปชนกับผนังของตึกจนเป็นรู!!

     

    แค่กๆ

     

    เด็กหนุ่มผมส้มสำลักฝุ่น ขณะยันกายอีกครั้ง ด้วยความเร็ว คาอินที่พึ่งใช้พลังระดับสูงไปนิ่ง เมื่อดาบเฉี่ยวไหล่ซ้ายซึ่งเขาเอี้ยวตัวหลบ ถ้าเขาไม่เอี้ยวทัน เป้าหมายจากไหล่ คงจะเป็นคอ

     

    คอจะขาดเป็นสองท่อน

     

                เร็วดีนี่อิจิโกะออกความเห็น ขณะที่ดึงดาบออกจากพื้นซึ่งฝังไปลึก ทางด้านคาอินเองก็กระชากเคียวออกมาจากพื้นบันได ซึ่งเขารีบปาออกไปเพื่อจะได้หลบได้เร็วขึ้นเพราะอาวุธค่อนข้างน้ำหนักมาก

     

                ทิ้งเคียวเลยคิดจะทำอะไรกันแน่ดวงตาสีน้ำตาลที่ไม่ถึงกับคมของเด็กหนุ่มหรี่ตามองเมื่ออีกฝ่ายทิ้งเคียวแล้วหลบ ไม่สนอาวุธอีก...

     

    คาอินจับเคียว แล้วเปลี่ยนโหมดมันอีกครั้งคราวนี้กลายเป็นทรงคล้ายๆกับบูมเมอแรง มือขวาขว้างใส่ทันทีที่อีกฝ่ายเตรียมจะเคลื่อนไหวอีกครั้ง

     

     

     

     

     

     

    เปรี้ยง

     

    เสียงดาบฟันวิญญาณปะทะกันเรียกให้เหล่ายมทูตต่างเคลื่อนไหวกันหมด ทุกหน่วยไม่เว้นหน่วยใดทั้งสิ้น แต่ละคนมองตามทิศทางแรงดันวิญญาณ การเคลื่อนไหวที่หนักหน่วงและรวดเร็ว ไม่ได้ให้ความรู้สึกเหมือนเมนอส แต่เป็นอีกแบบ แบบที่แค่สัมผัสก็รู้สึกราวกับว่าถูกจ้องมองอยู่ตลอดเวลา

     

                ฟุ่บ...

     

    ร่างๆหนึ่งที่ตัวเล็ก ไม่สิ ไม่ใช่มนุษย์ แต่เป็นแมว แมวสีดำและดวงตาสีเหมือนกับอำพัน มันกระโดดข้ามหลังคาตัวเบาหวิว ชิโฮอิน โยรุอิจิในร่างแมวดำ กระโดดฟุ่บไปตามที่แรงดันวิญญาณปะทะกัน แต่เพราะในร่างแมวทำอะไรไม่สะดวกมาก ก้าวพริบตาใช้ได้ไม่เยอะ แถมถ้าใช้ร่างคนจริงๆก็ดูเหมือนจะเกิดโกลาหลมากกว่า เธอจึงเลือกใช้ร่างแมว

     

                เจ้าอิจิโกะน้าเจ้าอิจิโกะ ดันมาปะทะกับใครไม่ปะทะ ดันมาปะทะกับหัวหน้าองครักษ์ โยรุอิจิคิดในใจอย่างเบื่อหน่าย กลับความไม่รู้ประสาของเจ้าเด็กนี่ เธอพึ่งมาถึงเมื่อครู่และลอบเข้ามาได้สำเร็จ แต่สัมผาถึงการปะทะกันของแรงดันวิญญาณจึงรีบมาทางจุดนั่นอย่างรวดเร็ว

     

     

     

     

                แรงดันวิญญาณของอิจิโกะนี่รันงิคุเงยหน้าขึ้น ขณะที่ทุกคนสัมผัสถึงการปะทะกันของแรงดันวิญญาณที่พุ่งชนกันอย่างรวดเร็ว

     

                คุโรซากิคุงโอริฮิเมะเตรียมท่าจะไป แต่รันงิคุดึงไว้ทันที

     

                ถ้าไปที่นั่นเจ้าตายแน่

     

                แต่...”

     

                อีกฝ่ายคือหัวหน้าองครักษ์ฝั่งเซย์เรย์เทย์ การรักษาของเจ้าถ้าจะได้หายจริงๆก็สองอาทิตย์ ถ้าไม่ใช่พลังยมทูตด้วยกันก็ไม่มีประโยชน์ที่จะใช้เวลาเร็วขึ้นสาวทรงโตพยายามอธิบาย ยังจำได้ โอริฮิเมะยังตัดใจจากอิจิโกะไม่ได้ เจ้าอิจิโกะนี่น้า ตกลงมันชอบใครกันแน่

     

    บอกซักทีก็ไม่ได้งั้นหรือ

     

    จะว่าไปเด็กแต่ละคนมันก็โตแล้วนี่นะ

     

     

     

                ฮัดชิ้วเด็กหนุ่มผมส้มจามออกมาอย่างแรง เล่นเอาคาอินกระพริบตาปริบๆ

     

                โดนนินทาชัวส์

     

    ระหว่างการต่อสู้ ดาบและเคียวปะทะกัน อิจิโกะพุ่งเข้าไป คาอินตวัดเคียว

     

    เคร้ง

     

    เคร้ง

     

    โลหะปะทะกันก้องกังวาน หัวหน้าองครักษ์วาดเคียวแล้วฟันเข้าที่ไหล่ขวา อิจิโกะใช้มือจับเคียวเตรียมดึงออก แต่อีกฝ่ายกลับดึงออกมาเรียบร้อย จากนั้นพายุหมุนก็กรรโชกเข้าหา พร้อมกับพายุคล้ายๆทอร์นาโดขนาดย่อมๆเชือดเฉือน อิจิโกะวาดซันเงสึ ลำแสงที่ตัดผ่านทำให้อีกฝ่ายไม่ชะงักแต่อย่างไร เด็กหนุ่มผมส้มยกมือจับที่หน้า พอเลื่อนออก ปรากฏเห็นหน้ากากไวเซิร์ดอยู่ คาอินแค่มอง สายตาบ่งบอกว่ารู้แล้ว

     

    ทำให้เขี้ยวจันทราที่ใช้อีกครั้ง เป็นสีดำ ซัดร่างของหัวหน้าองครักษ์ไป เจ้าตัวรีบกระโดดลอยตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว เขี้ยวจันทราเฉือนข้อเท้าจนทำให้เลือดไหลราวกับน้ำก๊อก

     

                ยังหลบทัน

     

    อิจิโกะคิดในใจ แต่ยังไม่เข้าใจพลังของฮารุวากิของคาอินซักที ว่ามันทำอะไรได้บ้าง และความรู้สึกนั้นบ่งบอกว่าอีกฝ่ายยังไม่เอาจริงซักที

     

    คาอินร่อนลงกับพื้นอีกครั้ง เขายังกำเคียวแน่น และยังไม่ขยับเขยื้อน อิจิโกะมีสีหน้าสงสัย แต่ก็หลบไปทางมุมอับ แล้วกระโจนเงื้อดาบขึ้น

     

    ราวกับเป็นภาพสโลว์โมชั่น เมื่อเป้าหมายยกมือขึ้นหยุดบันไคของอิจิโกะ ด้วยมือข้างขวาข้างเดียว! ภาพเหตุการณ์เก่าๆย้อนเข้าหาความทรงจำของเจ้าของดาบสีดำอีกครั้ง ไอเซ็นก็เคยหยุดได้ด้วยนิ้วประมาณนี้ นี่ยังมีคนสามารถทำแบบนี้ได้อีกหรือไงกัน

     

    มือเรียวใหญ่กำดาบซันเงสึไว้ คมดาบที่แม้จะบาดมือแต่เจ้าตัวกลับไม่สนใจ เขาพึมพำบางอย่าง

     

    สายฟ้าสีฟ้าขาวค่อยๆไหลไปที่ซันเงสึ อิจิโกะตกตะลึงในทันที จิตใต้สำนึกตะโกนบอกให้รีบปล่อยแต่ร่างกายกลับไม่ขยับ ประสาทสัญชาติญาณไม่ทันได้เอาออกมาใช้ ทันใดนั้น สายฟ้าก็พุ่งตรงเข้าช๊อตที่ร่างของคนถือดาบค้างไว้ทันที

     

                อ๊ากกกกเด็กหนุ่มร้องลั่นเมื่อสายฟ้าช๊อตเต็มๆโดยที่ไม่ทันได้ทำอะไร ราวกับร่างชาไป ขยับไม่ได้ สั่งไม่ได้ตามใจนึก

     

    ดวงตาสีน้ำตาลมองซันเงสึ เขาลืมไปได้ไง ว่าเหล็กหรือโลหะอะไรก็ตามเป็นตัวนำไฟฟ้าได้ดี สงสัย คนตรงหน้าคงจำจากหนังสือเรียนแล้วเอามาประยุกต์เป็นแน่หรือว่ายังไงกัน

     

                หน้านายมันอยากจะถามใช่ไหมทำไมฉันถึงรู้ว่านายจะโจมตีทางไหน หรือว่าสามารถส่งไฟฟ้าทางดาบนายได้

     

    ท่าทางมันจะอ่านความคิดออก เขาคิดในใจ คาอินยกเคียวตั้งขนานไว้กับตัว คมของมันสะท้อนกับแสงตะวันที่ส่องลงมา จนแสบตา...

     

                นายคิดหรือว่า คนที่มีพลังSpirit of Talentจะอยู่เฉพาะราชวงศ์เท่านั้น

     

    เงียบ ไร้คำตอบ แต่นั่นหัวหน้าองครักษ์เดาว่ามันคือการพยักหน้ารับ

     

                “SOT (Spirit of Talent) นอกจากสี่ราชวงศ์ทุกๆคนแล้ว ฟุยุโซระ คาโฮโกะ อาคาเนะ เซนนะ หรือฉันเองต่างก็มีเหมือนกัน (ใครไม่เข้าใจเรื่องSOTให้ไปรออ่านสารานุกรมยมทูตท้ายบท)”

     

                และพลังของฉัน คือการจับพลังวิญญาณรวมถึงการรับรู้ถึงวิญญาณทุกชนิด ทั้งของเอสปาด้า หรืออะไรก็ตาม จะสามารถรู้ทิศทางได้ไว รวมถึง พวกเบาท์ด้วย นอกจากนี้ฉันสามารถใช้การติดต่อทางจิตได้ด้วย (เทเลพาที) ดังนั้น นายคิดจะโจมตีทางไหนก็ตาม ต่อให้ฉันตาบอด ก็รู้อยู่ดีว่านายจะเข้ามาทางไหน ส่วนการส่งดาบ พวกนายอย่าคิดว่าที่พวกฉันเรียนหนังสือเรียนจะทิ้งๆขว้างๆ พวกฉันมันเรียนเมื่อไหร่ จะเก็บไว้เผื่อใช้เสมอ แล้ว มันก็มีประโยชน์ทุกรอบ

     

    เขาย่างเท้าเข้ามาใกล้ พลางชี้เคียวมา

     

                ดังนั้น ถ้าแค่นี้ไม่รู้ ก็ไม่ต้องไปไหน จบชีวิตตรงนี้แหล่ะ

     

    เคียวงอตัวจนกลายเป็นทรงจันทร์เสี้ยว ปลายแหลมพุ่งเข้าอิจิโกะ!!!!

     

    ฉึก!!!

     

    กลับมาทางด้านลูเคียและฮานะทาโร่ที่ต้องจำใจวิ่งออกมาจากบริเวณนั้น เพื่อตรงไปยังหอสำนึกผิด

     

              ดะ เดี๋ยวคร้าบบบ คุณลูเคียฮานะทาโร่ที่วิ่งตามมาร้องเรียก

     

              มีอะไรล่ะดวงตาสีน้ำเงินหันมามอง

     

              จะดีหรอครับ ที่ปล่อยคุณอิจิโกะไว้แบบนั้นน่ะ ฝ่ายนั้นระดับหัวหน้าองครักษ์นะครับ

     

    ลูเคียไม่ตอบใช่ เธอจะทิ้งทำไม ถ้าเป็นเธอเมื่อก่อน คงค้านหัวชนฝาแล้วว่าจะไม่ให้สู้ ไม่ให้อยู่คนเดียว แต่ตอนนั้นที่อิจิโกะบอก เธอเห็นแววตานั้น แววตาเหมือนร้องขอว่าจะขอสู้ และจะต้องกลับไปให้ได้ เธอจึงปล่อยไป บ้าชะมัด ไม่น่าใจอ่อนเล้ยยยย

     

    ยมทูตสาวคิดบ่นในใจ

     

              คุณลูเคียคร้าบ ปล่อยคุณอิจิโกะไว้จะดีหรอฮานะทาโร่ตะโกนถามต่อ

     

              เจ้าตัวต้องการแบบนั้น ดังนั้น เราถึงต้องไปต่อ สัญญากันแล้ว ตกลงกันแล้วลูเคียพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น แล้วใช้ก้าวพริบตาวิ่ง ฮานะทาโร่เกาหัวแกรกๆ

     

              เอ่อ ผมใช้ก้าวพริบตาไม่ค่อยเป็น อ๊า รอผมด้วยสิครับเจ้าตัวเอื่อยเฉื่อยรีบวิ่งตามไปทันที ลูเคียที่ใช้ก้าวพริบตา ได้แต่พึมพำเสียงเบา

     

    อย่าตายนะ อิจิโกะ

     

    คำพูดที่เหมือนกับตอนที่สู้กับแกรนด์ฟิชเชอร์ ห้ามเข้าไปยุ่ง นี่คือการต่อสู้เพื่อรักษาศักดิ์ศรีของการเป็นผู้ชายและความพ่ายแพ้ครั้งนั้นอิจิโกะจึงต้องการพยายามที่จะลบความพ่ายแพ้อันน่าอับอายนั่นไป ใช่ถ้าเราไปช่วย แล้วถ้าชนะ อิจิโกะจะดีใจหรอ นั่นน่ะมันคือการทำลายศักดิ์ศรีของเขาไป ดังนั้น เธอจึงอยากให้เขาต่อสู้ได้เต็มที่โดยที่ไม่ต้องพะวักหน้าพะวนหลัง

     

    เหตุการณ์นอกจากจะเหมือนกับตอนต่อสู้ของแกรนด์ฟิชเชอร์แล้ว ยังเหมือนตอนที่ท่านไคเอ็น ต่อสู้เพื่อรักษาศักดิ์ศรีที่ท่านมิโยโกะ ภรรยาของท่านไคเอ็นซึ่งเสียไปเพราะถูกฮอลโลว์กลืนกิน

     

     

     

     

    กลับมาทางด้านอิจิโกะ เมื่อเคียวพุ่งทะลุอกไปเต็มๆ แล้วถูกกระชากออกมา เด็กหนุ่มถึงกับขยับเขยื้อนไม่ได้ยิ่งกว่าเก่า

     

    ขยับสิ ขยับ... ขยับเข้า...

     

    อิจิโกะร้องโวยวายในใจอย่างหงุดหงิด พยายามจะขยับ แต่ร่างกายกลับไม่เอื้ออำนวย คาอินยืนถือเคียวเปื้อนเลือด แล้วสลัดหยาดโลหิตออก จนกระเซ็นไปทั่วพื้น มือของเขาพยายามจับดาบซันเงสึเพื่อชันกายขึ้นมาอีกครั้ง ขยับซี่ ขยับ ขยับ เดี๋ยวนี้นะ ไอร่างบ้า!

     

    ขอแค่โอกาสให้ฉันอีกครั้ง ขอให้ผ่านตรงนี้ไปแล้วเพื่อหยุดการประหารก็พอ ขอให้ผ่านไปช่วยพวกพ้องให้ได้ ขยับเดี๋ยวนี้....

     

    ดวงตาของเขาเริ่มปรือ แต่ก็ยังพยายามฝืน ฉันยังมีพวกพ้องที่ต้องปกป้องแล้วเขาก็ได้ยินเสียง เสียงในความทรงจำ

     

              อย่าตายนะ อิจิโกะเสียงนั้นของลูเคียเคยบอกและเคยขอไว้ ซึ่งไม่มีวันลืม คืนที่แม่ตาย คืนที่สู้กับแกรนด์ฟิชเชอร์

     

              เฮ้ อิจิโกะ ไม่ได้เจอกันนาน สบายดีรึเปล่า

     

              หัวหน้าฮิตซึกายะต่างหากเล่า

     

              หนอย มาบู๊คนเดียวได้ไงก๊านตอนที่เขาไปValley of scream

     

              เอ๋ ข้าก็พักไม่ได้หรอ

     

              หนอย เจ้าลูกบ้า บอกแล้วไงว่าให้กลับบ้านกินข้าวเย็นก่อนทุ่มนึงน่ะใช่ เขายังมีเรื่องที่ต้องทะเลาะกับพ่ออีกมากมาย

     

              ด้วยเกียรติของพรตปราบมาร [Quincy]”

     

              อรุณสวัสดิ์ คุโรซากิคู้งงง

     

              ไง อิจิโกะ

     

              จะเป็นเพื่อนกันก็ได้

     

              ทำไมฉันต้องเต้นรำด้วยคนสองคนที่ทำให้พวกเขาเลือกที่จะมาที่นี่

     

              พวกเราห้ามตายเด็ดขาดตอนที่ทุกคนสาบานกัน

     

              ยังจะฝืนอีกเรอะ อิจิโกะเสียงคุ้นๆหูแต่ทุ้มต่ำถามขึ้น เด็กหนุ่มเงยหน้ามอง ชายแต่งชุดประหลาดๆ และผมที่กระเซิง ตาลุงซันเงสึ...

     

              ซันเงสึ ขอร้องล่ะ ขอพลังให้ฉันด้วย

     

              ร่างกายเจ้าอาจจะทนไม่ไหว ยังจะฝืนอีกเรอะ

     

              ฉันยังมีคนที่ต้องการปกป้องอยู่ เอาพลังมาให้หน่อยเด็กหนุ่มพยายามร้องขอสุดชีวิต

     

              งั้นข้าจะให้โอกาสเจ้า

     

    ซักพักราวกับพลังกลับมาอีกครั้ง แม้จะเล็กน้อยก็ตาม แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว...

     

    คาอินยิ้มอย่างถูกใจเมื่อคู่ต่อสู้กลับมายืนได้อย่างที่คาดคิด เขาชี้เคียวมาอีกครั้ง

     

              ไหนๆเราก็จะไม่มีแรงยืนกันอยู่แล้วสินะอิจิโกะเปิดบทสนทนามาตัดสินรวดเดียวไปเลย

     

              ก็ได้ ถ้านายหยุดฉันได้จะปล่อยไปช่วย

     

    ข้อเสนอช่างดีอะไรเยี่ยงนี้...

     

    อิจิโกะรวบรวมพลังวิญญาณไว้เพื่อเตรียมตัดสินด้วยท่าไม้ตาย ส่วนคาอินเองก็ดึงพลังออกมาเช่นกัน สายพลังสีทองอาบทั่วเซย์เรย์เทย์

     

              เอาล่ะนะ

     

              เก็ทสึงะเทนโช!”

     

              “Tatsumaki!”

     

    เปรี้ยง...

     

    ตูม...

     

    เกิดเสียงระเบิดดังลั่นไปทั่วบริเวณนั้น พื้นดินสั่นสะเทือนเช่นเดียวกับเกราะของหินจิตสังการก็แทบต้านทานไม่อยู่ ทันทีที่ลำแสงจางหายไปก็เหลือแค่คนสองคนจมกองเลือด เด็กหนุ่มผมสีทองแซมเงินที่ดูสภาพดีกว่าเป็นไหนไหน ร่างสูงแต่ก็ดูสง่าแม้ไม่เท่าหัวหน้าอีกคน ลุกขึ้น

     

              รีบรักษาตัวแล้วรีบๆพาเจ้านี่ไปหอสำนึกผิดด้วยล่ะ คุณโยรุอิจิเขาพูดแค่นั้นแล้วเดินจากไป โยรุอิจิในร่างแมวกระโดดลงมาก่อนจะแปลงเป็นคนใส่เสื้อผ้าเรียบร้อย ดวงตาเหล่มองคนที่พึ่งเดินออกไป

     

              ประสาทไวจริงนะ พวกองครักษ์

     

    โยรุอิจิในร่างหญิงสาวค่อยๆแบกร่างอิจิโกะที่จมกองเลือด แล้วกระโดดหายไปทันที พลางคิดในใจ ให้ตายสิ เจ้านี่ ยังดีที่อีกฝ่ายเป็นคาอิน เซ็ทสึหัวหน้าของพวกฝั่งเซย์เรย์เทย์ ถ้าเป็นฝั่งมิติวังราชันย์ น้อยนักที่จะปล่อยให้รอด ความต่างกันสองฝั่งราวกับฟ้าและเหว ถ้าเปรียบกับฝั่งนี้เป็นเหมือนพระอาทิตย์ อีกฝั่งมิติวังราชันย์ก็คือจันทรา สุริยันและจันทราความตรงกันข้ามอันไม่น่าเชื่อ...

     

     

     

     

    แล้วจะเข้าไปยังไงดีนะลูเคียขมวดคิ้วเมื่อมาถึงหอสำนึกผิดแต่เธอหลบๆไว้ก่อน ถ้าจับได้ก็ซวยสุดๆ รอบด้านนี้มีองครักษ์ของหน่วยราชันย์อยู่สองเพื่อจะได้รองรับกับพลังวิญญาณที่แผ่ออกมา แต่ท่าทางจะเหนื่อย เนื่องจากสีหน้าดูซีดเซียว ดวงตาสีน้ำเงินไพลินกลมโตของยมทูตสาวกวาดสายตามองไปรอบๆ มือขวาเลื่อนไปกุมดาบไว้ แต่เธอคิดว่าคงจะไม่ปลดปล่อย เพราะถ้าปลดปล่อย เรื่องก็คงแดงแน่ แล้วอภิมหาซวยมันจะทะลัก

     

    ร่างบางๆเล็กๆกระโดดลงไปด้านหลังของหน่วยราชันย์ที่ซีดเซียวเหมือนคนเป็นไข้ พลางใช้สันดาบกระแทกคออย่างแรงทั้งคู่ ทำเอาฮานะทาโร่ที่หลบอยู่อ้าปากค้าง โหดชะมัด ผู้หญิงอะไรกัน ส่วนพวกหน่วยราชันย์ ล้มตึงไปเรียบร้อย

     

    ลูเคียขมวดคิ้ว ใช้ได้ดีทีเดียว ถ้าฟันตรงคอเส้นประสาทรับรู้ จะทำให้ระบบร่างกายนั้นหยุดชะงัก และสลบได้ง่ายดาย ถ้าฟันแรงก็คงมีโอกาสตาย ที่นะที่ไม่ฟันไปที่ส่วนเซเลเบรัมน่ะ (ส่วนหนึ่งของสมองที่ช่วยในการทรงตัว) ไม่งั้นไอพวกนี้มันเดี้ยงชัวส์

     

    มือบางกระชากคอเสื้อของยมทูตสองคนแล้วโยนโครมไปหลบ ถ้าเกิดคนที่ถูกขังไม่ใช่ยูกิเธอก็คงไม่ได้มาง่ายๆเป็นแน่ ฮานะทาโร่เมื่อเห็นว่าบริเวณปลอดภัยแล้วจึงออกมาจากที่ซ่อน

     

    เป็นไง ได้กุญแจมามั้ยยมทูตสาวหันมาถาม ฮานะทาโร่พยักหน้าหงึก แล้วเดินไปไขกุญแจทันที

     

    ว่าแต่ว่าแรงดันวิญญาณมันช่างคนไขกุญแจแทบจะทรุด เพราะนี่มันยิ่งกว่าคาอินเสียอีก เป็นแรงดันวิญญาณที่ไม่เหมือนใคร ดูใสพิสุทธิ์แต่ก็แฝงไอสีดำแห่งอสูรเอาไว้ แต่กลับไม่รู้สึกหนักหน่วงเหมือนถูกตรึงแล้วหนาวยะเยือกเหมือนของเมนอส

     

    คลิก

     

    เสียงของกุญแจบิดสำเร็จ แสดงให้เห็นว่าแผนลุล่วง ประตูหอสำนึกผิดค่อยๆเปิดออก แต่ตาซ้ายของลูเคียเริ่มกระตุก ลางสังหรณ์ไม่ดีเลยแฮะ เมื่อประตูเปิด ก็เห็นใครคนหนึ่งอยู่ในนั้น

     

    ร่างบางระหงของใครคนหนึ่ง ดูแตกต่างจากที่เห็นตอนอยู่โลกมนุษย์มากนัก มันเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงราวกับรอเวลาบางอย่าง หญิงสาวรุ่นสิบปลายๆ ผิวขาวสะอาดราวหิมะสะท้อนกับแดด ผมสีรัตติกาลที่ล้อมไปใบหน้างดงามยิ่งกว่าใครยาวจรดข้อเท้า

     

    โดยเฉพาะดวงตาสีน้ำเงินไพลินที่ล้ำลึกและเจนโลกมามาก แม้อายุน้อยแต่ก็ได้รับการผวนเวลา

     

              ลู... เคียเธอเอ่ยช้าๆ ขณะที่คนถูกเรียกได้แต่มองอย่างอึ้งนิดๆ นานเท่าไหนกันนะที่ไม่ได้เห็นสภาวะร่างจริง หลายปี ในเหตุการณ์คัดเลือกนักสู้ลำดับที่สาม ร่างที่แท้จริงซึ่งได้รับสมญานามว่า ร่างที่รองรับพลังแห่งพระเจ้า

     

              ท่าน โทโอยะฮานะทาโร่เริ่มรู้สึกเกร็งทันทีสายตาของคนๆนี้นั้น

     

              ทำไมถึงมาที่นี่ยูกิเอ่ยถามเสียงเบา

     

              ก็เพราะการประหารนั่นแหล่ะลูเคียเอ่ยตอบรู้ไหมโซลโซไซตี้ทะเลาะกันจะเป็นตาย แล้วทั้งฉัน แล้วพวกอิจิโกะต่างก็ตั้งใจจะมาช่วยเธอทุกคน

     

              เจ้าหนูอิจิโกะต่อสู้กับคาอินจนบาดเจ็บไปแล้วยูกิพูดช้าๆเล่นเอาอีกสองคนสะดุ้ง รู้ได้ไง

     

              ไม่มีอะไรรอดพ้นสายตาฉันไปได้ ประจุวิญญาณทั้งหมดฉันรู้หมด ถ้าเกิดการต่อสู้ฉันก็ต้องรู้สมกับเป็นเจ้าหญิง แม้จะเย็นยะเยียบ ดวงตาที่น่าหวาดกลัว แต่เรื่องทุกๆอย่าง ไม่เคยมีอะไรรอดพ้นสายตาเธอคนนี้ไปได้ ลูเคียหลับตาลงเล็กน้อยแล้วถามคำถาม

     

              การประหารครั้งนี้ ทำให้เกิดความขัดแย้งมากที่สุด เธอเดาอะไรออกไหมล่ะ ถึงความต้องหารที่แท้จริงและเป้าหมายของวังกลาง

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×