ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fanfic]Bleach:Soul Reaper Revelation

    ลำดับตอนที่ #4 : *Season 1*Episode4:4 Soul Reaper dynasty

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 686
      0
      4 มี.ค. 52

    “เฮ้ เฮ้ นาย”คาอินโบกมือลอยไปลอยมาตรงหน้าพวกตัวแทนยมทูตหลังจากได้รับคำสั่งให้มารวมกลุ่มกัน จนพวกอิจิโกะสะดุ้งได้ในที่สุด ตอนนี้สติหลุดลอยไปถึงจะมานั่งตรงที่ห้องนั่งเล่นซึ่งตอนนี้มีแต่พวกเขาเท่านั้น ซึ่งกว่าจะเรียกสติมาได้คาอินตะโกนเรียกอยู่หลายรอบ เมื่อสะดุ้งจากภวังค์ก็พบว่าคาอินกำลังยืนกอดอกด้วยสีหน้าสงสัย

     

     

                “โห กว่าจะเรียกพวกนายได้นี่ ใช้เวลาเป็นชาติเลยนะนั่น”

     

     

                “อ่า...”

     

     

                “ค้างขนาดนั้นเชียว เอาน่าอยู่ไปก็ชินเอง ทำใจซะเถอะว่าเพื่อนฉันมันผิดมนุษย์”

     

     

                “คาอิน”น้ำเสียงจากหญิงสาวดูหนักแน่นทำให้ชายหนุ่มได้แต่ยิ้มเจื่อนๆ

     

     

                “คร้าบๆ ไม่พูดแล้วเอ้ารูดซิปปากเลย”แล้วเจ้าตัวก็ทำท่าทางอย่างน่าขันแต่ทำให้เพื่อนสองคนได้แต่ส่ายหัวอย่างปวดประสาท ขณะที่คนอื่นๆทำตัวไม่ถูก เพราะไม่รู้จะทำหน้าอย่างไรเมื่อเจออะไรแบบนี้

     

     

                “แผลหายขาดแล้วใช่ไหม”เสียงทุ้มต่ำอย่างที่ไม่อยากเชื่อว่ามนุษย์จะเปล่งเสียงนี้ออกมาได้ถามขึ้น จนทุกคนสะดุ้งโหยง เซนริเอนหลังพิงกับพนักโซฟาแล้วมองไปยังแต่ละคน

     

     

                “ง่ะ เอ่อ... พ่ะย่ะค่ะ”การใช้สรรพนามไม่คุ้นเคยก็ช่างทำให้ลำบากใจจริงหนอ

     

     

                “พูดธรรมดาก็ได้”

     

     

                “อ๋า ครับ”

     

     

                “ไม่ต้องเกร็งก็ได้ พูดคุยธรรมดาเหมือนพูดกับเพื่อนเซนริก็ไม่ว่าหรอกน่า”ยูกิหันมาบอก ท่าทางของเธอดูเย็นยะเยือกจนยากจะเข้าใกล้ “เรื่องเมื่อคืนช่างมันไปซะ อีกอย่างบาดแผลหายขาดแล้วสินะ”ร่างสูงบางชันตัวขึ้นแล้วเดินไปทางหน้าต่างพลางหรี่ตาลง โดยมีสายตาทุกคู่มองตามไป

     

     

                “ดูเหมือนพวกนายอยากจะถามอะไรใช่มั้ยล่ะ เรื่องเมื่อคืน”

     

     

    ผู้หญิงคนนี้รู้!!! ดวงตาสีไพลินของเจ้าหล่อนจ้องราวกับล้วงความคิดได้ จนรู้สึกตัวสั่นมาอย่างไม่รู้ตัว

     

     

    และความน่ากลัวที่แผ่ออกมาทำให้สัญชาตญาณในร่างกายได้แต่หดลีบด้วยความหวาดกลัวไม่แพ้กับที่เจอเมื่อคืน

     

     

                “ซากุรากิ เคย์โกะ เพราะอะไรถึงได้หายไปแล้วกลับมาทำร้ายพวกเดียวกันเองล่ะครับ”

     

     

    ความน่ากลัวชั่วครู่ราวกับจะเค้นคำถามออกมาให้ได้หายไปทันที ยูกิพยักหน้ารับช้าๆ แต่สายตายังคงมองไปยังทิวทัศน์เบื้องหน้า ซึ่งครึ้มฟ้าครึ้มฝนไม่สดใสนัก

     

     

                “พอจะรู้เรื่องราชวงศ์ทั้งสี่รึยัง”

     

     

                “ยังครับ”

     

                “งั้นจะอธิบายให้ฟังละกัน”ร่างบางหมุนมาประจันหน้าแล้วพยายามนึกสรรหาคำอธิบายมา

     

     

                “เป็นที่รู้กันว่ายมทูตมีกษัตริย์องค์หนึ่งเรียกว่าราชันย์เรย์โอ แห่งมิติวังราชันย์ คาดว่าคงรู้แล้วหลังจากที่ได้รับรู้ถึงเป้าหมายของไอเซ็น โซสึเกะ”

     

     

                “คุณรู้เรื่องไอเซ็น”ฮิตซึกายะอ้าปากค้าง คาอินจึงยิ้มน้อยๆให้

     

     

                “ไม่มีอะไรที่ยูกิไม่รู้ และถ้ายูกิรู้ เราก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับโซลโซไซตี้ แม้แต่เรื่องโฮเงียคุ พวกเราก็รู้กันตั้งนานแล้ว”

     

     

                “นั่นแหล่ะ ฉันสามารถรับรู้ความเป็นไปบนโลกนี้ได้ เป็นความสามารถพิเศษ ใช่... แต่กษัตริย์เรย์โกะกับจักรพรรดิไม่มีความเกี่ยวข้องหรือเทียบสถานะเดียวกัน มิติราชันย์คือสิ่งที่เป็นของยมทูต ยมทูตอย่างพวกนายประเภทนั้นก็คือมนุษย์ที่มีพลังวิญญาณมหาศาลและมีดาบฟันวิญญาณ มีวิชาวิถีมารในการต่อสู้แต่สำหรับจักรวรรดิมันไม่ใช่”เธอเว้นจังหวะไปเล็กน้อย “จักรวรรดิคือโลกที่สามารถเดินทางไปยังมิติและโลกอื่นๆได้ตามใจชอบ สิ่งมีชีวิตทุกอย่างขึ้นอยู่กับอำนาจของเรา แต่พวกเขาไม่รู้ตัวเท่านั้น จักรวรรดิมีขนาดใหญ่จนไม่สามารถรับรู้ได้ว่ามีอะไรบ้าง ถูกแบ่งออกเป็นสองเขตแดน

     

    หนึ่ง เขตของปีศาจ เป็นเขตที่มนุษย์ไม่สามารถย่างกรายเข้าไปได้ และยากที่จะรอดชีวิตออกมาหากเข้าไป

     

    และสอง เขตของเทพ เป็นเขตเก่าแก่เหมือนปีศาจ และยังมีส่วนที่แบ่งออกไปเป็นสามจักรวรรดิ โดยที่จักรวรรดินั้นจะถูกขนานนามตามชื่อของราชวงศ์ที่ปกครองนั้นๆ สามส่วนคือ หนึ่งฮายาเตะ

     

    ฮายาเตะคือผู้ใช้อำนาจแห่งกาลเวลา มิติ เวลาไม่ว่าจะเป็นที่ไหน ก็สามารถควบคุมได้หมด ลบเวลาบางอย่างก็สามารถทำได้ ดึงเวลาของคนอื่นมาให้กับตัวเอง หรือมิติที่มนุษย์ซึ่งมีกิเลสไม่อาจมองเห็น จักรวรรดินี้ถูกขนานนามว่าจักรวรรดินักรบ มีฝีมือยอดเยี่ยมมาก

     

    โคฮากุคือผู้ใช้อำนาจแห่งความทรงจำ ฟังดูเข้าใจยาก แต่มันเป็นสิ่งที่อันตรายหากเป็นศัตรูกับคนพวกนี้ พวกเขาสามารถทำลายความทรงจำ ขโมย ปรับเปลี่ยนความทรงจำไม่ว่าจะเป็นเผ่าพันธุ์ใดๆ หรือแม้แต่ยัดเยียดสิ่งที่เลวร้ายใส่เข้าไปด้วย ทำให้อย่างน้อยก็เป็นบ้าตลอดชีวิต

     

    และฟุจิวาระ ผู้ใช้อำนาจแห่งความประพฤติสิ่งมีชีวิต พวกนี้คล้ายโคฮากุ แต่จะเป็นทางด้านร่างกาย คล้ายกับครอบงำ ยกตัวอย่างเช่น แค่เธอเจอพวกนี้ เขาจะสามารถสั่งการอะไรก็ได้ บังคับให้เธอฆ่าตัวเองโดยที่ไม่รู้ตัวก็ได้ หรือแม้แต่เวลาต่อสู้ เขาจะทำลายพลังกายก็ทำได้”

     

     

    ทุกคนหันมามองหน้ากันอย่างเลิ่กลั่ก ส่วนเซนริยังคงนั่งเงียบและคาอินยังคงหยิบนิตยสารมาอ่านเล่นๆ

     

     

                “แล้วอีกหนึ่งจักรวรรดิล่ะ????

     

     

    อยากรู้นักว่ามันจะตายกันแบบไหน รายแรกก็ทำให้ตายโดยที่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น รายต่อมาทำให้เป็นบ้า รายต่อมาคือสั่งให้ตาย แล้วอีกจักรวรรดิหนึ่งคืออะไร

     

     

                “ราชวงศ์ที่อันตรายและเก่งที่สุดในประวัติศาสตร์ คุนะยูกิ”คนที่ตอบคำถามนี้คือเซนริ ใบหน้าสูงศักดิ์จ้องกลับสายตาทุกคนที่มองมา “ความสามารถทุกอย่างยังคงเป็นปริศนา แต่พวกนี้ว่ากันว่า มีอำนาจทำลายกฎแห่งพระเจ้าทุกข้อ อย่างเช่นสามารถเปลี่ยนแปลงความตายให้ตายในอดีตเลย หรือลบตัวตน หรือแม้กระทั่งเปลี่ยนชะตาชีวิตจากขอทานเป็นเศรษฐี หรือจากคนรวยเป็นขอทาน พวกนี้จะมีอำนาจอย่างเบาสุดก็คือที่กล่าวมา”

     

     

                “เปลี่ยน... ชะตาชีวิต”

     

     

    เจ้าชายไม่ได้พูดอะไรแต่แววตาคู่สวยบ่งบอกถึงคำว่าใช่

     

     

                “พวกนี้จะทำลายกฎแห่งชีวิตได้ทุกอย่าง แต่ปัจจุบันมีจำนวนน้อยที่สุด ไม่ถึงสิบคนในราชวงศ์”

     

     

                “อย่างที่เซนริพูด แต่ละราชวงศ์ก็ยังมีสาขาย่อยลงไปอีก เป็นพวกที่มีพลังSOTน้อย ฉันจำไม่ผิดว่าพวกนายก็รู้ที่เซนนะบอกแล้ว พวกราชวงศ์จัดเป็นพวกมีSOTอันดับต้นๆ พลังวิญญาณมหาศาลมาก ซากุรากิ เคย์โกะถูกผู้ควบคุมระบบรุ่นที่แล้วยึดครองร่าง และผู้ควบคุมคนนั้นเป็นคนราชวงศ์ฟุจิวาระมาก่อน SOTเธอจึงเกี่ยวโยงกับสิ่งนี้ และยิ่งเป็นผู้ควบคุมระบบการปกครองย่อมพลังเพิ่มขึ้น นั่นก็คงจะเป็นเพราะเธอหลีกเลี่ยงและออกห่างใช่มั้ย เซนนะ”

     

     

                “อืม ฉันคิดว่ามันคงจะดีกว่า และที่สำคัญก็ไม่อยากตายตอนนี้ด้วย”

     

     

    ยูกิฟังไปพยักหน้าไปช้าๆ ดวงตาสีไพลินมองไปยังทิวทัศน์อีกครั้ง

     

     

                “เธอคิดถูก การจะสู้กับผู้ควบคุมระบบ ไม่สิ อดีตต่างหาก คนนั้นถ้าไม่ใช่ราชวงศ์อย่างน้อยก็เจ็บ อย่างมากก็ตายแบบไม่รู้ตัว”

     

     

                “เพราะงี้เมื่อคืนคนที่จัดการอดีตผู้ควบคุมระบบคนนั้นก็คือเซนริที่เป็นราชวงศ์ชั้นมกุฎราชกุมารยังไงล่ะ ใช่ป่ะ เพื่อน"คาอินยังไม่วายทิ้งอารมณ์ขันให้บรรยากาศไม่เครียด คนถูกถามมองคนแขวะชั่วแวบหนึ่งแล้วไม่ตอบอะไรเพิ่มเติม ส่วนฮิตซึกายะถึงกับหลุดหัวเราะเมื่อเห็นท่าทีที่ดูยังไงก็ไม่ต่างจากเด็กม.ปลายของแนวหน้าจักรวรรดิ

     

     

                “แล้วฝ่าบาท เอ้ย เอ่อ เรียกธรรมดาใช่มั้ย เซนริ นายมาจากราชวงศ์ไหนน่ะ”อิจิโกะรีบแก้สรรพนามอย่างเร่งด่วน โดยมีอิชิดะกระทุ้งแขนเป็นเชิงว่าค่อยๆพูดก็ได้เฟร่ย

     

     

                “ราชวงศ์ฮายาเตะ”

     

     

                “อ๋อ งั้นที่คุณอุราฮาร่าบอกว่านายเป็นคนช่วยพวกเราออกมาแสดงว่าใช้เปิดมิติรึเปล่า”

     

     

    คนถูกถามพยักหน้า

     

     

                “แล้วไอพิษสลายยังไง”

     

     

                “ใช้พลังวิญญาณสลาย”

     

     

                “ห๊า!!!!!

     

     

    ดวงตาสีฟ้าสวยตวัดมาด้วยท่าทางงุนงงเพราะเจอคำถามร้องห๊าจากพวกยมทูตทุกคน ดวงตาที่ดูแฝงความเป็นผู้ใหญ่ปรากฎความเอ็นดูเด็กๆชั่วแว่บหนึ่งก่อนจะสลายไป

     

     

                “พลังวิญญาณของราชวงศ์ของเซนริมีอำนาจสลายไอพิษทุกชนิด เขาเป็นคนหยุดเวลาแล้วสลายมันทุกๆอย่าง เพราะอย่างงี้ ที่พวกนายยื่นคำร้องขอให้เซนริมามันถึงยากเย็นสุดๆ แถมพลังวิญญาณราชวงศ์ยิ่งเป็นพวกที่จะเป็นผู้ใหญ่ เด็กโตน่ะ จะยิ่งแข็งแกร่งมากเป็นพิเศษ”

     

     

                “เด็กโต??? ผู้ใหญ่???

     

     

                “คิดว่าฉันอายุเท่าไหร่ ในตอนที่ยังไม่เจอหน้าน่ะ”เจ้าชายหนุ่มเงยหน้าจากหนังสือที่อ่านไว้ แต่พอเจอคำถามแนวๆนี้ก็ยากที่จะตอบ ในที่สุดคิระก็ค่อยๆตอบออกมาอย่างไม่แน่ใจ

     

     

                “คงราวๆเอ่อ20-30ปีน่ะครับ เพราะปกติระดับสูงจะอายุราวๆนี้ลักษณะหน้าตาน่ะครับ”

     

     

    คาอินหัวเราะพรืดเล็กน้อย

     

     

                “แต่พอเห็นจริงๆก็ดันเป็นคนที่อายุมากกว่าพวกนายนิดเดียว แถมเทียบชั้นเป็นรุ่นพี่มัธยมอีกล่ะสิ 555+

     

     

                “ก็... ใช่”

     

     

                “แต่ขอเสริมท้ายอีกนะ”ลูเคียเสริม “หน้าตาฉันว่าดูเด็กกว่าเร็นจิ หรือแช้ดเสียอีก แต่ท่าทางเป็นผู้ใหญ่มากๆน่ะ”

     

     

    คนถูกหาว่าหน้าแก่กัดฟันกรอด ส่วนอีกคนมีสีหน้ากระอักกระอ่วน เพราะไม่รู้จะทำสีหน้าอย่างไร

     

     

    เซนริกลอกตาไปมาเพราะไม่รู้จะทำหน้ายังไง เพราะจะหาว่าชมหรือด่าก็บอกไม่ถูกส่วนยูกิมีสีหน้าเฉยชาแต่คาอินยังคงหัวเราะไม่หยุด จนดูเหมือนเป็นหนุ่มอารมณ์ดีอย่างไงอย่างงั้น

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×