ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fanfic]Bleach:Soul Reaper Revelation

    ลำดับตอนที่ #7 : *Season 1*Episode 7: Physical education

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 455
      0
      5 มี.ค. 52

    ก็แค่ตุ๊กตาที่ไม่ได้มีความคิดของตัวเอง

     

    และเป็นตุ๊กตาที่คนทรยศสร้างมันขึ้นมา

     

    เพราะฉะนั้น

     

    ความรู้สึกของฉันที่มีต่อตุ๊กตาไร้อารมณ์

     

    จะไม่มีวันเหมือนกับที่ฉันให้เธอคนนั้น

     

    เช้าวันต่อมาเป็นคาบวิชาพละที่เรียนรวมเช่นกัน ในโรงยิมส์จะมีนักเรียนสามชั้นปีมารวมกันเป็นเรื่องปกติธรรมดา และวิชาที่เรียนกันก็คือบาสเกตบอลเบสิคๆ มีการแข่งอยู่บางครั้ง แต่ก็ไม่บ่อยมาก ส่วนพวกอิจิโกะก็ไม่สนใจเรื่องนี้ เนื่องจากไม่ชอบเป็นจุดสนใจเท่าไหร่ เวลาเรียนบางทีก็โดดบางทีก็อยู่เฉยๆ แต่ครั้งนี้ก็คงจะยากในเมื่ออาจารย์สุดน่ารำคาญเล่นมาให้นักเรียนทุกคนต้องเล่นกันหมดทุกคน ให้นักเรียนเล่นแข่งกับรุ่นพี่ หรือมีการรวมทีมกันบ้าง

     

                “น่าเบื่อ”อิจิโกะทิ้งตัวกระแทกกับพื้นราวกับจะรำคาญ ระหว่างที่คนๆอื่นไปวอห์มอัพ เขาไม่ชอบวิชาพละเท่าไหร่ โดยเฉพาะที่ต้องมาเล่นกับรุ่นพี่นิสัยไม่ดีชอบมีอคติกับสีผมของเขา จนสุดท้ายก็มีเรื่องและเขาก็ซวยไปทุกที เพราะอย่างงี้ เขาถึงเกลียดครูผู้สอนด้วย

     

                “เอาน่า เจอรุ่นพี่น่ารำคาญไปก็ไม่มีปัญหาเท่าไหร่หรอก”เร็นจิตบไหล่เพื่อนแรงๆให้มันสดชื่นขึ้นมาบ้าง อย่างน้อยก็ยังดี เพราะพวกเขาก็มีจุดเด่นที่ทำให้คนอื่นไม่ชอบขี้หน้าอยู่ด้วย และตอนนี้ก็มีสายตาแปลกๆจ้องมายังพวกยมทูต ยกเว้นลูเคีย ฮินาโมริ โอริฮิเมะ หรือพวกผู้หญิง พวกอิชิดะไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องนี้มากเท่าไหร่ แต่อิกคาคุเหมือนจะหมดความอดทนเข้าไปทุกที เพราะเขาเจอแต่คำว่าโกร๋นๆๆๆๆ เกือบตลอดชั่วโมงระหว่างที่มีการจับคู่แข่งขันอยู่

     

                “ทำไมพวกมนุษย์ต้องคิดว่ามันเป็นเรื่องประหลาดด้วยฟร่ะ”อิกคาคุกัดฟันกรอดๆส่วนคนอื่นๆพยายามทำให้ใจเย็นเนื่องจากกลัวพ่อคุณจะชักดาบไม้มาไล่ฟันคนอื่นตายก่อนเริ่มการแข่งขัน

     

    แม้พวกเขาจะอยากตอบไปตรงๆว่า ก็โกร๋นมันประหลาดจริงๆนี่หว่า แต่ยังรักชีวิตไม่อยากตายอนาถดังนั้นก็สงบปากสงบคำไว้ก่อนดีกว่า

     

                “ต่อไป ทีมของคุโรซากิ”

     

    และแล้วก็ดวงซวยมาถึง แต่ไม่รู้ว่าควรจะดีใจรึเปล่าที่แข่งกับปีสอง ไม่ใช่ปีสาม... และคู่กัดคนสำคัญก็อยู่ที่ทีมนี้ด้วย โอจิม่า (คนที่อยู่ในบลีชเล่มหนึ่ง) หรือคนที่อิจิโกะเรียกมันว่าหัวทรงลูกเจี๊ยบ

     

                “ไง คุโรซากิ วันนี้เรามาตัดสินกันให้รู้เดือนรู้ดาวไปเลย”แล้วมันก็ไม่คิดจะแก้ไขคำพูดเลย

     

                “เออ แล้วแต่แกละกัน”คนถูกท้าพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียกได้ว่า เซ็งสุดขีด เซ็งเป็ดมาก และแล้วอาจารย์ก็เข้ามาแทรกระหว่างกลาง

     

                “พร้อมนะทั้งคู่”แล้วท่านก็โยนลูกบาสขึ้นไปด้านบน สองคนที่เป็นหัวหน้าทีม (ใครใช้ให้มันเป็น)ก็แย่งกันคว้าลูกบอลเป็นการใหญ่ อิกคาคุกระโดดคว้าลูกบาสกอดไว้กับตัวแล้ววิ่งฝ่าคู่แข่งไป ทว่ากรรมการกลับเป่าปี๊ดก่อน

     

                walking

     

    สำหรับอิจิโกะและอิชิดะมันจะพอเก็ต แต่สำหรับอิกคาคุ สงสัยว่า มันคือไรฟร้า

     

    แล้วการแข่งขันก็ดำเนินต่อไป อิจิโกะวิ่งไปแย่งลูกจากโอจิม่า แต่ทว่ากลับมีลูกน้องมากันเอาไว้ทำให้แย่งไม่ได้ เร็นจิเลยวิ่งไปแย่งเมื่อโอจิม่าโยนให้ น่าเสียดายที่ตอนนั้นมือของโอจิม่ายังค้างอยู่ที่ลูกบอล มันเลยfoulกันอีกรอบ

     

                “อาบาราอิ ถ้าลูกบอลไม่หลุดจากมือคนถือ แล้วเราไปตบมันก็ผิดกติกา แล้วเวลาได้ลูกห้ามวิ่งไปโดยไม่เดาะบอล”อิชิดะรีบเข้ามาอธิบายอย่างเร่งด่วน แต่พออธิบายพวกยมทูตยกเว้นอิจิโกะและฮิตซึกายะเริ่มหงุดหงิดว่ามันจะอะไรกันนักกันหนา กับไอลูกบอลลูกเดียว ส่วนอิจิโกะและฮิตซึกายะต้องวิ่งตามคู่แข่ง หัวหน้าหน่วยสิบอาศัยจังหวะเมื่อลูกถูกปล่อยกระโดดไปรับแล้ววิ่งไปทางด้านหลัง จากนั้นก็โยน

     

    ในที่สุดพวกยมทูตก็ทำคะแนนได้ แต่ ก็แค่คะแนนเดียว

     

                “ห่างกันเยอะนะเนี่ย”ลูเคียมองไปด้านบอร์ดคะแนนที่เป็น 5 ต่อ 1 ซึ่งดูจากแต่ละคนพึ่งพาได้มีแค่สาม แต่หนึ่งในสามต้องวิ่งอธิบายกติกาอยู่ดังนั้น...

     

    เสียงทะเลาะตะโกนใส่กันจนทุกคนในสนามต้องหันไปมอง รวมถึงอีกกลุ่มหนึ่งที่นั่งอยู่หลังเสาชั้นลอยซึ่งมีระเบียงกั้นไม่ให้เด็กตกลงไปด้วย เสียงตะโกนเถียงกันระหว่างสองทีมทวีความรุนแรงเรื่อยๆจนอาจารย์ต้องเข้าไปห้าม

     

                “เป็นบ้าอะไรกันเนี่ย”คาอินที่ถูกขัดสมาธิจนทำงานไม่ได้ แล้วยังต้องมาอยู่ที่นี่อีกเริ่มหงุดหงิดขึ้น ชายหนุ่มมองไปยังสถานการณ์ซึ่งถ้าจะให้เดาก็คงไม่เข้าใจกติกา และที่สำคัญคือยูมิจิกะกระโดดเหย็งเพราะขาเจ็บ...

     

                “ทำร้ายผู้เล่นมันผิดกติกาไม่ใช่รึไง”เร็นจิว๊ากใส่ แต่ทีมโอจิม่ายังคงนิ่งเฉย แม้อาจารย์จะบอกว่าไม่เป็นไร

     

                “ทีทีมนั้นเล่นผิดกติกาได้ทำไมอาจารย์ไม่ขานล่ะ”อิจิโกะก็เอากับเค้าบ้าง แต่เพราะอาจารย์ไม่ชอบหน้าเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว อาจารย์เลยสวนหมัดลุ่นๆใส่ทันที ทำให้เซนริและยูกิซึ่งไม่สนใจต้องหันขวับไปมอง ยูกิมีสีหน้านิ่งๆ ส่วนเซนริเริ่มขมวดคิ้วเล็กน้อย ด้านล่างทั้งโรงยิมนั้นเงียบกริบ

     

                “เป็นอาจารย์ไม่มีสิทธิ์ทำร้ายลูกศิษย์นะครับ”อิชิดะเข้ามาขวางคู่กรณีไว้ แต่อาจารย์ไม่ฟัง กลับจะเล่นงานทั้งหมด แต่ว่าอาจารย์อีกคนท่าทางใจดีกว่าคนนี้เล็กน้อย (ย้ำว่าเล็กน้อย)เดินเข้ามาไกล่เกลี่ย

     

                “เอาน่า ให้นักเรียนเปลี่ยนตัวละกัน เดี๋ยวครูจะสุ่มเลขที่ละกัน”

     

    สุ่มเลขที่!!!! ถ้าเกิดจับได้ไม่ดีใครมันจะรับผิดชอบ ถ้าได้คนห่วยกว่านี้ล่ะ!!! อิจิโกะทำท่าจะค้าน แต่ทว่าอิชิดะรั้งไว้ก่อน แล้วส่ายหน้าเป็นเชิงว่า อย่าเลยดีกว่า เดี๋ยวเป็นเรื่องเอาเลยต้องยอมให้แต่โดยดี แม้จะไม่พอใจก็ตาม... อาจารย์หน้าตาใจดีกว่าคนแรกนิดหน่อยคิด แล้วตัดสินใจได้

     

                “งั้นขอนักเรียนเซนต์ราฟาเอลละกันอยากรู้ฝีมือ เอางี้ ปีสาม เฟิร์สคลาส เลขที่ 1

     

                “ห๊า!!!!”พวกนักเรียนเซนต์ราฟาเอลร้องออกมาพร้อมๆกันแล้วมองหน้ากันอย่างเลิ่กลั่ก ในขณะที่บางคนเริ่มยิ้มบ้าง เริ่มหน้าเหรอหราบ้าง พวกอิจิโกะได้แต่สงสัยว่า ใครเลขที่1

     

                “เฮ้ เซนริ อาจารย์เรียกน่ะ ช่วยๆน้องเค้าหน่อยละกัน”ชายหนุ่มผมสีอ่อน ดวงตาสีฟ้าที่คาดว่าน่าจะห้องเดียวกันตะโกนเรียกไปที่ระเบียงซึ่งคนถูกเรียกยืนขมวดคิ้วเท้าแขนระเบียงอยู่ ชายหนุ่มที่ไม่ว่ายังไงก็รูปงามเกินกว่าจินตนาการ มองไปยังทุกสายตาที่จ้องมา ขณะที่พวกยมทูตหน้าเอ๋อไปเรียบร้อยแล้ว

     

    เหลือเชื่อ!!!! แต่จะไหวหรอ แต่ละคนก็ตัวสูงๆ ถึงเซนริจะเป็นคนสูงมาก แต่รูปร่างนายแบบสุดๆ จะไหวมั้ยเนี่ย

     

    คาอินนั้นหัวเราะพรืดออกมา เพราะเรียกใครไม่เรียกดันเรียกท่านว่าที่จักรพรรดิ ยังดีที่พวกนี้ไม่รู้ ไม่งั้น... คงสนุกใหญ่ ส่วนยูกิยังไม่เปลี่ยนสีหน้า เธอแค่มองไปผ่านๆเท่านั้น

     

    เซนริผ่อนลมหายใจเมื่อเจอสายตาจ้องมาเป็นตาเดียว ร่างสูงสง่ากระโดดผ่านระเบียงลงไปที่พื้น ซึ่งมันควรจะขาไม่ก็แขนหัก แต่นี่ร่อนลงได้สบายๆ ร่างสูงเดินมาประจันหน้า กับลูกทีม(จำเป็น)ซึ่งเขาต้องมาร่วมชะตากรรมด้วย จะแย่หรือดีก็ไม่รู้

     

                “นายเป็นกัปตันทีมเหอะ”อิจิโกะโยนกลองให้คุณรุ่นพี่ทันที ซึ่งเซนริไม่ว่าอะไร เพราะเขาไม่รู้จะค้านทำไม ยังไงถ้าให้คนอื่นเป็นกัปตันทีม แค่คิด... ก็ปวดหัว เล่นไม่เป็นอีก

     

    มกุฎราชกุมารเดินมาประจันหน้ากับอาจารย์และโอจิม่าที่เป็นกัปตันทีมฝ่ายตรงข้าม ท่าทีสุขุม เป็นผู้ใหญ่และมีความเป็นราชันย์ในตัวทำให้ไม่มีใครกล้าจะแหยมเขามากนัก อาจารย์ทั้งสองท่านมองหน้ากันแล้วถอยกรูดเล็กน้อยด้วยความเกรงใจ

     

                “เอ่อ งั้นเริ่มเลยละกัน”แล้วลูกบาสก็โยนขึ้นไป โอจิม่ายิ้มเหยียดเตรียมจะรับ แต่ทว่าลูกบาสกลับหายไปแล้ว!!!

     

                “ขยับที่ด้วย!!!”เสียงทุ้มต่ำสุขุมตะโกนขึ้นเสียงดังทำให้แต่ละคนสะดุ้งโหยง เซนริถือเดาะลูกบาสในมือ อยู่ตรงที่ทำประตูของฝ่ายตรงข้ามเนื่องจากทิศทางมันไปได้แค่นั้น ถ้าไปประตูตัวเองจะต้องเลี้ยวผ่านกลุ่มพวกนั้นไป แต่ที่ทำให้คนอื่นตกใจไม่ใช่เรื่องที่เขาจะโกน แต่เป็นเพราะเขาไปอยู่ตรงนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่!

     

                “เฮ้ย”แล้วโอจิม่าก็วิ่งไปก่อนพร้อมลูกทีม โดยใช้วิธีรุมเพื่อแย่งชิงลูกบอลมา แต่ทว่าชายหนุ่มมีสีหน้านิ่งเฉยร่างสูงเอี้ยวตัวหลบอย่างรวดเร็วแต่ด้านหลังยังมีอีกคน

     

                “เสร็จล่ะ!!”หนึ่งในลูกทีมเตรียมแย่งลูกบาส แต่ทว่าจู่มันก็หายไปจากมือข้างขวาของเขา มันไปเดาะที่มือด้านซ้าย เซนริมองด้วยท่าทางเย็นชาเล็กน้อย แล้วเขาก็วิ่งฝ่ากลุ่มคู่แข่งไปได้อย่างง่ายดาย ร่างสูงหยุดอยู่ตรงบริเวณกลางสนาม แล้วชู้ตเข้าไปห่วงของฝ่ายตรงข้ามที่เขาต้องโยนให้ลงด้วยความเร็วไม่กี่วินาที

     

    ฟึ่บ

     

    ลูกบาสลงแป้นตรงตาข่ายเป๊ะๆ และแม่นยำราวกับจับวางก่อนที่อาจารย์ก็วิ่งเข้ามาเก็บลูกแล้วส่งให้ฝ่ายตรงข้ามโยนต่อ แต่เมื่อโยนมาลูกบอลก็หายไปแล้วเมื่อฮิตซึกายะกระโจนรับมันได้ แล้วก็ขว้างไปให้เจ้าชายรัชทายาทที่พยักหน้าให้ส่งมาที่เขา เซนริรับมันแล้วโยนด้วยความเร็วที่พอๆกัน แล้วมันก็ลงอีกครั้ง!!!

     

    ไม่ได้ฟลุ๊ค แต่มันลงทุกลูก ทั้งๆที่เขาอยู่ตำแหน่งกลางสนามซึ่งโยนยากที่สุด!!!!

     

                “พระเจ้า สุดยอดดดด”ฮินาโมริอ้าปากค้าง

     

                “เซนริเก่งกีฬาทุกชนิดที่สุดในโรงเรียนแล้ว ไม่แปลกหรอก สำหรับหมอนั่นทีมเอ่อ โอจิม่ามันก็เหมือนเด็กเล็กๆแหล่ะ”คาอินที่โผล่มายืนด้านหลังเมื่อไหร่ก็ไม่รู้บอก พร้อมกับที่ยูกิซึ่งกอดอกมองการแข่งขัน ซึ่งในสายตาเธอ มันดูธรรมดามาก

     

                “ฝ่ายนั้นคงจะคิดว่าถ้าไม่ตัวใหญ่สุดๆก็คงเล่นไม่ได้ แต่ดูท่าจะไม่รู้จักคิดเลย”

     

                “หมายความว่าไงหรอ”เซนนะละสายตาจากการแข่งขันชั่วครู่มาถาม

     

                “บาสเกตบอล เป็นกีฬาที่คนชาติยุโรปและอเมริกาเชี่ยวชาญที่สุด ถึงจะสูง จะผอม จะอ้วน จะเตี้ย มันก็เก่งๆกันทั้งนั้น พวกฝรั่งจะได้เรียนเทคนิคหลากหลายและเหนือชั้น ดังนั้นสำหรับเซนริแล้ว กีฬาบาสเกตบอลเป็นกีฬาพื้นฐานของเขาเลยก็ว่าได้ สำหรับคาอินก็คงเหมือนกัน เพราะพวกตะวันตกชอบเล่นกีฬาสุดๆ”ยูกิพูดยาวๆเป็นครั้งแรกในรอบเจอกัน “เซนต์ราฟาเอลมีกฎให้เล่นกีฬาอย่างน้อยสองอย่าง แทบทุกคนเลยถนัดด้านนี้กันมากเอาการ”

     

    ใช่ รวมทั้งเธอด้วย... หญิงสาวยิ้มเหยียดกับตัวเองโดยที่ไม่มีใครมองเห็น เธอกล่าวถึงคนๆหนึ่งที่หลับใหลอยู่ระหว่างที่เธอผนึกคนๆนั้นไว้ เธอก็เก่งกีฬาเหมือนกัน

     

    คาอินเหลือบมองคนข้างตัวที่สูงน้อยกว่าเขาไม่มากเกินไปแล้วถอนหายใจเฮือก

     

    พวกเขาจะอยู่ที่นานไม่ได้เด็ดขาด!!!!

     

    ถ้าเกิดรู้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นหรือรู้ความจริงก็ไม่แน่ใจว่าเขาจะต้องฆ่าพวกเขาทิ้งหรือทำให้ไม่อยากเจอหน้ารึเปล่า

     

    ตัดสินใจยากจริงๆ

     

     

     

                “ผนึกจะแตกแล้ว นายจะทำยังไง”เสียงทุ้มต่ำแม้จะดูสนุกสนานทว่ายามนี้กับเต็มไปด้วยความเคร่งเครียดปนๆกับความไม่สบอารมณ์ ชายหนุ่มผมสีทองแซมเงิน ใบหน้าหล่อเหลาเกินกว่าจะเป็นมนุษย์ หน้าตาคล้ายตัวละครในหนังเรื่องทไวไลท์หลุดออกมายังไงอย่างงั้น ดวงตาสีเงินสวยมองไปยังด้านหลังเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครตามมาหลังจากแข่งบาสเสร็จ และช่วงนี้เป็นช่วงพักกลางวัน แต่ดูเหมือนสองหนุ่มจะไม่ค่อยอยากมีอารมณ์กินข้าวเท่าไหร่ เพราะไม่จำเป็นต้องกิน และเป็นคนหิวยาก รวมถึงมีเรื่องที่สำคัญกว่าอาหารคุยอยู่

     

    เซนริที่เท้าแขนบนดาดฟ้าผ่อนลมหายใจ ถึงเขาจะไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรกับยูกิในตอนนี้ ในสภาวะที่มีตุ๊กตาไร้ชีวิตผนึกไว้ โดยที่ตัวตนที่แท้จริงได้หลับไหลอยู่ และกำลังจะตื่นในไม่ช้า แต่ยังไงเขาก็รู้สึกสงสาร ที่ต้องมาปรากฎเพื่อสนองความต้องการของคนๆนั้น โดยที่ตุ๊กตาตัวนี้ไม่รู้เรื่องอะไรด้วย และไม่ช้าเธอจะแตกสลายเพราะเป็นสิ่งไม่มีชีวิต มือทั้งสองกำเข้าหากันแน่น ไม่สนใจผมที่เปียกน้ำหลังจากเลอะเหงื่อ

     

                “ฉันต้องการเธอคืนมาก็จริง แต่ก็ไม่ได้หวังจะให้ตุ๊กตาแตกสลายไปอย่างไร้ค่า”

     

    คำตอบที่ทำให้คาอินเบิกตากว้าง

     

                “ฉันนึกว่านายจะเกลียดตุ๊กตาตัวนั้นซะอีก เพราะเขาทำให้นายต้องเสีย...”

     

                “ฉันไม่เกลียดใครง่าย ถ้าไม่เลวจริงๆ และมันไม่ใช่ความผิดของร่างไร้ชีวิต ในเมื่อคนๆนั้นเป็นคนทำให้เธอเป็นแบบนี้โดยที่ไม่ต้องการ ฉันไม่มีเหตุผลที่ต้องเกลียดตุ๊กตาไร้ชีวิต”

     

    ชายหนุ่มประธานนักเรียนพยักหน้าหงึกหงัก

     

                “สมกับเป็นนาย ตั้งแต่รู้จักมานายมันไม่เปลี่ยนเล้ยยย เกิดหลังฉันแท้ๆ แต่ทำไมทำตัวเป็นผู้ใหญ่ซะไม่มี”

     

    เซนริไม่ตอบเขาทำให้คาอินเริ่มสงสัยว่าเป็นอะไร เขาเดินมองตามสายตาของเพื่อนไป ทำให้รู้ว่ากำลังสังเกตุใครอยู่ เขาเห็นลูเคียตะโกนเถียงกับอิจิโกะ เซนนะที่กำลังบ่นกับเร็นจิ และคนอื่นๆที่ยังคุยกันสนุกสนานก็เริ่มเข้าใจว่ากำลังคิดอะไรอยู่

     

                “ก็พอจะเข้าใจว่าคงบอกพวกเขาไม่ได้ ยังเด็กอยู่เลย ถ้าเทียบกับพวกเราที่ถูกผวนเวลาจนเจออะไรมาเยอะ”หัวหน้าองครักษ์ออกความเห็น แต่มกุฎราชกุมารส่ายหน้าปฏิเสธ

     

                “เพราะนี่คือมนุษย์”

     

                “หือ???

     

                “มนุษย์ในสายตาฉันก็คือผู้ที่เปราะบางที่สุด เขายังไม่เข้าใจในสิ่งที่พวกเราต้องทำ บางทีอาจจะเสียใจถ้าได้รู้เรื่องที่ว่ายูกิซึ่งทุกๆคนรู้จักเป็นแค่ตุ๊กตา คนที่หลับไหลอยู่ก็ไม่มีความทรงจำเรื่องพวกเขา และเรื่องปีศาจที่หลุดออกมาจากจักรวรรดิมันก็แสดงว่าเหตุการณ์นั้นจะเริ่มแล้ว เหตุการณ์ที่เราอาจจะต้องสูญเสียกันไปเรื่อยๆ”เขาหยุดพูด หรี่ตาลง “พวกนั้นยังไม่เคยเจอคำว่าสูญเสียอย่างแท้จริง แม้ลูเคียจะเคยฆ่าหัวหน้าหน่วย อิจิโกะที่เห็นแม่เขาตาย และอิชิดะที่เห็นปู่ถูกฆ่า เร็นจิที่สมัยนั้นไม่สามารถเป็นเพื่อนกับลูเคียได้อีก ฮินาโมริ คิระ และรันงิคุที่ถูกหักหลัง หรือฮิตซึกายะที่เห็นคนสำคัญถูกทำร้าย มันเป็นอะไรที่เบามาก พวกเขายังไม่เคยรู้ถึงความหวาดกลัวที่แท้จริง ซึ่งมันจะเริ่มมากขึ้นถ้าหากเขารู้จักเรา”

     

                “ยังเฉียบเหมือนเดิม ไอความสามารถที่ดูคนได้ทะลุปรุโปร่งเนี่ย”คาอินบิดขี้เกียจ “แล้วตกลงจะทำยังไง ฉันมั่นใจได้เลยว่าความลับยังไงก็ไม่มีในโลก”

     

    เซนริละสายตาจากภาพแห่งความสุขซึ่งเขาไม่ได้สัมผัสมันมานานมากแล้ว แล้วตอบคำถามด้วยน้ำเสียงเรียบและเฉียบขาด

     

                “อาจจะโหดร้ายไปนิด แต่ก็คงจะต้องทำให้เจ็บปวดมากที่สุด ไม่ใช่เพราะจะมองเป็นศัตรู”แล้วชายหนุ่มก็เดินไปทางประตูดาดฟ้า แต่เมื่อจับลูกบิดประตู ประธานนักเรียนก็ถามขึ้นมาลอยๆ

     

                “เจ็บปวดงั้นหรือ จะดีรึไง ใช้วิธีเหมือนกับ เซโร่เลยนะนั่น”

     

    มือที่จับลูกบิดประตูสั่นระริกราวกับจะกำลูกบิดให้แตกละเอียด เซนริกัดฟันแน่น เมื่ออีกฝ่ายที่โตกว่าจี้ถูกจุด

     

                “เด็กพวกนั้นไม่ยอมเลิกง่ายๆ คงจะต้องให้รับรู้ถึงสิ่งที่ต้องเผชิญก่อนจะเข้ามาอยู่ในโลกพวกเรา”

     

    คาอินพยักหน้าหงึกหงักอย่างเข้าใจ แต่เขาก็นึกอีกเรื่องขึ้นมาได้

     

                “แล้วงานเต้นรำปิดล่ะ จะเต้นรำกับผู้หญิงคนไหน”

     

                “ฉันคงไม่คิดจะเต้น”เสียงเรียบตอบกลับมา แต่มันไม่ได้ตัดไมตรี แต่ในน้ำเสียงมันบ่งบอกว่ามีเหตุผลของตัวเองอยู่ และมันก็จำเป็นมาก จึงไม่คิดจะร่วมงาน พร้อมกับประตูดาดฟ้าได้ถูกปิดลงจนเหลือแค่สิ่งมีชีวิตคนเดียวที่อยู่ ณ บริเวณนี้
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×