My Zecret Diary by Yusuki - นิยาย My Zecret Diary by Yusuki : Dek-D.com - Writer
×

    My Zecret Diary by Yusuki

    โดย Alexis

    นิยาย(อัตชีวประวัติ)เรื่องนี้ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับบุคคล สถานที่ ความเชื่อและศาสนาใดๆ ทั้งสิ้น เป็นเพียงเรื่องที่แต่งขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น อ่านกันเล่นๆ เพื่อคลายเครียดและเป็นกำลังใจในชีวิต^^

    ผู้เข้าชมรวม

    104

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    104

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    จำนวนตอน : 2 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  9 ม.ค. 56 / 02:45 น.

    อีบุ๊กจากนิยาย ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    My Zecret Diary by Yusuki

    สวัสดีค่ะ ขอแนะนำตัวกันก่อนเลยนะคะ ดิฉันชื่อยูสึกิ ปัจจุบันอายุยี่สิบแปด สถานะปัจจุบัน แต่งงานแล้วและมีพยานรักเป็นเทวดาน้อยๆ หนึ่งคนค่ะ จะเริ่มต้นยังไงดีล่ะ ก็คนเขียนเขาจะเอาชีวิตอันแสนจะเรียบง่ายของฉันเป็นนิยาย ก็เลยต้องเลยตามเลยไปเพราะไม่อยากมีเรื่องทะเลาะกับคนอื่น(งั้นเหรอ?)

    ไม่เป็นไรค่ะ เรื่องนี้เป็นแค่นิยายที่แต่งขึ้นตามจินตนาการของคนเขียน ไม่เกี่ยวข้องกับบุคคล สถานที่ หรือเหตุการณ์ใดๆ ในโลกหรอกค่ะ ฉะนั้นไม่ต้องห่วงว่าชีวิตจะโดนหางเลขความซวย(?)

    ส่วนสาเหตุที่คนเขียนอยากเอาชีวิตของฉันมาเป็นนิยายน่ะเหรอคะ? อืม อาจจะเป็นเพราะว่า ชีวิตของฉันมันน่าเบื่อล่ะมั้งคะ ฮ่าๆ ไม่ต้องทำหน้าเหมือนกำลังคิดว่า “สรุปแล้วมันยังไงกันแน่?” แบบนั้นก็ได้ค่ะ เอาเป็นว่าฉันจะเริ่มเล่าเรื่องชีวิตอันแสนจะเรียบง่ายของฉันเลยละกันนะคะ แต่จะเริ่มจากตรงไหนดีล่ะ?

    เกิด?

    เรียน?

    เจอกับสามี?

    มีลูก?

    หรือว่าเริ่มจากเรื่องบนเตียงเรียกความระทึก?

    อันหลังสุดท่าจะไม่เวิร์ค เอาเป็นว่าเริ่มเล่าตั้งแต่เกิดเลยแล้วกันนะคะ ^^

    ฉันเกิดวันที่ยี่สิบเจ็ด เดือนพฤษภาคม ส่วนปีก็บวกลบกันเอานะคะ อันที่จริงแล้ววันเกิดนี้เป็นของใครบางคนค่ะ แล้วฉันดันมาเกิดวันเดียวกับเขาพอดี ช่างโชคร้ายเสียจริง

    อ่านๆ กันมาเล็กน้อย รู้สึกเหมือนชีวิตฉันจะเรียบง่ายอย่างที่บอกใช่มั้ยคะ? แต่ว่าที่จริงแล้วชีวิตของมนุษย์ธรรมดาที่ไม่ธรรมดานั้นมันไม่ได้เรียบง่ายอย่างที่รู้สึกหรอกค่ะ จริงๆ แล้วฉันเป็นเด็กกำพร้า ไม่รู้ว่าพ่อแม่เป็นใคร ฉันเป็นคนที่ไหน? เกิดมาได้ยังไง? มีความผิดอะไรจึงต้องถูกทอดทิ้ง? หรือแม้แต่วันเกิดจริงๆ ก็ยังไม่รู้หรอกค่ะ แต่ฉันก็ไม่ค่อยสนใจกับมันเท่าไหร่นะ เพราะว่าถึงฉันจะไม่มีพ่อแม่ ก็ยังมีใครบางคนที่คอยดูแลฉันมาตลอด ดูแลมาตลอดเวลาที่เขาเก็บฉันมาเลี้ยง คนๆ นั้นตอนนี้ฉันมีโอกาสได้เจอกับเขาน้อยมากจนแทบจะกลายเป็นศูนย์  สาเหตุไม่ใช่เพราะการทะเลาะแต่เป็นเพราะหน้าที่การงานของแต่ละคนทำให้ฉันและเขาต้องแยกจากนั้น

    ฉันยังจำเขาคนนั้นได้เสมอ ผมแดงที่เป็นลอนอย่างสวยงาม ดวงสีอำพันที่มักจะมองฉันด้วยความเรียบเย็น ริมฝีปากบางที่คอยดุด่าเวลาทำผิด จมูกเล็กรั้นเชิดขึ้น ร่างของเขาไม่เล็กไม่ใหญ่ กำลังพอดีสำหรับผู้หญิงธรรมดาๆ

    “ไวโอ” นี่เป็นชื่อที่ผู้หญิงคนนั้นให้ฉันใช้แทนคำว่าแม่

    ไวโอ ไม่มีความหมาย ไม่รู้ที่มา แต่ทุกคนรอบข้างก็เรียกเธอคนนี้ด้วยชื่อนี้เช่นเดียวกัน จึงทำให้ฉันไม่ได้เอะใจกับคำว่า “แม่” ที่ไวโอไม่ยอมให้ฉันเรียก

    ไวโอ เป็นคนที่คอยดูแลฉันได้อย่างสมบูรณ์แบบมาก เก็บเด็กที่ไม่รู้หัวนอนปลายเท้ามาชุบเลี้ยงให้โตขึ้นมาเป็นผู้เป็นคนมีหน้าที่การงานที่ดี มีชีวิตที่ดี และมีความทรงจำดีๆ ให้นึกถึง ไม่เหมือนกับอีกหลายชีวิตที่อาจจะต้องพบเจอกับความลำบากที่ไม่มีใครคอยเลี้ยงดู ถ้าคนนอกเห็นอาจจะคิดว่าฉันเป็นลูกคุณหนูที่หยิ่งยโส เอาแต่ใจ เพราะการกระทำและการวางตัวให้นิ่งเกือบตลอดเวลาในขณะที่อยู่ต่อหน้าผู้คนทั่วไป ก็ไม่ค่อยชอบหรอกนะที่จะต้องวางตัวแบบนั้น แต่เพราะถูกสอนมาอย่างนี้ต่างหาก จริงๆ แล้วฉันเป็นคนที่รั่ว บ้าระห่ำ โลกส่วนตัวสูง พูดง่ายๆ ก็คือเป็นคนที่เดาอารมณ์และเดาใจได้ยากล่ะมั้ง แต่มันก็เป็นเรื่องปกติของมนุษย์โลกนี่นะ จะไปมีใครที่ดีเลิศประเสริฐศรีแบบนั้นได้ยังไง นี่มันคนนะคะ ไม่ใข่เทวดาหล่นมาจากฟ้า!

    นอกจากได้รับการเรียนดูจากไวโอแล้ว ฉันยังได้รับการศึกษาจากโรงเรียนเอกเชนสุดยอดที่ไม่ต้องสอบก็สามารถเลื่อนชั้นได้จากอนุบาลไปถึงจบมหาลัย

    “อ่าส์ มันช่างสุดยอดจริงๆ” เชื่อว่าใครๆ หลายคนกำลังคิดแบบนี้อยู่

    การเรียนในโรงเรียนที่สุดยอดแบบนี้มันดีก็จริง แต่ก็ทำให้เราเบื่อไปด้วย เพราะอะไรน่ะหรือ?

    ก็เพราะมันไม่มีสอบ แต่วัดการเลื่อนชั้นจากการทำงานและการเข้าเรียน!

    ฉะนั้นมันจึงมีแต่งานหนักๆ ที่ยากแสนยาก โคตรจะยากแบบสุดขั้วเลยเว้ย!

    และแน่นอนคนเราไม่ได้เจออะไรร้ายๆ อย่างเดียวหรอก ในขณะที่ฉันเรียนอยู่ก็มีใครอีกหลายคนที่เข้ามาเติมชีวิตที่เหมือนจะแสนเรียบง่ายของฉันให้กลายเป็นชีวิตที่แสนสนุกเหมือนกัน คนแรกที่อยากแนะนำเลยก็คือ พี่น้องฝาแฝดสุดเลิฟๆ ฮ่าๆๆ ยังไม่ต้องทำหน้าเลี่ยนแบบนั้น

    ลองนึกถึงสองคนที่มีลักษณะทางกายภาพที่คล้ายกันจนเหมือนจะเป็นคนเดียวกัน ทั้งส่วนสูง หน้าตา น้ำหนัก

    “ยูสึมิ และ ยูคิ” สองพี่น้องแห่งบ้านคิริว ฝาแฝดผู้เป็นเจ้าของเส้นผมสีทองสุดพลิ้วไหว ยาวเมื่อต้องสายลม หน้าตาจิ้มลิ้มน่ารักสุดๆ สองคนนี้เหมือนกันสุดๆ อย่างกับเป็นคนเดียวกัน ตอนแรกๆ ก็ทักผิดบ่อยมาก แต่ระยะหลังปรับตัวทัน ทำให้สังเกตได้ว่า ยูสึมิจะมีนัยน์ตาสีม่วง ส่วนอีกคนสีฟ้า ด้วยสาเหตุนี้เองที่ทำให้ฉันแยกฝาแฝดคนนี้ออกอย่างง่ายดาย แต่ก็ไม่ใช่แค่สีตาอย่างเดียวหรอกนะที่ทำให้แยกออกได้น่ะ

                    นิสัยของสองแฝดนี่ต่างกันจนไม่ต้องสังเกตก็รู้!

                    สมมติว่า ฉันถามสองคนนี้ว่า “เธอสองคน(ยูสึมิ กับ ยูคิ) คิดว่าฉัน (ยูสึกิ) เป็นคนยังไง?”

                    ยูสึมิ จะบอกว่า “ถามอะไรบ้าๆ ตัวของเธอเองเธอก็ต้องรู้สิยะ”

                    ส่วนยูคิ จะบอกว่า “คุณเป็นคนที่ดีมากๆ ในสายตาของฉันเลยค่ะ บลาๆ” ประมาณนี้ พอจะนึกออกใช่มั้ย? ฉันเองก็ไม่รู้ว่าที่บ้านเลี้ยงมายังไงถึงได้นิสัยแตกต่างกัน คนนึงห้าวอีกคนก็หวานซะ ฮ่าๆ

                    ชีวิตของฉัน นอกจากเพื่อนซี้สุดเลิฟๆ ฝาแฝดคิริวแล้ว ก็ยังมีแฝดอีกคู่นึงที่ให้ความบันเทิงในชีวิตไม่แพ้กัน

                    “ทาคามิยะ และ อามามิยะ” ไอ้แฝดนรกส่งมาเกิดจากบ้านชิอง ไม่รู้ว่าพวกมันเป็นแฝดกันยังไงถึงได้ต่างกันราวกับหัวและตีน! ขอโทษที่ต้องใช้คำไม่สุภาพ แต่นี่เป็นคำที่ช่วยให้เห็นภาพที่สุดแล้ว

                    จะขอเอ่ยถึงแฝดพี่ “อามามิย หรือ อามะ” ผู้เป็นเจ้าของใบหน้าและร่างกายสมส่วนยิ่งกว่าเทพบุตรโดนถีบตกสวรรค์ ผมหงอก(?) ตาสีมุก ถ้อยคำหวายเยิ้มน่าสะอิดสะเอียน และการปฏิบัติตัวที่เจ้าตัวเรียกมันว่าความเป็นสุภาพบุรุษ (แต่ฉันคิดว่ามันคือความเจ้าชู้ ในความคิดส่วนตัวฉันแล้ว ไอ้นี่มันเจ้าชู้ เพลย์บอยตัวโคตรพ่อเลยนะ) ผู้หญิงเกือบทั้งโรงเรียนนี้แทบจะยกมันเป็นเทพบุตรสุดเฮี้ยว ไอ้นี่เหมาหมดไม่ว่าจะเรื่องชู้สาว ความหลงตัวเอง และความเพ้อเจ้อยิ่งกว่านิยายที่มันกุขึ้นจากปลายเส้นขนทั้งร่าง ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมผู้หญิงถึงได้ชอบมันนัก

                    ส่วนอีกคนที่ความนิยมไม่ได้แตกต่างกันเท่าไหร่ “ทาคามิยะหรือ ทากะ” แฝดน้องที่มีหน้าตาและสัดส่วนร่างกายถอดแบบกันมาเป๊ะๆ แต่ผมดำ ตาดำ การวางตัวที่นิ่ง เรียบเฉย สุขุม ทว่าเป็นคนที่เทพบุตรสุดเฮี้ยวนั้นจะต้องชิดขอบโลกหากพูดถึงความอ่อนโยนและความจริงใจ นายคนนี้เป็นที่ปรึกษาให้ฉันได้ตลอดเวลา เรียกได้ว่าเป็นคนที่ตรงข้ามกับอามามิยะโดยสิ้นเชิง เจริญพร!

                    พูดแล้วนึกขึ้นมาได้มีอยู่ครั้งนึงตอนม.ปลายปีสอง ฉันเรื่องกลุ้มใจมากจนอกแทบจะแตกตาย ก็ได้คนนี้แหละช่วยไว้ แต่ก็เกรงใจมาก ตอนนั้นฉันที่เครียดมากจนแทบจะบ้าตายโทรไปปรึกษาเขาคนนี้ตอนดึกๆ ดื่นๆ ให้คำปลอบใจ คำปรึกษาที่ดีหลายอย่างจนดีขึ้น คุยกันเป็นชั่วโมง รู้เรื่องบ้าง ไม่รู้บ้าง เพราะฉันร้องไห้ตลอดเวลา จนรู้สึกดีขึ้นก่อนจะวางสายไปนอนนั่นแหละ ถึงได้รู้ว่าเสียงรอบข้างมันแปลกๆ เลยถามไปว่า

                    “นายไม่สบายหรือเปล่า? เพราะฉันโทรมาดึกๆ ใช่มั้ย?”

                    “เปล่าหรอก ที่จริงแล้วฉันกำลังนั่งอยู่ในส้วมน่ะ เธอโทรมาหาฉันตอนกำลังเข้าส้วมพอดี” กร๊ากกกกกกกก! แทบจะสำลักน้ำลายตัวเอง คุยโทรศัพท์ในส้วมนี่เอง ถึงว่าเสียงมันก้องๆ พิกล แต่ก็ต้องสงสารและขอบคุณในความมีน้ำใจมากที่อุตส่าห์นั่งในส้วมร้อนๆ เหม็นๆ เพื่อฉันคนนี้เกือบชั่วโมง -*-

                    และเพื่อนคนสำคัญอีกคนของฉันอีกคนนึง “จิน” จะเรียกว่าเพื่อนก็ไม่ค่อยถูก เพราะเขาเป็นรุ่นพี่ของพวกเราหนึ่งปี ถึงกระนั้นพวกเราก็ไม่มีใครเรียกเขาว่า พี่จิน รุ่นพี่ หรืออะไรที่สื่อว่าเขาเป็นรุ่นพี่เลย

                    พูดแล้วแอบเขิน จินเป็นผู้ชายที่หล่อและดูดีมากในสายตาของฉัน นิสัยของเขาทำให้ฉันพูดได้เต็มปากว่าฉันชอบทุกอย่างที่เป็นเขาคนนี้ ทั้งร่างสูงใหญ่ที่บางครั้งแอบกอด(อิอิ) ใบหน้าคมคร้านตามแบบผู้ชาย  ทรงผมที่เจ้าตัวชอบปล่อยให้มันเป็นซอยสั้นยุ่งๆ มากกว่าหวีเรียบแปล้ ผมของเขาเป็นสีที่แปลก บลอนด์เขียวๆ แปลกจริงๆ และดวงตาคู่เรียว คมและนิ่ง มักจะมองมาที่ฉันทำให้เห็นได้ว่ามันเห็นสีที่แปลกเช่นเดียวกับผม มันเป็นสีของดวงอาทิตย์ที่กำลังตกดิน

                    แก๊งคนแปลกหกคนที่มารวมกัน ทำให้ฉันรู้สึกสนุก อบอุ่น เศร้า เครียด และอีกหลายๆ อารมณ์ที่ได้สัมผัสในขณะที่เรียนอยู่ด้วยกันตลอดจนถึงจบมัธยมปลาย แม้จินจะจบการศึกษาไปก่อนก็ไม่ได้ทำให้ความสนิทของพวกเรามีน้อยลง

                    แล้วก็มีอยู่วันนึงฉันลองเขียนนิยายวางพล็อตไปแบบบ้าๆ บอๆ ต่างประสาคนเรียนเรื่อยๆ แต่ดันเข้าตาไอ้แฝดเทพบุตรนั่น เลยกลายเป็นเจ๊ดันคอยแก้งาน คิดเรื่อง ตรวจคำผิดทั้งหลาย และงานอีกหลายอย่างให้ฉันจนส่งต้นฉบับเรื่องนั้นเป็นเรื่องเปิดตัวในฐานะนักเขียนหน้าใหม่อย่างง่ายดาย

                    พูดแล้วคิดถึงวันเก่าๆ จัง ช่วงมัธยมมันเป็นอะไรที่สนุก หลากรสหลากอารมณ์ให้ได้ลิ้มลอง ลองผิดบ้าง ลองถูกบ้างว่ากันไป แต่ว่างานเลี้ยงก็ต้องมีวันเลิกรา หลังจากจบมัธยมพวกเราก็แยกย้ายกันไปเรียนในมหาวิทยาลัยที่ต่างกัน สองแฝดเพื่อนซี้สุดเลิฟๆ ของฉันย้ายไปเรียนต่างประเทศตามที่ทางบ้านเตรียมไว้ อีกสี่คนที่เหลือก็ยังเรียนที่เดิม แต่ยังไงก็ต้องแยกกันเรียน

                    จิน เลือกเรียนการเมืองการปกครองโดยไม่ปรึกษาพวกเราซักคน แน่นอน! ก็เขาเป็นรุ่นพี่จะมาปรึกษารุ่นน้องไปทำไม

                    ทากะเลือกเรียนแพทย์ เฮ้ย! เรียนหมอนะเว้ย ทำไมแกเก่งได้สุดยอดแบบนี้!?

                    อามะเรียนกฎหมาย เป็นสิ่งที่ทุกคนคิดว่า ไอ้คนนี้ไม่น่าจะเลือกเรียน มันไม่เหมาะเลยกับลุคสุดเฮ้วของมัน แต่คนเรามองกันแค่ภายนอกไม่ได้หรอก เห็นเจ้าชู้ไก่แจ้ เล่นโน่นหยอกนี่อย่างนั้นแต่ผลการเรียนเป็นเลิศค่ะ เหอเหอ

                    ส่วนฉัน คนสมองระดับกลางที่ไม่รู้จะเรียนอะไรดี ก็เลยเลือกที่จะเรียนบริหาร ตามที่ไวโอและอาย่าแนะนำ

                    “อาย่า” เป็นลูกชายแท้ๆ คนเดียวของไวโอ เป็นผู้ชายที่มองบางมุมก็เหมือนผู้หญิง บางมุมก็เป็นผู้ชาย ผมสีแดงและตาสีอำพันได้มาจากแม่เต็มๆ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าสองคนนี้เป็นแม่ลูกที่เหมือนกันมาก ตัวที่เหมือนจะอ้อนแอ้นแต่ซ่อนรูปบึกบึน ฮุฮุ ฉันแอบกอดบ่อยๆ

                    ฉันเองพอมานั่งนึกย้อนไปแบบนี้ก็คิดว่า “ฉันผ่านอะไรที่เยอะแยะแบบนั้นมาได้ยังไงนะ?” มันเป็นอะไรที่บอกไม่ถูก ไม่เข้าใจว่าฉันในตอนนั้นผ่านมันมาจนกลายเป็นฉันในตอนนี้ได้ยังไง

                    พวกคุณอาจจะคิดว่าชีวิตฉันมันก็ธรรมดา จนอาจจะเรียกว่าโคตรธรรมดา แต่ที่จริงแล้วมันมีอะไรที่มากกว่า มีอีกหลายเรื่องราวที่ฉันยังไม่ได้พูดถึง อีกหลายเรื่องที่จำต้องเก็บเป็นความลับ อะไรๆ อีกเยอะแยะที่คุณอยากรู้ เรื่องสามี ลูก เรื่องที่ฉันและสามีได้ก่อให้เกิดขึ้น ทั้งตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจ ความผิดพลาดของฉัน ความผิดพลาดของเขา สิ่งที่ฉันคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ร้ายแรงแต่ก็ต้องเดินหน้าเผชิญกับสิ่งนั้นต่อ อะไรๆ ทั้งหลายที่ทำให้ฉันเป็นคนนี้อย่างในตอนนี้

                    หากคุณสนใจอยากจะรู้ถึงชีวิตที่เรียบง่ายแต่ไม่ธรรมดาของฉัน ขอเชิญติดตามได้ที่

                    My Zecret Diary by Yusuki            

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    คำนิยม Top

    ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

    คำนิยมล่าสุด

    ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

    ความคิดเห็น