มุกร้อยกะรัต *รีอัปใหม่ - นิยาย มุกร้อยกะรัต *รีอัปใหม่ : Dek-D.com - Writer
×

    มุกร้อยกะรัต *รีอัปใหม่

    ปริศนา มายา ความรัก คือความท้าทายที่มาพร้อมความตายของพี่ชาย นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ณิชาเลือกที่จะสานต่อ ทำภารกิจเปิดฉากเกมกระชากวิญญาณนี้ให้สำเร็จ

    ผู้เข้าชมรวม

    1,535

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    42

    ผู้เข้าชมรวม


    1.53K

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    7
    จำนวนตอน : 30 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  4 พ.ย. 62 / 14:08 น.

    อีบุ๊กจากนิยาย ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ






    ตอนนี้นักเขียนเปิดรับการสนับสนุนจากนักอ่าน
    โดยขายนิยายแบบแพคเกจผ่านระบบ Coin กับทางเด็ดดีอยู่หลายเรื่องนะคะ



    เริ่มตั้งแต่ 50-350 Coin


    ถ้าชอบเรื่องไหนเป็นพิเศษก็อย่าลืมแวะไปให้กำลังใจนักเขียนคนนี้ด้วย  

    ขอบคุณมากๆ ค่ะ  




    หลังจากวางแผงกับสำนักพิมพ์มายดรีม เครือสถาพรบุ๊คไปหลายปี

    ตอนนี้ มุกร้อยกะรัต กลับมาให้ทุกๆ คนได้อ่านกันในรูปแบบของ E-book แล้วนะคะ 

    นิยายที่เต็มไปด้วย ปริศนา มายา ความรัก 




    เนื้อหาในเด็กดีจะมีฉาก NC แบบเบาๆ ฟินๆ ตัดเข้าโคมไฟ ตัดเข้าหน้าต่าง ไปนะคะ เราจะทำตามกฏของทางเด็กดีอย่างเคร่งครัดที่จะไม่ลงฉาก NC ที่มันวาบหวามจนเกินไป 


    แต่ใน E-book น้านนนนน เรียกว่าจัด NC เต็ม 100% อ่านไปจิกหมอนขาดกันไป เพราะมันฟินหนักมากกกกกกก 


    ลิงก์ดาวน์โหลดด้านล่างนี้







    จากใจ...นักเขียน

      

              มุกร้อยกะรัต เรื่องนี้เคยวางแผงกับสำนักพิมพ์มายดรีมเครือสถาพรมาแล้วนะคะ

    แม้จะขึ้นต้นว่ามุกแต่ลงท้ายด้วยคำว่ากะรัต เพราะนั่นคือการสืบหาที่ซ่อนของเพชรซึ่งเป็นจุดกำเนิดของเรื่องราวทั้งหมด การเสียสละของคนกลุ่มหนึ่งทำให้คนอีกกลุ่มเพิกเฉยไม่ได้ ต้องร่วมหัวจมท้ายกระทั่งสืบเสาะจนรู้ความจริง

    แต่ความจริงนั้นกลับมาพร้อมความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส เจ็บปวดกับความจริงที่ได้รู้และเจ็บปวดด้วยเรื่องรักที่มาพร้อมกับคำว่าหน้าที่ เรื่องราวจะเป็นอย่างไรนั้น มาร่วมลุ้นและสนุกไปกับ          มุกร้อยกะรัต กันนะคะ

    เรื่องนี้เข้มข้นกันจนหยดสุดท้ายจริงๆ ยังไง ก็ขอฝากเรื่องนี้ไว้ด้วยนะคะ








    ตัวอย่างความฟินเล็กๆ น้อยๆ เรียกน้ำย่อยค่ะ 



           อันดามัน ดาวประดับบ่า ล่องหน เส้นผมบังภูเขา มุก’ 

    ปริศนาทั้งห้า ที่ณิชาต้องสืบเพื่อแก้ปม
    ปริศนาทั้งห้า ที่เชื่อมต่อ โยงใยไปถึงคำว่ามุกร้อยกะรัต 
    ปริศนาแห่งความท้าทายที่มาพร้อมความตายของพี่ชาย นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ณิชาเลือกที่จะสานต่อ ทำภารกิจเปิดฉากเกมกระชากวิญญาณนี้ให้สำเร็จ เพื่อสืบหาผู้อยู่เบื้องหลัง ซึ่งความจริงที่ได้รู้ ทำให้เธอต้องเลือกระหว่างหน้าที่หรือความรัก 

    ----------------------------------------------------------


    “อุ๊ย! จะทำอะไรคะ” คนถูกอุ้มดิ้นยุกยิกไปมาบนอ้อมกอดที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามของชายหนุ่ม

    “ไปส่งคุณที่เตียง”

    “ไม่ต้อง ฉันตื่นแล้ว” พอได้ยินคำว่าเตียง ณิชาก็หน้าร้อนผ่าวตีความหมายไปอีกทาง พอสมองคิดร่างกายก็แสดงออกด้วยใบหน้าแดงก่ำทันที กัณฑ์ได้แต่อมยิ้ม

    “นอนต่อเถอะ ผมไม่ทำอะไรหรอก” ชายหนุ่มเอ่ยอย่างรู้ทัน แต่คนในอ้อมกอดก็ยังแย้ง

    “ฉันเดินเองได้” กัณฑ์ไม่ยอมทำตามที่เธอบอก ชายหนุ่มก้าวยาวๆ อุ้มณิชาตรงไปยังห้องนอนเธอทันที จังหวะนั้นพนิตากับศกลที่เพิ่งกลับมาบ้านเห็นภาพเข้าถึงกับหยุดกึก เจ้าของบ้านอ้าปากจะร้องถาม แต่ถูกศกลลากตัวออกไปข้างนอกชนิดไม่รอเวลาให้เธอได้พูดขัด จับนักข่าวสาวยัดใส่รถแล้วขับออกไป ขณะนั่งอยู่ในรถพนิตาหันขวับมามองชายหนุ่มอย่างเอาเรื่องที่อยู่ๆ ก็ลากเธอออกมาแบบนี้ ก่อนจะถามเสียงเขียวพร้อมหน้าตาชวนทะเลาะ 

    “ทำอะไร”

    “คุณอยากเข้าไปเป็นก้างเขาเหรอ ก็เห็นๆ ว่าสองคนนั้นกำลังจู๋จี๋กันอยู่” ศกลเอ่ยตอบขณะที่สายตาก็มองถนนตรงหน้า

    “จู๋จี๋บ้าน่ะสิ พาฉันกลับบ้านเดี๋ยวนี้”

    “เอาน่ะคุณ กลับบ้านช้าไปสักสองสามชั่งโมงหรือคืนนึงก็ได้ เอาเป็นว่าคืนนี้คุณไปกินข้าวบ้านผม จากนั้นก็นอนที่นั่นสักคืน”

    “เหรอฉันมีบ้าน เรื่องอะไรจะต้องไปนอนบ้านนายด้วยไม่ทราบ อ้อสงสัยทำแบบนี้บ่อยล่ะสิ” พนิตาแขวะชายหนุ่มกลับแบบไม่ยอมเหมือนกัน เธอเป็นลูกมีพ่อมีแม่จะไปนอนบ้านผู้ชายได้ยังไง ที่สำคัญณิชาคือเพื่อนรักของเธอนะ ป่านนี้กัณฑ์ไม่รังแกณิชาไปแล้วเหรอ

    “ไม่เคย พึ่งชวนคุณคนแรกนี่แหละ”

    “เชื่อตายล่ะ กลับบ้านเถอะ ฉันเป็นห่วงเพื่อน” น้ำเสียงเหมือนจะอ่อนลง แต่มีหรือศกลจะทำตาม เขาไม่มีทางเข้าไปขัดขวางความสุขของกัณฑ์แน่นอน เดี๋ยวกรรมมันตามทัน เกิดมีใครทะเล่อทะล่าเข้ามาตอนที่เขาจู๋จี๋กับพนิตาเข้าคงอารมณ์เสียแน่

    “ห่วงทำไม คุณเห็นเพื่อนผมเป็นฆาตกรหรือไงถึงไม่ไว้ใจ”

    “ก็” คนจะค้านเริ่มพูดไม่ออก

    “คุณรู้ไหมว่าสองคนนั่นเขารักกัน” ศกลหันมาถาม ซึ่งเรื่องนี้  พนิตาคงพอจะรู้อยู่บ้าง

    “ก็พอรู้” สิ่งนี้พนิตาเริ่มรู้ได้ตั้งแต่เธอยังอยู่บนเกาะและมาชัดเจนก็ตอนที่ณิชาถูกยิง กัณฑ์เป็นห่วงเพื่อนเธอมาก เขาแสดงออกให้ทุกคนเห็นว่าคิดยังไงกับณิชา ผิดกับอีกคนที่นั่งข้างๆ เธอตอนนี้ ไม่ยอมพูดอะไรเลยอ้อมอยู่นั่นแหละ ปากดีจัง แต่พอเอาเข้าจริงก็ไม่เห็นกล้าพูดว่าคิดยังไง

    “แล้วจะเข้าไปขัดขวางความสุขเขาทำไมล่ะครับ คนเรามีรักก็ต้องมีสัมผัส”

    “ทะลึ่ง” เสียงแหลมๆ ของพนิตาเอ่ยขึ้นแทบจะทันที ผู้ชายคิดแต่เรื่องแบบนี้สินะ

    “เอ้า...เรื่องจริง โตๆ กันแล้วนะคุณ มีงานทำ รับผิดชอบชีวิตได้ไม่ใช่เด็กๆ แล้ว” ศกลเอ่ยเพราะเขาคิดว่านี่เป็นเรื่องปกติ เขาโตพอที่จะรับผิดชอบในการกระทำของตัวเอง ซึ่งกัณฑ์เองก็คงเหมือนกัน พนิตานั่งบีบมือนิ่ง เนื่องจากจินตนาการไปไกลแล้วนั่นเอง

    “ที่เงียบแบบนี้แสดงว่าคุณยังไม่เคยล่ะสิ”

    “ใครบอก ฉะฉันเคยมีแฟน แล้วก็” คนถูกถามเอ่ยตอบแบบตะกุกตะกัก ก่อนจะหยุดพูดไปดื้อๆ เพราะไม่รู้จะโกหกแบบไหนให้แนบเนียนนั่นเอง

    “แล้วก็อะไร”

    “เคยจูบกันแล้วด้วย” คำตอบของพนิตาทำให้ศกลแอบยิ้ม หวังว่าคนที่เธอเคยจูบนั่นจะเป็นเขา

    “แค่จูบเองเหรอ อ่อน”

    “หยะอย่างว่าก็เคย” พนิตาโกหก ดูจะไม่แนบเนียนสักเท่าไหร่นัก เนื่องจากใบหน้าเธอแดงก่ำร้อนผ่าวๆ อย่างห้ามไม่อยู่ เรื่องแบบนั้นเธอจะเคยได้ยังไงกัน ก็เกิดมาจนโตป่านนี้ยังไม่เคยมีแฟนกับเขาสักคน ศกลหันมองหน้าเธอ เขาไม่สนเรื่องพรหมจรรย์ของผู้หญิงหรอก ถ้ารักใครก็จะรักที่เธอเป็นเธอไม่ใช่ไอ้เยื่อบางๆ นั่น ซึ่งบางคนใช้มันวัดคุณค่าของผู้หญิง ทั้งๆ ที่ผู้ชายเป็นคนทำลายทั้งนั้นไม่ใช่หรือไง แล้วจะมาเรียกร้องพรหมจรรย์เพื่ออะไร

    “ผมไม่ซีเรียสนะ หากผู้หญิงที่ผมรักเขาจะเคยมีอะไรกับผู้ชายที่เธอรักมาก่อน ในที่นี้หมายถึงแฟนเก่าน่ะ”

    “แต่ฉันซีเรียส” คนอ่อนต่อเรื่องความรักก้มหน้าก้มตาตอบ ศกลยิ้มให้เธอ แค่นี้เขาก็พอรู้ว่าอะไรเป็นอะไร ชายหนุ่มได้ทีแกล้งหยอกเธอเล่น

    “อะไรคุณ ผมไม่เวอร์จิ้นแล้วนะ”

    “ทะลึ่ง ขับรถไปเลยไป” มือเล็กๆ ของพนิตาตีหมับลงไปบนต้นแขนของศกลสองสามครั้งเพื่อให้ชายหนุ่มหยุดพูดเรื่องนี้เสียที เขาปัดป้องพอเป็นพิธี พอเห็นหน้าตางอนๆ ของหญิงสาวก็ชอบใจ อยากแกล้งอีก แต่ก็ต้องหยุดเมื่อมาถึงหน้าบ้านเขาแล้วนั่นเอง พนิตานั่งกอดอกมองไปนอกรถแทน ขืนต่อล้อต่อเถียงเขาอีกดูท่าจะไม่จบง่ายๆ แน่

    ส่วนกัณฑ์นั้นแทนที่จะกลับออกไปจากห้องเพื่อให้ณิชาได้นอนต่อตามที่ตั้งใจไว้ ชายหนุ่มกลับนั่งเฝ้าพลอยทำให้คนบนเตียงรู้สึกกระอักกระอ่วนใจอย่างบอกไม่ถูก อยากให้พนิตาเข้ามาตอนนี้เสียจริงๆ เมื่อไม่มีตัวช่วยหญิงสาวจึงหาทางออกให้สถานการณ์ที่น่าอึดอัดนี้

    “เอ่อคุณออกไปสิคะ”

    “ผมแค่อยากมั่นใจว่าคุณนอนจริงๆ” กัณฑ์เอ่ยตอบตรงๆ เขาจะไม่กวนเธอ เพราะจะนั่งมองไม่ได้ทำอะไร

    “แต่ถ้าคุณนั่งจ้องแบบนี้ฉันนอนไม่หลับแน่” ณิชาส่งยิ้มให้เขา ต่อให้ชายหนุ่มออกไป เธอก็คงได้แต่นอนลืมตามองเพดานห้องอยู่ดี เพราะตอนนี้หายง่วงเป็นปลิดทิ้งเสียแล้ว

    “งั้นผมจะนอนเป็นเพื่อน” พูดจบก็ขยับขึ้นไปแทรกตัวนอนบนเตียงด้วยอีกคนแบบไม่มีปี่ไม่ขลุ่ย ณิชาค้านทันทีแต่ดูท่าจะไม่ได้ผล

    “เดี๋ยวสิคะ คุณกัณฑ์”

    “แม่เราสองคนติดลมที่เชียงใหม่ซะแล้วสิ” เมื่อขึ้นไปนอนบนเตียงได้ก็ชวนคุยเรื่องแม่คล้ายจะเกริ่นนำทาง เพราะไม่รู้จะพูดอะไรเหมือนกัน เกิดมายังไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อน หัวใจของชายชาตรีเต้นไม่ค่อยเป็นจังหวะอย่างที่เคย 

    “อ้อ...ค่ะ แม่ฉันเองก็พึ่งโทร.มาบอก” ได้ยินเรื่องนี้ณิชาก็ร้องอ๋อ เธอยอมทำทุกอย่างเพื่อแม่อยู่แล้ว  

    “ท่านสองคนเข้ากันได้ดีว่าไหมครับ”

    “ค่ะ” น้ำเสียงฟังดูอู้อี้ เพราะณิชาพยายามขยับออกห่างจากชายหนุ่มจนเกือบจะพลัดตกเตียงเข้าไปทุกขณะ กัณฑ์ไม่อยากให้เธอทำแบบนั้นจึงเอ่ยเรื่องอากาศมาเป็นข้ออ้าง ถึงจะฟังดูไม่ค่อยขึ้นสักเท่าไหร่

    “แอร์เย็นเหมือนกันนะ” ไม่พูดเปล่าแต่กลับรั้งณิชาให้ขยับเข้ามาใกล้ จนกอดเธอได้แน่นพอ ณิชายกแขนขึ้นผลักชายหนุ่ม แต่ดันเป็นข้างที่ถูกยิงจึงไม่ถนัดสักเท่าไหร่ แอร์เย็นเสียที่ไหน เธอออกจะร้อน

    “เอ๊ะ! นี่ ขยับออกไปนะ”

    “ขอกอดหน่อยจะได้อุ่น” คำพูดตรงไปตรงมาของกัณฑ์ทำให้คนฟังรู้สึกเขิน ทำได้แค่ซุกตัวนิ่งๆ อยู่ในอ้อมกอดคนโกหกหน้าตายเรื่องอากาศเท่านั้น ก่อนจะบ่นอู้อี้ให้เขาได้ยิน 

    “ขี้โกงชัดๆ”

    “ยังเจ็บแผลอยู่ไหม” กัณฑ์ยิ้มนิดๆ ก่อนที่น้ำเสียงทุ้มน่าฟังจะเอ่ยถามถึงอาการบาดเจ็บของเธอขึ้น น้ำเสียงที่ฟังดูอบอุ่นทำให้หัวใจของณิชารู้สึกดีอย่างประหลาด 

    “นิดหน่อยค่ะ”

    “ณิชา” น้ำเสียงที่เอ่ยเรียกชื่อหญิงสาวครั้งนี้ดูจริงจัง

    “ค่ะ” เจ้าของชื่อขานรับ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองเขา ชายหนุ่มสบตาเธอ ก่อนจะพูดความในใจออกไป

    “ผมรักคุณ” คำว่ารักที่กัณฑ์เอ่ยออกมาดังก้องอยู่ในความคิดของณิชา เธอตกตะลึงที่อยู่ๆ เขาก็พูดแบบนี้ออกมา แม้ก่อนหน้าพอจะเดาการกระทำและคำพูดของชายหนุ่มออกว่าคิดยังไงกับเธอ แต่พอได้ยินคำสารภาพรักจากเขาเข้าหัวใจเธอถึงกับเต้นรัวจนยากที่จะควบคุม ความรักที่เกิดขึ้นชนิดไม่ต้องการเวลา เธอเพิ่งรู้จักกัณฑ์ได้เพียงไม่นาน แต่นั่นจะสำคัญอะไรหากเธอเองก็รักเขาเข้าให้แล้วเหมือนกัน รักจนสามารถทำทุกอย่างเพื่อผู้ชายคนนี้ได้

    กัณฑ์ขยับออกห่างณิชานิดหน่อย ก่อนจะรั้งใบหน้าเธอไว้ด้วยมือข้างหนึ่งของเขา มองเธอเหมือนกับไม่เคยเห็นมาก่อน ใจคิดหาเหตุผลไม่ได้สักข้อว่าทำไมเขาถึงได้หลงรักเธอคนนี้ได้มากมายนัก และพยายามหาเหตุผลมาค้านไม่ให้รักเธอซึ่งเหตุผลเหล่านั้นก็ไม่มีเช่นเดียวกัน นิ้วยาวได้รูปของชายหนุ่มไล้พวงแก้มสีชมพูระเรื่อที่คล้ายจะแดงขึ้นเรื่อยๆ ยามที่นิ้วเขาไล้สัมผัส ณิชากะพริบตาปริบๆ สมองหยุดคิดไปชั่วขณะ

    “ผมรักคุณ รักตั้งแต่ได้พบหน้ากันด้วยซ้ำ พอเห็นคุณถูกยิงหัวใจผมแทบสลาย นั่นยิ่งทำให้ผมอยากดูแลคุณไปตลอดชีวิต” คำพูดตรงไปตรงมาผสานกับแววตาที่บอกถึงความจริงใจนั่นของชายหนุ่ม ทำให้คนฟังแทบพูดอะไรไม่ออก เธอไม่รู้ว่าความรู้สึกห่วงใยหรืออยากเห็นหน้าเขาตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง แม้แต่พอมีเรื่องอะไรเกี่ยวข้องกับชายคนนี้เธอเป็นต้องอยากช่วยไปเสียหมดนั่นจะเรียกว่าความรักหรือเปล่า ความรู้สึกประหลาดที่ทำให้เวลาภายในหนึ่งวันดูรวดเร็ว ความรู้สึกที่ทำให้เธอหายท้อจากงานที่เหนื่อยล้า 

    “คุณกัณฑ์”

    “คุณคิดยังไงกับผม” ณิชานิ่งกับคำถามนี้ ทั้งคู่สบตาบอกความนัยก่อนที่ใบหน้าของกัณฑ์จะค่อยๆ เคลื่อนเข้ามาใกล้ ริมฝีปากหยักได้รูปประกบรับกับริมฝีปากอิ่มอีกครั้ง ความหอมหวานยังคงมีอยู่เช่นเดิมไม่เสื่อมคลาย ก่อนที่ชายหนุ่มจะเริ่มสำรวจและควานหาความหอมหวาน ก่อนจะตัดใจถอนจุมพิตออกอย่างอ้อยอิ่ง ก่อนจะถามสิ่งที่ใจอยากรู้ “รักผมบ้างไหมณิชา ถ้าตอนนี้ยังไม่รักผม พอจะมีโอกาสทำให้คุณรักผมได้บ้างหรือเปล่า” น้ำเสียงคล้ายร้องขอ

    “เอ่อ...คือ” คนถูกถามอ้ำอึ้งเม้มริมฝีปากที่เริ่มบวมเจ่อเข้าหากัน เธอนิ่งจนทำให้กัณฑ์กังวลกลัวคำตอบเหลือเกินว่าณิชาไม่ได้คิดอะไรกับเขา เขาต่างหากที่คิดเองเออเองฝ่ายเดียว ชายหนุ่มทำท่าจะขยับออกห่างแต่ณิชากลับรั้งเขาไว้ เธอให้คำตอบเขาด้วยการเอื้อมตัวขึ้นไปจูบชายหนุ่มเบาๆ คล้ายปุยนุ่นแทนคำพูดว่าเธอเองก็ตกหลุมรักเขาเช่นเดียวกัน รักโดยไม่รู้ว่าเริ่มรักตั้งแต่เมื่อไหร่ รักทั้งๆ ที่พบกับเขาได้เพียงไม่นาน แต่เธอก็เชื่อมั่นในความรู้สึกของตัวเอง เชื่อมั่นเพราะความรู้สึกพิเศษแบบนี้ที่ไม่ได้เกิดกับใครได้ง่ายๆ เขาคือรักแรกของเธอ

    จูบครั้งนี้ก็มากพอที่จะทำให้หัวใจของกัณฑ์อิ่มเอมกับความรักที่สมหวัง ก่อนจะเป็นฝ่ายโน้มตัวลงมาจูบเธออย่างดูดดื่ม เรียกร้องมากกว่าครั้งก่อนๆ ณิชาตกหลุมพรางของนายพรานเข้าเสียแล้ว หญิงสาวคล้อยตามคล้ายคนหัวอ่อนซึ่งก็ใช่จริงๆ ถึงจะมีประสบการณ์เฉียดตายมาหลายครั้ง แต่ประสบการณ์เรื่องจูบ ณิชาเพิ่งเคยมีกับกัณฑ์เป็นคนแรก ชายหนุ่มค่อยๆ ละเล็มปากอิ่มช้าๆ ไม่ได้รีบร้อนจนทำให้เธอกลัว คลอเคลียรุกเร้าทำให้อารมณ์ของณิชากระเจิงไปไกล หัวใจเต้นโครมครามไม่เป็นจังหวะ หายใจหอบเหนื่อยคล้ายวิ่งมาราธอนก็ไม่ปาน ก่อนจะเอ่ยค้านเมื่อเขาเคลื่อนริมฝีปากลงต่ำไปตามแอ่งชีพจร

    “หยะหยุดเถอะค่ะ เดี๋ยวยายหมวยกับคุณกลเข้ามาเห็น”

    “สองคนนั้นออกไปตั้งแต่ผมอุ้มคุณเข้ามาในห้องแล้ว”

    “เอ๊ะ!” ณิชาอุทานได้แค่นั้น ก่อนที่กัณฑ์จะปิดเสียงต่อต้านหลายล้านเหตุผลของเธอด้วยริมฝีปากหยักได้รูปของเขาอีกครั้ง ณิชาอยากเอ่ยค้านให้เขาหยุด แต่ทว่าหัวใจเรียกร้องอยากให้เขาสัมผัสและอยากสัมผัสเขามากกว่านี้ แต่คนใจแข็งอย่างณิชาก็ร้องขอให้เขาปล่อยด้วยเหตุผลอายๆ ว่าเธออยากเข้าห้องน้ำ กัณฑ์ไม่อยากปล่อยก็ต้องปล่อยให้เธอได้ทำธุระส่วนตัว เมื่อชายหนุ่มคลายอ้อมกอดออกณิชาก็กึ่งวิ่งกึ่งเดินเข้าห้องน้ำพร้อมล็อกประตูทันที เมื่ออยู่ตามลำพังที่หน้ากระจกถึงกับยกมือลูบหัวใจที่เต้นรัวแรงของตัวเอง มองริมฝีปากที่บวมเจ่ออย่างเห็นได้ชัด ใบหน้าก็ยังคงร้อนผ่าวเหมือนคนเป็นไข้ไม่มีผิด เหตุผลที่บอกขอเข้าห้องน้ำเนื่องจากสายลับสาวต้องการปลดอาวุธประจำตัวออกจากแหล่งซ่อนบนร่างกายนั่นเอง เพราะเมื่อครู่มือปลาหมึกของกัณฑ์เกือบสัมผัสไปถูกแล้วไหมล่ะ

    ณิชาเก็บอาวุธมีดลับเกือบสิบเล่มที่ซ่อนไว้บริเวณรอบเอวบาง หน้าขาและข้อเท้าทั้งสองข้างออก ก่อนจะซ่อนไว้ในลิ้นชักอย่างดี จากนั้นก็ยืนหายใจลึกๆ เข้าปอดสามสี่ครั้งท่ามกลางจังหวะการเต้นของหัวใจที่ยังคงเต้นแรงอย่างไม่ยอมกลับไปเต้นจังหวะเดิมที่เคยเป็นมา เธอแอบสำรวจรูปร่างของตัวเองว่าสวยพอที่จะทำให้ชายที่เธอรักชอบได้ไหม แอบกังวลเล็กๆ เมื่อเห็นว่าเธอนั้นดูจะผอมเกินไปหรือเปล่า หน้าอกก็ไม่ได้อวบอิ่มคับซีมาแต่ไหนแต่ไร พยายามอัพคับหน้าอกให้ใหญ่ขึ้นเท่าไหร่ก็ได้เท่าเดิม ณิชายกมือขึ้นตบใบหน้าตัวเองเบาๆ พร้อมถอนหายใจออกมา จากนั้นก็ค่อยๆ เปิดประตู ก่อนจะตาโตเมื่อเห็นกัณฑ์ยืนรออยู่

    “ผมนึกว่าคุณจะไม่ยอมเปิดประตูแล้วซะอีก”

    “ถ้าฉันไม่เปิดจริงๆ คุณจะทำยังไงคะ”

              “พัง”









    สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537

    ห้ามลอกเลียนแบบหรือดัดแปลงส่วนใดส่วนหนึ่งของหนังสือเล่มนี้

    รวมทั้งการจัดเก็บ ถ่ายทอด สแกน บันทึก ถ่ายภาพ ไม่ว่าในรูปแบบหรือวิธีการใดๆ

    ในกระบวนการอิเล็กทรอนิกส์โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร

    ยกเว้นเพื่อการประชาสัมพันธ์











    ฝากนิยายที่วางขายแบบ E-book ไว้ด้วยน๊า


    'มายาประกาศิต'
    นิยายโรมานซ์ ฟินๆ เลิฟซีนจัดหนักค่ะ 

    'แรดสลัดคาน'
    นิยายของสาวอวบ ที่เริ่มต้นการสลัดไขมัน พร้อมกับการสลัดคาน 

     

       

             


    ฝากสุดท้ายยยย
    ฝากทุกคนกดไลท์แฟนเพจ 'วรนิษฐา' กันค่ะ
    จะได้ตามข่าวเรื่องนิยายกันได้ รวมทั้งไม่พลาดหากวันไหนมีนิยายกับของน่ารักๆ มาแจก เพื่อขอบคุณแฟนเพจกันค่ะ 

      



    ขอบคุณค่ะ


    วรนิษฐา 

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    คำนิยม Top

    ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

    คำนิยมล่าสุด

    ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

    ความคิดเห็น