ลำดับตอนที่ #15
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : ภารกิจสุดท้าย...แห่งการสูญเสีย
...เอาตัวมันมาที่นี่ให้จงได้ แล้วข้าจะมีรางวัลให้เจ้าอย่างงาม...หางหนอน" แฮรี่สะดุ้งตื่นขึ้นมาในตอนกลางดึก ด้วยเหงื่อที่เปียกโชก เค้าหยิบแว่นตาที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาใส่ ก่อนจะมองไปรอบๆห้อง แต่แล้วแฮรี่ก็ต้องแปลกใจ เมื่อเตียงที่ว่างเปล่าอยู่นั้น เป็นเตียงของฟีอัส
"ไอร่ตัวปัญหา!หายไปไหนอีกแล้วเนี่ย" แฮรี่ส่ายหัวไปมา ก่อนลุกออกจากเตียง เค้าเดินลงไปที่ห้องนั่งเล่น ก่อนจะหยุดชะงักเดิน เมื่อเห็นไอร่ตัวปัญหานั่นอยู่หน้าเตาผิง
"ไง!นึกว่าออกไปป่วนฮอกวอตส์ยามราตรีซะอีก" แฮรี่ขานทักทาย สหายที่นั่งเหม่ออยู่หน้าเตาผิง
"ไอร่ตัวปัญหา!หายไปไหนอีกแล้วเนี่ย" แฮรี่ส่ายหัวไปมา ก่อนลุกออกจากเตียง เค้าเดินลงไปที่ห้องนั่งเล่น ก่อนจะหยุดชะงักเดิน เมื่อเห็นไอร่ตัวปัญหานั่นอยู่หน้าเตาผิง
"ไง!นึกว่าออกไปป่วนฮอกวอตส์ยามราตรีซะอีก" แฮรี่ขานทักทาย สหายที่นั่งเหม่ออยู่หน้าเตาผิง
"เห่อ ๆ ก็ไม่ถึงขนาดนั้นมั้งแฮรี่" ฟีอัสหันไปมองยังต้นเสียง ก่อนที่จะหัวเราะออกมา ฟีอัสสังเกตใบหน้าของแฮรี่ที่เต็มไปด้วยเหงื่อ เค้าเลยอดสงสัยไม่ได้ที่จะถาม
"นายฝันร้ายอีกแล้วสินะ?" ฟีอัสเลิกคิ้วขึ้น ในขณะที่แฮรี่เดินลงมาจากบรรได
"ใช่! แค่ฝันเรื่องทั่วๆไป" แต่สีหน้าของแฮรี่มันบ่งบอกได้ชัดเจนว่ามันต้องเป็นเรื่องที่ไม่ดีแน่ แฮรี่เอามือจับที่แผลเป็นตรงหน้าผาก ก่อนนั่งเหม่อมองจ้องเข้าไปในเตาผิง อย่างไม่ละสายตา เหมือนเค้ากำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่
"กลุ้มใจขนาดนั้น...ก็ไม่เห็นต้องเก็บมาคิดคนเดียวเลยนี่...นายยังมีฉัน รอน แล้วก็เฮอร์ไมโอนี่อยู่นะ"
"ใช่...แต่ฉันคิดว่ามันก็เป็นแค่ความฝัน ความฝันมันจะเป็นจริงได้ยังไงกัน" แฮรี่ระบายยิ้มออกมา
"ความฝันของคนเรามันก็มาจากความนึกคิดของมนุษย์แบบเรานี่แหละ...เพียงแค่เราเลือกที่จะฝันมันอยู่ซ้ำ จนทำให้เราแยกแยะไม่ออกว่าเรื่องไหนเป็นความฝัน...และเรื่องไหนคือความจริง ฉันจะไม่ถามนายหรอกนะว่านายฝันถึงเรื่องอะไร...แต่เมื่อใดที่นายพร้อมที่จะบอกเรา...พวกเราก็พร้อมที่จะรับฟังนายเสมอเพื่อน" (แหม๋ ๆ เป็นคำพูดที่ดูหล่ออะไรเช่นนี้ แต่ถึงอย่างนั้นเองเข้าใจความหมายที่ตัวเองพูดแล้วรึ?)
"ขอบใจนายมาก...ที่เป็นห่วง"แฮรี่คลี่ยิ้มออกมา
"กลับไปพักผ่อนเหอะเพื่อน...พรุ่งนี้รับศึกหนักเลยนี่" ฟีอัสเอามือตบไหล่แฮรี่เบาๆ
"แล้วนายละ?"
"อีกสักพักละมั้ง...ฉันยังไม่ค่อยง่วง" ฟีอัสหันไปตอบแฮรี่ก่อนที่จะ หยิบกีต้าร์คู่ใจขึ้นมา
"งั้นฉันขอตัวนะ" แล้วแฮรี่ก็เดินกลับขึ้นหอพักไป
ภารกิจสุดท้าย ของการประลองกำลังจะเริ่มต้นขึ้นเสียงเฮดังลั่นไปทั่วสนาม บวกกับเสียงบรรเลงดนตรีของบ้านฮัฟเฟิลพัฟ มันช่างน่าตื่นเต้นเสียนี่กระไร ฟีอัสนั่งอยู่ที่บนอัฒจรรย์คนดู ข้างๆของฟีอัสคือเฮอร์ไมโอนี่กับรอน ...แล้วก็มีคนสติเฟื่องบางคนเดินเข้ามาทักทาย
"หวาดดี...ฟีอัส" น้ำเสียงที่ฟังดูเหนื่อยล้านั้นทักทายอย่างเป็นกันเอง
"เอ่อ...หวัดดี...มาสคอตที่น่าสมเพชนั่นมันอะไรกันนะ" ฟีอัสเลิกคิ้วขึ้น
"อ่อ...หัวสิงโตของกริฟฟินดอร์ไงน่ารักไหมละ?" น้ำเสียงที่ชวนให้รู้สึกอ่อนล้าพูดขึ้น
"เห่อ...มันเข้ากับเธอดีนะ" ฟีอัสยิ้มแห้งๆ
"ขอบจัย...ฉันไปก่อนนะ" หญิงสาวสติเฟื่อยพูดเอื้อนเอ่ยก่อนเดินตรงไปหาธีน่า
ก่อนจะเริ่มการแข่งขันดัมเบิลดอร์ก็กล่าวทักทายและกติการของภาระกิจนี้ก่อนเสียงปืนใหญ่จะดังขึ้น แฮรี่ กับ เซดดริกเข้าไปในเขาวงกตเป็นกลุ่มแรก ตามมาด้วยวิกเตอร์ และ เฟลอ เสียงเฮดังลั่นไปทั่วสนาม
เวลาผ่านไปเกือบยี่สิบนาที ก็มีพลุสีแดงลอยขึ้นไปบนฟ้า แสดงถึงการขอออกจากภาระกิจ
"คุณเฟลอ เดอลากูนได้ออกจากการแข่งขัน" เสียงบรรยายดังขึ้น พร้อมๆกับร่างของเฟลอที่นอนแผ่กลางลานประลอง หลังจากนั้นไม่นาน ก็มีคนอุ้มร่างของเธอกลับไปยังเต้นท์พยาบาล
"ภารกิจสุดท้ายไม่ใช่เล่นๆเลย...โหดไปปะวะ" ฟีอัสพูดขึ้น รอนถึงกับทำหน้าเหวอ ส่วนเฮอร์ไมโอนี่ได้แต่นั่งทำสีหน้าเคร่งเครียด
เวลาผ่าไปครึ่งชั่วโมง ก็มีพลุลอยขึ้นเหนือเขวงกตอีกครั้ง
"วิกเตอร์ ครัม ได้ออกจากการแข่งขันครับ" และเป็นอีกครั้งเสียงดนตรียิ่งบรรเลงดังขึ้นอย่างสนุกสนาน
"แฮรี่...จะไหวไหมเนี่ย" เฮอร์ไมโอนี่ที่นั่งทำหน้าเครียดอยู่นานพูดขึ้น พร้อมจับมือผมไว้แน่น
"ไม่ต้องห่วงหรอก เฮอร์ไมโอนี่...หมอนั่นอึดยิ่งกว่าหินซะอีก" ฟีอัสหันไปยิ้มให้กับเฮอร์ไมโอนี่
"อื้อ..." อยู่ดีๆท้องฟ้าอันสดใสก็เริ่มก่อตัวเป็นพายุขึ้น ทางด้านเขาวงกต
"เกิดอะไรขึ้น?" รอนที่ยืนสังเกตการอยู่นั้นพูดขึ้นด้วยความตกใจ
"เกิดอะไรขึ้นรอน" เฮอร์ไมโอนี่ยังคงจับมือผมไว้แน่น
"ดูเหมือนพายุกำลังก่อตัวขึ้น ในเขาวงกตนะ" รอนพูดอย่างเป็นกังวล ทำให้เฮอร์ไมโอนี่อยู่ไม่เป็นสุขขึ้นมาทันที
"...เชื่อฉันสิ!แฮรี่ต้องปลอดภัย" ผมพูดด้วยความเชื่อมั่น ผมก็ไม่ค่อยเข้าใจกติการภารกิจนี้ซักเท่าไหร่หรอก และยิ่งเป็นเขาวงกตนี่แล้วด้วย มันสามารถทำให้คนเราสติแตกขึ้นมากลางคันก็ได้ ใครจะรู้
ตึก ๆ ๆ มีอะไรบางอย่างในเขาวงกตนั้นแปลกไป...ผมเริ่มสังหรใจขึ้นมา แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป มือของยัยเฮอร์ไมโอนี่ยังกุมมือผมไว้แน่น...ยัยนี่กำลังตื่นเต้น หรือหวาดกลัวอะไรกันแน่ อ๊าก ! ~ ทำไมอยู่ดีๆ ผมถึงได้ปวดหัวขึ้นมา โดยไม่มีสาเหตุกันละ
"ฟีอัส...นายโอเคไหม?" เฮอร์ไมโอนี่ถามขึ้น
"โอเค...แค่ปวดหัวนิดหน่อย...เรื่องแค่นี้สบายมาก" ถึงผมจะพูดออกไปแบบนั้น แต่ดูหน้าตูสิซีดอย่างกะผีดูดเลือด
"เอ่อ...ฉันขอออกไปสูดอาการแถวๆนี้หน่อยนะ" พูดจบก็เดินออกไปทันที
การปฏิเสธว่าตัวเองไม่เป็นอะไรเลยนี่ จะเรียกว่าแมน หรือโง่ดีฟร๊ะ!! อาการปวดหัวแลดูจะไม่ลดลงเลยซักนิด ยิ่งรุนแรงขึ้นมาเรื่อยๆ ผมหยุดเดินแถวต้นไม้ใหญ่ใกล้ๆกับบริเวณสนามประลอง แต่จะคิดว่ามันเป็นความบังเอิญก็ไม่น่าจะใช่ เพราะไปที่ไหน ก็เจอแต่ยัยเท็นโนสึ สงสัยชอบเล่นเป็นพวกสโตกเกอร์ละมั้ง-[]-
"นี่มันวันซวยอะไรของฉันกันแน่นะ" พอเจอหน้าผมปุ๊บก็แขวะขึ้นมาทันที
"ฉันต่างหากละ...ที่ต้องเป็นคนพูด ประโยคนั้น" ผมเลยพูดตรอกกลับไปบ้าง แล้วสงครามการแขวะก็เริ่มต้นขึ้น -+-
อั๊ก! ~ สภาพของผมในตอนนี้เริ่มโรยราลงทุกที สกิลปากเริ่มไม่ทำงาน ใบหน้าของผมในตอนนี้ชุ่มฉ่ำไปด้วยหยดเหงื่อ หน้าซีดเผือก ผมทรุดตัวลงผิงกับต้นไม้ ยัยเทนโนสึก็พูดๆ ไปโดยที่ไม่ได้สนใจผมเลยสักนิด
"นายเงียบทำไม...ไม่เถียงต่อละ ยอมแพ้แล้วรึไง?" อาเธน่าที่พึ่งรู้สึกตัวว่า ตัวเองกำลังพูดอยู่คนเดียวถามขึ้นด้วยความแปลกใจ
~เงียบ.......~
"นี่...อย่านั่งหลับใส่คนอื่นหน้าตาเฉยสิย๊ะ" (น้องเอ๊ย!...มันใกล้ตายแล้วนะนั่น)
อาเธน่าหันกลับมามองชายที่นั่งพิงอยู่กับต้นไม้ด้วยความโมโห แต่แล้วเธอก็สัมผัสได้ถึงพลังมหาศาลที่ไหลเวียนออกมากจากตัวของฟีอัส
"นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย...ฟีอัส...ฟีอัส นายตื่นสิ"อาเธน่าเขย่าร่างของฟีอัสเบาๆ แสงสีเหลืองทองเปล่งประกายออกมาจากไม้กายสิทธิ์ของฟีอัส ก่อนดับวูบหายไป ปิ๊ง! ~
"มีบางอย่าง...ในตัวของหมอนี่กำลังตื่นขึ้น" อาเธน่านั่งคิดวิเคราะห์อยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอื้อมมือไปเปิดที่คอเสื้อของฟีอัส
"ไม่จริง...ทำไมของสิ่งนี้ถึงได้อยู่กับนาย" สร้อยคอรูปสายฟ้ากำลังเปล่งแสงสีดำออกมา มันกำลังเรียกร้องหาอะไรบางอย่าง...ของบางอย่างที่มันถูกสร้างขึ้นมาพร้อมกัน
"หรือว่า...ของทั้งสองสิ่งที่หายไปจาก โอลิมเปียอยู่กับเด็กสองคนนี้...พวกเค้าขโมยมันมางั้นหรอ?" อาเธน่านั่งครุ่นคิดอยู่นาน
"นี่เรา...มัวนั่งคิดอะไรอยู่กันแน่...ฉันต้องรีบปิดผนึกมันซะก่อน" อาเธน่าหยิบสร้อยคอรูปสายฟ้าขึ้นมา ก่อนที่จะเอามือลูบที่สายฟ้า เพื่อปิดผนึก....แต่เธอคิดผิดมหัน ที่จะปิดผนึกพลังนั้น ฟีอัสลืมตาตื่นขึ้น ก่อนจะผลักตัวของอาเธน่าให้ถอยห่างออกไป
"อย่าคิด...ที่จะปิดผนึกข้าง่ายๆ ...ข้ารอเวลานี้มาชั่วอายุของข้า ข้าจะไม่ยอมให้เจ้ามาปิดผนึกมันไปง่ายๆหรอก"ฟีอัสกำลังถูกสร้อยคอควบคุมความนึกคิด และจิตใจของเค้าอยู่
"แต่เค้าไม่รู้เรื่องอะไรด้วย..." อาเธน่าตะโกนออกมา
"ใช่...ข้าถึงได้บอกเจ้าไง...อย่าริอาจมาปิดผนึกขุมพลัง...มันเป็นชะตาที่ฟ้าลิขิตมันมาแบบนั้น...แล้วสักวันเจ้าจะเข้าใจ..."
"ฉันไม่เข้าใจ...เค้าไม่มีทางควบคุมพลังของท่านได้หรอก...เค้าทำไม่ได้...ไม่มีวันทำได้" อาเธน่ากำมือไว้แน่น
"หึ!อย่าดูถูกเจ้าเด็กคนนี้ ให้มันมากนัก...พลังในตัวของเจ้านี่นะเหลือล้น...ครึ่งเทพ...ครึ่งพ่อมด จะมีอะไรที่ดีไปกว่านี้ละ"
"ท่านต้องการอะไรกันแน่...จุดประสงค์ที่แท้จริงของท่าน? "
"สงคราม...ของมวลมหาเทพไงละ...การแย่งชิง กำลังจะเริ่มต้นขึ้น...ข้าจะรอเวลา วันที่ผนึกในแหวนวงนั้น ถูกคลายออก...หลังจากวันนั้นสงครามของเหล่ามหาเทพทั้งหลาย...จะเริ่มต้นขึ้น" อาเธน่าเมื่อได้ยินดังนั้นถึงกับผงะไปชั่วครู่ เธอคิดย้อนกลับไปในวันนั้น เธอน่าจะทำลายของทั้งสองชิ้นนี้ซะ...เธอได้แต่เจ็บแค้นตัวเองในใจ
"ฉันจะไม่ยอม...ให้สงครามนั้นเกิดขึ้นอย่างแน่นอน" อาเธน่าประกาศขึ้น
"หึ!ข้าจะรอจนกว่าจะถึงวันนั้น...วันที่ตำนานของโอลิมปัสจะเลือนหายไปตลอดกาล"
ตุ๊บ! ~ เสียงฟีอัสสลบเหมือดไปกองกับพื้น อาเธน่าถลาเข้าไปหาร่างของฟีอัสที่นอนแน่นิ่ง
"นี่ไม่ใช่พลังที่แท้จริงของสร้อยเส้นนี้...มันถูกควบคุมโดยอะไรบางอย่าง...พลังบางอย่างที่ถูกกักขัง อยู่ในโอลิมเปีย" อาเธน่าพยายามนึกถึงเรื่องราวที่เกี่อวกับข้องกับสร้อยเส้นนี้ ก่อนที่มันจะหายไปจากโอลิมเปีย
เสียงเฮดังไปทั่วสนาม อาเธน่าถึงกับหลุดออกจากภวังค์ห้วงแห่งความคิดนั้น ก่อนที่จะพยุงร่างอันหนักอึ้งนี้ไปส่งที่เต้นท์พยาบาล
---สนามประลอง---
แฮรี่ที่นอนกอดร่างของเซดดริกอยู่นั้น เรียกความสงสัยจกคนดูได้เป็นอย่างดี เสียงดนตรียังคงบรรเลงต่อไป
"แฮรี่..."ดัมเบิลดอร์เดินตรงเข้ามาหาแฮรี่ทันที
"เค้ากลับมา..." แฮรี่นอนกอดร่างที่ไร้วิณญาณของเซดดิกเอาไว้ พร้อมกับเสียงสะอื้น เสียงบรรเลงดนตรีแห่งชัยชนะหยุดลงทันที
"ใจเย็นๆ แฮรี่...เกิดอะไรขึ้น? ดัมเบิลดอร์ถามขึ้น
"เค้าฆ่าเซดดริก!....เซดดริกของร้องให้ผมพาร่างของเค้ากลับมา..." แฮรี่พยายามควบคุมสติตัวเอง แต่ก็ทำได้เพียงแค่ร้องไห้ นักเรียนหลายคนเริ่มสงสัยกับเหตุการณ์ที่อยู่ตรงหน้า
"พาเค้ากลับเข้าไปในปราสาทก่อน...ที่นี่มีคนเยอะเกินไป" ดัมเบิลดอร์เอ่ยขึ้น ศาสตราจารย์มูดดี้จึงลากแฮรี่ให้กลับไปที่ปราสาท
โชที่นั่งอยู่กับธีน่า เริ่มปล่อยโฮออกมา เธอโผลเข้ากอดธีน่าด้วยความเจ็บปวด...การจากไปของเซดดริกทำให้เรื่องทุกอย่างเลวร้ายขึ้น การสูญเสียอีกนับร้อยพันชีวิตกำลังกระหน่ำซัดเข้ามา ในชีวิตของเด็กชายผู้รอดชีวิตตผู้นี้
และ...การแย่งชิงพลังอำนาจกำลังก่อตัวขึ้น สงครามระหว่างทั้งสองโลกกำลังปะทุขึ้นอีกครั้ง...
To Be Continue
"เย้!!!จบไปหนึ่งภาค...ตอนแรกคิดว่าจะรีไรท์เป็นบางตอน...แต่ไหงถึงรีไรท์มันทุกตอนเลยหว่า....พอๆๆ ขอหนึ่งเม้นเพื่อกำลังใจครัช^^
"ขอบใจนายมาก...ที่เป็นห่วง"แฮรี่คลี่ยิ้มออกมา
"กลับไปพักผ่อนเหอะเพื่อน...พรุ่งนี้รับศึกหนักเลยนี่" ฟีอัสเอามือตบไหล่แฮรี่เบาๆ
"แล้วนายละ?"
"อีกสักพักละมั้ง...ฉันยังไม่ค่อยง่วง" ฟีอัสหันไปตอบแฮรี่ก่อนที่จะ หยิบกีต้าร์คู่ใจขึ้นมา
"งั้นฉันขอตัวนะ" แล้วแฮรี่ก็เดินกลับขึ้นหอพักไป
ภารกิจสุดท้าย ของการประลองกำลังจะเริ่มต้นขึ้นเสียงเฮดังลั่นไปทั่วสนาม บวกกับเสียงบรรเลงดนตรีของบ้านฮัฟเฟิลพัฟ มันช่างน่าตื่นเต้นเสียนี่กระไร ฟีอัสนั่งอยู่ที่บนอัฒจรรย์คนดู ข้างๆของฟีอัสคือเฮอร์ไมโอนี่กับรอน ...แล้วก็มีคนสติเฟื่องบางคนเดินเข้ามาทักทาย
"หวาดดี...ฟีอัส" น้ำเสียงที่ฟังดูเหนื่อยล้านั้นทักทายอย่างเป็นกันเอง
"เอ่อ...หวัดดี...มาสคอตที่น่าสมเพชนั่นมันอะไรกันนะ" ฟีอัสเลิกคิ้วขึ้น
"อ่อ...หัวสิงโตของกริฟฟินดอร์ไงน่ารักไหมละ?" น้ำเสียงที่ชวนให้รู้สึกอ่อนล้าพูดขึ้น
"เห่อ...มันเข้ากับเธอดีนะ" ฟีอัสยิ้มแห้งๆ
"ขอบจัย...ฉันไปก่อนนะ" หญิงสาวสติเฟื่อยพูดเอื้อนเอ่ยก่อนเดินตรงไปหาธีน่า
ก่อนจะเริ่มการแข่งขันดัมเบิลดอร์ก็กล่าวทักทายและกติการของภาระกิจนี้ก่อนเสียงปืนใหญ่จะดังขึ้น แฮรี่ กับ เซดดริกเข้าไปในเขาวงกตเป็นกลุ่มแรก ตามมาด้วยวิกเตอร์ และ เฟลอ เสียงเฮดังลั่นไปทั่วสนาม
เวลาผ่านไปเกือบยี่สิบนาที ก็มีพลุสีแดงลอยขึ้นไปบนฟ้า แสดงถึงการขอออกจากภาระกิจ
"คุณเฟลอ เดอลากูนได้ออกจากการแข่งขัน" เสียงบรรยายดังขึ้น พร้อมๆกับร่างของเฟลอที่นอนแผ่กลางลานประลอง หลังจากนั้นไม่นาน ก็มีคนอุ้มร่างของเธอกลับไปยังเต้นท์พยาบาล
"ภารกิจสุดท้ายไม่ใช่เล่นๆเลย...โหดไปปะวะ" ฟีอัสพูดขึ้น รอนถึงกับทำหน้าเหวอ ส่วนเฮอร์ไมโอนี่ได้แต่นั่งทำสีหน้าเคร่งเครียด
เวลาผ่าไปครึ่งชั่วโมง ก็มีพลุลอยขึ้นเหนือเขวงกตอีกครั้ง
"วิกเตอร์ ครัม ได้ออกจากการแข่งขันครับ" และเป็นอีกครั้งเสียงดนตรียิ่งบรรเลงดังขึ้นอย่างสนุกสนาน
"แฮรี่...จะไหวไหมเนี่ย" เฮอร์ไมโอนี่ที่นั่งทำหน้าเครียดอยู่นานพูดขึ้น พร้อมจับมือผมไว้แน่น
"ไม่ต้องห่วงหรอก เฮอร์ไมโอนี่...หมอนั่นอึดยิ่งกว่าหินซะอีก" ฟีอัสหันไปยิ้มให้กับเฮอร์ไมโอนี่
"อื้อ..." อยู่ดีๆท้องฟ้าอันสดใสก็เริ่มก่อตัวเป็นพายุขึ้น ทางด้านเขาวงกต
"เกิดอะไรขึ้น?" รอนที่ยืนสังเกตการอยู่นั้นพูดขึ้นด้วยความตกใจ
"เกิดอะไรขึ้นรอน" เฮอร์ไมโอนี่ยังคงจับมือผมไว้แน่น
"ดูเหมือนพายุกำลังก่อตัวขึ้น ในเขาวงกตนะ" รอนพูดอย่างเป็นกังวล ทำให้เฮอร์ไมโอนี่อยู่ไม่เป็นสุขขึ้นมาทันที
"...เชื่อฉันสิ!แฮรี่ต้องปลอดภัย" ผมพูดด้วยความเชื่อมั่น ผมก็ไม่ค่อยเข้าใจกติการภารกิจนี้ซักเท่าไหร่หรอก และยิ่งเป็นเขาวงกตนี่แล้วด้วย มันสามารถทำให้คนเราสติแตกขึ้นมากลางคันก็ได้ ใครจะรู้
ตึก ๆ ๆ มีอะไรบางอย่างในเขาวงกตนั้นแปลกไป...ผมเริ่มสังหรใจขึ้นมา แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป มือของยัยเฮอร์ไมโอนี่ยังกุมมือผมไว้แน่น...ยัยนี่กำลังตื่นเต้น หรือหวาดกลัวอะไรกันแน่ อ๊าก ! ~ ทำไมอยู่ดีๆ ผมถึงได้ปวดหัวขึ้นมา โดยไม่มีสาเหตุกันละ
"ฟีอัส...นายโอเคไหม?" เฮอร์ไมโอนี่ถามขึ้น
"โอเค...แค่ปวดหัวนิดหน่อย...เรื่องแค่นี้สบายมาก" ถึงผมจะพูดออกไปแบบนั้น แต่ดูหน้าตูสิซีดอย่างกะผีดูดเลือด
"เอ่อ...ฉันขอออกไปสูดอาการแถวๆนี้หน่อยนะ" พูดจบก็เดินออกไปทันที
การปฏิเสธว่าตัวเองไม่เป็นอะไรเลยนี่ จะเรียกว่าแมน หรือโง่ดีฟร๊ะ!! อาการปวดหัวแลดูจะไม่ลดลงเลยซักนิด ยิ่งรุนแรงขึ้นมาเรื่อยๆ ผมหยุดเดินแถวต้นไม้ใหญ่ใกล้ๆกับบริเวณสนามประลอง แต่จะคิดว่ามันเป็นความบังเอิญก็ไม่น่าจะใช่ เพราะไปที่ไหน ก็เจอแต่ยัยเท็นโนสึ สงสัยชอบเล่นเป็นพวกสโตกเกอร์ละมั้ง-[]-
"นี่มันวันซวยอะไรของฉันกันแน่นะ" พอเจอหน้าผมปุ๊บก็แขวะขึ้นมาทันที
"ฉันต่างหากละ...ที่ต้องเป็นคนพูด ประโยคนั้น" ผมเลยพูดตรอกกลับไปบ้าง แล้วสงครามการแขวะก็เริ่มต้นขึ้น -+-
อั๊ก! ~ สภาพของผมในตอนนี้เริ่มโรยราลงทุกที สกิลปากเริ่มไม่ทำงาน ใบหน้าของผมในตอนนี้ชุ่มฉ่ำไปด้วยหยดเหงื่อ หน้าซีดเผือก ผมทรุดตัวลงผิงกับต้นไม้ ยัยเทนโนสึก็พูดๆ ไปโดยที่ไม่ได้สนใจผมเลยสักนิด
"นายเงียบทำไม...ไม่เถียงต่อละ ยอมแพ้แล้วรึไง?" อาเธน่าที่พึ่งรู้สึกตัวว่า ตัวเองกำลังพูดอยู่คนเดียวถามขึ้นด้วยความแปลกใจ
~เงียบ.......~
"นี่...อย่านั่งหลับใส่คนอื่นหน้าตาเฉยสิย๊ะ" (น้องเอ๊ย!...มันใกล้ตายแล้วนะนั่น)
อาเธน่าหันกลับมามองชายที่นั่งพิงอยู่กับต้นไม้ด้วยความโมโห แต่แล้วเธอก็สัมผัสได้ถึงพลังมหาศาลที่ไหลเวียนออกมากจากตัวของฟีอัส
"นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย...ฟีอัส...ฟีอัส นายตื่นสิ"อาเธน่าเขย่าร่างของฟีอัสเบาๆ แสงสีเหลืองทองเปล่งประกายออกมาจากไม้กายสิทธิ์ของฟีอัส ก่อนดับวูบหายไป ปิ๊ง! ~
"มีบางอย่าง...ในตัวของหมอนี่กำลังตื่นขึ้น" อาเธน่านั่งคิดวิเคราะห์อยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอื้อมมือไปเปิดที่คอเสื้อของฟีอัส
"ไม่จริง...ทำไมของสิ่งนี้ถึงได้อยู่กับนาย" สร้อยคอรูปสายฟ้ากำลังเปล่งแสงสีดำออกมา มันกำลังเรียกร้องหาอะไรบางอย่าง...ของบางอย่างที่มันถูกสร้างขึ้นมาพร้อมกัน
"หรือว่า...ของทั้งสองสิ่งที่หายไปจาก โอลิมเปียอยู่กับเด็กสองคนนี้...พวกเค้าขโมยมันมางั้นหรอ?" อาเธน่านั่งครุ่นคิดอยู่นาน
"นี่เรา...มัวนั่งคิดอะไรอยู่กันแน่...ฉันต้องรีบปิดผนึกมันซะก่อน" อาเธน่าหยิบสร้อยคอรูปสายฟ้าขึ้นมา ก่อนที่จะเอามือลูบที่สายฟ้า เพื่อปิดผนึก....แต่เธอคิดผิดมหัน ที่จะปิดผนึกพลังนั้น ฟีอัสลืมตาตื่นขึ้น ก่อนจะผลักตัวของอาเธน่าให้ถอยห่างออกไป
"อย่าคิด...ที่จะปิดผนึกข้าง่ายๆ ...ข้ารอเวลานี้มาชั่วอายุของข้า ข้าจะไม่ยอมให้เจ้ามาปิดผนึกมันไปง่ายๆหรอก"ฟีอัสกำลังถูกสร้อยคอควบคุมความนึกคิด และจิตใจของเค้าอยู่
"แต่เค้าไม่รู้เรื่องอะไรด้วย..." อาเธน่าตะโกนออกมา
"ใช่...ข้าถึงได้บอกเจ้าไง...อย่าริอาจมาปิดผนึกขุมพลัง...มันเป็นชะตาที่ฟ้าลิขิตมันมาแบบนั้น...แล้วสักวันเจ้าจะเข้าใจ..."
"ฉันไม่เข้าใจ...เค้าไม่มีทางควบคุมพลังของท่านได้หรอก...เค้าทำไม่ได้...ไม่มีวันทำได้" อาเธน่ากำมือไว้แน่น
"หึ!อย่าดูถูกเจ้าเด็กคนนี้ ให้มันมากนัก...พลังในตัวของเจ้านี่นะเหลือล้น...ครึ่งเทพ...ครึ่งพ่อมด จะมีอะไรที่ดีไปกว่านี้ละ"
"ท่านต้องการอะไรกันแน่...จุดประสงค์ที่แท้จริงของท่าน? "
"สงคราม...ของมวลมหาเทพไงละ...การแย่งชิง กำลังจะเริ่มต้นขึ้น...ข้าจะรอเวลา วันที่ผนึกในแหวนวงนั้น ถูกคลายออก...หลังจากวันนั้นสงครามของเหล่ามหาเทพทั้งหลาย...จะเริ่มต้นขึ้น" อาเธน่าเมื่อได้ยินดังนั้นถึงกับผงะไปชั่วครู่ เธอคิดย้อนกลับไปในวันนั้น เธอน่าจะทำลายของทั้งสองชิ้นนี้ซะ...เธอได้แต่เจ็บแค้นตัวเองในใจ
"ฉันจะไม่ยอม...ให้สงครามนั้นเกิดขึ้นอย่างแน่นอน" อาเธน่าประกาศขึ้น
"หึ!ข้าจะรอจนกว่าจะถึงวันนั้น...วันที่ตำนานของโอลิมปัสจะเลือนหายไปตลอดกาล"
ตุ๊บ! ~ เสียงฟีอัสสลบเหมือดไปกองกับพื้น อาเธน่าถลาเข้าไปหาร่างของฟีอัสที่นอนแน่นิ่ง
"นี่ไม่ใช่พลังที่แท้จริงของสร้อยเส้นนี้...มันถูกควบคุมโดยอะไรบางอย่าง...พลังบางอย่างที่ถูกกักขัง อยู่ในโอลิมเปีย" อาเธน่าพยายามนึกถึงเรื่องราวที่เกี่อวกับข้องกับสร้อยเส้นนี้ ก่อนที่มันจะหายไปจากโอลิมเปีย
เสียงเฮดังไปทั่วสนาม อาเธน่าถึงกับหลุดออกจากภวังค์ห้วงแห่งความคิดนั้น ก่อนที่จะพยุงร่างอันหนักอึ้งนี้ไปส่งที่เต้นท์พยาบาล
---สนามประลอง---
แฮรี่ที่นอนกอดร่างของเซดดริกอยู่นั้น เรียกความสงสัยจกคนดูได้เป็นอย่างดี เสียงดนตรียังคงบรรเลงต่อไป
"แฮรี่..."ดัมเบิลดอร์เดินตรงเข้ามาหาแฮรี่ทันที
"เค้ากลับมา..." แฮรี่นอนกอดร่างที่ไร้วิณญาณของเซดดิกเอาไว้ พร้อมกับเสียงสะอื้น เสียงบรรเลงดนตรีแห่งชัยชนะหยุดลงทันที
"ใจเย็นๆ แฮรี่...เกิดอะไรขึ้น? ดัมเบิลดอร์ถามขึ้น
"เค้าฆ่าเซดดริก!....เซดดริกของร้องให้ผมพาร่างของเค้ากลับมา..." แฮรี่พยายามควบคุมสติตัวเอง แต่ก็ทำได้เพียงแค่ร้องไห้ นักเรียนหลายคนเริ่มสงสัยกับเหตุการณ์ที่อยู่ตรงหน้า
"พาเค้ากลับเข้าไปในปราสาทก่อน...ที่นี่มีคนเยอะเกินไป" ดัมเบิลดอร์เอ่ยขึ้น ศาสตราจารย์มูดดี้จึงลากแฮรี่ให้กลับไปที่ปราสาท
โชที่นั่งอยู่กับธีน่า เริ่มปล่อยโฮออกมา เธอโผลเข้ากอดธีน่าด้วยความเจ็บปวด...การจากไปของเซดดริกทำให้เรื่องทุกอย่างเลวร้ายขึ้น การสูญเสียอีกนับร้อยพันชีวิตกำลังกระหน่ำซัดเข้ามา ในชีวิตของเด็กชายผู้รอดชีวิตตผู้นี้
และ...การแย่งชิงพลังอำนาจกำลังก่อตัวขึ้น สงครามระหว่างทั้งสองโลกกำลังปะทุขึ้นอีกครั้ง...
To Be Continue
"เย้!!!จบไปหนึ่งภาค...ตอนแรกคิดว่าจะรีไรท์เป็นบางตอน...แต่ไหงถึงรีไรท์มันทุกตอนเลยหว่า....พอๆๆ ขอหนึ่งเม้นเพื่อกำลังใจครัช^^
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น