ลำดับตอนที่ #17
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #17 : Chapter : Harry
....กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีก...
"เจอตัวยัยนั่นแล้วใช่ไหม?...ได้ฉันจะจัดการเรื่องนี้ให้จบ ก่อนที่ยัยนั่นจะได้ของชิ้นนั้นไป" (แสยะยิ้มที่มุมปาก) แล้ววางสายโทรศัพท์
"ผมจะจัดการกับคุณหนูยังไงดี" (ยิ้มแบบเจ้าเล่ห์)
....ในขณะที่ตัวร้ายปรากฏตัวขึ้นในตอนต้นเรื่องแบบมึนตึบนั้น เราไปติดตามชีวิตของชายหนุ่มที่แสนจะน่าสงสารกันดีกว่าครับ....
สวัสดีฮะ ผมแฮรี่ พอตเตอร์ ใช่!ทุกคนรู้จักผมดี...เด็กชายผู้รอดชีวิต ทุกคนเรียกผมแบบนั้น แต่ใครจะรู้ว่าการที่มีชีวิตรอดมาถึงทุกวันนี้ได้ ผมเจออะไรมาบ้าง ผมต้องสูญเสียคนที่ผมรักไปกี่คน พวกเค้ายอมสละชีวิตเพื่อช่วยผม แต่ผมไม่ได้ต้องการมันเลยซักนิด ทั้งพ่อ แม่ และเพื่อนร่วมโรงเรียน อย่างเซดดริก ผมรับมันไม่ไหวอีกแล้วกับการที่ผมต้องเห็นคนที่ผมรัก ตายไปต่อหน้าต่อตา โดยที่ผมทำอะไรไม่ได้เลย ผมได้แต่โทษตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า ถ้าในวันนั้นผมเลือกได้ ผมจะยอมตายไปกับพ่อและแม่ของผม ดีกว่าต้องมาทนทุกข์ทรมานกับชีวิตแบบนี้
กึ๊ก ๆ ๆ เสียงเฮ็ดวิกที่พยายามจะออกจากกรง
"ฉันปล่อยนายออกไปไม่ได้หรอก ลุงเวอร์นอนสั่งไว้ ขอโทษด้วยจริงๆ" ผมพยายามกล่อมให้นกฮูกของผมสงบสติอารมณ์ ใช่เฮดกริดเป็นนก มันก็ต้องอยากออกไปบินเล่นข้างนอกบ้างสิ! ผมทนอยู่กับครอบครัวเดอร์สลีย์มา15ปี พวกเค้าเห็นผมเป็นแค่คนอาศัย คิดจะใช้ผมยังไงก็ได้ ผมรู้ว่าป้ากับลุงไม่เคยรักผมเลย แต่ผมก็ไม่ได้ต้องการความรักจากพวกเค้าหรอก ผมเริ่มเฉยชาทุกครั้งที่กลับมาอยู่ในบ้านหลังนี้ บ้านที่มีเพียงเฮ็ดวิกเท่านั้นที่เข้าใจผมดีที่สุด
'แฮรี่!!!! แกลงมาล้างจานได้แล้ว' เสียงตะโกนของลุงเวอร์นอนทำให้ผมหลุดออกจากภวังค์ของตัวเอง ผมถอนหายใจก่อนที่จะเดินลงไปยังโต๊ะอาหาร เพื่อเก็บจานชามเอาไปล้าง ผมบอกแล้วไงผมแค่คนอาศัยไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธเจ้าของบ้านหรอกฮะ มื้อค่ำที่น่าอร่อยผมไม่มีทางได้ทานมันหรอก ผมทานได้แค่เศษอาหารที่เหลือจากพวกเดอร์สลีย์เท่านั้น ผมคิดถึงครอบครัวของรอนขึ้นมาทันที ผมได้รับความช่วยเหลือ จากครอบครัววีสลีย์ ตั้งแต่ผมเข้าเรียนที่ฮอกวอตส์ ผมรักพวกเค้าทุกคน พวกเค้าเหมือนครอบครัวของผม พวกเค้าเข้ามาเติมเต็มคำว่าความสุขให้กับตัวผมเอง
เมื่อผมล้างจานชามเสร็จผมก็รีบเดินกลับขึ้นมาบนห้องนอนทันที เมื่อผมเปิดประตูเข้ามาก็เห็นจดหมายฉบับหนึ่งวางอยู่บนเตียง ผมรีบหยิบอ่านทันที
'ห้าทุ่มตรงเจอกันที่สนามหน้าบ้านของนาย
Orpeus'
"หมอนี่คิดจะทำอะไรเนี่ย แล้วมันเข้ามาได้ไง ประตูหน้าต่างล็อกไว้อยู่ เป็นพวกย่องเบารึไงฟร๊ะ" ผมบ่นงึมงำก่อนจะหันไปมองที่นาฬิกา จะห้าทุ่มตรงแล้วนี่หว่า แล้วผมจะลงไปยังไง สนามหน้าบ้านเอาไรคิดฟร๊ะ กะให้ตูโดนกักบริเวณรึไง ผมเริ่มลนลาน คิดหาวิธีลงไปพบไอร่เพื่อนปัญญาอ่อนที่ชอบคิดอะไรตามใจตัวเอง
ก๊อก ๆ ๆ เสียงเคาะหน้าต่าง ผมหันไปมองที่หน้าต่าง ก็เจอกับไอร่เพื่อนเจ้าปัญหา นั่งอยู่บนไม้กวาดอย่างสบายใจ ดูแล้วมันไม่ทุกข์ร้อนอะไรเลยสักนิด ผมรีบเปิดประตูหน้าต่าง
"ไง!สหาย...ฉันคิดไว้แล้วว่านายต้องไม่ลงมาเจอฉัน หาวิธีลงไปไม่ได้สิท่า (ยิ้มแบบเจ้าเล่ห์)" ฟีอัสยิ้มมันกวนบาทาก็ว่าได้ ผมอยากจะด่าหมอนี่จะตายชัก แต่ถึงด่าไปก็ไม่สะทกสะท้านขั้วหัวใจหมอนี่เลยสักนิด ผมเลยเลือกที่จะยิ้มตอบกลับไป
"นายมาที่นี่ทำไมดึกดื่นป่านนี้กันฟร๊ะ?" ผมเลิ้กคิ้วขึ้น
"ไม่มีอะไรมากเพื่อน แค่เบื่อๆ เอ่อ...สารรูปนายดูไม่ได้เลยแฮรี่ ไม่เจอกันแค่เดือนเดียวนี่นายเหมือนกับซากศพเดินได้เลยเพื่อน" ผมถึงกับทำตาถลึงใส่ฟีอัสทันที ดูปากมันซะก่อนไม่ได้ลดละเลยซักนิด ผมไม่แปลกใจหรอกนะที่จะโดนเฮอร์ไมโอนี่เอาหนังสือฟาดหน้าเข้าให้บ่อยๆ
"วาจาปากแมวก็เหมือนเดิมเลยนะฟีอัส" ผมสแยะยิ้มก่อนจะหัวเราะเบาๆในลำคอ
"ว่าแต่นายเหอะหิวไหมเพื่อน?" ผมเลิกคิ้วขึ้นอีกครั้ง หมอนี่ต้องการอะไรกันแน่
"นิดหน่อยนะ" ผมตอบแบบนั้นก็จริง แต่ท้องผมร้องเหมือนมันจะบอกผมว่าของสเต็กเนื้อชิ้นใหญ่ๆสักชิ้นหนึ่ง
"มาสิพวก!ไปหาอะไรทานกัน" ผมถึงกับพะงาบๆพูดอะไรไม่ออก
ก๊อก ๆ ๆ เสียงเคาะประตูห้อง ผมรีบบอกให้ฟีอัสหาที่ซ่อน แล้วผมก็เดินไปเปิดประตู ทำเหมือนทุกอย่างปกติดี
"แกคุยกับใครอยู่?" ลุงเวอร์นอนถามขึ้นเค้าดูจะโมโหมากเวลาที่เห็นหน้าผม
"ป่าวนี่ครับ ผมแค่คุยกับเฮ็ดวิก"ผมตอบแบบไม่ได้ใส่ใจ
"อย่าให้ฉันรู้นะว่าแกมีลับลมคมในอะไร ไม่งั้นฉันจะเฉดหัวแกไปอยู่บ้านเด็กกำพร้าทันที ที่แกก่อปัญหาให้ฉัน" เม่อลุงเวอร์นอนพูดจบเค้าก็เดินออกไปจากห้องของผมทันที
"ตาแก่นี่มีปัญหาทางจิตใจรึไง?"เสียงฟีอัสเอื่อนเอ่ยออกมา
"ฉันไปกับนายไม่ได้หรอกเพื่อน นายไปเหอะ" ผมพูดด้วยความหมดหวัง ผมดีใจมากที่ได้เจอฟีอัส ตลอดทั้งเดือนผมได้แค่ส่งจดหมายให้กับรอน และเฮอร์ไมโอนี่ ส่วนหมอนี่เป็นประเภทไม่ชอบเขียนจดหมายเลยมักจะโทรหาผมซะมากกว่า แต่ผมก็ต้องโดนลุงเวอร์นอนด่าผมบ่อยๆ เพราะเรื่องนี้ด้วย ผมไม่คิดว่าจะเจอหมอนี่ในเวลาแบบนี้จริงๆ
"ไม่เอาน่าแฮรี่...ฉันมาเที่ยวหานายทั้งทีออกไปด้วยกันมันจะเป็นอะไรไป นายไม่ต้องกลัวว่าลุงนายจะจับได้หรอกน่า" ฟีอัสพูดเหมือนสบายใจหายห่วงอะไรเทือกนั้นรึป่าววะ ผมลังเลอยู่นาน
"ได้!แค่ชั่วโมงเดียวนะ"
"หายห่วง...ขึ้นมาเลยพวก" ฟีอัสยิ้มหน้าบานเมื่อผมตอบตกลง ผมค่อยๆปีนออกจากหน้าต่าง แล้วขึ้นไปนั่งบนไม้กวาดของฟีอัส
"นายไม่กลัวคนของกระทรวงเห็นรึไง เอาไม้กวาดออกมาบินโชว์ให้พวกมักเกิ้ลเห็นแบบนี้"
"อย่าลืมสิแฮรี่...นี่ใคร...ออร์ฟีอัสนะเว้ย" ผมแทบอยากถีบมันลงจากไม้กวาดทันทีที่พูดจบ
~หนึ่งชั่วโมงผ่านไปไวเหมือนโกหก~
"แฮรี่!ไว้วันหลังฉันจะมารับนายไปท่องโลกยามราตรีฉบับพ่อมด กันอีกนะเว้ย"ฟีอัสเอามือตบไหล่ผมเบาๆ
"ฉันก็หวังว่ามันจะราบรื่นเหมือนวันนี้นะเพื่อน" ผมยิ้มแห้งๆ เมื่อผมกลับเข้ามาอยู่ในห้องอันเงียบเหงานี้อีกครั้ง ความสุขมันก็ผ่านไปเร็วแบบนี้เสมอ
"อย่าทำหน้าหมดอาลัยสิเพื่อน อีกไม่กี่เดือนก็จะเปิดเทอมแล้ว ไว้เจอกันเมื่อชาติต้องการ" เมื่อฟีอัสพูดจบก็รีบบึ่งไม้กวาดหายไปในความมืดทันที
"เจอตัวยัยนั่นแล้วใช่ไหม?...ได้ฉันจะจัดการเรื่องนี้ให้จบ ก่อนที่ยัยนั่นจะได้ของชิ้นนั้นไป" (แสยะยิ้มที่มุมปาก) แล้ววางสายโทรศัพท์
"ผมจะจัดการกับคุณหนูยังไงดี" (ยิ้มแบบเจ้าเล่ห์)
....ในขณะที่ตัวร้ายปรากฏตัวขึ้นในตอนต้นเรื่องแบบมึนตึบนั้น เราไปติดตามชีวิตของชายหนุ่มที่แสนจะน่าสงสารกันดีกว่าครับ....
สวัสดีฮะ ผมแฮรี่ พอตเตอร์ ใช่!ทุกคนรู้จักผมดี...เด็กชายผู้รอดชีวิต ทุกคนเรียกผมแบบนั้น แต่ใครจะรู้ว่าการที่มีชีวิตรอดมาถึงทุกวันนี้ได้ ผมเจออะไรมาบ้าง ผมต้องสูญเสียคนที่ผมรักไปกี่คน พวกเค้ายอมสละชีวิตเพื่อช่วยผม แต่ผมไม่ได้ต้องการมันเลยซักนิด ทั้งพ่อ แม่ และเพื่อนร่วมโรงเรียน อย่างเซดดริก ผมรับมันไม่ไหวอีกแล้วกับการที่ผมต้องเห็นคนที่ผมรัก ตายไปต่อหน้าต่อตา โดยที่ผมทำอะไรไม่ได้เลย ผมได้แต่โทษตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า ถ้าในวันนั้นผมเลือกได้ ผมจะยอมตายไปกับพ่อและแม่ของผม ดีกว่าต้องมาทนทุกข์ทรมานกับชีวิตแบบนี้
กึ๊ก ๆ ๆ เสียงเฮ็ดวิกที่พยายามจะออกจากกรง
"ฉันปล่อยนายออกไปไม่ได้หรอก ลุงเวอร์นอนสั่งไว้ ขอโทษด้วยจริงๆ" ผมพยายามกล่อมให้นกฮูกของผมสงบสติอารมณ์ ใช่เฮดกริดเป็นนก มันก็ต้องอยากออกไปบินเล่นข้างนอกบ้างสิ! ผมทนอยู่กับครอบครัวเดอร์สลีย์มา15ปี พวกเค้าเห็นผมเป็นแค่คนอาศัย คิดจะใช้ผมยังไงก็ได้ ผมรู้ว่าป้ากับลุงไม่เคยรักผมเลย แต่ผมก็ไม่ได้ต้องการความรักจากพวกเค้าหรอก ผมเริ่มเฉยชาทุกครั้งที่กลับมาอยู่ในบ้านหลังนี้ บ้านที่มีเพียงเฮ็ดวิกเท่านั้นที่เข้าใจผมดีที่สุด
'แฮรี่!!!! แกลงมาล้างจานได้แล้ว' เสียงตะโกนของลุงเวอร์นอนทำให้ผมหลุดออกจากภวังค์ของตัวเอง ผมถอนหายใจก่อนที่จะเดินลงไปยังโต๊ะอาหาร เพื่อเก็บจานชามเอาไปล้าง ผมบอกแล้วไงผมแค่คนอาศัยไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธเจ้าของบ้านหรอกฮะ มื้อค่ำที่น่าอร่อยผมไม่มีทางได้ทานมันหรอก ผมทานได้แค่เศษอาหารที่เหลือจากพวกเดอร์สลีย์เท่านั้น ผมคิดถึงครอบครัวของรอนขึ้นมาทันที ผมได้รับความช่วยเหลือ จากครอบครัววีสลีย์ ตั้งแต่ผมเข้าเรียนที่ฮอกวอตส์ ผมรักพวกเค้าทุกคน พวกเค้าเหมือนครอบครัวของผม พวกเค้าเข้ามาเติมเต็มคำว่าความสุขให้กับตัวผมเอง
เมื่อผมล้างจานชามเสร็จผมก็รีบเดินกลับขึ้นมาบนห้องนอนทันที เมื่อผมเปิดประตูเข้ามาก็เห็นจดหมายฉบับหนึ่งวางอยู่บนเตียง ผมรีบหยิบอ่านทันที
'ห้าทุ่มตรงเจอกันที่สนามหน้าบ้านของนาย
Orpeus'
"หมอนี่คิดจะทำอะไรเนี่ย แล้วมันเข้ามาได้ไง ประตูหน้าต่างล็อกไว้อยู่ เป็นพวกย่องเบารึไงฟร๊ะ" ผมบ่นงึมงำก่อนจะหันไปมองที่นาฬิกา จะห้าทุ่มตรงแล้วนี่หว่า แล้วผมจะลงไปยังไง สนามหน้าบ้านเอาไรคิดฟร๊ะ กะให้ตูโดนกักบริเวณรึไง ผมเริ่มลนลาน คิดหาวิธีลงไปพบไอร่เพื่อนปัญญาอ่อนที่ชอบคิดอะไรตามใจตัวเอง
ก๊อก ๆ ๆ เสียงเคาะหน้าต่าง ผมหันไปมองที่หน้าต่าง ก็เจอกับไอร่เพื่อนเจ้าปัญหา นั่งอยู่บนไม้กวาดอย่างสบายใจ ดูแล้วมันไม่ทุกข์ร้อนอะไรเลยสักนิด ผมรีบเปิดประตูหน้าต่าง
"ไง!สหาย...ฉันคิดไว้แล้วว่านายต้องไม่ลงมาเจอฉัน หาวิธีลงไปไม่ได้สิท่า (ยิ้มแบบเจ้าเล่ห์)" ฟีอัสยิ้มมันกวนบาทาก็ว่าได้ ผมอยากจะด่าหมอนี่จะตายชัก แต่ถึงด่าไปก็ไม่สะทกสะท้านขั้วหัวใจหมอนี่เลยสักนิด ผมเลยเลือกที่จะยิ้มตอบกลับไป
"นายมาที่นี่ทำไมดึกดื่นป่านนี้กันฟร๊ะ?" ผมเลิ้กคิ้วขึ้น
"ไม่มีอะไรมากเพื่อน แค่เบื่อๆ เอ่อ...สารรูปนายดูไม่ได้เลยแฮรี่ ไม่เจอกันแค่เดือนเดียวนี่นายเหมือนกับซากศพเดินได้เลยเพื่อน" ผมถึงกับทำตาถลึงใส่ฟีอัสทันที ดูปากมันซะก่อนไม่ได้ลดละเลยซักนิด ผมไม่แปลกใจหรอกนะที่จะโดนเฮอร์ไมโอนี่เอาหนังสือฟาดหน้าเข้าให้บ่อยๆ
"วาจาปากแมวก็เหมือนเดิมเลยนะฟีอัส" ผมสแยะยิ้มก่อนจะหัวเราะเบาๆในลำคอ
"ว่าแต่นายเหอะหิวไหมเพื่อน?" ผมเลิกคิ้วขึ้นอีกครั้ง หมอนี่ต้องการอะไรกันแน่
"นิดหน่อยนะ" ผมตอบแบบนั้นก็จริง แต่ท้องผมร้องเหมือนมันจะบอกผมว่าของสเต็กเนื้อชิ้นใหญ่ๆสักชิ้นหนึ่ง
"มาสิพวก!ไปหาอะไรทานกัน" ผมถึงกับพะงาบๆพูดอะไรไม่ออก
ก๊อก ๆ ๆ เสียงเคาะประตูห้อง ผมรีบบอกให้ฟีอัสหาที่ซ่อน แล้วผมก็เดินไปเปิดประตู ทำเหมือนทุกอย่างปกติดี
"แกคุยกับใครอยู่?" ลุงเวอร์นอนถามขึ้นเค้าดูจะโมโหมากเวลาที่เห็นหน้าผม
"ป่าวนี่ครับ ผมแค่คุยกับเฮ็ดวิก"ผมตอบแบบไม่ได้ใส่ใจ
"อย่าให้ฉันรู้นะว่าแกมีลับลมคมในอะไร ไม่งั้นฉันจะเฉดหัวแกไปอยู่บ้านเด็กกำพร้าทันที ที่แกก่อปัญหาให้ฉัน" เม่อลุงเวอร์นอนพูดจบเค้าก็เดินออกไปจากห้องของผมทันที
"ตาแก่นี่มีปัญหาทางจิตใจรึไง?"เสียงฟีอัสเอื่อนเอ่ยออกมา
"ฉันไปกับนายไม่ได้หรอกเพื่อน นายไปเหอะ" ผมพูดด้วยความหมดหวัง ผมดีใจมากที่ได้เจอฟีอัส ตลอดทั้งเดือนผมได้แค่ส่งจดหมายให้กับรอน และเฮอร์ไมโอนี่ ส่วนหมอนี่เป็นประเภทไม่ชอบเขียนจดหมายเลยมักจะโทรหาผมซะมากกว่า แต่ผมก็ต้องโดนลุงเวอร์นอนด่าผมบ่อยๆ เพราะเรื่องนี้ด้วย ผมไม่คิดว่าจะเจอหมอนี่ในเวลาแบบนี้จริงๆ
"ไม่เอาน่าแฮรี่...ฉันมาเที่ยวหานายทั้งทีออกไปด้วยกันมันจะเป็นอะไรไป นายไม่ต้องกลัวว่าลุงนายจะจับได้หรอกน่า" ฟีอัสพูดเหมือนสบายใจหายห่วงอะไรเทือกนั้นรึป่าววะ ผมลังเลอยู่นาน
"ได้!แค่ชั่วโมงเดียวนะ"
"หายห่วง...ขึ้นมาเลยพวก" ฟีอัสยิ้มหน้าบานเมื่อผมตอบตกลง ผมค่อยๆปีนออกจากหน้าต่าง แล้วขึ้นไปนั่งบนไม้กวาดของฟีอัส
"นายไม่กลัวคนของกระทรวงเห็นรึไง เอาไม้กวาดออกมาบินโชว์ให้พวกมักเกิ้ลเห็นแบบนี้"
"อย่าลืมสิแฮรี่...นี่ใคร...ออร์ฟีอัสนะเว้ย" ผมแทบอยากถีบมันลงจากไม้กวาดทันทีที่พูดจบ
~หนึ่งชั่วโมงผ่านไปไวเหมือนโกหก~
"แฮรี่!ไว้วันหลังฉันจะมารับนายไปท่องโลกยามราตรีฉบับพ่อมด กันอีกนะเว้ย"ฟีอัสเอามือตบไหล่ผมเบาๆ
"ฉันก็หวังว่ามันจะราบรื่นเหมือนวันนี้นะเพื่อน" ผมยิ้มแห้งๆ เมื่อผมกลับเข้ามาอยู่ในห้องอันเงียบเหงานี้อีกครั้ง ความสุขมันก็ผ่านไปเร็วแบบนี้เสมอ
"อย่าทำหน้าหมดอาลัยสิเพื่อน อีกไม่กี่เดือนก็จะเปิดเทอมแล้ว ไว้เจอกันเมื่อชาติต้องการ" เมื่อฟีอัสพูดจบก็รีบบึ่งไม้กวาดหายไปในความมืดทันที
ห้า ๆ ๆ ผมนั่งหัวเราะเบาๆอยู่บนเตียงนอน การที่ผมยังมีชีวิตอยู่รอดปลอดภัยมาจนถึงทุกวันนี้ ก็อาจเป็นเรื่องที่ดีก็ได้ว่าไหมฮะท่านผู้อ่านทั้งหลาย^^
#กลับมาแล้วครับหายไปเดือนกว่าเนื่องจากตันกับการแต่ง เลยต้องหามุมมองใหม่ๆมาเสริมให้ตัวเองครับ ขอโทดด้วยที่อัพช้าครับโผ๊มมมม^^
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น