ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Harry Potter & Child of the Gods

    ลำดับตอนที่ #29 : Chapter : Secrets of book

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 158
      5
      30 ส.ค. 58

    เอาเป็นว่า...ฉันจะเล่าถึงประวัติของหนังสือเล่มนี้ให้เธอฟัง...."
     
    "อันที่จริงแล้วหนังสือมีทั้งอยู่ทั้งหมดสองเล่มด้วยกัน....เล่มแรกเป็นหนังสือที่รวบรวมคาถาของชาวกรีกโบราณไว้ทั้งหมด และยังมีเนื้อหาเกี่ยวกับวิธีแปรธาตุต่างๆอีกด้วย  และเล่มที่สองคือหนังสือแห่งการรักษา...ว่ากันว่าหนังสือเล่มนี้ บอกทุกวิธีการบำบัดโรคร้าย และยังบอกถึงส่วนผสมของยาแต่ละชนิด...แต่หนังสือเล่มนี้ยังมีความพิเศษอีกหนึ่งอย่าง...นั่นคือการคืนชีวิตให้กับคนที่ตายไปแล้วให้ฟื้นคืนได้...ซึ่งผู้ที่สร้างหนังสือทั้งสองเล่มนี้ขึ้นมา ก็คือเหล่าทวยเทพให้กรีก เหล่าเทพมีความเห็นตรงกันว่าการสร้างหนังสือทั้งสองเล่มนี้ขึ้น อาจจะมีประโยชน์แก่พวกมนุษย์ แต่พวกเค้าไม่ได้ตระหนักถึง...ปัญหาที่จะตามมา .....ต่อมาได้เกิดสงครามการแย่งชิง...หนังสือทั้งสองเล่มขึ้น พวกมนุษย์เข่นฆ่ากันเอง ทำให้ผู้คนทั่วทั้งกรีกล้มตายเป็นจำนวนมาก นั่นเป็นความหายะนะของชาวกรีก ซูสเทพแห่งสายฟ้าผู้ปกครองเหล่าทวยเทพด้วยกัน ทรงพิโรธมากที่ต้องทนเห็นเหล่ามนุษย์ฆ่ากันเอง เพื่อแย่งชิงหนังสือทั้งสองเล่มนี้ พระองค์จึงบรรชาให้ทำลายหนังสือทั้งสองเล่ม...แต่เหลาเทพทั้งหลายไม่เห็นด้วยกับการทำลายหนังสือ ...ซูสจึงบรรชาให้เหล่าบรรดาทวยเทพตัดสินใจกันเองว่าจะทำยังไงกับหนังสือหายะนะทั้งสองเล่มนี้ดี...เหล่าทวยเทพเห็นพ้องตรงกันว่า จะต้องหาผู้ที่เหมาะสมที่จะครอบครองหนังสือทั้งสองเล่มนี้...ซึ่งผู้นั้นจะเกิดก่อนคืนพระจันทร์เต็มดวงเพียงหนึ่งคืน ดาวแห่งเทพทั้งแปดจะปรากฏขึ้น" ดัมเบิลดอร์ชี้มายังตัวผม
     
    "และนั่น...คือวันที่เธอเกิด" 
     
    "ผมไม่เห็นจะเข้าใจเลยครับอาจารย์...มันไม่มีเหตุผลในข้อไหนที่จะชี้ชัดจริงๆว่าผมเป็นเจ้าของหนังสือเล่มนี้?" ผมพูดขึ้นด้วยความสงสัย
     
    " นั่นไงล่ะ!เป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้" ดัมเบิลดอร์ชี้มาที่สร้อยคอของผม ผมทำหน้าขมวดคิ้วขึ้นมาทันที
     
    "สร้อยคอเส้นนั้น...คือสิ่งที่จะพิสูจน์ได้ว่าเธอคือผู้ครอบครองหนังสือเล่มนี้...ถอดมันออกมาสิ" ผมทำตามที่ดัมเบิลดอร์บอก พรางวางสร้อยคอลงกับโต๊ะ
     
    "สร้อยคอเส้นนี้ คือกุญแจสำคัญที่จะเปิดหนังสือเล่มนี้...แต่ถ้าเธอยังไม่เชื่อ...ก็ลองเอาจี้รูปสายฟ้า...วางตรงกลางตราสัญญาลักษณ์ของหนังสือสิ" อะไรของเค้า...จะยัดเยียดของพักนี้ให้ตูจนได้ใช่ไหมเนี่ย -[]- ผมทำตามที่ดัมเบิลดอร์บอก แสงสว่างจากหนังสือ ส่องสว่างไปทั่วห้องทำงานของดัมเบิลดอร์ ปลายไม้กายสิทธิ์ของผมมีแสงส่องประกายขึ้นอีกครั้ง ร่างกายของผมเหมือนถูกดูดกลืนเข้าไปในห้วงมิติ หน้าของดัมเบิลดอร์เลือนลางลง...
     
    อ๊าก ก ก ๆ ๆ ผมแหกปากร้องลั่นออกมาทันทีด้วยความตกใจ ก่อนจะตกลงมากองกับพื้น
     
    "นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย?" ผมลุกขึ้นพรางปัดเสื้อผ้าของตัวเอง...แต่ตาของผมก็เหลือบไปเห็นเท้าขนาดใหญ่ที่อยู่เบื้องหน้าของผม...ผมเงยหน้าขึ้นไปมอง ผมแทบจะเป็นลมเลยก็ว่าได้ เมื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้าผมคือมนุษย์...ไม่ใช่มนุษย์ธรรมดาแต่ตัวพวกเค้าใหญ่โฮก!...ใหญ่กว่าตัวผมเป็นสิบเท่า ผมล้มลงไปกับพื้นอีกครั้งด้วยความตกใจ ตัวผมสั่นระริกด้วยความกลัว
     
    "ตาย ๆ ตายแหงแซะ!..." ผมพึมพำในใจ
     
    "ยินดีต้อนรับ...ผู้ครอบครองหนังสือ แห่งมนตรา...ข้าคือ อาธีน่า เทพพระเจ้าแห่งปัญญา ข้ารู้ว่าเจ้ากำลังหวาดกลัวพวกข้าอยู่...."
     
    "พวกท่านต้องการอะไร?...แล้วที่นี่คือที่ไหน?" ผมมองเหล่าบรรดามหาเทพที่ยืนรายล้อมผมอยู่
     
    "ข้าคิดว่าเจ้าควรลดบรรดาลโทสะลงสักนิด...พวกข้าไม่ได้ต้องการอะไรจากเจ้าหรอก...ที่พวกข้าเรียกเจ้ามาในวันนี้ เพียงเพื่อจะมอบพลัง...พลังที่ผู้ครอบครองหนังสือเล่มนี้ควรมี" ผมแทบไม่อยากเชื่อว่าบุคคลที่อยู่ตรงหน้า คือเหล่ามวลมหาเทพที่ผมได้ฟังจากปากของดัมเบิลดอร์ไม่กี่นาทีที่ผ่านมานี่เอง
     
    "ผมไม่ได้ต้องการพลังวิเศษอะไรพวกนี้" ผมรีบปฏิเสธทันที
     
    "เจ้าไม่มีทางเลือก...นี่คือสิ่งที่พวกข้าได้เลือกไว้แล้ว" น้ำเสียงที่ฟังดูหนักแน่นเอ่ยขึ้น
     
    "ซูส!..." ผมได้ยินเทพองค์หนึ่งพูดขึ้น ผมหันไปมองยังเสียงๆนั้น 
     
    "ผมไม่มีทางเลืกอื่นเลยใช่ไหม?" 
     
    "เจ้าคือคนที่พวกเราเลือกไว้...ถึงเจ้าจะปฏิเสธยังไง...เจ้าก็หนีไม่พ้นคำทำนายของพวกข้า...จงยอมรับ และเรียนรู้มันซะ..."สิ้นสุดคำพูดของซูส ทุกอย่างรอบตัวผมก็ดับวูบลงอีกครั้ง
     
    ผมลืมตาตื่นขึ้น...อีกครั้ง ผมกลับมาอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง ผมสปริงตัวลุกจากโซฟาทันที
     
    "ฟื้นแล้วงั้นรึ...คุณปฐพี" ดัมเบิลดอร์เอ่ยขึ้น
     
    "ครับ" 
     
    "อาจารย์ครับ...ถ้าหนังสือเล่มนี้เป็นของผมจริง...ผมควรทำยังไงกับมันดีครับ?" 
     
    "เธอแค่...เรียนรู้จากมันไงละ"ดัมเบิลดอร์ยิ้มให้กับผม
     
    "โอ้!นี่ก็ดึกมากแล้ว...ฉันคิดว่าเธอควรกลับได้แล้ว...และอีกอย่างนับตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป...เธอต้องฝึกคาถาในหนังสือเล่มนี้กับฉัน...ตลอดทั้งเทอม...ฉันขอร้องเธออีกอย่างหนึ่ง...อย่าบอกเรื่องนี้กับใครเป็นอันขาด...แม้แต่เพื่อนของเธอเอง" ดัมเบิลดอร์พูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นอีกครั้ง ผมเพียงแค่พยักหน้า แล้วเดินออกไป ระหว่างทางที่ผมเดินกลับนั้น ความรู้สึกเจ็บปวดก็ถาโถมขึ้นมาอีกครั้ง ผมทรุดตัวลงนอนดิ้นกับพื้น ด้วยความทรมาน พลังบางอย่างกำลังตื่นขึ้น
     
    ด้านอาเธน่า เธอสัมผัสถึงพลังนั้นได้
     
    "ฟีอัส.."เธอรีบลุกออกจากเตียงนอนทันที พลังมหาสารที่เกิดขึ้นทำให้ไรเซลสัมผัสมันได้เช่นกัน 
     
    อาเธน่าวิ่งลัดเลาะไปตามทางเดิน เธอพยายามหาขุมพลังนั้นให้เจอ ก่อนที่จะมีใครเห็นเข้า
     
    "ให้ตายสิ!หมอนั่นอยู่ที่ไหนกัน" เธอสบถออกมาด้วยความโมโห ปนความเหนื่อยที่ต้องวิ่งหาตัวของฟีอัส ทางด้านไรเซลก็เช่นกัน เค้ากำลังมุ่งหน้าไปหาพลังมหาสารนั่นอยู่ พรางหัวเราะเหมือนคนบ้า
     
    "ฉันอยากรู้เหมือนกัน...ว่าใครคือผู้ครอบครองหนังสือ" ไรเซลแสยะยิ้ม
     
    ผมพยายามควบคุมตัวเอง ให้ลุกขึ้น แต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ ผมรับรู้ถึงพลังที่อยู่ในตัวได้ แต่ผมไม่สามารถควบคุมมันได้เช่นกัน อ๊า ก ก กกกก กก   ก กก ผมดิ้นทุรนทุรายด้วยความเจ็บปวด 
     
    "ฟีอัส...." อาเธน่ารีบวิ่งเข้ามาหาผมทันที 
     
    "อย่า...เข้า...มา" ผมกัดฟันตัวเองแล้วพูดออกมา แต่ดูเหมือนเธอจะไม่ฟังที่ผมพูดเลยซักนิด 
     
    "ฟีอัส...นายไม่เป็นไรใช่ไหม?" อาเธน่าพูดขึ้น เธอประคองร่างผมไว้ 
     
    "ฉันบอกเธอแล้วไง...ว่าอย่าเข้ามา อ๊าก ก ก" ผมกระอักเลือดออกมาทันที 
     
    "ไม่ฟีอัส...ฉันไม่ยอมยืนดูนายเฉยๆแน่" อาเธน่ากอดตัวผมไว้แน่น
     
    "ฉันบอก...ให้เธอถอย...ห่างจากตัวฉันไง" ผมผลักตัวของอาเธน่าออกทันที 
     
    "ฟีอัส..." อาเธน่าเธอดูจะไม่ยอมฟังผมเลยซักนิด ผมควบคุมพลังนี้ไม่ได้จริงๆ ผมไม่สามารถทำได้ มันหนักเกินกว่าผมจะแบกรับมันไหว ร่างของผมกำลังจะระเบิดเป็นเสี่งๆอยู่แล้ว
     
    "ฟีอัส...นายต้องควบคุมมันให้ได้...ไม่เช่นนั้นมันจะ...." เสียงของอาเธน่าขาดหายไปผมตกอยู่ในภาวะการหลับไหลทันที
     
    "ฉันจะ...ควบคุมร่างของเจ้านี่เอง ห้าๆๆๆๆ" 
     
    "แก..." อาเธน่ากัดฟันกร๊อด 
     
    "ว่าไง...ไม่เจอกันนานนะ 'เจ้าหญิงแห่งโอลิมเปีย' ผมอีกคนหัวเราะออกมาด้วยความบ้าคลั่ง แววตาสีเลือดนั้น จ้องมองอาเธน่าด้วยความโกรธแค้น
     
    "ฉันคิดว่า...เรามาจบเรื่องนี้กันเถอะ 'กษัตริอาเธอร์' ฉันไม่ชอบสีหน้าที่แกมองฉันแบบนั้นเลยสักนิด...และฉันก็ไม่ชอบ...ให้แกควบคุมร่างของเค้านานๆด้วย" อาเธน่าแสยะยิ้มออกมา
     
    "ปากดีไม่เปลี่ยนเลยนะ....เธอคิดจะสู้กับฉัน...ในขณะที่ฉันอยู่ในร่างของเจ้านี่ยังงั้นหรอ?...คิดให้ดีๆนะ?" อาเธน่ายืนกำมือไว้แน่น
     
    "ถ้าฉันโจมตีเค้าตอนนี้...ร่างของฟีอัสต้องได้รับบาดเจ็บแน่...ฉันต้องทำยังไงดี" 
     
    "คนอย่างเธอนะ...ไม่สมควรที่จะได้รับหน้าที่แบบนี้ด้วยซ้ำ" ผมกระโจนเข้าโจมตีอาเธน่าทันทีด้วยเคียวขนาดมหึมา แต่อาเธน่าเธอก็หลบได้เช่นเดียวกัน 
     
    "นี่มันอะไรกัน...ทำไมเคียวมรณะถึงได้อยู่กับแกได้?" 
     
    "ฉันไม่จำเป็นต้องตอบคำถามของเธอ" ตัวผมอีกคนกำลังอาละวาด เค้าโจมตีอาเธน่าอย่างบ้าคลั่ง ส่วนอาเธน่าเธอแค่เพียงหลบการโจมตีเท่านั้น เธอพยายามหลอกล่อให้ตัวผมอีกคนออกห่างจากตัวปราสาทให้ไกลมากที่สุด เธอไม่อยากให้นักเรียน และ เหล่าอาจารย์ได้รับบาดเจ็บ 
    "ชิ!ไม่มีโอกาสตอบโต้เลยสักนิด" อาเธน่าสบถออกมาด้วยความเหลืออด 
     
    "เธอไม่มีทางสู้พลังของฉันได้หรอก...ยอมรับและหายไปซะ" ตัวผมอีกคนกำลังเปิดผนึกพลังของเคียวมรณะขึ้น ควันสีดำลอยออกมาจากเคียวยักษ์นั่น ก่อนที่มันจะพุ่งเข้าไปหาตัวของอาเธน่า
     
    บึ๊ม ๆ ~ ~ เสียงระเบิดดังสนั่นไปทั่วป่าต้องห้าม
     
    "แกคิดว่าแก...มีดีแค่คนเดียวรึไง" อาเธน่าเรียกดาบแห่งทูตออกมา เพื่อป้องกันการโจมตของพลังมหาสาร
     
    "ชิ!ตายยากตายเย็นซะเหลือเกินนะ" ตัวผมอีกคนแสยะยิ้มออกมา ก่อนจะกระหน่ำโจมตีอาเธน่าอีกระลอกหนึ่ง
     
    ร่างกายของอาเธน่า เต็มไปด้วยบาดแผล เสื้อผ้าที่เธอใส่ฉีกขาดไปหมด 
     
    "ยอมแพ้ซะ...เธอไม่มีวันเอาชนะฉันได้หรอก" ตัวผมอีกคนหัวเราะออกมาอย่างสะใจ
     
    อาเธน่ามองตัวผมด้วยความนิ่งเฉยอยู่ครู่หนึ่ง แล้วแสยะยิ้มออกมา
     
    "ฉันไม่ได้ต้องการจะฆ่าแกหรอกนะ..." เธอหายตัวไปทันที ก่อนจะโผล่ออกมาประชิดตัวผม
     
    "ฉันแค่ต้องการสะกดพลังของแกไว้...ก็เท่านั้นเอง" อาเธน่าชี้ดาบไปยังสร้อยคอเส้นนั้น ก่อนที่จะท่องคาถาบางอย่างออกมา
     
    "ไม่ ๆ ๆ  ๆ ๆ ๆ " ตัวผมอีกคนร้องเสียงหลง พรางจ้องมองอาเธน่าด้วยความแค้น
     
    "ฉันจะกลับมา...ชำระแค้นในครั้งนี้แน่นอน" นั่นคือเสียงของผมอีกคน...ก่อนที่ร่างของผมจะล้มลง
    อาเธน่าเธอได้ประครองร่างของผมไว้ 
     
    "ฟีอัส...นายคงเจ็บ และทรมานมากเลยสินะ" อาเธน่าเอามือลูบหัวผมเบาๆ
     
    "ฉันสัญญา...จะคอยอยู่เคียงข้างนาย และคอยดูแลนายแบบนี้ตลอดไป" อาเธน่าก้มลงจูบที่หน้าผากของผม ก่อนจะร้องไห้ออกมา
     
    ทางด้านไรเซลเค้ายืนดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมแสยะยิ้มออกมา
     
    "หึ!ความรักมันช่างสวยงามอะไรเช่นนี้...อีกไม่นานหรอกครับคุณหนู...กระผมคนนี้จะฆ่าคนที่คุณหนู...รักมากที่สุดเอง" ไรเซลแสยะยิ้มอีกครั้งก่อนจะหายตัวไป
     
    ***ตอนนี้แต่งแบบมึนๆ***
     
    ไม่ขออะไรมากครับ...คอมเม้นสักนิด ขอบคุณครับ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×