ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Harry Potter & Child of the Gods

    ลำดับตอนที่ #35 : Chapter : Christmas

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 148
      4
      8 ก.ย. 58

    "แฮรี่....พอตเตอร์....แฮรี่" แฮรี่สะดุ้งตื่นขึ้นในเช้าของวันคริตส์มาส ใบหน้าของเค้าชุ่มไปด้วยเหงื่อ เค้ามองไปรอบๆห้องก่อนจะยกมือปาดเหงื่อบนหน้าของตัวเอง พร้อมกับหยิบแว่นตาขึ้นมาใส่ 
     
    " แมรี่ คริสต์มาสแฮรี่" รอนเค้ากำลังนั่งแกะของขวัญของตัวเองอยู่บนเตียง ส่วนเฮอร์ไมโอนี่นั่งอ่านหนังสืออยู่ที่มุมห้อง
     
    "แมรี่ คริสต์มาสรอน" แฮรี่คลี่ยิ้มออกมา ก่อนจะหันไปมองของขวัญของตัวเอง ที่กองพะเนินอยู่ข้างเตียง
     
    "นี่ของฉันทั้งหมดเลยหรอ?" แฮรี่ยิ้มเจือนๆ 
     
    "ใช่..!มันเยอะใช่ไหมละ?" รอนหยิบพายฟักทองที่วางอยู่บนโต๊ะเข้าปาก ดูมันน่าจะอร่อยดีนะ= =
     
    แฮรี่หยิบของขวัญชิ้นแรกขึ้นมาแกะ ซึ่งมันเป็นของจินนี่ และสิ่งที่อยู่ในกล่องของขวัญนั้น เป็นถุงมือสำหรับใส่ในหน้าหนาว ดูเหมือนว่าจินนี่จะเป็นคนทักขึ้นเอง แฮรี่คลี่ยิ้มออกมา ก่อนจะแกะห่อของขวัญชิ้นต่อไปเรื่อยๆ จนมาถึงกล่องสุดท้าย ซึ่งดูจากการห่ออย่างปราณีตแล้วไม่น่าจะเป็นใครอื่นไปได้นอกจาก ไอร่เพื่อนเจ้าปัญหา แฮรี่หยิบกล่องของขวัญของฟีอัสขึ้นมาแกะ ซึ่งของที่บรรจุไว้ข้างใน คือสร้อยคอ จี้ที่ห้อยอยู่ตรงกลางเป็นรูปไม้กางเขน ส่วนวงกลมที่อยู่ตรงกลางของไม้กางเขนนั้น เป็นคริตัลสีแดง 
     
    "นั่นเรียกว่าเครื่องรางน่ะ...ฟีอัสเขียนบอกไว้ในจดหมาย" เฮอร์ไมโอนี่พูดขึ้น พรางชูสร้อยคอที่ห้อยอยู่ที่คอของเธอ ให้แฮรี่ดู
     
    "เครื่องราง? แล้วทำไมคริสตัลตรงกลางรูปไม้กางเขน ของเธอ กับ ของฉัน ทำไมสีมันถึงไม่เหมือนกันละ?" แฮรี่ทำหน้าขมวดคิ้ว
     
    "ไม่รู้สิ!เค้าไม่ได้เขียนไว้ในจดหมาย" เฮอร์ไมโอนี่ยื่นจดหมายของฟีอัส ให้กับแฮรี่
     
    "ส่วนคริสตัลของฉันเป็นสีเหลืองน่ะ" รอนพูดขัดขึ้นในขณะที่ปากของเค้าเต็มไปด้วยขนม
     
    "เห็นฟีอัสบอกว่าเป็นของที่เค้าสั่งทำขึ้น ให้เราสามคนโดยเฉพาะน่ะ...แต่สีของคริสตัลฉันไม่แน่ใจ แต่ฉันคิดว่ามันน่าจะมีความหมายอะไรสักอย่างแหละ" เฮอร์ไมโอนี่พูดขึ้น แฮรี่แค่พยักหน้า 
     
    "บ้านของหมอนี่ต้องรวยน่าดูเลย...ถึงได้สั่งทำของพวกนี้ให้กับพวกเรา" รอนพูดขึ้น ก่อนจะหยิบขนมเข้าปาก
     
    "ก็จริงของนายแหละ...เรายังไม่เคยไปที่บ้านของเค้าเลย แถมฟีอัสยังไม่เคยเล่าเรื่องครอบครัวของเค้าให้พวกเราฟังเลยสักนิด" แฮรี่พูดขึ้น เฮอร์ไมโอนี่พยักหน้าเห็นด้วย
     
    "แต่ก็ช่างเหอะ! ถ้าฟีอัสอยากเล่าให้เราฟัง... ก็คงเล่าเองแหละ" แฮรี่พูดจบก็ลุกออกจากเตียง ไปนั่งอยู่ข้างๆเฮอร์ไมโอนี่ พรางหยิบช็อกโกแลตขึ้นมากิน
     
    "อ่านอะไรอยู่น่ะเฮอร์ไมโอนี่?" แฮรี่ชะโงกหน้าไปมองทีี่หนังสือ
     
    "ฉันกำลังหาความหมายสีของคริสตัลน่ะ...แต่ไม่เห็นมันจะเขียนไว้ในหนังสือเลย...น่าแปลกว่าไหมละ?" เฮอร์ไมโอนี่คลี่ยิ้มออกมา
     
    "คริสตัลทั่วไปก็ว่าไปอย่าง...แต่นายลองสังเกตคริสตัลพวกนี้ให้ดีๆสิ!...มันไม่ใช่คริสตัลธรรมดา...แล้วมันก็ไม่มีบอกไว้ในหนังสือด้วย" เฮอร์ไมโอนี่ทำหน้าจริงจังสุดขีด
     
    "จริงจังไปไหมเฮอร์ไมโอนี่" แฮรี่หัวเราะออกมา
     
    "แล้วเธอไปเอาหนังสือมาจากไหนกันเนี่ย?" แฮรี่ถามขึ้นอีกครั้ง
     
    "แฮรี่! ฉันก็เป็นผู้หญิงนะ...มันแปลกนักหรอถ้าผู้หญิงอย่างฉันจะสนใจสิ่งของสวยงามพวกนี้?" เฮอร์ไมโอนี่หันไปมองแฮรี่ด้วยสีหน้าเขิลเล็กน้อย ก่อนจะหัวเราะออกมา ส่วนรอนก็ยังกินไม่หยุด= =
     
    ----คฤหาสน์ปฐพี----
     
    "คุณฟีอัสครับ! นายท่านมาถึงแล้วครับ" ลุงเซบัสขึ้นมาเตือนฟีอัสเรื่องพ่อของเค้า ฟีอัสเพียงแค่พยักหน้า ก่อนจะเดินตามพ่อบ้านลงไป
     
    "พ่อฮะ!" เมื่อฟีอัสเห็นหน้าพ่อของเค้า ก็เข้าไปกอดทันที ด้วยความคิดถึง
     
    "เป็นไงตัวแสบ! สร้างความวุ่นวายไว้เยอะเลยนะ" พ่อของฟีอัสแอบแซวลูกชายของตน 
     
    "ยัยธีน่า...เขียนจดหมายไปฟ้องพ่อใช่ไหม?" ฟีอัสทำสีหน้าโกรธขึ้นมาทันที
     
    "ก็ใช่นะสิ!" ธีน่าพูดขัดคอขึ้นมาทันที พรางวิ่งเข้าไปกอดพ่อของเธอ
     
    "พ่อคะ...หนูคิดถึงพ่อที่สุดเลย" ธีน่าทำเสียงออดอ้อน
     
    "เหอะ!เดี๋ยวเธอได้เจอมะเหงกเขกกะบาลแน่" ฟีอัสพูดแขวะขึ้น
     
    "ไม่เอาน่าฟีอัส...หัดยอมน้องบ้างสิลูก" พ่อของเค้าพูดขึ้นพรางเอามือลูบหัวลูกทั้งสองคน
     
    บรรยากาศในคฤหาสน์ดูครึกครื้นเป็นพิเศษ เนื่องจากวันนี้ที่คฤหาสน์ได้จัดปาร์ตี้วันคริสต์มาสขึ้น ทำให้บรรยากาศในคฤหาสน์เต็มไปด้วยสีสัน ต้นสนขนาดใหญ่ตั้งตระหง่าอยู่กลางสวนของคฤหาสน์ มันถูกตกแต่งด้วยกล่องของขวัญ และขนมหลากสี ซึ่งพ่อบ้านอย่างลุงเซบัสเตียนเป็นคนตกแต่งเองกับมือ แม่บ้าน และ พ่อบ้านส่วนใหญ่ต่างทำตัวผ่อนคลาย เนื่องจากฟีอัสเชิญให้พวกเค้าเข้าร่วมงานปาร์ตี้วันคริสต์มาสในคืนนี้ด้วย 
     
    "แล้วหนูเทนโนสึละ?" พ่อของเค้าแปลกใจที่ไม่เห็นอาเธน่าจึงถามขึ้น
     
    "อ่อ!เห็นเธอบอกว่าจะตามมาทีหลังคะ" ธีน่าตอบขึ้น ส่วนฟีอัสทำหน้าเซ็งๆเมื่อพูดถึงอาเธน่า
     
    ปาร์ตี้ได้เริ่มขึ้น ในคฤหาสน์กลางป่า ธีน่าเธอชวนเพื่อนๆของเธอมาด้วย รวมไปถึงลีอา = =
     
    "หวาดดี...ฟีอัสสบายดีไหม?" ลูน่าเธอเดินเข้ามาทักทายผม 
     
    "สบายดี...แล้วเธอละ?"ผมคลี่ยิ้มออกมา
     
    "ก็สบายดีน๊า า า...ถ้าไม่รวมถึงพวกนาเกิ้ลที่ชอบทำให้ฉันสับสนอยยู่ตลอดเวลา" ลูน่าทำน้ำเสียงยานคาง
     
    "ห้า ๆ (หัวเราะเหมือนจะเข้าใจ) เธออย่าไปโทษพวกนาเกิ้ลเลย...ฉันว่าพวกมันคงไม่ได้ตั้งใจทำให้เธอสับสนหรอก" ฟีอัสยิ้มแบบเจือนๆ ปนหัวเราะ
     
    "ก็จริงอย่างที่นายพูด...งั้นฉันขอตัวก่อนน๊า" ฟีอัสพยักหน้า แล้วยิ้มแบบเจือนๆให้กับลูน่า
     
    "อะไรของเค้า...ไม่เห็นจะเข้าใจเลย" ผมบ่นพึมพำออกมา ก่อนจะหยิบไวท์ขึ้นดื่ม ผมไม่ค่อยชอบบรรยากาศครึกครืนแบบนี้สักเท่าไหร่เลยแหะ มันดูพิลึกกึกกืออย่างบอกไม่ถูก สายตาผมกวาดดูไปรอบๆ เพื่อมองหาอาเธน่า แต่ก็ไม่มีวี่แววของเธอเลย
     
    "ชิ!คงมีความสุขกับไอร่พ่อบ้านนั่นอยู่สิท่า!!" ผมพึมพำออกมา ก่อนจะกระดกไวท์ขึ้นดื่มด้วยความโมโห 
     
    "ไง!โมโหอะไรขึ้นมา ดื่มซะเยอะเลย?" โชพูดขัดขึ้น ก่อนจะคลี่ยิ้มออกมา
     
    "ไง!ป่าวหรอก ไวท์รสชาติมันกำลังดีน่ะ" ผมพูดก่อนจะกระดกไวท์แก้วที่สองขึ้นมาดื่ม 
     
    "อย่าดื่มเยอะละ! เดี๋ยวนายก็ได้น็อกก่อนงานจะเลิกกันพอดี" โชคลี่ยิ้มออกมา ผมแค่พยักหน้า แล้วรินไวท์ใส่แก้ว ก่อนจะยกขึ้นดื่มต่อ
     
    "ขอบใจนะที่เป็นห่วง" ผมเอ่ยขึ้น 
     
    "เป็นอะไรรึป่าวฟีอัส? ดูนายเครียดๆนะ"
     
    "เอ่อ...ไม่เป็นไรสบายดี" ผมรู้สึกมึนๆที่หัวเล็กน้อย 
     
    "งั้นฉันไปหาธีน่าก่อนนะ" โชยิ้มให้กับผม ก่อนจะเดินกลับไปหาธีน่า 
     
    ผมยังคงนั่งดื่มไวท์อยู่เพียงลำพัง ที่เคาเตอร์โดยไม่สนใจแขกที่มาในงานเลยสักนิด พอสักพักผมเลยตัดสินใจเดินออกไปที่หน้าคฤหาสน์เพื่อสูดอากาศ อย่างน้อยมันก็ยังดีกว่านั่งเหงาอยู่ข้างในงาน แม้กระทั่งน้องสาวของตัวเอง ยังไม่เหลียวแลด้วยซ้ำ (รู้สึกนอยขึ้นมา)
     
    "มายืนเป็นหุ่นขี้ผึ้งอะไรอยู่แถวนี้?" เสียงที่ผมคุ้นเคยเอ่ยทักขึ้น 
     
    "ก็แค่ออกมาสูดอากาศ...ว่าแต่เธอเหอะมาช้านะ?" ผมทำหน้าขมวดคิ้ว ด้วยความไม่พอใจ
     
    "ก็งานมันเยอะนี่...ไม่ใช่จะมาเมื่อไหร่ก็มาได้" อาเธน่าเธอพูดยอกย้อนขึ้น
     
    "อ่าหะ..." ผมตอบเพียงสั้นๆ ก่อนจะหยิบกล่องของขวัญออกมาจากกระเป๋ากางเกง แล้วยื่นให้กับเธอ
     
    "แมรี่คริสต์มาสนะ" ผมคลี่ยิ้มออกมา 
     
    "มาอารมณ์ไหนเนี่ย?" อาเธน่าเลิกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัย
     
    "ช่างฉันเหอะน่า รีบรับไปสิ"  ผมยัดกล่องของขวัญใส่ที่มือของอาเธน่า ใบหน้าของผมแดงก่ำด้วยริดของแอลกอฮอล์ ผมรู้สึกมึนๆที่หัว
     
    "ขอบใจนะ" อาเธน่าคลี่ยิ้มออกมา 
     
    "แล้วของขวัญของฉันละ? ไม่มีเลยหรอ?" ผมเลยพูดลองใจของอาเธน่าดู
     
    "ไม่มีย๊" อาเธน่ารีบเดินเข้าไปในงานทันที ผมได้แต่ยืนหัวเราะเหมือนคนบ้า อยู่หน้าคฤหาสน์ ก่อนจะเดินตามเธอเข้าไป
     
    "เดี๋ยวสิ!อาเธน่า" ผมรั้งแขนของเธอเอาไว้ ก่อนจะดึงตัวเธอ เข้ามาหาตัวของผม
     
    "ทำบ้าอะไรเนี่ย..." อาเธน่ารีบผลักตัวผมออก
     
    "เต้นรำด้วยกันสักเพลงไหม?" ผมระบายยิ้มออกมา
     
    "ไม่ละ!" (น้ำเสียงไร้เยื่อใยสิ้นดี) ผมทำหน้าขมวดคิ้วขึ้น ก่อนจะดึงแขนของเธอให้ไปที่ฟลอเต้นรำ ดนตรีบรรเลงขึ้นทันที
     
    "ไอร่บ้า...ไอร่โรคจิต" อาเธน่าได้แต่ยืนด่าผม แต่เธอก็ยอมเต้นรำกับผมโดยดี
     
    "ขอโทษนะที่ต้องทำแบบนี้" ผมก้มลงไปกระซิบข้างหูเธอเบาๆ
     
    "อย่าหวังว่าฉันจะยกโทษให้" อาเธน่าจ้องหน้าผมเขม่น
     
    พ่อของฟีอัสได้แต่ยืนยิ้มด้วยความพึงพอใจ ทุกสายตาจับจ้องมาที่คนทั้งคู่ อาเธน่ารีบพลักตัวของฟีอัสออกทันที ก่อนจะวิ่งขึ้นบรรไดไปด้วยความอาย
     
    "ตามไปสิ!ไอ้เสือ...โอกาสน่ะหาไม่ได้อีกแล้วนะลูก...คิดอะไรก็บอกเธอไปตรงๆ" พ่อของฟีอัสเข้ามากระซิบข้างหูลูกชายตัวเอง พรางตบไหล่เบาๆ ผมแค่พยักหน้าแล้ววิ่งตามอาเธน่าไป
     
    อาเธน่าเธอยืนอยู่ที่ระเบียงชั้นสองของคฤหาสน์ เธอกำลังสับสนกับความรู้สึกของตัวเอง 
     
    "ทำไมหมอนี่ชอบทำให้ฉันกระวนกระวายใจอยู่เรื่อยเลย...คิดจะทำอะไรก็ทำ ให้ตายสิ!" เธอยืนบ่นพึมพำกับตัวเอง พรางกล่นด่าฟีอัสไปด้วย
     
    "ยังไม่เข้าใจความรู้สึกของตัวเองอีกรึไง?" เสียงของฟีอัสขัดขึ้น อาเธน่ารีบหันไปจ้องฟีอัสทันที
     
    "ไม่เอาน่า ยิ้มหน่อยสิ :)" ฟีอัสปั้นหน้ายิ้มออกมา ส่วนอาเธอน่ายังคงทำหน้าบึ้งตึง
     
    "ฉันขอโทษ!" ผมพูดพรางคลี่ยิ้มออกมา
     
    "ฉันไม่ยกโทษให้...กี่ครั้งแล้วที่นายฉวยโอกาสแบบนี้กับฉัน?" อาเธน่าจ้องหน้าผมอย่างเอาเรื่อง พรางตะคอกใส่ผม
     
    "เธอยังไม่เข้าใจอีกหรอ?ว่าทำไมฉันถึงทำแบบนี้?" ผมพูดขึ้นบ้าง
     
    "ฉันไม่เข้าใจ แล้วก็ไม่ฟังเหตุผลงี่เง่าอะไรของนายด้วย" อาเธน่ารีบเดินหนีผมทันที
     
    "เพราะฉันรักเธอไงละ!" ผมตะโกนกลับไป อาเธน่าหยุดเดิน ก่อนจะส่ายหน้าไปมา แล้วเดินกลับเข้าไปที่ห้องของเธอ ผมเลยเดินตามเธอไป แต่เธอก็ปิดประตูใส่หน้าผม 
    ผมได้แต่ยืนมองประตู หวังว่าเธอคงจะเปิดมันออกมา แต่ก็ไม่มีวี่แวว ผมเลยตัดสินใจพูดทุกความรู้สึกที่ผมมีต่อเธอให้เธอได้ยิน
     
    "ฉันไม่รู้หรอกนะว่าเมื่อไหร่...ที่ฉันรู้สึกแบบนี้กับเธอ...แต่เธอคือผู้หญิงคนเดียว...ที่ทำให้คนอย่างฉันพูดคำว่าขอโทษได้เป็นสิบๆครั้ง ด้วยความเต็มใจ...เธอเป็นคนเดียวที่ทำให้ฉันรู้จักคำว่าความรักอีกครั้ง...ถ้าเธอได้ยินที่ฉันพูด... ฉันอยากให้เธอรู้เอาไว้ว่า "ฉันรักเธอนะ" ผมคิดว่าคำพูดเหล่านี้อาจจะทำให้เธอใจอ่อน แต่ผมคิดผิด อาเธน่าเธอเป็นผู้หญิงที่ใจแข็งดั่งหิน เยือกเย็น และเย็นชาในเวลาเดียวกัน ผมได้แต่ถอนหายใจ แล้วเดินกลับไปที่ห้องของตัวเอง ผมเอนตัวนอนลงที่เตียง พรางจ้องมองบนเพดาน ด้วยความว่างเปล่า ก่อนจะเผลอหลับไป โดยลืมนึกไปว่าวันนี้เป็นวันคริสต์มาส วันที่ทุกคนมีความสุขที่สุดยกเว้นผมเพียงคนเดียว....
     
    "แล้วฉันจะกลับมาทวงพลังและอำนาจของข้าคืน" ผมสะดุ้งตื่นจากฝันร้าย ผมฝันเห็นเค้าอีกแล้ว มือขนาดใหญ่ที่โผล่ออกมาจากเปลวเพลิงนั่นกำลัง จับตัวแม่ของผมไว้ แล้วแม่ก็พูดถึงเรื่องสร้อยคอบ้านี่อีกแล้ว...สร้อยบ้านี่มันสำคัญขนาดนั้นเลยรึฟร๊ะ ผมดึงสร้อยคอออก แล้วโยนมันลงกับพื้นทันที
     
    "หยิบมันขึ้นมาสะ!" มีใครบางคนกำลังพูดกับผมอยู่ ผมหันไปมองรอบๆห้อง
     
    "ใครนะ!?" ผมตะโกนออกไป 
     
    "ข้าบอกให้เจ้าหยิบสร้อยขึ้นมา" ผมยังคงมองไปรอบๆ หรือว่าผมจะเข้าขั้นบ้าไปแล้วจริงๆ
     
    "ผมถามว่าคุณเป็นใคร?" ผมสบถออกมา ด้วยความหวาดกลัว
     
    "ถ้าเจ้าไม่หยิบมันขึ้นมา...อย่าหาว่าข้าใจร้ายกับเจ้านะ" เสียงนั่นยังคงก้องกังวานอยู่ในหูของผม
     
    "ทำไมผมต้องเชื่อคุณด้วย?" นี่ผมบ้าไปแล้วหรอ ถึงได้พูดอยู่คนเดียว 
     
    "ข้าบอกให้เจ้าหยิบมันขึ้นมาไง.." พื้นห้องของผมเริ่มสั่นสะเทือนขึ้นมา ผมลงไปนอนกลิ้งกับพื้นไปมาหลายตลบ จนแทบอยากจะออกไวท์ที่ดื่มเข้าไปทั้งหมดออกมา
     
    "โอเคๆ ผมยอมแล้ว" ผมรีบคว้าสร้อยคอที่กำลังไหลไปมาอยู่บนพื้น ขึ้นมาสวมไว้ ทุกอย่างหยุดนิ่งทันที เหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
     
    "นี่มันบ้าเห็นๆ -[]-" ผมสบถออกมา พรางมองสร้อยคอเส้นนี้ด้วยความสงสัย พรางนึกถึงเรื่องบางอย่างได้ ผมจึงคว้าโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาเซิดหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องเทพเจ้าแห่งโอลิมปัส ผมเซิดหาไปเรื่อยๆ จนไปเจออยู่กระทู้หนึ่งเขียนไว้ว่า
     
    'ถ้าคุณอยากรู้ถึงประวัติที่ละเอียดเกี่ยวกับเทพเจ้ากรีก คุณควรไปที่บริซติสมิวเซี่ยม คุณจะรู้ทุกอย่าง ที่คุณอยากรู้...!' มันช่างเป็นข้อความที่เชิญชวนอะไรเช่นนี้ แน่นอนว่าพรุ่งนี้ผมต้องไปให้ได้ ผมจะพลิกคำใบ้ปริศนาในความฝันทั้งหมดของผม มาตีความหมายให้มันชัดเจนขึ้นมาสักที
     
    *ตอนนี้ผมต้องการตัวละครชาย สายเลือดของโพไซดอน 1 ตัวละครครับ ผมคิดว่าฉากจบของเรื่องนี้จะเป็นศึกของเหล่ามหาเทพครับผม
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×