ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Harry Potter & Child of the Gods

    ลำดับตอนที่ #36 : Chapter : British Museum

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 143
      5
      10 ก.ย. 58

    .."พ่อคะ!นั่นพี่เค้ารีบไปไหนค่ะ?" ธีน่าทำหน้าตาแตกตื่นวิ่งเข้ามา
     
    "วิ่งตามไปถามสิลูก!...พ่อก็อยากจะรู้เหมือนกัน" พ่อของธีน่าหัวเราะออกมาพร้อมยกถ้วยกาแฟขึ้นดื่ม
     
    "พ่ออะ...นู๋ไม่ถามก็ได้" ธีน่าทำหน้างอนๆ ก่อนจะนั่งลงที่โซฟาในห้องนั่งเล่น
     
    ----บริติชมิวเซี่ยม----
     
    ผมยืนอยู่หน้าพิพิธภัณฑ์บริติช มันช่างอลังการงานสร้างอะไรเช่นนี้ ก็อย่างว่าแหละครับ มันอยู่ใจกลางของกรุงลอนดอน และยังเป็นสถานที่สำคัญของอังกฤษด้วย ใครไม่รู้จักก็แปลก (เองไงละ = =)
     
    "ทำไมวันนี้คนเยอะจังฟร๊ะ" ผมสบถออกเบาๆ ก่อนจะเดินเบียดผู้คนเหล่านั้นเข้าไปในพิพิธภัณฑ์
    พอผมเดินพ้นมาจากบรรได ก็มีหญิงสาวคนนึง เดินเข้ามาหาผมแล้วยื่นแผ่นพับเกี่ยวกับประวัติของที่นี่ให้กับผม
     
    "ยินดีต้อนรับสู่ บริติชมิวเซี่ยม...คะ" หญิงสาวฉีกยิ้มออกมา ผมมองหน้าของเธออย่างพินิจพิจารณา
     
    "ใบหน้ากับรอยยิ้มนั่น มันดูไม่เข้ากันเลยแหะ!" ผมเพียงแค่พยักหน้า แล้วรับแผ่นพับมา
     
    "ขอบใจ" ผมกำลังจะเดินเข้าไปในพิพิธภัณฑ์ แต่ก็ถูกผู้หญิงคนเดิมดึงชายเสื้อของผมเอาไว้
     
    "เห้ย!อะไรของคุณครับ" ผมพูดด้วยความตกใจ
     
    "นายมาคนเดียวหรอ?" หญิงสาวเปลี่ยนสีหน้าเป็นนิ่งเฉยทันที
     
    "ก็เห็นอยู่ว่ามาคนเดียว...ถามอะไรแปลกๆ" ผมเลิกคิ้วขึ้น
     
    "อยากให้ฉันเป็นไกร์พาทัวร์มิวเซี่ยมไหม?" หญิงสาวมองผมด้วยใบหน้าที่เธอคิดว่ามันดูดีที่สุด แต่ผมกลับคิดว่ามัน เป็นใบหน้าที่กำลังจะกิดเลือดกินเนื้อของผมยังไงไม่รู้แหะ
     
    ผมมองเธออย่างครุ่นคิด
     
    "ก็ได้ครับ" ผมตอบกลับไปโดยไม่ใส่ใจ พอผมจะเดินเข้าไป ก็โดนดึงคอเสื้อไว้อีก แถมแรงดึงของยัยนี่อย่างกับแรงช้าง -[]-
     
    "อะไรของเธออีก" ผมชักจะหัวเสียขึ้นมาแล้วสิ เธอมองหน้าผมอย่างเอาเรื่อง พรางแบบมือออกมา 
     
    "ก็จ่ายมาก่อนสิ!20 ปอนด์ 2ชั่วโมงในการพาทัวร์" 
     
    "เห้ย!20ปอนด์ ปล้นกันเห็นๆ" ผมทำหน้าขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ
     
    "งั้นฉันก็คงไม่ต้องการไกร์พาทัวร์แล้วละ" ผมรีบปฏิเสธเธอทันที 
     
    "ไม่ได้...นายตอบตกลงแล้ว" เธอยังคงทำน้ำเสียงเยือกเย็น ก่อนจะคว้าคอเสื้อของผมเอาไว้
     
    "เห้ย!ถึงเธอจะเป็นผู้หญิงฉันก็ไม่ยอมหรอกนะ" ผมจ้องหน้าเธออย่างเอาเรื่อง
     
    "นายคิดว่าฉันกลัวรึไง? จ่ายมาซะ" ดวงตาของยัยนี่มันชั่งพิลึกกึกกือเหมือนกับยัยอาเธน่าไม่มีผิด แต่แตกต่างกันตรงที่ ยัยนี่น่ากลัวกว่าเยอะ= =
     
    "ไม่เว้ย! ก็บอกว่าไม่เอาแล้วไง" ผมจะไม่ยอมเสียเงินให้ยัยนี่เด็ดขาด แต่ดูแรงของเธอมันยิ่งกว่าช้างแล้วละ มันเป็นแรงแมมมอธเห็นๆ= = แล้วดูท่าทางแล้วเธอจะไม่ยอมปล่อยคอเสื้อผมง่ายๆแน่
     
    ผมเริ่มขาดอากาศหายใจเฉียบพลัน
     
    "ก็ได้ๆ ฉันยอมจ่ายแล้ว...ปล่อยสิเฟ้ย!" พอผมพูดจบ ยัยนี่ก็ปล่อยคอเสื้อผมทันที
     
    "จะฆ่ากันรึไงฟร๊ะ!" ผมสบถออกมา 
     
    "ถ้ายอมจ่ายแต่แรก...ฉันก็คงไม่ต้องทำแบบนี้หรอก" ทำหน้าเรียบเฉยแบบสุดขั่วจริงๆ
     
    ผมขวักเงินในกระเป๋ายื่นให้กับเธอ ก่อนจะเดินนำเข้าไปในมิวเซี่ยมอย่างหัวเสีย
     
    พอเอาเข้าจริงๆ ยัยนี่เรียกว่าเป็นไกร์ที่ดีเลยก็ว่าได้ สาธยาทุกเรื่องให้ผมฟัง ถ้ามันไม่ติดตรงที่ว่า ยัยนี่ชอบทำหน้าเหมือนคนเบื่อโลกเต็มประดา ผมก็คงคิดว่ามันจะโอเคกว่านี้
     
    "นี่!ของถามอะไรเธอหน่อยสิ?" ผมพูดขัดขึ้น เมื่อเธอกำลังอธิบายถึงเรื่องการกำเนิดของฟาร์โรอะไรเทือกนั้นแหละ
     
    "ว่ามาสิ!" ทำหน้านิ่ง
     
    "ทำไมเธอถึงมาเป็นไกร์ละ?...ทั้งๆที่หน้าตา กับ นิสัยเธอมันผิดกับอาชีพไกร์อย่างเห็นได้ชัด" ผมนั่งลงที่เก้าอี้ 
     
    "เงินไงละ...ฉันก็คนเหมือนกัน ต้องกินต้องใช้...ถามอะไรสิ้นคิดจริงๆ" ยัยนี่หลอกด่าตูเห็นๆ -+-
     
    "โอเค!ผิดเองที่ถาม" ผมทำหน้าเจือนๆ ก่อนลุกขึ้นเดินต่อ
     
    "นักท่องเที่ยวก็มีอยู่เยอะแยะ...ทำไมไม่ไปเป็นไกร์ให้พวกเค้าละ..." ผมเดินไปพูดไปเรื่อยๆ
     
    "ก็พวกเค้ากลัวฉันไงละ!" ทำเสียงเยือกเย็น
     
    "กลัว?" ผมหันกลับไปมองหน้าเธอทันที
     
    "พวกเค้าคิดว่าฉันเป็นตัวประหลาดน่ะ" หญิงสาวมองออกไปยังนอกหน้าต่าง
     
    "ตัวประหลาด?" ผมเลิกคิ้วขึ้น
     
    "อืม!นายไม่แปลกใจรึไงละ สีตาทั้งสองข้างของฉันนะ" เธอหันมาจ้องหน้าผม ก่อนจะสบถออกมา
     
    "ไม่เห็นจะแปลก...ดูอย่างฉันสิ! ตาสีเขียว ก็ไม่เห็นจะมีใครว่าอะไรเลย" ผมพูดพรางคลี่ยิ้มออกมา
     
    "นายไม่เข้าใจหรอก...ว่าการที่ถูกตราหน้าว่าปีศาจน่ะมันเป็นยังไง" หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งเฉยก่อนจะเดินนำหน้าฟีอัสไป
     
    "เฮ้!รอก่อนสิ" ผมตะโกนเรียกเธอ 
     
    "นี่คือโซนสุดท้าย...ตำนานแห่งกรีก" หญิงสาวพูดด้วยใบหน้านิ่งเฉยอีกครั้ง แล้วเธอก็เริ่มสาธยายตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง จนถึงปัจจุบัน= = แล้วเธอก็พาผมเข้าไปทัวยังโซน ของเล่าพวกเทพแห่งกรีก 
     
    "เฮ้!เดี๋ยว...นี่คืออะไร?" หีบขนาดมหึมาตั้งตระหง่าอยู่ท่ามกลางรูปปั้นเทพ นี่มันอะไรกัน มันดูไม่เข้าพวกเลยแหะ
     
    "แซทเทิร์น หรือเรียกอีกอย่างว่า โครนอส เทพแห่งไททัน ทายาทของเทพีไกรอา ผู้ปกครองผืนภิภพ และ เทพยูเรนัส เทพพระเจ้าแห่งท้องฟ้า " แล้วเธอก็เริ่มสาธยายเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของโครนอสขึ้น
     
    "โครนอส?" ผมทำหน้าขมวดคิ้วขึ้น หญิงสาวเลยชี้ไปยังแผ่นจารึกที่มีรูปของโครนอสให้ผมดู
     
    "นั่นแหละ โครนอส" ผมยืนอึ้งไปชั่วครู่ ภาพความฝันที่ผมเห็นคือเค้า โครนอส ทุกอย่างที่เค้าต้องการ คือการล้างแค้น และชิงบังลังก์คืนจากซุส บุตรชายของตน แต่ผมก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี ว่าแม่ผมเกี่ยวอะไรด้วย ความฝันบ้าๆนั้นทำให้ผมเริ่มวิตกทุกครั้งที่นึกถึงมัน 
     
    "เฮ้! ยืนอึ้งอะไรของนาย ไปกันต่อได้แล้ว" หญิงสาวพลักตัวฟีอัสให้หลุดออกจากภวังค์ ผมแค่พยักหน้า แล้วเดินตามเธอไป
     
    "และนี่คือที่สุดท้าย วิหารโอลิมเปียนเซอุส อยู่ในเมืองโอลิมเปีย ซึ่งเป็นวิหารที่ถูกจำลองขึ้น ตำนานว่ากันว่า เทพเจ้าซุสสิงสถิตอยู่ที่วิหารแห่งนี้ "
     
    "เดี๋ยว! เดี๋ยวนะเธอบอกว่าโอลิมเปียงั้นหรอ?" ผมพูดขัดขึ้นทันที
     
    "ใช่! โอลิมเปียเป็นเมืองเล็กๆ ที่อยู่ในกรีก แต่ตอนนี้มันก็เหลือ แค่ไอร่วิหารบ้านี่แหละ ที่ยังคงสภาพอยู่" หญิงสาวพูดขึ้น พรางทำหน้าสงสัย
     
    "หมายความว่าไง?" 
     
    "ก็เมืองนี้น่ะ มันล่มสลายไปนานแล้วไงละ....ล่มสลายไปกว่าพันปีได้แล้วมั้ง" หญิงสาวกลับมาพูดด้วยสีหน้าที่นิ่งเฉยอีกครั้ง และนั่นทำให้ผมยืนอึ้งไปชั่วขณะ
     
    "ฉันก็ไม่ค่อยจะแน่ใจนะ...มีคนเคยบอกฉันว่ามีครอบครัวนึงที่ยอมถวายชีวิตให้กับซุส เพื่อแลกกับพลังอะไรบางอย่าง แต่สุดท้ายพลังนั่นกลับมาทำร้ายพวกเค้าเอง เหลือเพียง...เด็กผู้หญิงคนนึง เธอถูกกักขังด้วยพลังด้านมืดอยู่ในวิหารนั่น เธอไม่สมารถออกไปข้างนอกได้ และคนข้างนอกก็ไม่สามารถเข้ามาได้เช่นกัน...แต่มันก็แค่เรื่องเล่า ไม่มีใครเคยเห็นเด็กผู้หญิงคนนั้นด้วยซ้ำ" ในสิ่งที่ผู้หญิงคนนี้พูด มันทำให้ผมเจ็บจี๊ดขึ้นมาที่ใจผมทันที....เมื่อจบการทัวร์มิวเซี่ยม ผมก็เดินออกมาอย่างเงียบๆโดยไม่พูดอะไร
     
    "นี่นาย!ใบ้แดรกรึไง" หญิงสาวเอาศอกกระทุ้งที่แขนของผมอย่างแรง จนผมเซถลาลงไปกองกับพื้น
     
    "เธอทำบ้าอะไรเนี่ย! เจ็บชะมัด" ผมพึมพำออกมา
     
    "ขอโทษด้วยแล้วกัน" หญิงสาวยื่นมือให้กับฟีอัส ก่อนจะดึงตัวให้ลุกขึ้น
     
    "นี่เธอเป็นผู้หญิงจริงๆ รึเปล่า? แรงเยอะอย่างกับผู้ชายอีกแหนะ" ผมขอแขวะยัยนี่ซักหน่อยเหอะ
     
    "ก็เพราะผู้ชายอย่างนายมันอ่อนปวกเปียกนี่ นิดหน่อยทำเป็นแหกปากร้อง ให้ตายสิ!งี่เง่าสิ้นดี" ตามมาด้วยคำถากถางของเธอ ผมได้แต่ยืนพะงาบๆ ให้ยัยนี่ด่าเล่นเห็นๆ-[]-
     
    "ฉัน คินน่า ฟาเซย์ซิน จำไว้ให้ขึ้นใจละ" เมื่อเธอพูดจบ ก็หายเข้าไปในกลุ่มนักท่องเที่ยวทันที ปล่อยให้ไอร่จ๊าดง่าวอย่างผมยืนหน้ามึนอยู่หน้าพิพิธภัณฑ์!!!
     
    ผมนั่งครุ่นคิดมาตลอดทาง ถึงเรื่องที่ยัยฟาเซย์นั่นพูด ถ้าเด็กผู้หญิงคนนั้นคืออาเธน่าจริงๆ...แล้วทำไมเธอถึงอยากกลับไปที่โอลิมเปีย ในเมื่อตัวเธอหลุดพ้นจากพลังบ้านั่นได้แล้ว และทั้งๆ ที่รู้ว่าเมืองนั่นมันล่มสลายไปนานนับพันๆปี เพราะอะไรกัน? ที่นั่นมันมีอะไรสำคัญสำหรับเธองั้นหรอ ... แค่ผมคิดว่าถ้าเด็กผู้หญิงคนนั้นคืออาเธน่าจริงๆ ผมก็รู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาทันที เจ็บปวดที่ต้องรู้ว่าเธออยู่ตัวคนเดียวมาตลอด เจ็บปวดที่ต้องรู้ว่าเธอไม่มีใครเลยนอกจากตัวเธอเองที่อยู่ข้างในนั้น ถ้าผมรู้ ผมจะไม่ทำเรื่องงี่เง่ากับเธอเลย ยิ่งคิดผมยิ่งเกลียดตัวเอง...






     



    คินน่า ฟาเซย์ซิน (Kinna Fasayzin)

     

    บ้านในฮอกวอตส์: กริฟฟินดอร์

    สายเลือด:เลือดผสมปีศาจ หลานสาวของกอร์กอนทั้งสามตน สเธโน,ยูริอาลี, และเมดูซ่า
     
    นิสัย: คินน่าเป็นหญิงสาวที่มีนิสัยนิ่งๆ แต่ปากร้ายพูดตรงไปตรงมาจนบางครั้งแทงใจดำคนอื่นบ่อยๆ พูดจาห้วนๆ ไม่มีคำลงท้ายไม่ว่ากับใครก็ตาม มั่นใจในตนเองสูงมาก แถมยังฉลาดแบบสุดๆ แต่ทั้งๆ ฉลาดแท้ๆ เธอกลับชอบใช้กำลังมากกว่า ถึงจะปากร้ายแต่คินน่าเป็นคนพูดน้อยข้อเสียอีกอย่างคือต่อยหนัก แรงเยอะชนิดที่หลายคนยอมแพ้ ชอบกวนประสาทคนอื่นๆ ด้วยท่าทาง แต่อย่าคิดลองปะทะฝีปากกับเธอไม่งั้นอาจโดนด่าไปถึงบรรพบุรุษได้ง่ายๆ แถมยังไม่ยอมแพ้จนกว่าจะตายกันไปข้างหรือทำให้คินน่าโกรธจัดไม่งั้นอาจน่วมด้วยฝ่ามืองามๆ ของเธอได้ง่ายๆ แอบโหดไม่น้อยชนิดที่ว่าเกือบเข้าขั้นโรคจิตชอบแกล้งคนที่ตนเองเกลียด โกหกเก่งสุด แถมยังจอมวางแผนเสียจนทำให้หลายๆ คนกลัวเธอ โดยรวมเธอดูคล้ายสลิธีลินมากแต่เพราะคนบ้าบิ่น(และบ้าพลัง)ของเธอทำให้ถูกเลือกเข้ากริฟฟินดอร์ ไม่มีความเป็นกุลสตรีบางครั้งหลายคนลืมเลยด้วยซ้ำว่าคินน่าเป็นผู้หญิง รักพวกพ้องของตนเองแถมยังเข้ากับคนอื่นได้ง่ายๆ (ทั้งๆ ที่นิสัยไม่ค่อยน่าคบแท้ๆ)
     
     
    ประวัติ: คินน่าเป็นหลานสาวของกอร์กอน ถูกเลี้ยงมาโดยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าแต่เพราะดวงตาสีแดงทำให้หลายคนมองเธอว่าเป็นสัตว์ประหลาด และเรียกเธอว่าเมดูซ่าจนตอน 8 ขวบมีข่าวลือว่าเธอทำให้คนอื่นเป็นหินได้ด้วยการมองตา(ใครมันช่างคิดได้นะ) แต่ความจริงเธอไม่มีพลังทำอะไรแบบนั้น ถึงจะได้รับพละกำลังจากสเธโนกับความเร็วจากยูริอาลีมานิดหน่อยก็เถอะ แต่ไม่ได้รับอะไรจากเมดูซ่าเลย และเมื่อเข้าเรียนฮอกส์วอตส์ข่าวลือนั่นกลับตามมาหาคินน่าอีกครั้ง โดยบอกว่าเธอคือบาซิลิสซ์
     
    ชอบ-เกลียดอะไร: ชอบแกล้งคนอื่น, อากาศหนาว, เค้ก/ เกลียดคนที่วอนเท้าเธอ, คนที่ดูถูกตนเอง
     
    ความสามารถพิเศษ: แรงเยอะมาก, วางแผนได้แนบเนียนสุดๆ
     
    อาชีพในอุดมคติของคุณหลังเรียนจบจากฮอกวอตส์: มือปราบมาร
     
    คุณคิดว่าตัวละครไหนที่คุณอยากเป็นมิตรมากที่สุด: ฟีอัส
     
    อื่น : คินน่ามีฉายาว่า บาซิลิสซ์ เพราะตาสีแดงและข่าวลือตั้งแต่เด็ก ทำให้ไม่ค่อยมีคนเข้าใกล้เธอนัก(ยกเว้นบางคนที่ไม่เชื่อข่าวลือเท่านั้น), คินน่าเป็นคนที่มีรูปร่างเซ็กซี่สุดๆ(แต่ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้อยู่ดี เพราะนิสัยของเธอกับข่าวลือนั้น) , เธอใช้เวทมนตร์ไม่ค่อยคล่องเท่าไรแต่กลับเก่งเรื่องบินด้วยไม้กวาดมากกว่า


    #คนที่ส่งตัวละครเข้ามา ถ้าไม่ชอบใจตรงไหน ติเตือนผมได้นะครับ ส่วนคนที่ยังไม่มีบทออกมาผมจะหาบทให้เร็วที่สุดครับ^^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×