คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #65 : Valentine Year 11
Valentine Year 11
“เฮ่อออออออออออออออออ”
“สัด! ถอนหายใจซะขนมกูจืดหมดเลย”
“ละเป็นห่าอะไรอีกละ หรือว่าโดนไอเด็กหัวเกรียนที่มึงเพิ่งล่อล้วงทิ้งอีกละวะ”
“ก็เออดิวะ! กูอุสาขึ้นครูให้มันแล้วแท้ๆ เสือกมาทิ้งกูได้ ลีลากูออกจะเด็ดขนาดนั้นแท้ๆ”
“อะ อวยตัวเองอีกแล้วครับท่าน”เพื่อนตัวสูงผมสีอ่อนส่งเสียงโฮออกมา
คนตัวเล็กที่สุดในกลุ่ม ถลึงตาโตๆที่ถูกครอบครองด้วยแว่นสายตาสีทองใส่เพื่อปากดีทั้งสองของตัวเอง มันสองตัวไม่เคยจะเข้าข้างเขาเลย เอาแต่ซ้ำเติมเขาอยู่นั้นแหละ
เยลเจ็บปวดใจเหลือเกิน อึกๆๆๆ
“ปากดีนะมึง ถ้าไม่ติดว่ากูชอบเด็กนะ กูจะแดกมึงสองคนด้วย”เยลชี้หน้าเพื่อนสนิทหน้าหล่อของตัวเองอย่าอาฆาต
“โอ้ย! เว้นพวกกูไว้เถอะครับมึง”เพื่อนตัวสูงผิวแทน นามว่าจินยกมือไหว้ท่วมหัวอย่างกลัวใจเพื่อนตัวเอง
“สยองสัด!”ฮอร์ลหนุ่มผิวขาว พ่วงด้วยเดือนมหาลัยเมื่อหลายปีก่อนพูดเสียงดัง พร้อมกับปาเศษขนมใส่เพื่อนหน้าสวยของตัวเอง
“ทำมายี๋กู พวกมึงนี้สะอาดตายเลย”เยลเบ้ปากใส่เพื่อนสองคน พร้อมกับกวาดสายตาขึ้นบนลงร่างใส่เพื่อนทั้งสอง ที่เที่ยวกลางคืนเกือบทุกครั้งที่ว่าง และแม่งก็เอาหญิงเยเกย์สาวไม่เลือก ขอแค่มันถูกใจ
“ก็พวกกูเคยบอกมึงไปแล้วปะวะ แดกเด็กมึงก็ต้องทำใจด้วย มึงไม่ค่อยมีเวลาให้พวกแม่ง ยังไงมันก็ต้องหวั่นไหวกับคนใกล้ตัวเปล่าวะ”
“ประเด็นมันไม่ได้อยู่ตรงนั้นเว้ยไอฮอร์ล มันอยู่ตรงที่ว่าเพื่อนมึงชอบเด็กวัยพาตัวเองติดคุกติดตารางต่างหากละ อันนี้น่ากลัวกว่าที่มันโดนเทอีก”จินหันไปพูดกับเพื่อน พลางเหล่ตาใส่เพื่อนตัวเล็กที่ทำหน้าเศร้าเหลือประดาที่โดนเด็กคนล่าสุดทิ้ง
เด็กในที่นี้ก็คือเป็นทั้งเด็กที่เยกันไปยันอายุเลยนะครับ เพราะเพื่อนตัวเล็กของพวกเขามีรสนิยมทางเพศที่ค่อยข้างล่อแหลมคุกตารางจนพวกเขาหวั่นใจว่ามันจะโดนจับเข้าสักวันจริงๆ เพราะแม่งชอบเปิดซิงเด็กฉิบหาย
“สัด! แล้วมึงสองตัวจะย้ำทำไมฮะ แล้วก็อีกอย่างนะเว้ยความรักน่ะ มันไม่เกี่ยวกับอายุหรอกเว้ย”เยลเถียงเพื่อนตัวโตทั้งสองหน้ามุ่ย
“อะเถียง เกี่ยวไม่เกี่ยวอันนี้พวกกูไม่รู้หรอกครับ แต่ที่พวกกูรู้แน่ๆใจได้เลยแบบล้านเปอร์เซ็นต์คือ ถ้าพ่อแม่เขารู้ว่ามึงเสล่อไปขึ้นครู ทำลูกเขาใจแตกแต่เด็ก”จินยกนิ้วชี้หน้าเพื่อนพร้อมกับทำหน้าสยอง แล้วหยิบขนมใส่ปากเคี้ยวไปด้วย
“เฮอะๆ งานนี้กูกับไอจินได้หิ้ว KFC ไปเยี่ยมมึงที่สน.แน่ๆครัช!”ฮอร์ลต่อประโยคจนจบ
“สัด!ให้กำลังใจกูแท้ละ ก็กูชอบอะเด็กๆวัยกำลังโตมันไม่มีขนหมออ้อยนิ”ปากจีบเล็กๆพ่นความชอบส่วนตัวออกมาไม่อายเพื่อนตัวโตสักนิด
ฮอร์ลกับจินได้แต่มองหน้ากันแล้วส่ายหัวไปมากับรสนิยมเสี่ยงคุกเสี่ยงตารางของเพื่อน ซึ่งแม่งผสมไปกับความชอบส่วนตัวแบบโรคจิตๆ และสาเหตุมันก็มาจากที่มันเลยไปเจอกับไอพวกสายรุกที่แม่งโกนขนตรงนั้นแล้วเสือกทิ่มตูดมันเวลาเอากันอยู่ มันเลยฝังใจเพราะแทนที่จะเสียวเสือกเจ็บตูดแทน เรื่องพันนี้เป็นมันที่มาเล่าให้เขาสองคนฟังอีกที
“มึงฟังกูนะเพื่อน”จินที่กดโทรศัพท์อยู่สักพักก็เรียกความสนใจจากเยลและฮอร์ลซึ่งกำลังเถียงกันอยู่ให้มันสนใจตน
“อะไรอีก สาระนะมึง นอกเรื่องมานานละ”คนตัวบางบ่น
ซึ่งมันสองตัว เพื่อนกันเปล่าวะแม่ง งอน!
“มึงครับฐานพรากผู้เยาว์ มึงต้องระวางโทษจำคุกสองปีถึงสิบปีเลยนะมึง แถมปรับอีกงานนี้มันไม่คุ้มกันหรอกนะเว้ย! มันง่ายว่าไหมกับที่มึงไม่ชอบขน มึงก็พาผัวมึงไปแว็กซ์ที่คลีนิคก็ได้!”ท้ายประโยคจินวางโทรศัพท์ลง พร้อมกับจ้องหน้าเพื่อนตัวเองเพื่อยืนยันสิ่งที่ตัวเองพูดออกมา
เยลเบ้ปากก่อนจะเชิดหน้าอย่างงอนๆ
“ฮ่าๆๆๆ มึงแม่งก็ลงทุนจังวะ”
“หรือมึงไม่ห่วงมันวะรสนิยมทางเพศล่อแหลมฉิบหาย”
“เออแม่ง! พอละ เลิกคุยเรื่องกูเลย มาปรับทุกข์กับพวกมึงทีไรก็หาคุกหาตารางมาให้กูตลอดเลย”เยลบ่นอย่างเซ็งๆ พร้อมกับปาเศษขนใส่เพื่อนร่างสูงทั้งสอง
“เอ้า! พวกกูก็ไม่อยากให้มึงเศร้าเปล่าวะ”จินพูดยิ้มๆ แล้วส่งมือไปยีหัวเพื่อนตัวเล็ก
อย่าได้บังอาจคิดเกินเลยคำว่าเพื่อนเด็ดขาด เพราไม่ว่ายังไงทั้งเขาและไอฮอร์ลไม่มีทางจะเอาไอตัวปัญหาตัวนี้มาทำเมียแน่นอน!
“นั้นดิวะ เศร้าห่าอะไรนักหนา หน้ามึงสวยเอวมึงดี มึงก็หาเอาใหม่ดิวะ หมั่นหน้าหน่อย”ฮอร์ลส่งเสียงให้กำลังใจเพื่อนตัวเล็ก เมื่อเห็นเจ้าตัวทำหน้างอยๆ
“มึงก็พูดง่ายกันไปเปล่าวะไอฮอร์ล น้องคนนี้กูจริงจังหวังเลี้ยงดูให้เติบใหญ่”เยลพูดเสียงสั่น ใบหน้าสวยแสดงอาการเจ็บปวดออกมาอย่างเหลือแสน ตัวเพื่อนตัวโตสองคนถึงกับทำหน้าเอือม
“จริงจัง ถุ้ย! อย่ามาพูดคำนี้ให้พวกกูได้ยินเชียว”มือใหญ่ของจินส่งไปผลักหัวเพื่อนตัวเล็กอย่างหมั่นไส้กับคำพูดคำจาของเพื่อนที่เขารับไม่ได้อย่างแรง
“สัด! ฟังแล้วคันรูหูบวกตีนกูเข้าไปด้วยเลยครับท่าน ถ้าไม่ติดว่ามึงเพื่อนกูนะไอเยล กูนี้อยากจะเอาตีนยีคำพูดมึงแรงๆจริงๆ เอาทิ้งเอาคว้างไม่กลัวของตัวเองหลวมอย่างมึง อย่ามาพูดให้พวกกูได้ยินเชียว”
“สัด! กูบริหารออกกำลังกายให้มันฟิตตลอดแหละเชี่ย มาหาว่าของกูหลวม!”
ด่าอะไรเขาไม่ว่าแต่อย่ามาด่าว่าหลวม! กูไม่ยอม
เยลด่าเพื่อนตัวสูงอย่างโมโห ก่อนจะมานั่งหน้ายุ่งเหมือนเดิม เพราะยังเคืองๆเรื่องที่โดนว่าหลวมไม่หาย ซึ่งเจ้าตัวก็ปฏิญาณกับตัวเองแล้วว่า วันนี้เขาจะขยิบมันเป็นสองเท่าเพื่อที่มันจะได้ฟิตกระฉับเหมือนไม่เคยโดนสอดใส่!
คอยดูเถอะไอเพื่อนปากเสีย! เด็กไหนโดนมันต้องติดกู
แต่คิดถึงสาเหตุที่ตัวเองโดนเทแม่งก็เคืองไม่หาย เขาออกจะสวย หัวนมชมพูขนาดนี้ ดันมาแพ้กะอิแค่เด็กม.ต้นไว้ผมทรงเดียวน้องเนยรักษ์โลกไปได้ แถมหน้าตาก็งั้นๆอีกด้วย เจ็บใจแม่งฉิบหายเลย
สามเพื่อนซี่ประจำคณะแพทย์ไม่ได้รู้เลยว่าตัวเองตกเป็นเป้าสายตา และได้รับความสนใจจากนักศึกษาคนอื่นๆมากแค่ไหน ยิ่งคนตัวเล็กที่สุดในกลุ่มทำท่าทางงอนสองหนุ่ม แล้วสองหนุ่มพากันปลอบ ยิ่งทำให้คนมองพากันคิดไปกันจนแทบเลี้ยวกลับมาไม่ได้ แต่ก็ต้องดึงตัวเองกลับมา เพระทั้งสามเคยพูดไว้แล้วว่าเป็นเพื่อนกันจริงๆ
ยิ่งคนตัวเล็กสุดในกลุ่มอย่างเยล ที่หนุ่มๆต่างพยายามจะเข้าถึงตัว เคยพูดออกมาอย่างชัดเจนแล้วว่าตัวเองจะเรียนอย่างเดียว ฉะนั้นแม้สักรอยยิ้มที่หนุ่มๆต่างหวังก็ให้เลิกฝันไปได้เลย เพราะเจ้าตัวไม่เคยมีรอยยิ้มน่ารักๆให้กับผู้ชายคนไหนสักครั้ง เพราะแม่งมีรสนิยมส่วนตัวที่เพื่อนซี่อย่างจินและฮอร์ลที่รู้ดี
ส่วนเพื่อนซี้ทั้งสองอย่างฮอร์นก็พ่วงด้วยตำแหน่งใหญ่โตการันตีความหล่อเหลาเอาการ ฮอร์ลคืออดีตตำนานเดือนมหาลัยขึ้นเทียบเคียงพวกเดือนวิศวะที่ผูกขาดการเป็นเดือนมหาลัยมาตลอดหลายปี และจินถึงแม้ว่าจะไม่ได้เป็นเดือนแต่ก็หล่อไม่แพ้ฮอร์ลเลยทีเดียว และยังเป็นนักกิจกรรมตัวยงของมหาลัยอีกด้วย
“เลิกเศร้าได้แล้วสัก บ่ายนี้ไม่มีเรียนเอาไง”จินส่งเสียงถามเพื่อนซี้ทั้งสอง
“ผับไหมละ แต่กูขอกลับไปนอนก่อนนะ”ฮอร์นเสนอ พร้อมกับปิดปากหาวไปด้วย เพราะเมื่อคืนพวกเขาโต้รุ่งอ่านหนังสือเตรียมควิซเมื่อเช้ามา
“แล้วมึงละเยล”จินหันไปถามเพื่อนตัวเล็ก
“เอาดิ แล้วพวกมึงได้โรงพยาบาลที่จะไปลงรึยัง”ตอบรับเพื่อน ก่อนจะถามเรื่องสำคัญสำหรับนักศึกษาแพทย์อย่างพวกเขาไปด้วย
“ยังวะ แต่คิดว่าจะลงบ้านตัวเองนี้แหละ พ่อบอก”จินตอบพร้อมกับยกขวดน้ำดื่มไปด้วย
“ก็ดีเปล่าวะ ไม่ต้องคิดมาก”เยลพยักหน้ารับ
“แล้วมึงละฮอร์ล จะไปที่ไหน”หันหน้ามาถามอีกคน
“กูก็ว่าจะไปโรงพยาบาลบ้านไอจินนั้นแหละ มึงก็ด้วยไอเยลไม่ต้องกระแดะไปไหนไกล”ฮอร์ลพูดก่อนจะยื่นมือไปดึงแก้มขาวของเยลเบาๆ
“ไอสัด มือหนักอย่างกับตีน! แล้วจะบังคับกูเพื่อ”โวยวายพร้อมกับยกมือขึ้นปัดมือเพื่อนตัวโตออก
“อ้าวมึง ลืมไปแล้วเหรอว่าโรงพยาบาลบ้านไอจินติดกับโรงเรียนนานาชาติอะ”ฮอร์ลลอยหน้าลอยตาตอบ
“ถูกครับเพื่อนฝูง โรงพยาบาลบ้านกูติดกับโรงเรียนนานาชาตินะครับ คิดดีๆ”จินยื่นมือไปแท็คกับฮอร์ลอย่างชอบใจ
อย่าคิดว่าเขาคิดอะไรกับเพื่อนตัวเองนะเว้ย ย้ำอีกครั้งว่าไม่มีทาง แต่ที่ต้องพูดออกไปแบบนั้นเพราะเป็นห่วงมันนี้แหละ ตามองแต่เด็กอยู่นั้นแหละ ห่ารู้ไม่ว่าจะโดนหิ้วไปอาหลังห้องน้ำตอนไหนก็ไม่รู้ ไม่ได้รู้ห่ารู้เหวอะไรเลย
“จริงดิมึง”เยลทำตาลุกวาวตื่นเต้น
“อะ เก็บอาการหน่อยก็ได้มึง เดี๋ยวเขาก็รู้หมดกันพอดีว่ามึงอะบ้ากาม!”ฮอร์ลทำหน้าเอือม ก่อนจะใช้นิ้วชี้ดันหน้าผากเพื่อนตัวเองให้นั่งลง
“สาด มึงอย่าเอาเรื่องจริงมาพูดดิวะ เดี๋ยวเพื่อนเราเสียหาย ฮ่าๆๆๆ”จินขำเสียงดังใส่หน้าเยลอย่างสะใจ
“สัด! เงียบปากไปเลยมึงสองตัวอะ ก็กูชอบของกูแบบนี้เปล่าวะ พวกมึงสองคนดีตายเลยเอาแต่ด่ากูเนีย”เยลย้อนเพื่อนสองคนอย่างเซ็งๆ
มันสองตัวก้ใช่ย่อยที่ไหนกัน เฮอะ!
“งั้นก็ตามนี้ละกัน”จินปรับโทรเสียงอย่างเป็นงานเป็นการ
“เอาตัวรอดเก่ง”เยลเบ้ปาก
“เออ งั้นเจอกันเวลาเดิมที่เดิม”ฮอร์ลตอบรับ
“ดีล!”
เมื่อเพื่อนซี้ทั้งสามตกลงกันได้แล้วเป็นที่เรียบร้อย ต่างก็แยกย้ายกันกลับเพื่อไปนอนหลับเอาแรงสำหรับการออกเที่ยวในคืนนี้ ซึ่งพวกเขาใกล้จะเรียนจบแล้วจึงแทบหาเวลาว่างไม่ได้เลยมันจึงมีค่ามาก และอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าพวกเขาก็จะกลายเป็นแพทย์เต็มตัว เพราะใกล้จะเรียนจบในอีกไม่ช้านี้แล้ว
..............................
วันนี้เป็นวันที่เยลและเพื่อนตัวโตทั้งสองมาจัดการเอกสารต่างๆที่โรงพยาบาลบ้านของจิน กว่าทุกอย่างจะเรียบร้อยก็เล่าเอาทั้งสามคนหิวไส้แทบขาด จึงได้เดินมาฝากท้องกันที่ร้านอาหารข้างๆโรงพยาบาลแทนที่จะเป็นโรงอาหารของโรงพยาบาลเพราะคนเยอะมาก และร้านอาหารนี้ก็อยู่ติดกับโรงเรียนนานาชาติที่ทำให้คนตัวเล็กตาเป็นประกายจนแทบลืมความหิวไปเลย
“อะ เลิกมองเด็กมันได้แล้วครับมึง แดกข้าวไอสัด!”จินแดกดันเพื่อนตัวเล็ก เพราะเจ้าตัวเอาแต่สนใจเด็กๆกางเกงขายาวสีเทา จนพวกเขาแดกข้าวหมดไปจานแล้ว
“เบาๆ เดี๋ยวแตกตื่นหมด ยุ่งเรื่องกูจริงๆ แดกอิ่มก็ไสหัวไปเลย กูจะส่องเด็ก”เยลถลึงตาใส่เพื่อนทั้งสอง ก่อนจะตักข้าวใส่ปากอย่างลอยๆ
จินกับฮอร์ลมองหน้ากันก่อนจะยักไหล่ใส่กัน แล้วหันไปสั่งอย่างอื่นกินต่อ เพราะดูท่าแล้วยากที่เพื่อนเขาจะกลับมามีสติอีกครั้ง เพราะออล่าเด็กๆมันทำเอาใจเพื่อนเขาหลุดไปแล้ว
เยลกวาดสายตามองเด็กหนุ่มนานาชาติหลากหลายคนอย่างสุขใจ พลางวางแผนว่าจะเข้าหายังไง เมื่อเขาได้เจอคนที่ถูกสเปคของตัวเอง
เหล่านักเรียนนานาชาติกางเกงขายาวสีเทา สวมเชิ้ตสีขาวพร้อมกับผูกไทกลุ่มใหม่ พากันเดินเข้ามาในร้านอาหารกลุ่มใหญ่ พูดคุยกันเสียงค่อยข้างดังแต่ก็ไม่ถึงกับรบกวนแขกคนอื่นๆ แต่ที่สะดุดตาคนทั้งร้านมากที่สุดเห็นจะเป็นเด็กหนุ่มที่ตัวสูงโย่งที่สุดในกลุ่ม ซึ่งผมสีทองอ่อนจนเกือบซีดมันลงตัวเข้ากันกับดวงตาสีเทา ใบหน้านั้นฉายแววหล่อเหลาออกมาอย่างเห็นได้ชัดเจนว่าในอนาคตต้องยากที่จะไม่มีผู้หญิงคนไหนจะตกหลุมรักแน่ๆ ถึงแม้ว่าตอนนี้จะมีแก้มกลมๆมาบดบังก็ตาม แต่มันกลับมีเสน่ห์จนเยลไม่สามารถหุบปากตัวเองได้เลย
น้องครับ พี่เยลคนนี้ใจอ่อนยวบยาบอยากจะเข้าไปนาบแล้ว งือ!
“หน้าตามันแบบนี้ คิดอะไรกามๆอยู่แน่นอน”จินที่เห็นหน้าตาอาการเพื่อนตัวเล็ก ซึ่งมันบ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่าคิดอะไรอยู่พูดขึ้นมาทันที
“ออกอาการซะพวกกูกลัวเลย”ฮอร์ลทำท่าแขยงเว่อร์ๆ
“ก็อยากได้”เยลพูดออกมาตรงๆใส่เพื่อนทั้งสอง
“มาเว้ยๆ”
“แล้วมึงชอบคนไหนวะ”จินถามแล้วมองตามสายตาเพื่อน
“เออนั้นดิ แต่เด็กสมัยนี้ นี้มันหน้าตาดีกันจริงๆวะ ดูไอเด็กลูกครึ่งนั้นดิ อายุแค่นี้แต่เสือกหล่อเกินอายุจริงๆ นี้ถ้าแก้มมันยุบนะ กูละไม่อยากจะคิดเลยว่าผู้หญิงจะตบตีแย่งกันขนาดไหน ว่าแล้วคันมืออยากตบกะโหลกมันจริงๆ”ฮอร์ลพูด แต่สายตาก็ไม่ละไปจากโต๊ะใหญ่สุดของร้าน ที่เด็กๆซึ่งเป็นหัวข้อการสนทนาของพวกเขาจับจองอยู่
“สัด! อย่านะเว้ยไอคนถ่อย!”เยลที่ได้ยินว่าเพื่อนจะทำร้ายหนุ่มน้อยของเขา ก็หันมาถลึงตาพร้อมกับด่าเสียงเข้มทันที
“แหมๆ ออกตัวแรงเลยนะสัด แล้วคนเก่าของมึงละ เพิ่งเอาซิงเขามาไม่กี่วันไม่ใช่ไง”จินส่งเสียงถาม
“อย่าพูดถึงได้ปะ พูดแล้วแม่งกลิ่นเปรี้ยวลอยมาเลย”เยลเบ้หน้าพลางบีบจมูกตัวเอง
“เอ้า! แล้วไม่สอนเด็กมันวะ”ฮอร์ลถามงงๆ
“บอกแล้วสัด เสือกไม่ทำกูเลิกแม่งเลย”พูดออกมาอย่างเชิดๆ
“ขนาดนั้นเลย”
“เออ! พวกมึงนี้สงสัยอะไรกันจังวะ เสียเวลากูส่องเด็กหมด”เยลบ่นอย่างหัวเสีย
“ฮ่าๆๆๆ โอเคๆพวกกูไม่ถามแล้วก็ได้วะ จบครับจบ”จินยกมือขึ้นยอมแพ้
“เห็นพวกกูเป็นสนามอารมณ์ไปได้”ฮอร์ลส่งเสียงบ่นๆ
“พวกมึงก็พูดได้ดิไม่ได้มาเป็นกูสักคน จังหวะนั้นแทนที่กูจะได้เสียวแต่กลับต้องมาผะอืดผะอมแทน”เยลบ่นากยื่น
“สัด เห็นภาพเลย”
“พอๆ แดกข้าวต่อดีกว่า”
ระหว่างที่ทั้งสามกำลังเถียงกันอยู่นั้น ไม่ใช่แค่เยลหรอกนะที่กวาดสายตามองทั้งร้านแล้วสะดุดตาเข้ากับใครสักคน เพราะเด็กหนุ่มตัวสูงที่เคยเป็นหัวข้อสนทนาก็ทำแบบเดียวกับคนตัวเล็กเหมือนกัน ก่อนที่สายตาจะมาหยุดลงที่คนตัวเล็กเอวบางในชุดนักศึกษาถูกระเบียบที่ตอนนี้นั่งหน้าบู้บี้เพราะโดนเพื่อนล้อไม่เลิกอยู่
ปาร์ค ชานยอล ลูกครึ่งเกาหลีผสมอินตาลี เหม่อมองพี่นักศึกษาที่เขาคิดว่า จะต้องตัวเล็กกว่าเขาแน่นอนดูได้จากมือขาวๆนั้นแล้ว รอยยิ้มของพี่เขามันทำให้เขาไม่สามารถละสายตาไปไหนได้เลย จนต้องมองอยู่แบบนั้น และยิ่งเจ้าตัวเผลอหันมาทางเขาแล้วเราสองคนสบตากัน มันทำให้เขาใจเต้นแรงแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ทั้งๆที่เขาก็โดนพี่ม.ปลายน่าๆรักมาสารภาพตั้งเยอะ กลับไม่มีใครทำให้เขาใจเต้นแรงได้เท่าพี่นักศึกษาคนนี้เลยสักนิด
“เหม่ออะไรวะชานยอล”
เพื่อนตากลมในกลุ่มเดียวกันส่งเสียงถามเพื่อนตัวสูงที่เอาแต่หันไปด้านข้างตั้งแต่เมื่อกี้ด้วยความสงสัยปนอย่างรู้ จนต้องมองตามสายตาเพื่อนไป ก็เห็นเป็นกลุ่มนักศึกษาหน้าตาดีที่เขาก็ต้องตะลึงเหมือนกัน
“นิดหน่อยวะ”ปากบอกเพื่อนแต่ตาก็ยังไม่ละไปจากคนที่ตัวเล็กกว่าตัวเอง
“พี่ๆพวกนั้นเขาทำไมเหรอหรือชานยอลรู้จัก”ซันถาม
“เปล่าหรอก แค่คิดว่าพี่คนตัวเล็กน่ารักดี”ชักสายตากลับมา พร้อมกับตอบเพื่อนนิ่งๆ
“ฮั่นแน่! เจ้าชายน้ำแข็งก็มีวันละลายเหมือนกันนะเนีย”เพื่อนตัวเล็กในกลุ่มส่งเสียงแซวทันที
“มัวละลู่หาน”ชานยอลส่ายหัวแล้วกลับมาสนใจพูดคุยกับเพื่อนๆต่อ
แล้วใครมันจะไปรู้กันว่าอีกไม่กี่วันข้างหน้าทั้งสองจะได้มาพบเจอกัน ตกหลุมรักกันอย่างถอนตัวไม่ขึ้น พยายามจับมือกันให้แน่นที่สุดเพื่อฝ่าฟันอุปสรรคไปด้วย แต่สุดท้ายคนพี่กลับทนเห็นคนน้องลำบากไม่ไหว จำต้องปล่อยมือและใจร้ายเพื่ออนาคตของคนน้องตามที่พ่อแม่ของคนน้องขอร้อง
คนพี่ร้องไห้น้ำตาแทบเป็นสายเลือดพยายามทำตัวเองให้เข้มแข็ง แต่มันก็ยากแสนยาก คนน้องแม้ไม่ร้องไห้แต่ก็ราวกับหุ่นยนต์ที่ไม่มีชีวิตจิตใจ ใช้ชีวิตอยู่ต่างแดนราวกับถูกตั้งโปรแกรมเอาไว้
10 ปีต่อมา
ฮอร์ลแต่งงานกับลู่หานเจ้าของร้านดอกไม้ตรงหัวมุมโรงพยาบาลท่ามกลางรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของบรรดาเพื่อน ญาติสนิทและพ่อแม่ ซึ่งไม่ต่างจากจินที่แต่งงานไปก่อนหน้านี้กับซัน เจ้าของคาเฟ่เล็กๆในโรงพยาบาลของเขาเอง
เยลยิ้มให้กับภาพความสุขของเพื่อน แต่ในใจกลับแสนอิจฉา เฝ้าถามกับตัวเองว่าเมื่อไหร่กันนะที่เขาไม่สามารถยิ้มออกมาได้อย่างจริงใจ เมื่อไหร่กันนะที่เขาเลิกเที่ยว เลิกหิ้วเด็กขึ้นมากินที่คอนโด เมื่อไหร่กันนะ แล้วเมื่อไหร่ละเขาถึงจะเลิกเสียใจกับการตัดสินใจของตัวเองสักที
พอเจ้าสาวโยนช่อดอกไม้เสร็จเยลก็ไม่ขอลากลับทันที เพราะเขาอยากจะนอนแล้ว ไม่มีแรงจะขยับตัวแล้ว อยากจะเก็บแรงเอาไว้สู้กับงานต่อในวันพรุ่งนี้แล้ว เขารู้ว่าคนรอบข้างเป็นห่วง โดยเฉพาะกับเพื่อนเวรสองตัวนั้น ยิ่งพอปีแรกที่เลิกกับน้องไปเขากลายเป็นคนไม่ยิ้มและเป็นซึมเศร้า เพื่อนทั้งสองก็ยิ่งห่วง เขาพยายามลืม พยายามทำใจ พยายามอยู่กับปัจจุบัน แต่สุดท้ายเขาก็ไม่สามารถดึงตัวเองออกมาจากมันได้
เขาเป็นซึมเศร้ามาเกือบ 10 บำบัดเท่าที่จะทำได้แต่สุดท้ายก็ต้องเพิ่งยาเวลานอน ทุกค่ำคืนที่หลับตาถ้าไม่ได้ยาเขาจะนอนไม่ได้ ทรมานเพราะที่ข้างๆมันว่างเปล่า เจ็บปวดในใจทุกครั้งที่ลูบมือลงบนหมอนที่น้องเคยนอน ครบรอบสิบปีเขาไม่เคยซักหมอนใบนั้น ทุกๆคืนเขาจะวางมือลงบนหมอนแล้วยิ้มกับตัวเองพลางจิตนาการไปว่าน้องยังอยู่ น้องไม่ได้ทิ้งเขาไปไหน
เขายังคงจำได้ถึงสัมผัส กลิ่น และเสียง ถึงแม้ว่าใครๆจะพยายามบอกกับเขาว่าน้องอาจจะลืมเขาไปแล้ว ลืมความหลังแห่งความสุขอันนั้น แต่เขาไม่เชื่อหรอกเขายังรอคอย รอคอยให้สักวันที่น้องจะกลับมา
“ชานยอลครับ พี่เยลรอชานยอลทุกวันเลยนะ วาเลนไทน์ปีนี้ครบรอบ 10 ที่พี่รอเราแล้วนะครับ”
เยลพูดทั้งน้ำตา มุมปากสวยพยายามฝืนยิ้มออกพร้อมๆกับมือบางลูบลงเบาๆบนหมอนที่น้องเคยนอน หมอนใบนี้คือสิ่งเดียวที่ยังคงยืนยันกับเขาได้ว่าน้องเคยอยู่กับเขาที่นี้ เราเคยมีความรักด้วยกัน ณ ที่แห่งนี้ และมันยังคงลอยวนอยู่ในห้องนี้ ส่วนสิ่งของอื่นๆ ถูกพ่อแม่ของน้องเก็บไปจนหมดไม่มีเหลือ แม้กระทั้งของขวัญชิ้นแรกที่น้องทำงานแล้วซื้อให้เยล เมื่อครั้งคบกันได้หนึ่งเดือน
“พี่เยลจะรอชานยอลต่อไปเรื่อยๆ ถึงแม้ว่าทุกคนจะคิดว่ามันไร้ประโยชน์ก็ตาม ถึงแม้ใครๆจะด่าว่าพี่เยลโง่ ที่ไปหลงรักเด็กอายุ 16 ก็ตาม ไม่ใช่สิ เพราะตอนนี้ชานยอลของพี่เยลน่าจะ 26 แล้วสินะ ชานยอลจะต้องหล่อมากๆแน่เลย พี่เยลอยากเจอชานยอลจังเลยครับ”
ตากลมสวยแต่กลับเต็มไปด้วยหยาดน้ำตาทอดมองไปยังหมอนใบข้างๆตน ที่ไม่ว่าทุกค่ำคืนเขาก็จะเว้นที่ข้างๆไว้เสมอๆ คิดไว้ทุกคืนว่าอีกคนจะต้องกลับมานอนข้างๆเขาแน่ๆ
“ไม่ว่าจะผ่านไปอีกกี่วาเลนไทน์ พี่เยลก็จะรอชานยอลอยู่ที่นี้นะครับ”
พร่ำโกหกกับตัวเองซ้ำๆอยู่แบบนั้น ยิ้มให้กับความฝันอันเลือนราง ดีกว่าออกมารับรู้ถึงความจริงที่ว่าอีกคนไม่ได้อยู่กับตัวเองแล้ว
...........................
“ไอเชี่ย! ทำไมมึงถึงทำแบบนี้ด้วยวะ”
“ไอเพื่อนเลว! มึงเป็นหมอนะ มึงไม่รู้เหรอว่ากินยา อึก! เกินขนาดแล้วร่างกายมันจะเป็นยังไง!”
ชายหนุ่มทั้งสองพยายามช่วยกันปั้มหัวใจให้กับเพื่อนร่างเล็กที่นอนหมดลมหายใจอยู่บนเตียงนอนกว้าง ท่ามกลางเม็ดยานอนหลับที่ตกเกลื่อนไปทั่วพื้น ที่ด้านข้างยังมีหมอนที่พวกเขาจำได้ดีว่าเพื่อนของเขานั้นรักมากแค่ไหนวางเอาไว้ ใบหน้าที่มักจะมีเลือดฝาดอยู่เสมอ เหลือเพียงใบหน้าขาวซีดที่บ่งบอกได้ว่า ร่างกายนี้หยุดหายใจมานานแค่ไหนแล้ว
“อึก พอเถอะมึง ไอเยลมันไปแล้ว”จินจับบ่าของฮอร์นแน่น พร้อมกับส่ายใบหน้าหล่อเหลาที่เกลื่อนไปด้วยน้ำตาเบาๆ
“เชี้ยเอ้ย! ทำไมมันต้องเป็นแบบนี้ด้วย”ฮอร์นสบถออกมาด้วยความเสียใจ
มือแกร่งที่เคยช่วยคนมามากหยุดลง แต่น้ำตาแห่งความเสียใจกลับไม่หยุดไหลออกมา สองหนุ่มมองร่างเล็กๆแต่ไร้ลมหายใจของเพื่อนด้วยความสะเทือนใจ
……………………
“นาทีสุดท้ายของชีวิตมึง ไม่ทรมานใช่ไหมวะ”
“มึงมีความสุขใช่ไหมวะ”
“แต่อย่างน้อยมึงอยู่บนนั้น ไอเด็กเวรนั้นก็คงไม่เหงา”
“แต่พวกกูเหงานะเว้ย ไอเพื่อนเวร!”
เขาสองคนพยายามซ่อนข่าวของชานยอล ซึ่งประสบอุบัติเหตุเครื่องบินตกกับเยล เพราะพวกเขารู้ดีว่าเพื่อนของตัวเองคงทนไม่ได้ แต่สุดท้ายคงมีใครสักคนที่จำชานยอลได้จากรูปบนโต๊ะทำงานของเยลแล้วเอามาเล่าให้เจ้าตัวฟัง สุดท้ายเขาเสียเพื่อน ครอบครัวชานยอลเสียลูกชายคนเดียว แต่อย่างน้อยทั้งสองคนก็ได้ขึ้นสวรรค์ในวันเดียวกัน ในวันวาเลนไทน์ปีที่ 11 ของความรักของทั้งสอง
ความคิดเห็น