วรรณคดีสไตล์เกรียน

ลำดับตอนที่ #261 : ตามเสด็จในไกลบ้าน (๒) : อิตาลี

เนเปิลส์ (Naples) / นาโปลี (Napoli)

: เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงด้านความร่ำรวยทางประวัติศาสตร์ ศิลปะ วัฒนธรรม สถาปัตยกรรม ดนตรี และศาสตร์การทำอาหาร เนเปิลส์เป็นเมืองแรกที่เริ่มมีการทำพิซซ่าขึ้นมา

รัชกาลที่ 5 เสด็จไปพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ (Stazione Zoologica Anton Dohrn) โบสถ์ซานมาร์ติโน (Certosa di San Martino) และทอดพระเนตรโอเปร่าที่โรงละครซาโลเนมาการิต้า (Salone Margherita)

.

.

.

เจนัว (Genoa)

: เป็นเมืองท่าที่สำคัญทางตอนตะวันตกเฉียงเหนือของอิตาลี เป็นบ้านเกิดของคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส (Christopher Columbus)

รัชกาลที่ 5 เสด็จไปทอดพระเนตรอนุสาวรีย์พระเจ้าวิตโตรีโอ เอมานูเอเลที่ 2 (Vittorio Emanuele II d'Italia) และชมสุสาน (Monumental Cemetery of Staglieno)

.

.

.

ซานเรโม (Sanremo)

: เป็นเมืองชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน (Mediterranean Sea) รัชกาลที่ 5 ทรงเปรียบคล้ายกับเกาะสีชัง ทรงประทับอยู่ที่วิลลาโนเบล (Villa Nobel) เป็นเวลา 16 คืนเพื่อรักษาพระวรกาย

.

.

.

ริเวียร่า (Riviera)

: ชายฝั่งริเวียร่ามีอากาศที่ดีอยู่ตลอดเวลา ผู้คนต่างร่ำลือกันว่าเป็นเพชรเม็ดงามแห่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ฝรั่งเศสเรียกโกตดาซูร์ (Côte d'Azur)

รัชกาลที่ 5 เสด็จไปยังเมืองต่างๆดังนี้ 

- ออสเปดาเลตตี (Ospedaletti)  

- ม็องตง (Menton) 

- บอร์ดิเกรา (Bordighera) 

- ตัจจา (Taggia) 

- มอนติคาร์โล (Monte Carlo) 

- เวนติมิเกลีย (Ventimiglia) 

- อัลเบงกา (Albenga)

- นีซ (Nice)

.

.

.

ตูริน (Turin)

: เป็นเมืองหลวงแห่งแรกของอิตาลี เมืองศูนย์กลางทางอุตสาหกรรมของภาคเหนือแห่งอิตาลี รัชกาลที่ 5 ทรงเปรียบคล้ายกับเชียงใหม่

เจ้าชายโทมัส ดยุกแห่งเจนัว (Prince Thomas, Duke of Genoa) เชิญรัชกาลที่ 5 ไปประทับที่พระราชวังตูริน (Royal Palace of Turin) 

ท่านดยุกยังเชิญเสด็จไปชมพระราชวังฤดูร้อนอายี (Castle of Agliè) และเชิญไปทอดพระเนตรโอเปราที่โรงละครวิกตอโร เอ็มมานูเอล (Teatro Vittorio Emanuele II)

.

.

.

เวนิส (Venice) 

: ได้รับฉายาว่าเมืองแห่งสายน้ำ ถูกสร้างขึ้นจากการเชื่อมเกาะเล็กๆ จำนวนมากเข้าด้วยกันในบริเวณทะเลสาบเวนิเทีย (Venetian Lagoon)

รัชกาลที่ 5 ประทับเรือกอนโดลา (Gondola) เสด็จไปจตุรัสชานมาร์โค (Piazza San Marco) มหาวิหารซันมาร์โก (Basilica Cattedrale Patriarcale di San Marco) โบสถ์มาเรียดิซาลูเต (Santa Maria della Salute) นิทรรศการศิลปะเวนิชเบียนนาเล่ (Venice Biennale)

.

.

.

ฟลอเรนซ์ (Florence)

: เป็นศูนย์กลางทางการค้าและการเงิน และเป็นที่เกิดของสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยา (Renaissance)

รัชกาลที่ 5 เสด็จไปเยี่ยมเจ้าชายวิตตอรีโอ เอมานูเอเล เคานต์แห่งตูริน (Prince Vittorio Emanuele, Count of Turin) ที่พระราชวังปิตตี (Palazzo Pitti)

เสด็จไปสตูอิโอและบ้านพักของเอดดออาร์โด เยลี (Edoardo Gelli) จัตุรัสไมเคิลแองเจโล (Piazzale Michelangelo) ทอดพระเนตรโอเปราที่โรงละครแวดี (Teatro Giuseppe Verdi) และแวะไปศาลาว่ากลางเมืองฟลอเรนซ์ (Palazzo Vecchio)

.

.

.

มิลาน (Milan)

: เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในด้านแฟชั่นและศิลปะ รวมไปถึงสโมสรฟุตบอลอินเตอร์มิลาน (F.C. Internazionale Milano) และสโมสรฟุตบอลเอซีมิลาน (A.C. Milan)

รัชกาลที่ 5 เสด็จไปมหาวิหารแห่งมิลาน (Duomo di Milano) แต่ไม่ได้ไปที่ย่านการค้ากัลเลรีอา วิตโตรีโย เอมานูเอเล (Galleria Vittorio Emanuele II) เพราะทรงให้เหตุผลว่าเป็นที่ประชุมคนจอแจ ถ้าขืนเข้าไปก็ยิ่งกว่ามีโนราห้าโรง จะรุมกันดูจนไม่แลเห็นอะไร

.

.

.

หลังจากนั้นก็เสด็จไปยังสวิตเซอร์แลนด์