ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    วรรณคดีสไตล์เกรียน

    ลำดับตอนที่ #36 : พระสมุทโคดม : เปิดตำนานเกาะแก้วพิสดาร

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.38K
      13
      28 ก.ค. 64

    พระสมุทโคดม เป็นวรรณกรรมกลอนสวดที่ดำเนินเนื้อเรื่องแบบชาดก แต่ก็ยังมีเรื่องเนื้อหาแบบจักร ๆวงศ์ๆ

    .
    .
    .

    เรื่องราวของพระพุทธเจ้ากับพระศรีอาริยเมตไตรยที่เสวยพระชาติเดียวกัน เกิดเป็นพี่น้องท้องเดียว กัน แล้วต้องมาผจญวิบากกรรมร่วมกัน ทั้งคู่เป็นโอรสของ ท้าวอาทิตย์ แห่งเมืองพาราณศรี (เขียนอย่างนี้จริงๆนะ) โดยที่พระพุทธองค์เกิดเป็นพี่มีนามว่า สมุทโคดม พระศรีเมตไตรยเป็นน้องมีนามว่า โพธิทัต

    วันหนึ่งสองพี่น้องได้กราบลาพ่อแม่ไปร่ำเรียนพระธรรมที่เมืองลังกา สิบห้าวันก็เดินทางมาถึงเกาะแก้วพิสดาร  เอ๋! คุ้นๆนะ ครานั้นเกิดเป็นพายุใหญ่ขึ้นมาจนทำให้เรือล่มลง แต่พระสมุทโคดมกับโพธิทัตกลับเกาะกระดานเรือลอยออกมาได้ แต่เหมือนจะเป็นเวรกรรม ไม้กระดานที่เกาะมานั้นกลับแตกแยกทั้งสองออกจากกัน

    พระน้องนั้น องค์อินทร์ได้ลงมาช่วยเหลือไว้ได้ตามสเต็บ แต่ครั้นจะไปช่วยเหลืองค์พี่นั้น พลันร่างพระพี่กลับกลายเป็นเณรมาบอกกับพระอินทร์ว่า ในชาติแล้วพี่น้องคู่นี้เกิดเป็นลูกชายเศรษฐีมาก่อน ครั้นนั้นพาบริวารมาเล่นน้ำ เห็นเณรนั่งเรือผ่านมา องค์พี่จึงพาบริวารแกล้งคว่ำเรือเณรจนล้ม โชคดีที่องค์น้อยมาช่วยอุ้มมาขึ้นฝั่งได้ทัน พระอินทร์พอรู้เข้าก็ส่งขอนไม้ให้เกาะแล้วพาพระน้องมาส่งยังเกาะลังกาอย่างปลอดภัยพลางรีบกลับไปตีฮอนต่อทันที

    (ทิ้งพระสมุทไว้ดื้อๆเลยนะ!!)

    พระสมุทลอยมาถึงปากอ่าวเมืองสามล ท้าวสามล มีธิดาอยู่ 7 องค์ (คุ้นๆนะ) องค์เล็กสุดมีชื่อว่า ชลครรภา

    วันหนึ่งทั้งเจ็ดชวนกันไปเล่นน้ำทะเล บังเอิญ!! เจอพระสมุทลอยมา หกนางนึกอยากได้เป็นผัวจึงว่ายเข้าไปหา แต่กลับไม่สามารถเข้าไปได้ ต่างฝ่ายต่างอธิษฐานว่าถ้าพระสมุทเป็นเนื้อคู่ใครขอให้ขอนไม้ลอยมาหาคนนั้น แจ๊คพอตจึงต้องเป็นของนางชลครรภาไปโดยปริยาย ท้าวสามลทราบจึงจัดงานแต่งให้อย่างเอิกเกริก

    วันหนึ่งมีลำเภาจากกรุงจีนทวิไสยเข้ามาติดต่อค้าขายกับท้าวสามล ครั้นทูตเห็นนางชลครรภานี้งดงานนักจึงร่างรูปนางไปถวาย ท้าวผะกา พระเจ้ากรุงจีน 

    ครั้นท้าวผะกาเห็นรูปนางก็เกิดหลงรูปนางเข้าส่งสาส์นมาสู่ขอทันที ซึ่งท้าวสามลก็เต็มใจยกให้

    ท้าวสามลพึ่งนึกได้เฮ้ย! ลูกเขยกูมีอยู่แล้วนี้น่า ไม่เป็นไร เดี๋ยวเอาไปปล่อยที่เกาะแก้วพิสดารดีกว่า อิอิ ว่าจึงดำเนินแผนการทันที ท้าวผะกาจึงได้พานางชลครรภาลงเรือสำเภากลับจีน ครั้นถึงปากน้ำเมืองจีน นางเห็นไม่มีทางรอดแล้วจึงกลั้นตายไปทันที

    ครั้นตายไปดวงจิตมาเกิดที่เขาแก้วอนันต์ของท้าวอาทิตย์กับนางจันทรกินนร โดยโอปปาติกะ(เกิดเองโดยไม่ต้องพึ่งพ่อแม่)ในดอกไม้เป็นกินรีงามสะพรั่งชื่อ สุวรรณมาลา

    วันหนึ่งนางกับพี่สาวทั้งหกบินเล่นมาถึงเกาะแก้วพิสดารแล้วเห็นไร่ของใครก็ไม่รู้มาปลูกเอาไว้ นางอยากได้ไปถวายพระมารดาจึงแอบเก็บไปสามเม็ด 

    ครั้นแม่ทราบก็ว่ากล่าวตักเตือนไปการยกใหญ่พลางบอกให้ลูกไปทดแทนคุณเจ้าของไร่ ณ บัดนาว 

    เจ้าของไร่ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นพระสมุทโคดมนี้เองล่ะครับที่มาปลูกไร่นาข้าวโภชนาสาลีต่างๆเอาไว้ ครั้นพระสมุทออกไปข้างนอก นางก็แอบเข้ามาจัดอาหารทำความสะอาดที่อยู่อาศัยให้ซะเรียบร้อย ทำอย่างนี้ทุกวันทุกวันจนพระสมุทเริ่มแปลกใจจึงเริ่มดำเนินแผนการจับโจรตามสไตล์วรรณคดีไทย

    พอครั้นทราบเรื่องขึ้น นางก็จำเรื่องราวในอดีตชาติได้ นางจึงอธิษฐานให้เกาะแก้วกลายเป็นเมืองพร้อมด้วยสมบัติรัตน ทรัพย์ศฤงคารข้าทาสบริวารต่างๆมากมาย พระสมุทตื่นขึ้นมาก็งง งง งงซิกว่าจะเข้าใจก็ต้องอธิบายกันไปนานโข พระสมุทจึงได้ครองสบบัติกับนางสุวรรณมาลาอย่างมีความสุข

    พอท้าวสามลทราบเรื่องเข้าก็กริ่งเกรงใจอยู่เหมือนกันจึงส่งสารไปบอกให้ลูกเขยกลับมาไหว้พ่อตา ณ บัดนาว พระสมุทโคดทจึงแต่งสารบอกให้คืนนางชลครรภามาให้ พ่อตาทราบก็โกรธเหมือนโดนไฟจี้ทันใด จึงแต่งสารไปเชิญท้าวผะกามารบกับลูกเขยตนทันที ทัพเรือของท้าวผะกากับทัพบกของท้าวสามลจึงเดินทางมาถึงเกาะแก้วพิสดารทันที นางสุวรรณมาลาจึงบอกให้พระสมุทไปรบกับท้าวผะกา ส่วนนางจะไปรบกับท้าวสามลเสียเอง

    ทันใดนั้นบังเกิดแผ่นดินสั่นสะเทือนคลื่นสมุทปั่นป่วน ท้องฟ้าก็อับแสงเหมือนมืดมิดทันใด เรือรบทั้งหลาบต่างจมลงไปในทะเลพร้อมด้วยไพร่พลและตัวท้าวผะกาเอง ส่วนนางสุวรรณมาลาก็ได้รบกับท้าวสามล ด้วยเวรกรรมที่มีในอดีตนางจึงฟันคอท้าวสามลขาดสะบั้นลง

    กล่าวฝ่ายพระโพธิทัตมาอยู่เมืองลังกายังไม่รู้ภาษาของชาวเมืองเลย โชคดีที่เจอทิศาปาโมกข์รู้คำไทยจึงชวนกันไปไหว้เขากงจักร์กัน พระอินทร์อยากลองใจจึงแปลงเป็นยักษ์มาถามปริศนาธรรม ซึ่งโพธิทัตตอบได้หมดทุกกระบวน ยักษ์จึงคืนร่างเป็นพระอินทร์เหมือนเดิม 

    พระอินทร์จึงพาโพธิทัตมาส่งยังบ้านเมืองที่เคยจากมา 

    ฝ่ายพระสมุทก็คิดถึงพ่อแม่ จึงชวนนางสุวรรณมาลากลับบ้านเมืองทันที

    .
    .
    .

    สุดท้ายยังมีการกล่าวถึงการประชุมชาดกถึงการกลับมาชาติมาเกิด ดังนี้

    • ท้าวผะกา  พระเทวทัต
    • ท้าวสามล  พระเจ้าสุปปพุทธะ
    • พ่อแม่พระสมุท  พุทธบิดาและพุทธมาดา 
    • นางสุวรรณมาลา  นางพิมพายโสธรา 
    • พระสมุทโคดม พระสมณโคดมพุทธเจ้า

    .
    .
    .

    เมืองที่เสกในเกาะแก้วพิสดารไปนั้นก็ได้สูญหายไปตามกาลเวลาจนกระทั่ง พระเจ้าตา จากเรื่องพระอภัยมณี มาบวชที่นี้ ซึ่งพระดาบสได้พรรณาที่นี้เอาไว้ดังนี้

    .

    • อันเกาะแก้วพิสดารสถานนี้………โภชนาสาลีก็มีถม
    • แต่คราวหลังครั้งสมุทรโคดม…….มาสร้างสมสิกขาสมาทาน
    • เธอทำไร่ไว้ที่ริมถูเขาหลวง……….ครั้นแตกรวงออกมาเล่าเป็นข้าวสาร
    • ได้สืบพืชยืดอยู่แต่บูราณ…………..จงคิดอ่านมาเคียวมาเกี่ยวไป

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×