SP. (OS) 【 BLOSSOM 】 krislay. - SP. (OS) 【 BLOSSOM 】 krislay. นิยาย SP. (OS) 【 BLOSSOM 】 krislay. : Dek-D.com - Writer

    SP. (OS) 【 BLOSSOM 】 krislay.

    โดย zensedayz

    ฟิคฉลองวันวาเลนไทน์ คริสเลย์

    ผู้เข้าชมรวม

    1,829

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    5

    ผู้เข้าชมรวม


    1.82K

    ความคิดเห็น


    15

    คนติดตาม


    17
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  17 ก.พ. 56 / 02:12 น.

    แท็กนิยาย

    Krislay kris lay fanxing



    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ



       BLOSSOM 

      PG - 13 AU , Romantic

      FANXING

      zensedays.

       


       

             คริสไม่คิดว่าตัวเองหล่อนะ แต่ใครๆก็พูดชื่นชมในความหล่อของเขา เพื่อไม่ให้ทุกคนผิดหวังคริสเลยรับมันไว้เท่านั้นเอง ด้วยความผิดพลาดทางเทคนิค คริสย้อมสีผมกลายเป็นหัวทองทำให้ใครหลายๆคนติดตาเขาเพราะความโดดเด่น ถามว่าต้องการไหม? ก็ไม่นะ การเป็นจุดสนใจมันก็ดีแต่เวลาที่มันมากไปคนอย่างคริสก็เกร็งมากเหมือนกัน

       

              วันนี้ต้องมาเรียนที่ตึกเรียนรวม ปกติจะอยู่ในคณะ ซึ่งก็ห่างไกลมาก ไม่ค่อยได้เห็นชาวบ้านเท่าไร วันนี้เลยเป็นวันที่ใครหลายๆคนรอคอย(ในการเจอคริส)รวมถึงตัวคริสเอง



               จะพูดไงดี - เขาเองก็หน้าตาดี มีรถขับ โทรศัพท์ถ่ายรูปได้ แต่ที่ขาดไปก็แฟนนี่แหละ ไม่มีเป็นตัวเป็นตนเหมือนชาวบ้านเขาเสียที ส่วนหนึ่งก็คือตำแหน่งที่ตั้งของคณะและเวลานี่แหละ เด็กถา'ปัดถ้าไม่กินกันเองก็ไม่มีใครมาสนใจแล้ว (แม้ว่าส่วนใหญ่คนคณะนี้จะหน้าตาดีแต่ไม่มีเวลาให้ก็จบ)



                คริสยืนรอลิฟท์ขณะเคาะเท้าพร้อมก้มมองดูนาฬิกา เขาไม่อยากเข้าคลาสนี้สายเลยพูดตรงๆ ตั้งใจจะเข้าเรียนวิชานี้ทุกคาบ ไม่ใช่เพราะเนื้อหาวิชา เอ่อ ... - -a โอเค เพราะเนื้อหาวิชาทำให้เขาอยากลงเรียนและก็ทำให้เขาได้เจอกับใครคนหนึ่ง




                  จะพูดว่าโชคดีหรือโชคร้ายก็ไม่ทราบ แต่คริสคิดว่าเขาโชคดีที่เขาได้เจอคนที่ใช่ คือ...พูดไปก็แอบเขิน คริสชอบแอบมอง TA(ผู้ช่วยอาจารย์) ของคาบนี้เซคนี้หลายรอบแล้ว อีกฝ่ายก็ผู้ชายธรรมดาๆนี้แหละแต่คริสหยุดมองไม่ได้เลย อีกฝ่ายตัวเล็กกว่าเขามาก ตัวขาว แก้มกลม มีผมสีน้ำตาลแดงซึ่งยาวละต้นคอ สิ่งที่ทำให้คริสมองอีกฝ่ายไม่เบื่อก็คือลักยิ้มที่กดลึก แค่เจ้าตัวเม้มปาก อมยิ้ม หรือทำอะไรก็แล้วแต่ สิ่งตำหนิที่แสนน่ารักก็ทำให้เขาเพลิดเพลินมองอย่างไม่รู้เบื่อ




                   ชั้น 6 ห้องเรียนรวมขนาดใหญ่ที่บรรจุนักศึกษาได้มากกว่า 200 คน คริสเปิดประตูไม้ดันเข้าไปก่อนจะก้มหัวให้กับคนที่นั่งริมนิดๆเพราะการบรรยายเริ่มต้นไปแล้วกว่าสิบนาที ต้องโทษที่จอดรถเลย หายากเสียจริง คริสปีนบันไดต่างระดับขึ้นไปจนเกือบยอด เห็นกลุ่มเพื่อนที่เข้ามานั่งอยู่ก่อนแล้ว คริสก็เดินเข้าไปนั่งที่ประจำของตัวเอง ด้วยปฏิกริยาอัติโนมัติหรือความเคยชินไม่รู้ หน่วยตาคมกวาดมองไปรอบห้อง มองหาร่างเล็กที่ตอนนี้คงกำลังเดินเช็คชื่อแต่ละแถว ทว่า




      "ยังไม่มาเว้ย ไม่ต้องมองหา" ชานยอลกระซิบบอกด้วยเสียงหัวเราะล้อเลียน คริสหันไปทำตาขวางใส่ เปิดกระเป๋าหยิบหนังสือที่ไม่ค่อยได้ใช้ในห้องขึ้นมาเปิดกาง วิชาเรียนรวมคาบนี้ว่าด้วยเรื่องการใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่น คริสว่ามันง่ายอยู่แล้ว เขาเข้ากับคนได้ง่าย (จริงๆนะ)

       



                      ผ่าง!





       

                คริสเงยหน้าจากการวาดรูปในสมุดมองไปยังประตูที่ถูกเปิดออก เป็นเจ้าของร่างเล็กที่วันนี้สวมแว่นตากรอบดำขนาดใหญ่ ดูท่าทางเร่งรีบและสีหน้าติดจะกังวลอย่างเห็นได้ชัด อีกฝ่ายรีบโค้งขอโทษอาจารย์ผู้สอนก่อนจะวิ่งดุ๊กดิ๊กขึ้นมาทางด้านบนเพื่อวางกระเป๋าสะพายสีน้ำตาลที่คริสจดจำมันได้ดี




      "มึงมองตามเขาแบบนี้ ทำไมเขาไม่รู้สึกตัวสักทีวะ?"



                ชานยอลตั้งคำถาม คล้ายๆกับเปรยกับตัวเองเสียมากกว่า ตั้งแต่ชั่วโมงแรกไอ้คริสก็เอาแต่จ้องมองคนๆนี้มานานแล้วนะ แต่ไม่มีวี่แววว่าไอ้คริสมันจะเดินเข้าหา ตามความเห็นชานยอลนะครับ แค่ไอ้คริสเดินเข้าไปแล้วขอแลกเบอร์ไม่นานเกินสองอาทิตย์ก็ขี้เกียจจะตกลงเป็นแฟนกันแล้ว แต่ไอ้คริสกลับป๊อด แอบมองเขาแบบเนี่ย ทุกคาบ!!


       

                 มีครั้งหนึ่งตอนเช็คชื่อโดยส่งใบรายชื่อเซ็นส่งขึ้นมา ไอ้คริสก็จัดการวาดรูปเสียจนเลี่ยน เขียนข้อความน่ารัก(จนแทบอ้วกว่า) " TA น่ารัก อยากรู้จักได้ไหมครับ?" ถามว่าหลังจากเหตุการณ์นั้นเกิดอะไรขึ้น ไอ้คริสรีบเดินออกจากห้อง เขินจนเหมือนหัวสีทองมันจะย้อมกลายเป็นสีแดง แต่ดันนนนนนนนน อีกฝ่ายไม่รู้เรื่องรู้ราว คาบถัดไปก็เซ็นชื่อกันปกติ แต่ไอ้คริสนี่สิไม่ปกติเอาเสียเลย สั่นจนเห็นได้ชัด คืออย่างน้อยเป็นเพื่อนกันมาก็พอดูออกว่าไอ้คริสมันประหม่าอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน



       

      "หรือว่าเขาโง่..โอ้ย`!" คริสม้วนสมุดเลคเชอร์(ที่เต็มไปด้วยรูปวาด)แล้วยกขึ้นฟาดชานยอลคนปากเสีย สายตาคริสปรามชานยอลมันนิ่งจนชานยอลอยากจะขำ ปกติคริสมันก็หน้านิ่งเป็นปกตินะ แต่พอรู้จักจริงๆจะรู้ว่านิสัยเป็นยังไง ไม่ได้ขรึมเหมือนที่แสดงออกให้คนภายนอกเห็นหรอก ส่วนที่ทำเป็นเข้มเมื่อกี้...




      "มึงอย่าพูดมาก คนนี้กูหวง"




      นั่นปะไร




                  ชานยอลหลุดยิ้มขำ บอกวิธีจีบสารพัดแต่ไอ้คุณชายคริสไม่เลือกใช้สักวิธี นี่ก็ใกล้วาเลนไทน์ไปทุกทีตามภาษเพื่อนที่ดีก็อยากให้เพื่อนคริสมันสมหวังอะครับ ไม่อยากให้มันเดินหล่อไปหล่อมาให้สาวใจเต้นเล่น  


       

                  ชานยอลใช้แขนกระทุ้งไปที่สีข้างเพื่อน รู้นะว่ามันมองอีกฝ่ายตาไม่กระพริบ แต่เพราะแบบนี้แหละเลยอยากแกล้งมัน นานๆทีมันจะสะดุ้งเหมือนลืมความเป็นตัวเองไป และเป็นไปตามคาด คริสสะดุ้งจนทำปากกาที่ถือค้างอยู่ในมือหล่น เกิดเสียงจนคนตัวขาวร่างเล็กเงยหน้าขึ้นมามอง






                   เมื่อกี้จ้องเขาจนแทบจะสิงร่างตอนนี้ดันหลบตาแล้วทำเนียนเก็บปากกแทน คริสสาบานตั้งแต่เกิดมาเขาไม่เคยคิดว่าตัวเองจะเป็นโรคหัวใจเลย เขาออกกำลังกายมาโดยตลอด ร่างกายก็สมบูรณ์แต่เพราะคนๆเดียว


       

      บ้าจริง!




                   คริสเหมือนหัวใจเขากำลังทำงานอย่างหนักทุกครั้งยามได้สบกับดวงตาคู่งามของอีกฝ่าย

      มันทั้งอ่อนโยน แสนไร้เดียงสา คริสต้องคอยกำกับตัวเองเรื่อยไม่ให้จ้องมองอีกฝ่ายมากเกินไป แต่มันก็เป็นเรื่องยากเหลือเกิน นับตั้งแต่วันแรกคริสก็รู้ดีว่าตัวเองนั้นผิดปกติและออกแนวโรคจิตเอามากๆ เวลาสามชั่วโมงในห้องเลคเชอร์คริสปล่อยผ่านและเก็บเกี่ยวช่วงเวลาเหล่านี้ด้วยการนั่งมองร่างบางของอีกฝ่าย ไม่ว่ากริยาการเคลื่อนไหวแบบไหนคริสก็เห็นว่ามันน่ามองทั้งนั้น ทุกครั้ง เมื่อเช็คชื่อครบอีกฝ่ายจะขึ้นมานั่งแถวเกือบบนสุดแต่ก็ยังล่างกว่าคริสที่อีกฝั่ง คริสได้แต่ชำเลืองมอง คนตัวขาวมักมีสมุดเล่มเล็กๆเหมือนกับคริสที่ชอบวาดรูปเล่นตอนเบื่อๆเหมือนกัน





                   จู่ๆอีกฝ่ายก็หันมาเพราะความรู้สึกที่บอกว่ามีคนกำลังแอบมอง คริสเองก็สะดุ้ง แต่ยากจะถอนสายตาเลยกลายเป็นว่าคนสองคนได้สบตากัน นานนับนาทีที่คริสค่อยๆคลี่ยิ้มแสนฝืดฝืน เขาไม่ใช่คนยิ้มสวยเลยสักนิด เวลายิ้มจะดูตลกมากกว่าหล่อ ผิดกับอีกฝ่าย พอคริสยิ้มตอบฝ่ายนั้นก็เอียงหัวงงๆก่อนจะอมยิ้มตอบกลับมาแล้วหันกลับไป



       

      แค่มุมปากของอีกฝ่ายก็ทำให้คริสแทบคลั่ง

      อยู่ไกลกันหลายที่นั่งคริสก็ยังเห็นลักยิ้มสุดแสนน่าฟัดอย่างชัดเจน





      คริสผ่อนลมหายใจเข้าออก บอกตัวเองอย่าตะโกนอะไรแปลกๆไปในเวลานี้ นั่งสงบสติอารมณ์ตัวได้ไม่นานหมดเวลาก็หมดอีกแล้ว โชคดีที่วันนี้กับมะรืนเป็นวันที่เขาจะได้เจอกับคนตัวเล็กอีกครั้ง เพราะภาคเรียนนี้เขาต้องเรียนวิชาเสรีสองตัว ตัวแรกคือตัวนี้ที่เจ้าตัวเป็น TA อีกตัวเป็นนักศึกษาเซคเดียวกัน






      คริสคิดว่านี้คงเป็นเรื่องบังเอิญที่จบลงด้วยโชคชะตาของเราสองคนแน่แท้

      .


       



      .



       

      14 กุมภา


       

                  คริสเห็นชานยอลเดินหน้ายิ้มพร้อมของในมือมากมาย ชานยอลถือว่าเป็นหนุ่มฮ๊อตและป๊อปปูล่าเอามากๆในหมู่รุ่นน้อง เป็นเพราะความร่าเริงเข้ากับคนอื่นง่ายของชานยอลและนิสัยคุยตลกหยอกเอินอย่างสนุกสนานไปทั่วก็ไม่แปลกหรอกที่ใครๆจะรักแล้วอยากทำความรู้จัก

       





                    คริสเองก็ไม่น้อยหน้า ตั้งแต่เข้ามหา'ลัยมาก็ได้รับช๊อคโกแล๊ตจากรุ่นน้องมากมาย คริสคิดว่ารุ่นน้องส่วนใหญ่ก็คิดกับเขาแค่พี่ชายนั้นแหละ ปลื้มๆตามภาษารุ่นพี่หน้าตาดีแต่ไม่ได้จริงจังอะไร คริสจำต้องเก็บของขวัญที่ได้มาใส่ถุงอีกที เขาไม่ชอบกินขนม ช๊อกโกแล๊ต หรือแม้แต่มาชเมลโล่ ไม่ชอบสักอย่างแต่คริสกลับได้มันทุกอย่าง ก็ไม่รู้จะทำยังไงนอกจากยิ้มแย้มรับของกับทุกคน




                    เทศกาลวาเลนไทน์จริงๆแล้วคริสไม่ได้ตื่นเต้นอะไรหรอกนะ อันนี้พูดจริงๆ เคยรู้สึกวูบวาบตอนมอต้นแต่หลังจากนั้นเขาก็เฉยๆมาโดยตลอด ทำไมนะเหรอ? ก็ไม่เจอคนที่อยากให้ของขวัญหรือสวีทรับวาเลนไทน์น่ะสิ แต่ปีนี้ไม่ใช่นะ




                   ถึงจะไม่มีคนมาให้สวีทหวานแหววแต่ก็อยากมอบความรู้สึกดีๆให้ใครสักคนซึ่งแตกต่างจากปีที่ผ่านๆมา

       

       




                    คริสเดินขึ้นตึกด้วยใบหน้าที่เปื้อนรอยยิ้มอยู่บางเบา เขาถือกระเป๋าสีดำใบโปรดพลางแกว่งไปมาแบบเด็กๆ มาถึงก่อนเข้าเรียนห้านาที นักศึกษาในเซคเดียวกันเริ่มนั่งประจำที่กันแล้ว คริสเองก็เดินไปสมบทกับกลุ่มเพื่อน คุยกันหยอกล้อกันตามประสา เห็นเพื่อนมันวางแพลนจีบสาวคณะนู้นนัดเดทกันคณะนี้ ไม่ก็จะเซอร์ไพร์สคนรักกันสองต่อสอง พอถามถึงคริสเขาก็ได้แต่อ้ำอึ้งไม่ยอมตอบ






      "เห้ยๆ มีพิรุธวะแบบนี้ นี่มึงวางแผนจะไปไหนกับใครใช่มั๊ย?" ชานยอลเป็นคนที่ดูคริสออกแบบทะลุปุโปร่ง คริสไม่เคยบอกหรอก แต่ชานยอลมันเจ้าเล่ห์แล้วก็เลยรู้เอง มันยิ้มด้วยท่าทางกรุ้มกริ่ม เหมือนรู้อยู่แล้วว่าวันนี้เขาจะตั้งใจทำอะไร เพราะแบบนี้เลยรู้สึกร้อนๆหนาวๆเวลาอยู่ใกล้มัน ทั้งที่ในความเป็นจริงไอ้ชานยอลไม่ได้รู้เรื่องไรสักนิด แต่มันมักจะทำเหมือนรู้แล้วก็กลายเป็นเราที่เผลอพูดออกไปเอง




                  แต่คราวนี้คริสไม่หลงกล เขาเบือนหน้าหนีแม้ว่าเพื่อนๆจะล้อมกรอบและพยายามบีบให้เขาพูดก็เถอะ โชคดีจริงที่จู่ๆก็มีคนเดินเอาขนมมาให้ คริสยิ้มรับเรียบๆเป็นการตอบแทน ท่าทางเขินอายของคนตรงหน้าทำให้คริสคิดนะ..




       

      คิดว่าถ้า 'คนๆนั้น' ทำจะน่ารักน่าดูแค่ไหนกันนะ







      "คริสคะ"





      "หืมม์ ครับ?"

       



                    คริสรีบหุบยิ้ม ท่าทางเขินอายของอีกฝ่ายทำให้เขาต้องเกาหัวเก้อๆ โชคดีจริงๆที่อาจารย์สอนบรรยายเข้ามาในห้องแล้วทำให้กลุ่มนักศึกษาต้องสลายตัวกลับไปนั่งประจำที่ ได้ยินเสียงชานยอลล้อเลียนยกใหญ่แต่คริสไม่สนใจอีก เขากวาดมองไปทั่วห้องเลคเชอร์เพื่อมองหาเจ้าของกระเป๋าสะพายกับรอยยิ้มสวย






      ปึ่ง!





                 คริสหันไปมองทางประตูตามคนอื่นๆ ในเมื่อเสียงกระแทกนั่นไม่เบาเลยสักนิด แล้วจู่ๆคนที่เขามองหาก็ปรากฏตัวขึ้น เสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนลายตารางกับข้างในเป็นเสื้อกล้ามสีขาวดูเข้ากับผิวใสๆและกางเกงยีนเอวต่ำสีซีดอย่างดี คริสเกือบจะหลุดขำตอนอีกฝ่ายกุมศีรษะที่ปกคลุมไปด้วยเส้นผมสีน้ำตาลแดง





      ไม่ต้องเดาเลยว่าเสียงกระแทกประตูเมื่อกี้คืออะไร



                 คนน่ารักของคริสยืนหน้ามึนอยู่สองวิก่อนจะวิ่งดุ๊กดิ๊กไปนั่งที่ของตัวเอง ขนาดมีกระเป๋าสะพายหลังแต่อีกฝ่ายก็ยังถือของเต็มมือ นั่นทำให้คริสหงุดหงิดเล็กน้อย เพราะมันแสดงให้เห็นว่าอีกฝ่ายก็เป็นที่สนใจเช่นกัน






                   ทั้งคาบคริสนั่งฟังบรรยายพร้อมกับเหลือบมองร่างขาวบางเป็นระยะ พอใกล้หมดชั่วโมงคริสก็รู้สึกประหม่าขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ เขารีบส่งงานท้ายคาบ วันนี้ไม่มีเวลามากนัก หมายถึงคนอื่นน่ะนะที่ไม่ค่อยมีเวลาเพราะหลังจากคาบนี้ก็มีนัดกันแทบทุกคน คริสบอกลาบรรดาเพื่อนๆแต่ยังนั่งเก็บของต่อ คนน่ารักท่าทางเชื่องช้า(?)จนโดนเพื่อนทิ้งไปเหมือนกัน ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะอาสารับรวมงานของทุกกลุ่ม คริสเห็นแบบนั้นก็เลยดึงงานทั้งหมดมาจากเพื่อนและอวยพรให้เพื่อนทุกๆคนของเขาสนุกกับเดทวันวาเลนไทน์




      ส่วนเขา


       

                     ก็เฝ้ามองเงียบๆจนห้องบรรยายขนาดใหญ่เริ่มร้างผู้คน คริสลุกขึ้น เดินลงบันไดต่างระดับไปหาอีกฝ่ายที่ทำหน้าที่เช็คงานแทนอาจารย์แม้ว่าจะไม่ใช่ TA ก็ตาม


       

      "อ่ะ?"





                     คริสไม่เคยได้ยินเสียงอีกฝ่ายใกล้ขนาดนี้มาก่อน เป็นเส้นเสียงที่แสนอ่อนหวาน ฟังแล้วนุ่มละมุนไม่ต่างจากใบหน้าอีกฝ่าย เหมือนคนน่ารักจะตกใจไม่น้อย คริสยื่นงานซึ่งเป็นกระดาษเย็บมุมให้เงียบๆ ตัวงี้เกร็งจนแข็ง แต่ใบหน้าตึงเรียบจนอีกฝ่ายต้องส่งยิ้มเจื่อนๆแล้วก้มหน้าก้มตาเช็คชื่อ ในตอนนี้คริสว่าเป็นโอกาสเหมาะเอามากๆ หันซ้ายขวาก็ไม่เหลือใครในห้องบรรยายแล้ว คริสเผลอบีบสายกระเป๋าถือของตัวเองด้วยอาการไม่เป็นปกติ


       

      พระเจ้า พระเจ้า!!




                   เขากู่ร้อง มองผิวขาวเนียนภายใต้แสงไฟนีออนระยะใกล้แบบนี้ยิ่งรู้สึกว่าอีกฝ่ายน่ารักออร่าพลุ่งพล่านขนาดไหน คริสยืนโยกซ้ายทีขวาทีจนคนที่นั่งทำงานต้องเงยหน้าขึ้นถาม




      "เอ่อ....."




                    คราวนี้คริสอ้ำอึ้งกลับ ริมฝีปากอิ่มสีแดงจัดของอีกฝ่ายงอนขึ้นอย่างใคร่รู้ คริสกระแอมเสียงเบาๆค่อยๆเปิดซิปที่ช่องกระเป๋าแล้วหยิบของบางสิ่งออกมา



       

      "สุขสันต์วาเลนไทน์"



       

      ..

       




                  อี้ชิงมองตามคนที่เดินจากไปด้วยความงุนงง มือเล็กยังถือสมุดขนาดครึ่งเอสี่ไม่หนาไม่บางไว้ในมือ ครุ่นคิดด้วยความสงสัยพร้อมกับบังคับหัวใจให้หยุดสั่นไปพร้อมๆกัน






                   มือบางพลิกสมุดโน้ตเล่มเล็กที่ได้มาใหม่อย่างพิจารณา หน้าปกเป็นรูปวาดที่นูนขึ้นมา อี้ชิงสัมผัสมันแผ่วเบา คิดว่าคงต้องทำเองแน่ๆ เพราะแบบนั้นเขาจึงหลุดยิ้มออกมาก่อนจะพลิกหน้าปกถัดไป ข้างในเป็นกระดาษถนอมสายตาไร้เส้นแต่บนหัวมุมกลับมีอะไรบางอย่าง ร่างบางพลิกต่ออย่างรวดเร็ว ก่อนจะเข้าใจสิ่งที่ถูกสื่อออกมา





                   เขาปิดสมุดก่อนจะค่อยๆกรีดนิ้วไปตามมุมหนังสือ สิ่งที่ปรากฏคือรูปวาดคนแบบก้างปลาค่อยๆวิ่งเข้าหาอะไรบางอย่างก่อนจะจบลงที่รูป....หัวใจตรงหน้าสุดท้าย






                    อี้ชิงนั่งนิ่งตัวแข็งเป็นหินเพราะจนสุดมุมกระดาษนอกจากหัวใจที่ผู้ชายคนนั้นวิ่งตามแล้วยังมีข้อความลงด้วยหมึกดำอยู่ตรงกลางหน้ากระดาษ อี้ชิงรู้สึกเป็นใบ้ไปชั่วขณะและอ่านภาษาที่คุ้นชินเหล่านั้นไม่ออกขึ้นมากระทันหัน ดวงตามองไล่ไปทั่วทุกตัวอักษรอ่านซ้ำไปซ้ำมาก่อนจะตีความหมายแบบไม่เข้าข้างตัวเอง






       

      ต่อจากนี้....ตัดสินใจว่าจะไม่แค่มองอีกแล้ว

      จะจีบล่ะนะ...เตรียมตัวเตรียมใจไว้ได้เลย : )

       

      FIN.

      AN :: มันคือฟิคฉลองวันวาเลนไทน์ที่มาลงล่าช้าไปมากกกกกกกก...........กกก ฮ่าๆ จริงๆก่อนหน้านี้มีสองเรื่องฮับ แต่ว่า ไม่เอาดีกว่า เรื่องนี้ตรงกับเทศกาลหวานๆอย่างวาเลนไทน์แล้ว ^^ เจอกันเรื่องหน้าตอนปั่นแบบกากๆเสร็จ เย่!!

      รักคนอ่าน ขอบคุณทุกคอมเม้น จุ๊บๆ

      @zensedayz

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×