ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : พ่อค้าเร่กับนักมายากล(1)
1.
รัตติกาล กำลังช่วยมารดารดน้ำพืชผักที่ปลูกเอาไว้ ปีนี้เขาอายุได้สิบสามปีแล้ว รูปร่างของเขาแม้ไม่ได้สูงใหญ่กว่าเด็กคนอื่นๆ แต่เนื่องจากขยันขันแข็ง ออกแรงทำงาน และแบกน้ำทุกวี่วัน ร่างกายของเขาจึงดูสมบูรณ์สมส่วน
“ เฮ้ รัตติกาล ”
เสียงที่คุ้นเคยดังแว่วมาจากทางหน้าบ้าน เด็กชายผู้หนึ่งวิ่งตรงมาหา รัตติกาล จึงวางจอบในมือลง แล้วเช็ดสองมือที่เปื้อนดินกับกางเกง
“มีอะไร ข้าวเขียว วิ่งมาหน้าตาตื่นเชียว”
เด็กชายที่ชื่อ ข้าวเขียว คนนี้มีอายุเท่าๆ กับ รัตติกาล เขามีน้องสาวอีกคนชื่อ ข้าวขวัญ ซึ่งมีอายุอ่อนกว่าหนึ่งปี ทั้งหมดอาศัยอยู่ใกล้ๆ กัน ทั้งสามคนเติบโต และเป็นเพื่อนเล่นกันมาตั้งแต่เล็กๆ นอกจากนี้ จันทร์เสี้ยว มารดาของ รัตติกาล ก็ยังเคยได้รับความช่วยเหลือจาก บิดามารดาของเด็กทั้งสองอีกด้วย ทั้งหมดจึงสนิทสนมกันอย่างยิ่ง
ข้าวเขียว ที่กำลังหอบหายใจเร่งรีบตอบคำ
“ มา มาแล้ว มาถึง แล้ว ”
รัตติกาล ทำหน้างง
“ ใครมากัน ”
ข้าวเขียว ยิ้มกว้าง เพียงครู่เดียวลมหายใจของเขาก็กลับเป็นปกติแล้ว เขาเองก็เหมือนกับ รัตติกาล ที่ใช้แรงทำงานทุกวี่วัน ร่างกายจึงแข็งแรงอย่างยิ่ง
“จะใครซะอีกล่ะก็ พ่อค้าเร่ น่ะสิ”
พ่อค้าเร่ คือพ่อค้าที่เดินทางค้าขายไปตามที่ต่างๆ สินค้าที่พวกเขาบรรทุกมาด้วยส่วนใหญ่ล้วนเป็นสินค้าแปลกตาที่ไม่อาจหาได้ภายในหมู่บ้าน บางครั้งยังมีของเล่น หรือขนมแปลกๆ ที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อนด้วย
นอกจากขายของแล้วพวกเขายังทำหน้าที่เป็นดั่ง ผู้สื่อข่าว ที่คอยบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ที่ได้พบเจอในระหว่างการเดินทางให้ผู้คนได้รับทราบ และพวกเขาส่วนใหญ่ยังเป็น นักเล่านิทาน ที่เก่งกาจหาตัวจับยากอีกด้วย นิทานที่เล่าก็มักเป็นเรื่องราวแปลกประหลาดไม่เคยได้ยินที่ไหนมาก่อน
เมื่อได้ยินคำว่า พ่อค้าเร่ รัตติกาล ก็เผยรอยยิ้มกว้างเช่นกัน เขาไม่ได้พบกับ พ่อค้าเร่ มาเป็นเวลาเนิ่นนานแล้ว จำได้ว่าครั้งสุดท้ายน่าจะเป็นตั้งแต่เมื่อหนึ่งปีก่อน
“ นอกจากนี้ก็ยังมี ”
ข้าวเขียว แกล้งหยุดพูดทำเป็นอมพะนำ รัตติกาล จึงรู้สึกแปลกใจ แค่มี พ่อค้าเร่ มาก็นับเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นแล้ว ยังจะมีอะไรได้อีก รอยยิ้มของ ข้าวเขียว ยิ่งฉีกกว้างออกไปยิ่งกว่าเดิม
“ ยังมี นักมายากล มาด้วย”
นักมายากล คือนักแสดงที่สามารถทำสิ่งต่างๆ ได้ดุจมีเวทย์มนต์ ทั้งสามารถเสกสิ่งของให้หายไป หรือสามารถหยิบสิ่งของออกมาจากความว่างเปล่า รวมทั้งยังสามารถสร้างลูกไฟให้พุ่งขึ้นไประเบิดในท้องฟ้าได้อย่างสวยงาม
บิดา มารดา ทุกคนจะคอยบอกเด็กๆ ไม่ให้อยู่ตามลำพัง หรือเข้าไปใกล้ตัวประหลาดนี้ ทั้งยังห้ามทำให้พวกเขาโกรธโดยเด็ดขาด เพราะพวกเขาอาจจะใช้เวทย์มนต์ที่มีลักพาตัวพวกเด็กๆ ไปได้
รัตติกาล ยังไม่เคยพบเจอ นักมายากล มาก่อนเลย เขาเคยแต่ได้ยินผู้ใหญ่พูดถึงเท่านั้นว่าในสมัยก่อนมี นักมายากล อยู่มากมาย แต่ทุกวันนี้หลงเหลืออยู่เพียงไม่กี่คนเท่านั้น
“ นัก มายากล ”
รัตติกาล พึมพำขึ้นเบาๆ อย่างลืมตัว ความสนใจในตัว พ่อค้าเร่ หดหายไปจนหมด
“ แล้วตอนนี้พวกนั้นอยู่ที่ไหนกัน”
“รถสินค้า ของ พ่อค้าเร่ จอดอยู่ที่ลานกลางหมู่บ้าน แต่ตอนนี้ทั้งสองคนกำลังคุยกับ หัวหน้าหมู่บ้าน อยู่”
เป็นธรรมเนียมปฏิบัติโดยทั่วไปที่ พ่อค้าเร่ จะต้องเข้าพบปะพูดคุยกับ หัวหน้าหมู่บ้าน หรือ ผู้อาวุโส ก่อนที่จะเริ่มทำการค้าขาย หรือเล่าเรื่องราวต่างๆ ให้กับชาวหมู่บ้านคนอื่นๆ ฟัง จึงไม่นับเป็นเรื่องแปลกแต่อย่างใด
“ นักมายากล ก็ไปด้วยหรือ”
“ทั้งสองคนเดินทางมาด้วยกันน่ะ นักมายากล อาศัยมากับ รถสินค้า ของ พ่อค้าเร่ ทั้งสองจึงไปหา หัวหน้าหมู่บ้าน พร้อมกัน”
“ แล้ว พ่อค้าเร่ เป็นใคร ใช่ คุณปู่ หรือเปล่า”
คุณปู่ ที่พูดถึงคือ พ่อค้าเร่ ที่แวะมาบ่อยที่สุด ไม่มีใครรู้จักชื่อจริงของเขา แต่ด้วยความที่มีอายุมาก ทุกคนจึงพร้อมใจเรียกเขาว่า คุณปู่ แม้แต่ หัวหน้าหมู่บ้าน ที่มีอายุมากแล้ว ก็ยังเรียกหาเขาเป็น คุณปู่ เช่นเดียวกัน
คุณปู่ นั้นใจดีมาก มักนำขนมอร่อยๆ แปลกๆ มาแจกให้กับเด็กๆ เสมอ เขาจึงเป็นที่รักของเด็กทุกคนในหมู่บ้าน
“ ไม่ใช่หรอก ฉันจำ รถสินค้า ของ คุณปู่ ได้ คันนี้ดูใหม่กว่ากันตั้งเยอะ น้องขวัญ ที่เห็นตอนที่ รถสินค้า ขับผ่านไปพอดีก็บอกว่า พ่อค้าเร่ คนนี้ยังดูหนุ่มและไม่เคยพบเจอมาก่อน”
“ ไม่รู้ว่าจะเริ่มขายของกันตอนไหนนะ”
“ก็คงเป็นตอนเย็นๆ นั่นแหละ แต่ฉันไม่สนใจขนมแล้วล่ะ ตอนนี้ฉันสนใจ การแสดง ของ นักมายากล มากกว่า”
“ นั่นสิ...ฉันก็เหมือนกัน”
“ไม่รู้ว่าจะได้เห็นระเบิดลูกไฟหรือเปล่า ได้ยินว่ามันสวยงามมาก เวลาที่แตกระเบิดออกกลางท้องฟ้ายามราตรี เหมือนกับดอกไม้ที่ทำจากเปลวเพลิงผลิบานออก ฉันอยากเห็นมันด้วยตาตัวเองสักครั้ง”
“ ฉันด้วย แต่ได้ยินมาว่ามันแพงมากเลยนี่นา”
“ นั่นสิ ”
หมู่บ้านของพวกเรานั้นเป็นเพียงหมู่บ้านเล็กๆ คงจะไม่มีเงินพอสำหรับ การแสดง ที่ยิ่งใหญ่แบบนั้น พวกเรามองหน้ากันแล้วถอนใจ
“ ไม่แน่ว่า เขาอาจจะมีแบบเล็กๆ บ้างก็ได้นะ”
“ แบบเล็กๆ ”
“ใช่ แบบเล็กๆ ที่อาจจะสวยน้อยหน่อย...แต่ก็ไม่แพงมากไง”
พวกเราพากันยิ้มออกมา ใช่แล้วไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ควรจะละทิ้งความหวังก่อนที่ทุกอย่างจะถึงที่สุด
“เออ ขวัญ เห็นตอน รถสินค้า ผ่านไปด้วยหรือ”
“ใช่ พอดีตอนนั้น น้องขวัญ ยืนอยู่ริม ถนนใหญ่ พอดี”
“แล้ว ขวัญ ได้เห็น นักมายากล หรือเปล่า”
“เห็น แต่ว่า ”
“หน้าตาท่าทางของเขาเป็นยังไงกันนะ”
“ เอ่อ น้องขวัญ บอกว่านางใส่เสื้อคลุมสีดำที่ปิดหมดทุกส่วน แม้แต่ใบหน้า จึงไม่อาจรู้ว่านางมีรูปร่างหน้าตาเป็นยังไง”
“ นาง นักมายากล เป็นผู้หญิงอย่างนั้นหรือ ”
“ น้องขวัญ บอกอย่างนั้นนะ ฉันเองก็รู้สึกแปลกใจ ก็ในเมื่อสวมชุดที่ปิดหมดทุกส่วนแล้วทำไมจึงรู้ได้ แต่ น้องขวัญ กลับยืนยันอย่างหนักแน่นว่า นักมายากล ต้องเป็นผู้หญิงอย่างแน่นอน”
ในขณะที่เด็กทั้งสองกำลังพูดคุยกันอยู่นั้น ภายในบ้านของ หัวหน้าหมู่บ้าน ก็กำลังเกิดการถกเถียงกันระหว่าง วาณิช พ่อค้าเร่ กับ หัวหน้าหมู่บ้าน โดยมี มายา นักมายากล ภายใต้เสื้อคลุมสีดำ นั่งนิ่งเงียบอยู่อีกด้านหนึ่ง
รัตติกาล กำลังช่วยมารดารดน้ำพืชผักที่ปลูกเอาไว้ ปีนี้เขาอายุได้สิบสามปีแล้ว รูปร่างของเขาแม้ไม่ได้สูงใหญ่กว่าเด็กคนอื่นๆ แต่เนื่องจากขยันขันแข็ง ออกแรงทำงาน และแบกน้ำทุกวี่วัน ร่างกายของเขาจึงดูสมบูรณ์สมส่วน
“ เฮ้ รัตติกาล ”
เสียงที่คุ้นเคยดังแว่วมาจากทางหน้าบ้าน เด็กชายผู้หนึ่งวิ่งตรงมาหา รัตติกาล จึงวางจอบในมือลง แล้วเช็ดสองมือที่เปื้อนดินกับกางเกง
“มีอะไร ข้าวเขียว วิ่งมาหน้าตาตื่นเชียว”
เด็กชายที่ชื่อ ข้าวเขียว คนนี้มีอายุเท่าๆ กับ รัตติกาล เขามีน้องสาวอีกคนชื่อ ข้าวขวัญ ซึ่งมีอายุอ่อนกว่าหนึ่งปี ทั้งหมดอาศัยอยู่ใกล้ๆ กัน ทั้งสามคนเติบโต และเป็นเพื่อนเล่นกันมาตั้งแต่เล็กๆ นอกจากนี้ จันทร์เสี้ยว มารดาของ รัตติกาล ก็ยังเคยได้รับความช่วยเหลือจาก บิดามารดาของเด็กทั้งสองอีกด้วย ทั้งหมดจึงสนิทสนมกันอย่างยิ่ง
ข้าวเขียว ที่กำลังหอบหายใจเร่งรีบตอบคำ
“ มา มาแล้ว มาถึง แล้ว ”
รัตติกาล ทำหน้างง
“ ใครมากัน ”
ข้าวเขียว ยิ้มกว้าง เพียงครู่เดียวลมหายใจของเขาก็กลับเป็นปกติแล้ว เขาเองก็เหมือนกับ รัตติกาล ที่ใช้แรงทำงานทุกวี่วัน ร่างกายจึงแข็งแรงอย่างยิ่ง
“จะใครซะอีกล่ะก็ พ่อค้าเร่ น่ะสิ”
พ่อค้าเร่ คือพ่อค้าที่เดินทางค้าขายไปตามที่ต่างๆ สินค้าที่พวกเขาบรรทุกมาด้วยส่วนใหญ่ล้วนเป็นสินค้าแปลกตาที่ไม่อาจหาได้ภายในหมู่บ้าน บางครั้งยังมีของเล่น หรือขนมแปลกๆ ที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อนด้วย
นอกจากขายของแล้วพวกเขายังทำหน้าที่เป็นดั่ง ผู้สื่อข่าว ที่คอยบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ที่ได้พบเจอในระหว่างการเดินทางให้ผู้คนได้รับทราบ และพวกเขาส่วนใหญ่ยังเป็น นักเล่านิทาน ที่เก่งกาจหาตัวจับยากอีกด้วย นิทานที่เล่าก็มักเป็นเรื่องราวแปลกประหลาดไม่เคยได้ยินที่ไหนมาก่อน
เมื่อได้ยินคำว่า พ่อค้าเร่ รัตติกาล ก็เผยรอยยิ้มกว้างเช่นกัน เขาไม่ได้พบกับ พ่อค้าเร่ มาเป็นเวลาเนิ่นนานแล้ว จำได้ว่าครั้งสุดท้ายน่าจะเป็นตั้งแต่เมื่อหนึ่งปีก่อน
“ นอกจากนี้ก็ยังมี ”
ข้าวเขียว แกล้งหยุดพูดทำเป็นอมพะนำ รัตติกาล จึงรู้สึกแปลกใจ แค่มี พ่อค้าเร่ มาก็นับเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นแล้ว ยังจะมีอะไรได้อีก รอยยิ้มของ ข้าวเขียว ยิ่งฉีกกว้างออกไปยิ่งกว่าเดิม
“ ยังมี นักมายากล มาด้วย”
นักมายากล คือนักแสดงที่สามารถทำสิ่งต่างๆ ได้ดุจมีเวทย์มนต์ ทั้งสามารถเสกสิ่งของให้หายไป หรือสามารถหยิบสิ่งของออกมาจากความว่างเปล่า รวมทั้งยังสามารถสร้างลูกไฟให้พุ่งขึ้นไประเบิดในท้องฟ้าได้อย่างสวยงาม
บิดา มารดา ทุกคนจะคอยบอกเด็กๆ ไม่ให้อยู่ตามลำพัง หรือเข้าไปใกล้ตัวประหลาดนี้ ทั้งยังห้ามทำให้พวกเขาโกรธโดยเด็ดขาด เพราะพวกเขาอาจจะใช้เวทย์มนต์ที่มีลักพาตัวพวกเด็กๆ ไปได้
รัตติกาล ยังไม่เคยพบเจอ นักมายากล มาก่อนเลย เขาเคยแต่ได้ยินผู้ใหญ่พูดถึงเท่านั้นว่าในสมัยก่อนมี นักมายากล อยู่มากมาย แต่ทุกวันนี้หลงเหลืออยู่เพียงไม่กี่คนเท่านั้น
“ นัก มายากล ”
รัตติกาล พึมพำขึ้นเบาๆ อย่างลืมตัว ความสนใจในตัว พ่อค้าเร่ หดหายไปจนหมด
“ แล้วตอนนี้พวกนั้นอยู่ที่ไหนกัน”
“รถสินค้า ของ พ่อค้าเร่ จอดอยู่ที่ลานกลางหมู่บ้าน แต่ตอนนี้ทั้งสองคนกำลังคุยกับ หัวหน้าหมู่บ้าน อยู่”
เป็นธรรมเนียมปฏิบัติโดยทั่วไปที่ พ่อค้าเร่ จะต้องเข้าพบปะพูดคุยกับ หัวหน้าหมู่บ้าน หรือ ผู้อาวุโส ก่อนที่จะเริ่มทำการค้าขาย หรือเล่าเรื่องราวต่างๆ ให้กับชาวหมู่บ้านคนอื่นๆ ฟัง จึงไม่นับเป็นเรื่องแปลกแต่อย่างใด
“ นักมายากล ก็ไปด้วยหรือ”
“ทั้งสองคนเดินทางมาด้วยกันน่ะ นักมายากล อาศัยมากับ รถสินค้า ของ พ่อค้าเร่ ทั้งสองจึงไปหา หัวหน้าหมู่บ้าน พร้อมกัน”
“ แล้ว พ่อค้าเร่ เป็นใคร ใช่ คุณปู่ หรือเปล่า”
คุณปู่ ที่พูดถึงคือ พ่อค้าเร่ ที่แวะมาบ่อยที่สุด ไม่มีใครรู้จักชื่อจริงของเขา แต่ด้วยความที่มีอายุมาก ทุกคนจึงพร้อมใจเรียกเขาว่า คุณปู่ แม้แต่ หัวหน้าหมู่บ้าน ที่มีอายุมากแล้ว ก็ยังเรียกหาเขาเป็น คุณปู่ เช่นเดียวกัน
คุณปู่ นั้นใจดีมาก มักนำขนมอร่อยๆ แปลกๆ มาแจกให้กับเด็กๆ เสมอ เขาจึงเป็นที่รักของเด็กทุกคนในหมู่บ้าน
“ ไม่ใช่หรอก ฉันจำ รถสินค้า ของ คุณปู่ ได้ คันนี้ดูใหม่กว่ากันตั้งเยอะ น้องขวัญ ที่เห็นตอนที่ รถสินค้า ขับผ่านไปพอดีก็บอกว่า พ่อค้าเร่ คนนี้ยังดูหนุ่มและไม่เคยพบเจอมาก่อน”
“ ไม่รู้ว่าจะเริ่มขายของกันตอนไหนนะ”
“ก็คงเป็นตอนเย็นๆ นั่นแหละ แต่ฉันไม่สนใจขนมแล้วล่ะ ตอนนี้ฉันสนใจ การแสดง ของ นักมายากล มากกว่า”
“ นั่นสิ...ฉันก็เหมือนกัน”
“ไม่รู้ว่าจะได้เห็นระเบิดลูกไฟหรือเปล่า ได้ยินว่ามันสวยงามมาก เวลาที่แตกระเบิดออกกลางท้องฟ้ายามราตรี เหมือนกับดอกไม้ที่ทำจากเปลวเพลิงผลิบานออก ฉันอยากเห็นมันด้วยตาตัวเองสักครั้ง”
“ ฉันด้วย แต่ได้ยินมาว่ามันแพงมากเลยนี่นา”
“ นั่นสิ ”
หมู่บ้านของพวกเรานั้นเป็นเพียงหมู่บ้านเล็กๆ คงจะไม่มีเงินพอสำหรับ การแสดง ที่ยิ่งใหญ่แบบนั้น พวกเรามองหน้ากันแล้วถอนใจ
“ ไม่แน่ว่า เขาอาจจะมีแบบเล็กๆ บ้างก็ได้นะ”
“ แบบเล็กๆ ”
“ใช่ แบบเล็กๆ ที่อาจจะสวยน้อยหน่อย...แต่ก็ไม่แพงมากไง”
พวกเราพากันยิ้มออกมา ใช่แล้วไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ควรจะละทิ้งความหวังก่อนที่ทุกอย่างจะถึงที่สุด
“เออ ขวัญ เห็นตอน รถสินค้า ผ่านไปด้วยหรือ”
“ใช่ พอดีตอนนั้น น้องขวัญ ยืนอยู่ริม ถนนใหญ่ พอดี”
“แล้ว ขวัญ ได้เห็น นักมายากล หรือเปล่า”
“เห็น แต่ว่า ”
“หน้าตาท่าทางของเขาเป็นยังไงกันนะ”
“ เอ่อ น้องขวัญ บอกว่านางใส่เสื้อคลุมสีดำที่ปิดหมดทุกส่วน แม้แต่ใบหน้า จึงไม่อาจรู้ว่านางมีรูปร่างหน้าตาเป็นยังไง”
“ นาง นักมายากล เป็นผู้หญิงอย่างนั้นหรือ ”
“ น้องขวัญ บอกอย่างนั้นนะ ฉันเองก็รู้สึกแปลกใจ ก็ในเมื่อสวมชุดที่ปิดหมดทุกส่วนแล้วทำไมจึงรู้ได้ แต่ น้องขวัญ กลับยืนยันอย่างหนักแน่นว่า นักมายากล ต้องเป็นผู้หญิงอย่างแน่นอน”
ในขณะที่เด็กทั้งสองกำลังพูดคุยกันอยู่นั้น ภายในบ้านของ หัวหน้าหมู่บ้าน ก็กำลังเกิดการถกเถียงกันระหว่าง วาณิช พ่อค้าเร่ กับ หัวหน้าหมู่บ้าน โดยมี มายา นักมายากล ภายใต้เสื้อคลุมสีดำ นั่งนิ่งเงียบอยู่อีกด้านหนึ่ง
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น