สัจธรรมของคำทำนายทั้งหลายแหล่
เขียนโดย
zoname
1 คำทำนายสิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้ว ซึ่งไม่เคยเอามาเผยแพร่ที่ไหน จะถูกเป๊ะ ๆ
2 คำทำนายสิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้ว แต่เคยเอามาลงที่ไหนสักแห่ง แล้วมันถูกแค่ข้อเดียว ก็จะบอกว่าแม่น
- เช่นทำนาย 100 อย่าง ถูกอย่างเดียว ถือว่าแม่น
3 คำทำนายสิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้ว แต่เคยเอามาลงที่ไหนสักแห่ง แม้ไม่ถูกก็จะบอกว่าแม่น
- เช่น บอกว่าแผ่นดินไหวขนาดทำลายล้างโลกในวันที่กำหนดนี้ แม้จะแรงแค่ 4 ริคเตอร์ก็จะบอกว่าวันนี้ถูก
- เช่น บอกว่าภูเขาไฟระเบิดยังตำแหน่งนี้ของโลก แม้จะไกลข้ามโลกก็จะบอกว่าว่ามันทำนายถูก
- หมายเหตุ แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด เกิดแทบทุกวันในที่ไหนสักแห่งของโลกนี้
- ถ้าเรื่องภัยพิบัติไม่เกิดขึ้นเลย จะบอกว่าเป็นบุญบารมีของบลา ๆ ๆ ทำให้มันไม่เกิดขึ้น
4 คำทำนายมักขัดกับหลักวิทยาศาสตร์
- เช่น เกิดซึนามิสูงเท่าตึกยังอ่าวไทย ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ อ่าวไทยไม่รองรับการเกิดซึนามิสูงขนาดนั้น
- เช่น ซึนามิเกิดปีนี้ ก็จะบอกว่าปีถัดไปเกิดอีกรอบ ซึ่งปรากฎการณ์แบบนี้มักเป็นรอบร้อยปีขึ้นไป
5 คำทำนายไม่เคยทายสิ่งร้ายแรงที่เกิดขึ้นจริงเป็นครั้งแรกถูก
- เช่นไม่มีใครเคยทำนายว่าจะเกิดซึนามิ หรือจะเกิดการจราจลขึ้นในกรุงเทพเลยสักครั้ง
- แต่ถ้าทำนายซ้ำซากเป็นสิบ ๆ ปี เช่นบอกว่ากรุงเทพน้ำท่วม จะทายถูก
6 คำทำนายมักจะให้ดูรุนแรง ดูเวอร์ ดูอันตรายเข้าไว้
- คนจะได้หวาดวิตก และหวาดกลัวเข้าไว้ และจะทำให้คนที่คิดว่า "ฟังหูไว้หู" มีจำนวนเยอะขึ้น
7 คำทำนายมักเกาะกระแส
- เช่นซึนามิเกิดขึ้นแล้ว ก็จะทำนายว่าซึนามิจะเกิดขึ้นอีก หรือหายนะปี 2000 ต่อมาก็ปี 2012
8 คำทำนายทั้งหลายแหล่ ถ้าออกสื่อช่วยใครไม่ได้ ซ้ำยังเป็นโทษ
- เช่น คนที่จะป้องกันภัยพิบัติได้ดีที่สุดคือรัฐบาล เพราะสามารถวางนโยบายจัดการในภาพรวมได้
- เช่น บอกกับประชาชนทั่วไป ประชาชนจะตื่นตระหนก แทนที่จะเตรียมตัวในวันที่เกิดขึ้นกลับจะเตรียมตัวล่วงหน้าแทน
เช่นทำนายว่าซึนามิเกิดภาคใต้วันที่ 25 ธันวา จะเลือกไม่ไปเที่ยวภาคใต้ตลอดทั้งปี ทำให้การท่องเที่ยวภาคใต้ซบเซา
หรือไม่ก็คนที่อยู่ในพื้นที่ไม่เชื่อว่าจะเกิดเช่นนั้นจริง จึงไม่ได้สนใจทำให้เวลาเกิดตายเป็นเบือ
(การ เตรียมตัวไว้ก่อนกับคำทำนาย เกิดเฉพาะกับคนที่ไม่เสียอะไรเท่านั้น หากสิ่งที่เตรียมมันขัดกับชีวิตประจำวัน คนมักจะไม่เตรียมตัว)
9 คนที่ออกมาทำนายมีแต่ได้กับได้
- ถ้าทายผิด ก็ไม่เกิดอะไรขึ้น ปีหน้าทายใหม่ได้ไม่มีใครจำได้หรอก
- ถ้าทายถูก จะดังเป็นพลุแตกทำอะไรก็ขึ้น ออกทีวีก็ได้ เขียนหนังสือก็มีคนซื้อ
- ตอนที่ผลคำทำนายยังไม่ออก ก็มีชื่อเสียง หากมีมากสื่อจะสนใจ ทำอะไรก็ดังได้ตังค์
- ดังนั้นมาโกหกออกสื่อให้คนรับทราบ ยังไงมันก็ดีว่าปิดปากแล้วเงียบอยู่เฉย ๆ
ดังนั้นจากทั้ง 9 ข้อนี้ ท่านทั้งหลายก็ควรจะตระหนักได้แล้วว่าควรจะเชื่อมันหรือไม่
เพราะคำทำนายที่ออกมาให้เรารับรู้นั้น มันก็แค่คำโกหกคำหนึ่งที่ออกมาสู่สื่อ
เด็กเลี้ยงแกะที่ไหนก็พูดได้ แต่กลับมีคนเลือกเชื่อเพราะมันออกมาในสื่อก็เท่านั้น
สำหรับความตื่นตระหนกที่จะเกิดขึ้น จะทำให้เกิดได้แม้แต่คนที่บอกว่าตัวเองไม่เชื่อคำทำนาย
เพราะถึงไม่เชื่อ แต่อย่างไรก็ตามคนเหล่านี้จะทำสิ่งที่เรียกว่า "ชัวร์ไว้ก่อน" อยู่เสมอ
เช่นถ้ามีคำทำนายว่าภาคใต้จะมีซึนามิเข้า หากไม่ได้เสียหายอะไรร้ายแรง คนกลุ่มนี้ก็จะไม่ไปภาคใต้
โดยคนกลุ่มนี้มีมาก ทำให้เกิดความเสียหายในธุรกิจการท่องเที่ยวอย่างมหาศาล
ดังนั้นถึงไม่เชื่อ 99% แต่1% แค่ชัวร์ไว้ก่อนก็ถือว่าทำให้เกิดความแตกตื่นได้แล้ว
ด้วยเหตุนี้จะบอกว่าไม่ถือว่าเชื่อคำทำนายจริง ต้องสามารถทำตัวแบบไม่เคยได้ยินคำทำนายนั้นได้
ซึ่งมันไม่มีทางทำเช่นนั้นได้อย่างเด็ดขาด
ด้วยเหตุนี้การกำจัดแหล่งต้นตอของข่าวลือ จึงเป็นวิธีที่ง่าย และคุ้มค่าที่สุด
...และถึงมันจะเกิดขึ้นจริงตามคำทำนาย มันก็ทำให้คนแตกตื่นอยู่ดี ซึ่งไม่เป็นผลดีกับการป้องกันสิ่งที่จะเกิดสักนิด
แจ้ง Blog ไม่เหมาะสม
26 ธ.ค. 54
346
2
ความคิดเห็น
งั้นแปลว่าคำทำนายสามารถเป็นจริงได้ ?
คงไม่ใช่ประเด็น เอาเป็นว่าข้อสังเกตข้างต้นเป็นแค่คหสตจริงหรือ ? รึว่าเป็นข้อเท็จจริงกันแน่ ?
และจะแยกออกจากกันได้ยังไง ?
คำตอบ- คหสต จะใช้ความรู้สึกมาจับโดยไร้หลักฐาน
แต่ข้อเท็จจริง จะเอาข้อเท็จจริงมาจับโดยมีหลักฐานกำกับ
แล้วแบบนี้มันคืออะไร ?
ก็คือข้อเท็จจริงผสมกับคหสต ยังไงล่ะ
แต่สิ่งที่พูดมาทั้งหมดล้วน "เคยเกิดขึ้นจริง" ท่านสามารถอ่านข่าวย้อนหลังดูได้