zoname
ดู Blog ทั้งหมด

บทสรุปแฟนฟิคตัวบุคคลที่ตีพิมพ์โดยสนพ.ชื่อดัง

เขียนโดย zoname
จากกระทู้นี้ จดหมายถึงสำนักพิมพ์แจ่มใส เรื่องการแต่งนวนิยายของคุณ "เจ้าหญิงผู้เลอโฉม"
และ สมควรแค่ไหน หากสำนักพิมพ์ชื่อดังจะวางขายแฟนฟิคอย่างออกหน้าออกตา ?

-คิดว่านิยายที่กระทู้นี้กล่าวถึงเข้าข่ายแฟนฟิคจริงหรือเปล่า ?

แฟนฟิคมาจากคำว่า Fan Fiction โดยคำว่าฟิคชั่นหมายถึงนิยาย แฟนหมายถึงแฟน ๆ
ดังนั้นแฟนฟิคจึงหมายถึงนิยายที่แต่งขึ้นโดยแฟน ๆ ของบางสิ่ง
ทั้งนี้แฟนฟิคแบบแยกย่อยได้เป็นหลายแบบ แต่ที่จะขอกล่าวถึงมีด้วยกันสองแบบ คือ
1 แฟนฟิคประเภทเรื่องแต่ง - เป็นการแต่งเติมเสริมต่อ หรือยกเนื้อเรื่องที่มีคนอื่นแต่ง หรือตัวละครที่คนอื่นสร้าง มาแต่งต่อ
2 แฟนฟิคประเภทบุคคลจริง - เป็นการนำบุคคลจริงหรือคนดัง มาแต่งเป็นเรื่องราวต่อ

อย่างไรก็ตาม การนำบุคคลดังที่เสียชีวิตไปนานแล้ว หรือเรื่องราว หรือวรรณกรรมอมตะมาแต่งต่อ มักจะไม่ถูกนับว่าเป็นแฟนฟิค

สำหรับกรณีนี้ มีการนำข้อมูลของศิลปินจริงมาใช้ในเรื่องทุกอย่าง ยกเว้นแต่เพียงมีการเปลี่ยนแปลงชื่อเพียงเล็กน้อย
ซ้ำ ผู้อ่านส่วนใหญ่จากหลักฐานที่มีอยู่แน่ชัด ยังซื้อด้วยการที่มันเป็นศิลปินที่ชื่นชอบ
และตัวผู้แต่งก็ยังแต่งโดยรับรู้และแสดงจุดขายว่าเป็นศิลปินคนใด
ดังนั้นแม้มีการปรับเปลี่ยนชื่อไปจากเดิม จึงน่าจะนับว่าเป็นแฟนฟิคได้ เพราะสามารถระบุเอกลักษณ์ของตัวละครได้ชัดเจนว่ามาจากที่ใด



-แฟนฟิคสมควรนำมาตีพิมพ์ขายอย่างเป็นทางการหรือไม่ ?

คำว่าขายอย่างเป็นทางการ หมายถึงการนำไปตีพิมพ์กับสนพ.ตามกฎหมายเพื่อให้วางจำหน่ายด้วยกระบวนการเดียวกับวรรณกรรมประเภทอื่น
โดยเรื่องนี้สามารถแบ่งได้เป็นสองอย่าง คือทางกฎหมาย และทางจริยธรรม


ทางกฎหมาย น่าจะยังไม่มีบทบัญญัติที่เกี่ยวข้องกับแฟนฟิคอย่างชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งแฟนฟิคประเภทบุคคลจริง
ทว่าหากเป็นแฟนฟิคประเภทเรื่องแต่งจะมีกฎหมายเรื่องลิขสิทธิ์กำกับอย่างชัดแจ้ง ทำให้อาจกล่าวได้ว่าเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายได้ชัดเจน
ทว่ากรณีแฟนฟิคประเภทบุคคลจริง เหมือนจะไม่เข้าข่ายกฏหมายลิขสิทธิ์ แต่จะเข้าข่ายเพียงกฏหมายสิทธิส่วนบุคคลเช่นหมิ่นประมาทเท่านั้น
โดยกฏหมายหมิ่นประมาทจำเป็นต้องพิจารณาเนื้อความว่าเป็นการหมิ่นประมาทหรือไม่เสียก่อน หาไม่แล้วจะไม่ถือว่าผิด
ต่างจากกฏหมายลิขสิทธิ์ที่หากพิสูจน์ได้ว่ามีเนื้อหา หรือเอกลักษณ์ทีชัดเจนก็ถือว่าผิดได้อย่างชัดแจ้ง

ดังนั้น แฟนฟิคประเภทเรื่องแต่ง กับ แฟนฟิคประเภทบุคคลจริง แม้จะถือเป็นแฟนฟิคเหมือนกันทั้งคู่ แต่ตามกฎหมายถือเป็นคนละกรณี

ซึ่งตรงนี้แม้จะไม่มีบทบัญญัติทางกฏหมายมากำกับ แต่ถือว่าผิดต่อเจตนารมณ์ของกฏหมายจนสมควรที่จะมีกฏหมายลูกมารองรับหรือไม่
สำหรบเรื่องนี้คงต้องพูดกันต่อในอนาคต และหากกล่าวถึงอาจจะเป็นการยืดเยื้อและไม่มีบทสรุปที่ชัดเจนเกิดขึ้นได้


ทางจริยธรรม สิ่งที่ผิดทางกฎหมายอาจกลายเป็นถูกได้ โดยตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือกรณีของแฟนฟิคประเภทเรื่องแต่ง
แม้การมีอยู่ของมันตั้งแต่แรก จะเข้าข่ายผิดกฏหมายมาตั้งแต่ต้น ทว่าตราบใดผู้ถือครองลิขสิทธิ์ไม่ทำการฟ้องร้อง ก็จะไม่มีปัญหา
ซึ่งโดยปรกติทางผู้ถือครองลิขสิทธิ์จะยินยอมให้เกิดแฟนฟิคขึ้นมาได้ เพราะจะเป็นการขยายฐานลูกค้าไปในตัว
ทว่าหากทำในเชิงพาณิชย์ขึ้นมาอย่างเป็นทางการเมื่อไหร่ หรือหากแฟนฟิคนั้นเป็นที่นิยมจนทำให้เกิดความเสียหายรุนแรงกับตัวลิขสิทธิ์
ผู้ถือครองลิขสิทธิ์มักจะไม่ยินยอม และทำการฟ้องร้องต่อผู้ทำแฟนฟิคนั้นขึ้นมาได้

ซึ่งจุดนี้ทำให้จริยธรรมของผู้แต่งแฟนฟิคจะไม่ใช้แฟนฟิคที่ตนแต่งในเชิงพาณิชย์อย่างเป็นทางการ แต่อย่างมากแค่ขายในหมู่แฟนผู้ชื่นชอบ
เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายกับตัวผู้ถือครองลิขสิทธิ์นั่นเอง โดยหากทำมากกว่านั้นจะถือว่าเป็นความผิดทางจริยธรรมในทันที


สำหรับในกรณีของแฟนฟิคประเภทบุคคลจริง จะมีตัวบทกฏหมายที่แตกต่าง ดังนั้นทางจริยธรรมจะถือว่าผิดถูกหรือไม่อย่างไร ?

ด้วยเหตุที่แตกต่างในเชิงบทกฎหมาย จึงสมควรเอากรณีที่ใกล้เคียงมาเทียบเคียงกัน

กรณีแรก นำการเทียบเคียงของแฟนฟิคประเภทอื่นมาเทียบเคียง คือกรณีของแฟนฟิคประเภทเรื่องแต่ง
หากดูแค่การกระทำมาเปรียบเทียบ แฟนฟิคประเภทบุคคลจริง ของกรณีนี้ ถือว่าทำผิดจริยธรรมแล้ว เพราะทำในสิ่งที่แฟนฟิคประเภทเรื่องแต่งไม่ทำ
ทว่าหากดูต้นเหตุที่เกิดจากการไม่ให้ผู้ถือครองลิขสิทธิ์เสียผลประโยชน์ แฟนฟิคประเภทบุคคลจริง ยังไม่แน่ชัดว่ามีในส่วนนี้
อีกทั้งยังไม่รู้แน่ชัดด้วยว่าบุคคลที่ถูกนำมาอ้างอิงเสียหายอะไรหรือไม่อย่างไร ดังนั้นอาจกล่าวได้ว่ายังไม่อาจสรุปผลได้แน่ชัดในกรณีนี้

กรณีที่สอง การนำจริยธรรมของผู้แต่งในแวดวงนักเขียนกรณีการลอกและแรงบันดาลใจมาเทียบเคียง
โดยหากนำต้นฉบับมาใช้โดยไม่มีการย่อยและต่อยอดที่ดีพอ จนทำให้ระบุเอกลักษณ์ของต้นฉบับได้ จะถือว่าเป็นการผิดในเชิงจริยธรรมอย่างทันที
โดยยิ่งการระบุเอกลักษณ์ของต้นฉบับชัดเจนแค่ไหน และส่วนนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญต่อเรื่องแต่งนั้นมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีความผิดรุนแรงมากเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ก็ยังมีข้อยกเว้น

อันดับแรกหากขออนุญาตจากผู้ถือครองลิขสิทธิ์ หรือเจ้าตัวผู้ที่ถูกกล่าวอ้างในเรื่องแต่ง จะไม่ถือว่าผิด
หรือกรณีที่แต่งโดยให้รู้ทั่วกันว่าเป็นแฟนฟิค และไม่ได้นำมาจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการในเชิงพาณิชย์ จะไม่ถือว่าผิด
การแต่งขึ้นโดยให้รู้ว่าเป็นบุคคลใดเพื่อจุดมุ่งหมายในการล้อเลียน จะไม่ถือว่าผิด อย่างไรก็ตามกรณีนี้จะมองว่าเข้าข่ายผิดกฏหมายหมิ่นประมาทแทน
อีกทั้งคำว่าล้อเลียนเองยังไม่เด่นชัดว่ามีนิยามครอบคลุมแค่ไหน และส่วนใหญ่ยังไม่ได้เขียนจริงจังจนเป็นเรื่องยาว จึงไม่ทราบได้แน่ชัดว่าผิดหรือไม่
หรือกรณีที่เอาตัวบุคคลหรือวรรณกรรมคลาสสิคและอมตะมาใช้ ที่ไม่มีบุคคลใดถือครองหรือรับผลประโยชน์อย่างชัดเจน
แม้จะเอาตัวต้นฉบับมาใช้โดยตรง และทำให้รู้เอกลักษณ์อย่างชัดแจ้ง ก็จะไม่ถือว่าผิด


โดยกรณีที่เกิดขึ้นนี้ ไม่มีบทบัญญัติทางกฏหมายอย่างแน่ชัด จึงอาจนับได้ว่าไม่ผิด
แต่ในเชิงจริยธรรม เมื่อเทียบเคียงกับกรณีที่ใกล้กันแล้ว อาจนับได้ว่าผิดในเชิงจริยธรรม

เพราะเป็นการนำมาใช้โดยยังคงเหลือเอกลักษณ์ของบุคคลอย่างเด่นชัด ทั้งยังเพื่อในเชิงพาณิชย์เป็นทางการ และมีจุดขายที่การให้ผู้อ่านรู้ว่าเป็นใคร
และไม่เข้าข่ายกรณียกเว้นว่าได้ขออนุญาตแล้ว แต่งเพื่อการล้อเลียน หรือบุคคลที่ถูกยกมาเป็นบุคคลคลาสสิคหรืออมตะในเชิงประวัติศาสตร์

กระนั้นในปัจจุบัน ยังไม่มีกรณีของการนำต้นฉบับที่รู้ถึงเอกลักษณ์อย่างชัดเจนมาใช้ในงานเขียนที่ตีพิมพ์อย่างถูกกฎหมาย จึงไม่แน่ชัดว่าผิดระดับไหน



-การเคลื่อนไหวของผู้เขียนและทางสนพ.กับกรณีที่เกิดขึ้น

ทางนักเขียนมีการเคลื่อนไหวเกี่ยวกับเรื่องนี้ กระนั้นก็ยังไม่ชัดเจน และเคลื่อนไหวน้อยมาก โดยสรุปได้ดังต่อไปนี้
- มีการตอบกลับแบบไม่เป็นทางการผ่านเฟสบุ๊คเพียงไม่กี่ครั้ง
- การตอบกลับไม่มีข้อความใดเป็นการยอมรับว่าสิ่งที่ทำเป็นสิ่งที่ผิด มีแต่บอกว่าคนส่วนใหญ่ไม่พอใจ
- แจ้งว่าได้ตัดสินใจที่จะยกเลิกการให้ซีรีย์แฟนฟิคตัวบุคคลนี้ด้วยตนเอง โดยไม่กล่าวถึงการตัดสินใจของทางสนพ.แม้แต่น้อย
- อย่างไรก็ตามซีรีย์แฟนฟิคตัวบุคคลจะมีการแต่งต่อ เพียงแต่ลงในเว็บให้อ่าน โดยไม่ได้นำไปตีพิมพ์

สำหรับทางสนพ. อาจเรียกว่าไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ เลย
- มีการตอบกลับ แต่ผ่านข้อความส่วนตัวของบุคคลที่จดหมายแจ้ง ดังนั้นจึงไม่ปรากฏในที่สาธารณชนจนกว่าบุคคลที่ได้รับข้อความนำมาเผยแพร่
- ไม่มีการพูดแน่ชัดกว่ากำลังพูดถึงเรื่องอะไร
- ไม่มีการยอมรับว่าสิ่งที่ตนทำเป็นสิ่งที่ทำผิด
- ไม่มีการยอมรับว่าตนเองเป็นผู้อนุมัติซีรีย์แฟนฟิคตัวบุคคลไปแต่อย่างใด และจงใจให้มีจุดขายในเรื่องนี้ด้วยหรือไม่
- บอกแค่เพียงว่า รับรู้ว่าเอาตัวละครมาจากที่อื่น แต่ไม่ได้บ่งบอกแน่ชัดว่าเอกลักษณ์รุนแรงแค่ไหน ทั้งข้อความฉบับแรกยังยินยอมให้พิมพ์ต่อ
- ทั้งสองฉบับบอกว่าจะเพิ่มคุณภาพในการคัดสรร แต่ไม่ได้บอกว่าคัดสรรในเรื่องใด

จุดนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่ผิดปรกติเป็นอย่างยิ่ง
ผู้แต่งยังแต่งต่อ ทว่ากลับไม่มีการตีพิมพ์ หากไม่ผิดก็สมควรที่จะให้นำมาพิมพ์ต่อ
ทว่าการที่ยกเลิกซีรีย์ไปเช่นนี้ถือว่าเป็นการทำลายความเชื่อถือของลูกค้า และเสียผลประโยชน์ที่ควรได้รับไป
ทั้งการยกเลิกซีรีย์แฟนฟิคตัวบุคคลของนักเขียนจะต้องได้รับการยินยอมของสนพ.ก่อนเสมอ
กระนั้นกลับไม่มีการพูดถึงในเรื่องนี้เลยแม้แต่น้อย

ด้วยเหตุนี้ จึงสมควรที่จะมีการแถลงการอย่างเป็นทางการ ทว่าเรื่องที่เป็นข้อสงสัยเชิงจริยธรรมที่รุนแรงแบบนี้กลับไม่มีการเคลื่อนไหวอะไรเลย
ดังนั้นจึงอาจเรียกได้ว่า เป็นสิ่งที่ผิดปรกติเป็นอย่างยิ่งสำหรับการกระทำที่เกิดขึ้นจากทั้งทางผู้แต่งและตัวสนพ.

ความคิดเห็น

lawakiki
lawakiki 5 พ.ค. 56 / 07:01
แย่มว๊ากกกก~ (วิบัติเพื่อแสดงอารมณ์)

เริ่มไม่ชอบสนพ.นี้นิดๆ =O=+