sagime
ดู Blog ทั้งหมด

รู้ทันหมอดู

เขียนโดย sagime
 
โดย ผู้จัดการ 360° รายสัปดาห์
           ในเรื่องคำพยากรณ์ทางโชคชะตานี้ ก็ได้มีฝรั่งเขาทำการค้นคว้า และค้นพบมาแล้วว่า ที่ว่าแม่นๆ มันไม่ใช่ที่วิชาโหราศาสตร์หรอก แต่มันอยู่ที่เทคนิค ซึ่งรวมแล้วเรียกว่า Cold Reading อันเป็นกลวิธีการลวงด้วยจิตวิทยา ที่ทำให้เกิดการรู้คิดที่บิดเบือน ทำให้คนที่ไม่มีพลังจิตดูกลายเป็นผู้วิเศษได้อย่างแนบเนียน จนคนหลงเชื่อในที่สุด ซึ่งหมอดูทั้งหลาย ก็ใช้เทคนิคเหล่านี้กัน ไม่ว่าจะตั้งใจหรือที่ใช้โดยไม่รู้ตัวก็ตาม โดยในเว็บ www.astrosimple.com (โหราศาสตร์วิชาการสำหรับคนรุ่นใหม่ เพื่อความเข้าใจอย่างรอบด้าน) คุณกาลจักรได้อธิบายถึงเทคนิคต่างๆ ไว้ดังนี้
       
       1.สร้างบรรยากาศ เพราะการดูหมอ เป็นเรื่องของใจและความเชื่อเลย ดังนั้นก็ต้องมีการทำให้ลูกค้าเกิดความมั่นใจในตัวหมอดูและวิชาของหมอดูก่อน ด้วยการสร้างบรรยากาศให้ดูขลัง ดูน่าเชื่อถือ ดังที่เราจะเห็นการจัดวางของประกาศนียบัตรจากสถาบันสอนโหราศาสตร์ ภาพถ่ายกับลูกค้าคนดัง หนังสืออ้างอิงและอุปกรณ์โหราศาสตร์ โต๊ะบูชาเทพต่างๆ
       
       2.การแสวงหาความร่วมมือในเบื้องต้น ด้วยการบอกก่อนจะเริ่มทำนายว่า การดูดวงจะต้องใช้ความร่วมมือกันของทั้งสองฝ่าย หมอดูเป็นคนอ่านดวงแต่ไม่รู้ข้อมูลจริง ส่วนลูกค้าจะต้องช่วยให้ข้อมูลจริงเพื่อทำคำทำนายให้ชัดเจนขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการการพยากรณ์ จึงไม่ผิดอะไรที่หมอดูจะถามหาข้อมูลจากลูกค้าเพิ่มเติม ตรงนี้ทำให้เกิดช่องทางในการดึงเอาข้อมูลไปใช้ในการพยากรณ์ได้ จนลูกค้าไม่รู้ตัวว่าเป็นคนให้ข้อมูลเขาไปเอง
       
       3.การตกข้อมูล (fishing) เป็นกลวิธีสำคัญ เพื่อให้สามารถทายเรื่องที่เฉพาะเจาะจงได้ วิธีก็จะมีตั้งแต่ การถามตรงๆ การถามเหมือนไม่ถาม (เช่น ใช้คำแสดงความรู้สึกหรือคำอุทานแทน) การซ่อนคำถาม (เหมือนจะเป็นการให้ข้อมูลแต่แฝงคำถามไปด้วย) การระดมยิงด้วยศัพท์แสงทางโหราศาสตร์ที่คนฟังไม่รู้เรื่อง แต่เขาก็จะอธิบายเรื่องราวออกมาว่าเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ใช่ไหม จากนั้นก็ใช้ข้อมูลที่ตัวเจ้าของดวงบอก มาประมวลเป็นคำอธิบายใหม่แล้วพยากรณ์กลับไป ซึ่งแม่นแน่นอน เพราะเจ้าของดวงเป็นผู้ให้ข้อมูลตัวเอง (แล้วก็มาประหลาดใจว่าหมอดูทายแม่น ทั้งๆ ที่ตัวเองบอกเขาไปเองแท้ๆ) นี่รวมถึงการอ่านจากภาษากาย ท่าทาง กิริยาวาจา ตลอดจนการแต่งตัว เครื่องประดับและอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ สิ่งเหล่านี้มันบอกเรื่องราวที่เกี่ยวกับเจ้าตัวได้ สายตาแหลมคมเหมือนนักสืบ จึงเป็นคุณสมบัติอย่างหนึ่งที่หมอดูที่ดีต้องมี
       
       4.คำพยากรณ์ที่กลางๆ ไม่ชี้เฉพาะ (Barnum statement/Forer effect) ด้วยเนื้อหาที่ดูกว้าง ตรงกับคนทั่วไป ซึ่งคนฟังก็จะพยายามโยงเข้ากับลักษณะของตัวเองในส่วนที่สอดคล้องกับคำพยากรณ์ด้วย ก็เลยทำให้รู้สึกว่าแม่น ตัวอย่างเช่น “คุณเป็นคนใจกว้าง” เมื่อเราพิจารณาจะเห็นว่า ทุกคนมีความใจกว้างอยู่ในตัว และไม่มีใครที่คิดว่าตัวเองใจแคบ การทำนายอย่างนี้จึงมีโอกาสถูกมากกว่าผิด (มีโอกาสถูกเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์)
       
       5.การหว่านแห (rainbow ruse) เป็นการให้คำที่มีความหมายตรงกันข้ามหรือขัดแย้งอยู่ในประโยคเดียวกัน เหมือนสายรุ้งที่มีหลายสี ถ้าไม่ถูกสีหนึ่งมันก็ต้องไปถูกอีกสีหนึ่งจนได้ ถ้าสังเกตดีๆ เราจะพบคำพยากรณ์แบบนี้ได้ทั่วไป เช่น ราศีกุมภ์มีความหมายว่ารักเพื่อนมนุษย์ ชอบสมาคม ในขณะเดียวกันก็มีความหมายว่ารักอิสระต้องการที่จะไม่เหมือนใครด้วย การชอบเข้ากลุ่มกับความต้องการที่จะแตกต่างเป็นความหมายที่ขัดแย้งในตัวเอง อย่างนี้ไม่โดนด้านหนึ่งก็ต้องโดนอีกด้านหนึ่งอยู่แล้ว นอกจากนั้นก็มีการประจบอย่างแนบเนียน การอธิบายด้วยช่วงชีวิตที่ทุกๆ คนต้องผ่านอยู่แล้ว โดยความแม่นนั้นมันเกิดจากคนอ่านจะจับเฉพาะจุดที่ตรงกับเขาเองแล้วก็จะรู้สึกว่ามันแม่น
       
       6.เทคนิคทางสองแพร่ง (forking) หรือการโยนหินถามทาง เหมือนเราตั้งสมมติฐานไว้สองอย่าง ตั้งคำถามเพื่อหยั่งเชิง ถ้าได้คำตอบหนึ่งก็จะไปทางหนึ่ง ถ้าได้อีกคำตอบก็จะไปอีกทางหนึ่ง
       
       นี่เป็นแค่ส่วนหนึ่งของเทคนิค Cold Reading ที่เราพบเห็นบ่อยๆ และถ้าสังเกตดีๆ อย่างมีสติ ก็จะพบว่า หมอดูไม่ได้รู้อะไรไปมากกว่าเราเลย เรานั่นแหละรู้จักตัวเองดีที่สุด ดังนั้น คนที่กำหนดชีวิตคุณได้ก็คือ คุณเอง

ความคิดเห็น

ยังไม่มีความคิดเห็น