ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่ 1
ตึง!!  เสียงทุบโต๊ะดังมาจากห้องอาหารบ้านกิตติธรรมเจริญ
\"แต่งงาน!?\"
\"ใช่\"
\"คุณพ่อคิดอะไรอยู่  ผู้หญิงพรรค์นั้น...\"
\"สุนีย์ไม่ใช่ผู้หญิงพรรค์นั้น!\"
\"ทำไมจะไม่ใช่!  ยัยนั่นทำอาชีพอะไรพ่อก็รู้ดีแล้วพ่อยังคิดจะแต่งงานกับเธออีกหรอ  ผมไม่ยอมรับหรอกนะ!\"
\"ตราบใดที่แกยังไม่เลิกอคติกับสุนีย์แกก็ไม่มีวันได้เห็นความดีในตัวเขา  ฉันตัดสินใจดีแล้ว  เขาจะทำอาชีพอะไรมาก่อนไม่สำคัญ  แล้วแกจะยอมรับหรือไม่ฉันไม่สน  เพราะคนที่แต่งคือฉัน..ไม่ใช่แก\"
ชยานนท์ยืนกัดฟันกรอดมองผู้เป็นพ่อซึ่งนั่งจิบกาแฟอย่างใจเย็น-ด้-วยความไม่พอใจ  ก่อนตัดสินใจเดินออกจากห้องอย่างขัดใจแล้วสตาร์ทรถออกไปอย่างรวดเร็วโดยที่อาหารเช้าของตัวเองยังไม่ถูกแตะต้องเลยสักนิด
ทศพักตร์ กิตติธรรมเจริญ  ชายวัย 46 ปีท่าทางภูมิฐานผู้เป็นนายใหญ่ของบ้านลุกขึ้นจากเก้าอี้เพื่อเตรียมตัวไปทำงาน  \"สายใจ  บอกนายศรให้เอารถออกด้วย  อ้อ..แล้วก็เรียกเด็กมาเก็บกวาดโต๊ะอาหารโดยเฉพาะกาแฟที่เจ้านนท์มันทำหกเลอะเทอะด้วยล่ะ\"
\"ค่ะ\"  แม่บ้านวัยชรารับคำ  หันหลังจะไปทำงานตามที่ได้รับคำสั่งแต่ก็หันกลับมาเพราะนึกขึ้นได้  \"เอ่อ..คุณผู้ชายคะ\"
\"ว่าไง?\"
\"คุณผู้ชายอย่าคิดมากเรื่องคุณนนท์เลยนะคะ  ดิฉันเชื่อว่าถ้าคุณนนท์ได้รู้จักกับคุณสุนีย์มากขึ้นแกคงจะชอบและยอมรับเธอได้ในที่สุด\"
\"ฉันก็หวังอย่างนั้น...\"
+ + + + + + + + + + + + + + + + +
ชยานนท์ กิตติธรรมเจริญ  ลูกชายคนเดียววัย 25 ปีของทศพักตร์ กิตติธรรมเจริญ  นักธุรกิจร้อยล้านเจ้าของบริษัทสื่อโฆษณาและหุ้นอีกกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ของบริษัทส่งออกสินค้าในเครืออุตสาหกรรม  คนพ่อเป็นประธานบริษัทส่วนคนลูกดำรงตำแหน่งรองประธาน  หลังชยานนท์เรียนจบจากมหาวิทยาลัย UCLA สาขาบริหารธุรกิจก็กลับมาช่วยงานพ่อที่บริษัท  ชยานนท์เป็นชายหนุ่มเนื้อหอม  หน้าตาหล่อเหลา  มีรูปร่างสูงใหญ่  ถึงแม้มีผลงานในการทำงานดีและเป็นที่รู้จักในวงสังคมไฮโซแต่ก็มีชื่อเสียด้านผู้หญิง  ปัจจุบันยังไม่มีคู่ครองเป็นตัวเป็นตนและยังไม่เคยคิดเรื่องแต่งงาน 
หลังจากคุณหญิงกานติมาผู้เป็นแม่เสียชีวิตลงด้วยโรงมะเร็งเมื่อ 1 ปีก่อนซึ่งเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิต  ชยานนท์กับพ่อก็อยู่กันสองคนตามประสาพ่อลูกโดยไม่มีปัญหาอะไร  จนเมื่อ 2 เดือนก่อนพ่อก็ไปติดพันหญิงสาวแม่หม้ายลูกติดหน้าตาสะสวยคนหนึ่งที่ทำงานสถานบริการหรือโฮสคลับ  ตัวเขาไม่ได้ห้ามอะไรเพราะคิดว่าพ่อคบเพียงแค่หาเศษหาเลยตามประสาพ่อหม้ายชายโสด  จนกระทั่งเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมาชยานนท์ต้องรู้สึกเหมือนมีสายฟ้าผ่าลงกลางโต๊ะอาหารเมื่อพ่อประกาศว่าจะแต่งงานใหม่กับผู้หญิงคนนั้นในอีก 2 อาทิตย์ที่จะถึงแล้วยังคิดจะพาเข้ามาอยู่ในบ้านทั้งแม่และลูกอีกด้วย
ชายหนุ่มขับรถจากัวร์สีบรอนซ์เงินตรงไปยังบริษัท G.T. COMMERCIAL ด้วยอารมณ์ไม่สู้ดีนัก  เขาทนไม่ได้ที่พ่อของเขาจะแต่งงานใหม่กับผู้หญิงไม่มีหัวนอนปลายเท้าทั้งยังทำอาชีพที่น่ารังเกียจ  ครอบครัวของเขาไม่ใช่คนติดดินสามัญธรรมดา  พวกเขามีฐานะ  มีชาติตระกูล  มีหน้ามีตาในสังคม  ถ้าเรื่องที่เขามีแม่เลี้ยงเป็นผู้หญิงขายตัวชั้นต่ำเป็นที่ล่วงรู้ไปทั่วเขาไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน  เขากับพ่อจะถูกสังคมนินทาอย่างไร
\"นังผู้หญิงแพศยา  ฉันจะทำให้แกกับลูกไม่มีความสุขในบ้านกิตติธรรมเจริญ!\"
+ + + + + + + + + + + + + + + + +
\"ว่าไงตาเจ  มาหาแม่หรอ\"  หญิงสาวท่าทางจัดจ้านเอ่ยถามชายหนุ่มร่างบางที่เดินเข้ามาทางหลังร้านของสถานบริการแห่งหนึ่งย่านสุขุมวิท
\"ครับ  ผมเอาเสื้อผ้าเปลี่ยนมาให้  ก่อนหน้านั้นแม่โทรไปที่บ้านบอกว่าลืมแล้วให้เอามาให้ที่นี่\"  เจ หรือ จิรายุทธ วัฒนเสวีตอบ
\"สุนีย์เค๊ากำลังรับรองลูกค้าอยู่ที่ล๊อบบี้น่ะ เอาไปวางไว้ที่เค๊าเตอร์ข้างหน้าก็แล้วกัน\"
ร่างบางแค่นยิ้ม  เดินนำถุงใส่เสื้อผ้าไปวางไว้ที่เค๊าเตอร์ตามที่หญิงสาวที่เป็นเพื่อนร่วมงานของแม่บอก  เรื่องที่แม่ทำอาชีพอะไรนั้นเขารู้ดี  และเขาเองก็ใช่ว่าจะสนับสนุนให้เธอทำอาชีพนี้  แต่มันไม่มีทางเลือกในเมื่อพ่อของเขาต้องมาเสียชีวิตโดยทิ้งหนี้สินไว้จำนวนมหาศาลให้แม่ต้องรับผิดชอบ  แล้วเจ้าหนี้ของพ่อรายนี้ก็เป็นเจ้าของกิจการโฮสคลับ  แม่ไม่มีเงินมาใช้ได้ทันกำหนดจึงถูกส่งให้มาทำงานในสถานบริการเพื่อใช้หนี้ทั้งหมดจนกว่าจะครบ  แรกๆแม่ก็ฝืนใจทำ  แต่ไม่รู้เมื่อไหร่ที่กลายเป็นความเคยชินไปซะแล้ว
ไม่เพียงแต่ใช้หนี้  สุนีย์ต้องทำงานส่งเสียลูกชายคือจิรายุทธให้เรียนจนกว่าจะจบมหาวิทยาลัย  ทั้งยังหาค่าใช้จ่ายประจำบ้านและค่าครองชีพ  อาชีพโฮสเตสจึงกลายเป็นอาชีพหลักของสุนีย์เพราะมีรายได้สูง  จิรายุทธจึงทำได้เพียงช่วยแบ่งเบาภาระเล็กน้อยด้วยการทำงานพิเศษหลังเลิกเรียนเป็นบาร์เทนเดอร์ในผับแห่งหนึ่ง  หลังมหาวิทยาลัยเลิกเขาก็ต้องมาทำงานกว่าจะกลับก็เกือบสว่างของอีกวัน  แต่ร่างบางก็ไม่ย่อท้อ  อย่างน้อยรายได้ของเขาก็สามารถส่งเสียตัวเองให้เรียนจนกว่าจะจบได้
\"นี่  พ่อหนุ่ม\"
จิรายุทธสะดุ้งเมื่อรู้สึกถึงมือที่จับหมับเข้าที่บั้นท้ายของตนเองขณะที่เขาเดินสวนกับชายแก่หัวล้านเตียนคนหนึ่งในร้าน
\"เธอคือลูกชายของสุนีย์ใช่มั๊ยเนี่ย  ฉันเคยเห็น\"
\"เอ่อ..กรุณาปล่อยมือเถอะครับ\"  จิรายุทธพยายามยื้อมือของเสี่ยวิทยาออกจากบั้นท้ายตนอย่างสุภาพ  เนื่องจากเสี่ยเป็นลูกค้าประจำของโฮสคลับแห่งนี้  ถ้าเขาโวยวายหรือทำอะไรวู่วามอาจจะทำให้แม่ของเขาเดือนร้อน
\"หน้าตาสวยเหมือนแม่เลยนะ  เป็นผู้ชายแท้ๆ  รูปร่างก็อรชรอ้อนแอ้นเหมือนผู้หญิง  อย่างเธอน่าจะเป็นโฮสต์ได้สบายๆ\"
\"ขอโทษนะครับ  ผมไม่...\"
พอชายหนุ่มปัดมือที่พัวพันอยู่ที่ด้านล่างออกได้ไม่เท่าไหร่มืออีกข้างก็โอบหมับเข้าที่ไหล่เขาอย่างถือวิสาสะ 
\"ถ้าเธอทำฉันจะจองตัวเธอคนแรกเลยนะ  แล้วยังเลี้ยงดูเป็นพิเศษอีกด้วย  เป็นข้อเสนอที่ไม่เลวใช่มั๊ยล่ะ\"
\"ขอโทษด้วยครับ  ผมไม่สน\"  บอกปัดอย่างไร้เยื่อใย  พอเบี่ยงตัวออกมาได้สำเร็จเสี่ยวิทยาก็ยังตามเกาะแกะอย่างไม่ลดละ  ร่างบางนึกขยะแขยงอยู่ในใจ  ก่อนที่จิรายุทธจะหมดความอดทนต่อความจาบจ้วงของตาเสี่ยเฒ่าหัวงูวิปริตก็มีระฆังมาช่วยห้ามทัพได้ทันกาล
\"สวัสดีค่ะเสีย  มานานแล้วหรอคะ\"  สุนีย์  สาวสวยแม่หม้ายวัย 36 ปี  ดาวเด่นของร้านเดินเข้ามาขัดจังหวะการสนทนาของทั้งคู่
\"แม่\"
\"เธอมาก็ดีแล้วสุนีย์  ฉันกำลังคุยอย่างออกรสกับลูกชายของเธออยู่พอดีเลย\"
ออกรสตรงไหนกัน!  จิรายุทธแทบจะถลึงตามองชายแก่
\"เอ๊ะ  คุยเรื่องอะไรกันคะ  เกี่ยวกับสุนีย์หรือเปล่าเอ่ย\"
\"ก็ไม่เชิงหรอก  ฉันชักชวนให้พ่อหนุ่มนี่ทำอาชีพโฮสต์น่ะ  รับประกันได้เลยว่าเขาต้องขึ้นเป็นดาวเด่นเทียบเท่าเธอภายในเดือนเดียวแน่นอน\"
ร่างบางหันมามองแม่อย่างขอความเห็นใจ  สุนีย์เองก็รู้ใจลูกชายของเธอดี
\"แหม  ต้องขอโทษด้วยนะคะ  ตาเจเขาไม่สนใจอาชีพนี้หรอกค่ะ  เขาเป็นคนไม่ชอบบริการใครน่ะค่ะเสี่ย  อีกอย่างเขาก็มีงานดีๆสุจริตๆทำอยู่แล้ว  เสี่ยหาคนอื่นแทนเถอะนะคะ\"  หญิงสาวบอกปัดด้วยวาจาโน้มน้าว  \"จริงด้วย  เมื่อวานมีเด็กใหม่เอ๊าะๆเข้ามาคนนึงรับรองต้องถูกใจเสี่ยแน่ๆ  เสี่ยลองเข้าไปดูด้านในก่อนนะคะ\"
\"แต่...\"  เสียวิทยายังทำท่าเสียดาย  มองร่างบางตาละห้อยจนน่าขนลุก
\"น่านะเสี่ย  คนเนี้ยยังใหม่ทางร้านยังไม่เปิดให้รับแขกที่ไหนเลย  เสี่ยเป็นคนแรกเลยนะ  เดี๋ยวสุนีย์ให้เด็กพาไปนะคะ\"  หญิงสาวดันหลังเสี่ยวิทยาเมื่อเห็นอีกฝ่ายมีท่าทีสนใจมากขึ้นพลางเอ่ยเรียกเด็กในร้าน  \"นา!  มาพาเสี่ยไปรู้จักกับเด็กใหม่หน่อยเร้ว\"
เมื่อสลัดเสี่ยเจ้าปัญหาออกไปได้แล้วหญิงสาวก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก  หันมาหาลูกชายสุดที่รัก
\"ว่าไงล่ะเรา  โดนลวนลามตรงไหนรึเปล่า\"
\"นิดหน่อยน่ะครับ\"  ตอบอย่างเหนื่อยหน่าย  ใบหน้าสวยบูดบึ้ง  ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาโดนลวนลามแบบนี้แต่ก็ไม่เคยชินสักครั้งแล้วก็ไม่นึกอยากจะชินด้วย
\"คราวหน้าคราวหลังก็บอกปัดให้มันเด็ดขาดเลยนะ  พวกเฒ่าหัวงูแบบเนี๊ยไม่ต้องไปเกรงใจหรอก\"
\"ก็เพราะเขาเป็นลูกค้าประจำของร้านน่ะสิครับผมถึงไม่กล้าโวยวายให้มันใหญ่โต\"
\"โอ๊ย  ลูกค้ามักง่ายเรื่องมากแบบนี้ทางร้านก็อยากจะกำจัดออกไปซะให้พ้นหูพ้นตาเหมือนกันน่ะแหล่ะ  ว่าแต่เราเถอะ  เอาเสื้อผ้ามาให้แม่รึเปล่า\"
\"เอามาครับ  ผมวางไว้ที่เค๊าเตอร์\"
\"ค่อยยังชั่วหน่อย  ค่ำนี้แม่มีนัดทานข้าวกับคุณทศพักตร์ซะด้วย  ดันลืมซะได้  ถ้าไม่มีชุดเปลี่ยนล่ะแย่เลย\"  เนื่องจากชุดที่สุนีย์ใส่ทำงานในโฮสคลับค่อนข้างล่อเสือล่อตะเข้  จึงไม่เหมาะที่จะใส่ไปดินเนอร์ที่ภัตตาคารหรูหราแบบเป็นทางการนัก
\"ถามจริงเหอะแม่  ในเมื่อแม่ก็จะแต่งงานอีกไม่กี่อาทิตย์นี้แล้ว  หนี้สินที่ยังเหลืออยู่ทั้งหมดคุณทศพักตร์ก็จะออกให้  แล้วทำไมแม่ยังไม่เลิกทำงานนี้อีก  เขาไม่ว่าอะไรรึไง\"  จิรายุทธข้องใจ
\"ไม่หรอกน่า  คุณทศพักตร์เขาเข้าใจ  แล้วแม่ก็ทำต่ออีกไม่นานหรอก  ขอเวลาล่ำล่าบรรดาลูกค้าประจำของแม่อีกแค่อาทิตย์เดียวก็เลิกแล้ว\"
ร่างบางเบ้หน้า  ไม่อยากจะเดาว่าคำว่า \'ล่ำลา\' ของผู้เป็นแม่จะมีความหมายในแง่ไหน  ชายหนุ่มรู้เรื่องที่แม่ของเขาจะแต่งงานเมื่อสัปดาห์ก่อน  เขาไม่คิดที่จะคัดค้านเพราะคุณทศพักตร์คนรักของแม่ที่เธอเคยพามาแนะนำให้เขารู้จักท่าทางเป็นคนดี  พึ่งพาได้  ไม่สำคัญว่าคนรักของแม่จะรวยหรือไม่  ขอเพียงแค่ทำให้แม่เขามีความสุขและเลิกอาชีพโฮสเตสนี้ได้ก็พอใจแล้ว
จิรายุทธมองดูนาฬิกาที่ข้อมือ  เมื่อเห็นว่าสมควรแก่เวลาแล้วจึงเอ่ยลา  \"ผมต้องไปทำงานพิเศษล่ะ  จวนได้เวลาแล้ว\"
\"จะไปแล้วหรอ\"  หญิงสาวทวนถาม  \"งั้นก็ไปดีมาดีล่ะ  อ้อ  แล้วคืนนี้อยากกินอะไรล่ะจะได้ทำให้  เผื่อกลับมาจะหิว\"
\"อะไรก็ได้ครับ\"  เขาตอบ
\"เอ..งั้นจะสั่งอาหารที่ภัตตาคารกลับมาเผื่อดีกว่า  นานๆเราจะได้กินของดีนี่นะ\" 
ร่างบางแค่นยิ้ม  ส่ายหน้าอย่างระอา  แม่เขานี่งกเสียจริง  แต่นี่แหล่ะถึงจะเป็นแม่ของเขาตัวจริงเสียงจริง  สงสัยคุณทศพักตร์คงต้องหนักใจหรือไม่ก็สบายใจที่แต่งงานกับผู้หญิงช่างตระหนี่อย่างแม่เขาก็เป็นได้
\"แต่งงาน!?\"
\"ใช่\"
\"คุณพ่อคิดอะไรอยู่  ผู้หญิงพรรค์นั้น...\"
\"สุนีย์ไม่ใช่ผู้หญิงพรรค์นั้น!\"
\"ทำไมจะไม่ใช่!  ยัยนั่นทำอาชีพอะไรพ่อก็รู้ดีแล้วพ่อยังคิดจะแต่งงานกับเธออีกหรอ  ผมไม่ยอมรับหรอกนะ!\"
\"ตราบใดที่แกยังไม่เลิกอคติกับสุนีย์แกก็ไม่มีวันได้เห็นความดีในตัวเขา  ฉันตัดสินใจดีแล้ว  เขาจะทำอาชีพอะไรมาก่อนไม่สำคัญ  แล้วแกจะยอมรับหรือไม่ฉันไม่สน  เพราะคนที่แต่งคือฉัน..ไม่ใช่แก\"
ชยานนท์ยืนกัดฟันกรอดมองผู้เป็นพ่อซึ่งนั่งจิบกาแฟอย่างใจเย็น-ด้-วยความไม่พอใจ  ก่อนตัดสินใจเดินออกจากห้องอย่างขัดใจแล้วสตาร์ทรถออกไปอย่างรวดเร็วโดยที่อาหารเช้าของตัวเองยังไม่ถูกแตะต้องเลยสักนิด
ทศพักตร์ กิตติธรรมเจริญ  ชายวัย 46 ปีท่าทางภูมิฐานผู้เป็นนายใหญ่ของบ้านลุกขึ้นจากเก้าอี้เพื่อเตรียมตัวไปทำงาน  \"สายใจ  บอกนายศรให้เอารถออกด้วย  อ้อ..แล้วก็เรียกเด็กมาเก็บกวาดโต๊ะอาหารโดยเฉพาะกาแฟที่เจ้านนท์มันทำหกเลอะเทอะด้วยล่ะ\"
\"ค่ะ\"  แม่บ้านวัยชรารับคำ  หันหลังจะไปทำงานตามที่ได้รับคำสั่งแต่ก็หันกลับมาเพราะนึกขึ้นได้  \"เอ่อ..คุณผู้ชายคะ\"
\"ว่าไง?\"
\"คุณผู้ชายอย่าคิดมากเรื่องคุณนนท์เลยนะคะ  ดิฉันเชื่อว่าถ้าคุณนนท์ได้รู้จักกับคุณสุนีย์มากขึ้นแกคงจะชอบและยอมรับเธอได้ในที่สุด\"
\"ฉันก็หวังอย่างนั้น...\"
+ + + + + + + + + + + + + + + + +
ชยานนท์ กิตติธรรมเจริญ  ลูกชายคนเดียววัย 25 ปีของทศพักตร์ กิตติธรรมเจริญ  นักธุรกิจร้อยล้านเจ้าของบริษัทสื่อโฆษณาและหุ้นอีกกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ของบริษัทส่งออกสินค้าในเครืออุตสาหกรรม  คนพ่อเป็นประธานบริษัทส่วนคนลูกดำรงตำแหน่งรองประธาน  หลังชยานนท์เรียนจบจากมหาวิทยาลัย UCLA สาขาบริหารธุรกิจก็กลับมาช่วยงานพ่อที่บริษัท  ชยานนท์เป็นชายหนุ่มเนื้อหอม  หน้าตาหล่อเหลา  มีรูปร่างสูงใหญ่  ถึงแม้มีผลงานในการทำงานดีและเป็นที่รู้จักในวงสังคมไฮโซแต่ก็มีชื่อเสียด้านผู้หญิง  ปัจจุบันยังไม่มีคู่ครองเป็นตัวเป็นตนและยังไม่เคยคิดเรื่องแต่งงาน 
หลังจากคุณหญิงกานติมาผู้เป็นแม่เสียชีวิตลงด้วยโรงมะเร็งเมื่อ 1 ปีก่อนซึ่งเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิต  ชยานนท์กับพ่อก็อยู่กันสองคนตามประสาพ่อลูกโดยไม่มีปัญหาอะไร  จนเมื่อ 2 เดือนก่อนพ่อก็ไปติดพันหญิงสาวแม่หม้ายลูกติดหน้าตาสะสวยคนหนึ่งที่ทำงานสถานบริการหรือโฮสคลับ  ตัวเขาไม่ได้ห้ามอะไรเพราะคิดว่าพ่อคบเพียงแค่หาเศษหาเลยตามประสาพ่อหม้ายชายโสด  จนกระทั่งเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมาชยานนท์ต้องรู้สึกเหมือนมีสายฟ้าผ่าลงกลางโต๊ะอาหารเมื่อพ่อประกาศว่าจะแต่งงานใหม่กับผู้หญิงคนนั้นในอีก 2 อาทิตย์ที่จะถึงแล้วยังคิดจะพาเข้ามาอยู่ในบ้านทั้งแม่และลูกอีกด้วย
ชายหนุ่มขับรถจากัวร์สีบรอนซ์เงินตรงไปยังบริษัท G.T. COMMERCIAL ด้วยอารมณ์ไม่สู้ดีนัก  เขาทนไม่ได้ที่พ่อของเขาจะแต่งงานใหม่กับผู้หญิงไม่มีหัวนอนปลายเท้าทั้งยังทำอาชีพที่น่ารังเกียจ  ครอบครัวของเขาไม่ใช่คนติดดินสามัญธรรมดา  พวกเขามีฐานะ  มีชาติตระกูล  มีหน้ามีตาในสังคม  ถ้าเรื่องที่เขามีแม่เลี้ยงเป็นผู้หญิงขายตัวชั้นต่ำเป็นที่ล่วงรู้ไปทั่วเขาไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน  เขากับพ่อจะถูกสังคมนินทาอย่างไร
\"นังผู้หญิงแพศยา  ฉันจะทำให้แกกับลูกไม่มีความสุขในบ้านกิตติธรรมเจริญ!\"
+ + + + + + + + + + + + + + + + +
\"ว่าไงตาเจ  มาหาแม่หรอ\"  หญิงสาวท่าทางจัดจ้านเอ่ยถามชายหนุ่มร่างบางที่เดินเข้ามาทางหลังร้านของสถานบริการแห่งหนึ่งย่านสุขุมวิท
\"ครับ  ผมเอาเสื้อผ้าเปลี่ยนมาให้  ก่อนหน้านั้นแม่โทรไปที่บ้านบอกว่าลืมแล้วให้เอามาให้ที่นี่\"  เจ หรือ จิรายุทธ วัฒนเสวีตอบ
\"สุนีย์เค๊ากำลังรับรองลูกค้าอยู่ที่ล๊อบบี้น่ะ เอาไปวางไว้ที่เค๊าเตอร์ข้างหน้าก็แล้วกัน\"
ร่างบางแค่นยิ้ม  เดินนำถุงใส่เสื้อผ้าไปวางไว้ที่เค๊าเตอร์ตามที่หญิงสาวที่เป็นเพื่อนร่วมงานของแม่บอก  เรื่องที่แม่ทำอาชีพอะไรนั้นเขารู้ดี  และเขาเองก็ใช่ว่าจะสนับสนุนให้เธอทำอาชีพนี้  แต่มันไม่มีทางเลือกในเมื่อพ่อของเขาต้องมาเสียชีวิตโดยทิ้งหนี้สินไว้จำนวนมหาศาลให้แม่ต้องรับผิดชอบ  แล้วเจ้าหนี้ของพ่อรายนี้ก็เป็นเจ้าของกิจการโฮสคลับ  แม่ไม่มีเงินมาใช้ได้ทันกำหนดจึงถูกส่งให้มาทำงานในสถานบริการเพื่อใช้หนี้ทั้งหมดจนกว่าจะครบ  แรกๆแม่ก็ฝืนใจทำ  แต่ไม่รู้เมื่อไหร่ที่กลายเป็นความเคยชินไปซะแล้ว
ไม่เพียงแต่ใช้หนี้  สุนีย์ต้องทำงานส่งเสียลูกชายคือจิรายุทธให้เรียนจนกว่าจะจบมหาวิทยาลัย  ทั้งยังหาค่าใช้จ่ายประจำบ้านและค่าครองชีพ  อาชีพโฮสเตสจึงกลายเป็นอาชีพหลักของสุนีย์เพราะมีรายได้สูง  จิรายุทธจึงทำได้เพียงช่วยแบ่งเบาภาระเล็กน้อยด้วยการทำงานพิเศษหลังเลิกเรียนเป็นบาร์เทนเดอร์ในผับแห่งหนึ่ง  หลังมหาวิทยาลัยเลิกเขาก็ต้องมาทำงานกว่าจะกลับก็เกือบสว่างของอีกวัน  แต่ร่างบางก็ไม่ย่อท้อ  อย่างน้อยรายได้ของเขาก็สามารถส่งเสียตัวเองให้เรียนจนกว่าจะจบได้
\"นี่  พ่อหนุ่ม\"
จิรายุทธสะดุ้งเมื่อรู้สึกถึงมือที่จับหมับเข้าที่บั้นท้ายของตนเองขณะที่เขาเดินสวนกับชายแก่หัวล้านเตียนคนหนึ่งในร้าน
\"เธอคือลูกชายของสุนีย์ใช่มั๊ยเนี่ย  ฉันเคยเห็น\"
\"เอ่อ..กรุณาปล่อยมือเถอะครับ\"  จิรายุทธพยายามยื้อมือของเสี่ยวิทยาออกจากบั้นท้ายตนอย่างสุภาพ  เนื่องจากเสี่ยเป็นลูกค้าประจำของโฮสคลับแห่งนี้  ถ้าเขาโวยวายหรือทำอะไรวู่วามอาจจะทำให้แม่ของเขาเดือนร้อน
\"หน้าตาสวยเหมือนแม่เลยนะ  เป็นผู้ชายแท้ๆ  รูปร่างก็อรชรอ้อนแอ้นเหมือนผู้หญิง  อย่างเธอน่าจะเป็นโฮสต์ได้สบายๆ\"
\"ขอโทษนะครับ  ผมไม่...\"
พอชายหนุ่มปัดมือที่พัวพันอยู่ที่ด้านล่างออกได้ไม่เท่าไหร่มืออีกข้างก็โอบหมับเข้าที่ไหล่เขาอย่างถือวิสาสะ 
\"ถ้าเธอทำฉันจะจองตัวเธอคนแรกเลยนะ  แล้วยังเลี้ยงดูเป็นพิเศษอีกด้วย  เป็นข้อเสนอที่ไม่เลวใช่มั๊ยล่ะ\"
\"ขอโทษด้วยครับ  ผมไม่สน\"  บอกปัดอย่างไร้เยื่อใย  พอเบี่ยงตัวออกมาได้สำเร็จเสี่ยวิทยาก็ยังตามเกาะแกะอย่างไม่ลดละ  ร่างบางนึกขยะแขยงอยู่ในใจ  ก่อนที่จิรายุทธจะหมดความอดทนต่อความจาบจ้วงของตาเสี่ยเฒ่าหัวงูวิปริตก็มีระฆังมาช่วยห้ามทัพได้ทันกาล
\"สวัสดีค่ะเสีย  มานานแล้วหรอคะ\"  สุนีย์  สาวสวยแม่หม้ายวัย 36 ปี  ดาวเด่นของร้านเดินเข้ามาขัดจังหวะการสนทนาของทั้งคู่
\"แม่\"
\"เธอมาก็ดีแล้วสุนีย์  ฉันกำลังคุยอย่างออกรสกับลูกชายของเธออยู่พอดีเลย\"
ออกรสตรงไหนกัน!  จิรายุทธแทบจะถลึงตามองชายแก่
\"เอ๊ะ  คุยเรื่องอะไรกันคะ  เกี่ยวกับสุนีย์หรือเปล่าเอ่ย\"
\"ก็ไม่เชิงหรอก  ฉันชักชวนให้พ่อหนุ่มนี่ทำอาชีพโฮสต์น่ะ  รับประกันได้เลยว่าเขาต้องขึ้นเป็นดาวเด่นเทียบเท่าเธอภายในเดือนเดียวแน่นอน\"
ร่างบางหันมามองแม่อย่างขอความเห็นใจ  สุนีย์เองก็รู้ใจลูกชายของเธอดี
\"แหม  ต้องขอโทษด้วยนะคะ  ตาเจเขาไม่สนใจอาชีพนี้หรอกค่ะ  เขาเป็นคนไม่ชอบบริการใครน่ะค่ะเสี่ย  อีกอย่างเขาก็มีงานดีๆสุจริตๆทำอยู่แล้ว  เสี่ยหาคนอื่นแทนเถอะนะคะ\"  หญิงสาวบอกปัดด้วยวาจาโน้มน้าว  \"จริงด้วย  เมื่อวานมีเด็กใหม่เอ๊าะๆเข้ามาคนนึงรับรองต้องถูกใจเสี่ยแน่ๆ  เสี่ยลองเข้าไปดูด้านในก่อนนะคะ\"
\"แต่...\"  เสียวิทยายังทำท่าเสียดาย  มองร่างบางตาละห้อยจนน่าขนลุก
\"น่านะเสี่ย  คนเนี้ยยังใหม่ทางร้านยังไม่เปิดให้รับแขกที่ไหนเลย  เสี่ยเป็นคนแรกเลยนะ  เดี๋ยวสุนีย์ให้เด็กพาไปนะคะ\"  หญิงสาวดันหลังเสี่ยวิทยาเมื่อเห็นอีกฝ่ายมีท่าทีสนใจมากขึ้นพลางเอ่ยเรียกเด็กในร้าน  \"นา!  มาพาเสี่ยไปรู้จักกับเด็กใหม่หน่อยเร้ว\"
เมื่อสลัดเสี่ยเจ้าปัญหาออกไปได้แล้วหญิงสาวก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก  หันมาหาลูกชายสุดที่รัก
\"ว่าไงล่ะเรา  โดนลวนลามตรงไหนรึเปล่า\"
\"นิดหน่อยน่ะครับ\"  ตอบอย่างเหนื่อยหน่าย  ใบหน้าสวยบูดบึ้ง  ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาโดนลวนลามแบบนี้แต่ก็ไม่เคยชินสักครั้งแล้วก็ไม่นึกอยากจะชินด้วย
\"คราวหน้าคราวหลังก็บอกปัดให้มันเด็ดขาดเลยนะ  พวกเฒ่าหัวงูแบบเนี๊ยไม่ต้องไปเกรงใจหรอก\"
\"ก็เพราะเขาเป็นลูกค้าประจำของร้านน่ะสิครับผมถึงไม่กล้าโวยวายให้มันใหญ่โต\"
\"โอ๊ย  ลูกค้ามักง่ายเรื่องมากแบบนี้ทางร้านก็อยากจะกำจัดออกไปซะให้พ้นหูพ้นตาเหมือนกันน่ะแหล่ะ  ว่าแต่เราเถอะ  เอาเสื้อผ้ามาให้แม่รึเปล่า\"
\"เอามาครับ  ผมวางไว้ที่เค๊าเตอร์\"
\"ค่อยยังชั่วหน่อย  ค่ำนี้แม่มีนัดทานข้าวกับคุณทศพักตร์ซะด้วย  ดันลืมซะได้  ถ้าไม่มีชุดเปลี่ยนล่ะแย่เลย\"  เนื่องจากชุดที่สุนีย์ใส่ทำงานในโฮสคลับค่อนข้างล่อเสือล่อตะเข้  จึงไม่เหมาะที่จะใส่ไปดินเนอร์ที่ภัตตาคารหรูหราแบบเป็นทางการนัก
\"ถามจริงเหอะแม่  ในเมื่อแม่ก็จะแต่งงานอีกไม่กี่อาทิตย์นี้แล้ว  หนี้สินที่ยังเหลืออยู่ทั้งหมดคุณทศพักตร์ก็จะออกให้  แล้วทำไมแม่ยังไม่เลิกทำงานนี้อีก  เขาไม่ว่าอะไรรึไง\"  จิรายุทธข้องใจ
\"ไม่หรอกน่า  คุณทศพักตร์เขาเข้าใจ  แล้วแม่ก็ทำต่ออีกไม่นานหรอก  ขอเวลาล่ำล่าบรรดาลูกค้าประจำของแม่อีกแค่อาทิตย์เดียวก็เลิกแล้ว\"
ร่างบางเบ้หน้า  ไม่อยากจะเดาว่าคำว่า \'ล่ำลา\' ของผู้เป็นแม่จะมีความหมายในแง่ไหน  ชายหนุ่มรู้เรื่องที่แม่ของเขาจะแต่งงานเมื่อสัปดาห์ก่อน  เขาไม่คิดที่จะคัดค้านเพราะคุณทศพักตร์คนรักของแม่ที่เธอเคยพามาแนะนำให้เขารู้จักท่าทางเป็นคนดี  พึ่งพาได้  ไม่สำคัญว่าคนรักของแม่จะรวยหรือไม่  ขอเพียงแค่ทำให้แม่เขามีความสุขและเลิกอาชีพโฮสเตสนี้ได้ก็พอใจแล้ว
จิรายุทธมองดูนาฬิกาที่ข้อมือ  เมื่อเห็นว่าสมควรแก่เวลาแล้วจึงเอ่ยลา  \"ผมต้องไปทำงานพิเศษล่ะ  จวนได้เวลาแล้ว\"
\"จะไปแล้วหรอ\"  หญิงสาวทวนถาม  \"งั้นก็ไปดีมาดีล่ะ  อ้อ  แล้วคืนนี้อยากกินอะไรล่ะจะได้ทำให้  เผื่อกลับมาจะหิว\"
\"อะไรก็ได้ครับ\"  เขาตอบ
\"เอ..งั้นจะสั่งอาหารที่ภัตตาคารกลับมาเผื่อดีกว่า  นานๆเราจะได้กินของดีนี่นะ\" 
ร่างบางแค่นยิ้ม  ส่ายหน้าอย่างระอา  แม่เขานี่งกเสียจริง  แต่นี่แหล่ะถึงจะเป็นแม่ของเขาตัวจริงเสียงจริง  สงสัยคุณทศพักตร์คงต้องหนักใจหรือไม่ก็สบายใจที่แต่งงานกับผู้หญิงช่างตระหนี่อย่างแม่เขาก็เป็นได้
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น