ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ด้วยรักหรือเกลียดชัง [Boy\'s love]

    ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 2

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.6K
      3
      23 มิ.ย. 48

    \"ใช้ไม่ได้  ไปแก้มาใหม่!\"  



    ชยานนท์โยนแฟ้มลงบนโต๊ะ  คำกล่าวของชายหนุ่มส่งผลให้เลขาสาวหน้าสลดลงทันที  นี่เป็นครั้งที่ 3 แล้วที่ชายหนุ่มสั่งให้แก้รายงานการประชุมที่หญิงสาวนำมาส่ง



    \"คะ..ค่ะ\"  เลขาสาวละล่ำละลักรับคำก่อนรีบออกไปจากห้องทำงานของเจ้านาย



    \"เป็นไงบ้าง?\"  ทันทีที่โสรยาออกมาจากห้องรองประธานเพื่อนร่วมงานสาวก็เอ่ยปากถามทันที



    \"ยังไม่ผ่าน  โดนสั่งให้ไปแก้มาใหม่อีกแล้ว  ครั้งที่ 3 แล้วนะ\"  เธอตอบอย่างหดหู่  \"พักนี้คุณชยานนท์อารมณ์เสียทุกวันเลย  ใครๆก็เข้าหน้าไม่ติด\"



    \"นั่นสิ  เมื่อเช้านายกิตติก็โดนไล่ตะเพิดออกจากจากห้องทำงานแทบไม่ทันแน่ะ\"  



    \"เอ๊ะ  จริงน่ะ  ไปทำอะไรเข้าล่ะ\"



    \"ก็เอาบัญชีรายรับรายจ่ายประจำเดือนไปส่งแล้วพี่แกดันหยิบไปให้ผิดเดือนน่ะสิ  คุณชยานนท์น่ะนะโวยแหลกเลยล่ะ  ไม่รู้ไปกินรังแตนมาจากไหน\"



    \"ก็คงไม่พ้นเรื่องเดิมๆน่ะแหล่ะ  พวกข่าวคาวเรื่องชู้สาวน่ะ\"  โสรยากระซิบเสียงค่อยแต่ไม่วายที่คนที่ยืนอยู่เบื้องหลังได้ยินเข้า



    \"ฮะ..แฮ่ม!\"



    \"ว๊าย!  ท่านประธาน\"  โสรยากับเพื่อนสาวตกใจหน้าซีดเมื่อไม่คาดคิดว่าประธานบริษัทมายืนอยู่ข้างหลังพวกตนตั้งแต่เมื่อไหร่



    \"ว่างนักหรือไงถึงมาจับกลุ่มนินทาเจ้านายนะฮึ!\"  ทศพักตร์เอ็ดลูกจ้างสาว  มาถึงไม่ทันไรก็เจอเรื่องน่าปวดหัวแต่เช้า



    \"ขะ..ขอโทษค่ะ\"  กล่าวขอโทษขอโพยแทบจะพร้อมเพรียงกันก่อนจะสลายตัวแยกย้ายไปทำงานทางใครทางมัน



    \"เฮ้อ..เจ้านนท์ก็เหมือนกัน  นิสัยเจ้าอารมณ์  ใจร้อน  วู่วาม  แก้ไม่หายซักที\"  บ่นถึงลูกชายก่อนเดินเลยไปยังห้องของตัวเองเพื่อเริ่มทำงาน



    อีกฟากหนึ่งของประตู  ชยานนท์นั่งหัวเสียอยู่บนเก้าอี้บุนวมตัวนุ่ม  หยิบปฏิทินตั้งโต๊ะขึ้นดูเสร็จก็ปาทิ้งอย่างไม่ใยดี  ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนตัดสินใจหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดหมายเลขที่ต้องการ



    ตรู๊ด..ตรู๊ด..ตรู๊ด...



    \"ฮัลโหล?\"  เสียงปลายสายตอบรับ



    \"นี่กูเองนะ\"  ชยานนท์ตอบกลับไป



    \"กูไหนวะ?  ปกติที่โทรมาก็มีหลายกู\"



    \"ไม่ต้องมากวนตี-เลยนะมึง  นี่กูชยานนท์โว้ย!!\"



    \"อ้อ!  ไอ้นนท์  ก็น่าจะบอกตั้งแต่แรก  กูเองๆจะไปรู้ได้ไงวะว่ากูไหน\"



    \"ไอ้เชษ!  กูกำลังอารมณ์เสียนะโว้ยอย่ามายั่วโมโห  แล้วเบอร์กูมึงก็รู้ทำไมไม่รู้จักเมมวะ!!\"



    \"ขี้เกียจว่ะ\"  เชษฐาตอบอย่างขอไปทีหลังจากชูโทรศัพท์ให้ห่างจากหูเพราะเสียงเกรี้ยวกราดของเพื่อนที่ส่งผ่านออกมา  \"แล้วโทษทีเหอะ  กูจะไปตรัสรู้ได้ไงวะว่ามึงกำลังอารมณ์เสียหรือขึ้นสวรรค์-ลงนรกที่ไหน  ไม่ได้ไปยืนอยู่ข้างๆมึงซักหน่อย\"



    \"ไอ้..!!\"  ชยานนท์กัดฟันครางอย่างเหลืออด  โทรศัพท์แทบจะแหลกคามือ  ถ้าไม่ใช่ว่าอีกฝ่ายเป็นเพื่อนรักกันมาตั้งแต่เด็กเขาคงตามไปบีบคอถึงที่แล้ว



    เชษฐาก็เช่นกัน  ถ้าเขากับชยานนท์ไม่ใช่เพื่อนรักกันล่ะก็คงไม่กล้าไปแหย่หนวดเสือแบบนี้หรอก  \"เออๆ  โทษทีว่ะ  กูไม่กวนตี-มึงและ  ตกลงที่โทรมามีอะไรวะ?  แล้วอารมณ์เสียเรื่องอะไร?\"



    ชายหนุ่มปรับอารมณ์ให้เป็นปกติ  ถึงเขาจะเป็นคนอารมณ์ร้าย  ขี้โมโห  แต่เขาก็สามารถควบคุมสติตนเองได้ดีอยู่เสมอ  \"ตั้งแต่วันที่ 28 เดือนนี้มึงว่างเปล่าวะ?\"



    \"28 หรอ?  อืม..ก็ไม่มีธุระอะไรนะ  ทำไมวะ\"



    \"จะชวนไปเที่ยว\"



    \"หา?  อะไรนะ!?\"



    \"กูบอกว่าจะชวนไปเที่ยว  ไปพัทยาก็ได้  กูมีบ้านพักตากอากาศที่นั่น  กะจะลางานไปเที่ยวซัก 1 อาทิตย์แล้วค่อยกลับ\"



    \"เฮ้ย!  เดี๋ยวๆ  ไหนบอกว่าอารมณ์เสียไง  แล้วนึกยังไงวะถึงชวนไปเที่ยว  อีกอย่างวันที่ 28 มันวันแต่งงานไม่ใช่หรอ?\"



    \"ก็เออน่ะสิ  กูถึงไม่อยากอยู่ไง  ไม่อยากเห็นภาพบาดตา  ไม่อยากเจอหน้าผู้หญิงนั่น!!\"



    \"ยังไงเขาก็เป็นแม่เลี้ยงมึงนะโว้ย\"



    \"หุบปากไปเลย!  กูไม่นับถือผู้หญิงพรรค์นั้นเป็นแม่เลี้ยงหรอกโว้ย!!\"



    \"เออ..เรื่องของมึง  แล้วที่จะไปเที่ยวเนี่ยก็แสดงว่ามึงจะหลบหน้าแม่..เอ้ย! ผู้หญิงคนนั้นนี่หว่า  อย่างนี้มันไม่เรียกว่าขี้ขลาดหรอวะ\"



    ชยานนท์หัวเราะในลำคอ  \"เค๊าเรียกว่าถอยเพื่อตั้งหลักต่างหากล่ะ  ระหว่างอยู่ที่พัทยากูก็จะหาทางคิดกำจัดยัยแม่ลูกคู่นั้นไปด้วย  ฉันไม่ปล่อยให้พวกมันเสวยสุขอยู่ในบ้านได้เกิน 1 อาทิตย์หรอก\"



    \"มึงจะทำอะไรได้วะ  พ่อ-มึ-งจะยอมเร้อ\"



    \"คอยดูต่อไปก็แล้วกัน\"





    + + + + + + + + + + + + + + + + +





    การแต่งงานถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่ายในบ้านของฝ่ายชาย  ช่วงเช้าเป็นการทำบุญตักบาตรที่หน้าบ้าน  ส่วนตอนสายก็เริ่มพิธีรดน้ำสังฆ์และมีการเชิญเจ้าหน้าที่เขตมาร่วมเป็นสักขีพยานในการจัดทะเบียนสมรส  จากนั้นช่วงเย็นก็จะมีงานเลี้ยงบุฟเฟต์  แขกเหลื่อที่มาล้วนแต่ก็สนิทชิดเชื้อแทบทั้งสิ้น



    \"เจ้าสาวสวยนะคะ\"  คุณหญิงสิริมา  หนึ่งในแขกผู้ร่วมงานซึ่งมีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องกับทศพักตร์กล่าวชมเจ้าสาวที่ยืนอยู่เคียงข้างเจ้าบ่าว  ทุกคนในงานใครๆก็ต่างเห็นพ้องต้องกันว่าคู่นี้สมกันอย่างกับกิ่งทองใบหยก



    \"ขอบคุณค่ะ\"  สุนีย์พนมมือไหว้รับคำชม



    \"ไม่ทราบว่าเด็กหนุ่มที่ยืนอยู่ทางนั้นคือลูกชายหรอครับ\"  ชายหนุ่มที่ยืนเคียงคุณหญิงคนดังกล่าวเอ่ยถาม



    \"ใช่ค่ะ  ลูกชายแท้ๆหัวแก้วหัวแหวนเลยล่ะค่ะ\"



    \"หน้าตาสะสวยเหมือนแม่นะคะ  ผิวพรรณก็ดี  พอแต่งชุดทักซิโด้ก็หล่อไปอีกแบบ  น่าเสียดายนะคะถ้าเป็นผู้หญิงล่ะก็คงเนื้อหอมน่าดู\"



    \"แหม..ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกค่ะ\"  สุนีย์ยิ้มรับ  



    หญิงสาวนึกถึงคำพูดของคุณหญิงสิริมาก็พลันคิดในใจว่าอย่าไปพูดแบบนี้ให้เจ้าตัวฟังเชียวล่ะ  ไม่งั้นโวยแหลกแน่  ก็ลูกชายของเธอน่ะอยากเกิดมาเป็นแบบนี้ซะที่ไหนกันล่ะ  ทั้งออกกำลังกาย  เพิ่มกล้ามเนื้อ  เล่นกีฬาสารพัดก็แล้ว  รูปร่างก็ยังเหมือนผู้หญิง  นี่ท่าสงสัยเชื้อแม่จะแรงน่าดู



    \"ตาเจ!  มากราบคุณหญิงสิริมาหน่อยสิลูก\"  สุนีย์เรียกลูกชายที่ยืนช่วยงานเด็กรับใช้อยู่ไม่ไกล



    จิรายุทธเดินเข้ามาหาพลางพนมมือไหว้อย่างมีมารยาท  \"สวัสดีครับคุณหญิง\"



    \"ไหว้พระเถอะจ้ะ  เรียกป้าก็ได้  ยังไงเราก็จะเกี่ยวดองเป็นญาติกันอยู่แล้ว  ไม่ต้องเรียกคุณหยงคุณหญิงอะไรนั่นหรอก  มันดูไม่เป็นกันเองน่ะ\"



    \"ครับ  คุณป้า\"



    \"แหม..ยิ่งดูใกล้ๆก็ยิ่งดูดีนะเนี่ย\"  เธอเอ่ยชม  \"อ้อ!  จริงสิ  นี่ตาสิทธิ์ลูกชายป้าเพิ่งกลับมาจากออสเตรเลีย  อายุมากกว่าเจ 4 ปีนะ  รู้จักกันไว้สิ\"



    \"ยินทีที่ได้รู้จักครับ\"  ชายหนุ่มร่างสูงยิ้มกว้าง  ยื่นมือออกไปหมายเชคแฮนด์แต่ก็ต้องเก้อเมื่ออีกฝ่ายพนมมือไหว้แบบประเพณีไทย  ทำให้เปลี่ยนกลับมารับไหว้แทบไม่ทัน



    \"สวัสดีครับ\"



    \"เราเรียนอยู่ปี 4 แล้วใช่มั้ย?  อีกไม่นานก็จะจบแล้วนี่  ถ้ามีอะไรไม่เข้าใจก็ถามพี่เค๊าได้นะ  พึ่งจะเรียนจบปริญญาโทมาหมาดๆนี่เอง\"  คุณหญิงบอกอย่างหวังดี



    \"ไม่รบกวนขนาดนั้นหรอกครับ\"  จิรายุทธบอกอย่างสุภาพ



    \"ไม่รบกวนหรอก  ฉันยินดี\"  ศักดิ์สิทธิ์ชิงตอบซะเองพลางยกมือขึ้นแตะไหล่ร่างบางอย่างถือสิทธิ์



    จิรายุทธเหล่มองมือชายหนุ่มที่วางบนบ่าแต่ไม่ได้ว่าอะไร  จนเจ้าตัวรู้ตัวถึงได้ชักมือกลับอย่างไม่ค่อยจะเต็มใจนัก



    \"ผมคงต้องขอตัวไปดูงานทางโน้นก่อนนะครับ  ไม่มีคนดูแลเดี๋ยวจะมีอะไรผิดพลาด\"  จิรายุทธเอ่ยขอตัวก่อนจะไหว้ลาผู้สูงวัยกว่าทั้งสอง



    \"ฉันไปช่วยนะ\"  ศักดิ์สิทธิ์รีบเสนอตัวก่อนที่ร่างบางจะหันไป



    \"อย่าเลยครับ  งานในครัวมันวุ่นวายไม่เหมาะกับคุณหรอก  อีกอย่างพวกคนงานจะทำงานกันไม่สะดวกด้วย\"  แม้ไม่ได้พูดออกมาตรงๆแต่สายตาที่บอกเป็นนัยๆว่า \'ไม่ต้องมา เกะกะ!\' ก็ทำให้ร่างสูงล้มเลิกความตั้งใจ



    \"งั้น..ก็ได้\"



    แล้วร่างบางก็เดินจากไปโดยมีสายตาของชายหนุ่มมองตามอย่างไม่ละสายตา



    \"ท้าทายไม่ใช่เล่น  อย่างงี้สิถึงจะน่าสนใจ\"



    \"เมื่อกี๊เราว่าอะไรนะ?\"  คุณหญิงสิริมาเอ่ยถามลูกชายเมื่อได้ยินคำกล่าวไม่ชัด



    \"เอ่อ..ผมพูดว่าเด็กคนนี้ดูน่าสนใจ  หน่วยก้านไม่เลว  กิริยามารยาทก็ดีน่ะครับ\"  ชายหนุ่มเอาตัวรอดไปได้อย่างลื่นไหล



    \"แม่เองก็เห็นด้วย  ยังนึกอยากได้มาเป็นลูกชายอีกซักคนเลย\"



    ชายหนุ่มลอบยิ้ม  ถ้าเขาบอกแม่ว่าตนไม่อยากได้จิรายุทธเป็นน้องชายแต่อยากได้มาเป็นลูกสะใภ้ให้แม่  แกจะช๊อคขนาดไหนนะ







    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×