แด่พี่สาว...ด้วยดวงใจ
ผมลังเลใจอยู่นานในการเขียนบล็อกนี้ อันเนื่องมาจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมาเมื่อเร็วๆนี้ คือมีความกังวลว่า หากผมเขียนบล็อกนี้ออกไปแล้ว ไม่สามารถทำให้ผู้ที่เป็นเจ้าของเรื่องนี้อ่านแล้วไม่เข้าใจหรือว่า อ่านแล้วอาจจะสงสัยในสิ่งต่างๆที่ผมจะสื่อสารออกมาจะเกิดอะไรขึ้นอีกบ้าง?
ผมจดๆจ้องๆแป้นพิมพ์นานพอสมควร เพราะสิ่งกังวลที่ว่านี้ใจนึงก็ไม่อยากอัพ เพราะสาเหตุที่ว่า ใจนึงก็ต้องการอัพ ด้วยเหตุผลอยากเก็บความทรงจำอันแสนดีที่ผมได้มีกับพี่สาวคนนี้ไว้เป็นเกียรติอันเป็นความตราตรึงใจผมไว้บ้าง อยากเก็บสิ่ง่ดีๆที่พี่สาวคนนี้ได้มอบไว้ให้กับผมเพื่อเป็นที่ระลึก
แต่ข้อขัดแย้งที่เกิดขึ้นก็ทำให้ผมท้อถอยไปหลายรอบ จนร่ำๆจะลบบล็อกนี้ทิ้งไปซะ
แต่ท้ายที่สุด ความคิดหนึ่งก็ทำให้ตัดสินใจเขียนบล็อกนี้ออกมาจนได้
ความคิดนั้นคือคำว่า “ความจริงใจ” คำๆนี้ผมเชื่อว่าคงเป็นภาพลบสำหรับทุกๆท่านที่มีต่อตัวผม แต่ผมมีความมั่นใจว่า ในบล็อกที่ท่านจะได้อ่านต่อไปนี้ทั้งหมด มันคือความหมายของคำๆนั้นจริงๆ
ปลายปี53โดยประมาณ ผมได้เจอกับพี่สาวคนนึงในเว็บของแจ่มใส ก็ เพราะพี่คนนี้เป็นแฟนคลับนิยายของคุณหมอนักเขียนจอมน่ารักคนนึงซึ่งเธอเขียนนิยายแนวคิกขุๆโดยเขียนออกมาได้แบบสนุกสนาน
ผมก็เป็นแฟนคลับคนนึงในนิยายเรื่องนั้นและก็มีเม้นต์อยู่ในทุกๆตอนของนิยายเรื่องนั้นด้วย เม้นต์อยู่ใกล้ๆกับพี่เขานั่นแหละ เพราะว่าบังเอิญอ่านนิยายเรื่องนั้นในระยะเวลาไล่เรี่ยแบบจี้ตูดกันเลย
ผมจำได้ว่าพออ่านเม้นต์พี่คนนี้แล้วก็รู้สึกตัวว่าดีใจแทนเจ้าของเรื่องจริงๆเพราะคำเม้นต์แต่ละเม้นต์ของพี่เขานั้น ล้วนแต่สุดยอด อยากได้เม้นต์แบบนี้บ้าง
เพราะเท่าที่เห็นนักอ่านคนอื่นเม้นต์ เขาจะเป็นแบบว่า
“หนุกๆๆ” หรือไม่ก็ “อัพๆๆ” หรืออีกทีก็ “อ่าน(ผ่าน)หมดแล้วน้าฝากนิยายเราด้วย” เม้นต์อันหลังนี้ผมจำได้แม่นแล้วงง ตั้งแต่
วันนั้น(สี่ปี)จนถึงวันนี้ว่า เขาอ่านได้ไงวะ นิยายบทนึงยาวเจ็ดหน้าเวิร์ด แล้วใช้เวลาอ่านและเม้นต์ ห้าหกบทแค่ สิบห้านาที ทั้งๆที่ผมขนาดอ่านหนังสือเก่งๆแล้ว ยังอ่านได้แค่สองบทต่อสิบนาทีโดยไม่รวมเม้นต์ซึ่งจะต้องเม้นต์โดยใช้อารมณ์จากการอ่านด้วย???
นี่แหละจึงเป็นที่มาของการดีใจแทนเจ้าของนิยายเรื่องนั้นซึ่งพี่สาวคนนี้ไปเม้นต์ให้แบบ “สุดชีวิต” ที่ว่าแบบนี้เพราะ เวลาที่พี่สาวคนนี้เม้นต์
จะค่อยๆไล่เรียงไปตั้งแต่ต้นบทว่า พระเอกบอกนางเอกว่ายังไง แล้วนางเอกเขินอายแบบไหนจนทำให้บางครั้งผมสารภาพว่า อินกับนิยายเพราะเม้นต์พี่เขายิ่งขี้น แบบว่า พี่เขาสังเกตุไปหมดว่า อารมณ์ตัวละครตัวนั้นออกมายังไง
แล้วนักเขียนต้องการสื่อให้แสดงแบบไหน แล้วพี่เขาจะทราบและเม้นต์อย่างออกรสชาติ แม้บางครั้งนักเขียนจะสะกดคำผิดไปบ้างอันเป็นธรรมชาติโดยทั่วไปของนักเขียนโดยเฉพาะผมมักจะ “เป็นธรรมชาติเยอะ” ไปหน่อยอันเนื่องมาจากความรีบในการต้องพิมพ์ไปตามฟิลลิ่งซึ่งเขาเรียกกันว่า
“องค์ลง” คือถ้าไม่รีบพิมพ์รีบกดสิ่งที่เราพึ่งจะคิดขึ้นมาได้ มันจะหายไปในพริบตา
พอเราพิมพ์ผิด นักอ่านส่วนมากจะไม่ค่อยทัก ด้วยบางทียามปกติอยู่ดีมีสุข อาจจะพิมพ์แช็ตไลน์กันแบบนี้อยู่แล้วไงเลยนึกว่านักเขียนเขาใส่มุก เขาพิมพ์ผิดไปก็ไม่ท้วง ทีนี้ก็พากันอ่านไปฮาไปสิ
แต่พี่คนนี้เธอไม่ได้ละเลยที่จะทักท้วงอันเป็นสิ่งที่ผมประทับใจมากเธอจะค่อยๆบรรจงลากคำผิดเหล่านั้นออกมาแล้วไฮไลท์สีเด้งๆจะๆให้นักเขียนอ่านไปร้องอุ้ยว้ายไปว่า “ต๊าย ! อยู่ซอกหลืบปานนี้ยังหาเจอ”
ผมในตอนนั้นอยากให้พี่เขามาเม้นต์นิยายผมเอามากๆ
แต่จนแล้วจนรอดพี่เขาก็ไม่สนใจนิยายผมเลยซ้ากกะแอะเดียวแต่ก็อย่างว่าแหละครับ นิยายผมมันแนว อินดี้ๆ ต้องยกบันไดมาปีนอ่านเยอะนิดนึง
ก็ตามที่ท่านเห็นแหล่ะคนเขียนบ้าบอนิดหน่อยครับ
คนอ่านเลยไม่ค่อยแยแสเท่าไหร่
จนกระทั่งแจ่มใสล่มในหนึ่งปีต่อมา ผมกับพี่เขาเลยห่างหายกันไป
กาลต่อมาผมเข้าเด็กดีเพื่อทำหน้าที่ของนักเขียนต่อไปนั่นก็คือ
เขียนนิยาย แล้วเปิดไอดีแบบทิ้งๆขว้างๆไว้เกือบสองสามเดือน
มีเพื่อนคนนึงที่มาจากแจ่มใสด้วยกันมาทักทาย เพื่อนคนนี้เธอจำผมได้เพราะเคยทักกันมาจากนิยายแนวแฟนตาซีที่ผมไปอ่านแล้วเม้นต์ให้ ขอเอ่ยนามหน่อยนะครับ เธอชื่อคุณจอย นิยายสนุกแถมยังเขียนเก่งด้วย ผมอ่านและติดตามทุกตอน ผมเข้าไอดีคุณจอยในฐานะเพื่อนกันไปทักทายกันตามปกติ
แต่ที่ไม่ปกติคือผมต้องตกตะลึงตาค้างและทึ่งสุดๆคือ มีนักเม้นต์ในดวงใจผมติดอยู่ในไอดีเพื่อนคนนี้ด้วยนะครับ
ใช่แล้ว เธอคือนักเม้นต์ในฝันของผมเองครับ พี่สาวคนนั้นแหละ
ผมรู้สึกดีใจที่เจอเธออีกครั้ง แล้วความฝันของผมก็เป็นความจริงครับที่อยากมีเม้นต์ของเธอคนนี้ เมื่อวันหนึ่ง นิยายบ้าบอหลุดโลกเรื่อง
“ยุทธภพหลุดโหดฮา888” ของผมก็ได้รับเกียรติจากเ
ธอคนนี้มาเยี่ยมชม ผมจำได้ว่า ปลื้มที่สุดเมื่อได้อ่านเม้นต์ทุกๆเม้นต์ที่เป็นของพี่คนนี้ เพราะนักเขียนทุกคนย่อมจะทราบดีว่า “นักเม้นต์ตัวจริงกับนักเม้นต์ตัวปลอม” ต่างกันยังไง สำหรับผมถ้าหากนักเม้นต์คนไหน ไม่มีนิยาย ไม่มีเรื่องของตัวเองลงไว้ที่ไอดีละก็ จะปลื้มไปสามวันเจ็ดวัน หลังจากนั้นเลิกปลื้ม เอ้ย พูดผิดครับ ก็ปลื้มกันไปจนตายไปข้างเลยสิครับถามได้
เพราะ ใครที่ตั้งใจอ่าน แล้วตั้งใจมาเม้นต์แบบนี้นั้น ผมจะถือว่า
เป็นนักอ่านที่สำคัญสำหรับผม
แล้วในเวลาต่อมาผมก็ได้สนิทกับพี่เขาอย่างรวดเร็วด้วยว่า ตัวจริงของพี่คนนี้นั้น เป็นคนที่กันเอง และน่าคบหามากครับ สำหรับในภาพของผมก่อนที่จะได้เห็นรูปร่างหน้าตาเธอนั้น ผมวาดไว้อย่างนี้ครับว่า
จะต้องเป็นคนสวย สง่า พูดจานิ่มนวลเป็นคนที่พูดและท่าทางเรียบร้อย ผู้ดีเหมือนนางเอกหนัง อายุคงเยอะหน่อยนึง ผมเลยนับถือเรียกพี่อย่างสนิทใจ
และให้ความเคารพพี่คนนี้อย่าง พี่สาวแบบสนิทปาก
ถึงแม้ว่าในภายหลังผมได้เห็นรูปพี่เขาแล้วก็ตาม ซึ่งตัวจริงเป็นคนที่ น่ารัก สวย
อัลเลิร์ต กระฉับกระเฉง อายุก็ยังไม่มากผมก็ยังนับถือพี่คนนี้แบบเคารพเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนด้วยว่า นิสัยพี่คนนี้นั้นนับถือและให้เกียรติเป็นพี่สาวได้อย่างไม่เขิน ผมว่านะพี่สาวแท้ๆของผมยังไม่เทียบพี่คนนี้เลย
ดังนั้นในทุกๆครั้งผมจะชอบคุยกับพี่คนนี้อย่างเป็นกันเอง
และคอยดูแลว่า พี่เขาจะเป็นยังไงบ้าง หากมีอะไรจะได้คอยช่วยเหลือกัน
จนบางทีผมมีเรื่องอะไรก็จะไปปรึกษาพี่เขา และบอกให้พี่เขารับรู้ว่าตัวเองจะทำอะไรที่ไหนบ้าง นัยว่าเป็นการให้ความเคารพไปในตัว
เพราะคิดว่าสิ่งที่พี่เขามีให้ผมนั้นผมไม่เคยคิดว่าจะได้รับเลย
ทั้งกำลังใจในนิยายรวมถึงการเป็นเพื่อนกัน จึงต้องการตอบแทนพี่เขาบ้าง
แต่มาในวันนี้พี่สาวคนนี้ของผมหายไปและคงไม่อยากกลับมาเจอคนที่ทำให้พี่เสียใจอีกแล้ว ผมก็ไม่สามารถจะเรียกร้องให้พี่เขากลับมาได้ จึงได้แต่มาบอกกล่าวผ่านตรงนี้ว่า
ผมขอโทษในทุกๆเรื่องที่พี่สาวขัดข้องเคืองขุ่นใจอันเนื่องมาจากการกระทำของผม และไม่มีข้อโต้แย้งใดๆทั้งสิ้น และจะไม่มีวันโกรธพี่เลย
ถึงแม้ว่าบางเรื่องผมไม่ได้ทำอย่างนั้นก็ตามผมก็จะยอมก้มหน้ารับทุกๆอย่าง
ในวันนี้ผมจะบอกพี่ว่า ขอให้ผมเล่าทุกอย่างให้พี่ฟังได้ไหมว่า
ผมเคารพพี่เหมือนพี่สาวของผมและผมก็หวงห่วงพี่แบบน้องของพี่จริงๆ
เมื่อวันที่พี่ให้คำนั้นกับผม ผมคิดว่าคงเป็นวันที่พี่มีความสุขที่สุด
และคิดว่าคงเป็นอะไรที่พี่ส่งออกมาจากใจ ทุกๆคำในวันนั้น
ผมคิดว่าคงเป็นคำที่พี่ไม่ได้เขียน แต่มันหลั่งมาเองจากข้างในส่วนลึกของพี่เอง
เพราะระดับ “นักพิสูจน์อักษรตัวแม่” อย่างพี่สาว คงไม่ปล่อยให้ตัวหนังสือเพ่นพ่านไร้แถวแบบนั้น ผมคิดว่าหากเป็นคนอื่นถ้าได้รับคำเหล่านั้น คงจะปลื้มและยิ้มไปตลอดคืนเมื่อได้อ่านทุกๆคำในขณะนั้น
แต่ในวันนั้นผมกลับเศร้าสุดชีวิต
เพราะไม่คิดว่าตัวผมจะเสียพี่สาวคนนั้นไป...
ผมเสียใจและเสียใจ ที่มีส่วนทำให้พี่คนนั้นเป็นอย่างนั้น แต่ก็ทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าจ้องตัวหนังสืออยู่อย่างนั้นเป็นหลายชั่วโมง
ผมโทษตัวเองที่ทำอะไรต่างๆให้พี่สาวคนนั้นหายไป
ผมพยายามพึ่งความสงบในคืนนั้นมาทบทวนความคิดที่จะหาทางพาคนที่ผมเคารพที่สุดกลับมาให้ได้ ผมหาวิธีต่างๆแล้วตั้งใจจะไปบอกพี่สาวในวันรุ่งขึ้นว่าจะไม่ให้พี่สาวทำแบบนั้น แต่สุดท้ายผมก็ไม่กล้า
ไม่กล้าที่จะเห็นคนที่ผมเคารพที่สุดเสียใจ ไม่อยากเห็นคนที่ผมเทิดทูนต้องเงียบหายไปด้วยความผิดหวัง ถึงพี่จะบอกว่า พูดมาเถอะก็ตาม แต่ผมรู้ว่า
ส่วนลึกหากผมพูดออกไปพี่จะเป็นอย่างไร
ผมตัดสินใจไม่ให้พี่สาวผมเป็นอะไรทั้งสิ้น เพราะคิดว่า
จะพยายามทำทุกอย่าง และทำแบบนุ่มนวลเพื่อเอาพี่สาวผมกลับมาในภายหลังให้ได้
ทุกๆครั้งที่ผมพบกันกับอีกคนที่ไม่ใช่พี่สาวคนนั้น ผมตั้งใจอย่างดีที่สุดและหวังให้ความสุขเกิดกับเธอคนนั้น เพราะรู้ดีว่า หากวันนั้นมาถึงทุกอย่างจะไม่มีทางกลับมาเหมือนเดิมอีก อยากให้คนที่ผมเทิดทูนคนนี้ มีความสุขที่สุดเท่าที่จะทำได้
ถึงแม้ความหมายของคำว่า รักของผมจะไม่ตรงกันกับพี่ ก็ตาม แต่ยังไงมันก็คือความรักเคารพจากใจของน้องคนนี้ที่มอบให้พี่สาว และอยากบอกว่ามันไม่เคยมีคำว่าหลอก รักและเคารพเหมือนครั้งแรกที่เจอและจนถึงบัดนี้ก็ยังเป็นคำนั้น...
พี่สาวคงได้ยินคำว่า “สงสาร” จากผมหลายครั้งแล้ว และเป็นคำที่พี่ไม่ชอบ แต่ผมก็ยังใช้คำนี้
เพราะมันคือส่วนหนึ่งจากใจผม
ช่วงหลังๆผมจะพยายามใส่คำที่อยากจะบอกพี่สาวไว้ในที่ต่างๆทั้งนิยายและบล็อกเพื่อให้พี่สาวอ่านแล้วจะเข้าใจความนัยของผมบ้าง อาทิเช่น
บล็อก “มะลิซ้อน”
และผมคิดว่าหากเวลาผ่านไปผมคิดว่าเราคงจะคุยและทำความเข้าใจกันในเรื่องนั้นได้ ด้วยว่าพี่สาวเป็นคนสนุกสนานร่าเริง เศร้าไม่ทน ร้องไห้ไม่นาน และก็ผมยิ่งมั่นใจมากขึ้นว่า
คงจะได้พี่สาวกลับมาเมื่อระยะหลังๆมานี้ พี่สาวห่างผมไปเรื่อยๆ และถึงวันนี้ผมสังเกตุเห็นได้ถึงสภาพจิตใจที่กลับมาเป็นคนร่าเริงเหมือนเดิมของพี่ ผมมาคิดว่า นี่แหละ
คือช่วงที่ผมต้องการพูดทุกๆอย่างให้พี่สาวได้รับทราบความปราถนาดีจากน้องคนนี้ ผมเคยพูดกับเพื่อนว่า ความรักแบบหนุ่มสาว เป็นรักไม่มั่นคง
สักวันต้องเลิกรากันไป แต่ความรักแบบเพื่อนหรือพี่น้องนี่แหละจะอยู่ได้นานเท่านาน และผมก็หวังอยากให้เป็นแบบนั้นกับพี่สาวที่ผมเคารพเทิดทูนคนนี้
หากทุกๆคำที่ผมพูดไปนี้ พี่สาวจะโกรธหรือว่าไม่ชอบใจอะไรผมก็ขอโทษเป็นอย่างมาก ให้พี่สาวด่าหรือว่าพูดอะไรได้ทุกๆอย่างโดยที่ผมจะไม่โต้แย้งใดๆทั้งสิ้น เพราะผมจะไม่มีวันโกรธพี่สาวที่ผมรักและเคารพคนนี้เลยตลอดไป
สำหรับทุกอย่างที่เป็นคำขอของพี่สาว ผมจะทำให้ทุกอย่าง
เม้นต์ต่างๆ ทั้งในบล็อกไอดีนิยาย ผมจะลบออกให้หมดเพื่อให้พี่สาวมีความสุขที่สุด และจะเหลือไว้แค่ที่พี่สาวบอก
สำหรับนิยายที่พี่ชอบและบอกผมว่า อยากให้แต่งไปจนจบ
ผมก็จะทำให้พี่ และหวังว่าพี่คงมาอ่าน ถึงจะไม่เม้นต์ก็ไม่เป็นไร สำหรับผมแล้ว เรื่องเม้นต์เป็นอะไรที่ “ได้ก็ดี มีก็ยิ้ม ไม่มีก็สบายๆ” ครับ จุดหมายสำคัญของการมาเขียนนิยายผมนั้นอยู่อีกที่นึงครับ คือได้ตีพิมพ์
สำหรับเรื่องที่ว่า ผมไม่มีรูปให้ใครๆเห็นนั้น ก็ขอให้อดใจรอสักหน่อยครับ รับรองว่า ตอนหนังสือผมพิมพ์ออกมา ไว้เจอกันตอนแจกลายเซ็นต์เลยครับ
เพราะสำนักพิมพ์จะต้องให้ผมมานั่งยิ้มหวานคอยเซ็นต์หน้าปกหนังสืออย่างแน่นอน ว่าแต่พี่สาวเหอะ เก็บเงินไปอุดหนุนกันหน่อยน้า คือว่า นิยายผมอาจจะได้พิมพ์หลายเล่มไง แหะๆ พูดแล้วก็อายครับ นิยายยังไม่จบสักแอะเลย
ในเดือนนี้ผมจำได้ว่าเป็นวันเกิดของพี่สาว
ก็ขออวยพรย้อนหลังให้พี่สาวจงมีความสุขปราศจากทุกข์โศกโรคภัยใดๆ
ปราถนาสิ่งใดก็ขอให้สมพรปราถนา และให้พบสิ่งที่ดีๆตลอดปีนะครับ
และผมคงไม่ได้ไปเยี่ยมเยียนทักทาย แต่ผมก็จะคอยดูแลพี่อยู่ห่างๆ
มีอะไรก็เล่าให้ผมฟังได้เหมือนเดิมนะครับ พี่คุยมานะครับผมจะนอนฟัง
จากกันวันนี้แล้วผมคงไม่ได้มารบกวนพี่อีก และขอบคุณทุกๆอย่างที่ให้ผมมา
ผมจะจำวันที่ได้เจอกันนี้ไว้ตลอดไปและจะจำชื่อของพี่ไว้ตลอดเช่นกันนะครับ
คนไม่ดีอย่างผม ไม่สมควรที่จะได้เป็นความทรงจำหรือว่าเป็นอะไรของพี่สาวได้หรอกครับ ผมขอให้พี่สาวได้พบคนที่ดีๆกว่านี้ ซึ่งผมคิดว่าพี่สาวผมจะต้องได้เจออย่างแน่นอนและเช่นกันเขาคนนั้นต้องรักพี่สาวผมอย่างมากเพราะพี่สาวผมเป็นคนน่ารักประทับใจที่สุดครับ ท้ายนี้ ไม่มีอะไรจะบอกอีกแล้ว
แต่ขออีกนิ้ดว่า ตอนนี้ไม่มีผมคอยกวนใจอีกแล้ว ต่อไปคงไม่มีใครมาทำลายสมาธิตอนสวดพาหุงฯ มหากาอีกแล้ว ต่อไปคงไม่มีใครคอยมาเบรกเรื่องน้องไส้กรอกอีกแล้ว ต่อไปคงไม่มีใครมาคอยอยู่เป็นเพื่อนตอนเฝ้าสปาคนเดียวอีกแล้วรวมถึง ต่อไปจะไม่มีคนชื่อเคนมาเม้นต์มาแซวในบล็อกอีกแล้วเพราะผมจะลบออกหมด
รักษาตัวด้วยครับพี่สาวอย่าลืมว่าน้องคนนี้ห่วงมาก
ด้วยความเคารพ
คนไม่ดีของพี่
ความคิดเห็น