ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    มนต์รักเพลงบ้านไพร

    ลำดับตอนที่ #2 : เปิดตัวนางเอก

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 111
      0
      5 มิ.ย. 57











            เมื่ออาทิตย์ลับขอบฟ้าด้านปลายนาฝั่งทิวเขา ความมืดก็มาพรมให้หมู่บ้านหนองน้ำใสได้สัมผัสความสุข เพราะ คืนนี้ มีงานฉลองโบสถ์หลังใหม่ที่วัดสว่างอารมณ์ มีญาติโยมจากเมืองกรุง เอากฐินมาทอดถวาย

              หมู่บ้านนี้มีประมาณเจ็ดสิบหลังคาเรือน ทำนา ทำไร่ และเลี้ยงสัตว์ คืออาชีพของทุกบ้าน เช้าตื่นก่อนไก่ เย็นกลับก่อนตะวันตก ความสุขอย่างเดียวที่มีก็คือทีวี นานๆ จะมีหนัง หมอลำมาให้ชมปีละสองครั้งเท่านั้นเป็นอย่างมาก แต่วันนี้ต้องนับว่ามันพิเศษจริงๆเพราะมีวงดนตรีชื่อดังที่เจ้าภาพกฐินจัดมาพร้อมจากเมืองกรุง

             ผู้คนหลากวัยทั้งไอ้หนุ่มอีสาว และหรือแม่หม้ายต่างแต่งตัวผัดหน้าประแป้งหน้าแฉล้มเดินเข้าประตูวัดพร้อมรอยยิ้ม เสียงทักทายกันดังเป็นระยะด้วยความสดชื่น

               เสียงเพลงฮิทติดปากจากเครื่องขยายเสียงเปิดลั่นทุ่งสร้างบรรยากาศให้คึกคัก ท่อนที่ร้องว่า เบอร์โทรนั้นอาจจะได้ยินเสียงรออย่างนั้นอย่างนี้ ดังกระแทกใจจนสาวๆซึ่งกำลังเดินมาหน้าวัดต้องโยกย้ายส่ายก้นตาม พ่อค้าแม่ค้าร้องขายอาหารขนมกันเซ็งแซ่ นี่ก็ก๋วยเตี๋ยวซึ่งยกหม้อพร้อมเตาถ่านแดงๆมาต้มกลิ่นหอม ฉุยกลางลานวัด มีคนนั่งกินเต็ม ถ้วยตราไก่ที่มีเส้นพร้อมลูกชิ้นวางแปะเนื้อเปื่อยในน้ำตกถูกจัดวาง แล้วก็ส่งให้โต๊ะนั้นโต๊ะนี้ไม่ขาด

                 “เพ่...ไม่งอกไม่ตับ ไม่เส้น ไม่ชูรส...คนกินที่เป็นหนุ่มใหญ่ร้องตะโกนสั่งแข่งกับเสียงคนขาย

                  “ค่ะๆๆ ไม่ลูกชิ้น ไม่น้ำไม่ถ้วยเลยมั๊ยคะ...คนขายหน้าบึ้งตอบกลับมาเพราะกำลังด่ากันกับผัวที่มันเพิ่งแอบ ไปจีบสาวขายสลากการกุศลให้วัดข้างๆโบสถ์มาหยกๆ

              “...อะไรอร่อยเอาทั้งนั้นแหละคนกินไม่ทันคิดว่าเขากำลังตีวัวกระทบคราดเลยก้มหน้าก้มตาตอบ

           “งั้นมึงออกไปเลยอย่ามาเสร่อเสนอหน้าให้กูเห็นอีกในชาตินี้!แม่ค้าเอามือตบโต๊ะเปรี้ยงจนชามเปล่ากระจาย ก่อนที่ลูกค้าจะกระโจนออกร้านแทบไม่ทัน

               โน่นก็ปลาหมึกย่างห้อยด้วยที่หนีบผ้าบนราวลวดเรียงราย ตัวเล็กอยู่ล่างตัวโตอยู่บน เตาถ่านวางเหล็กย่างมีปลาหมึกหงิกงอไปมาเหมือนมีชีวิต ส่งกลิ่นหอมฟุ้งตะลบคนขายกำลังบดให้ปลายืดหยักแบนปลิ้นออกมา น้ำแข็งใสใส่นมกำลังส่งเสียงแช้ดๆเวลาโดนคนขายเอาไม้ที่มีตะปูจับก้อนน้ำแข็งดันไปดึงมานั่น เด็กๆรุมล้อมยื่นเหรียญให้กันขวักไขว่

               ด้านข้างกัน รถของดองคนขายกำลังจับฝรั่งเฉาะด้วยมีดแหลมเปี๊ยบเสียงดังแฉะๆให้ป้าที่กำลังล้วงผ้าถุงเอาเงิน ที่ม้วนไว้ตรงขอบชายผ้าส่งให้ ส่วนสาวรุ่นก็ชี้ให้พ่อค้าเอามะม่วงดองลูกโตสับใส่ถุงพลางจ้องตาแป๋ว แล้วกลืนน้ำลายเอื้อกๆ

               “นี่พ่อค้า เวลาเยี่ยวแล้วล้างมือป่าวเนี่ย?” คนซื้อถามแล้วทำหน้าแบะๆ

                 “วันนี้ยังไม่เยี่ยว...คนขายตอบพลางเฉาะมะม่วงต่อ

     “เออ...ค่อยยังชั่ว...คนซื้อหยิบเอาถุงมะม่วงที่มีพริกเกลือสีแดงมาถือพลางส่งเงินให้แล้วล้วง ไม้มาเสียบมะม่วงจิ้มพริกเกลือใส่ปาก

                     “แต่ขี้มาแล้ว...คนขายตอบหน้าซื่อ

     “....อึ่ก...อึ่ก...อ้วก!...คนซื้อทำหน้าผะอืดผะอมก่อนที่จะจับคอแล้วล้วงปากจกเอา มะม่วงออกมาทิ้งแล้วเดินหนีไปอย่างรวดเร็ว

            อีกด้านเป็นร้านปาเป้าลูกโป่ง มีตุ๊กตาตัวโตวางล่อใจเป็นรางวัลเสียงเปาะ ๆของ ลูกโป่งแตก ดังเป็นระยะ

            “นี่ๆพี่ มันแตกเกือบหมด เหลือแค่ลูกเดียวเองมันไม่เป็นไรหรอกไงก็ให้ฉันเถอะ เอาตุ๊กตามาเลยนะๆเสียงสาวน้อยชี้มือร้องบอกคนดูแลร้านเมื่อปาลูกโป่งแตก แต่มันเหลืออีกลูกดันปาไม่ถูก

             “เอาซิครับนี่ครับ ไม่เป็นไรเช่นกันคนขายเอาตุ๊กตาที่ใส่ถุงตัวใหญ่ๆมาแล้วแกะหนังยางออกก่อนที่จะดึงหมีสีฟ้าตัวใหญ่ออกมาท่ามกลาง ความดีใจของหญิงสาว เสร็จแล้วยื่นถุงพลาสติกให้คนปาเป้าปั๊บ

              “เอาถุงไปก่อนครับแล้วค่อยมาปาเอาหมีวันนี้โชคไม่ดีกลับไปบ้านนอนกอดถุงหมีไปพลางๆนะ

             ข้างๆกันเป็นชิงช้าสวรรค์ประดับนีออนสีเขียวสีแดงกำลังหมุนช้าๆขึ้นไปพร้อมคนนั่งเต็ม หนังกลางแปลงจอใหญ่กำลังเริ่มฉาย

     

                “สหมงคลฟิล์ม ภูมิใจเสนอ... ...ฆ่าแล้วค่อยไปหาเมียน้อย... ...ให้เสียงภาษาไทยโดย...พันธมิตร...

               เสียงเอฟเฟ็คเร้าใจกระหึ่มจนหูจะแตก หนุ่มสาวเอากระดาษปูรองนั่งกับพื้นคู่กัน เด็กๆมายืนมอง เครื่องฉายตาแป๋วพลางเคี้ยวลูกชิ้นปิ้งหยับๆ

                     “ลำดับต่อไปนับจากนี้...เป็นเวลาที่ทุกท่านรอคอย...ขอเชิญ พ่อแม่คุณ พี่คุณลุงคุณป้าน้าอา น้องๆ หลานๆ พบกับนักร้องหนุ่ม เจ้าของฉายา ไอ้หนุ่มร้อยล้าน พระเอกลูกทุ่งเขี้ยวเสน่ห์ เจ้าของเสียงเพลง วานพ่อพระยาแล ...หนุ่มบ้านนอกรักจริง อันโด่งดังทางวิทยุและทีวีในขณะนี้ ขอฝากเนื้อฝากตัวไว้ในอ้อมอกอ้อมใจของ คุณแม่ คุณพี่และ ทุกๆท่านได้โปรดสนับสนุนและเมตตานักร้องหนุ่มน้อยโสดสนิทคนนี้ด้วยนะครับ ไม่ต้องรักมากเท่าฟ้า แต่รักให้น้อยกว่าดวงอาทิตย์นิดหน่อยก็พอ พวงมาลัยไม่ต้องมาก แต่ใส่แบงก์พันมาเยอะๆก็พอเพื่อเป็น ที่สังเกตุ ถ้าหากให้แต่ดอกไม้ นักร้องหนุ่มโสดมองเห็นไม่ค่อยถนัดครับ แล้วที่ตามมาก็คือ คุณแม่จะไม่ได้หอม แก้มนักร้องเอาน่ะครับ และกรุณาอย่าสนับสนุนซีดีหรือดีวีดีเถื่อน ซื้อแต่ของแท้มีลิขสิทธิ์นะครับ เพื่อพวกเราจะได้มีแรงใจทำ ผลงานออกมาให้ท่านได้รับฟังต่อไป แล้วในบัดนี้ ได้เวลาที่ทุกคนรอคอยแล้วขอเชิญรับชมรับฟังการ แสดงของพวกเราชาวคณะวงดนตรี สุดที่รัก ลูกส.พลายน้อย ได้ ณ บัดนี้...ขอเสียงปรบมือดังๆ ต้อนรับไอ้หนุ่มร้อยล้าน เจ้าหนูเขี้ยวเสน่ห์แห่งบางระกำได้เลยครับท่าน

     

                “กรี๊ดดด!!...สาวน้อยและสาวเหลือน้อยต่างพากันกรีดเสียงปานจะขาดใจตายตรงหน้าเมื่อพิธีกรพูดจบ เสียงเพลงจากนักดนตรีเริ่มบรรเลงกระหึ่ม ทรัมเป็ท แซกโซโฟนพร้อมกีต้าร์ต่างพากันยืนขึ้นแล้วโซ โลอย่างคึกคัก กลองกระแทกไม้รัวเป็นจังหวะเร่งเร้ากระเทือนถึงหัวใจดังตุบๆ แดนซ์ เซอร์สาวในชุดสั้นเห็นขาอ่อนขาว ด่าง แล้วก็ลายตามอายุ ต่างเดินออกมาจากหลัง เวที

            เสื้อสั้นสีสดปล่อยพุงขาวนั้นทำให้ไอ้หนุ่มชะเง้อคอแทบเคล็ด ทุกนางต่างก็เดินโยกย้ายส่ายตัวเด้งหน้าเด้งสะโพกไปตามจังหวะเหมือนติดสปริงไว้

              เมื่อดนตรีขึ้นอินโทรจบ เสียงนักร้องก็ดังมาจากหลังม่าน น้ำเสียงแหบปนทุ้ม ฟังแล้วน่าเคลิ้มตาม เมื่อเสียงร้องที่อยู่หลังม่านขึ้นถึงช่วงกลางเพลง ชายหนุ่มในสูทสากลสีขาว ก็ถือไมค์ลอยก้าวออกมาจากฉากกั้น เดินด้วยมาดนิ่ง มายิ้มพนมมือไหว้ให้แม่ยกไปรอบเวทีพลางยักคิ้วให้ สาวๆออกันมาเบียดกันหน้าเวที ยื่นดอกไม้ค่อนข้างเหี่ยวให้เนื่องจากเตรียมมาแต่ตอนกลางวัน

           นักร้องรับมาถือพลางสะดุ้งพลาง เพราะคนให้ไม่ยอมเลาะหนามกุหลาบออก แต่นักร้องก็เจ็บไปยิ้มไปไม่ถือสา เพลงที่เริ่มในจังหวะสามช่านั้น ทำให้หน้าเวทีเต็มไปด้วยนักดิ้นหญิงชายวาดลวดลายใส่จังหวะกันแบบ ฟรีสไตล์ สร้างบรรยากาศให้คึกคักถึงสุดขีด

             ไฟสีกระพริบวูบวาบตามจังหวะเสียงเพลง   ที่ริมเวทีด้านซ้าย มะเก้อพร้อมเจ้าป้าง มายกมือพร้อมโยกย้ายร่างไปตามจังหวะวู้!มันส์จริงๆว่ะป้าง ไม่เคยดูดนตรีสนุกๆแบบนี้มานานแล้ว เห็นแล้วอยากเป็นนักร้องจังมึงว่ามั๊ยชายหนุ่มพูดเสียงดังพร้อมหัวเราะหันไปมองแดนซ์เซอร์สาวซึ่งกำลังมองมาทางนี้พอดี มะเก้อชี้ให้ป้างมองตามแล้วตู่ว่าเธอยิ้มให้

               “ก็คืนนี้มีโอกาสแล้วนี่ ทำให้สำเร็จพี่ก็ได้เป็นแล้วเจ้าป้างพูดโดยไม่มองเพราะกำลังดิ้นอย่างเมามัน

                “เออจริงว่ะ พี่คนที่เป็นหัวหน้าวงเขาก็บอก ถ้าได้ที่หนึ่งจะให้ไปประกวดที่กรุงเทพต่อเลย ข้าอยากร้องเต็มที่แล้วว่ะทำไมเขายังไม่เริ่มวะ อ้อแล้วแกรู้ก่อนเพื่อนได้ยังไงข่าวประกวดร้องเพลง เนี่ยทั้งๆที่ข้าเองฟังวิทยุทุกวันก็ไม่รู้เลยมะเก้อร้องตอบเพราะเสียงดนตรีมันดังจนแก้วหูจะแตกนั้น

               “ก็ ตอนที่ฉันไปบอกพี่น่ะ เจ้าภาพเขามาที่วัดคุยกับหลวงพี่ไง ตอนนั้นนะไม่มีใครรู้เรื่องหรอกเพราะมี ฉันอยู่ฟังคนเดียวเจ้าป้างคุยอวดพลางยิ้มแล้ววางท่าว่า ไม่มีใครเก่งอย่างนี้เลยในหมู่บ้าน

     

                “ลำดับต่อไปนี้ เป็นการประกวดร้องเพลงเพื่อหาผู้ที่จะเป็นนักร้องไปร่วมแข่งขันร้องเพลงรายการ  ลูกทุ่งไมค์ทองที่กรุงเทพนะครับ ผู้ชนะในวันนี้ จะได้รางวัลเป็นถ้วยเกียรติยศพร้อมเงินสดสอง พันบาทซึ่งสนับสนุนโดยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป “ป่าป๊า” ตราหมีแพนด้ายิ้มน้ำลายหยดสองแหมะนั่นเอง ในวันนี้มี ผู้สมัครร่วมแข่งขันยี่สิบคน เราจะแบ่งเป็นสองรอบ รอบแรกคัดออกสิบคน รอบสองตัดสินเหลือสามคน และสุดท้ายหาผู้ชนะเพียงคนเดียว เอาล่ะครับได้เวลาแล้วขอเชิญผู้เข้าแข่งขันคนแรกขึ้นเวทีครับ

           เมื่อพิธีกรประกาศจบหลังจากวงดนตรีพักครึ่งเวลาไปแล้ว นักร้องสมัครคนแรกเป็นหญิงสาวก็ก้าวขึ้น เวทีด้วยท่าท่างเขินอายหน่อยๆ                 

              “เดี๋ยวข้าจะได้ร้องต่อคนนี้แหละมึงคอยดูนะป้าง กูจะร้องให้เด็ดขาดไปเล้ย อ้อ แล้วนี่ พี่มึงไปไหน วะทำไมไม่มาด้วยมะเก้อถามพลางหันไปหันมารอบๆ

     

                   “อยู่นี่ไง เซ่อจัง...ชายหนุ่มหันขวับไปข้างหลัง แล้วก็เจอกับสาววัยสิบเก้าในชุดกางเกงรัดรูปเสื้อยืดลายสดใส ผมยาวประ บ่า กำลังยืนยิ้มให้ ใบหน้านั้นสวยสะอาดตา แก้มขาวเปล่งปลั่งผิวนวลดวงตากลมโตมีแววขี้เล่นหน่อยๆ

                   “แตน...

















                   จบตอน




     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×