ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [นิยายแปล] Kyuuketsu hime wa barairo no yume o miru

    ลำดับตอนที่ #1 : Prologue – The Return

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 8.07K
      205
      10 ธ.ค. 59

    Prologue – The Return

    Prologue 1

    ในวันที่หิมะกำลังตก

    คราบเลือดที่เหมือนกับดอกกุหลาบแต่งแต้มหิมะสีขาวบริสุทธิ์

    แท่งเหล็กที่อยู่หลังรถบรรทุกร่วงลงมาต่อหน้าต่อตาของผม ผมไอและตระหนักได้ในตอนนั้นว่ากำลังจะตาย

    ภาพรอยเลือดสีแดงบนหิมะปรากฏขึ้นก่อนที่สติจะเลือนลางไป ในตอนนั้น ผมก็พลันนึกถึงฮิยูกิ(หิมะสีเลือด) ตัวละครที่เปรียบเหมือนอีกครึ่งหนึ่งของผม

    อา จริงสิ ถ้าผมตาย เธอก็คงจะหายไปเหมือนกัน

    ขณะที่เสียใจกับการตายไปทั้งของผมและฮิยูกิ สติของผมก็พลันดับวูบและหลอมละลายสู่ความมืด

    ◆◇◆◇

    ผมตื่นขึ้นในโลงศพที่หรูหราและเต็มไปด้วยดอกกุหลาบ

    -อุหว่า!?”

    ทันทีที่รู้ด้วยเหตุผลบางอย่าง ผมก็รีบทาบมือกับฝ่าโลงและผลักมันด้วยแรงทั้งหมด
    มันเปิดออกได้ง่ายกว่าที่คิด จากนั้นผมก็ชันตัวขึ้นและมองไปรอบๆอย่างตระหนก

    --ที่นี้ที่ไหนกัน? ผมอยู่ในโลงศพ ถ้าอย่างนั้นแปลว่าที่นี้คือที่เผาศพไม่ก็เมรุนะสิ!? ถ้าตื่นขึ้นมาตอนเริ่มเผากันแล้วนี่ไม่ขำเลยนะ!

    อย่างไรก็ตาม ผิดจากที่คาดไว้ ที่นี้ดูเหมือนคฤหาสถ์ในช่วงยุคกลาง เตียงแบบมีเสาขนาดใหญ่ที่ไม่รู้ว่านับได้กี่เสื่อทาทามิ แต่มันดูหรูหราเหมือนที่พวกชนชั้นสูงใช้ และนอกจากนั้นยังมีเฟอร์นิเจอร์และเครื่องนอนที่ใหญ่และงดงามมากอยู่ในห้อง

    “…เห? ที่นี้มันอะไรกัน??”

    เสียงที่ผมพึมพำออกมาสูงและฟังดูน่ารักอย่างน่าประหลาด

    และสิ่งที่ผมสวมใส่อยู่ก็คือชุดเดรสนุ่มวาววับที่ส่วนใหญ่เป็นสีดำและตกแต่งด้วยช่อดอกกุหลาบสีแดงอย่างหรูหรางดงาม

    เหนือขึ้นไปคือเรือนผมสีดำเงางามราวกับกำมะหยี่ ซึ่งดูเหมือนจะเป็นเส้นผมของผม เมื่อผมทอดสายตาลงมองเบื้องล่างก็เห็นหน้าอกเล็กๆ เอวบอบบาง และ-

    “…หายไป

    ขณะที่กำลังทำความเข้าใจกับส่วนล่างที่หายไป นิ้วมือเรียวดูบอบบางแต่หยืดหยุ่นเหมือนกับนิ้วของเด็กๆคล้ำไปมา สัญลักษณ์ความเป็นชายของผมหายไปแล้ว และถูกแทนที่ด้วยร่องที่ผมไม่รู้จัก

    ช่วงที่ผมกำลังสตัน ก็มีเสียงเคาะมาจากบานประตูสีดำ

    ชะ-เชิญ…”

    ผมกลืนคำว่าใช้อยู่ที่เกือบเผลอพูดไป

    ขออนุญาตขอรับ

    เสียงนั้นดึงผมจากภวังค์ บานประตูหนาที่ขนาดประมาณ 3×2 เมตรถูกเปิดออกอย่างง่ายดาย จากนั้นชายหนุ่มหน้าตาดี เจ้าของดวงตาสีทองและเรือนผมหยักศกสีบลอนด์ก็เดินเข้ามาในห้อง

    ชายคนนั้นดูราว 20 ปี แต่งชุดที่ดูคล้ายทักซิโด แต่กลับดูดีอย่างน่าประหลาด เขาส่งรอยยิ้มกว้างมาให้ผม
    ไม่-ไม่ ผมจะไม่ข้าม “เส้นนั้น” ไปแน่ๆ จนตอนนี้ผู้ชายที่งดงามคนนั้นก็ยังส่งผิ้มมาให้ผมเหมือนกับอาวุธ ถ้าผมเป็นผู้หญิงก็คงตกหลุมรักไปแล้ว หืม... เดี๋ยวนะ ตอนนี้ผมเป็นผู้หญิงนี่! อา-...นี่ผมกำลังตกอยู่ในสถานการณ์วิกฤตสินะ?
    ขณะคิดอะไรไร้สาระไปเรื่อยเปื่อย ชายตรงหน้าผมก็ทาบมือขวาไว้ที่อก ก้มศีรษะลงต่ำและก้าวเท้าหนึ่งมาเบื้องหน้า ทรุดตัวทำความเคารพประหนึ่งเป็นอัศวิน

    องค์หญิงทรงฟื้นคืนแล้ว ช่างเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่งที่ เท็นไก (เส้นขอบฟ้า) ผู้นี้ได้เป็นคนแรกที่ได้รับรู้เรื่องนี้ พวกเราทุกคนต่างเฝ้ารอคอยถึงวันนี้จากก้นบึ้งของหัวใจ

    ทั้งเสียงและรูปร่างช่างงดงามจริงๆ ผมคิด~ แต่เดี๋ยวนะ ผมนึกบางอย่างขึ้นมาได้ ทันทีที่ผมได้ยินบางอย่างที่ไม่คาดคิด ผมก็เผลอส่งเสียงสูงออกไป

    เท็นไก!!?”

    “…อะ-อืม มีอะไรหรือขอรับ องค์หญิง?”

    เขาไม่ได้ตอบคำถามของผม และดูสงสัย ผมจึงชี้ไปที่ชายหนุ่มตรงหน้า

    มังกรทอง [นาคราชา]??!”

    “? ขอรับ กระผมเอง…?”

    ทันใดนั้น บางอย่างเหมือนเมนูป๊อบอัพโปร่งใสก็ปรากฏขึ่นตรงที่ผมชี้ไป มันแสดงข้อมูลของชายคนนั้น

    เผ่าพันธุ์ : มังกรทอง [นาคราชา]
    ชื่อ : เท็นไก
    เจ้าของ : ฮิยูกิ
    HP : 556,800(ร่างมนุษย์)/1,948,800(ร่างกึ่งมังกร)/61,234,800(ร่างมังกร)
    MP : 767,800(ร่างมนุษย์)/2,303,400(ร่างกึ่งมังกร)/53,746,000(ร่างมังกร)

    มังกรทอง {นาคราชา} แต่เดิมเป็นบอสอีเวนท์ในเกมที่ผมเล่นอยู่ ‘Eternal Horizon Online’ มันถูกแจกออกมาเป็นรางวัลกาชา ไอเทมคลาส SSR (Super-super rare) ในอีเวนท์แบบจำกัด
    ในตอนนั้นแม้ว่าผมจะได้มันมา แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย ผมต้องแลกกับของมีค่าและไอเทมหายากจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว มันเป็นมอนเตอร์ระดับสูงมากๆที่มีไม่ถึง 5 ตัวด้วยซ้ำในเซิฟเวอร์
    และเมื่อผมได้มาเลยให้ชื่อว่า เท็นไก อย่าบอกนะว่าเขาคือคนนั้น?! มังกรตัวนั้นนะ?!

    ขณะที่ผมกำลังสับสน ผมก็ชี้ปลายนิ้วเข้าหาตัวเอง เมนูป๊อบอัพกึ่งโปร่งใสแบบเดียวกันก็ปรากฏขึ้น

    เผ่าพันธุ์ : เจ้าหญิงแวมไพร์ {ผู้สืบเชื้อสายพระเจ้า}
    ชื่อ : ฮิยูกิ
    ฉายา : ท่านหญิงแห่งฟากฟ้า [เท็นโจเท็นเก๊ะ]
    HP : 78,000
    MP : 95,500

    มันเป็นชื่อและสเตตัสตัวละครในเกม ‘Eternal Horizon Online’ ของผม

     

    Prologue 2

    ประตูที่เปิดค้างไว้ถูกเคาะตามมารยาท ก่อนหญิงสาวในชุดเมดจะก้าวเข้ามา เธอมีเรือนผมสีแพลตินัมบลอนด์สวย ดวงตาเย็นชาเป็นประกายและแพปีก 3 คู่ ก้าวตรงมาทางนี้ ขณะที่ผมสังเกตเธอ

    เธอมองไปทางเท็นไกซึ่งเข้ามาอยู่ก่อนและยังคงอยู่ในท่าทางทำความเคารพ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเจือความยำเกรงเล็กน้อย

    เท็นไก-โดโน่ การบุกรุกเข้ามาในห้องนอนของสุภาพสตรีเช่นนี้ คิดว่าหัวหน้าแห่ง 4 ราชามารสวรรค์เช่นคุณ สมควรกระทำเช่นนี้หรือ?”

    “…อา ต้องขอโทษด้วย มิโคโตะ (แก่นแห่งชีวิต) ผมรู้สึกว่าเวทมนต์ขององค์หญิงตื่นขึ้น จึงไม่อาจอดทนรอคอยได้ …”

    ประโยคพูดเหมือนรู้สึกผิดแต่น้ำเสียงแข็งทื่อปราศจากความสำนึกผิด เธอจึงได้แต่โคลงหัวไปมาอย่างช่วยไม่ได้ จากนั้นเธอก็หันมาทางผม ยืดตัวตรงอย่างสง่างามและโค้งคำนับต่อผม

    องค์หญิง การตื่นขึ้นมาของท่าน ทำให้ดิฉันรู้สึกปลื้มปิติอย่างหาที่สุดไม่ได้จริงๆ”

    อย่างที่คิด นั่นคือมิโคโตะ อืม

    ผมลองเช็คหน้าต่างป๊อบอัพด้วยการชี้ไปที่เธอ

    เผ่าพันธุ์ : เซราฟิม
    ชื่อ : มิโคโตะ
    เจ้าของ : ฮิยูกิ
    HP : 27,960,000
    MP : 35,268,000

    อา ระดับความสามารถไม่ชวนขำเอาซะเลย แน่นอนว่าถ้าผมแตะที่ปุ่ม「▼」ก็จะแสดงรายละเอียดสเตตัสอื่นๆกับรายชื่อสกิล แต่ตอนนี้ผมจะข้ามไปก่อน เพราะมันคงมีไม่ต่ำกว่าสิบบรรทัด

    ผมเข้าใจว่าระดับความสามารถของเท็นไกก่อนหน้านี้ชวนหัวเราะแล้ว แต่ของมิโคโตะตอนนี้มันแปลกเกินไป

    เธอเป็นรางวัลกาชาระดับ SR (Super Rare) ชิ้นแรกที่ผมได้จากกาชา ดังนั้นเธอจึงเป็นสัตว์เลี้ยงมานานกว่าเท็นไก ระดับพื้นฐานทั้งคู่นั้นเต็มไปนานแล้ว แต่ระดับความสามารถของเธอควรจะใกล้เคียงกับผม ตัวเลขไม่น่าจะสูงขนาดนี้

    โดยปกติ การที่ค่าความสามารถของสัตว์เลี้ยงสูงกว่าเจ้าของมากๆนั้นเป็นไปไม่ได้เลยในเกม ดังนั้นมังกรทองที่มีระดับความสามารถที่สูงมาก เมื่อกลายเป็นรางวัลกาชาจึงถูกเปลี่ยนเป็นไอเทมกึ่งแฟชั่น มังกรทองที่ปรากฏในอีเวนท์นั้นต้องใช้ผู้เล่นเลเวลเต็มในการจุติครั้งที่ 3 กว่า 150 คนรวมทั้งผมสู้นานกว่า 2 ชั่วโมงจึงจะปราบมันลงได้ นี่ไม่ใช่ว่าจะเลเวลเท่าตอนนั้นหรอกนะ?

    (TL: เมื่อเก็บเลเวลจนถึงขีดสุดจะสามารถจุติได้ โดยการจุติจะทำให้เลเวลกลับเป็น 1 แต่สเตตัสพื้นฐานจะสูงขึ้นเมื่อเทียบกับเลเวล 1 ตอนที่ยังไม่ได้จุติ)

    เช่นเดียวกัน เซราฟิมนั้นเป็นระดับสูงสุดในเผ่าพันธุ์ทูตสวรรค์ แต่มันยังไม่มีปรากฏเป็นมอนเตอร์ทั่วไป เท่าที่ผมจำได้ ฝูงมอนเทวดา 2 ปีกที่อยู่ชั้นบนของหอคอยผู้ร่วงหล่นระดับสูงกว่าด้านล่างประมาณ 40-50 เท่าได้ บางทีเมื่อทำเซราฟิมเป็นมอนเตอร์ทั่วไป อาจจะมีค่าสเตตัสอะไรแบบนี้? ถ้าเดาจากตัวเลขนะ

    ผมไม่รู้ว่าทำไมแต่ดูเหมือนขีดจำกัดของสัตว์เลี้ยงจะหายไปแล้ว ในอีกความหมายหนึ่งด้วยสภาพนี้ ผมอาจถูกฆ่าได้ในทันที ถ้าพวกเขาคิดจะกำจัดผม
    อืม งั้นต้องระวังท่าทางหน่อย เพื่อแสดงว่าผมไม่ได้คุกคามพวกเขา

    ขอโทษทีนะ ทั้งสองคน มีเรื่องอยากจะถาม…”

    ผมพูดได้ไม่นาน ทั้งชายงามและหญิงสาวคนนั้นก็ลุกขึ้นยืนแข็งทื่อ และหน้าเปลี่ยนสีเหมือนถูกฟ้าผ่

    นะ...นี่มันแย่แล้วสิ! นี่ผมทำอะไรผิดไปหรือไง....? ผมควรทำยังไงดี...?

    องค์หญิง! ได้โปรดอย่าพูดเช่นนั้นกับพวกเราเลย พวกเราไม่มีค่าถึงขนาดนั้น

    องค์หญิง บางทีท่านอาจสูญเสียความทรงจำไปจากการหลับไหลชั่วนิรันดร์…?”

    เอ๋?! อา- .... ไม่ ฉันจำได้ เท็นไก-ซังกับมิโคโตะ-ซังช่วยไว้มากในฐานะ DPS (Damage per second) กับ Healer”

    หลังจากผมพูดไปเช่นนั้น ก็เห็นทั้งสองแสดงสีหน้าโล่งอก

    หืม? ผมคิดว่านี้อาจเป็นเรื่องทั่วไปที่เกิดขึ้นในเกม

    อย่างไรก็ตาม ได้โปรดอย่าใช้คำสุภาพเช่นนั้นเรียกพวกเราเลย

    เป็นมิโคโตะที่โค้งให้ผมพูด... ที่สำคัญ ในเกม มันไม่มีการพูดคุยกับสัตว์เลี้ยง!

    อา เดี๋ยวก่อน มันอาจจะเป็นตอนที่ผมอยู่ในการต่อสู้ แล้วมีเสียงตัวละครสั่งสัตว์เลี้ยงอย่างไปได้!’, ‘ชักช้า!’, ‘กำจัดมัน!’ …

    หรือบางทีอาจจะเป็นอะไรแบบนั้น...? คำพูดที่ให้อารมณ์แบบให้คำสั่งที่ไร้เมตตา??

    ขณะที่ผมเหลืบมองพวกเขาแบบขลาดๆก็เห็นพวกเขากำลังรอผมพูดด้วยดวงตาเป็นประกาย ถ้าพวกเขาเป็นสุนัข พวกเขาคงกำลังนั่งและสะบัดหางไปมา

    ผมคิดว่าการพูดด้วยน้ำเสียง...อะไรแบบนั้นอาจจะถูก บางทีอาจจะมีอะไรอย่างค่าความชอบซ่อนอยู่ ซึ่งผมไม่รู้ว่าถ้ามันลดต่ำลงแล้วพวกเขาจะก่อกบฏหรือเปล่า ด้วยความสัตย์จริงผมว่าแค่ตบเดียวผมก็ปลิวแล้ว
    มะ-ไม่ได้การแล้ว มันอันตรายเกินไป ถ้าปล่อยให้พวกเขารอนานกว่านี้

    ผมพูดอีกครั้งด้วยน้ำเสียงเหมือนฮิยูกิในเกม

    อา ลำบากพวกเจ้าทั้งสองแล้ว ที่เฝ้าดูแลจนการนิทราของเราเป็นไปอย่างราบรื่นด้วยดีขนาดนี้ เราขอยกย่อง

    ขอรับ/เจ้าค่ะ พวกเรายินดีที่ท่านพอใจ!!”

    อาดูเหมือนจะดีแล้วสินะ

    “…เกิดอะไรขึ้นตอนที่เราจมสู่ห้วงนิทรา? เราต้องการฟังสถานการณ์

    หลังจากที่ผมพูดไป เท็นไกก็เปลี่ยนท่าทางและผายมือไปทางประตู

    ขอรับ สำหรับเรื่องนั้นเป็นความเลินเล่อของกระผมเอง มาเถิดขอรับ พวกเราจะพาท่านไปที่ท้องพระโรง

    พวกเรา 4 ราชามารสวรรค์ 7 สัตว์ร้ายแห่งภัยพิบัติ และ 13 แม่ทัพปีศาจต่างเฝ้ารอคอยการกลับมาของท่านอย่างใจจดใจจ่อ องค์หญิง

    มิโคโตะเสริมอย่างมีความสุข ในขณะที่ผมพยักหน้ารับเบาๆ ในหัวก็เต็มไปด้วยคำถาม

    4 ราชามารสวรรค์? 7 สัตว์ร้ายแห่งภัยพิบัติ? 13 แม่ทัพปีศาจ? ...นี่มันอะไรกัน?

    เท็นไกยื่นมือมาอย่างสง่างาม ผมวางมือลงไป เขาประคองผมออกจากโลงอย่างนุ่มนวลราวกับกำลังจับต้องวัตถุที่เปราะบางมาก เมื่อเท้าผมแตะลงพื้น มิโคโตะก็เข้ามาประชิดตัวและหวีผมให้ผมอย่างชำนาญ

    ถ้าเช่นนั้น องค์หญิง พวกเราไปกันเถอะขอรับ

    พูดเช่นนั้นแล้ว เท็นไกก็นำพวกเราออกจากห้อง ขณะที่มิโคโตะก้าวตามมาข้างหลังผม เหมือนผมเป็นไส้แซนวิสคั่นกลางระหว่างทั้งสองคน แม้ว่าจะดูสงบนิ่งแต่ข้างในตัวผมนี่สั่นระริกๆ อา รู้สึกเหมือนหมูไม่ก็วัวที่กำลังจะไปโรงฆ่าสัตว์อย่างในเพลง dona dona เลย ผมหลับหูหลับตาเดินไปตามทางเดินกว้าง

    (TL: Dona dona เป็นเพลงญี่ปุ่นที่เกี่ยวกับสัตว์ที่กำลังจะถูกนำไปเชือด)

     

    Prologue 3

    ซ่า ซ่า ซ่า –น้ำร้อนไหลทะลักจากปากของรูปปั้นสิงโตทั้งสี่มุม

    กลายเป็นแบบนี้ได้ยังไง…?

    ท่ามกลางม่านหมอกของไอน้ำ นั่งลงที่ขอบหินอ่อนของอ่าง แช่ก้นลงไปในน้ำร้อน (Hot sitz bath) จนเหมือนทางหิมะขาวบริสุทธิ์.... เหมือนกับ ยูกิ (หิมะ) จากชื่อของผม ฮิยูกิ (หิมะสีเลือด) –มันยากมากเลยนะกว่าจะได้ผิวแบบนี้ตอนที่สร้างตัวละครนะ- ในขณะที่ทอดสายตาไปตามร่างผอมบางของตัวเอง ผมก็อดนึกย้อนถามตัวเองเป็นครั้งที่ไม่รู้เท่าไรตั้งแต่ตื่นขึ้นมา

     

    ย้อนไปตอนที่ผมคิดว่ากำลังตรงไปที่ท้องพระโรง แต่กลายเป็นว่าถูกพามาที่ห้องอาบน้ำแทน

    ตอนแรกผมก็ไม่สามารถเข้าใจได้ ทั้งความกว้าง ความยาวและรายละเอียดการตกแต่งล้วยแตกต่างอย่างมากเมื่อเทียบกับในเกม ถึงจะมีความคล้ายคลึงอยู่บางในเรื่องดีไซน์ อย่างไรก็ตามผมที่เคยคิดว่าขนาดของที่นี่มีขนาดอย่างมากที่สุดคือเท่าโรงเรียนแต่ดูเหมือนผมจะคิดผิด ขนาดและความสวยงามของที่นี่ถึงขนาดทำให้ พระราชวังแวร์ซายด์ดูเหมือนบ้านสุนัขและใส่เข้ามาในนี้ได้ถึง 23 แห่ง

    (TL: ประมาณว่า หรูมากจนที่ว่าหรูแล้วดูด้อยไปเลย และใหญ่ขนาดที่ว่าเอาพระราชวังแวร์ซายด์มาใส่ได้ 23 แห่ง)

    ดังนั้น เมื่อผมถูกพามาที่นี้ จึงไม่สามารถบอกได้ว่าคือท้องพระโรงหรือห้องอาบน้ำ ตอนที่ผมยืนสตัน มิโคโตะก็พุ่งเข้ามาปลดชุดผมออกในชั่วพริบตา –ทั้งส่วนบนและส่วนล่างถูกถอดออกอย่าง่ายดาย ไม่เหมือนกับในเกม- และพาผมมาที่อ่าง

    หลังจากนั้นเธอก็พูดว่า “เนื่องจากท่านหลับใหลมานานน องค์หญิงจึงควรชำระร่างกายและผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้า” –ยังก็ตาม คุณควรบอกก่อนหน้านี้เซ่! คุณไม่รู้หรือไงว่ามันลำบากใจแค่ไหนนะ! นั่นเป็นสิ่งที่ผมละ อยากตะโกนออกไปจริงๆ แต่กลัวจะไปกระตุกอะไรเธอเข้า เลยไม่พูดดีกว่า

    -นั่นสินะ อาบน้ำหลังจากไม่ได้ทำมานานก็ดี

    เพื่อปกปิดความกลัว ผมก้าวตรงไปที่อ่าง –อา ถึงแม้จะพูดแบบนั้น หอหินอ่อนนี้ก็ทำให้ผมอดคิดไม่ได้จริงๆว่า นี้มันโบสถ์หรือไง?- - ก้าวไปอีกก้าว... อา ผมพยายามแล้วนะ แต่มันสุดจะทนแล้ว ผมจึงหันหลังกลับไปถาม

    “…แล้วนายตามมาด้วยทำไม?!”

    คนในคำถาม –หรือให้เจาะจงกว่านั้นคือเท็นไก ก็ทำสีหน้าเอ๋อๆ แม้ว่าจะอยู่ในสภาพเปลื่อยเปล่าก็ไม่ได้มีท่าทีแสดงความเขินอายสักนิด แล้วตอบมาอย่างซื่อๆ

    แน่นอน ต้องมาอาบน้ำให้ท่านไม่ใช่หรือ องค์หญิง?”

    “……”

    อา...ผมว่าผมเข้าใจแล้วละ เสียงกรอบแกรบตอนที่มิโคโตะถอดชุดให้ผมแล้วเขาก็มายืนตัวเปล่าข้างๆมิโคโตะ อีกทั้งยังตามเข้ามาหลังจากที่ผมเดินมานี่

    แต่มันไม่ใช่เรื่องปกติซะหน่อยนี่?! ก็ยังพอเข้าใจได้ละนะถ้าเมดอย่างมิโคโตะจะเข้ามาช่วยเด็กผู้หญิงอาบน้ำ (ผมหมายถึงฮิยูกินะ!) แต่อะไรคือการให้ผู้ชายวัยกำหนัดเข้ามาช่วยเด็กผู้หญิงอาบน้ำกันละนั่น?!

    ถึงผมไม่ใช่อักเนส-ซัง ผมก็มั่นใจว่าเธอต้องพูดคำว่า พอแค่นั้นละ แน่ๆ!

    “…ไม่ เราไม่ต้องหารนาย หมายถึง..มันน่าอาย!”

    หลังจากที่ผมแสดงท่าทางไปแบบนั้น เท็นไกก็ระเบิดหัวเราะออกมาเสียงดัง

    ฮะฮะฮ่า ช้าไปไหมขอรับ? ไม่ใช่ว่ากระผมอาบน้ำกับองค์หญิงเป็นปกติอยู่แล้วหรือขอรับ?”

    นั่นมันในร่างมังกร! อีกอย่างการอาบน้ำร้อน 1 นาทียังให้โบนัสเพิ่มเลือดอัตโนมัติ 3% กับโบนัสความต้านทานธาตุทุกธาตุ 15% เป็นเวลา 30 นาทีต่างหาก ผมถึงได้เอาสัตว์เลี้ยงมาอาบก่อนจะไปสู้นะ!!

    ผมอยากจะกระทืบเท้าแรงๆเสียจริง แต่มันก็ไม่ได้สำคัญอะไร~.

    อีกอย่าง ถ้าผมทำไปแบบนั้นอาจจะเป็นการเปลี่ยนท่าทางนอบน้อมนั่นได้ แล้วถ้าเขาโกรธผมคงตายแน่

    ช่างเถอะขอรับ ยืนตากลมในห้องแต่งตัวนานๆจะทำให้ตัวเย็นได้ เชิญไปที่ห้องอาบน้ำเถอะขอรับ

    ขณะที่กำลังคิดว่าควรทำอย่างไรต่อไปดี ไหล่ของผมก็ถูกเท็นไกผลักเบาๆ อุหว่า ตอนที่ผิวแตะกัน ทั้งร่างของผมก็ชาวูบ..แข้งขาก็อ่อนแรงไปหมด ดังนั้นผมเลยถูกพามาหน้าอ่าง

    ถ้าเช่นนั้น ขออนุญาตนะขอรับ-

    ในที่สุดผมก็นั่งลงที่ขั้นบันไดของอ่าง และอีกหนึ่งหน่อที่เปลื่อยกายอยู่ก็คุกเข่าอยู่ในน้ำร้อน ผมพยายามเลี่ยงสายตาออกไปเท่าที่จะทำได้..ขนาดนั้นมันอะไรกัน ขวดเบียร์หรือไง? ไม่ช้าเขาก็ถูมันด้วยมือทั้งสองข้าง แล้วมันก็ฟูขึ้น ….อา สบู่นี่เอง

    เพราะใช้ผ้าถูสบู่อาจระคายเคืองผิวได้ ถูด้วยฝ่ามือจึงดีที่สุด~…

    ผมคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยอย่างพยายามหนีความจริง ตอนนั้นเองมือของเขาก็สัมผัสตัวผม

    อ๊าย…!!”

    ถึงแม้ว่าจะเผลอร้องออกไปด้วยน้ำเสียงน่ารัก เท็นไกก็เพียงถามขึ้นอย่างใสซื่อว่า “ระคายผิวหรือขอรับ องค์หญิง” พร้อมสีหน้าเฉยชา

    สัมพัสตั้งแต่ปลายผมจรดน้ำเท้า ตั้งแต่ส่วนบนยันส่วนล่างที่ผมยังไม่ทันได้สำรวจดูด้วยซ้ำ รู้สึกราวกับเหยื่อคดีข่มขืนเลยจริงๆ โดยไม่รู้ตัวผมก็เผลอปล่อยโฮออกมาในห้องน้ำ

    หลังจากที่ผมออกมาจากห้องน้ำอย่างมึนๆ มิโคโตะก็ยืนคอยอยู่แล้ว ในมือของเธอเป็นชุดเดรสที่ดีไซน์เหมือนตัวที่เคยใส่ แต่ดูจะใหญ่กว้าง เธอสวมมันให้ผม ในที่สุดพวกเราก็มุ่งหน้าไปยังโถงพระโรง

    End of prologue

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×