e_kwan
ดู Blog ทั้งหมด

การเข้าค่ายคุณธรรม จริยธรรม [ตอนที่ 2]

เขียนโดย e_kwan
         ถึงตอนสำคัญพวกเราทั้งหมดก็ขึ้นมาบนห้องประชุมและนั่งฟังเพลงบางระจัน ทีแรกที่พวกเราฟังก็ไม่รู้สึกอะไรกันหรอก  ในใจเองยังคิดว่ามาเปิดอะไรให้ฟังเนี่ย ไม่เข้าใจความคิดของพระวิทยากรเลยจริงๆ 

         พอฟังจบก็ต่อด้วยเพลงศรัทธา เอ๊ะ! ชักจะได้กลิ่นลางไม่ดีแล้วล่ะสิ  ยังไม่ทันตั้งตัวอะไรซักอย่างพระวิทยากรก็บอกให้ลุกขึ้น และบอกว่าใครที่อ้วน ขาเจ็บ สุขภาพไม่แข็งแรงให้อยู่ด้านนอกคอยช่วยเหลือเพื่อนๆ ที่ทำกิจกรรม  และพวกเราก็เริ่มนั่งลงบนขาของเพื่อน   นั่งไปซักพักพระวิทยากรก็บอกว่าจับเวลา 15 นาที

         พวกเราก็อุตส่าห์นั่งได้ 12 นาที เพื่อนๆ ที่อยู่ด้านนอกแทนที่มันจะมาช่วยเหลือคนที่ทำกิจกรรมอยู่เล้ย พวกที่ทำกิจกรรมอยู่ก็ต่างทำหน้าบอกบุญไม่รับเพราะมันทั้งเกร็ง ชาไปหมดทั้งขาเลยล่ะ

         พออยู่ได้อีกประมาณ 1 นาที พระวิทยากรก็บอกให้พอและกลับไปนั่งเป็นแถวเหมือนเดิม  และบอกเป็นเชิงว่าพวกเราทำกิจกรรมแพ้ และก็พูดให้พวกเราสำนึก  แต่พวกเราไม่เข้าใจว่าพระวิทยากรต้องการจะสื่ออะไรพวกเราก็ยังคงเฮฮากันได้อยู่อย่างนั้นจนพระวิทยากรต้องเรียกครูพี่เลี้ยงเข้ามาและบอกให้ไหว้นักเรียน

         ครูก็เดินไหว้ (ตอนนั้นพระวิทยากรได้ยึดธงประจำโรงเรียนไปและเขียนติดธงนั้นว่า "คนขี้แพ้ ม.2 ปี 2552" และ "คนไร้ศักดิ์ศรี ม.2 ปี 2552") นักเรียนแต่ไม่ถึงกับกราบ  นักเรียนบางคนถึงกับร้องไห้กันใหญ่

          พอเดินไหว้จนทั่วแล้วพระวิทยากรก็สั่งให้ครูคุกเข่าและยกมือไหว้นักเรียนเพื่อเป็นการกู้ศักดิ์ศรีของนักเรียน  ซึ่งครูทั้งหมด 7 คนก็ทำดังที่พระวิทยากรว่า  พวกเราทั้งหมดก็เลยนั่งคุกเข่ายกมือไหว้ตอบครูทั้ง 7 ทั้งน้ำตา  ในที่นั่นเต็มไปด้วยเสียงสะอึกสะอื้นของนักเรียนประมาณ 200 กว่าคน

         จนในที่สุดทุกคนก็เดินไปเข้าแถวกราบที่ตักของครูทุกคนพร้อมน้ำตา พอกราบเสร็จแล้วพระวิทยากรก็บอกว่าถ้าอยากได้ธงคืนก็ต้องทำกิจกรรมโดยส่งตัวแทนมาหนึ่งคน  ปิดตาเดินไปเอาธงแข่งกับเณร  ถ้าได้ธงไปแล้วก็ถือว่าผ่านการเข้าค่ายในครั้งนี้  แต่ถ้าไม่ได้ก็จะเอาธงผืนนี้ไปประจานที่โรงเรียนที่พระวิทยากรจะไปอบรมต่อไป

         ทีแรกคนที่เข้าแข่งขันก็เดินๆ ไปแต่ถูกสั่งให้หยุด เขาก็หยุด และปล่อยให้เณรเดินนำมาไกลเขาจึงเดินตรงมา  ทุกคนต่างก็เชียร์คนนั้นกันอย่างสุดฤทธิ์ในใจก็หวังว่าเขาจะสามารถทำให้ทุกคนสมปรารถนาได้  ทางด้านเณรรูปนั้นจากที่เคยนำมาและทำท่าว่าจะชนะกลับเดินเลี้ยวมาทางนักเรียนหญิงทำให้นักเรียนหญิงต่างพากันกรี๊ดเสียงดังและบอกให้เณรเดินหนีไป  แต่ยิ่งบอกก็ยิ่งเดินเข้ามากลางวง  โดยที่ไม่รู้เลยว่านักเรียนชายคนนั้นได้ธงไปแล้ว

         ตอนนั้นพวกเราทั้งหมดต่างก็พากันตะโกนสุดเสียงอย่างดีใจ  เราถึงกับกระโดดกอดกันพร้อมทั้งน้ำตาที่ไหลมาอีกครั้ง  พอหันไปมองทางเณรว่าเป็นยังไงบ้างเมื่อเปิดผ้าปิดตาออกแล้ว  ปรากฏว่าเณรถึงกับอึ้งและเดินตุปัดตุเป๋กลับไปหาพระวิทยากร

         บรรยากาศในวันนั้นเป็นเรื่องที่พวกเราทั้งชั้น ม.2 ต่างก็จดจำไว้ในความทรงจำดีๆ แม้ว่าในวันนั้นจะมีการเสียน้ำตากันไปบ้าง  แต่มันก็ยังเป็นความทรงจำที่งดงามและน่าจดจำซะยิ่งกว่าการเข้าค่ายอบรมครั้งไหนๆ เลย

ความคิดเห็น

ยังไม่มีความคิดเห็น