ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fan Fic B.A.P เราแต่งงานกันแล้ว

    ลำดับตอนที่ #2 : ครั้งแรก

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 892
      3
      20 เม.ย. 56

    เราแต่งงานกันแล้ว

    ครั้งแรก
     
     
     
              เช้าวันศุกร์เวลาแปดโมงสี่สิบ ยู ยองแจ เด็กหนุ่มวัยสิบแปดปีนั่งตัวเกร็งอยู่ในร้านเสริมสวยชื่อดังแห่งหนึ่งกลางกรุงโซล ใบหน้าที่ไม่เคยได้สัมผัสเครื่องสำอางกำลังถูกพี่สาวช่างแต่งหน้ามืออาชีพประทินโฉมและแต่งแต้มสีสันอย่างชำนาญ เขาที่ไม่เคยแต่งหน้ามาก่อนก็ได้แต่นั่งเกร็งและทำทุกอย่างตามที่พี่ช่างบอก ไม่ว่าจะก้มหน้า เงยหน้า หลับตา ลืมตา เหลือกตามองข้างบน หลบตามองข้างล่าง ฯลฯ นอกจากนี้ยังต้องคอยตอบคำถามของพี่ช่างที่คอยชวนคุยถามเรื่องต่าง ๆ เกี่ยวกับตัวเขา... ไม่สิ เกี่ยวกับพี่สาวเขาต่างหาก
     
              “น้องยองแออายุเท่าไรคะเนี่ย”
     
              “เอ่อ... ยี่สิบสี่...ค่ะ” ยองแจพยายามพูดสียงเบา ๆ เพราะเขายังไม่ชินกับการพูดจาแบบผู้หญิง
     
              “จริงเหรอคะ หน้ายังเหมือนเด็กมัธยมอยู่เลยนะคะเนี่ย แล้วทำงานอะไรอยู่เหรอคะ”
     
              “ทำร้านเบเกอรี่...ค่ะ”
     
              “อุ้ย งั้นก็ทำขนมเก่งสิคะ”
     
              “ไม่ขนาดนั้นหรอก...ค่ะ” ที่จริงพี่สาวของเขาทำขนมเก่งมาก แต่เขาต้องพูดถ่อมตัวแทนพี่สาวไว้ก่อน
     
              “ว่าแต่น้องยองแอนี่ผิวดีจริง ๆ นะคะ ใช้ครีมบำรุงอะไรคะเนี่ย”
     
              “ไม่ได้ใช้อะไรหรอก... ค่ะ” 
     
              “ขนาดไม่ได้ใช้ยังผิวดีขนาดนี้ ทำขนมก็เก่ง แถมยังจะได้ไปเดทกับไอดอลหนุ่ม ๆ ด้วย พี่ชักอิจฉาน้องขึ้นมาแล้วสิ”
     
              พี่สาวช่างแต่งหน้าพูดทีเล่นทีจริง ยองแจก็ได้แต่ยิ้มแห้ง ๆ ในใจก็คิดว่าหากเปลี่ยนจากไอดอลหนุ่ม ๆ เป็นไอดอลสาว ๆ ได้ก็ดีสิ
     
     
              หลังจากนั่งเกร็งอยู่เกือบชั่วโมง พี่สาวช่างแต่หน้าก็เอ่ยคำที่ยองแจเฝ้ารอมานาน “เสร็จแล้วค่ะ”
     
              ยองแจลุกจากเก้าอี้ช้า ๆ ด้วยความเมื่อย ก่อนจะเงยหน้ามองสำรวจตัวเองในกระจก
     
              ยองแจแทบจะไม่เชื่อสายตาตัวเอง ใบหน้าที่แต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางสีอ่อน ทำให้ใบหน้าของเขาดูหวาน ผมสีน้ำตาลเข้มที่ปกติเขาจะมัดรวบไว้ตรงท้ายทอย ตอนนี้ถูกปล่อยยาวระต้นคอ และจัดแต่งจนเป็นทรงอย่างดี หน้าม้าที่มักปล่อยให้ปรกหน้าถูกปาดไปด้านข้างและติดกิ๊บรูปหมีสีน้ำตาล แว่นตาที่ใส่ประจำก็เปลี่ยนเป็นคอนแท็คเลนส์ เขาจ้องเงาในกระจกด้วยความรู้สึกประหลาด เหมือนเห็นยองแอพี่สาวของเขาในวัยสิบแปดจ้องตอบกลับมา
     
              เขาดูคล้ายพี่สาวมากจริง ๆ ยิ่งสวมชุดของพี่สาวแล้วด้วย
     
              ร่างผอมบางสวมเสื้อสเว็ทเตอร์แขนยาวสีครีมตัวหลวมเพื่อพรางช่วงหน้าอกที่นูนออกมาเพราะทิชชู่ สเว็ทเตอร์ตัวยาวยังช่วยบังกางเกงยีนส์เอวต่ำเข้ารูปแบบผู้หญิงที่เขาจำเป็นต้องสวม เพราะถ้าไม่สวมกางเกงแบบนี้ เขาก็ต้องใส่กระโปรง ซึ่งเขาไม่ยอมใส่เด็ดขาดไม่ว่าจะยังไงก็ตาม
     
              พี่สาวช่างแต่งหน้าชมยองแจไม่ขาดปากว่าน่ารักมากขณะที่เดินมาส่งเขาขึ้นรถของทีมงานเพื่อไปยังสถานที่ถ่ายทำ
     
              ระหว่างที่รถแล่นไปยังสถานที่ถ่ายทำ ทีมงานก็อธิบายอย่างคร่าว ๆ ว่า สถานที่ถ่ายทำเทปแรกคือสวนสนุก จะเริ่มถ่ายทำตั้งแต่เขาก้าวลงจากรถ ให้เขาทำตัวเป็นธรรมชาติไม่ต้องเกร็ง ทำเหมือนไม่มีกล้องอยู่ตรงนั้น เดินไปตามทางที่ทีมงานบอกจนถึงจุดที่มีทีมงานถือป้ายสัญลักษณ์ของรายการรออยู่ ทีมงานจะส่งการ์ดภารกิจที่ต้องทำให้ และให้เขาอ่านออกเสียง หากเขาสงสัยอะไรก็ถามได้เลย เพราะรายการครั้งนี้จะไม่มีบทใด ๆ นอกจากซองภารกิจที่ทีมงานให้เท่านั้น
     
              “เหตุการณ์จริงนี่แหละน่าดูที่สุด น่าสนุกเนอะ” ทีมงานหญิงคนหนึ่งของรายการพูดอย่างตื่นเต้น
     
              ยองแจได้แต่นึกในใจว่าพี่เป็นคนดู พี่ก็สนุกได้น่ะสิ ลองมาตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกันกับเขาดูสิ พี่จะยังสนุกได้อีกไหม
     
              “ว่าแต่ว่า ผะ... เอ่อ... ยองแอต้องถ่ายรายการกับใคร... คะ” ยองแจพยายามเลียบเคียงถามถึงคู่แต่งงานของเขา... เอ้ย! ของพี่สาวเขาต่างหาก
     
              “ความลับค่ะ! บอกไม่ได้หรอก ....เป็นไอดอลหนุ่มหล่อจากปูซานค่ะ! พี่บอกได้แค่นี้แหละ” ทีมงานสาวยิ้มกว้างและมีแววล้อเลียนเขาอยู่ในที ยองแจได้แต่ยิ้มแห้ง ๆ ให้เธอ
     
              เขาไม่ได้อยากรู้อะไรขนาดนั้นหรอก แค่อยากรู้เพื่อจะได้เตรียมตัวไว้ว่าต้องรับมือคนประเภทไหนเท่านั้นแหละ
     
              แต่เป็นคนปูซานเหรอ... จะเป็นคนแบบไหนกันนะ...
     
     
     
              ในร้านเสริมสวยอีกแห่งหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลจากร้านที่ยองแจไป เด็กหนุ่มผิวเข้มยืนหมุนตัวอยู่หน้ากระจกบานยาว ผมสั้นสีน้ำตาลอ่อนถูกจัดแต่งอย่างดี ใบหน้าถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางบาง ๆ เน้นให้ใบหน้าหล่อเหลาดูคมยิ่งขึ้น ร่างกำยำสวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาว ปลดกระดุมที่คอสองเม็ด กางเกงขายาวสีดำรัดด้วยเข็มขัดหนัง เมื่อสวมเสื้อโค้ตสีดำตัวยาวทับอีกชั้น ยิ่งทำให้เขาดูเนี้ยบมากกว่าทุกวัน
     
              “หล่อแล้วพี่แดฮยอน เลิกหมุนได้แล้ว”
     
              เสียงแซวจากจงออบ เด็กหนุ่มผิวขาวตาตี่ที่นั่งมองเขาอยู่ที่โซฟา ตาตี่ ๆ ยิ่งดูเล็กลงไปอีกเมื่อเขาส่งยิ้มกว้างอย่างล้อเลียนไปให้เพื่อนร่วมวงที่ยังคงมองตัวเองในกระจกอย่างไม่ค่อยมั่นใจ
     
              แดฮยอนกับจงออบเป็นนักร้องดูโอ้ที่กำลังมาแรง พวกเขาเปิดตัวภายใต้ชื่อวง แบ็บบิท (Babbit) มีกลุ่มแฟนเพลงที่เรียกว่า จัมพ์เปอร์ (Jumper) นับแสนคนจากทั่วโลกโดยนับจากจำนวนสมาชิกในแฟนคาเฟ่ ซึ่งเป็นเว็บบอร์ดอย่างเป็นทางการของวงแบ็บบิท จำนวนแฟนเพลงของพวกเขาถือว่าเยอะมากสำหรับวงดูโอ้ที่เพิ่งจะเปิดตัวได้เพียงปีเดียว แบ็บบิทจึงเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ที่สื่อจับตามอง
     
              เมื่อรายการ เราแต่งงานกันแล้ว ออกปากเชิญให้แดฮยอนไปร่วมรายการ แดฮยอนแทบจะตกปากรับคำในทันที เพราะรายการนี้จะเชิญเฉพาะดาราไอดอลที่มีชื่อเสียงพอสมควร เหมือนเป็นการยืนยันว่าวงแบ็บบิทเป็นที่ยอมรับว่ามีชื่อเสียงในวงการบันเทิง
     
              หลังจากทางบริษัทต้นสังกัดของเขาและทางรายการตกลงเรื่องต่าง ๆ และจัดการเรื่องตารางเวลาถ่ายทำได้ลงตัวแล้ว แดฮยอนก็ได้ไปออกรายการสมใจ
     
              ที่จริงแล้วแดฮยอนก็นึกสนุกด้วย ได้ไปเที่ยวกับสาวนอกวงการบันเทิง น่าสนุกดีออก
     
              เขาแทบจะอดใจรอไม่ไหวว่าผู้หญิงคนที่จะมาเป็นภรรยาของเขาจะเป็นคนอย่างไร การที่เธอผ่านการคัดเลือกจากคนนับพันมาได้ เธอต้องไม่ธรรมดาแน่นอน
     
              “แดฮยอน ใกล้เวลานัดแล้วนะ ไปกันเถอะ”
     
              พี่ฮิมชาน ผู้จัดการส่วนตัวของวงแบ็บบิทเข้ามาตามเขาไปขึ้นรถของทีมงาน จงออบเดินมาส่งแดฮยอนกับพี่ฮิมชานขึ้นรถ น้องชายตาตี่บีบไหล่เขาเบา ๆ เป็นเชิงให้กำลังใจ ก่อนจะช่วยพี่ฮิมชานปิดประตูรถตู้ วันนี้จงออบมีถ่ายทำรายการอีกรายการหนึ่ง จึงต้องไปกับพี่คัง ผู้จัดการอีกคน ทำให้ไปส่งแดฮยอนไม่ได้ รายการที่จงออบถ่ายรู้สึกจะเกี่ยวกับการแข่งเต้น จงออบคงถ่ายรายการอย่างสนุกสนานแน่
     
              แดฮยอนก็หวังว่าตัวเขาเองจะถ่ายรายการได้อย่างสนุกสนานเหมือนกัน
     
              ทีมงานอธิบายเรื่องการถ่ายทำให้แดฮยอนฟังคร่าว ๆ และบอกให้เขาทำตัวตามสบาย เพราะรายการนี้จะไม่มีบทใด ๆ นอกจากการ์ดภารกิจให้เขาทำตามเท่านั้น
     
              “คิดซะว่าเป็นการดูตัวสิ” พี่ฮิมชานแนะนำเขา
     
              “แต่ผมไม่เคยไปดูตัวนี่พี่”
     
              แน่ล่ะ จอง แดฮยอน เพิ่งลืมตาดูโลกมาได้เพียงสิบเก้าปี จะไปมีประสบการณ์ดูตัวได้ยังไง และอันที่จริงแดฮยอนตั้งใจไว้ว่า เขาจะไปดูตัวก็ต่อเมื่อเขาถึงวัยที่ควรจะแต่งงานได้แล้วนั่นแหละ
     
              “งั้นคิดซะว่าไปเที่ยวกับเพื่อนใหม่แล้วกัน”
     
              “ผมไม่ค่อยมีเพื่อนผู้หญิงด้วยดิ”
     
              “งั้นไปเที่ยวกับแฟนที่เพิ่งคบกันล่ะ อย่าบอกนะว่าไม่เคยมีแฟนเป็นผู้หญิง”
     
              “เฮ้ย! มีสิพี่ แฟนผมเป็นสาวสวยทุกคนด้วย”
     
              แดฮยอนรีบบอกหน้าตาจริงจัง ทำเอาฮิมชานหลุดหัวเราะออกมายกใหญ่ ทีมงานที่นั่งอยู่ในรถอีกสามสี่คนก็แอบหัวเราะเบา ๆ เพราะกลั้นไม่อยู่ แดฮยอนเห็นแบบนั้นก็ยิ้มออกมาอย่างอารมณ์ดี เขาชอบเวลาที่ผู้คนหัวเราะ ยิ่งรู้สึกดีเมื่อเสียงหัวเราะนั้นมีที่มาจากตัวเขาเอง
     
              หวังว่าวันนี้เขาจะได้ยินเสียงหัวเราะจากภรรยาของเขาบ้างนะ
     
     
              ในที่สุดแดฮยอนก็มาถึงสถานที่ถ่ายทำ หลังจากที่กล้องพร้อม เด็กหนุ่มก็เดินลงจากรถและกล่าวทักทายกับกล้อง เขาเดินตามทีมงานจนไปถึงหน้าห้องแต่งตัวของสวนสนุก และรับการ์ดภารกิจมาอ่าน
     
              “ขอแสดงความยินดีกับคุณแดฮยอน ตอนนี้คุณแต่งงานแล้ว ขอบคุณครับ” แดฮยอนโค้งคำนับก่อนจะส่งยิ้มกว้างแล้วอ่านต่อ “ภารกิจแรกคือ ตามหาภรรยาของคุณในสวนสนุกแห่งนี้ โดยคุณจะต้องสวมชุดที่ทีมงานเตรียมไว้ให้ และหากคิดว่าบุคคลใดน่าจะเป็นภรรยาของคุณ ให้คุณชูกระดาษที่มีข้อความว่า ‘คุณจะแต่งงานกับผมไหมครับ’ ให้เธอดู หากเธอเป็นภรรยาของคุณ เธอจะชูกระดาษคำตอบกลับมา ปล. สังเกตดูดี ๆ จะมีสิ่งบอกใบ้ถึงภรรยาของคุณอยู่ตามทาง คำใบ้อะไรนะ น่าสนุกนะครับ แล้วชุดที่ผมต้องใส่อยู่ไหนครับ”
     
              ทีมงานชี้ให้เขาเดินเข้าไปในห้องแต่งตัว และบอกว่าชุดอยู่บนโต๊ะ แดฮยอนทำตามที่ทีมงานบอก เมื่อเขาได้เห็นชุดที่วางอยู่บนโต๊ะเขาก็หลุดหัวเราะออกมาทันที
     
              รายการนี้น่าสนุกจริง ๆ นะ
     
     
     
              อีกด้านหนึ่งของสวนสนุก ยู ยองแจ หนุ่มน้อยวัยสิบแปดปีเพิ่งได้ประสบการณ์ ‘ครั้งแรก’ ของอะไรหลาย ๆ อย่างภายในวันเดียว แต่งตัวเป็นผู้หญิงครั้งแรก แต่งหน้าครั้งแรก ถ่ายรายการโทรทัศน์ครั้งแรก กำลังจะมีเดทกับผู้ชายครั้งแรก แถมยังเป็นเดทแรกของเขาเสียด้วย... และ.... เพิ่งเคยใส่ชุดแบบนี้เป็นครั้งแรก
     
              ยองแจมองเงาสะท้อนจากกระจกหน้าต่างของร้านขายของที่ระลึกในสวนสนุก เขาเห็นตัวเองอยู่ในชุดตุ๊กตาเพนกวินตัวเมียจ้องตอบกลับมา ที่เขาว่ามันเป็นเพนกวินตัวเมียเพราะอย่างแรกเลยคือ มันมีสีชมพู อย่างที่สองคือ มีโบสีริบบิ้นสีขาวสองเส้นประดับไว้บนหัวด้านซ้ายและขวาเส้นละข้าง ดูยังไงก็เป็นเพนกวินตัวเมียแน่ ๆ
     
              ในมือของเขากำเชือกของลูกโป่งสวรรค์รูปหัวใจสีลูกกวาดหลายสิบใบ ซึ่งทีมงานบอกว่าเป็นคำใบ้ให้คู่แต่งงานของเขา... ไม่สิ ของพี่สาวเขา โดยยองแจจะต้องแจกลูกโป่งให้ผู้หญิงที่เดินผ่านเขาไป เป็นการบอกใบ้ให้คู่แต่งงานหาเขาซึ่งเป็นคนแจกลูกโป่งให้เจอ ในมืออีกข้างของยองแจมีกระดาษข้อความที่เขาจะต้องชูให้คู่แต่งงานดู หลังจากที่คนคนนั้นแสดงกระดาษที่มีข้อความเขียนว่า คุณจะแต่งงานกับผมไหมครับ
     
              ซึ่งหลังจากที่เขาอ่านข้อความในกระดาษที่เขาจะต้องชูเป็นคำตอบแล้ว เขาแทบจะฉีกทิ้งเลยทีเดียว
     
              แต่ทำไม่ได้เพราะมันเป็นงานของพี่สาว เขาจะทำเสียเรื่องไม่ได้
     
              หลังจากยองแจยืนอยู่ตรงนั้นได้ไม่นาน เด็ก ๆ ที่ถูกดึงดูดด้วยชุดตุ๊กตาเพนกวินสีชมพูที่เขาสวมอยู่กับลูกโป่งหลากสีในมือของเขาก็เข้ามารุมล้อมเขา สร้างความแปลกใจให้ยองแจผู้ซึ่งไม่เคยมีเด็ก ๆ เข้ามาหาเลย ไม่ใช่ว่าเขาไม่ชอบเด็ก ๆ แต่เด็ก ๆ มักจะกลัวเขาจนไม่กล้าเข้าใกล้ นี่เป็นครั้งแรกที่มีเด็ก ๆ เข้ามาหาเขาเอง
     
              ชุดเพนกวินนี่ก็มีประโยชน์ดีเหมือนกันนะ
     
              “ขอแจกลูกโป่งให้เด็ก ๆ ได้ไหม... คะ” ยองแจเอ่ยถามทีมงาน ซึ่งทุกคนพยักหน้าให้
     
              “แต่อย่าแจกไปหมดนะคะ เดี๋ยวสามีจะหาตัวคุณไม่เจอนะ” ทีมงานสาวคนหนึ่งบอกเขา
     
              “คะ... ค่ะ”
     
              ยองแจตอบรับแบบกระอักกระอ่วน ในใจก็คิดต่อว่าตัวเอง
     
              ก็แค่สามีปลอม ๆ จะเขินทำไมนะ ยู ยองแจ
     
     
     
              แดฮยอนมองตัวเองผ่านกระจกเงาบานใหญ่ในห้องแต่งตัวของสวนสนุก ตอนนี้เขาอยู่ในชุดตุ๊กตาแมวดำหน้ายิ้มแย้มสวมปลอกคอสีแดง แดฮยอนหมุนตัวเพื่อดูหางด้านหลัง ก่อนจะหันมาทำท่าแมวข่วนใส่กล้อง ทีมงานคนหนึ่งขอให้เขาทำท่าน่ารัก ๆ เขาจึงยกอุ้งมือทั้งสองข้างมาทาบที่แก้มตัวเอง ทำท่าดอกไม้บาน ก่อนจะยกมือปิดหน้าแมวอย่างเขิน ๆ แล้วทำท่าแมวข่วนใส่กล้องอีกครั้ง เรียกเสียงหัวเราะทุกคนได้อย่างดี
     
              “ไปตามหาภรรยาของผมกันเถอะครับ เดี๋ยวเธอจะรอนาน Let’s go!” แดฮยอนพูดกับกล้องพร้อมโชว์กระดาษสีชมพูดที่เขียนว่า คุณจะแต่งงานกับผมไหมครับ ให้กล้องดู ก่อนจะม้วนถือไว้ในมือข้างหนึ่ง แล้วเดินออกไปเพื่อตามหาคู่แต่งงานของเขา
     
              เด็กหนุ่มในชุดตุ๊กตาแมวพยายามมองหากล้องอีกตัวของรายการ เพราะคิดว่าหากหาตากล้องอีกคนเจอ ภรรยาของเขาต้องอยู่ใกล้ ๆ กันแน่ จึงไม่น่าจะหายาก ระหว่างที่เขากำลังเดินหา เขาพบเด็ก ๆ ถือลูกโป่งรูปหัวใจหลายคน เด็ก ๆ หยุดยืนจ้องมองเขาอย่างสนใจ แดฮยอนจึงหยุดเดิน แล้วทำท่าน่ารัก ๆ กับท่าตลก ๆ ให้เด็ก ๆ ดู พร้อมส่งเสียงประกอบ เมี๊ยว  ๆ เงี๊ยว ๆ แบบแมว เด็ก ๆ หัวเราะชอบใจยกใหญ่
     
              ไม่ถึงนาทีก็มีทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่มายืนมุงดูเขาทำท่าแบบแมว ๆ ผู้คนยิ้มแย้มและหัวเราะกับท่าทางที่เขาทำให้ดู แดฮยอนรู้สึกดีมากที่มีคนสนุกสนานเพราะเขา และนึกขอบคุณรายการที่ทำให้เขาได้มีช่วงเวลาที่สนุกสนานแบบนี้
     
              แดฮยอนปิดท้ายการแสดงด้วยการส่ายสะโพกสะบัดหาง ก่อนจะโค้งคำนับให้กับผู้ชม และโบกมือบ๊ายบายให้เด็ก ๆ ได้เวลาตามหาภรรยาของเขาต่อแล้ว
     
              เด็กหนุ่มเดินไปตามทางเรื่อย ๆ พลางมองหากล้องและคำใบ้ แต่ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็หาไม่เจอสักที เขาจึงคิดใช้ลูกอ้อนกับทีมงาน
     
              “ผมหาคำใบ้ไม่เจอเลย ช่วยบอกผมทีว่าคำใบ้เป็นแบบไหน... ช่วยผมหน่อยนะครับ”
     
              ทีมงานเพียงแต่ยิ้มให้ แดฮยอนจึงประสานมือเป็นเชิงขอร้อง “ช่วยผมหน่อยนะ ไม่งั้นผมคงหาเธอไม่เจอแน่เลย”
     
              ตอนนั้นเองมีผู้หญิงคนหนึ่งถือลูกโป่งรูปหัวใจเดินผ่านไป ทีมงานจึงบอกว่า “สังเกตดูดี ๆ สิ คำบอกใบ้อยู่ใกล้ ๆ นายนี่เอง”
     
              แดฮยอนจึงหันรีหันขวางมองไปรอบ ๆ “ไหนครับ”
     
              “วันนี้นายเห็นตั้งหลายครั้งแล้ว”
     
              แดฮยอนพยายามนึกว่าอะไรที่เขาเห็นมาหลายครั้งแล้ว... วันนี้เขาเห็นอะไรบ้าง... ผู้คน... เด็ก ๆ และก็...
     
              ทันใดนั้นเองเขาก็มองเห็นผู้หญิงคนหนึ่งเดินถือลูกโป่งรูปหัวใจอยู่ไกล ๆ
     
              “ลูกโป่ง! คำใบ้คือลูกโป่งใช่ไหมครับ.... ต้องใช่แน่เลย ภรรยาของผมต้องถือลูกโป่งอยู่ใช่ไหมครับ”
     
              ทีมงานไม่ตอบคำถามของเขา แต่แดฮยอนเห็นทุกคนแอบอมยิ้ม แสดงว่าเขาทายถูกแล้วสินะ คิดได้ดังนั้นเขาจึงรีบวิ่งไปดักหน้าผู้หญิงคนนั้นแล้วคลี่กระดาษสีชมพูในมือให้เธออ่าน แต่หญิงสาวเพียงแค่ยิ้มให้เขาเท่านั้น แดฮยอนจึงเอ่ยถามว่า “คุณใช่ภรรยาของผมรึเปล่าครับ”
     
              แต่เธอส่ายหน้าปฏิเสธ
     
              “ขอโทษนะครับ” แดฮยอนเอ่ยพร้อมโค้งคำนับ ก่อนจะรีบเดินออกมาอย่างเขิน ๆ การไปถามผู้หญิงที่เขาไม่รู้จักว่าเป็นภรรยาของเขาใช่ไหมนี่ทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกอายนิด ๆ
     
              “นี่ถ้าไม่สวมชุดนี้อยู่ ผมคงจะอายมากแน่ ๆ เลยครับ” แดฮยอนพูดกับกล้อง “นี่ผมต้องไปถามผู้หญิงทุกคนที่ถือลูกโป่งรูปหัวใจเหรอครับเนี่ย”
     
             ทีมงานทุกคนได้แต่กลั้นขำและส่งเสียงเชียร์เด็กหนุ่มในใจ
     
     
              หลังจากนั้นแดฮยอนก็เข้าไปถามผู้หญิงที่ถือลูกโป่งรูปหัวใจอีกสามสี่คน แต่ก็ยังไม่เจอภรรยาของเขาเสียที ขณะที่เขาเริ่มล้าจากการเดินทั่วสวนสนุกนั่นเอง เขาก็ได้ยินเด็กคนหนึ่งร้องเสียงสดใสว่า
     
              “เพนกวิน!” 
     
              แดฮยอนหันไปมองตามเสียงของเด็กคนนั้น แล้วเขาก็เห็นตุ๊กตาเพนกวินสีชมพูตัวใหญ่กำลังย่อตัวเพื่อยื่นลูกโป่งให้เด็กผู้หญิงตัวเล็กที่ร้องเรียกเพนกวิน เด็กหญิงรับลูกโป่งมาอย่างยินดี
     
              “ขอบคุณพี่เขาสิลูก” แม่ของเด็กหญิงบอกลูกสาว
     
              “ขอบคุณค่ะ พี่เพนกวิน!” เด็กหญิงโค้ง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมายิ้มกว้างให้กับเพนกวินสีชมพู ซึ่งเพนกวินเองก็รีบยืนขึ้นแล้วโค้งตอบเด็กหญิง
     
              “ขอบคุณนะคะ.... ไปกันเถอะจ้ะ” แม่ของเด็กหญิงบอกขอบคุณเพนกวินสีชมพูอีกครั้ง ก่อนจะหันไปจูงมือลูกสาวให้เดินตาม เด็กหญิงกับเพนกวินโบกมือบ๊ายบายให้กัน ก่อนที่เด็กหญิงจะเดินตามแม่ของเธอไป
     
              ภาพตอนที่เพนกวินสีชมพูอยู่กับเด็กหญิงดูน่ารักเสียจนแดฮยอนเผลอยืนดูเพลินอย่างลืมตัว แล้วเขาก็คิดขึ้นมาได้ว่าคนที่ใส่ชุดเพนกวินสีชมพูตัวนั้นน่าจะเป็นภรรยาของเขา
     
              คิดแล้วแดฮยอนในชุดแมวดำก็ค่อย ๆ เดินเข้าไปหาเพนกวินสีชมพูจากด้านหลัง เพนกวินสีชมพูยังคงมองส่งเด็กหญิงกับแม่อยู่เลยไม่ทันรู้ตัวว่ามีแมวดำตัวใหญ่เดินย่องมาข้างหลัง เมื่อเข้าไปใกล้จนเหลือระยะห่างแค่สองก้าว แมวดำตัวใหญ่ก็ส่งเสียงเรียก
     
              “คุณเพนกวินครับ”
     
              เพนกวินสีชมพูสะดุ้งเล็กน้อย เพราะทั้งวันมานี้คนที่เรียกเขาว่าเพนกวินมีแต่เด็ก ๆ กับผู้หญิง และไม่มีใครเรียก คุณเพนกวินครับ ด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลขนาดนี้เลย
     
              เพนกวินสีชมพูค่อย ๆ หันกลับไป แล้วเขาก็ยิ่งประหลาดใจมากขึ้นเมื่อเห็นตุ๊กตาแมวดำตัวใหญ่ที่มีใบหน้ายิ้มแย้ม ยืนถือกระดาษสีชมพูที่เขียนตัวอักษรสีขาวว่า
     
              คุณจะแต่งงานกับผมไหมครับ
     
              เพนกวินสีชมพูยืนนิ่งไปชั่วขณะ ก่อนจะนึกได้ว่าเขาต้องให้คำตอบ แมวดำเองก็ยืนนิ่งอย่างอดใจรอคำตอบ และแล้วเพนกวินสีชมพูก็ค่อย ๆ ยกกระดาษสีขาวที่เขียนด้วยอักษรสีชมพูว่า
     
              อะไรกันคะ เราแต่งงานกันแล้วต่างหากค่ะ ♥
     
     
     
    [..........จบครั้งแรก เราแต่งงานกันแล้ว..........]
     
     
     
    ขอบคุณคุณ cclacl คุณ mookkyjung คุณ CakeYeye และคุณ cookke มาก ๆ ค่ะสำหรับคอมเม้นท์ อ่านแล้วมีกำลังใจแต่งต่อขึ้นมาเลย ^ ^
     
    และขอโทษที่อัพน้อยค่ะ แต่เราอดใจไม่ไหวจริง ๆ ค่ะ เวลาแต่งแล้วก็อยากอัพเร็ว ๆ ขอโทษนะคะที่แต่ละตอนสั้นมาก
     
    ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านค่ะ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×