gardymajor
ดู Blog ทั้งหมด

ชอบนะ

เขียนโดย gardymajor

กิจวัตรประจำวันของฉันคือ
'ไปเรียน'

ถ้าเป็นคนอื่นอาจจะบอกว่ามันไม่สมควรที่จะเรียกว่า กิจวัตร
แต่สำหรับฉัน
ที่ต้องไปเรียนจันทร์ - ศุกร์
อาจจะมีได้หยุดในวันพุธบ้าง แต่ถ้ามีกิจกรรม ยังไงก็คงต้องไป
แม้ในวันเสาร์ ก็ต้องไปซ้อมดนตรี
และในวันอาทิตย์ก็ต้องไปเรียนพิเศษ

ดังนั้นถ้าฉันจะเรียกว่ามันเป็น 'กิจวัตร' ก็คงไม่แปลก

เช้านี้ฉันก็ไปโรงเรียนเช่นเคย
หลังจากทำธุระส่วนตัวเสร็จ ฉันไม่ลืมที่จะหยิบเอาปลาเค็ม
ไปฝากอาจารย์ เพราะท่านชอบกินปลามาก

ฉันนั่งรถจากบ้านมายังโรงเรียน
ใช้เวลาประมาณ 45 นาที
เมื่อมาถึงโรงเรียนฉันไหว้พระพุทธรูป และอาจารย์ที่คอยยืนเวรอยู่ที่หน้าประตูโรงเรียน
ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังชั้น 5 ของอาตาร 4
เป้าหมายคือ 'ห้องดนตรี'

ฉันเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าห้องดนตรี
ด้วยอาการหอบเล็กน้อย
ด้วยความที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย
แถมยังต้องเดินต้านแรงโน้มถ่วงของโลกมายังชั้น 5 ด้วยบันได

ฉันถอดรองเท้า เดินเข้าไปในห้อง
ยกมือสวัสดีอาจารย์ และรุ่นพี่ที่ชมรมคนหนึ่ง ที่นั่งอยู่ก่อนแล้ว
ก่อนจะหยิบปลาเค็มออกมาจากกระเป๋าเคียง
แล้วนำไปวางบน ไมโครเวฟ
นั่นแหละหนึ่งในอาหารกลางวันของอาจารย์ ^^

ฉันนั่งคุยนั่งเล่นกับรุ่นพี่และอาจารย์ไปเรื่อยๆ
จนเวลาล่วงไปถึง 7.45 น.
เสียงเพลงมาร์ชของโรงเรียนดังขึ้น
เป็นสัญญาณเตือนให้นักเรียนทุกคนไปเข้าแถวที่สนาม

ฉันไหว้อาจารย์ก่อนจะเดินออกไปเพื่อไปเก็บกระเป๋า
เพราะว่ายังไม่ได้แวะเข้าไปในห้องเลยตั้งแต่มาถึงโรงเรียน

ฉันวางกระเป๋าลงบนที่นั่งของตัวเง ตอนนี้ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น
นอกจาก
การไปเข้าแถว

หลังจากนั้นฉันก็ทำกิจกรรมหน้าเสาร์ธงร่วมกับพี่ๆเพื่อนๆน้องๆในโรงเรียน
ก็มี ร้องเพลงชาติ สวดมนต์ ร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี
ร้องเพลงมาร์ช นั่งสมาธิ

ตรงนี้ฉันไม่ใส่ใจสักเท่าไหร่
เพราะฉันอยู่นิ่งไม่ค่อยได้นักจึงหันไปนั่งคุยกับเพื่อนที่นั่งข้างหลัง 
ทั้ง 4คน 
 มี K,O,N และ F(ขอเรียกแบบนี้ละกันนะ)

สิ่งที่คุยไม่มีสาระอะไรมากเพราะพวกเราจะปล่อยมุกกันเสียมากกว่า
จนกระทั่ง
.
.
.

"ป่านๆใครชอบแกหรอ" O เพื่อนผู้ชายอยู่ดีๆก็ถามฉันขึ้นมา
" บ้า!จะมีได้ไงดูฉันซิอ้วนก็อ้วน หน้าตาก็บ้านๆใครจะมาชอบ ทำไมใครมาแซวหรือมีคนบอกแกล่ะ O"ฉันตอบ Oกลับไป
"ก็ที่โต๊ะแกอะมีคนมาเขียนอะไม่เห็นหรอไงตัวเท่า'ควาย'เลยนะนั่น"
O เพื่อนรักแกไม่ต้องเน้นย้ำคำว่าควายก็ได้นะ
"อ้าว! ก็จริงนี่ แกไม่เห็นหรอไง" Oถามอีกครั้ง
"ไม่รู้ดิ เราไม่ได้สังเกต มีอะไรหรอ"
ฉันยังคงทำหน้าเอ๋อๆมองตาปริบๆต่อไป

"คนที่ชอบป่านเป็นนักดนตรีใช่มั้ย" ยัยFพูดขึ้นมาระหว่างที่ฉันยังงงอยู่
และมันก็ทำให้ฉันงงไปอีก
เพราะว่านักดนตรีนั้นมีผู้หญิงเกือบ80%
ส่วนผู้ชาย ถ้าไม่เป็นเด็กเนิร์ด ก็เป็นบุคคลที่ไม่อยากเป็นเพศของตัวเองล่ะนะ
"ก็มันเขียนว่าชอบป่านอะ" O ยังไม่เลิก
"มันแกลังเค้ามั้ง" ฉันตอบกลับไปเพราะมันเหลือแค่เหตุผลเดียวที่น่าจะเป็นไปได้ เมื่อคำนวณไปแล้วจากบทเรียนเรื่องความน่าจะเป็นใน ชั้นม.3

และแล้วก็ถึงเวลาขึ้นห้องเรียน
ระหว่างที่เดินขึ้นบันได ฉันก็ยังคิดไม่ออกว่าใครมาเขียนอะไรบนโต๊ะ
เพราะฉันไม่ได้สังเกตจริงๆนี่นา

เมื่อมาถึงห้อง
ฉันถึงได้เห็นข้อความสีขาว บนโต๊ะสีน้ำตาลดำว่า
ชอบป่านนะ
เมื่อเช้าตีกลองใหญ่น่ารักมากเลย

อ้อลืมบอกไปค่ะ
ฉันเป็นนักดนตรี ในวงดุริยางค์ ฉันเล่นกลองใหญ่ และวงดนตรีไทยเล่นกลองแขกค่ะ
และในวันที่11 สิงหาคม ฉันเล่นกลองใหญ่ เพื่อร้องเพลงสดุดี
ร่วมกับพี่ๆน้องๆในวงดนตรีค่ะ^^

ฉันพยายามไม่สนใจกับข้อความที่อยู่บนโต๊ะ
เพราะว่าจะต้องรีบไปเรียนวิชาเคมี

เรื่องนี้ไม่ได้รับการพูดถึงอีกเลย
คงเป็นเพราะว่าเพื่อนๆของฉันนั่งแยกกลุ่มกันก็เป็นได้
แต่ก็อีกนั่นแหละ
เมื่อถึงคาบบ่าย ในวิชาชีวะ
พวกเราก็มานั่งรวมตัวกันเพราะต้องทำการทดลองร่วมกัน

ในกลุ่มของฉันที่นั่งด้วยดันนั้น
มีฉัน F N O T และ Y
ฉันถาม T "เฮ้ย! แกรู้ไหมTว่าใครมาเขียนฉัน"
"ผมจะรู้เหรอคร้าบ ไอ้ B หรือเปล่า"
T ตอบกลับมา และกล่าวถึงบุคคลที่สามที่ไม่ได้อยู่ในวงสนทนาด้วย
(B เป็นเพื่อนห้องหนึ่งค่ะ ฉันช่วยเขาทำโครงงานและถูกล้อว่าเป็นแฟนกัน-*-)
"ฉันกับBเป็นเพื่อนกันย่ะ"
"ผมไม่รู้ครับ วันอังคารอะตอนเย็นพวกข้าเล่นวอลเลย์อยู่
ข้ากำลังส่งให้ไอ้พิชเชอร์(หมายถึง B)รับ มันตั้งมือแล้ว
พอพวกข้าตะโกนว่า'เฮ้ย!ไอ้ป่านมาโว้ย'มันปล่อยมือไม่รับลูกเลยอะ"
T พูดพร้อมทำท่าประกอบด้วย

ฉันจึงเลือกที่จะเลิกถามอะไร
แล้วหันมาสนใจกับผักบุ้งที่ถืออยู่ในมือก่อนจะทำการเฉือนแบบ
cross section(เป็นการเฉือนตามแนวขวาง กรณีที่เฉือนเซลล์ผักบุ้งจะมีลักษณะเป็นแว่นค่ะ)

แต่ว่ามันก็ยังไม่จบเมื่อฉันบ่นว่าปวดท้อง
แล้วเพื่อนตัวดีทั้งกลุ่มถามว่า
"ท้องกับใครวะ"
ทีอย่างนี่ล่ะสามัคคีกันนักเพื่อนเอ๋ย
"แบรดพิท"
"ขาก ถุย"
สามัคคีกันดีจริง

"เฮ้ย! ไม่เปนไรไอ้พิชเชอร์ไง" ไอ้Tเพื่อนชั่วบอกกลับมา
"เลิกพูดได้ยัง" นั่นเป็นการตัดบทสนทานที่ดีที่สุดที่ฉันคิดได้
พอหมดคาบ ฉันขออาจารย์กลับบ้านเพราะปวดท้องจนทนไม่ไหว
และนี่ก็จบไปหนึ่งวันในโรงเรียน

ฉันก็ไม่รู้อะไรหรอกนะ
ที่มาเขียนลงบล๊อก  มันไม่มีเหตุผลอะไรมากมายนอกจาก
ฉันอยากจะระบาย ว่า ฉันไม่ได้ชอบเพื่อนคนนี้
แต่ถ้าถามว่าชอบไหม
ฉันคงจะตอบว่าชอบนะ
เพราะเขาก็นิสัยดีคนหนึ่ง แต่ชอบของฉันมันคือความหมายของคำว่าเพื่อนมากกว่า   
ฉันพูดว่าชอบใครก็ได้  แต่ความหมายมันย่อมต่างกัน


ผู้ชายกับผู้หญิงมันป็นเพื่อนกันได้ค่ะ
คุณว่าจริงไหม?



อ้อ

ถ้าคุณมีแฟน
แล้วคุณถูกถามว่าระหว่างแฟนกับเพื่อนคุณรักใครมากกว่ากัน

อย่าได้เปรียบเทียบเชียวนะคะ
เพราะว่ามันต่างกัน
เหมือนคุณเปรียบเทียบเกลือกับน้ำตาลว่าอย่างไหนอร่อยกว่ากัน
มันเปรียบเทียบกันไม่ได้ถูกไหม
อันหนึ่งหวาน
อันหนึ่งเค็ม
อย่างไรเสียมันย่อมต่างกัน





 

ความคิดเห็น

ยังไม่มีความคิดเห็น