เหล่ามนุษย์ประเภทต่าง ๆ ที่พบเห็นได้บนรถเมล์
เขียนโดย
KerberoS
เอาล่ะครับพ่อแม่พี่น้องปู่ย่าตายายลุงป้าหน้าอาทั้งหลายที่สิงสถิตย์อยู่ในเวปนี้ หลังจากที่กระผมไม่ได้เขียน Blog มาเป็นเวลาครึ่งปีเห็นจะได้ วันนี้น้องผมมันไม่ได้เล่น ก็เลยถือโอกาสนี้เข้ามาเขียนให้มันรู้แล้วรู้รอดกันไปเลย งั้นเรามาเริ่มกันที่เรื่องแรกของปี 54 นี้กันเลยดีกว่าขอรับ
ผมเชื่อนะครับว่าทุกคนไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามแต่ ต้องเคยผ่านการเดินทางโดยรถประจำทางกันมาแล้วทั้งนั้นไม่มากก็น้อย แต่ทุกท่านเคยสังเกตกันมั้ยครับว่าเวลาที่เรานั่งอยู่บนรถเมล์หรือว่าในขณะที่กำลังรอโบกรถเมล์อยู่นั้นเนี่ย มันจะมีพวกมนุษย์ประหลาด ๆ เหล่านี้ปรากฏขึ้นมาบ้างพอประปรายให้พวกเราได้เห็นกัน พวกเหล่านี้มีอะไรกันบ้างผมจะลองจำแนกให้ดูเป็นข้อ ๆ ละกันนะครับ แล้วเราลองมาดูกันว่ามันจะมีหมดทุกข้อที่ผมพูดจริงรึเปล่า อ่ะทุกคนหยิบสมุดปากกาขึ้นมาจดตามครูเลยนะคะอ่ะกิ้วกร้าว
1. เจอหน้าเป็นชิ่งวิ่งหนีผู้โดยสาร
ใช่แล้วครับคุณฟังไม่ผิดหรอก มนุษย์ประเภทนี้จะพบมากในกลุ่มของคนขับรถครับ ประมาณว่าม่างต้องรีบไปส่งรถหรืออะไรประมาณนั้น หรือบางทีก็เพื่อความสบายใจส่วนตัวหรือความขี้เกียจของพวกแม่งนั่นเอง และผมจะเจอบ่อยมากเลยเวลายืนรอรถเนี่ย โบกแล้วโบกอีกม่างวิ่งผ่านหน้ากุไปเฉย เมิงคิดจะหันมามองแววตาของผู้โดยสารตาดำ ๆ คนนี้มั่งมั้ยวะไอ่แสด ถ้ากุรู้ว่ารถเมิงจอดอยู่ตรงไหนของอู่นะไอ่สาด กุจะไปปล่ยลมยางพังสีข้างแม่งให้เหี้ยนเลยเยดเข้วเอ้ย
2. รอจนรากงอกก็ไม่ออกมาจากอู่ (อู้)
ใช่แล้วครับรอเป็นชาติแม่งก็ไม่มาจากอู้ คุณก็ฟังไม่ผิดอีกเช่นกันครับ เพราะมันไม่ใช่อู่แต่มันเป็นอู้ซะมากกว่า มนุษย์ประเภทนี้ก็ยังคงอยู่ในกลุ่มของคนขับรถเช่นกันครับ ไอ่กลุ่มนี้มันจะสืบเนื่องมาจากกลุ่มแรกครับ คือถ้ามันออกมาจากอู้ที่แม่งจอดไว้ข้างทางที่ไหนสักแห่งหนึ่ง เพื่อทำเนียนว่ารถกุเสียไปต่อไม่ได้อะไรประมาณนี้แล้วเนี่ยมันก็จะชิ่งต่อ ประมาณว่ากุออกมาแล้วแต่กุไม่รับเมิงอ่ะใครจะทำไม กุเป็นคนขับกุมีสิทธิที่จะเลือกจอดรับไม่จอดรับใครได้นี่หว่า หรือเมิงจะเอา อะไรประมาณนี้แหละโยม
3. ชั่วโมงขี้เกียจเครียดมากจนไม่อยากเดินเท้า
หมดจากประเภทของคนขับแล้วคราวนี้มาถึงช่วงไคลแม๊กซ์แล้วครับ ซึ่งก็คือมนุษย์ประเภทผู้โดยสารด้วยกันนั่นเอง ซึ่งเราจะเห็นบ่อยมาก ๆ เวลาขึ้นรถเมล์ร่วมกันเนี่ย เริ่มจากประเภทแรกของฝ่ายนี้เลยก็ตามชื่อที่ผมขึ้นไว้นั่นแหละครับ พวกขี้เกียจเดินเวลาไปไหนมาไหนใกล้ ๆ เลยถือวิสาสะขึ้นรถเมล์ที่แม่งผ่านมาพอดี มนุษย์ประเภทนี้จะมีแบ่งเป็นสาขาย่อย ๆ อีก 3 สาขาด้วยนะครับ ซึ่งสาขาแรกเนี่ยจะเป็นพวกมีสติครบสมประกอบทุกประการแต่ขี้เกียจ ส่วนอีกสาขานึงก็คือพวกคนมันรวยช่วยไม่ได้ครับประมาณว่ากุมีตังค์จะขึ้นลงกี่ป้ายก็ได้ไม่มีปัญหาอะไรประมาณนั้น กับสาขาสุดท้ายนั่นก็คือพวกคนบ้าวิกลจริตนั่นเองครับที่แม่งขึ้นมาเดินบ่น ๆ มึน ๆ ป้ายนึงแล้วก็ลงป้ายหน้า สร้างความมึนงงให้กับผู้โดยสารที่อยู่บนรถได้เป็นอย่างดี มันน่าจะมีพิธีมอบรางวัลออสการ์ให้กับพวกแม่งเนาะ รางวัลสาขานักแสดงหน้ามึนยอดเยี่ยมอะไรประมาณนั้นอ่ะ
ซึ่งไอ่พวกนี้ผมว่ามันก็เป็นสีสันให้กับชีวิตคนนั่งรถเมล์อย่างผมได้อย่างนึงเหมือนกันนะว่าป่ะพี่น้อง เห็นพวกนี้ขึ้นมาแล้วก็ลงมันก็ฮาดีเหมือนกันนะ แต่อีกใจนึงก็หมันไส้แม่งอยู่นิด ๆ ประมาณว่า ถ้ามันเป็นรถฟรีแดงขาวแล้วเมิงขึ้นแล้วลงเนี่ยมันก็ไม่เป็นไรหรอก แต่ม่างเสือกเป็นรถยูโรสีส้มสีเหลืองอะไรแบบนี้เนี่ยสิ เห็นแล้วผมก็เสียดายเงินที่ม่างจ่ายไปนะตั้ง 12 บาทเลยนะเมิงจ่ายราคาเริ่มต้นระยะทางอ่ะแสดถ้าเมิงตังค์เยอะมาเอามาให้กุก็ได้ครับพี่น้องครับ 12 บาทกุเอาไปซื้อปาท่องโก๋ซาลาเปากินตอนเช้าได้ตั้ง 6 ตัวเลยนะเมิง เห็นคุณค่าของมันหน่อยสิครับเหล่าคุณผู้หญิงทั้งหลาย -*-
4. ชั่วโมงเร่งเร้าขี้เกียจรอจนต้องลงเดินเอง
มาถึงประเภทนี้มันจะเหมือนกับการพลิกกลับของแกนโลก จากขั้วโลกเหนือมาเป็นขั้วโลกใต้อะไรประมาณนี้อ่ะครับท่านผู้อ่าน อย่างที่ทุกคนได้อ่านกันมาแล้วในข้อที่ 3 อ่ะนะครับ ตอนนี้ข้อที่ 4 มันเลยกลับกันครับ ถ้าเอาไปเทียบกับข้อที่แล้วล่ะก็ ข้อนี้จะพบมากในผู้โดยสารที่ขึ้นรถตอนเย็น ๆ ครับแดดไม่มีแล้วอย่างนี้เป็นต้น ส่วนข้อที่แล้วจะเจอบ่อยในช่วงเที่ยงถึงบ่าย เพราะเป็นช่วงที่แดดร้อนไง เอาล่ะสำหรับประเภทที่ 4 นี้ที่ผมบอกว่าเป็นตอนเย็นก็เพราะว่ามันเป็นชั่วโมงของการเลิกงานของเหล่าคนทำงานต่าง ๆ นั่นเองครับ ทำให้เกิดปรากฏการณ์ที่ไม่มีใครอยากให้เกิดนั่นก็คือ ปรากฏการณ์รถติดชิพหายวายป่วนนั่นเองครับ ทำให้เหล่ารถโดยสารประจำทางไม่ว่าจะเป็นรถแอร์หรือรถแอร์กี่ก็ตาม ต่างกอดคอพากันติดไฟแดงเป็นบ้าเป็นหลังจนไม่สามารถขยับได้เลยทีเดียว สาเหตุที่มันติดก็เพราะว่าไอ่พวกคุมป้อมตรงทางด่วนมันชอบมาปิดทางปล่อยให้รถขึ้นทางด่วนนั่นเองครับ โดยไม่สนใจเลยว่ารถข้างหลังมันจะเป็นยังไงบ้าง เมิงจะติดนานจนท้ายแถวยาวไปถึงนอกเมืองกุก็ไม่สนอะไรประมาณนั้น ขอให้กุได้เอารถที่จะขึ้นทางด่วนได้ขึ้นทางด่วนไปก่อนเท่านั้นแหละกุได้เงินจนพอใจเมื่อไหร่กุค่อยปล่อยพวกเมิงได้วิ่งกัน ส่วนเมิงจะรับได้ไม่ได้ก็ช่างแม่เมิงดิอะไรประมาณนี้เป็นต้น
แล้วด้วยสาเหตุเหล่านี้นี่เองที่ทำให้เหล่าผู้โดยสารประเภทนี้ก็เอาล่ะครับเริ่มทนไม่ไหว ถ้าอยู่บนรถยูโรที่แอร์กำลังเย็นจัดนั้นก็จะเริ่มนั่งขมิบกระเพาะปัสสาวะกันไม่ไหว เพราะอากาศข้างในมันหนาวจัด จึงต้องขอรีบลงไปปล่อยมันออกบ้างอะไรบ้าง จนในที่สุดก็ทำเนียนแกล้งทำเป็นลงเดินด้วยความเร่งรีบกลัวจะไม่ทันถึงจุดหมายอะไรประมาณนี้เป็นต้น แต่ถ้าเป็นรถแอร์กี่ล่ะก็ยิ่งรถติดนาน ๆ เข้าไอความร้อนจากเครื่องยนต์มันก็จะเริ่มลอยออกมาเยอะขึ้น ๆ ทำให้บริเวณรอบ ๆ ตัวรถรวมถึงอากาศภายในรถแม่งยิ่งร้อนเข้าไปใหญ่ คนนั่งแม่งก็เอาและเริ่มหงุดหงิด กระสับกระส่าย กระวนกระวาย จนต้องกระจายกำลังกันลงจากรถคันนั้น แล้วก็ตั้งขบวนแถวตอนลึกเดินเรียงหนึ่งกันลงมาจากรถคันนั้น เพื่อเดินออกมารับอากาศบริสุทธิ์หลังจากที่เสี่ยงจะเป็นมะเร็งปอดกันอยู่บนรถคันนั้นเป็นเวลานานจนในที่สุดก็ต้องลงเดินเองไปเรื่อย ๆ จนถึงจุดหมายของแต่ละคนกันไป แต่เหตุการณ์ทั้งหมดนี้ก็ไม่เจ็บใจเท่ากับหลังจากที่แม่งนั่งอยู่บนรถตั้งนานสองนานรถไม่วิ่ง แต่พอลงมาเดินเองได้ไม่ทันไรแล้วแม่งเกิดปล่อยไฟเขียวให้รถที่เรานั่งติดไฟแดงมายาวนานนั้น ได้เป็นอิสระไปโดยที่เราต้องเดินตามหลังมันเนี่ยสิ เป็นห่าอะไรที่เจ็บใจมากเลยพี่น้องเอ้ย พวกเรามีใครเคยเจอมั่งเอ่ยอ่ะเหอ ๆ ๆ
5. ตัวเธอมีเสนียดฉันรังเกียจที่จะนั่งใกล้
นี่ก็เป็นอีกประเภทหนึ่งทีเราสามารถพบได้อยู่ทุกวันครับโดยเฉพาะวันไหนที่บนรถมีคนแน่น ๆ มนุษย์ประเภทนี้จะพบเจอได้เยอะในกลุ่มของผู้โดยสารต่างเพศครับ ผมก็ไม่รู้นะว่าใครแม่งเป็นคนบัญญัติกฎหมายว่าด้วยการนั่งรถโดยสารประจำทางเอาไว้รึเปล่าว่า ผู้ใดนั่งรถโดยสารติดกับเพศตรงข้ามผู้นั้นกระทำความผิดฐานโดนสังคมรังเกียจ ต้องระวางโทษห้ามขึ้นรถโดยสารตลอดชีวิตหรือประหารชีวิต มันก็ไม่มีนี่หว่าเนอะ แต่ทำไมมันก็ยังไม่กล้านั่งด้วยกันหว่า หรือว่าพ่อแม่ของทั้งสองฝ่ายเค้าสอนเอาไว้ว่า
"เอ่อลูกรักของแม่ถ้าเราจะขึ้นรถเมล์นะลูกอย่าไปนั่งใกล้กับเพศตรงข้ามนะลูกเดี๋ยวจะโดนเค้าลวนลามเอามันอันตราย พ่อกับแม่รับไม่ด้าย" T^T
แล้วก็ดราม่าใส่อย่างนั้นเรอะ โธ่ไอ่สาดบ้านไหนสอนแบบนี้เรียกมาให้กุดูหน่อยดิ นี่มันยุดไหนแล้วพี่น้องเอ้ย มันไม่ใช่หนังโป๊ของญี่ปุ่นนะเฮ้ยที่พอมานั่งข้าง ๆ เพศตรงข้ามแล้วจะโดนฝ่ายนั้นลวนลาม ลูบไล้ ไซ้คอ ล่อจนเยินแถมเบิ้ลก่อนปล่อยไปแบบในหนัง AV อ่ะ โถไอ่บ้าเมิงคิดได้ไงเนี่ย ประเทศไทยนะสาดมันก็ควรจะมีประเพณีเดิมเหลืออยู่มั่งเด้ เมิงจะเอาของต่างชาติมาหมดเลยเหรอไงวะครับพี่น้องเมิงให้ตายดิวะ ที่นังบนรถมันยังมีเหลืออยู่ครับคุณพ่อท่านคุณแม่ท่าน ถึงคนที่นั่งอยู่ก่อนมันจะเป็นชายหรือหญิงก็เหอะ นั่ง ๆ แม่งไปเหอะพี่น้องมันไม่จับแหวกแดกตับเมิงหรอกครับท่าน หรือถ้ามันทำอย่างนั้นจริง ๆ เมิงก็ตบหรือต่อยหรือจะ "ซอยข่อยแหน่" อะไรก็แล้วแต่คุณเมิงเถอะครับ ผู้คนบนรถที่ดี ๆ มันก็มีเค้าจะได้เข้ามาช่วยเหลือได้ ไม่ใช่พอเห็นที่นั่งแม่งเต็มหมดแล้วเหลือที่ว่างอยู่ข้าง ๆ มีฝ่ายชายหรือฝ่ายหญิงหรือจะเป็นฝ่ายฉิงนั่งอยู่ พอเค้าเหลือที่นั่งให้นั่งแต่ทำเนียนบอกไปประมาณว่า
"ไม่เป็นไรค่ะ/ครับเดี๋ยวก็ลงแล้ว" ถ่มถุย!! เมิงนั่ง ๆ ไปเหอะครับ
ถ้าฝ่ายนั้นเป็นผู้หญิงมาคนเดียวเมิงก็จีบแม่งไปเลยถ้าเราเป็นชายอ่ะอย่าไปกลัวครับพี่น้อง ก็เราชอบผู้หญิงนี่หว่าทำไมวะกุจะหาแฟนบนรถเมล์บ้างไม่ได้เหรอไงแหวกแนวดีออก พอคบกันไปนาน ๆ รู้ใจกันแล้ว พอมีคนอื่นมาถามว่ารู้จักกันได้ไงเหรอ เราก็ตอบไปดิรู้จักกันบนรถเมล์เท่จะตายห่าพี่น้อง ฝ่ายหญิงก็อย่าไปน้อยหน้าฝ่ายชายเค้าครับ นี่มันศตวรรษที่ 21 แล้วชายหญิงหรือแม้แต่ฉิงเค้ามีสิทธิเท่าเทียมกันหมดแล้ว จะมัวแต่สงวนท่าทีเป็นกุลสตรีสมัยก่อนแม่งก็อดแดกล่ะครับถ้างั้นอ่ะ ขนาดผู้ฉิงแม่งยังเข้าหาผู้ชายกันมาแล้วเลยจะเอาอะไรมากกับผู้หญิงอย่างคุณ ๆ ล่ะครับเปลี่ยนทัศนคติทางสังคมกันได้แล้วพี่น้อง
เอาล่ะครับทั้งหมดนี้ก็เป็นกลุ่ม ๆ หนึ่งของประเภทของมนุษย์ต่าง ๆ ที่ผมพบเห็นอยู่บ่อย ๆ บนรถเมล์ที่ผมนั่งไปเรียนเป็นประจำอ่ะนะครับ ใครที่เคยเห็นประเภทอื่นที่นอกเหนือไปจากที่ผมพูดมาแล้วเนี่ยก็ลองเสนอเพิ่มเติมมาในคอมเม้นท์ก็ได้นะครับ เพราะอาจจะมีอีกหลายประเภทที่ผมอาจจะลืม ๆ ไปบ้างก็ได้ ก็เอามาเล่าให้ฟังพอเป็นสีสันอ่ะนะครับหลังจากที่ผมห่างหายจากการเล่าเรื่องแปลก ๆ แนวจิกกัดแบบนี้ไปนานพอสมควร ก็หวังว่าชาวเด็กดีทุกท่านคงจะคอยติดตามกันอยู่นะแจ๊ะอ่ะกริ้วกร้าว
เอรักทุกคนจ้าอ่ะกริ้วกร้าวว้าววู้วอู๊ววลั่นล๊า
แจ้ง Blog ไม่เหมาะสม
16 ก.พ. 54
1,017
0
ความคิดเห็น