คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 2
ปกป้องก้มมองนาฬิกาขอมือได้เวลาที่เขาต้องเตรียมตัวไปเรียนหนังสือต่อได้แล้วจึงรีบเห็นรถเข็นไปส่งที่ร้านขายชานมของเจ้เล็ก เจ้เล็กก็คือเจ้าของธุรกิจชานม หล่อนซื้อเฟรนชายด์มาเยอะและแบ่งให้คนอื่นได้ขายต่อโดยคิดค่าเช่ารถ 2 % จากรายได้ที่หามาได้ก็นับว่าไม่โหดจนเกินไปเพราะหล่อนก็รวยมากพออยู่แล้ว
ที่บริษัทโฆษณา เรนนี่กำลังยืนตัวตรงต่อหน้าโปรดิวเซอร์
ชายมาดเซอร์ ไว้ผมยาว หนวดเครารุงรัง มองมายังเธอแล้วบอกให้เธอแนะนำตัวเอง
“สวัสดีค่ะ หนูชื่อเรนนี่ โวเทล ศิริทัศน์”
“ชื่อยาวไปนะเรา”
“เออ...คือ”
“พูดต่อสิ”
“อายุ 17 ปี ตอนนี้กำลังศึกษาทางโฮมสคูล อยู่ค่ะ”
“หมุนตัวสิ”
“ค่ะ”
เรนนี่พยายามหมุนตัวให้เหมือนถ่ายโฆษณาท่ามกลางทุ่งดอกทานตะวันทำให้เธอถึงกับเซเมื่อหมุนครบรอบ
“อ้วนไปนะเรา”
“เห้ย รู้แล้วนะทำไมต้องตอกย้ำด้วย” เรนนี่คิดในใจแต่ก็ฝืนยิ้มเจื่อนๆออกมา
“ยิ้มสวยนะเรา”
“ค่ะ ขอบคุณค่ะ”
“จะลองรับพิจารณาดูไม่ใช่เพราะรอยยิ้มแต่เพราะเธอมีคุณสมบัติบางอย่างเหมาะกับโฆษณาชิ้นนี้”
“อะไรหรือค่ะ”
“อ้วน”
“ย้ำจริง” เรนนี่คิดในใจ
“พรุ่งนี้ 7 โมงเช้ามาที่นี่ให้ตรงเวลา พี่ไม่ชอบคนมาสาย”
เรนนี่รับคำแล้วรีบเดินออกจากห้องไปเมื่อครู่เธอยังคงช็อคไม่หายว่าความจริงหรือความฝันจึงได้เดินตัวตรงแบบหุ่นจำลองมาหาพ่อของเธอ
คลาสรีบกอดปลอบใจสงสารลูกเพราะเพราะคิดว่าคงถูกปฏิเสธอย่างแรงจึงได้มีสภาพเช่นนี้
เรนนี่น้ำตาซึมใส่บ่าพ่อ
“พ่อคะ หนู”
“ไม่เป็นไร พ่อเข้าใจ”
“หนูทำสำเร็จแล้วค่ะ”
“โอ้มายด์ก็อต จริงหรือ”
“ค่ะ”
“แต่ตอนนี้พ่อติดธุระด่วนลูกคงต้องกลับเองแต่ไม่ต้องห่วงนะ พ่อจะส่งคนรถพร้อมบอดี้การ์ดชุดใหม่มาให้
“ค่ะ แต่ความจริงเรนกลับแท็กซี่ก็ได้นะคะ”
“ไม่ได้ลูกมันอันตราย”
เรนนี่ถอนหายใจอย่างอึดอัดบางทีเธอก็อยากจะลองใช้ชีวิตปรกติแบบคนทั่วไปเขามีกันแต่คงเป็นไปได้ยากเพราะมีพ่อคุมเข้มถนุถนอมเธอตลอดเวลา พี่ชายที่หวงทุกระยะการหายใจชนิดเรียกว่าห้ามแม้แต่ยุงตัวผู้มากัดน้องเลยทีเดียว จะหกล้มสักครั้งแทบจะยังไม่เคยเลย เธอจึงเหมือนกับเจ้าหญิงที่อยู่บนหอคอยแต่กลับโดดเดี่ยวอยู่ร่ำไป ดังนั้นเมื่อรถขับมาถึงบริษัทโฆษณาเธอจึงให้คนขับรถพาเธอไปเที่ยวแบบคนทั่วไปแต่คนขับรถก็ยังไม่วายขับมายังห้างหรูหรือไม่ก็ภัตตาหารติดดาวให้คุณหนูได้เลือกกิน เลือกช้อปได้เต็มที่ เรนนี่จึงได้แต่เดินเล่นและมองทุกสิ่งทุกอย่างผ่านๆไปอย่างเซ็งๆโดยทุกที่ที่เรนนี่ไปก็จะมีบอดี้การ์ดคอยเดินตามคุ้มกันแค่มีคนเดินเบียดใกล้เรนนี่ก็โดนบอดี้การ์ดจับโยนซะกระเด็นจนเรนนี่ต้องเข้าไปขอโทษเพราะไม่อยากให้เรื่องถึงตำรวจแล้วก็หันมาสั่งลูกน้องของพ่อเธอว่าให้หยุดและพาเธอกลับบ้านได้แล้ว
บอดี้การ์ดจึงเดินตามเรนนี่กลับไปขึ้นรถ เรนนี่นั่งอยู่ตรงกลางหันไปทางซ้ายก็บอดี้การ์ดหน้าเข้ม หันไปทางขวาก็บอดี้การ์ดหน้าโหด เรียกได้ว่ารักษาความปลอดภัยเธอแทบทุกลมหายใจเลยทีเดียว เธอคิดในใจอยากให้มีปาฏิหาริย์อะไรก็ได้ขอให้พาเธอไปให้พ้นๆจากสภาพนี้ที ทันใดนั้นรถที่นั่งมาเครื่องก็เกิดดับขึ้นมาข้างทางฟุตบาท บอดี้การ์ดรีบถามคนขับรถว่าเกิดอะไร คนขับรถบอกไม่ทราบเหมือนกันคงต้องตามช่างมาดู
“คุณหนูครับขอเวลา 15 นาที เราจะตามช่างมาซ่อมรถให้เร็วที่สุดครับ”
“ไม่เป็นไร ฉันไม่รีบ แต่ตอนนี้ฉันอยากลองไปเดินเล่นข้างนอก อยู่ในรถอึดอัดซะมัด”
“ได้ครับ” บอดี้การ์ดรีบลงไปเปิดประตูรถให้เรนนี่
บอดี้การ์ดอีกคนเดินตามเรนนี่ไปส่วนอีกคนกำลังโทรเรียกช่างมาซ่อมรถอยู่
“น่ากินจังเลย”
เรนนี่เดินผ่านร้านขายก๋วยเตี๋ยวที่เป็นเพียงรถเข็นธรรมดาๆ
“ไม่ได้นะครับ ถ้าคุณหนูท้องเสีย คุณท่านจะว่าผมเอาได้”
“ฉันรับผิดชอบเอง อีกอย่างร้านเขาก็ดูสะอาดดีนะ”
เรนนี่เดินมาหยุดตรงโต๊ะสังกะสีและกำลังจะนั่งลง บอดี้การ์ดรีบห้ามก่อนจะใช้แอลกฮอล์ลเทใส่ผ้าและเช็ดไปยังเก้าอี้พลาสติกที่เรนนี่กำลังจะนั่ง
เรนนี่มองอย่างเซ็งๆก่อนจะนั่งลงเมื่อบอดี้การ์ดเช็ดเก้าอี้เสร็จแล้ว เรนนี่รู้สึกเมื่อยจะเอาแขนพาดโต๊ะบอดี้การ์ดก็รีบห้ามไว้แล้วขนเครื่องปรุงไปไว้โต๊ะอื่นก่อนจะทำการเช็ดโต๊ะให้สะอาดและนำผ้าข้าวมาปูทับไว้จนโต๊ะข้างๆแอบมองว่าเรนนี่เป็นใครทำไมต้องทำตัวเลิศกว่าชาวบ้าน
ชายหนุ่มคนหนึ่งเดินมาถามว่าหญิงสาวจะรับน้ำอะไร หญิงสาวยิ้มที่ได้เจอคนรู้จักอีกครั้ง
“ขยันจังเลยนะคะ เปลี่ยนอาชีพอีกแล้ว”
“พี่มาช่วยแม่น่ะครับ อืมว่าแต่น้องจะดื่มน้ำอะไรดี”
“น้ำแร่บริสุทธิ์จากธรรมชาติมีมั้ย” บอดี้การ์ดถามแทรก
ปกป้องได้แต่ทำหน้างงส่วนเรนนี่หันมายิ้มให้ปกป้องด้วยสีหน้าแบบบอกไม่ถูกว่าควรจะอายหรือเชิดหน้าต่อไปดี
“ไม่มีครับ”
“ชาจากอังกฤษล่ะ มีมั้ย” บอดี้การ์ดยังคงตั้งคำถามต่อไป
“เรนขอเวลา 30 นาที ที่จะรับประทานก๋วยเตี๋ยวแบบส่วนตัวได้ไหมคะ”
“ไม่ครับคุณหนู คุณท่านสั่งว่าให้ดูแลคุณหนูอ่างใกล้ชิด ไม่ว่ามดแมลงก็ห้ามเข้าใกล้ถ้าทำให้คุณหนูไม่สบาย ต่อให้เป็นสุนัขก็ตามครับ” ประโยคสุดท้ายบอดี้การ์ดมองมาทางปกป้อง
ปกป้องเอามือจับไปข้างหลังว่ามีหางหรือเปล่าเริ่มเกิดอาการร้อนตัวเข้าให้แล้ว
“เรนรับผิดชอบเองค่ะ ไปพักผ่อนเถอะค่ะ”
“ครับคุณหนู เริ่มจับเวลา” บอดี้การ์ดกดนาฬิกาข้อมือตั้งเวลาและเดินออกห่างมาไกลจากเรนนี่
ปกป้องหันไปพูดกับเรนนี่ต่อว่าจะรับเส้นอะไร เส้นใหญ่ เส้นเล็ก บะหมี่ เส้นหมี่
“เส้นอะไรก็ได้ค่ะ เรนทานได้หมด ขอให้เป็นเส้นก็พอ”
“งั้นเส้นเล็กต้มยำแล้วกันนะครับ”
“อย่าเผ็ดมากนะคะ เรนทานเผ็ดไม่ค่อยได้”
“ครับ”
ปกป้องเดินไปยังรถเข็นและขอแม่ว่าก๋วยเตี๋ยวชามนี้เขาขอลงมือทำเองทั้งหมดแม่แค่ยืนดูและกำกับอยู่ข้างหลังก็พอ
เขาใส่ใจทุกรายละเอียดในการทำไม่ว่าจะเป็นเส้นที่ต้องลวกให้เหนียวนุ่ม ลูกชิ้นลงไปลวกน้ำร้อนพอประมาณ หมูที่หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ หรือแม้กระทั่งปรุงต้มยำก็ยังใส่ความตั้งใจลงไป ปิดท้ายด้วยการใส่น้ำชุปร้อนๆลงไปในชามหลังจากนั้นก็ยกมาเสิร์ฟ
เรนนี่หยิบช้อนขึ้นมาตักน้ำชุปเป่าแล้วค่อยชิม
“อืม อร่อยมากเลยค่ะพี่ป้อง”
“ถ้าใช้ตะเกียบจะยิ่งอร่อยกว่านี้อีกนะครับ”
“เรนไม่ค่อยชินอ่ะค่ะ ปกติใช้แต่ช้อนกับส้อมเวลาทานสปาเก็ตตี้”
“ไม่เป็นไรครับ พี่จะสอนให้นะ”
เรนนี่ตั้งใจมองเวลาปกป้องสาธิตการใช้ตะเกียบและลองปฏิบัติตามจนสามารถใช้ตะเกียบได้
ปกป้องตบมือนิดๆพร้อมกับชมว่าเรนนี่เก่งมากสอนเพียงไม่นานก็ใช้ตะเกียบได้แล้ว
เรนนี่หน้างอนิดๆแล้วบอกว่าเธอโตแล้วไม่ต้องแกล้งชมเป็นเด็กๆก็ได้
ปกป้องอดหมั้นไส้ในท่าทีของเรนนี่ไม่ได้เหมือนตอนน้องสาวงอนเขาไม่มีผิด เขาใช้มือขยี้หัวเรนนี่อย่างหมั้นเขี้ยว
“น่าจับตีก้นนัก แม่เด็กขี้งอน”
เรนนี่หัวเราะและยิ้มออกมา
บอดี้การ์ดมองอยู่ไกลๆนึกว่าเรนนี่ถูกทำร้ายจึงเข้าไปหาเรนนี่และกั้นปกป้องให้อยู่ห่างจากเรนนี่ก่อนจะจับตัวปกป้องขึ้นมาเพื่อจะจับทุ่ม
ปกป้องที่ไม่ทันระวังตัวถูกจับตัวลอยขึ้นทาบกับอากาศถึงกับหน้าเว่อ
เรนนี่รีบสั่งให้วางตัวปกป้องลงและห้ามทำให้ปกป้องเจ็บตัวเป็นอันขาด
บอดี้การ์ดจำยอมปล่อยตัวปกป้อง วางลงให้นั่งกับเก้าอี้
“อย่าลงโทษพวกเขานะครับ น้องเรน พวกเขาทำตามหน้าที่ อีกอย่าง”
“อะไรหรือคะ” เรนนี่ทำหน้าสงสัย
“พี่ชอบลอยอยู่กลางอากาศครับ เพราะพี่เป็นซุปเปอร์แมน”
เรนนี่หัวเราะออกมากับสีหน้าและท่าทีของปกป้องที่ยืนทำท่าเหมือนตัวเองจะบินขึ้นฟ้า
บอดี้การ์ดหน้าเข้มเดนเข้ามาขัดบทสนทนาระหว่างเรนนี่กับปกป้อง เขามาแจ้งกับเรนนี่ว่ารถซ่อมเสร็จแล้วให้เรนนี่กลับไปที่รถได้ เขาไม่อยากไปส่งเรนนี่ดึกว่านี้เพราะอาจจะถูกตำหนิจากคุณท่านได้ ถ้าไม่อยากให้พวกเขาเดือดร้อน เขาขอความกรุณาให้เรนนี่รีบกลับบ้านเดี๋ยวนี้
“งั้นเรนกลับก่อนนะคะ”
“หวังว่าเราจะได้เจอกันอีกนะ”
เรนนี่ยิ้มแทนคำตอบและเดินก้าวไปยังรถที่จอดอยู่ไม่ไกล
บอดี้การ์ดวางเงินไว้บนโต๊ะ และบอกไม่ต้องทอนแล้วรีบเดินตามเรนนี่ไปจากการกระทำนี้มันทำให้เขาได้รับรู้ว่าเขากับเรนนี่ช่างต่างกันราวฟ้ากับดิน ถ้าเธอเป็นเจ้าหญิงเขาก็แค่คนรับใช้ ถ้าเธอเป็นนางฟ้า เขาก็แค่มนุษย์ที่ได้แค่เงยหน้ามองดูเธอ และถ้าวันหนึ่งเธอกลายเป็นซุปเปอร์สตาร์ก็จะเป็นอะไรที่ยากแม้แต่จะเข้าสัมผัสเพียงปลายผม สงสัยคงต้องตัดใจจากนางฟ้าเขาคิดเช่นนั้นแต่ในอีกมุมหนึ่งเขาก็คิดว่าแค่ชื่นชมอยู่ไกลๆไม่หวังอะไรตอบแทนน่าจะเป็นการดีที่สุด
ปรับปรุงเดินเข้ามาหาพ่ายพร้อมกับแซวและมองไปทางพี่ชายที่มองไปทางหญิงสาวที่ก้าวขึ้นไปบนรถทีแล้วก็เห็นหญิงสาวหันมาโบกมือให้กับพี่ชายเธอพร้อมรอยยิ้ม พี่ชายได้แต่ยิ้มตอบแบบหน้าเจื่อนๆเมื่อเจอบอดี้การ์ดจ้องกลับมา
“ชอบเธอเหรอคนที่ยิ้มหวาน และกำลังจะก้าวขึ้นรถไป” น้องสาวแสนฉลาดถามพี่ชายทันที
“อืม” ปกป้องตอบพร้อมกับเก็บชามไปล้าง
“ชอบก็จีบสิพี่ชาย” น้องสาวตามปกป้องไปล้างชาม
“เราก็แค่คนธรรมดาจะไปสู้อะไรใครเขาได้” ปกป้องตอบพร้อมกับเทเศษอาหารทิ้งลงถังขยะ
“ทุกอย่างมันอยู่ที่นี่พี่ป้อง” ปรับปรุงเอานิ้วชี้ไปที่หน้าอกข้างซ้ายของปกป้อง
“ใจ” ปกป้องพูดสั้นๆแล้วก็คิดว่าจะยอมแพ้ดีมั้ย
“ครั้งนี้พี่ก็ต้องล้นพอๆกับงานเขียนของพี่ล่ะว่าจะเข้าตาสำนักพิมพ์เมื่อไหร่ ส่วนผู้หญิงคนนั้นพี่ก็ต้องลุ้นไปเหมือนกันว่าจะได้เข้าไปอยู่ในใจเธอหรือเปล่า” ปรับปรุงพูดจบก็ลุกขึ้นไปช่วยแม่เสิร์ฟก๋วยเตี๋ยวต่อปล่อยให้ปกป้องได้ใช้ความคิดเพียงลำพัง
วันต่อมาเรนนี่มาถ่ายโฆษณาแต่เช้า วันนี้พ่อเธอติดธุระจึงส่งลูกสาวคนที่3แอนนี่มาเป็นเพื่อนเรนนี่แทน เรนนี่บอกให้แอนนี่สั่งให้บอดี้การ์ดรออยู่ข้างนอกเพราะเกรงว่าจะทำงานเสีย ส่วนแอนนี่นั้นให้ตามเธอเข้าไปได้
แอนนี่สวัสดีผู้กำกับพร้อมกับเรนนี่
ผู้กำกับบอกให้เรนนี่ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วจึงไปแต่งหน้ากับช่างแต่งหน้า
เรนนี่รีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าและกลับมานั่งให้ช่างแต่งหน้า
ความคิดเห็น