ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เทพบุตรร้อยล้าน

    ลำดับตอนที่ #2 : ตอน 2

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 784
      6
      16 ก.ย. 54

    มันจะยากอะไรนักหนานะพี่ชนา ก็แค่หาแฟนสักคน สิรีบ่นพึม มองหน้าพี่สาวด้วยสีหน้าขัดใจเป็นที่สุด

    หล่อนใช้มือข้างหนึ่งเท้าคางเกยบนกองหนังสือตั้งใหญ่บนโต๊ะทำงาน สองตามองหน้าสุชนาอย่างไม่เข้าใจจริงๆ ไม่ได้เสแสร้างแกล้งทำ

    พี่ชนา หรือสุชนา ที่คุณยายน้อยชอบเรียกหนูนา ยังคงทำเหมือนเปิดเสียงโทรทัศน์ทิ้งไว้ ราวกับเรื่องที่น้องสาวพูดไม่มีความสลักสำคัญเพียงพอ

    เป็นอะไรของเธอ อยู่ๆ ก็มาคาดคั้นให้พี่มีแฟน คนตอบยังง่วงอยู่กับการใช้ปากกาหมึกสีแดงสดขีดฆ่าลงบนกระดาษปึกใหญ่ บางแผ่นต้องเขียนโน้ตสั้นๆ กำกับ แต่พอถูกจ้องไม่วางตาก็ชักจะได้หน้าลืมหลังไม่รู้จะเขียนอะไรขึ้นมา ตกลงแวะมาหาพี่ถึงนี่เพื่อจะถามพี่แค่นี้หรอสิรี

    นภาสิริไม่ตอบ แต่กวาดสายตาไปรอบห้องทำงานพี่สาวที่น้อยครั้งนักเธอจะแวะมา แทบนับนิ้วได้เลยถ้าหากว่าไม่มีเหตุจำเป็นอะไร เป็นต้นว่าคุณยายน้อยใช้ให้มา ไม่เช่นนั้นร้อยวันพันปีหล่อนก็คงไม่เสียเวลา แวะมาอย่างแน่นอน

    ห้องทำงานของสุชนาก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรนักหรอก เสียแต่ว่าไม่ได้เป็นสัดส่วนส่วนตัวอะไร นอกจากโต๊ะทำงานของเธอแล้วภายในห้องขนาดไม่ถึงยี่สิบตารางเมตรดี ยังมีโต๊ะทำงานของครูอีกหลายคนตั้งเรียงอยู่ด้วย จะดีก็ตรงที่คาบบ่ายวันนี้พี่สาวเธอมีชั่วโมงว่าง ในขณะที่ครูคนอื่นๆ ต้องสอนหนังสือ ห้องทำงานเลยค่อนข้างเงียบและเป็นส่วนตัว

    เขียนอะไรน่ะ พอไดแล้ว น้องสาวว่าเสียงขุ่น ที่สิรีพูดมาทั้งหมดนี่พี่ชนาได้ฟังบ้างรึเปล่าเนี่ย รึว่าเข้าหูซ้ายทะลุหูขวาหือ แม่ครูใหญ่คนเก่ง

    แม่ครู่ใหญ่มองลอดกรอบแว่นทรงรีอย่างไม่ค่อยพอใจนัก แต่ด้วยความที่มีกันแค่สองคนพี่น้อง หล่อนเลยชินเสียแล้วกันวาจามุทะลุของน้องสาว

    พี่ต้องตรวจข้อสอบ ถ้าสิรีไม่มีอะไรด่วนก็กลับบ้านไปก่อนก็ได้นะ มีอะไรเอาไว้ค่อยคุยกันที่บ้านดีกว่าไหม

    โห น้องสาวร้องเสียงดัง ตีหน้างอใส่ กับอีแค่ตรวจข้อสอบเด็กปอห้าจะอะไรนักหนา ไม่ใช่โอลิมปิกวิชาการนะ

    ใกล้จะสอบแล้ว พี่ต้องทำคะแนนส่ง ถ้าทำไม่ทันจะยุ่ง

    คนเป็นพี่พูดไม่ทันจบนภาสิริก็โบกมือห้ามทันที

    พอเลยๆ พี่ชนา สิรีอุตส่าห์มาหา มีเรื่องร้อนใจอยากปรึกษา แล้วดูสิ พี่ชนาฟังเสียที่ไหน เอาแต่ตรวจการบ้านบ้าบออะไรก็ไม่รู้ ไม่เห็นใจกันบ้างเลย

    เสียงน้อยอกน้อยใจกับดวงหน้าหงิกงอเรียกความสนใจจากพี่สาวได้ไม่น้อย ก็เหมือนกับทุกครั้งนั่นล่ะ ไม่ว่านภาสิริมีปัญหาอะไร ก็เชื่อได้เสมอว่าพี่สาวจะอยู่เคียงข้างเธอเสมอ ครั้งนี้ก็เช่นกัน

    คนเป็นพี่วางปากกาลงอย่างเสียไม่ได้ มองหน้าน้องอย่างอ่อนใจ อยากจะทำใจแข็งไล่น้องกลับบ้านอีกสักรอบ แต่พอเห็นความทุกข์ร้อนในสีหน้าก็อดไม่ได้จะต้องเอ่ยปาก

    ใจเย็นก่อนได้ไหม แล้วที่พี่ตรวจอยู่นี่ก็ข้อสอบเด็กๆ ไม่ใช่การบ้าน

    นภาสิริค่อยยิ้มออก ยกมือสองข้างขึ้นมาจับมือพี่สาวไว้อย่างตื่นเต้น หรือไม่อยากให้อีกฝ่ายไม่มีโอกาสได้จับปากกาหมึกแดงอีกเสียก็ไม่รู้

    พี่ชนาก็รู้ใช่ไหมว่าสิรีรักพี่พุทธ สิรีอยากแต่งงานกับพี่พุทธ

    พี่สาวหยักหน้าเบาๆ ทั้งที่รู้สึกหนักอึ้งที่หัวใจ ถ้าลองว่าเท้าความอย่างนี้เป็นอันว่าเรื่องยาวแน่

    พี่พุทธเป็นคนดี ถ้าสิรีได้เป็นภรรยาของเขาสิรีคงจะเป็นผู้หญิงที่มีความสุขทีสุดในโลก พี่ชนาเห็นด้วยใช่ไหม

    อื้อ สุชนาตอบได้แค่นั้น แล้วก็อดค้านไมได้อยู่ดี แต่เธอเพิ่งคบหากับเขาไม่นานเองนะ

    สองปีแล้วนะพี่ชนา เรียกว่าไม่นานได้ยังไง พูดจาหยาบคาย นภาสิริค้านทันที อดเคืองพี่สาวไม่ได้ แต่ยังทำใจเย็นจับมือพี่สาวไว้ได้ ไม่สะบัดหน้าหนีไปไหนเสียก่อน

    ไม่เห็นจะหยาบคายตรงไหนพี่พูดความจริง

    ไม่จริง หล่อนค้านเสียงแข็ง พี่พุทธกับสิรีรักกัน พี่ชนาก็รู้ดี

    แต่เธอเพิ่งจะคบหากับเขาไม่กี่เดือนเองนะสิรี แล้วที่ว่าสองปีน่ะ ก็แค่รู้จักกัน เพิ่งเป็นแฟนกันได้เท่าไหร่เอง พี่ก็พอจะเข้าใจหรอกนะ คนเราเวลามีความรักก็คงจะคิดว่าเวลาไม่สำคัญเท่ากับความรู้สึก

    แล้วมันก็ไม่สำคัญจริงๆ พี่ชนา น้องสาวรีบยืนกรานเสียงแข็ง มองพี่สาวด้วยสายตาที่ว่าหากมีใครกล้าค้านมาอีก หล่อนขอสู้ตาย สิรีรู้ว่าพี่พุทธคือคนที่ใช่ แล้วสิรีก็ไม่อยากจะรออะไรอีกแล้ว

    คนฟังนึกอยากถอนหายใจดังๆ สักเฮือกแต่ก็จนใจ ในเมื่อน้องสาวยังเป็นสาวน้อยทีตกอยู่ในห้วงรัก โลกทั้งใบเป็นสีชมพู จะพูดอะไรออกไปก็มีแต่จะขัดแย้งกันเสียเปล่าหล่อนเลยเฉยเสีย

    แต่คุณยายน้อยไม่ยอมให้สิรีแต่ง ว่าที่เจ้าสาวเริ่มตีหน้าหงิกอีกครั้ง ทั้งหมดก็เพราะพี่ชนาคนเดียว สิรีถึงได้พลอยซวยไปด้วย

    อ้าว เรื่องอะไรเธอมาว่าพี่ สุชนาร้องด้วยสีหน้าเหวอทีเดียว

    เมื่อวานหล่อนนั่งทำงานอยู่ถึงหัวค่ำ กว่าจะกลับถึงบ้านก็เหนื่อยเต็มที ถึงจะไม่ได้ไกลอะไร แต่การใช้สายตาตลอดทั้งวันทำให้หล่อนล้าไม่น้อย พอกลับถึงบ้านก็เข้านอนเลย ยังไม่ทันได้พบหน้าน้องสาวหรือแม้แต่คุณยายน้อย จะมีก็เพียงสายตาแปลกๆ ที่ป้าทิวามองหล่อนเมื่อเช้า แต่ก็ไม่คิดว่าจะมีปัญหาตามมาให้ปวดหัวถึงที่นี่

    ลำพังนภาสิริมาหาถึงที่ทำงานก็เป็นอันว่าไม่ธรรมดาแน่ แต่ทั้งหมดที่น้องเล่ามา ถึงกับทำให้หล่อนเหงื่อแทบตกทีเดียวทั้งที่ในห้องทำงานก็ติดเครื่องปรับอากาศเย็นเฉียบ

    ก็พี่ชนาเอาแต่ทำแต่งาน งาน งาน ไม่รู้จักดูแลตัวเอง ไม่ยอมมีแฟนกะเขาสักที คุณยายน้อยถึงได้ห่วงกลัวว่าพี่ชนาจะขึ้นคานน่ะสิ นาภสิริพูดออกมาตรงๆ ก่อนจะรีบบอก สิริไม่ได้ว่าพี่ชนานะ แต่ใครๆ เขาก็พูดกันอย่างนี้ทั้งนั้น

    คนทำแต่งานมองหน้าน้องสาวอย่างเหนื่อยหน่ายในหัวใจ แต่ยังต้องเอ่ยปากถาม

    ตกลงเธอจะมาพูดเรื่องอะไรกันแน่ พี่ชักจะงงแล้วนะ เรื่องเธอจะแต่งงานรึเรื่องพี่ไม่มีแฟนกันแน่ เอาสักอย่างสิ

    ก็ทั้งสองเรื่องนั่นล่ะ พี่ชนายังไม่เข้าใจอีกหรอ เพราะพี่ชนาไม่ยอมมีแฟน คุณยายน้อยถึงกลัวพี่ชนาจะขึ้นคาน แล้วก็เลยไม่ยอมให้สิรีแต่งงานกับพี่พุทธน่ะสิ

    พี่ว่าไม่เห็นจะเกี่ยวกันตรงไหน เธอพร้อมเธอก็แต่งไปสิ

    สิรีเรียนคุณยายแล้ว แต่ท่านไม่ฟังเลย

    คุณยายน้อยเนี่ยนะไม่ฟังเธอสิรี พูดผิดรึเปล่า ร้อยวันพันปีมีแต่คุณยายน้อยตามใจเธอทุกอย่าง สุชนาร้องถามด้วยความประหลาดใจเสียเต็มประดา หลานรักทั้งคน

    หลานรักอะไรกันล่ะ คนถูกตามใจทำหน้าเซ็งสุดขีด ถ้าสิรีเป็นหลานรักจริงๆ ป่านนี้คุณยายคงยอมให้พี่พุทธพาญาติผู้ใหญ่มาสู่ขอโน้นแล้ว แต่เปล่าเลย คุณยายยืนยันว่าถ้าพี่ชนายังไม่แต่ง สิรีก็แต่งงานไม่ได้เหมือนกัน ไม่งั้นคุณยายจะตัดสิรีออกจากกองมรดก จะยกสมบัติให้พี่ชนาคนเดียว

    เฮ้ย... คนจะได้มรดกร้องเสียงดังผิดมาดคุณครู แต่น้องสาวยังตีหน้างอใส่

    ไม่ต้องมาร้องเลย คุณยายน้อยพูดอย่างนั้นจริงๆ ด้วย แล้วทีนี้รู้รึยังล่ะว่าใครเป็นหลานรักของคุณยาย นภาสิริว่าด้วยน้ำเสียงห้วนจัด แม่กับป้าทิวายังพูดไม่ออกเลย ขนาดเมื่อคืนป้าทิวาไปกล่อมคุณยายทั้งคืน คุณยายยังไม่ยอม บอกว่าถ้ามีใครโผล่มาขอสิรี คุณยายจะไล่ตะเพิดให้ดู

    ไม่จริงมั้ง คุณยายไม่ใช่คนแบบนั้น สุชนาเอ่ยค้าทั้งที่รู้ดีว่าตัวเองคิดผิด

    บทคุณยายน้อยจะคัดค้านขึ้นมา ใครจะเปลี่ยนความคิดของท่านได้เสียที่ไหน

    จริงไม่จริงมันก็เกิดขึ้นแล้ว เขารู้กันทั้งบ้าน มีแต่พี่ชนานั่นล่ะ หนีมาทำงานแต่เช้าไม่รู้ร้อนรู้หนาวอยู่คนเดียว

    เธอว่าพี่อีกแล้วนะสิรี

    น้ำเสียงเคืองขุ่นของพี่สาวทำให้นภาสิรีสำนึกได้เล็กน้อย หล่อนตีหน้าเจื่อนก่อนจะพูดต่อ

    ขอโทษค่ะพี่ชนา ก็สิรีกำลังกลุ้มนี่นา คนจะแต่งงานควรจะมีความสุขไม่ใช่หรอ ทำไมสิรีต้องมาเจอกับเรื่องบ้าบอพวกนี้ด้วยนะ

    สุชนาไม่มีคำตอบให้น้องสาว วัดจากสีหน้าทุกข์ร้อนของน้องก็พอจะเข้าใจได้ว่าเป็นเรื่องใหญ่โตมากเพียงใดสำหรับนภาสิริ ปกติร่าเริงยิ้มแย้มเสมอ ถ้าลองร้อนใจถึงเพียงนี้ย่อมนับว่าไม่ธรรมดา และพี่สาวอย่างเธอก็ควรจะทำอะไรสักอย่าง...

    แล้วเธอจะให้พี่ช่วยยังไง จะให้พี่ไปพูดกับคุณยายให้ไหม

    คงจะสำเร็จหรอกนะพี่ชนา นภาสิริว่าเสียงเบื่อหน่าย เมื่อคืนป้าทิวาพูดกับคุณยายทั้งคืนยังไม่สำเร็จเลย แถมยังถูกคุณยายตอกกลับมาอีก

    อะไรกัน ป้าทิวาน่ะหรือ ถูกคุณยายต่อว่า

    ก็ไม่เชิงต่อว่าหรอกพี่ชนา แต่มันเหมือนกับว่าเป็นความผิดของคุณยายที่ยอมให้แม่ราตรี ลูกสาวคนเล็กแต่งงานออกเรือนไปก่อนคนโต ป้าทิวาถึงได้ขึ้นคาน ทีนี้คุณยายเลยกลัวว่าประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยกับเราสองคนพี่น้องอีกน่ะสิ หัวเด็ดตีนขาดถึงได้ไม่ยอมให้สิรีแต่งงานก่อนพี่ชนา ไม่อยากทำผิดซ้ำสอง เจอเข้าแบบนี้ป้าทิวาก็พูดไม่ออก ไปไหนไม่ถูกเลย

    น่าสงสารป้าทิวา หล่อนว่าด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อย

    ป้าทิวาเป็นญาติผู้ใหญ่ที่น่านับถือที่สุด นอกจาจะใจดีแล้วยังเป็นที่พึ่งให้หลานสาวสองคนได้เสมอ ถึงจะจู้จี้ขี้บ่นไปบ้าง แต่ป้าทิวาก็ยังเป็นที่รักของทุกคน

    ถ้าจะติว่าการใช้ชีวิตอยู่ตัวคนเดียวโดยที่ไม่เคยแต่งงานถือเป็นความผิดพลาดในชีวิต หล่อนก็สงสารป้าทิวาจนหมดใจ หล่อนไม่รู้หรอกว่าป้าทิวาเคยมีแฟนไหม แต่ไม่เคยได้ยินป้าพูดถึงเรื่องความรักเลยสักครั้ง พอเซ้าซี้ถามมากๆ เข้า ป้าก็จะพูดแค่ว่าอยู่คนเดียวดีที่สุด อย่าหาเรื่องใส่ตัวเองเลย สุดท้ายสองสาวก็เลยเบื่อและเลิกถามไปเอง

    สิรีก็สงสาร แต่จะให้ทำยังไงได้ล่ะ ป้าทิวาอายุตั้งปูนี้แล้วจะให้หาแฟนให้ตอนแก่มันก็ยังไงๆ อยู่นะ

    สุชนาฟังแล้วก็อดยิ้มขันออกมาไม่ได้ บ้าน่า เธอนี่ชักจะเพี้ยนไปใหญ่แล้ว

    อ้าว ก็คุณยายว่าเป็นความผิดของตัวเอง ฝังใจมาจนถึงทุกวันนี้ เราก็ต้องแก้ที่ต้นเหตุจริงไหม หล่อนว่าเสียงร่าเริงขึ้นมา กับป้าทิวาคงจะสายไปแล้วล่ะ หาแฟนเอาป่านนี้คงจะยาก จะเหลือก็แต่...

    น้องสาวไม่ได้พูดต่อ แต่สองตามองพี่สาวเขม็ง สองมือยังบีบมือกันไว้เบาๆ

    ประสาทไปใหญ่แล้ว เธอจะให้พี่มีแฟนเนี่ยนะสุชนาร้องเสียงตกใจ จะดึงมือหนี แต่น้องสาวไม่ยอม

    ป้าทิวากับแม่ช่วยกันพูดจนคุณยายน้อยยอมถอยให้นิดนึง

    ถอย

    ก็ง่ายๆ เลย ไม่ต้องรอให้พี่ชนาแต่งงานก่อนก็ได้ แต่อย่างน้อยพี่ชนาควรจะมีแฟนเป็นตัวเป็นตนเสียก่อน คุณยายถึงจะสบายใจยอมให้สิรีแต่งงานได้

    คนที่ควรจะมีแฟนฟังแล้วได้แต่อ้าปากค้างกับเงื่อนไขพิลึกพิลั่น พูดอะไรไม่ออกเป็นชั่วอึดใจ

    ทีนี้พี่ชนาบอกสิรีมาสิว่าพี่มีใครบ้างไหม

    คนเป็นพี่ส่ายหน้า

    มีใครมาจีบพี่บ้างรึเปล่า

    หล่อนส่ายหน้าอีกครั้งแรงกว่าเดิมอีกหน่อย

    งั้นพี่แอบไปปิ๊งใครบ้างไหม ใครก็ได้ แอบรักเขาก็ยังดีนภาสิริถามอย่างมีความหวัง

    เธอจะบ้ารึเปล่าสิรี ใจคอเธอจะหาแฟนให้พี่จริงๆ รึไงหล่อนถามอย่างอ่อนใจเต็มทีแต่คำตอบนี่สิ

    ก็ใช่น่ะสิ

    บ้าไปใหญ่แล้ว มันจะเป็นไปได้ยังไง พี่เป็นคนนะ ไม่หุ่นยนต์จะสั่งให้รักใครชอบใครภายในสามวัดเจ็ดวันได้ยังไง

    ก็รู้อยู่แล้วล่ะน่า น้องสาวยอมรับหน้าตาเฉย สิรีถึงได้ถามก่อนนี่ไงว่าพี่ชนามีใครบ้างรึเปล่า ว่าไงตอบมาเร็วๆ

    ไม่มี เธอก็เห็นอยู่ว่าพี่ทำแต่งาน

    ช่าย แล้วก็เชยมากด้วยหน้าตาแบบนี้ใคร๊จะมาจีบ น้องสาวว่ายิ้มๆ ทำน้ำเสียงล้อเลียน

    เชยหรือ... คนเชยได้แต่ถามตัวเอง หล่อนเชยจนไม่มีใครกล้ามาจีบเชียวหรือ... แต่แล้วก็ต้องส่ายหน้ากับตัวเองเบาๆ ไม่หรอกน่า หล่อนจะเชยหรือไม่เชยก็ไม่มีใครเข้ามาจีบอยู่ดีนั่นล่ะ

    อยู่อย่างนี้ก็สบายดีอยู่แล้ว ไม่เห็นจะอยากมีใครเลย

    ไร้สาระน่าสิรี พี่ไม่ได้อยากมีแฟนซะหน่อย

    พี่ชนาจะใจร้าย ไม่อยากให้สิรีแต่งงานเลยหรอคะ

    คำถามกึ่งเว้าวอน กึ่งผิดหวังของน้องสาวถึงกับทำให้เธอนิ่งงันไปชั่วอึดใจ ก่อนจะตอบเสียงเบา

    เธอก็รู้ว่ามันไม่ใช่อย่างนั้น พี่อยากเห็นเธอมีความสุขพอๆ กับทุกคนนั่นล่ะ

    งั้นก็ช่วยอะไรหน่อยได้ไหมพี่ชนา

    อะไร หล่อนถามทั้งที่รู้ดีว่านี่มันเข้าเนื้อชัดๆ

    หาแฟนสักคนได้ไหม ขอร้องล่ะ

    เธอพูดเหมือนแฟนมันหากันง่ายๆ อย่างนั้นล่ะ ไปซื้อจากตลาดได้อะไรอย่างนี้

    นภาสิริทำหน้าเมื่อยใส่ ไม่ชอบคำถามของพี่สาวเอาเสียเลย แต่ยังต้องฝากความหวังไว้อย่างไม่มีทางเลือก

    งั้นอย่างน้อยก็ช่วยทำงานให้น้อยลง แล้วก็คบหาผู้คนให้มากขึ้นหน่อยได้ไหม

    เธออยากจะพูดอะไรกันแน่สิรี

    สิรีแค่อยากให้พี่ชนามีแฟน

    พี่รู้แล้ว แต่เธอก็รู้นี่ พี่ไม่ได้อยากมีแฟน

    ทำเพื่อน้องสาวบ้างไม่ได้หรอคะพี่ชนา สิรีอยากแต่งงานนะ แล้วสิรีก็ไม่อยากให้ทำคุณยายไม่สบายใจด้วย ไม่งั้นสิรีคงจะทำเป็นไม่สนใจคุณยาย ยอมให้พี่พุทธจัดงานแต่งงานไปแล้ว

    พี่รู้ แต่เรื่องนี้พี่ไม่รู้จะช่วยเธอยังไงดีสิรี

    งั้นเอางี้ดีไหม น้องสาวเสนอด้วยน้ำเสียงสดใสขึ้นทันตาเห็น พรุ่งนี้เย็นไปทานข้าวกันนะ พี่พุทธจะชวนเพื่อนๆ มาเยอะเลย พี่ชนาจะได้พบเพื่อนใหม่ๆ บ้าง

    คนเพื่อนน้อยมองน้องสาวอย่างไม่ไว้ใจก่อนจะถามด้วยเสียงยานคาง

    นี่เธอคงไม่ได้คิดจะจับคู่ให้พี่กับเพื่อนของแฟนเธอหรอกนะ

    โอ๊ย ทำไมถึงคิดมากอย่างนี้ล่ะพี่ชนา สิรีบอกตามตรงนะ ถ้ามีผู้ชายดีๆ สักคนมาจีบพี่ชนา หรือว่าพี่ชนาไปแอบชอบใครนะ สิรีนี่ล่ะจะเป็นกามเทพให้พี่สิรีเองรับรองงานนี้สมหวังแน่นอน เชื่อมือสิรีได้เลย

    คนเป็นพี่ฟังแผนการของน้องสาวแล้วแทนที่จะดีใจแต่เปล่าเลย หล่อนถึงกับร้องออกมาดังๆ

    พี่อยากจะบ้าตาย

    น่าพรุ่งนี้ไปด้วยกันนะ

    ไม่ได้หรอก พี่ต้องทำงานนะ

    เลิกงานแล้วค่อยไปก็ได้ โรงเรียนประถมเลิกบ่ายสามครึ่งไม่ใช่หรอทันถมถืด

    มากไปแล้วนะสิรี ช่วงนี้พี่งานยุ่งเธอก็รู้ มีข้อสอบต้องตรวจอีกตั้งมาก

    พี่ชนานั่นล่ะมากไป นภาสิริเถียงเสียงดัง ไม่รู้ล่ะ สิรีจะมารับตอนบ่ายสามครึ่ง แล้วก็ไม่ใช่เท่านี้นะ พูดถึงตรวจการบ้านเลยนึกขึ้นมาได้

    สุชนามองหน้าน้องสาวอย่างเหนื่อยหน่าย ขี้เกียจจะคร้านว่าเป็นข้อสอบไม่ใช่การบ้านระหว่างที่น้องสาวลุกขึ้นยืนหันรีหันขวางมองไปรอบกาย ก่อนจะไปหยิบเศษกระดาษที่พี่สาวคัดทิ้งออกมาแผ่นหนึ่ง กลับด้านหลังของกระดาษขนาดเอสี่ที่ยังว่างเปล่าอยู่วางให้ตรงหน้า

    อะไร

    สิรีให้เวลาพี่ชนาหนึ่งคืน ช่วยไปเขียนมาทีว่าชอบผู้ชายแบบไหน ชอบทำนักไม่ใช่รึไง การบ้านน่ะ

    เฮ้ย จะบ้าหรอ

    ไม่มีอะไรบ้าไปกว่านี้อีกแล้วล่ะ เธอว่ายิ้มๆ สิรีบอกแล้วไง สิรีจะหาแฟนให้พี่ชนาเอง

    แต่...

    แต่พี่ชนาไม่อยากมีแฟน รู้แล้วน่าจำได้หรอก

    แล้วมาคาดคั้นพี่ทำไม

    ใจคอพี่ชนาจะไม่ช่วยสิรีบ้างรึไง แค่มีแฟนเองนะไม่ใช่ให้ไปฆ่าใครที่ไหนไม่เห็นต้องทำหน้าซังกะตายขนาดนั้นเลย ช่วยกันหน่อยเถอะนะพี่ชนา ขอร้องล่ะ สิรีอยากแต่งงานจะแย่อยู่แล้ว

    พูดจาน่าเกลียด นี่ถ้าคุณยายน้อยมาได้ยินเข้า...

    ไม่ต้องเปลี่ยนเรื่องเลย สีรีขอแค่นี้แหละช่วยกันหน่อยได้ไหม

    จบคำนภาสิริก็วางกระดาษพร้อมปากกาลงตรงห้าพี่สาว ให้เห็นว่าที่ขอน่ะมันมีเท่านี้เอง ไม่เห็นจะสลับซับซ้อนหรือยุ่งยากตรงไหน

    สุชนาถิอนหายใจดังเฮือกก่อนจะบอกเสียงเนือยจัด

    ก็ได้ แต่พี่ไม่รับประกันนะว่า...

    พี่สาวพูดไม่ทันจบนภาสิรีก็รีบบอกทันที

    เอาน่า ขอแค่พี่ชนาช่วยกันบ้างก็พอ รับรองไม่มีเคืองกันทีหลัง

    สุชนามองหน้าน้องสาวอย่างจนใจก่อนจะถามซ้ำอีกครั้ง

    แน่นะ

    สัญญาเลย หล่อนรับคำหนักแน่น ทีนี้ก็ไปเขียนมาได้แล้ว อยากได้ผู้ชายแบบไหน รับรองกามเทพนามว่านภาสิริคนนี้จะจัดการให้เอง ไม่พอใจยินดีหาให้ใหม่จนกว่าสิรีจะได้แต่งงาน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×