b_bigbike
ดู Blog ทั้งหมด

แนวทางและวิธีการเลี้ยงหนูแฮมสเตอร์

เขียนโดย b_bigbike


 

สำหรับหนูแฮมเตอร์ก็เป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่คนนิยมเลี้ยงกันอย่างแพร่หลาย วันนี้เราจะมาแนะนำวิธีการเลี้ยงการเลี้ยงหนูแฮมเตอร์ เริ่มตั้งแต่การเลือกซื้อหนูแฮมเตอร์ การสร้างบ้านให้พวกมัน การให้อาหารหนูแฮมเตอร์ รวมถึงการออกกำลังกายและการทำความสะอาดกรง ก่อนเลี้ยงหนูแฮมเตอร์สำหรับมือใหม่แล้วควรจะศึกษารายละเอียดต่างๆเกี่ยวกับสายพันธุ์สัตว์เลี้ยง และวิธีการให้เข้าใจเสียก่อน หากมั่นใจว่าสามารถเลี้ยงได้จึงค่อยหาซื้อมาเลี้ยง จะเป็นการดีที่สุด

สำหรับหนูแฮมเตอร์ก็มีหลากหลายสายพันธุ์ให้เลือก โดยจะแบ่งเป็น2 ประเภท คือ แฮมสเตอร์ใหญ่ คือ พันธุ์ Syrian และแฮมสเตอร์แคระ คือ พันธุ์ Winterwhite , Campbells , Roborovski และ Chinese โดยพวกมันมีอายุขัยเฉลี่ยที่ประมาณ 2-3 ปี เท่านั้น ถือว่าสั้นมาก พวกมันมักออกหากินเวลากลางคืนและนอนหลับในเวลากลางวัน ผู้เลี้ยงควรหมั่นเอาใจใส่และให้อาหารในเวลาที่เหมาะสม และอย่าลืมที่จะให้พวกมันออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เราไปดูวิธีการเลี้ยงหนูแฮมเตอร์กันดีกว่าว่ามีขั้นตอนอย่างไรบ้าง

สายพันธุ์หนูแฮมเตอร์

  • Syrian hamster  หรือที่รู้จักกันในชื่อ golden หรือ teddy bear hamster เป็นสายพันธุ์ที่นิยมกันมากที่สุด เป็นหนูที่ดูแลง่าย เหมาะมากสำหรับเด็ก แต่ต้องเลี้ยงแยกกันกับแฮมสเตอร์สายพันธุ์อื่นๆ และเป็นหนูที่กินอาหารตอนกลางคืน
  • Dwarf Russian Campbell hamster ต่างกับ Syrian hamster ตรงที่เป็นสัตว์สังคม เลี้ยงไว้เป็นกลุ่มจะดีกว่า ถือเป็นสัตว์เลี้ยงที่ดี แต่ดูแลไม่ค่อยง่ายเท่าไหร่ และจะร่าเริงเป็นพิเศษในตอนกลางวัน
  • Dwarf Winter White Russian hamster คล้ายกันกับญาติใกล้เคียงอย่าง Dwarf Russian Campbell ทั้งในเรื่องอารมณ์และพฤติกรรมการกินอยู่ โดยขนาดตัวจะเล็กกว่าหน่อยและค่อนข้างปราดเปรียว ที่สำคัญคือชอบแว้งกัดเวลาเครียดๆ เพราะงั้นเลยไม่ค่อยเหมาะกับเด็กเล็กเท่าไหร่ แต่ก็น่ารักและร่าเริงพอจะเป็นสัตว์เลี้ยงที่ดีของเด็กโตหรือผู้ใหญ่ได้
  • Roborovski Dwarf Hamster เพราะมีขนาดเล็ก (1 นิ้ว - 2.5 นิ้ว) และมีนิสัยคล่องแคล่วว่องไว แฮมสเตอร์พันธุ์นี้เลยดูแลไม่ค่อยง่ายเท่าไหร่ เป็นพวกสัตว์สังคม อารมณ์ดี และกินอาหารตอนกลางคืน
  • Chinese Hamster หรืออีกชื่อคือ Striped Hamster เป็นแฮมสเตอร์ที่ค่อนข้างขี้อาย แต่ก็ดีตรงที่ดูแลง่าย เป็นพันธุ์ที่ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร และพาลจะหงุดหงิดก้าวร้าวเอาได้ถ้าเผลอเลี้ยงไว้ด้วยกันหลายตัว พันธุ์นี้ก็กินอาหารกลางคืนเหมือนกัน

วิธีการเลี้ยงหนูแฮมสเตอร์

การซื้อหนูแฮมสเตอร์

 
1. หาแหล่งจำหน่ายหนูแฮมสเตอร์. ถ้าต้องการหนูแฮมสเตอร์ขนปุยก็หาได้ตามร้านสัตว์เลี้ยง, แหล่งเพาะพันธุ์หนูแฮมสเตอร์ (ถ้าคุณต้องการเจาะจงสีขนของหนูแฮมสเตอร์) หรือไปรับเลี้ยงจากศูนย์พักพิงสัตว์ หนูแฮมสเตอร์มีราคาไม่แพงมากถ้าเทียบกับเงินที่คุณจะต้องใช้อีกมากสำหรับของเล่น, กรง และการดูแลสุขภาพของพวกมัน
 
2. เลือกหนูแฮมสเตอร์ที่แข็งแรง. หนูแฮมสเตอร์ที่สุขภาพดี ใบหูจะต้องสะอาด, ก้นสะอาดและแห้ง, พุงเล็กๆ กลมๆ, ขนไม่แหว่งหรือจับตัวเป็นก้อน (ยกเว้นต่อมกลิ่นที่สะโพก ที่หลายๆ คนเข้าใจว่าเป็นแผลหรือตกสะเก็ด), ดวงตาใส และสุขภาพฟันแข็งแรง ไม่ยาวเกินไปหรือโค้งงอขึ้นมา
  • ถ้าขนของหนูแฮมสเตอร์บริเวณสะโพกเปียก คงต้องเหนื่อยกันหน่อย นี่เป็นสัญญาณของ “โรคหางเปียก” หรือโรคจากเชื้อแบคทีเรียที่แพร่กระจายอย่างรวดเร็วโดยการสัมผัสกับหนูแฮมสเตอร์ตัวอื่น ขนของมันจะต้องแห้งและสะอาด มันมียาฆ่าเชื้อสำหรับโรคหางเปียก แต่ตอนนี้คุณกำลังเลือกซื้อหนูแฮมสเตอร์อยู่ ก็พยายามเลือกตัวที่แข็งแรงเถอะนะ
3. พิจารณาขนาดตัวหนูแฮมสเตอร์ที่ต้องการ. พันธุ์ซีเรียนโตเต็มวัยอาจมีขนาดได้ถึง 5-7 นิ้ว (12.7-17.8 ซม.) หนูแฮมสเตอร์แคระพันธุ์แคมป์เบลและวินเทอร์ไวท์จะมีความยาว 3-4 นิ้ว (7.6-10.1ซม) หนูแฮมสเตอร์จีนมีขนาดความยาวได้ถึง 4-5 นิ้ว (10.1-12.7ซม.) ส่วนพันธุ์โรโบรอฟสกี้โตเต็มวัยส่วนน้อยมากที่จะมีความยาวถึง 3 นิ้ว (7.6ซม.)
 
4. เลือกสีขนแฮมสเตอร์ที่อยากได้. พันธุ์ซีเรียนส่วนใหญ่จะขนสีทอง แต่ก็มีสีอื่นอีกหลายสีให้เห็นเหมือนกัน หนูแฮมสเตอร์แคระแคมป์เบลโดยปกติแล้วจะสีออกน้ำตาลเทาโดยมีเส้นสีดำผ่าหลัง ท้องจะมีสีขาว แฮมสเตอร์แคระวินเทอร์ไวท์จะมีสีขาว มีสีม่วงหรือเทาๆ แต้มอยู่ แฮมสเตอร์แคระโรโบรอฟสกี้จะสีน้ำตาลแบบเม็ดทราย ท้องสีขาว ส่วนหนูแฮมสเตอร์จีนจะสีน้ำตาลเข้ม ท้องสีขาวงาช้าง
 
5. สัมผัสหนูแฮมสเตอร์ด้วยมือ. ถ้าพนักงานหรือคนเพาะพันธุ์ (ขึ้นอยู่กับว่าคุณไปที่ไหน แน่หล่ะ) ทำให้ได้ ก็บอกให้เขายื่นมือลงไปในคอกหนูแฮมสเตอร์ พยายามอย่าซื้อหนูแฮมสเตอร์ที่ชอบกัดหรือข่วนแรงๆ แล้วก็อย่าซื้อตัวที่ขี้กลัวจนเกินไปด้วย ก็ตัวที่ชอบมุดซ่อนตัวและไม่โผล่มาให้เห็นอีก ตัวเลือกที่ดีคือตัวที่ช่างสงสัย ที่มาดมๆ แต่ไม่ปีนขึ้นมาที่มือคุณ ตัวที่ขี้สงสัยและงับมือคุณเบาๆ เพื่อทดสอบ (เหมือนที่ลูกหมาบางตัวชอบทำ) ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดี

สร้างบ้านใหม่ให้แฮมสเตอร์ของคุณ

1. เลือกกรงที่ใช่. หนูแฮมสเตอร์จะอยู่อย่างมีความสุขในกรงที่มีพื้นที่อย่างน้อย 600 ตารางนิ้ว โดยที่ขั้นต่ำควรมีพื้นที่ 450 ตารางนิ้ว หรือ 30 นิ้ว คูณ 15 นิ้ว มันควรจะสูง 12 นิ้วขึ้นไปและสามารถใส่วงล้อขนาดพอประมาณ ถ้าเป็นพันธุ์ Syrian ควรสูง 10-12 นิ้วและ 8 นิ้วสำหรับพันธุ์แคระ กรงตู้กระจก (ตราบใดที่มันมีขนาดมากกว่าหรือเท่ากับพื้นที่ขั้นต่ำ)จะเป็นบ้านที่เยี่ยมยอดสำหรับพวกมันได้ ข้อเสียของกรงชนิดนี้คือการระบายอากาศไม่ดี ดูให้แน่ใจว่าฝาปิดมีตาข่ายช่องๆสำหรับให้อากาศผ่านเข้ามา
  • กรง Detolf ของอิเกียเป็นตัวเลือกที่ดี อีกทางเลือกหนึ่งก็คือ "กระบะทรายแมวที่มีฝาเป็นกรงซี่ๆ" จะมีการระบายอากาศแบบธรรมชาติที่ดี
  • อย่าให้กรงอยู่ตรงจุดที่โดนแสงอาทิตย์โดยตรงเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นแฮมสเตอร์ของคุณอาจจะถูกย่าง เนื่องจากตู้กระจกรวมแสงอาทิตย์เข้ามา ตู้กระจกจะมีราคาแพงมากถ้าไม่ใช่ของมือสอง
  • คุณยังสามารถซื้อกรงซี่ๆ ที่มีการระบายอากาศที่ดีเยี่ยมได้อีกด้วย ให้แน่ใจว่ามันใหญ่พอ
  • หลายคนเลือกทำกรงเอง ซึ่งดีต่อเงินในกระเป๋า หนึ่งในกรงทำเองที่แพร่หลายและมีราคาถูกมากคือใช้กรงถังขยะ ซึ่งทำจากถังขยะขนาดใหญ่ แล้วหาตาข่ายมาติดกับฝา
2.วางกรงในที่ที่ปลอดภัย. ดูให้ดีว่ามีการระบายอากาศที่มากพอ อย่าตั้งกรงไว้ตรงหน้าต่างร้อนๆ หาที่ที่เงียบและไม่มีสัตว์เลี้ยงอื่นๆ มาป้วนเปี้ยน เช่น หมาและแมว มันจะช่วยลดความเครียดของหนูแฮมสเตอร์ คุณไม่ควรให้หมาหรือแมวมายุ่งกับหนูแฮมสเตอร์เด็ดขาด
3. ดูให้มั่นใจว่าหนูแฮมสเตอร์จะหนีไปไหนไม่ได้. คุณอาจจะทึ่งในความฉลาดของหนูแฮมสเตอร์เรื่องการหนีออกจากกรง ดูให้ดีว่าปิดรูโหว่ทั้งหมดดีแล้ว และไม่มีชิ้นส่วนที่หละหลวมหรือชิ้นส่วนที่แฮมสเตอร์เปิดเองได้ ถ้าเป็นกรงแบบซี่ๆ ก็ต้องมั่นใจว่าหนูแฮมสเตอร์ของคุณลอดออกมาไม่ได้หรือไม่เข้าไปติดอยู่ระหว่างซี่ ระยะห่างระหว่างซี่กรงหนูแฮมสเตอร์ไม่ควรจะห่างกันมากกว่า 0.7 ซม.
4. เข้าใจสัญชาตญาณเรื่องเขตแดนของแฮมสเตอร์. หนูแฮมสเตอร์พันธุ์ซีเรียนต้องอยู่เดี่ยวๆ มันจะเริ่มหวงอาณาเขตตอนอายุประมาณ 5-8 สัปดาห์ มันจะกัดกันจนอีกตัวหนึ่งตายถ้าถูกจับให้อยู่ด้วยกัน แฮมสเตอร์แคระอยู่รวมกันหลายๆ ตัวได้ ตราบเท่าที่มันอยู่ด้วยกัน ผูกพันกันมาตั้งแต่เด็กๆ
  • หนูแฮมสเตอร์แคระทั้ง3พันธุ์ (แคมป์เบลรัสเซียน, วินเทอร์ไวท์, และโรโบรอฟสกี้) อยู่ตัวเดียวหรือหลายๆ ตัวก็ได้ถ้ามันได้ทำความรู้จักกันอย่างเหมาะสม อย่าให้หนูแฮมสเตอร์ต่างสายพันธุ์กันอยู่ร่วมกัน ไม่ควรจะให้คู่ที่ผสมพันธุ์กันอยู่ด้วยกันตลอดไป เพราะมันอาจจะกัดกันและทำให้อีกตัวบาดเจ็บได้
5. ทำวัสดุรองพื้นกรงให้หนูแฮมสเตอร์. วัสดุรองพื้นกรงควรหนาจากพื้นอย่างน้อย 6 นิ้ว อาจแลดูเยอะ แต่แฮมสเตอร์ในธรรมชาติจะขุดอุโมงค์ขนาดใหญ่มาก แฮมสเตอร์หลายตัวจะไม่ขุดหลุมถ้ารองพื้นไม่หนาพอ ดังนั้นให้แน่ใจว่ารองพื้นหลายชั้น ต่อให้ดูเหือนมันไม่สนใจขุด ก็ทิ้งไว้อย่างนั้นเผื่อเอาไว้
  • ขี้เลื่อยจากต้นสนและต้นซีดาร์ไม่ดีต่อสุขภาพแฮมสเตอร์ จะทำให้มันมีปัญหาเรื่องระบบทางเดินหายใจและในขี้เลื้อยอาจจะมีน้ำมันที่อันตรายผสมอยู่ อย่างไรก็ตามขี้เลื่อยจากไม้แอสเพนไม่มีน้ำมันที่อันตรายใดๆ และปลอดภัยกับหนูแฮมสเตอร์อย่างแน่นอน
  • ห้ามใช้ฝ้ายมาเป็นวัสดุรองพื้นเด็ดขาด นั่นเป็นสิ่งที่อันตรายสุดๆ เพราะพวกมันย่อยไม่ได้และเส้นใยของฝ้ายอาจไปพันแขนขาพวกมัน ไปขัดขวางระบบไหลเวียนในร่างกายจนทำให้หนูแฮมสเตอร์ตายได้

การให้อาหารและน้ำหนูแฮมสเตอร์

1. ให้อาหารหนูแฮมสเตอร์ทุกวัน. เพื่อให้หนูแฮมสเตอร์ของคุณแก้มตุ่ยทั้งสองข้าง คุณจะต้องให้อาหารมันอย่างเพียงพอทุกวัน สำหรับพันธุ์ซีเรียนให้ 15 กรัม (1/2 ออนซ์) หรือ 8 กรัม (1/4 ออนซ์) สำหรับแฮมสเตอร์แคระ คุณต้องวางอาหารที่สดใหม่ไว้ในชามทุกวัน หนูแฮมสเตอร์เป็นนักสะสม ดังนั้นมันจะสะสมอาหารซ่อนไว้ด้วย การที่คุณนำอาหารที่ซ่อนไว้ไปทิ้งจะทำให้มันเครียดได้ ดังนั้นถ้าคุณกังวลว่าอาหารที่มันสะสมไว้จะเน่าเสีย ก็ให้ทิ้งไปแล้วเอาของใหม่มาวางตรงที่เดิมที่มันซ่อนไว้เป๊ะๆ
  • เลือกชามใส่อาหารที่เป็นเครื่องเคลือบดินเผาหรือโลหะ ซึ่งเป็นวัสดุที่ดีที่สุดสำหรับชามอาหาร เพราะว่าหนูแฮมสเตอร์จะแทะชามพลาสติกได้ง่ายๆ เลย
2. ต้องมีน้ำให้ดื่มตลอดเวลา. หนูแฮมสเตอร์ไม่ได้ดื่มน้ำเยอะขนาดนั้นหรอก แต่ควรจะมีน้ำให้มันดื่มเมื่อรู้สึกหิวน้ำ อย่าใส่น้ำไว้ในชาม เพราะมันสกปรกง่ายมากหรือหนูแฮมสเตอร์อาจจะทำหกได้ ให้ใช้ขวดน้ำหรือที่กินน้ำสำหรับแฮมสเตอร์แทน ถ้าเป็นไปได้ให้เปลี่ยนน้ำทุกวันเพื่อความสะอาด หรือเปลี่ยน 3 วัน 1 ครั้ง เป็นอย่างมาก ขวดน้ำล้างได้โดยเอาข้าวสารใส่กับน้ำเล็กน้อยลงไปในขวด เขย่าแรงๆ เมล็ดข้าวจะขัดคราบตะไคร่ออก จำไว้ว่าต้องเทข้าวออกก่อนเติมน้ำลงไปใหม่
 
3. ใช้อาหารเม็ดรีหรือเป็นก้อน. การให้มันกินเมล็ดธัญพืชรวมจะทำให้พวกมันเรื่องมาก เลือกกินแต่ของที่อร่อยแต่คุณประโยชน์น้อยกว่า ให้มันกินอาหารเม็ดเป็นหลักและให้เมล็ดพืชเป็นอาหารเสริม ต้องให้หนูแฮมสเตอร์กินอาหารเม็ดในปริมาณเหมาะสมก่อนที่จะให้มันกินเมล็ดพืช
 
4. โรยอาหารไว้ทั่วๆ กรงและซ่อนไว้ในของเล่นและอุโมงค์ด้วย หนูแฮมสเตอร์ต้องค้นหาอาหารด้วยตัวเอง ถ้าใส่อาหารไว้ในชาม มันจะกลายเป็นหนูอ้วนน้ำหนักเกินและขยับร่างกายน้อยลง
 
5. หลีกเลี่ยงอาหาร “คน”. สิ่งนี้รวมไปถึงพวกลูกอม, พาสต้า, เนื้อสัตว์/เนื้อปลาดิบ, น้ำตาลและของหวาน หนูแฮมสเตอร์สามารถเป็นโรคเบาหวานได้ อาหารที่คุณไม่คิดว่ามันน้ำตาลสูงอาจจะหวานมากเกินไปสำหรับหนูแฮมสเตอร์ เป็นอันตรายต่อสุขภาพของพวกมัน
 
6. ให้รางวัลพวกมันบ้าง. ควรให้ขนมพวกมันเป็นประจำอาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง ของโปรดของหนูแฮมสเตอร์ได้แก่ แครอท แตงกวา แอปเปิล กล้วย พริกหวาน ผักกาด ขึ้นฉ่าย คะน้า กะหล่ำ และต้นหญ้าแดนดิไล รวมไปถึงผักผลไม้หลากหลายชนิด ผักบางอย่างข้างต้นสามารถให้แฮมสเตอร์กินได้ทุกวัน ยังมีขนมหนูแฮมสเตอร์สามารถหาได้ตามร้านขายสัตว์เลี้ยงทั่วไป เช่น โยเกิร์ตชิพ, ช็อคโกแลตชิพสำหรับหนูแฮมสเตอร์ หรือแท่งไม้ซึ่งพวกมันชอบแทะ ผักและผลไม้บางชนิดเป็นอันตรายต่อหนูแฮมสเตอร์ หัวหอม อัลมอนด์ ถั่ว มันฝรั่ง ผลไม้ที่มีเมล็ด อะโวคาโด กุ้ยช่าย มะเขือม่วง ต้นหอม เครื่องเทศ กระเทียมต้น หัวกระเทียม ผักกาดแก้ว มะเขือเทศและผลไม้รสเปรี้ยว คือสิ่งต้องห้าม
 
7. หาไม้ลับฟันให้หนูแฮมสเตอร์. ที่มีให้เลือกหลายขนาด หลายสี หลายรสชาติ เนื่องจากฟันของมันงอกอยู่ตลอดจึงจำเป็นต้องฝนให้สั้น ซึ่งไม้ลับฟันก็ทำหน้าที่นี้ได้ดี พยายามหาไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเจอแบบที่หนูแฮมสเตอร์ของคุณชอบ แฮมสเตอร์บางตัวไม่สนใจไม้ลับฟันเลย ถ้าเกิดเป็นแบบนี้ก็เดาได้ว่าหนูแฮมสเตอร์ของคุณกำลังแทะสิ่งของอื่นๆ ที่อยู่ในกรงนั่นแหละ เช่น ซี่กรงของมัน

ทำให้แฮมสเตอร์ชินกับบ้านใหม่

1.ปล่อยให้มันอยู่ในบ้านเพียงลำพังเพื่อสำรวจบ้านใหม่. เมื่อคุณซื้อบ้านใหม่ให้หนูแฮมสเตอร์ ให้วางไว้ในกรงของมัน อย่าลืมวางอาหารและน้ำไว้ด้วย แล้วก็ปล่อยให้มันอยู่เพียงลำพัง โดยใช้ผ้าบางๆ คลุมกรงไว้เพื่อมันจะได้สำรวจบ้านหรือกรงได้อย่างเป็นส่วนตัว ต้องมีอาหาร น้ำ และของเล่นเพียงพอสำหรับ 2-3 วัน เพราะคุณไม่ควรจะเข้าไปใกล้มันในระยะเริ่มแรกนี้ ถ้าที่บ้านมีเด็ก เพื่อนๆ หรือแขก ต้องแน่ใจว่าพวกเขารู้ว่าอย่าไปรบกวนหนูแฮมสเตอร์
 
2. แนะนำตัวเองอย่างค่อยเป็นค่อยไป. คุณและหนูแฮมสเตอร์สามารถเริ่มทำความรู้จักกันได้แล้วหลังจากที่ทิ้งให้มันอยู่ในโลกส่วนตัวมาประมาณ 3 วัน ส่งเสียงเบาๆ ให้มันรู้ตัวว่าคุณอยู่ตรงนั้น แรกๆ มันอาจจะประหม่า แต่อย่าลืมว่าเขาหรือเธอยังไม่คุ้นชินกับคุณเลย ดังนั้นอย่าเพิ่งหมดกำลังใจนะ เริ่มทำสิ่งที่ควรทำได้ทุกวัน เข่น ให้อาหารและน้ำ รวมทั้งเปลี่ยนของเล่นอันใหม่ให้ นอกจากนี้พยายามเปลี่ยนขี้เลื่อยรองพื้นกรงให้มันด้วย หนูแฮมสเตอร์จะเริ่มคุ้นเคยกับมือที่ยื่นเข้าไปในกรงของมัน
 
3.เริ่มกระบวนการฝึกให้เชื่อง. ช่วงสั้นๆ ที่จะฝึกให้มันเชื่องช่วงสัปดาห์ที่2 นับจากวันที่แฮมสเตอร์อยู่บ้านใหม่ แฮมสเตอร์ส่วนใหญ่จะตื่นตัวตอนหัวค่ำถึงตอนดึกๆ และตลอดทั้งคืน พยายามสังเกตพฤติกรรมประจำวันของหนูแฮมสเตอร์ของคุณและฝึกให้เชื่องในช่วงเวลาที่มันร่าเริงที่สุด วิธีหนึ่งคือเอาหนูใส่ลงไปในอ่างอาบน้ำแล้วลงไปด้วย นำของเล่นที่หนูจะเล่นได้ในระหว่างทำความคุ้นเคยเวลามีคุณอยู่ด้วย อย่าบังคับให้มันเล่นถ้ามันไม่ต้องการ ถ้าระหว่างนี้มันเกิดกัดหรือข่วนก็อย่าไปทำโทษ
  • การฝึกให้แฮมสเตอร์เชื่อง ยื่นมือเข้าไปในกรงให้มันดมและสำรวจ ถ้ามันงับมือคุณเบาๆ ไม่ก้าวร้าวรุนแรงเกินไป ให้คุณชักมือกลับช้าๆ แล้วให้มันสำรวจมือคุณอีกครั้งทันที นี่จะทำให้หนูแฮมสเตอร์เห็นว่าไม่มีเหตุผลที่จะต้องกัดหรือกลัวมือคุณเลย ต่อมาให้วางของกินไว้ในมือ ถ้าเป็นเมล็ดธัญพืชก็จะดีต่อหนูแฮมสเตอร์ เพราะมันเป็นสิ่งที่อยู่ในอาหารเม็ดสำหรับหนูแฮมสเตอร์ ซึ่งหนูแฮมสเตอร์ชอบกินมาก แฮมสเตอร์ของคุณควรจะคุ้นเคยกับการปีนขึ้นมาบนมือ ทำให้มันเห็นว่ามือคุณเป็นที่ปีนป่ายได้ แล้วค่อยๆ เลื่อนขนมขึ้นมาบนฝ่ามือช้าๆ เพื่อที่มันจะปีนขึ้นมาบนมือคุณด้วยความสบายใจมากขึ้น
  • ถ้าหนูแฮมสเตอร์ของคุณมีท่าทีมั่นใจขึ้น พยายามให้แฮมสเตอร์ปีนขึ้นมาบนมือก่อนแล้วค่อยให้ขนม มันจะได้เห็นว่ามือของคุณนั้นเป็นมิตร คราวนี้ให้มันปีนขึ้นมาบนมือแล้วยกมือขึ้นช้าๆ จากพื้นกรง มันอาจจะตื่นกลัวเล็กน้อยในตอนแรก แต่การพูดอย่างอ่อนโยนและให้ขนมมันจะทำให้มันสบายใจขึ้น ในขั้นตอนนี้ให้คุณนั่งลงที่พื้น เพราะหนูแฮมสเตอร์อาจจะเล็ดลอดออกจากมือคุณ และบาดเจ็บจากการตกลงมาที่ความสูงประมาณ 6-8 นิ้ว (15-20 ซม.) จากพื้น
4. เคารพเวลานอนหลับของมันด้วย. แม้ว่าหนูแฮมสเตอร์จะออกหากินตอนกลางคืน แต่จริงๆ แล้วบางทีพวกมันก็หาอะไรกินหาอะไรทำตอนกลางวันเหมือนกัน ถึงมันจะไม่ได้นอนหลับ แต่ก็ไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะเล่น นอกจากคุณเห็นว่ามันไม่ได้รู้สึกเช่นนั้นแน่ๆ นอกจากนี้พยายามให้จำกัดจำนวนคนที่อยู่ใกล้แฮมสเตอร์ให้น้อยที่สุด การที่หนูแฮมสเตอร์มีความผูกพันเฉพาะแค่กับคุณเท่านั้นเป็นสิ่งสำคัญมากๆ เพราะหลังจากนี้เดี๋ยวมันก็จะมีเพื่อนใหม่ได้เยอะแยะ แต่ในตอนนี้มันจะต้องเรียนรู้ว่าคุณเป็นเพื่อนและคุณไม่ทางทำร้ายมัน

ทำให้หนูแฮมสเตอร์ออกกำลังกาย

1. ซื้อวงล้อแฮมสเตอร์ที่เหมาะสม. วงล้อที่มากับกรงส่วนใหญ่จะเล็กเกินไป ซึ่งส่งผลเสียต่อหลังของหนูแฮมสเตอร์ ถ้าหลังมันโค้งงอขึ้นมากก็แสดงว่าวงล้อเล็กเกินไป เลือกวงล้อที่มีขนาดอย่างน้อย 20ซม. (7.9 นิ้ว) สำหรับหนูแฮมสเตอร์แคระ และขนาด 28ซม. (11นิ้ว) สำหรับพันธุ์ซีเรียน อย่ากังวลว่าวงล้อที่ซื้อไปจะใหญ่เกินไป
 
2. ต้องมีของเล่นมากพอสำหรับให้หนูแฮมสเตอร์เล่น. ของเล่นที่พวกมันชอบก็เช่น แกนกระดาษทิชชู่ กล่องทิชชู่เปล่า ท่อ อุโมงค์ บ้านนก ท่อพีวีซีและของขบเขี้ยวสำหรับแฮมสเตอร์ คนที่เลี้ยงหนูแฮมสเตอร์ส่วนใหญ่จะมีแค่วงล้อและลูกบอลให้มันเล่นเท่านั้น ผลที่ได้ก็คือหนูแฮมสเตอร์จะเริ่มมีพฤติกรรมที่ทำร้ายสุขภาพ เช่น การเดินกลับไปกลับมา และ/หรือ การแทะลูกกรง (ถ้ามันอยู่ในกรงแบบซี่ นั่นแหละ) มันต้องการมากกว่าวงล้อและลูกบอลเพื่อแก้เซ็ง มีของเล่นให้มากพอ เพื่อที่คุณจะสามารถสลับหมุนเวียนให้มันและทำให้หนูแฮมสเตอร์สนใจ
 
3. กั้นคอกสำหรับเล่น. หนูแฮมสเตอร์ของคุณจะเพลิดเพลินกับช่วงเวลาที่ได้ออกไปสำรวจพื้นที่นอกกรง การจัดพื้นที่แยกไว้สำหรับวิ่งเล่นยังช่วยทำให้คุณทำความสะอาดบ้านของมันได้ง่ายขึ้น ถ้ามีที่ที่จะสามารถใส่หนูแฮมสเตอร์ไว้โดยที่พวกมันหนีไปไหนไม่ได้ คุณยังสามารถใช่ถังขยะในบ้านที่ทำจากพลาสติกหรือคอกสัตว์ขนาดเล็กที่ขายในร้านสัตว์เลี้ยง
  • ต้องมั่นใจว่าหนูแฮมสเตอร์จะไม่สามารถเข้าถึงสิ่งของอันตรายได้ (เช่น สายไฟที่หนูแฮมสเตอร์จะแทะได้) และต้องมั่นใจว่าในห้องนั้นไม่มีช่องทางหลบหนี

ทำความสะอาดบ้านของหนูแฮมสเตอร์

1.ย้ายหนูแฮมสเตอร์ไปอยู่ในที่ปลอดภัย. ในระหว่างที่คุณกำลังทำความสะอาดบ้านพวกมันอยู่ เอาหนูแฮมสเตอร์ไปอยู่ในลูกบอลหรือคอกวิ่งเล่น คุณย่อมต้องการเวลาที่จะทำความสะอาดและคุณต้องใช้มือทั้งสองข้าง อย่าดันทุรังถือหนูแฮมสเตอร์ไว้ในมือข้างหนึ่ง มันจะไม่ส่งผลดีต่อการทำความสะอาดหรือสำหรับหนูแฮมสเตอร์ของคุณ
2.ทำความสะอาดกรงให้ทั่วถึง. การใช้น้ำยาล้างจานผสมกับน้ำเปล่าหรือแม้กระทั่งใช้น้ำยาทำความสะอาดชนิดอื่น (เช่น สบู่ล้างมือ) เพียงแค่หยดเล็กที่สุด ก็ทำให้เพื่อนขนปุยของคุณไม่สบายตัวได้ ให้ใช้สบู่ชนิดพิเศษสำหรับหนูแฮมสเตอร์หรือสัตว์ฟันแทะซึ่งหาซื้อได้ตามร้านสัตว์เลี้ยงทั่วไป
  • คุณยังสามารถใช้สารละลายน้ำส้มสายชูทำความสะอาดที่อยู่ของแฮมสเตอร์ได้อีกด้วย
3. ล้างด้วยน้ำสะอาดและผึ่งให้แห้งสนิท. ต้องให้น้ำระเหยไปจนหมดและสารทำความสะอาดทั้งหมดไม่เหลืออยู่แล้ว อย่าลืมว่าหนูแฮมสเตอร์มีประสาทสัมผัสที่ไวต่อกลิ่น ซึ่งกลิ่นน้ำส้มสายชูหรือสบู่จะเป็นเรื่องน่ารำคาญมาก
 
4. เปลี่ยนขี้เลื่อยรองพื้นกรงใหม่. ไม่ควรนำอันเก่ามาใช้ซ้ำ ขี้เลื่อยรองพื้นกรงมีราคาถูกหาได้ตามร้านค้าทั่วไป และคุณควรจะเปลี่ยนมันก็ต่อเมื่อกรงสะอาด วัสดุรองพื้นกรงที่ดีอีกอย่างก็คือ กระดาษทิชชู่ฉีกฝอย คุณสามารถใช้ทิชชู่ม้วนได้ แต่อย่าใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ เพราะแฮมสเตอร์จะเลียน้ำหมึกซึ่งจะทำให้มันป่วยหนัก อย่าใช้ขี้เลื่อยจากต้นสนหรือต้นซีดาร์เด็ดขาด เนื่องจากมันไม่ดีสุขภาพของแฮมสเตอร์ ส่วนต้นแอสแพนนั้นใช้ได้

สิ่งของที่ใช้ในการเลี้ยงหนูแฮมสเตอร์

  • หนูแฮมสเตอร์
  • กรง
  • ของเล่นสำหรับหนูแฮมสเตอร์
  • น้ำยาทำความสะอาดกรงพิเศษปลอดภัยสำหรับหนูแฮมสเตอร์
  • อาหาร/ขนมสำหรับหนูแฮมสเตอร์
  • ชามอาหาร
  • น้ำ
  • ขวดน้ำ
  • วัสดุรองพื้นกรง
  • อุโมงค์
  • กระท่อม/บ้าน
  • สถานที่นอนหลับพักผ่อน
  • แกนกระดาษทิชชู่ (สำหรับเคี้ยวและเล่น)

เป็นอย่างไรกันบ้าง สำหรับวิธีการเลี้ยงหนูแฮมเตอร์ ไม่ยากเกินไปใช่มั้ย หากเราตั้งใจที่จะเลี้ยงและเอาใจใส่เชื่อว่าหลายๆคนคงจะมีความสุขที่ได้ดูแลพวกมัน ในช่วงแรกๆอาจจะต้องอดทนสักนิดเพราะว่าหนูแฮมเตอร์เป็นสัตว์เลี้ยงที่ไม่ค่อยจะเชื่อเท่าไหร่นัก ควรให้เวลากับพวกมัน อย่าใจร้อน หากหนูแฮมเตอร์คุ้นเคยกับผู้เลี้ยง พวกมันก็ถือว่าเป็นสัตว์เลี้ยงที่นอนสอนง่ายเลยล่ะ


ความคิดเห็น

ยังไม่มีความคิดเห็น