ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Reborn] 8059 8018 D18 - Pandora heart

    ลำดับตอนที่ #16 : ≡( episode 15 - With love (Ending)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 407
      8
      3 ม.ค. 64

    อากาศที่อิตาลียังคงหนาวเย็นเหมือนเช่นในความทรงจำสมัยเด็ก

    โกคุเดระ ฮายาโตะกระชับเสื้อโค้ทเข้ากับตัวให้แน่นขึ้นหลังจากลมหนาวพัดผ่านมา ใบหน้าหวานสีออกแดงเรื่อจากการโดนความหนาวเย็นกัด อากาศหนาวจนเขาไม่รู้สึกว่าตัวเองมีจมูกอยู่อีกต่อไป ร่างบางตัดสินใจก้าวขาให้เร็วขึ้นเพื่อจะเดินให้ทันชายหนุ่มร่างสูงตรงหน้า ชามาลย์หันมาเลิกคิ้วให้เขาเล็กน้อยก่อนจะหมุนตัวเพื่อเลี้ยวผ่านตรอกตรงหัวมุม

    โรมไม่ได้ให้ความรู้สึกโรแมนติกมากนักโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณเดินบนถนนแถวชายขอบเมืองในยามค่ำคืน ไฟข้างทางไม่ได้เป็นสีวอร์มไลท์ตามที่เห็นในหนังโรแมนติกคอเมดี้ บางดวงก็กระพริบถี่ๆพร้อมจะดับเหมือนกับอยู่ในหนังสยองขวัญเสียมากกว่า ตามกำแพงตกแต่งไปด้วยใบปลิวรับสมัครงาน บ้างก็เป็นใบปลิวประท้วงเกี่ยวกับการประกาศขึ้นภาษีของรัฐบาล

    แต่หลังจากที่พวกเขาเดินข้ามถนนตรงมาที่ถนนหลัก สลัมรอบข้างก็กลับกลายเป็นสองข้างทางที่ประดับไปด้วยคฤหาสน์ที่โอ่อ่าราวกับปราสาท กำแพงบ้านทุกหลังทาสีขาวเนียนเหมือนรู้จักกันอยู่แค่สีเดียว สวนหน้าบ้านที่จัดจ้างสถาปนิกชื่อดังมาออกแบบ กิ่งไม้ทุกกิ่งถูกตัดเล็มอย่างดีเหมือนกับบ้านตัวอย่างที่เห็นกันในนิตยสารรายเดือน

    แม้กระทั่งกลิ่นของบรรยากาศโดยรอบยังเปลี่ยนจากกลิ่นบุหรี่และกลิ่นท่อเป็นกลิ่นของเหล่าดอกไม้นานาพรรณที่อยู่ในสวนของบรรดาเศรษฐี หอมฟุ้งจนโกคุเดระรู้สึกเวียนหัว

    “คุณหนู ถ้ายอมกลับคฤหาสน์ไปตั้งแต่แรกก็สบายไปแล้ว” ชามาลย์บ่นออกมาเมื่อเดินมาหยุดอยู่ที่กำแพงบ้านสีขาวกว้างสุดลูกหูลูกตา รั้วบ้านสีขาวตกแต่งด้วยอะไหล่สีทอง ลึกถัดจากสวนเป็นคฤหาสน์ขนาดใหญ่สองชั้นดูโอ่อ่า ตกแต่งอย่างวิจิตรตระการตาอย่างที่คนที่ผ่านมาเห็นจะต้องรู้สึกอยากเห็นหน้าเจ้าของบ้าน

    เป็นไปตามคาด โกคุเดระทำหน้าหงิกออกมาอย่างที่เขาคาดเอาไว้ หลังจากรู้ว่าโดนเขาแกล้งพาเดินผ่านหน้าบ้านของตัวเองสถานที่ที่โกคุเดระ ฮายาโตะเกลียดที่สุดบนโลก

    “จะไปกันได้หรือยัง” น้ำเสียงหงุดหงิดของอีกฝ่ายทำเอาชามาลย์หลุดหัวเราะ เจ้าของใบหน้าหวานกลอกตาอย่างไม่สบอารมณ์ก่อนจะก้าวเท้ารีบเดินตัดหน้าคู่สนทนาเพื่อผ่านรั้วไปราวกับกลัวว่าคนในคฤหาสน์จะทันสังเกตเห็น

    หลังจากที่เดินต่อไปอีกสิบห้านาที ทั้งคู่ก็เดินผ่านร้านขายขนมปังที่ในตอนนี้ไฟในร้านทุกดวงปิดอยู่ บนประตูกระจกติดป้ายเปิดรับสมัครพนักงานชั่วคราวที่มีค่าแรงต่อชั่วโมงไม่มากนัก ดวงตาสีเขียวมรกตเหลือบมองไปยังชายหนุ่มที่เดินอยู่ข้างๆ

    “อีกไกลแค่ไหนกว่าจะถึงที่พักวะเนี่ย”

    “ไม่ไกลจากนี่” ร่างสูงตอบอย่างไม่ใส่ใจ “นายบอกว่าขอที่พักราคาถูก มันก็ต้องเดินไกลหน่อย” เขาว่า ชะโงกหน้าออกไปดูรถที่วิ่งสวนกันก่อนจะก้าวข้ามถนนไป โกคุเดระพ่นลมหายใจออกทางจมูกแทนการตอบกลับอย่างหงุดหงิด

    แต่ก็อย่างที่ชามาลย์พูด ที่พักของเขาอยู่ไม่ไกลจากหัวมุมที่พวกเขาเพิ่งเดินข้ามถนนมา สถานที่ที่เขาจะใช้หลับนอนก่อนและหลังผ่าตัดเป็นตึกแถวสองชั้นสร้างด้วยอิฐสีแดงค่อนข้างเก่า บริเวณหน้าตึกมีสวนเล็กๆแตกต่างจากเหล่าคฤหาสน์สีขาวที่เขาเพิ่งผ่านมาอย่างลิบลับ พวกเขาเดินผ่านบริเวณจอดรถจักรยานที่ไม่มีจักรยานสักคันมาหยุดอยู่ที่ประตูไม้สีน้ำตาลของตึก

    ชามาลย์ใช้หลังมือเคาะลงไปบนบานประตูเบาๆ ลมเย็นยะเยือกพัดมาอีกครั้ง ร่างบางซุกมือทั้งสองข้างไว้ที่กระเป๋าเสื้อโค้ทของตัวเองขณะรอให้เจ้าของบ้านออกมาเปิดประตู

    ไม่นานนักประตูก็เปิดออก แสงไฟสีเหลืองนวลเล็ดลอดออกมาจากด้านในตัวบ้าน คนที่ออกมาเปิดประตูให้พวกเขาเป็นคุณยายตัวเล็กๆคนหนึ่งที่มีผมสีขาวปกคลุมไปทั่วทั้งหัว “อ้อ สวัสดีค่ะชามาลย์” เธอยิ้มออกมาเมื่อเห็นหน้าเจ้าของชื่อก่อนที่ดวงตาใจดีสีฟ้าทั้งคู่จะสังเกตเห็นโกคุเดระที่ยืนสั่นอยู่ข้างๆ “นี่คงจะเป็นคนที่จะเข้ามาอยู่ใหม่สินะ เข้ามาก่อนค่ะ ข้างนอกนั่นหนาวน่าดู” เธอพูด เปิดประตูให้กว้างพอที่จะให้ชายหนุ่มทั้งสองคนเดินตามเข้ามา

    อากาศภายในบ้านอุ่นกว่าข้างนอกมาก โกคุเดระเอามือออกจากกระเป๋าก่อนจะถอดเสื้อโค้ทมาถือไว้ในมือ ด้านในบ้านตกแต่งให้เข้ากับบรรยากาศช่วงคริสต์มาส บริเวณห้องรับแขกปูด้วยพรมสีแดงขนสั้น มีต้นคริสต์มาสต้นเล็กที่ถูกประดับประดาไปด้วยไฟหลากสีสันจัดวางอยู่ตรงมุมห้องข้างเก้าอี้นวมสีน้ำตาล

    หญิงชราเดินหายเข้าไปด้านในตัวบ้านพักใหญ่ก่อนจะกลับออกมาหาพวกเขาพร้อมกับกุญแจหนึ่งดอกในมือ “ห้องอยู่ชั้นสองค่ะ บันไดอยู่ข้างตัวบ้าน ของที่จัดส่งมาจากญี่ปุ่นบางส่วนมาถึงก่อนได้เกือบอาทิตย์หนึ่งแล้ว” เธอพูด ยื่นกุญแจออกมาให้เขา “ฉันเอาเข้าไปวางไว้ในห้องให้แล้วค่ะ”

    โกคุเดระโค้งก่อนจะรับกุญแจมาถือไว้ในมือ “ขอบคุณมากครับ”

    เธอโบกมือ ยิ้มออกมาอย่างใจดี “เรื่องเล็กนิดเดียว สามีฉันชอบทำงานค่ะ” เธอหัวเราะ “ช่วงนี้อากาศที่อิตาลีค่อนข้างหนาว ถ้าขาดเหลือหรือมีอะไรให้ช่วยบอกได้ตลอดนะคะ”

    ชามาลย์ยิ้ม “ขอบคุณครับลิลลี่ สุขสันต์วันปีใหม่”

    หลังจากเดินออกมานอกที่พักอากาศรอบข้างพวกเขาก็กลับมาหนาวจับกระดูกอีกครั้ง ร่างบางเดินขึ้นไปตามบันไดเหล็กที่อยู่ด้านข้างของอาคาร เมื่อมาถึงหน้าห้อง โกคุเดระก็หยิบกุญแจเงินออกมาจากกระเป๋ากางเกงเพื่อที่จะไขลูกบิดประตูเข้าไปด้านใน

    ในห้องไม่ได้มีอะไรมากนักและก็ไม่ได้อบอุ่นเท่ากับห้องของลิลลี่ ผนังสี่ด้านทาด้วยสีเหลืองซีดแปะโปสเตอร์ทีมฟุตบอลของอิตาลีที่เขาไม่รู้จัก ห้องค่อนข้างกว้างกว่าที่เขาคิดเอาไว้มาก มีเตียงและโต๊ะอ่านหนังสือด้านใน ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่เพราะเขารู้มาจากชามาลย์ว่าห้องนี้เป็นห้องนอนเก่าของลูกชายเจ้าของตึกก่อนที่จะแยกย้ายออกไปมีบ้านเป็นของตัวเอง

    โกคุเดระถอดเสื้อโค้ททิ้งไว้ที่หน้าประตูห้อง เสื้อโค้ทให้ความรู้สึกเปียกเล็กน้อยจากไอน้ำในอากาศด้านนอก เขามองไปยังกล่องกระดาษที่วางซ้อนกันด้านในห้องอย่างเหนื่อยใจ แค่คิดว่าจะต้องจัดห้องใหม่เขาก็ทนไม่ไหวแล้ว ดวงตาสีมรกตมองไปยังเพื่อนที่เข้ามาด้วยกันอย่างวิงวอน

    “ไม่ต้องมามอง” ร่างสูงพูดออกมาทันทีก่อนที่อีกฝ่ายจะทันเอ่ยปากขอความช่วยเหลือ “ฉันจะกลับแล้ว พรุ่งนี้ฉันมีตรวจคนไข้ตอนเช้า”

    “รู้แล้วน่า” ร่างบางเบ้หน้าบ่นพึมพำ เอื้อมมือลงไปในกระเป๋ากางเกงเพื่อหยิบบุหรี่ออกมาคาบไว้ “ขอยืมไฟแช็คหน่อย”

    ชามาลย์ส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ “นายก็รู้ว่าต้องเลิกสูบบุหรี่ได้แล้ว”

    “รู้แล้วแต่ยังทำไม่ได้”

    ร่างบางมองคู่สนทนาที่กำลังล้วงหาไฟแช็คในกระเป๋าเสื้อก่อนจะตะปบรับไฟแช็คที่อีกฝ่ายโยนมาให้ไว้ในมือ เขายิ้มมุมปากขณะจุดบุหรี่ สูดควันเข้าปอดก่อนจะถอนหายใจออกมา

    “หมอนัดนายเมื่อไหร่”

    เขายักไหล่ “วันอังคารหน้า” ร่างบางคีบบุหรี่ออกจากริมฝีปากก่อนจะปล่อยควันสีขาวตามมา ดวงตาสีมรกตมองผ่านหน้าต่างห้องออกไปด้านนอกซึ่งก็ไม่ได้เป็นวิวที่สวยงามอะไรไปกว่าหน้าต่างของบ้านข้างๆ “แค่ตรวจร่างกายกับวางแผนผ่าเฉยๆ กว่าจะได้ผ่าจริงคงอีกเป็นเดือน”

    “ถ้าหมอรู้ว่านายยังสูบบุหรี่อยู่นายไม่ได้ผ่าแน่” ชามาลย์พูดพลางเก็บไฟแช็คกลับลงไปในกระเป๋า เขาหมุนตัวตั้งท่าจะเดินออกไปจากห้อง แต่ก่อนที่จะปิดประตูตามหลัง เจ้าของดวงตาสีน้ำตาลก็ชะงักแล้วหันกลับมาที่เขา

    “เห้ย สโมคกิ้งบอม” ร่างสูงส่งเสียงเรียกโกคุเดระ ฮายาโตะให้หันกลับมาจากหน้าต่าง ดวงตาสีมรกตตวัดกลับมาก่อนจะเลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงถาม

    “โทรไปหาเบียงกี้ด้วย”

    ชามาลย์สังเกตได้ว่ามือที่กำลังจะเอาบุหรี่เข้าปากชะงักไปเล็กน้อย เมื่ออีกฝ่ายไม่ได้ตอบอะไรกลับมานอกจากหลบสายตาเขา ร่างสูงก็ถอนหายใจแล้วปิดประตูออกจากห้องมา

    โกคุเดระ ฮายาโตะยังคงสูบบุหรี่อย่างใจลอยต่อไปอีกพักหนึ่งก่อนจะตัดสินใจหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋ากางเกง ร่างบางกดค้างเพื่อเปิดเครื่อง หน้าจอสีดำของโทรศัพท์แบบพับกระพริบอยู่พักหนึ่งก่อนจะแสดงหน้าโฮม หลังจากรอสักพักโทรศัพท์ของเขาก็สั่นและแสดงข้อความที่ส่งมาหาเขาล่าสุดในระหว่างที่เขาปิดมันตอนอยู่บนเครื่องบิน

    ซึ่งก็เป็นอย่างที่เขาคิดเอาไว้

    ถึงอิตาลีแล้วโทรหาพี่ด้วย

    ดวงตาสีมรกตมองไปยังตัวหนังสือที่แสดงอยู่บนหน้าจอที่ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาคงไม่คิดจะสนใจ รวมไปถึงข้อความเก่าๆก่อนหน้านั้นทั้งหมดที่อีกฝ่ายเคยส่งมาหาเขาแต่เขาก็ไม่เคยที่จะตอบกลับไปสักครั้ง

    แต่ไม่รู้ทำไมในครั้งนี้ เขาถึงได้คิดเปลี่ยนใจขึ้นมา

    โกคุเดระนิ่งไปพักหนึ่งก่อนจะตัดสินใจกดโทรกลับ

    “ฮัลโหล เบียงกี้”

     

     

     

     

     

    3 JAN 2015

    FROM: รุ่นที่สิบ

    TO: YOU

    โกคุเดระคุง สวัสดีปีใหม่นะ!! เดินทางถึงอิตาลีโดยปลอดภัยหรือเปล่า? ขอโทษทีที่ส่งข้อความมาหาช้า พอดีเพิ่งได้เบอร์โทรศัพท์ใหม่ของนายมาจากเบียงกกี้น่ะ

    ที่บ้านวุ่นวายกันมากเลยหลังจากที่ทุกคนรู้ว่าโกคุเดระคุงบินกลับไปอิตาลี หม่าม้างอนตุ๊บป่องเลยที่โกคุเดระคุงไม่ยอมบอกก่อน เห็นบอกว่าน่าจะได้เลี้ยงส่งก่อนนายไป (หม่าม้าไม่รู้ว่านายจะไปผ่าตัด ฉันบอกว่านายต้องย้ายกลับไปเรียนที่นั่นน่ะ)

    ที่ญี่ปุ่นหิมะตกแล้ว ฉันคิดว่าที่อิตาลีก็คงจะหนาวมากๆเหมือนกัน ดูแลสุขภาพด้วยนะ

     

     

     

     

    15 MAR 2015

    FROM: รุ่นที่สิบ

    TO: YOU

              พอโกคุเดระคุงไม่อยู่ ที่บ้านก็ไม่ค่อยสนุกเลย

              ทุกคนคิดถึงโกคุเดระคุงมากๆเลยล่ะ

              แรมโบ้เองก็เหมือนกัน ตอนแรกก็ทำเป็นปากเก่งว่าดีแล้วที่เจ้าหัวปลาหมึกไม่อยู่อย่างโน้นอย่างนี้ แต่จริงๆแล้วก็แอบไปร้องไห้กับหม่าม้า ฉันว่าแรมโบ้คงจะคิดถึงนายมากที่สุดแล้วล่ะ

              ป.ล. ฉันไม่ได้ให้เบอร์โทรศัพท์ใหม่ของนายกับยามาโมโตะนะ

     

     

     

     

    อากาศของอิตาลีเริ่มอุ่นขึ้นเมื่อถึงเดือนมีนาคม

    โกคุเดระ ฮายาโตะเก็บเสื้อโค้ทตัวใหญ่ที่เขาใส่มาตลอดทั้งสองเดือนลงไปในชั้นที่ลึกสุดของตู้เสื้อผ้า หน้าต่างที่เปิดเอาไว้พัดเอาลมอุ่นๆที่ทำให้รู้สึกถึงฤดูใบไม้ผลิเข้ามาในห้องนอน โกคุเดระเหมือนจะได้กลิ่นขนมปังลอยมากับสายลมด้วย ซึ่งเขาเดาว่าลิลลี่คงกำลังอบขนมปังอยู่ในครัวข้างล่าง ซึ่งในอีกไม่กี่ชั่วโมงถัดมาหญิงชราคงจะเดินขึ้นมาเคาะประตูห้องเพื่อตามเขาลงไปกิน

    การย้ายมาอยู่ที่อิตาลีทำให้เขารู้สึกดีกว่าที่เขาคาดเอาไว้ อาจจะเป็นเพราะโชคดีที่ได้มาเจอกับลิลลี่และโรเบิร์ตสามีของลิลลี่ สองสามีภรรยาเอ็นดูเขาราวกับเขาเป็นลูกชายแท้ๆของตัวเอง และยิ่งไปกว่านั้น หลังจากที่ลิลลี่เริ่มตั้งข้อสังเกตว่าเขาดูจะผอมเกินไปสำหรับเด็กหนุ่มอายุ 16 ปี อีกฝ่ายก็ทำอาหารเยอะขึ้นกว่าเดิมและเรียกเขาไปร่วมทานด้วยในทุกๆมื้อ ดังนั้น โกคุเดระ ฮายาโตะ คิดว่าตัวเองคงกลายไปเป็นลูกชายคนใหม่ของครอบครัวนี้โดยสมบูรณ์แล้ว

    ร่างบางกำลังปิดประตูตู้เสื้อผ้า ก่อนที่ปลายสายตาจะเหลือบไปเห็นกระเป๋าเป้สีน้ำตาลขมุกขมัวที่เขาเอาติดตัวมาจากญี่ปุ่นซุกเอาไว้อยู่ที่ก้นตู้เสื้อผ้า ซึ่งหลังจากที่มาถึงอิตาลีเขาก็ไม่เคยหยิบมันออกมาใช้อีกเลย

    โกคุเดระหยิบมันขึ้นมาถือไว้ สภาพของกระเป๋าค่อนข้างสะบักสะบอมจากการถูกใช้งานอย่างหนัก ร่างบางหยิบมันออกมาปัดฝุ่นแต่ก็เหมือนจะไม่ได้ช่วยอะไรเท่าไหร่ กระเป๋านี่คงหมดสภาพการใช้งานเต็มที เขาส่ายหน้า เห็นทีปลายทางของมันจะต้องอยู่ในถังขยะ

    ร่างบางรื้อของด้านในกระเป๋าออกมา ข้างในนั้นมีเศษขยะมากมายตั้งแต่ใบเสร็จ ลูกอม ซองบุหรี่ (ที่ไม่มีบุหรี่เหลืออยู่แล้ว) ไปจนถึงสมุดจดเล็คเชอร์ของโรงเรียนนามิโมริ หลังจากที่มั่นใจว่าไม่มีอะไรเหลืออยู่ในกระเป๋าแล้ว เขาก็โยนมันไปที่บริเวณหน้าประตูห้อง คิดว่าจะเอามันไปทิ้งตอนที่เดินลงไปหาลิลลี่

    แต่แล้วเขาก็เปลี่ยนใจหลังจากนั้นไม่นาน

    โกคุเดระ ฮายาโตะเลิกคิ้วขึ้นเมื่อเสียงที่ตนเองได้ยินเป็นเสียงของของแข็งกระทบกับพื้นซึ่งลำพังเสียงของกระเป๋าผ้าเพียงอย่างเดียวคงไม่ทำให้เกิดเสียงแบบนั้นขึ้น

    เขาก้าวเท้าเดินไปที่กระเป๋า ก่อนที่เปิดมันออกอีกครั้งแล้วล้วงมือเข้าไปด้านใน ร่างบางแปลกใจเมื่อเขาหยิบได้ถุงกระดาษออกมาจากช่องด้านในกระเป๋าที่เขาไม่ได้ล้วงเข้าไปในตอนแรก

    มันเป็นถุงกระดาษสีขาวธรรมดาที่แปะสติกเกอร์รูปหมีสีน้ำตาลสองตัวมีรูปหัวใจสีชมพูอยู่ด้านหลังที่มีตัวอักษรเขียนไว้บนนั้นว่า สุขสันต์วันปีใหม่แบบเชยๆ

    หลังจากนั้นเขาก็นึกออกแทบจะในทันทีว่ามันเป็นของขวัญวันปีใหม่จากคนที่เขาฝืนตัวเองไม่ให้นึกถึงมาตลอดหลังจากที่เขากลับมาเหยียบอิตาลี

    ร่างบางชั่งใจอยู่พักหนึ่งก่อนจะตัดสินใจแกะเทปออกอย่างระมัดระวัง เขาเกือบจะลืมหายใจเมื่อเปิดปากถุงเข้าไปแล้วเจอกับสิ่งที่อยู่วางด้านในก้นถุง

    มันเป็นจี้รูปผีเสื้อที่มีพลอยสีมรกตประดับอยู่บนปีกทั้งสองข้าง

    เขาหยิบมันออกมาถือไว้ในมือ ขมวดคิ้วอย่างสงสัยว่ายามาโมโตะ ทาเคชิคิดอะไรอยู่ถึงตัดสินใจซื้ออะไรแบบนี้มาให้เขาทั้งๆที่ตัวมันเองก็น่าจะรู้ดีว่าเขาชอบใส่เครื่องประดับที่ดูเรียบๆมากกว่า

    แต่แล้วเขาก็ต้องขมวดคิ้วแน่นขึ้นเมื่อเห็นว่ายังมีกระดาษการ์ดใบเล็กวางอยู่ด้านในถุง โกคุเดระ ฮายาโตะใช้ปลายนิ้วเรียวหยิบกระดาษแผ่นนั้นออกมา เจ้าของใบหน้าหวานแค่นหัวเราะออกมาเมื่ออ่านข้อความที่เขียนไว้บนการ์ด

    ‘HNY มันเหมือนตาของนายเลย

    สิ่งที่ย้ำเตือนว่าเขาไม่มีวันลืมไอ้โง่นั่นได้เลย

     

     

     

     

     

    20 MAY 2015

    FROM: รุ่นที่สิบ

    TO: YOU

              หวัดดีโกคุเดระคุง ไม่ได้ส่งข้อความมาหานานเลย พอดีติดสอบเข้าระดับมัธยมปลายน่ะ รีบอร์นกวดฉันเข้มเลย ไม่ได้จับโทรศัพท์มาตั้งสองเดือนแหน่ะ

              ตอนนี้ทุกคนแยกย้ายกันเข้ามอปลายคนละโรงเรียนเลย มีแต่คุณฮิบาริแหละที่ยังเรียนที่นามิโมริต่อ ยามาโมโตะไปเข้าโรงเรียนกีฬาแล้ว คงจะเอาดีทางด้านเบสบอลจริงๆนั่นแหละ แล้วก็ให้ทาย! ฉันได้เรียนโรงเรียนเดียวกับเคียวโกะจังด้วย!!

    ชามาลย์บอกฉันว่านายจะเข้ารับการผ่าตัดพรุ่งนี้แล้ว แสดงว่าตอนนี้โกคุเดระคุงต้องนอนอยู่ที่โรงพยาบาลอย่างนั้นสินะ ขอให้การผ่าตัดผ่านไปได้ด้วยดีนะ ฉันขอรีบอร์นบินไปเยี่ยมโกคุเดระคุงเดือนหน้าเป็นรางวัลที่สอบติดโรงเรียนมอปลายได้ แล้วเจอกัน!

     

     

     

     

     

              แดดที่อิตาลีร้อนอบอ้าวเมื่อถึงกลางเดือนกรกฎาคม

              ดอกไม้ในสวนเล็กๆหน้าบ้านของสองสามีภรรยาบานสะพรั่ง กลิ่นของเปลือกเลม่อนในสวนที่อยู่ถัดไปไม่ไกลส่งกลิ่นเปรี้ยวอมหวานลอยมาตามสายลมร้อนระอุในขณะที่ไอร้อนจากพื้นถนนแผ่ขึ้นมาจนทำให้ใครหลายๆคนรู้สึกตาพร่า

              อากาศของอิตาลีในช่วงนี้แปรปรวนค่อนข้างมาก บางวันฝนตกตั้งแต่เช้าจนหัวค่ำ บางวันก็แดดแรงตลอดทั้งวันจนสามารถตากผ้านวมแห้งภายในครึ่งวันได้อากาศตอนเวลาแปดนาฬิกาของวันที่ 14 กรกฎาคม 2017 เป็นแบบหลัง

              เป็นเวลาสองปีหลังจากที่โกคุเดระ ฮายาโตะเข้ารับผ่าตัดหัวใจครั้งใหญ่ ที่ไม่ใช่แค่ใหญ่สำหรับเขา แต่นับว่าเป็นการผ่าตัดใหญ่สำหรับวงการของศัลยแพทย์ด้วย มีเคสแบบเขาไม่มากที่ผ่าตัดแล้วประสบความสำเร็จ การผ่าตัดต้องใช้เวลาเตรียมตัวค่อนข้างนานเพื่อที่จะทำให้หมอมั่นใจได้ว่าเขาจะไม่ตายไปก่อนในระหว่างการผ่าตัดหรือหลังจากนั้น แต่หลังจากที่พักฟื้นเป็นเวลาเกือบสองเดือน โกคุเดระ ฮายาโตะก็กลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติพร้อมกับรอยแผลผ่าตัดรูปตะขาบขนาดใหญ่ตรงกลางอก

              โกคุเดระ ฮายาโตะกำลังยืนรดน้ำต้นไม้ในสวนหน้าบ้านอยู่เมื่อลิลลี่เปิดประตูออกมาพูดกับเขา “ฮายาโตะ ต้องเข้าร้านตอนเก้าโมงไม่ใช่หรอ” ร่างบางหยุดงานในมือก่อนจะมองไปยังคู่สนทนา “ไปเตรียมตัวได้แล้ว เดี๋ยวไปทำงานสาย”

              ดวงตาสีมรกตมองไปยังโรเบิร์ตที่กำลังยืนตัดกิ่งไม้ห่างไปจากเขาไม่ไกล ชายชราพยักพเยิดไล่เขาให้ทำตามที่ลิลลี่บอก โกคุเดระพยักหน้าก่อนจะถอดหมวกออกแล้วเดินขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องของตนเอง

              เสื้อเชิร์ตสีขาวลายทางสีน้ำเงินรีดอย่างดีถูกวางพาดไว้บนผ้าปูเตียงสีขาวของเขา โกคุเดระยิ้ม หยิบมันขึ้นมาสวมบรรจงติดกระดุมทีละเม็ด ร่างบางหันไปมองกระจก หยิบหนังยางขึ้นมารัดผมสีเทาควันยุ่งเหยิง หลอกตัวเองว่าดูดีใช้ได้ก่อนจะคว้ากระเป๋าที่วางอยู่ข้างเตียงแล้วก้าวเท้าเดินออกมาจากห้อง

              “โชคดีนะฮายาโตะ” โรเบิร์ตตะโกนออกมาเมื่อเห็นเขาเดินผ่านสวนไปยังรั้วบ้าน โกคุเดระยิ้ม โบกมือให้อีกฝ่ายแทนคำขอบคุณ

               ร้านขนมปังที่เขาทำงานอยู่ถัดจากที่พักของเขาไปเพียงแค่สองถนน หลังจากที่เขาพักฟื้นจนหายดีแล้ว เงินเก็บของเขาก็เกือบจะไม่เหลือ ด้วยความที่ไม่อยากพึ่งพาคนในครอบครัวและยังต้องหาเงินไปจ่ายค่าที่พัก โกคุเดระ ฮายาโตะจึงตัดสินใจสมัครงานร้านขนมปังที่อยู่ถัดไปไม่ไกลเพื่อประหยัดค่าเดินทาง

              ในขณะที่เขากำลังรอข้ามถนนอยู่ เสียงเพลงกับเสียงเชียร์ของผู้คนที่ดังมาจากสุดถนนก็ทำให้เขาต้องหยุดหันกลับไปมอง สุดปลายสายตาเป็นกลุ่มกองเชียร์ที่กำลังส่งเสียงเชียร์เป็นภาษาอิตาลีที่เขาฟังจับใจความไม่ได้ บางคนเพ้นท์หน้าด้วยธงชาติอิตาลีที่แก้ม บางคนไม่ใส่เสื้อด้วยซ้ำ คนพวกนั้นยังดูเด็กเหมือนกำลังเรียนไฮสคูลอยู่

              ก็คงจะแข่งบอลอีกเหมือนเดิม

              คนอิตาลีก็อย่างนี้ โวยวายเสียงดังไปกับทุกเรื่อง

              ร่างบางส่ายหน้าอย่างอ่อนใจก่อนจะหันกลับมาที่ถนนเหมือนเดิม ซึ่งก็เป็นเวลาเดียวกับที่ไฟเขียวส่งสัญญาณให้ข้ามพอดี โกคุเดระเดินข้ามตัดถนนไปหยุดที่หน้าร้านขายขนมปังเล็กๆร้านหนึ่ง หน้าร้านแปะป้ายที่เพ้นท์ด้วยตัวอักษรสีเหลืองสดใสว่า Honey Bakes – Fresh and Delicious!

              หลังจากที่เขาประเปิดประตูเข้าไปก็เจอกับชายวัยกลางคนที่กำลังใช้ที่คีบหยิบขนมปังในถาดเรียงบนชั้นวางภายในร้าน โกคุเดระก้มหัวลงทักทาย “อรุณสวัสดิ์ปีเตอร์”

              เจ้าของชื่อปีเตอร์หันมามองแล้วยิ้มให้เขา “สวัสดีฮายาโตะ วันนี้ก็มาแต่เช้าเลยนะ” เขาพูดขณะวางขนมปังชิ้นสุดท้ายลงในตะกร้า “วันนี้ฉันก็มาเช้าเหมือนกัน ขนมปังล็อตแรกเสร็จเกือบหมดแล้ว”

              ร่างบางวางกระเป๋าสะพายไว้ตรงเค้าท์เตอร์หลังแคชเชียร์ก่อนจะเดินเข้าไปประจำที่ ชายหนุ่มหยิบกุญแจออกมาจากในกระเป๋าก่อนจะไขเครื่องเก็บเงินเพื่อนำเงินทอนด้านในออกมาตรวจนับระหว่างที่ปีเตอร์เดินเข้าไปที่ครัวอบขนมด้านหลังร้าน

              เจ้าของใบหน้าหวานเลิกคิ้วขึ้นเมื่อได้ยินเสียงอุทานด้วยความตกใจดังออกมาจากด้านใน “มีอะไรหรือเปล่าปีเตอร์”

              “ฉันทำเนยก้อนสุดท้ายตกพื้น” น้ำเสียงทุ้มที่ตอบตะโกนกลับมาแฝงไปด้วยความกังวลและหงุดหงิด “ตกหมดทั้งก้อนเลยให้ตายเถอะ”

              อีกแล้ว ร่างบางกลอกตา สงสัยเมื่อคืนจะดื่มหนัก

              “ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันออกไปซื้อมาให้ใหม่” เขาว่า ถอดเสื้อคลุมร้านออก หยิบเงินออกมาจากเครื่องเก็บเงิน “เอายี่ห้อเดิมนะ ฝากดูเค้าท์เตอร์แทนไปก่อนนะ”

              ซุปเปอร์อยู่ห่างออกไปไกลจากร้านขนมปังประมาณ 15 นาที โกคุเดระยอมรับว่าเขาต้องหยุดเดินเพื่อพักหายใจเป็นระยะ เมื่อเดินมาถึงหน้าประตูอัตโนมัติร่างบางก็ต้องแปลกใจเมื่อสังเกตเห็นว่ามีคนจำนวนมากอยู่ด้านในร้าน แต่ความแปลกใจก็หายไปแทบจะในทันทีเมื่อเขานึกได้ว่าสนามกีฬาใหญ่ของอิตาลีอยู่ห่างไปไม่ไกล

              คงจะเป็นพวกแฟนบอลมาซื้อของเอาเข้าไปกินก่อนที่กีฬาจะเริ่มแข่งล่ะมั้ง เขาคิด เตรียมใจว่าข้างในจะต้องเสียงดังหนวกหูอย่างที่ตนไม่ชอบแน่นอน

              ร่างบางเดินเข้าไปหยิบเนยที่วางอยู่ด้านในตู้เย็นของซุปเปอร์มาสามอันก่อนจะเดินมาจ่ายเงินที่แคชเชียร์ หลังจากรอต่อแถวนานเกือบยี่สิบนาทีแคชเชียร์สาวที่ทำหน้าเบื่อโลกก็หยิบเนยในมือของเขาไปคิดเงินแบบขอไปที แต่เมื่อเงยหน้าจากเครื่องคิดเงินแล้วเห็นว่าลูกค้าตรงหน้าเป็นหนุ่มหล่อ ดวงตาสีน้ำตาลกลมโตทั้งสองข้างก็เปิดกว้างขึ้น

              “นายอยู่แถวนี้หรอ” เธอเริ่มชวนเขาคุยขณะหยิบเนยใส่ถุงพลาสติกอย่างอ้อยอิ่ง แต่เมื่อเธอเห็นว่าเขาไม่สนใจจะตอบก็รีบยิงคำถามต่อไปทันที “เขามีแข่งเบสบอลน่ะ นายสนใจจะไปดูด้วยกันไหม ฉันแอบออกไปหลังจากนี้ได้นะ”

              โกคุเดระ ฮายาโตะชะงัก “ฉันไม่ดูเบสบอล”

              “ทัวร์นาเม้นท์ใหญ่เลยนะ” เธอพูดต่อไป ชายหนุ่มตรงหน้าขมวดคิ้วแล้วคว้าเอาถุงพลาสติกในมือเธอมาหยิบใส่เนยลงไปแทน ก่อนที่เธอจะทันได้พูดอะไรกับเขาต่อจากนั้น ร่างบางก็เดินหันหลังกลับแล้วสาวเท้าออกไปทางประตูหน้าร้านอย่างรวดเร็ว

              “ระดับประเทศ” เธอเปล่งเสียงพึมพำตามหลังเขาไปอย่างใจลอย ดวงตาสีน้ำตาลกลมโตทอแววเสียดาย

     

     

     

     

              โกคุเดระ ฮายาโตะถือถุงพลาสติกที่มีเนยอยู่ด้านในไว้ในมือ ร่างบางหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋ากางเกงอย่างร้อนรนก่อนจะสบถออกมาอย่างหัวเสียเมื่อเห็นเวลาที่แสดงอยู่บนหน้าจอ

    เก้าโมงครึ่งนับว่าเป็นช่วงเวลาที่ลูกค้าจะเยอะเป็นพิเศษของวัน ไม่รู้ป่านนี้ปีเตอร์จะทำร้านแตกไปแล้วหรือยัง เห็นเจ้าตัวบ่นอยู่ว่าขนมปังที่ต้องอบก็ยังทำได้ไม่เสร็จดี

    ร่างบางรีบสาวเท้าเดินไปบนฟุตบาทที่เต็มไปด้วยผู้คนที่มารอชมเบสบอล สองฝั่งถนนเต็มไปด้วยนักเรียนชายมัธยมปลายจากโรงเรียนต่างๆที่พากันส่งเสียงหัวเราะ บ้างก็สบถคำหยาบคายออกมา โกคุเดระสังเกตว่ามีครอบครัวที่พาลูกเล็กมาชมด้วยเยอะอยู่เหมือนกัน

    บ้าเอ๊ย คนยิ่งรีบๆอยู่ เดินช้าเกะกะขวางทางกันชะมัด

    ในขณะที่กำลังเดินข้ามไปยังถนนฝั่งตรงข้ามด้วยความเร่งรีบ โกคุเดระก็เดินชนเข้ากับไหล่กว้างของผู้ชายคนหนึ่งที่เดินสวนมาจากอีกฝั่งของถนน ไหล่นักกีฬานั่นกระแทกลงบนจมูกของเขาเต็มๆ โกคุเดระสบถอย่างเจ็บปวด ถุงพลาสติกที่ใส่เนยหล่นลงบนพื้นถนน

    ร่างบางก้มลงไปเก็บเนยที่ตกอยู่บนพื้นขึ้นมา ดีที่เนยที่ซื้อมาไม่ได้รับความเสียหายอะไร เขากุมจมูกของตัวเองก่อนจะหันกลับไปที่ถนนฝั่งตรงข้ามเพื่อที่จะมองหาคู่กรณีอย่างเอาเรื่อง แต่อีกฝั่งของถนนก็เต็มไปด้วยผู้คนมากมายหลากหน้าหลายตาซึ่งในจังหวะที่เดินชนกันนั้นตัวเขาเองก็ไม่ทันได้มองหน้าของอีกฝ่ายให้ชัด

    โกคุเดระถอนหายใจอย่างหงุดหงิด คิดในใจว่าในตอนนี้ตัวเองต้องรีบกลับไปทำงานแทนที่จะเสียเวลาไปมีเรื่องกับคนแปลกหน้าซึ่งที่จริงแล้วส่วนหนึ่งก็เป็นความผิดของเขาเอง

    แต่ในจังหวะที่เขากำลังจะหันหลังกลับไปนั้น

    ที่เขาสังเกตเห็นใบหน้าที่ตัวเองคุ้นเคยเป็นอย่างดีท่ามกลางฝูงชน

    เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาผิวสีน้ำตาลเข้มกร้านแดดที่ผ่านการฝึกฝนอย่างหนักกำลังหันไปหัวเราะให้เพื่อนที่ใส่ชุดยูนิฟอร์มสีน้ำเงินแบบเดียวกัน

    เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่นั้น เขาเองก็จำไม่ได้ชัด

    ราวกับตกอยู่ในความฝัน ตาทั้งสองข้างของโกคุเดระให้ความรู้สึกพร่ามัว

    เหมือนเสียงที่ดังเซ็งแซ่ของฝูงชนรอบข้างแผ่วเบาลง

    เป็นเวลาหลายวินาที ก่อนที่เจ้าของดวงตาสีน้ำตาลนั้นจะทันสังเกตเห็นเขา

    ดวงตาสีน้ำตาลเปลือกไม้คู่นั้นตกอยู่ในความตกตะลึงไม่ต่างกัน

    แต่นั่นคงเป็นจังหวะที่ทำให้เขารู้สึกตัว โกคุเดระ ฮายาโตะกะพริบตา ก่อนจะรีบหันหลังวิ่งออกมา

     

     

     

     

    “ขอบคุณมากครับ! โอกาสหน้าเชิญใหม่”

    ลูกค้าคนสุดท้ายของวันเดินออกจากประตูร้านไปตอนเวลาสองทุ่มสิบห้านาที โกคุเดระ ฮายาโตะเอื้อมมือไปแกะผ้ากันเปื้อนออกจากด้านหลังเอวก่อนจะเริ่มต้นทำความสะอาดร้าน เขาหยิบถาดและตะกร้าที่ใช้วางขนมปังมาเรียงซ้อนกันแล้วนำมันไปวางไว้ในอ่างล้างจานด้านในครัว

    ปีเตอร์กลับไปก่อนตั้งแต่หกโมงเย็นแล้วหลังจากที่ทำขนมปังล็อตสุดท้ายเสร็จและเก็บล้างอุปกรณ์ภายในครัวเรียบร้อย ซึ่งที่จริงแล้วอีกฝ่ายก็ควรจะอยู่ช่วยในส่วนของเขาแล้วกลับบ้านพร้อมกันตอนสามทุ่มเหมือนในทุกๆวัน แต่รายนั้นบอกว่ามีนัดเดทกับสาวตอนสองทุ่ม ขอกลับไปเตรียมตัวก่อน วันพรุ่งนี้จะให้เขากลับตั้งแต่หกโมงเย็นเพื่อความเท่าเทียมแล้วอย่างนี้เขาจะปฏิเสธอีกฝ่ายได้อย่างไรกัน

    หลังจากเก็บกวาดร้านเรียบร้อย โกคุเดระ ฮายาโตะก็หยิบกุญแจออกมาจากกระเป๋าสะพายก่อนจะเอามาไขล็อคแม่กุญแจที่แขวนไว้กับประตูร้าน ร่างบางถอนหายใจขณะหย่อนกุญแจกลับเข้าไปในกระเป๋า มองกลับไปยังร้านที่ตัวเองเดินออกมาแล้วผิวปากออกมาอย่างสบายใจ

    วันนี้ก็ผ่านไปด้วยดีเหมือนกับในทุกๆวันที่ผ่านมา

    แต่หลังจากที่เขาหันหลังให้กับประตูของร้าน ความคิดก่อนหน้านั้นก็พลันต้องสลายไป

    ดวงตาสีเขียวมรกตสบเข้ากับยามาโมโตะ ทาเคชิที่กำลังยืนพิงเสาไฟฟ้า ร่างสูงอยู่ในชุดเครื่องแบบทีมเบสบอลของโรงเรียนมอปลายแห่งหนึ่งที่โกคุเดระรู้สึกคุ้นชื่อ ดวงตาสีน้ำตาลเปลือกไม้ละขึ้นมาจากโทรศัพท์ในมือเมื่อรับรู้ได้ถึงสายตาของเขา เจ้าของใบหน้าคมยิ้มออกมาให้เขาอย่างสดใส

    เหมือนกับที่เคยยิ้มให้เขาเมื่อหลายปีที่ผ่านมา

    “ไม่เจอกันนานเลยนะโกคุเดระ” อีกฝ่ายพูดขณะเก็บโทรศัพท์มือถือลงไปในกระเป๋ากางเกง “นายไม่เคยติดต่อกลับมาเลยไม่ว่าฉันจะส่งข้อความไปเยอะแค่ไหน”

    “ฉันพยายามมากเลยนะ” เขาพูดขณะค่อยๆก้าวขาเดินตรงมาหาเขาที่ยืนนิ่งอยู่ “เพื่อที่จะได้มาแข่งที่นี่ ถึงแม้ว่าจะแพ้กลับไปก็เถอะ”

    ดวงตาสีเขียวมรกตมองมาที่เขาด้วยความสั่นไหว ไล่ไปตามองค์ประกอบของใบหน้าที่ตัวเองคุ้นเคยดีในขณะที่เขาเดินเข้าไปใกล้อีกฝ่ายมากขึ้นเรื่อยๆ

    หลังจากที่ร่างสูงขยับเข้ามาใกล้พอให้เขาเอื้อมมือไปหา โกคุเดระ ฮายาโตะก็ยกมือขึ้นไปจับใบหน้าอีกฝ่ายไว้ก่อนที่สมองจะทันได้สั่งการห้ามตัวเอง นิ้วมือไล้ไปตามสันกรามของยามาโมโตะ ทาเคชิ

    บอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าซ้อมหนักเกินไป

    นอนหลับให้เพียงพอบ้าง ต้องใช้ร่างกายหนักไม่ใช่หรือไง

    “ฉันว่านายคงเปลี่ยนเบอร์โทร...”

    ยามาโมโตะพูดได้แค่นั้นก่อนที่คำพูดทุกอย่างที่เขาซ้อมไว้อย่างดีจะถูกกลืนกินหายไป ร่างบางเอื้อมมือขึ้นไปรั้งคออีกฝ่ายลงมาก่อนจะประทับรอยจูบลงไปบนริมฝีปากของอีกฝ่าย

    หวานลึกล้ำ

    คิดถึงและโหยหา

    เป็นอีกครั้งของวันที่เขารู้สึกว่าเวลากำลังหยุดเดิน

    หลายนาทีถัดจากนั้นอีกฝ่ายถึงละริมฝีปากออกไป ทั้งคู่ยืนนิ่งไม่พูดอะไรต่อไปอีกสักพัก ก่อนที่ร่างสูงจะเป็นคนเอ่ยปากทำลายความเงียบออกมา

    “นายเลิกสูบบุหรี่แล้วหรอ”

    โกคุเดระ ฮายาโตะหัวเราะออกมาเบาๆ

    อา

    นี่ผมมีความสุขเกินไปหรือเปล่าครับพระเจ้า

    ร่างสูงมีสีหน้างุนงงก่อนที่มันจะเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มในอีกเสี้ยวนาที โกคุเดระสังเกตเห็นประกายในดวงตาสีน้ำตาลเปลือกไม้ของอีกฝ่าย “ขอฉันเริ่มใหม่...”

    “ไม่ ยามาโมโตะ” ร่างบางตอบก่อนที่อีกฝ่ายจะทันได้ถามคำถามจนจบ ยามาโมโตะ ทาเคชิสังเกตเห็นว่าดวงตาสีเขียวทอความเจ็บปวดออกมาก่อนที่อีกฝ่ายจะทันหลบสายตาไปจากเขา

    แต่จริงๆแล้ว

    การไม่ได้เจอนายอีกครั้งมันคงจะดีเสียกว่า

    “...โกคุเดระ” เสียงทุ้มเอ่ยชื่อเขาออกมาอย่างไม่เข้าใจ

    “กลับไปเถอะ”

    “...”

    “แล้วอย่าพยายามกลับเข้ามาในชีวิตฉันอีกเลย”

     

     

     

     

    โกคุเดระ ฮายาโตะไม่ได้ลงมากินข้าวกับสองสามีภรรยาในคืนนั้นด้วยการอ้างว่ารู้สึกไม่ค่อยสบายในท้องเนื่องจากตอนกลางวันทานแซนวิชที่น่าจะเสียเข้าไป

    ไม่รู้ว่าเขาร้องไห้ไปเยอะแค่ไหนในคืนนั้น อาจจะมากพอให้ตัวเองหลับไปด้วยความเหนื่อยอ่อน

    จี้ผีเสื้อบนหน้าอกให้ความรู้สึกเย็นแม้จะเป็นกลางฤดูร้อน

    เย็นจนเขาปวดไปทั้งหัวใจ

     

     

     

     

     

    15 APR 2020

    FROM: รุ่นที่สิบ

    TO: YOU

              โกคุเดระคุง ฉันจะแต่งงานแล้วล่ะ ใช่แล้ว กับเคียวโกะจัง

              แรมโบ้กับอี้ผิงขึ้นชั้นมัธยมปลายแล้ว หลังจากที่เรียนจบรีบอร์นก็หันไปเข้มงวดกับเจ้าสองคนนั้นแทน รีบอร์นคงจะเหงาแหละชั้นว่า

              ยามาโมโตะเลิกเล่นเบสบอลแล้วนะ คงตัดสินใจจะทำกิจการต่อจากพ่อ

              หวังว่าโกคุเดระคุงจะสบายดี

     

     

     

     

    1 MAY 2021

    FROM: UNKNOWN NUMBER

    TO: YOU

              นี่ โกคุเดระ ชั้นไปเอาเบอร์มาจากสึนะล่ะ ตอนนี้ขึ้นมอปลายแล้ว เท่กว่าแกเยอะเลย

              ปล.กลับมาที่ญี่ปุ่นได้แล้ว

              ปปล. ไม่ได้คิดถึงหรอกนะ

     

     

     

     

    15 OCT 2022

    FROM: รุ่นที่สิบ

    TO: YOU

              โกคุเดระคุง

              ได้ยินข่าวมาจากเบียงกี้น่ะว่าตอนนี้นายป่วยหนัก ไม่รู้ว่านายจะเห็นข้อความมือถือไหม ไว้ฉันจะฝากเบียงกี้ไปบอกกับนายอีกทีแล้วกันนะ เห็นบอกว่านายไม่ยอมให้ใครเข้าเยี่ยมเลยนอกจากเบียงกี้คนเดียว

              ขอให้นายหายไวๆนะโกคุเดระคุง คิดถึงนายเสมอ

     

     

     

     

     

    10 DEC 2022

    บรรยากาศภายในงานหนาวเย็นเหมือนกับอากาศที่รายล้อมพวกเขาเอาไว้ หิมะยังคงไม่ตกที่อิตาลีแม้จะเริ่มตกที่ญี่ปุ่นมาได้เป็นอาทิตย์แล้วก็ตาม ยามาโมโตะ ทาเคชิคิดว่าหน้าหนาวปีนี้หนาวกว่าทุกๆปีที่ผ่านมา

    โกคุเดระ ฮายาโตะจากไปอย่างสงบในวันที่ 8 ธันวาคม 2022

    ไม่ใช่เพราะภาวะแทรกซ้อนจากการผ่าตัดเปลี่ยนถ่ายหัวใจอย่างที่ใครเคยคาดคิดเอาไว้ แต่เป็นเพราะติดเชื้อในกระแสเลือดซึ่งเกิดจากการทานยากดภูมิคุ้มกันอย่างต่อเนื่อง

    หลังจากทีมแพทย์พยายามรักษาอย่างเต็มที่เป็นระยะเวลานานเกือบสองเดือน เบียงกี้ตัดสินใจที่จะไม่ทำการกระตุ้นหัวใจของน้องชายตัวเองอีกครั้งหลังจากที่หัวใจของเขาหยุดเต้นเป็นครั้งที่สอง

    เธอร้องไห้จนสภาพแทบดูไม่ได้ตอนที่เล่าให้ทุกคนฟังว่าน้องชายของเธอดูทรมานมากแค่ไหนตอนนั้น

    งานศพถูกจัดอย่างเรียบง่ายตามที่โกคุเดระ ฮายาโตะร้องขอก่อนจากไป แขกเหรื่อในงานมีจำนวนทั้งหมดไม่ถึง 40 คน ทุกคนมีสีหน้าโศกเศร้า โดยเฉพาะคู่สามีภรรยาชาวอิตาลีคู่หนึ่งที่หญิงชราร้องไห้อย่างหนักจนเป็นลม

    ยามาโมโตะหยิบบุหรี่ในกระเป๋าเสื้อออกมาก่อนจะจุดสูบ

    โกคุเดระไม่ได้กลับมาสูบบุหรี่อีกหลังจากผ่าตัด

    ตลกดีที่เขากลายเป็นฝ่ายที่ติดบุหรี่ไปเสียเอง

    ตอนนั้นดวงตาของเขายังเป็นสีเขียวมรกตอยู่หรือเปล่าเขาเอ่ยถามเบียงกี้หลังจากที่ได้ฟังข่าว

    ดวงตาสีเขียวแบบเดียวกันของเธอมองตรงมาที่เขา อีกฝ่ายหลับตาก่อนจะพยักหน้าลงเบาๆ สว่างสดใสเหมือนเดิม

    โกคุเดระยังคงสวยงามเหมือนเดิม

    อย่างที่เคยเป็น

    อย่างที่เป็นตลอดมา

    ยามาโมโตะ ทาเคชิเดินออกมาจากงานหลังจากเสร็จสิ้นพิธี เขาดับบุหรี่ด้วยส้นรองเท้าก่อนที่ดวงตาสีน้ำตาลเปลือกไม้จะมองขึ้นไปบนท้องฟ้าที่ปกคลุมไปด้วยเมฆ หาพระอาทิตย์ไม่เจอจนยากจะเชื่อว่าเป็นตอนกลางวัน

    ภาพที่มองเห็นตรงหน้าพร่าลงก่อนที่เขาจะรู้สึกถึงความเค็มในริมฝีปาก

    หลังจากวันนั้นที่เจอกัน โกคุเดระ ฮายาโตะไม่เคยย้อนกลับมา

    และตัวเขาเองก็คงต้องก้าวต่อไป

     

     

     

     

     

    นายยังคงสวยงามเสมอ

    -          Yamamoto Takeshi   -

     

     

     

     

     

     

     


     Talk with writer

    สวัสดีค่ะทุกคน โผล่มาดึกอีกแล้ว แหะๆ

    สวัสดีปีใหม่ย้อนหลังด้วยนะคะ ตอนแรกกจะแต่งให้ทันปีใหม่เป็นของขวัญกับทุกคน แต่ก็ทำไม่ได้...

    เป็นยังบ้างคะช่วงนี้ ปิดโควิดอีกแล้ว หวังว่าทุกคนจะสบายดีเหมือนเดิมนะคะ คิดถึงทุกคนเหมือนเดิมค่ะ

    นี่เป็นตอนจบ ตอนสุดท้ายของฟิคเรื่องนี้แล้วค่ะ ใช้เวลาแต่งทั้งหมด 9 ปี ไอ้บ้าเอ๊ย

    ขอโทษที่ทำให้รอนานขนาดนี้นะคะ ทั้งๆที่บอกตอนเดือนเมษายนว่าจะเขียนให้จบไปเลยแท้ๆเชียว

    ชอบคุณทุกคนที่อ่านจนจบมาจนถึงตอนนี้นะคะ ทั้งคนอ่านเก่าและคนอ่านใหม่ เราต้องขอบอกว่าถ้าไม่มีกำลังใจจากทุกคน ฟิคเรื่องนี้ก็คงจะจบอยู่แค่ในหัวเราไปตั้งแต่สามปีที่แล้ว ขอบคุณทุกคนที่ยังไม่ลืมฟิคเรื่องนี้และยังคอยส่งกำลังให้เราอยู่เสมอมานะคะ

    ตอนจบตอนนี้เป็นยังไงบ้างคะ

    เราแต่งไปสะอึกสะอื้นไป แต่ก็เป็นสิ่งที่อยู่ในหัวของเรามาตั้งแต่ตอนที่แต่งตอนแรกของฟิคเรื่องนี้ ในใจคือกะให้จบแบบนี้อยู่แล้ว ขอโทษหากทำให้ใครผิดหวังนะคะ แต่งยากมากจริงๆการทำให้ตัวละครที่อยู่มาตั้งแต่แรกตาย สรุปอิเรื่องนี้มีใครมันสมหวังบ้างไหม!! ฟาดๆ

    เราอยากให้ตอนสุดท้ายทุกคนเติบโตไปมีชีวิตเป็นของตัวเอง ทั้งโกคุเดระและยามาโมโตะ โดยที่ทั้งสองคนยังคงรักกันค่ะ + อยากให้โกคุเดระได้อยู่ท่ามกลางคนที่ได้รักเขาก่อนตายด้วย ;_;

    สามารถคอมเม้นท์แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับฟิคเรื่องนี้ได้นะคะ หรือถ้าใครสะดวกทวิต #KHRPandorahearts เลยค่ะ อย่าลืมติด hashtag นะคะ!!

    สามารถติดต่อพูดคุยกับไรเตอร์ได้ที่ twitter: impzim Instagram: imishungry เข้ามาทักทายกันได้นะคะ อยากคุยอยากรู้จักกับทุกคนเลย

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×