คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : บทที่1 คำขอของแฟนเก่ากับปัญหาใหญ่
บทที่1 คำขอร้องของแฟนเก่ากับปัญหาใหญ่
วันอาทิตย์ที่แสนสดใสของความคิดของปรมินทร์เปลี่ยนเป็นวันที่แสนมึนงงไปทันทีที่เขาได้เห็นหน้าคนที่ขึ้นชื่อว่าแฟนเก่าซึ่งไม่ได้มาคนเดียวอย่างที่เขาคิด เพราะเธอมากับเพื่อนของเธอที่เขาไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่อย่างขวัญชีวิน แต่ที่ทำให้เขามึนงงหาใช่พยาบาลสาวไม่หากแต่เป็นเด็กน้อยวัยประมาณสองสามขวบที่รินรดาอุ้มอยู่ต่างหาก
ดวงตาคมกล้ามองร่างของหนูน้อยมินรดาอย่างพิจารณา ดวงตาคู่นั้นที่เหมือนกับเขา จมูกน้อยๆ หรือแม้แต่ริมฝีปากและใบหน้าเรียกได้ว่าลอกเขามาอย่างกับพิมพ์เดียวกัน
"ดะ เด็กคนนี้ ลุ ลูก" "ลูกคนเจ้าชู้แบบคุณไง ยังมีหน้ามาถาม" ขวัญชีวินเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่พอใจทันทีที่ปรมินทร์อ้าปากถาม เธอถูกรินรดาขอให้มาด้วยโดยเพื่อนสาวไม่ได้บอกว่าทำไมต้องให้มาด้วยทั้งที่รู้ว่าเธอไม่ค่อยกินเส้นกับชายตรงหน้า
"ยุ่ง ดูหน้าก็รู้แล้ว แต่ที่ผมถามเนี้ยเพราะสงสัยว่านี่มันเรื่องอะไรกันแน่ ผมต้องการฟังจากริน คุณอย่ายุ่ง" ปรมินทร์เอ่ยบอก แค่ดูหน้าเขาก็รู้แล้วว่าลูกเขา แหงสิดีเอ็นเออยู่บนหน้ายัยตัวเล็กนั้นแล้วนิ
"นี่คุณว่าฉันยุ่งเหรอ หน็อยแหนะ" "ทำไม ก็คุณมันยุ่งจริงๆ นิ ทำไมคลอดเด็กคนนี้มาเหรอถึงได้เข้ามายุ่งห๊ะ เอ๊ะ! ผมจำได้ว่าหน้าและปากแบบคุณนี่ไม่มีทางได้เห็นขาอ่อนผมนะ จะไปท้องลูกผมได้ไง เพราะฉะนั้นอยู่เงียบๆ ไปเลย" ปรมินทร์เอ่ยสวนอย่างดูแคลน ขวัญชีวินถือว่าเป็นคนสวยไม่แพ้รินรดาแถมยังดูสวยหน้าหวานปานน้ำผึ้งยิ่งกว่าแต่ปากของคนตรงหน้านี่ถือว่าจัดแถมกัดเจ็บใครได้โดนเจ้าหล่อนแอนตี้แล้วรับรองกัดไม่ปล่อย
"นี่คุณแม้แต่หัวใจกับตับไตไส้พุงคุณฉันก็เห็นมาแล้ว ขาอ่อนคุณน่ะฉันไม่แลหรอกย่ะ" ขวัญชีวาเอ่ยอย่างไม่พอใจ หน็อยบังอาจมาพูดว่าหน้าและปากแบบเธอไม่มีทางได้เห็นขาอ่อนเหรอ ตับไตไส้พุงเธอก็เห็นมาแล้ว
"เหอะ ถ้าผมไม่ถูกยิง หน้าอย่างคุณไม่มีทางได้เห็นหรอก" ปรมินทร์เอ่ยอย่างหมั่นไส้ หลายปีก่อนเขาถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัสขวัญชีวินเป็นพยาบาลในห้องผ้าตัดและได้เป็นพยาบาลดูแลไข้เขา ตอนที่ฟื้นขึ้นมายอมรับว่าชอบใบหน้าหวานๆ นั้นแต่พอเริ่มจีบเธอก็ปากร้ายใส่ และเขาก็ทำให้เธอโกรธถึงขั้นขอเปลี่ยนตัว เมื่อพยาบาลเข้ากับคนไข้ไม่ได้หัวหน้าพยาบาลจึงเปลี่ยนให้รินรดามาดูแลเขาแทน และนั่นคือสาเหตุที่ทำให้เขาได้เจอกับรินรดาและชอบถึงขนาดจีบและคบเป็นแฟน
"หน็อย คิดว่าฉันอยากเห็นนักรึไง เชอะ" หญิงสาวเอ่ยทำให้ปรมินทร์อ้าปากออกหมายจะพูดแต่เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นซะก่อน
"พอแล้ว หยุดทั้งสองคนนั้นแหละ กรุณาอย่าใช้เสียงดังต่อหน้าเด็กผู้เปรียบดั่งผ้าขาว" รินรดาเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นสถานการณ์ระหว่างสองคนนี้เริ่มย่ำแย่ 'นี่เธอคิดอะไรผิดไปรึเปล่า เปลี่ยนใจตอนนี้ดีมั้ย'
"ฮึย จะพูดอะไรก็พูดไปเลยแกก่อนที่ฉันจะข่วนหน้าพ่อหมูหวานให้เลือดโชก" ขวัญชีวินเอ่ยบอกก่อนที่จะหันหน้าไปทางอื่น
*"*โอเคเข้าเรื่องเลยนะคะมินทร์ นี่หมูหวานค่ะ ตอนที่รินเลิกกับคุณได้สามเดือน รินก็ได้รู้ว่าท้องหมูหวาน" รินรดาเอ่ยบอกทำให้ปรมินทร์กลับมาเงียบลงอีกครั้ง หญิงสาวมองปฏิกิริยาของอดีตแฟนหนุ่มโดยไม่เข้าใจว่าที่เขานิ่งไปเพราะตกใจ หรือกำลังคิดข้ออ้างมาปฏิเสธเด็กหญิงมินรดา หรือว่าเขากำลังรู้สึกผิดอยู่กันแน่
ด้านขวัญชีวินกลับมั่นใจว่าชายหนุ่มกำลังคิดหาข้ออ้างปฏิเสธหนูน้อยอยู่อย่างแน่นอน แต่แล้วขวัญชีวินก็ต้องถึงกับเงิบเมื่อเสียงทุ้มกังวานแต่นุ่มนวลดังขึ้น
"ทำไมรินไม่บอกผมว่าท้อง ทำไมอยู่ๆ ก็หายกันไปหมดเลย " ปรมินทร์เอ่ยถามหลังจากเงียบฟังหญิงสาวพูดมาสักพัก รินรดาถึงกับลอบถอนหายใจอย่างโล่งอกแค่ได้ยินอีกฝ่ายถามแบบนี้เธอก็มั่นใจได้แล้วว่าอีกฝ่ายต้องดูแลลูกน้อยได้แน่
"พอรู้ว่าท้อง รินก็ตัดสินใจแล้วว่าจะไม่บอกมินทร์ เพราะรินไม่ได้รักคุณแล้วไม่อยากอยู่ด้วยกันเพราะลูก หวาน นุ่นแล้วก็ช่อเลยพารินไปอยู่เชียงใหม่แล้วลงมาอยู่กรุงเทพเมื่อครึ่งปีก่อน" รินรดาเอ่ยบอกทำให้ชายหนุ่มหันไปมองขวัญชีวาอย่างเอาเรื่องให้มันได้แบบนี้สิ ผู้หญิงคนนี้ยุ่งชะมัด ยัยคนนี้เองที่ทำให้เขาต้องพลัดพรากจากลูก
"แต่ที่วันนี้รินมาบอกคุณก็เพราะรินมีเรื่องจะขอร้องให้คุณช่วย" รินรดาเอ่ยบอกตรงๆ อย่างไม่อ้อมค้อม เธอตรงพอที่จะพูดทุกเรื่องและข้อดีตรงนี้เองที่ทำให้ปรมินทร์คบเธอได้นาน
"เรื่องอะไร มีเรื่องอะไรก็บอกผมมาได้เลยริน" ชายหนุ่มเอ่ยบอกทำให้รินรดายิ้มออกมาอย่างโล่งใจ แม้ปรมินทร์จะดูเจ้าชู้แต่ชายหนุ่มก็ใจถึงพึ่งได้กับทุกคน
"รินกำลังจะไปทำงานที่สเปน แต่เจ้านายห้ามไม่ให้เอาหมูหวานไปด้วย ยัยนุ่นกับยัยช่อถูกย้ายไปที่อื่นส่วนไข่หวานถูกขอไปช่วยที่โรงพยาบาลเดิมที่สัตหีบ รินเลยไม่มีทางเลือกแล้วจนต้องมาพึ่งคุณนี่แหละ รินขอฝากลูกไว้กับคุณสักสามปีได้มั้ย หมดสัญญากับนายจ้างแล้วรินจะไม่รบกวนคุณอีก" รินรดาเอ่ยบอกในขณะที่ปรมินทร์ถึงกับนิ่งไปครู่หนึ่ง
"ทำไมต้องฝากด้วยล่ะริน ยัยหนูนี่ก็ลูกผมนะ ไม่ต้องห่วงหรอกผมจะดูแลแกให้ดีที่สุด" ปรมินทร์เอ่ยบอกทั้งที่ในใจกลับกำลังคิดหนัก เขาไม่เคยมีลูกหรือเลี้ยงลูกเลยนะ จะดูแลได้มั้ยละเนี้ย นี่เขาฝันอยู่รึเปล่า เขามีลูกสาวอายุสองขวบเชียวเหรอ ไม่เคยเลี้ยงเด็กสักครั้งจะรอดม้ยเนี้ย
"ถือว่ามินทร์รับปากแล้วนะคะ ขอบคุณนะคะมินทร์ รินไม่ให้แกเป็นภาระคุณหรอกแค่สามปีเท่านั้นแหละ อ้อ ลืมบอกไป มินทร์ไม่ต้องกังวลนะคะว่าจะเลี้ยงหมูหวานยังไงเพราะรินมีตัวช่วยไว้ให้คุณด้วย" รินรดาเอ่ยบอกทำให้ทั้งปรมินทร์และขวัญชีวินหันมองอย่างสงสัย
"ตัวช่วยเหรอ " "ใช่ค่ะ ตัวช่วยรินมีผู้ช่วยมาช่วยคุณด้วย หวานฉันฝากแกช่วยมินทร์ดูแลหมูหวานด้วยนะ" รินรดาเอ่ยบอกปรมินทร์ก่อนที่จะหันมาเอ่ยบอกเพื่อนสาว
"ฉันเหรอ ทำไมต้องฉันล่ะแก" ขวัญชีวินเอ่ยถามอย่างสงสัย ไม่เข้าใจว่ารินรดาคิดอะไรอยู่กันแน่
"ก็แกจะย้ายไปสัตหีบนิ ใกล้มินทร์เขาที่สุด อีกอย่างแกก็มีความรู้ในการดูแลเด็กด้วย ฉันไว้ใจแกหวาน ช่วยคุณมินทร์เขาด้วยนะ" รินรดาเอ่ยบอกก่อนที่จะลุกขึ้นอุ้มลูกสาวตัวน้อยขึ้นมาหอมก่อนที่จะอุ้มไปยื่นให้ปรมินทร์ "ฝากด้วยนะคะมินทร์ รินต้องไปขึ้นเครื่องแล้ว นายจ้างของรินให้เปลี่ยนไฟล์นะคะ ข้าวของของหมูหวานรินส่งไปที่บ้านคุณแล้วแล้วก็เขียนจดหมายเรียนคุณพ่อคุณแม่คุณแล้วด้วย ไม่ต้องกังวลนะคะ ไปนะมินทร์ไปนะแก ฝากด้วย"
"ริน เดี๋ยวดิริน เฮ้ย มาเร็วไปเร็วชะมัด นี่มันความจริงหรือความฝันกันแน่ว่ะเนี้ย" ปรมินทร์เอ่ยเรียกคนที่พูดฝากฝังแล้วรีบเร่งเดินออกจากร้านไปด้วยความมึนงง เขาสับสนไปหมดแล้ว นี่มันเรื่องอะไรกันแน่
"ความจริง" ขวัญชีวินเอ่ยก่อนที่จะลุกขึ้นยืนอย่างหัวเสียที่เพื่อนสาวทำอะไรไม่ปรึกษาก่อนทั้งเรื่องให้เธอช่วยปรมินทร์และเรื่องที่เลื่อนไฟล์บิน
"เอ่อ แล้วผมต้องทำยังไง ตรงๆ นะคุณผมเนี้ยไม่เคยเลี้ยงเด็กมาก่อนเลย" ปรมินทร์เอ่ยบอกเมื่อรินรดาทิ้งผู้หญิงตรงหน้าไว้เป็นผู้ช่วยเขา เขาก็คงต้องพึ่งเธอคนนี้ไปสักระยะก่อน
"ไม่รู้ ตอนนี้ฉันคิดไม่ทัน" คนที่กลายเป็นตัวช่วยสำคัญเอ่ยบอกก่อนที่จะนั่งลงอีกครั้ง "เอางี้ คุณพาหมูหวานกลับบ้านก่อน พ่อแม่คุณอาจจะช่วยได้ ฉันมีเรื่องต้องทำอีกเป็นภูเขาเลากา ไว้สงสัยอะไรค่อยโทรถามก็ได้ "
"เดี๋ยวดิ ผมไม่รู้เบอร์คุณจะโทรไปได้ไงห๊ะ เป็นตัวช่วยประสาอะไรเนี้ยช่วยทำให้ปวดหัวชัดๆ " คุณพ่อหมาดๆ เอ่ยอย่างหัวเสียเบาๆ ก่อนที่จะขวัญชีวินจะลุกขึ้นยืนกอดอกอย่างโมโห
"งั้นก็ไม่ต้องมีหรอกตัวช่วย เลี้ยงเองไปเลย ลูกก็ลูกคุณ ชดใช้ความผิดของคุณไปเถอะ ฉันไม่ยุ่งด้วยหรอกย่ะ" หญิงสาวเอ่ยบอกก่อนที่จะเดินออกจากร้านไปทันที
"แมะแม่ นะ หวาน" เสียงใสๆ ของเด็กหญิงมินรดาดังขึ้นเรียกคนที่เดินออกไปก่อนที่มองคนที่อุ้มตนอยู่ตาแป๋ว "คาย"
"พ่อครับ พ่อมินทร์ครับลูก" ปรมินทร์เอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงนุ่มน่าฟัง หนูน้อยทำหน้างงๆ พร้อมถามออกมาซึ่งทำเอาปรมินทร์ปวดหัวจี๊ดขึ้นมา "ป้อหมายตึ่งอายายยย"
"พ่อหมายถึงพ่อครับลูก โธ่หนูอย่าทำหน้างงสิครับ พ่อทำอะไรไม่ถูกนะ" ปรมินทร์เอ่ยบอกก่อนที่แม่หนูน้อยวัยสามขวบจะหกปากร้องออกมาจนคนอื่นๆ หันมามอง ชายหนุ่มที่ทำอะไรไม่ถูกรีบอุ้มลูกสาวขึ้นมาอย่างเก้ๆ กังๆ ก่อนจะจ่ายค่าเครื่องดื่มแล้วเดินออกจากร้อนไป
บนรถ
"เอาไงดีว่ะเนี้ย เคยเลี้ยงที่ไหนเด็กเนี้ย" ปรมินทร์เอ่ยกับตัวเองอย่างกลัดกลุ้มเมื่ออุ้มหนูน้อยมินรดามาขึ้นรถได้
"หาแม่ หมูหวานจาหาแม่ แม่ปายหนาย" หนูน้อยเอ่ยอย่างงอแงก่อนที่จะแผดเสียงร้องลั่นรถจนปรมินทร์ต้องยกมือขึ้นปิดหูก่อนที่จะมองร่างเล็กอย่างทำอะไรไม่ถูก
ไลน์
คุณแม่คนสวย : ตามินทร์พาหลานกลับมาหาแม่เดี๋ยวนี้เรามีเรื่องต้องคุยกัน
ปรมินทร์อ่านข้อความที่มารดาส่งมาในไลน์ก่อนที่จะหันมาสตาร์ทเครื่องรถ อยากจะปลอบลูกสาวตัวร้อยแต่ไม่รู้จะปลอบอย่างไรเขาจึงทำได้แต่นิ่งเงียบและควบคุมรถให้ไปถึงบ้านให้เร็วที่สุดและปลอดภัยที่สุด
หุหุหุๆๆๆๆๆๆๆ ติดตามกันจ้า
จะมีใครอ่านอยู่มั้ยน้อ เม้นกันให้รู้หน่อยยยย
|
ความคิดเห็น