คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ค่ำคืนที่ 3 : ดวงตา..100%(Cut Scene)
ดวงตะวันส่องสว่างร้อนแรงเหนือท้องฟ้าสีคราม
รถลีมูซีนสีขาวคันหรูซึ่งดูเหมือนถูกจัดทำมาเป็นพิเศษเพื่อต้อนรับภูมิประเทศที่เป็นทะเลทรายกำลังแล่นอยู่บนถนนสายเล็กๆ
โดยมีสองฝั่งข้างทางเป็นเนินทรายพูนสูงทองอร่าม แต่หากไม่มีอะไรดึงดูดจิตใจได้เท่าร่างที่กำลังนอนแน่นิ่ง
ทั้งที่โดยปกติแล้วเวลาที่ผ่านเลยไม่เคยมีสิ่งใดเรียกความสนใจเขาได้นอกจากตนเอง แต่บัดนี้
กลับมิอาจละสายตาจากร่างอันบอบบางที่ไม่ต่างอะไรจากกิ่งไม้เปราะๆและผิวพรรณละเอียดเหมือนเม็ดทรายสีขาวสะอาดได้
น่าแปลกทั้งที่ไม่ชอบพวกต่างชาติ แต่เด็กหนุ่มผู้นี้กลับทำให้เขารู้สึกเหมือนกำลังลุ่มหลงอยู่ในวังวน
ยิ่งมองใบหน้าเรียวหวานราวอิสตรีกับริมฝีปากบางเฉียบนั่น หัวใจที่นิ่งไปนานกลับเริ่มเต้นแรงขึ้น
ทั้งที่ช่วงเวลานี้..ควรเป็นฤดูกาลที่เขาสงบที่สุด
เพราะอะไรกัน..กลิ่นหอมละมุมนี้ถึงอยู่ในร่างของเด็กหนุ่มคนนี้
สงสัยกระนั้น มือขาวค่อยๆเอื้อมไปเกลี่ยเส้นผมที่บดบังดวงหน้างามแผ่วเบา ก่อนโน้มจมูกโด่งสันลงคลอเคลียอยู่บนแก้มนุ่มนิ่มดุจปุยนุ่นราวกับพิสูจน์ความจริง
แต่ไม่คาดคิดว่าจะทำให้เปลือกตาที่ปิดสนิทไปนานกลับขยุกขยิก
เขาจึงรีบเอนตัวกลับมานั่งในท่วงท่าเดิม ขณะที่ดวงตาสีอำพันมองคนที่กำลังได้สติกลับคืนมาอย่างสนใจ
“ ฟื้นแล้วเหรอ
” เสี้ยววินาทีที่ได้สติกลับคืนมา แต่เสียงเรียบเย็นคุ้นหูทำให้ดวงตาคู่สวยต้องเบิกโต
สัญชาตญาณรีบพากายบางลุกขึ้นทันที
“ แก!..อ่อก!! ” ไม่ทันได้พูดสิ่งใด จู่ๆก็อาเจียนเอาก้อนน้ำที่กระอักกระอ่วนอยู่ในลำคอออกมาจนเปรอะเปื้อนไปทั่ว
ร่างบางเกร็งตัวจนโก่งงอรู้สึกเจ็บในท้องคล้ายลำไส้มันจะขาดออกจากกัน ขณะที่ชายหนุ่มที่นั่งข้างๆกลับมองนิ่งงัน
รอยยิ้นบางๆยกขึ้นราวกับรู้อยู่แก่ใจว่าอาการของร่างบางจะเป็นเช่นนี้
“ อย่าขยับดีกว่า พิษงูมันยังไม่หมด ” เขาเอ่ยเสียงเรียบเสมือนสิ่งที่พูดเป็นเรื่องพื้นๆ
ก่อนจะเอนลำตัวพิงพนักเบาะบนรถอย่างสบายใจ ส่วนมือก็ยกขึ้นเท้าค้างใบหน้าเรียบเฉยซึ่งบัดนี้ไร้ซึ่งการปกปิดใดๆอย่างตอนก่อน
ทาสหนุ่มค่อยๆเงยใบหน้าขึ้นมามองบุรุษสูงศักดิ์ผู้ซื้อเขาไว้ด้วยเงิน
20 ล้านลูซ แต่ทันทีที่เห็นใบหน้าที่สะดุดตานั้น ก็ทำเอาความคิดต่างๆพลันหยุดชะงักงัน
นัยน์ตาสีอำพันเดิมทีคล้ายกับดวงตาของสัตว์ร้าย บัดนี้กลับคมกริบงดงามเหมือนแสงของดวงตะวัน
จมูกโด่งสันรับกับคิ้วเรียวยาวดกดำโค้งสวย ริมฝีสีเนื้อระเรื่อหยักดุจรูปคันศร เส้นผมสีดำยาวสลวยปรกดวงหน้านั้นมิอาจตอบได้ว่าสวยงามหรือหล่อเหลาดี
แต่กลับยิ่งทำให้ทำให้ชายสูงศักดิ์คนนี้ดูสง่างามและน่าเกรงขามในเวลาเดียวกัน
มิกิเผลอมองดวงหน้าอันงดงามนิ่งขณะที่อีกฝ่ายก็ไม่ได้คิดหลบเลยสักนิด
สายตาที่ผสานมาจู่ๆมันก็ทำให้หัวใจดวงน้อยเต้นแรงขึ้นราวกับว่ามันกำลังถูกครอบงำด้วยนัยน์ตาสีทองนั่น
โชคดีที่ว่าแรงกระแทกเล็กน้อยจากพาหนะที่นั่งก็พลันให้เขาหลุดออกจากภวังค์ฉับพลัน ขณะที่ภาพเหตุการณ์ที่ไม่น่าจดจำบนขบวนรถไฟก็ผุดเข้ามาในหัวเหมือนน้ำที่กำลังไหลท่วมเข้ามา
ถึงจะไม่ค่อยอยากเชื่อ..แต่เขาก็แน่ใจว่า บุรุษคนนี้เป็นคนสั่งให้งูพวกนั้นกัดเขาบนขบวนรถไฟซึ่งตอนนี้ไม่ใช่!
“ แกจะพาฉันไป..อ่อก!.. ”
ยังไม่ทันได้ถามจนจบประโยค
ก็โก่งตัวลงไปอาเจียนที่พื้นอีกครั้งจนอ่อนแรง ดวงตาคมปรายตามองเด็กหนุ่มที่อาเจียนขับพิษงูออกไม่เลิก
ก่อนจะหอบหายใจอยู่ฟุบหน้าหมดเรี่ยวแรงอยู่บนเบาะ ภาพอันน่าสงสารของคนที่ไม่รู้สถานะตนเองนี้ทำให้เขาหัวเราะในลำคอแผ่วเบา
เรียกสายตาไม่พอใจของอีกฝ่ายให้หันมาโดยทันที แต่นัยน์ตาสีอำพันกลับเบนสายตาออกไปด้านนอกรถแสงสว่างทำให้ดวงดางนั้นเป็นประกายระยับ
ริมฝีปากบางขยับเอื้อนเอ่ยเปล่งเสียงเรียบเย็น
“ อนาคาน.. ”
เพียงแค่ชื่อของสถานที่ที่ไม่คุ้นหูหลุดออกมา ทำเอาคิ้วสีอ่อนของเด็กหนุ่มลูกครึ่งผูกเป็นปมแน่น
แม้จะอ่อนแรงเต็มทนได้ใช่ว่าหัวสมองเขาจะเบลอจนนึกอะไรไม่ออก
เดิมทีชื่อนี้เหมือนเขาเคยอ่านเจอในหนังสือประวัติศาสตร์ระหว่างที่ทำงานเป็นผู้ช่วยศาสตราจารย์โลเกีย
ถ้าเขาจำไม่ผิด มันคือชื่อเมืองโบราณที่เต็มไปด้วยอารยธรรมลึกลับเก่าแก่ที่ซ่อนอยู่ในแทบทะเลฮาซานที่ยังไม่มีใครพิสูจน์ว่ามีอยู่จริงบนโลกเสียด้วยซ้ำ
แต่ตอนนี้..ใครจะเชื่อล่ะว่า..คนที่ยอมซื้อตัวเขามาด้วยราคา 20 ล้านจะเป็นคนพาเขาไปที่นั่น
!
“ ทำหน้าแบบนั้น..รู้จักงั้นหรือ
” ดวงตาคมปรายมองเขาอย่างเจ้าเล่ห์พร้อมรอยยิ้มที่เย็นเหยียบ
หากปฏิกิริยาที่ตอบสนองกลับจากร่างนั้นคืออาการสั่นผวาทันทีที่เผลอสบนัยน์ตาคู่นั้น
ขณะที่หัวใจก็เต้นแรงเสียจนเหมือนจะระเบิดออกมา ความเย็นยะเยือกแพร่ซ่านไปตั้งปลายเท้าจรดศีรษะ
ครั้นจะพยายามใช้มือทั้งสองกอดตัวเองก็ทำไม่ได้เพราะเขายังถูกมัดไว้
มิกิจึงทำได้เพียงกัดฟันแน่นเพื่อระงับความตื่นตระหนกกับอาการของร่างกายที่มิอาจควบคุมได้
“ เป็นอะไรไป
อย่าแสดงความกลัวต่อหน้าฉันแบบนั้นสิ ”
ใบหน้าคมเข้มโน้มลงมาใกล้ขึ้นจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นๆ
แต่กลับทำให้ร่างกายหนาวสะท้านมากขึ้น
เมื่อพบดวงตาคมกริบสีอำพันจ้องมองมาที่เขาราวกับสัตว์ร้ายกระหายเหยื่อ
“ ถอยออกไปนะ! ”
CUT
“ ไอโรคจิต..
” กัดฟันเปล่งเสียงด้วยความเจ็บใจ ถึงร่างกายจะเจ็บช้ำจนไร้เรี่ยวแรง
หากไม่เท่ากับจิตใจที่ถูกหยามเกียรติจนไม่เหลือศีกดิ์ศีรความเป็นคน
แม้เขาจะไม่เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับใครจนเกินเลย แต่นี่ก็ไม่ใช่จูบแรกสำหรับเขา
แต่อย่างน้อยคนที่ขามอบล้วนมาจากความรักอันบริสุทธิ์ใจ
ไม่ใช่ช่วงชิงไปเพราะความต้องการส่วนตัว
“ หึ
เก็บแรงไว้เถอะ เราใกล้จะถึงกันแล้ว ตอนนี้คงไม่เหมาะเท่าไร” พูดจบเสมือนไร้ซึ่งความรู้สึก ทำเอามิกิได้แต่ขบกรามแน่นอยู่แบบนั้น ก่อนใบหน้าหล่อเหลาหันออกนอกหน้าต่างของรถ
ขณะที่แสงแดดที่สาดส่องมาจากภายนอกนั้นทำให้ผิวพรรณ์ของชายผู้นี้เปล่งประกายงดงาม น่าแปลกทั้งที่รูปลักษณ์ภายนอกนั้นเจิดจรัสราวกับเพรชล้ำค่า
แต่ทำไมรัศมีรอบกายที่เขาสัมผัสได้กลับมีแต่ความเยือกเย็นและน่าสะพรึงกลัวซ่อนเอาไว้ภายใต้ร่างสง่างามนี้
คำถามหนึ่งที่เขายังคงไม่ได้คำตอบก็คือ..
ชายคนนี้เป็นใครกัน..
ใช้เวลาไม่นานนัก ในที่สุดการเดินทางอันแสนยาวไกลก็หยุดลง หลังจากตอนนั้น
อาการของก็กำเริบขึ้นอีกครั้ง เขาอาเจียนขับพิษงูออกมาตลอดทาง ซึ่งน่าแปลกใจนักเพราะโดยหลักการแล้วการรักษาพิษงูนั้นทำได้อย่างเดียวคือการฉีดเซรุ่มเพื่อเข้าไปทำลายพิษที่อยู่ด้านใน
หรือใช้เครื่องมือเพื่อบ่งเอาพิษงูออกจากแผลที่กัดแล้วรัดเชือกเหนือแผลให้แน่นเพื่อกันพิษแล่นเข้าสู่หัวใจ
แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเกิดอะไรขึ้น แต่หลังจากรสจูบของคนตรงหน้า ในท้องของเขาก็ร้อนระอุเหมือนโดนแผดเผาตลอดเวลา
สุดท้ายก็ไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่จะพยุงตัวลุกขึ้น รู้สึกเหมือนตัวเขากำลังจะตายจริงๆ
ทว่า..กลับไม่มีความสนใจจากคนที่อยู่ข้างกายเลยสักนิด ทันทีที่เสียงประตูรถถูกเปิดออก
ดวงตาคู่สวยได้แต่ปรือมองแผ่นหลังสูงสง่าก้าวลงจากรถ เขาเห็นบันไดหินอ่อนทอดยาวขึ้นไป
มีผู้คนมากมายซึ่งแต่งตัวอยู่เสื้อคลุมโธปสีดำและกุห์ตราสีเดียวกันต่างพากันนั่งก้มหัวถวายอยู่แทบเท้าชายผู้นั้นทั้งสองฝั่งข้างทางอย่างเนืองแน่น
หากหูของเขาได้ยินไม่ผิดเพี้ยนคนพวกนั้นกำลังถวายคำสรรเสริญที่ดังก้องไปทั่วบริเวณ
เสร็จสิ้นร่างสูงก็เรียกชายสูงวัยผู้หนึ่งท่าทางเหมือนคนสนิทเข้ามากระซิบบอกบางสิ่ง
ก่อนดวงตาสีอำพันคมกริบจะปรายตามามองเขาจนสะดุ้ง
ไม่ทันได้ครุ่นคิดสิ่งใดต่อ เขาก็ได้ยินเสียงประตูรถเปิดออกจากทางด้านหลัง พอรู้สึกตัวอีกทีริมฝีปากของตัวเองก็ถูกปิดด้วยผ้าจนแน่น
ก่อนถุงผ้าดำสนิทจะครอบลงบนศีรษะบดบังภาพทุกอย่างจนสิ้น
จากนั้นเขาก็เหมือนกำลังตัวเองกำลังถูกลากตัวไปที่ไหนสักแห่ง ร่างบางพยายามส่งเสียงร้องโวยวาย
แต่กลับไม่มีใครให้ความช่วยเหลือเขาเลยสักนิดแต่ขาเรียวบางที่ยังคงถูกมัดไว้ก็เคลื่อนไหวได้ไม่ถนัดนัก
ทำเอาล้มลุกคลุกคลานไปหลายครั้งเมื่อต้องขึ้นบันไดเป็นสิบๆขั้นจนข้อเท้าแพลง แต่พอถุงผ้าที่คลุมอยู่ถูกเปิดออกฉับพลัน แสงสว่างก็ทำให้เขาต้องรีบหรี่ตาลง
เมื่อภาพทุกอย่างจะปรากฏชัดขึ้น ก็พบว่าตัวเองกำลังอยู่ในห้องของใครสักคนที่มีขนาดที่กว้างๆพอกับห้องวิจัยที่เขาเคยทำงานสองห้องรวมกัน
นัยน์ตาสีอ่อนกวาดสายตาไปรอบๆอย่างตกตะลึง
ในห้องเต็มไปด้วยข้าวของเครื่องใช้ที่ดูมีราคาสูงริบ ทั้งกระจก โซฟา โต๊ะ ตู้
ทุกอย่างถูกทำด้วยทองคำอย่างดี
ลึกเข้าไปมีห้องที่เชื่อมต่ออีกห้องโดยที่ไม่มีประตูกั้น ด้านในมีสระน้ำเล็กๆที่มีรูปปั้นสลักรูปหัวของอสรพิษกำลังพ่นน้ำอยู่ทั้งสองทั้งสองฝั่ง
พอเงยหน้าขึ้นไปด้านบน
ก็พบสัญลักษณ์บางสิ่งที่เขาเองก็ไม่เคยเห็นซึ่งคล้ายกับดวงตา
แต่กลับเหมือนถูกพันไว้ด้วยงูสีดำตัวหนึ่งมองดูน่าขนลุก
หลายสิ่งหลายอย่างเกิดเป็นคำถามมากมายในหัวเต็มไปหมด ราวกับชายสูงศักดิ์ผู้นี้กำลังบูชาสัตว์เลือดเย็นอย่างงูเป็นเทพเจ้า
ซึ่งใช่ว่าเรื่องนี้เขาจะไม่เคยได้ยินมาก่อน แต่กลับไม่คิดว่าจะมาเผชิญกับตัว
อย่างไรซะ..ถ้าโลกนี้ยังไม่ทิ้งเรื่องการค้าทาสได้..ถ้าจะมีเรื่องการบูชางูขึ้นมาอีกเรื่องก็คงไม่แปลกอะไรนัก
สิ่งสำคัญตอนนี้ก็คือ..เขาจะหาทางออกจากที่นี้ได้ยังไงต่างหาก
เพราะดูจากสถานการณ์แล้ว ชายผู้นั้นคงไม่ปล่อยทาสที่มีราคา 20 ล้านไปโดยง่ายๆแน่
แต่เขาจะทนอยู่สภาพนี้ไม่ได้
จะทำอย่างไรดีมิกิ..คิดสิคิด!
“ ปลดโซ่เขาออกให้หมด”
ไม่รู้ว่าเมื่อไรที่ร่างสูงสง่ามายืนอยู่ในห้อง
แต่พอได้ยินเสียงเรียบคุ้นหู หัวใจของเขาก็กระตุกทันที ในที่สุดโอกาสที่รอคอยมานานที่มือและเท้าจะเป็นอิสระจะกลับมาอีกครั้ง
แล้วเขาจะได้ไปจากสถานที่บ้าๆนี้เสียที แต่ชายคนที่เป็นคนลากตัวเขามาที่นี่กลับไม่เห็นด้วย
“ แต่ฝ่าบาท..
”
“ อย่าริขัดคำสั่งข้า! ” เสียงตวาทก้องทำเอาชายคนนั้นถึงกับสะดุ้งด้วยความหวาดกลัว
แต่เรื่องนั้นร่างเล็กหาได้สนใจไม่ ตอนนี้ ถ้าเขาหูไม่ฝาดไป ชายคนนี้เรียกร่างตรงหน้าว่า
‘ฝ่าบาท’ ซึ่งคำสรรพนามเช่นนี้จะเรียกได้ต่อเมื่อคนผู้นั้นเป็นผู้ปกครองประเทศ
ถ้าเช่นนั้นก็หมายความว่าคนคนนี้คือ..
กษัตริย์!
มิกิยืนนิ่งด้วยความตกใจ ขณะที่ในใจก็กลับสับสนไปหมด
ทำไมคนที่วรรณะเป็นถึงกษัตริย์ชั้นสูงถึงมาซื้อทาสอย่างเขาที่เมืองอาราบัสกัน ซึ่งแน่นอนคำว่าถูกใจเพียงอย่างเดียวคงไม่มีเหตุผลพอสำหรับทาสราคา
20 ล้านลูซแน่
แต่มันเพราะอะไรกัน?
กึก
เสียงปลดกุญแจที่ข้อเท้าทำให้เขาหลุดออกจากภวังค์
ตอนนี้ไม่ใช่เวลามานั่งคิดว่าเหตุผลคืออะไร
แต่เขาควรใช้โอกาสที่กำลังจะได้รับรีบหนีออกจากที่นี่ต่างหาก ว่าแล้วดวงตาก็ค่อยๆมองหาสิ่งที่คิดว่าพอน่าจะใช้เป็นอาวุธป้องกันตัวได้
ก่อนจะเหลือบไปเห็นกริซสีเงินเงาวับเหน็บไว้ที่ข้างเอวของพวกทหารองค์รักษ์ตรงหน้า ไม่รอช้าทันทีที่โซ่ข้อมือถูกปลดออกทันหมด
มือเรียวก็รีบฉวยเอากริซคมกริบแล้วจ่อไว้ที่ต้นคอของทหารผู้โชคร้ายทันที
“ อย่าเข้ามานะ ถ้าเข้ามาฉันฆ่าหมอนี่แน่!” ตะเบ็งเสียงแข็งจ่อคมมีดไว้ที่ต้นคอของทหารหนุ่ม
อย่างน้อยถ้าเป็นคนของแผ่นดินเดียวกันต้องไม่กล้าลงมือทำอะไรแน่ แต่ร่างสูงกลับไม่ได้แสดงทีท่าว่าตกใจเลยแม้แต่น้อย
เขาทำเพียงแค่หรี่ตาลงนิ่งแล้วยกมือข้างหนึ่งขึ้นระดับสายตาของตัวเอง
ขณะที่ดวงตาสีอำพันกลับดูเยือกเย็นเสียจนน่าขนลุก มิกิขมวดคิ้วลงอย่างไม่เข้าใจว่าปฏิกิริยานี้คือสิ่งใด
แต่เพียงแค่น้ำเสียงเรียบเย็นเอ่ยออกมาก็ทำเอาทุกอย่างกระจ่างจนหมด
“ ฆ่ามันซะ..” ทันทีที่มือทรงอำนาจทิ้งลง
ก็ราวกับคำสั่งพรากชีวิต
เสียงร้องดังขึ้นพริบตาพร้อมคมเขี้ยวที่ฝั่งลงกลางลำคอของทหารหนุ่ม
ซึ่งไม่รู้ว่าตอนไหนที่อสรพิษร้ายขนาดกลางเลื้อยขึ้นมาปกคอเสื้อ
มิกิเบิกตากว้างด้วยความตกใจผลักร่างนั้นออกจากตัว
เห็นอีกทีทหารคนนั้นก็ดิ้นทุรนทุรายอยู่กับพื้น ดวงตาเหลือกล้นจนแทบทะลักออกมาจากเบ้า
น้ำลายสีขาวฟูฟ่องท่วมปาก วินาทีต่อมาก็สิ้นใจลงต่อหน้า ช่วงวินาทีนั้นร่างเล็กแทบลืมหายใจ
แต่ไม่ทันทำสิ่งใดเร็วเท่าพริบตาร่างกายของเขาก็กระแทกเข้ากับบานประตู
“ โอ้ย! ” ร้องลั่นด้วยความเจ็บ
ข้อมือทั้งสองถูกมับรวบไว้ด้วยมืออันแข็งแรง ส่วนมือหนาอีกข้างก็กดทับไว้ที่กลางแผ่นอกบางพร้อมกับกายแกร่งที่โถมลงมาจนมิอาจขยับหนี
ดวงตาเรียวคมหรี่ลงมองใบหน้าหวานที่ยังคงแสดงอาการตื่นตกใต แต่ยิ่งเห็นเขากลับยิ่งชอบใจนัก
อยากจะรู้จริงว่าร่างนี้จะทำให้เขาสนุกได้แค่ไหน
“ ทะทำอะไร
ปล่อยนะ อึก! ” ขาดคำมือที่กดลงกลางแผ่นอกกลับค่อยๆเลื่อนลงเบื้องล่าง
มิกิเห็นสถานการณ์เริ่มล่อแหลมก็พยายามดิ้น แต่เพียงแค่มือหนาสอดเข้าไปที่ใต้ผ้าผืนน้อยและกอบกุมจุดอ่อนไหวทำเอากายบางถึงกับสั่นสะท้าน
“ กำลัง..สำรวจทุกอย่าง ”
CUT
“ มิกิ..20
ล้านลูซช่างคุ้มเกินคาดจริงๆ ว่าไหม” เขาเลียริมฝีปากตัวเอง
แต่สาบานได้ว่าชั่ววินาทีหนึ่งเขาเห็นว่าลิ้นนั้นไม่เหมือนกับลิ้นปกติทั่วไปของมนุษย์
แต่มันเหมือนลิ้นที่มีลักษณะเรียวยาว แต่ตรงปลายกลับแยกออกเป็นสองแฉกอย่างกับ..
ลิ้นของงู!
ไม่ทันตั้งสติทำใจได้ ร่างแกร่งก๋โน้มตัวลงมาใกล้ขึ้น กลีบปากหยักโค้งค่อยๆเอื้อนเอ่ยเสียงเย็นเยือกข้างใบหู
“ บาซิกค์ ฮอร์น ซัลคาฟา คือชื่อเจ้าของ..กลิ่นของนาย ”
CUT
มิกิหอบหายใจด้วยความเหนื่อยอ่อน อย่างไรซะ..ถ้าไม่ทำอะไรสักอย่างตัวเขาคงต้องถูกกระทำมากกว่านี้แน่
แต่กำลังกายของอีกฝ่ายกลับเหนือเขามากนัก ขัดขืนอย่างเดียวคงไม่มีวันหลุดพ้นคงมีแต่..
ต้องล่อลวงเท่านั้น!!
“ ปล่อยฉันสิ..ฉันจะทำทุกอย่างที่นายต้องการ ” คำออดอ้อนกล่าวพร้อมกับน้ำเสียงหวานแห่บพร่าอย่างยั่วยวน
ดวงตาสีดังแสงมรกตนั้นปรือช่ำไปด้วยหยาดน้ำตาที่เกาะราวผลึกแก้วใสชวนมองยิ่งนัก
ริมฝีปากบางเผยอขึ้นเล็กน้อยเหมือนกำลังเชิญชวนให้ลิ้มลอง จนไม่ว่าชายที่ไหนก็อดที่จะหลุ่มหลงเป็นไม่ได้
บาซิกค์แม้รู้ดีว่าสิ่งล่อลวงเหล่านี้คือน้ำผึ้งอาบยาพิษ
แต่กลับยินดีที่จะเผลอใจเข้าไปดื่มยิ่งนัก
เพราะบางที่ยาพิษที่ว่าอาจะเอร็ดอร่อยก็เป็นได้
ทันทีที่ตัดสินใจปลดมือเรียวให้เป็นอิสระ
ร่างบางกลับไม่คิดจะหนีอย่างที่เขาคิด หากแต่ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง
ท่อนแขนบางโอบคล้องต้นคอของคนที่สูงกว่าให้โน้มลงใกล้ใบหน้า
บาซิกค์ยกยิ้มมุมบางอย่างชอบใจก่อนจะปลดปล่อยร่างกายให้เป็นไปตามอีกฝ่ายชักชวน
กลีบปากอุ่นประกบกันดูดดื่มกันครั้งแล้วครั้งเล่า
ความร้อนแรงของร่างตรงหน้ายิ่งถล้ำถลึกมากขึ้นก็ยิ่งถอดถอนออกมาได้อย่างยากเย็น
ขณะที่ทุกอย่างเริ่มเป็นไปตามไฟปรารถนาที่เริ่มคุกรุ่นขึ้นอีกครั้ง
ดวงตาคู่สวยก็แอบชำเลืองมองหาสิ่งของรอบกาย
ก่อนจะพบแจกันแก้วเล็กๆที่ตั้งเอาไว้อยู่บนแท่นโชว์ข้างประตู
ขณะที่อีกฝ่ายกำลังเริ่มเมามันอยู่กับบทรักที่มอบให้
มือเรียวก็รีบฉวยโอกาสคว้าแจกันแก้วขึ้นฟาดเข้ากกหูทันที
เพล๊ง!!
เสียงแก้วแตกละเอียดดังไปทั่ว
พร้อมกับร่างสูงที่แทบเซล้มพับเมื่อถูกฟาดอย่างแรง โชคดีที่กษัตริย์หนุ่มความรู้สึกไว้พอจึงยกท่อนแขนขึ้นมากันไว้ได้ทัน
แต่เศษแก้วกลับกระเด็นบาดเข้าตามท่อนแขนขาจนเลือดไหลซึม ทว่า..กลับไม่เด่นชัดเท่ารอยแผลที่กรีดยาวเป็นแผลลึกข้างใบหน้า
เลือดสีแดงสดค่อยๆไหลอาบลงมาจนถึงต้นคอ มิกิเบิกตากว้างแต่ไม่มีเวลาให้สำนึกผิดในสิ่งที่ทำมากนัก
ตอนนี้เขาไม่รู้ความดีความชั่วใดๆทั้งสิ้น
มีแต่สัญชาตญาณการเอาตัวรอด ว่าแล้วก็ออกแรงผลักร่างแกร่งซ้ำจนล้มลงต่อหน้า
ก่อนจะรีบหัยหลังเปิดประตูออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว โดยที่ไม่ได้ทันสังเกตว่าดวงตาสีอำพันคู่นั้นบัดนี้กำลังแปรเปลี่ยน..
มิกิรีบวิ่งออกมาด้านนอกด้วยหัวใจที่เต้นถี่รัว
แต่เพราะข้อเท้าที่ถูกพันธนาการมาเป็นเวลานานจนเป็นแผลเขียวช้ำ
ประกอบกับข้อเท้าที่แพลงอยู่ก่อนหน้า ทำให้ร่างบางล้มกองกับพื้นพรมในที่สุด
ทั้งที่โชคดียิ่งนักที่ภายนอกไม่มีทหารคนใดมาเฝ้าคุ้มกันอยู่หน้าห้องของบาซิกค์เลย
แต่กลับต้องมาพ่ายแพ้เพราะความอ่อนแอของตัวเอง
มิกิขบกรามแน่นเพื่อระงับความเจ็บปวดของตัวเองก่อนจะพยายามคลานแล้วตั้งท่าลุกขึ้นใหม่อีกครั้ง
แต่ไม่ทันไรก็ได้ยินเสียงฝีเท้าจากคนจำนวนมากกึกก้อง
ใบหน้าหวานเงยขึ้นมาก็พบทหารหลายสิบนายยืนล้อมหน้าล้อมหลังเอาไว้จนหมดหนทางสู่อิสระภาพนั้นพลันหายไป
กระทั่งสัมผัสจากบางสิ่งในมือข้างซ้ายทำให้เขาต้องเบนสายตาไปมอง ก่อนจะพบปากขวดของแจกันแก้วที่เขาเผลอติดตัวมาด้วย
ความคิดหนึ่งแล่นเข้ามาทันที ต่อให้จนมุมอย่างไรเขาจะไม่มีวันตกอยู่ในสภาพนั้นอีกแล้ว
ตอนนี้ตัวประกันที่ดีที่สุดตอนนี้คงหนีไม่พ้น..
ตัวเขาเอง!
“ อย่า เข้ามานะ! ถ้าเข้ามาล่ะก็ 20 ล้านลูซนี่ จะหายไปในพริบตา! ” ตะคอกขู่เสียงแข็ง
หันคอขวดแจกันที่แตกละเอียดจนเป็นปากฉลามเข้าหาลำคอตัวเองอย่างไม่เกรง
ทำเอาพวกทหารที่คิดจะเข้ามารุมจับถึงกับหยุดชะงักไม่กล้าทำสิ่งใดเพราะกลัวจะทำให้ผู้เป็นเจ้าชีวิตกริ้วโกรธ
จึงได้แต่หยุดรอบๆคอยล้อมไปให้ร่างตรงหน้าหนีไปไหน แต่แล้วเสียงย่ำเท้าหนึ่งพร้อมกับการปรากฏตัวของใครบางคนทำเอาพวกทหารถึงกับหน้าซีดเผือดรีบแหวกเป็นสองข้างทาง
บุรุษร่างสูงสง่าในชุดโธปที่เปื้อนเลือดสีแดงสดคลี่ยิ้มเรียบ
ศีรษะที่ไร้ซึ่งกายปกคลุมใดๆแผร่สยายเส้นผมสีดำยาวสลวยลงมาถึงเอวแกร่ง แต่เพียงมิกิได้พบใบหน้าคมเข้มหมดจดนั้นก็พลันเอาร่างกายเย็นวาบไปในพริบตา
เมื่อสิ่งที่ควรปรากฏอยู่บนใบหน้ามันหายไป!
“ มิกิ..
” เสียงเรียบเย็นแผ่วเบาดังมนต์สะกดทำเอาร่างบางสะดุ้ง
เพียงช่วงครู่ที่สบดวงตาสีอำพันที่จ้องมองมาแน่นิ่งราวกับต้องการเจาะทะลุเข้าไปในจิตใจก็เหมือนมีสายลมเย็นเยือกวูบหนึ่งพัดผ่านเข้ามา ขณะที่หัวใจกลับเต้นแรงราวกับมันกำลังจะเบิดออกจากกัน
แรงกดดันมหาศาลถาโถมเข้ามาราวกับคลื่นลูกใหญ่ที่พร้อมจะพัดพาทุกสิ่งอย่างให้พังทลาย
แม้กระทั่งวิญญาณก็กำลังถูกชายคนนี้กลืนกิน ทำไมกันยิ่งได้ยินเสียงพูดแบบนั้น
ก็เหมือนร่างกายทันไม่ใช่ของตัวเองไปทุกที
อย่า..อย่าเรียกแบบนั้น..
“ มิกิ..
” ยิ่งพูดก็ยิ่งเหมือนยิ่งเพิ่มพูมความกดดันในร่างให้รุนแรงขึ้น เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
แต่ภาพแสงสว่างภายนอกที่เห็นกลับดำมือลงทุกวินาทีที่สบดวงตาคมกริบเหมือนจะพรากเอาวิญญาณของเขาไป
กายบางทรุดตัวลงอย่างหมดเรี่ยวแรง อาวุธหล่นลงพื้นจนไม่รู้หลุดไปอยู่ที่ใด
เวลานี้เขาได้แต่เสียงนั้นที่เรียกชื่อเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่าดังก้องไปมาอยู่ในหัวจนแทบจะเป็นบ้า
มือเรียวยกขึ้นปิดหูตัวเองจนแน่น แจ่ก็มิอาจทนได้ไหวอีก
“ หยุดนะ!! อย่าเรียก! ฉันบอกให้อย่าเรียกชื่อฉัน!!!
” ตะโกนเสียงดังลั่นเหมือนคนสติขาดกระเจิง น้ำตาไหลรินออกมาดวงตาที่ปิดแน่นราวกับไม่มีวันจบสิ้น
ภาวะกดดันที่ชายตรงหน้าสร้างขึ้นทำให้เขาเห็นภาพบางอย่างที่ไม่อยากเห็นและได้ยินในสิ่งที่ไม่อยากได้ยิน
บาซิกค์คลี่ยิ้มเย็นเยือกพอใจกับเหยื่อตัวน้อยที่ทรุดหมดสภาพอยู่กับพื้น
แต่กระนั้นเท่านี้ยังไม่เพียงพอ บางทีเด็กดื้อก็ต้องมีการสั่งสอนเล็กๆน้อยเสียบางจะได้เชื่อฟัง
ฉับพลันดวงตาสีอำพันจึงหลับลง แต่เมื่อลืมขึ้นมากลับแปรเปลี่ยนเป็นนัยน์ตารีเล็กของสัตว์ร้าย!
มิกิ..
รู้สึกตัวอีกที่ก็เหมือนร่างกายตัวเองกำลังถูกโอบรัดแน่นจากบางสิ่งจนจุก
กายที่ขยับได้เพียงนิดทำให้อึดอัดจากท่วงท่าที่ไม่สบายตัว ถึงจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเพราะทุกอย่างดำมืดไปหมดและดวงตาก็พร่าเลือนเสียจนมิอาจมองสิ่งที่กำลังเผชิญได้ชัดเจน
มีเพียงเสียงถี่ระรัวคล้ายกระดิ่งเล็กๆดังกึกก้องที่ใบหูกับเกล็ดเลื่อมมันที่โอบอยู่รอบตัว
ในขณะที่ทุกวินาทีนั้นการหายใจกลับทำได้ยากเย็นขึ้นเรื่อยๆ
แผ่นอกเคลื่อนไหวได้ช้าลง แม้เรี่ยวแรงจะเปล่งเสียงร้องครวญก็ยังไม่มี
ทว่า..ร่างกายกลับถูกบีบรัด ปวดร้าวจากแรงบดเบียดที่เพิ่มขึ้นจนได้ยิ่งเสียงลั่นดังคล้ายกับว่ากระดูกภายในมันกำลังแตกเป็นเสี่ยงๆ
แม้ไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เห็นเท่าไร..แต่สิ่งสุดท้ายที่ทำเอาร่างกายเย็นยะเยือกขึ้นอีกครั้ง
คือดวงหน้าของอสรพิษสีขาวสลับทองที่กำลังจ้องมองแน่นื่ง....
ช่วยด้วย..ใครก็ได้..ช่วยผมที
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ทักทายกันสักนิด
สวัสดีคร่า ^0^/ ไรท์ดี้ มารายงานตัวแล้วค่ะ คราวนี้อัพให้ก่อนกำหนดวันที่ 22 นะคะ อัพให้ตั้งแต่ 20 เลยอิอิ เผฮิญว่าเสร็จเร็วกว่าที่คิดไว้เล็กน้อย เลยเอามาลง ฮรี่ๆ ในที่สุดตอนนี้ก็ได้รู้จักชื่อพระเอกกันเสียที นุ้งมิกิจะได้ไม่ต้องจดทะเบียนกับชายที่ไม่รู้จักชื่อ ฮิ้วว(ผั๊วะ โดนมิกี้ถีบ) ฉบับบเด็กดี เป็นฉบับ CUT SCENE นะคะ ใครอยากอ่าน ฉบับเต็มๆ เข้ามาที่เพจดี้เนร๊อะ >< ขอบคุณทุกคนที่ติดชมเรื่องนี้ค่ะ จุ๊ฟ
BY
EtuDe
ปล.เขาไม่ให้แปะลิ้ง
ความคิดเห็น