ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    PLAY A GAME (Yaoi)

    ลำดับตอนที่ #11 : ตอนที่ 9

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.28K
      1
      21 ม.ค. 51

    เมื่อไหร่จะ สามโมงเย็นเสียทีเนี้ย ผมโทรุที่ต้องรอเวลาเย็นอย่างใจจดจ่อ ไม่รู้ว่าทำไมต้องตั้งหน้าตั้งตารอเวลาเจ้าเด็กนั้นเลิกเรียนด้วย รู้แค่ว่าอยากเจอหน้าเร็วๆ อยากคุยด้วย อยากอยู่ด้วยกันนานๆ ตอนนี้ผมเลยไม่ค่อยมีสมาธิในการทำงานจนเลขาสุดสวยของผมแต่เป็นภรรยาคนอื่นต้องเตือนบ่อยๆ ว่าพักนี้ผมดูเหม่อๆ เวลาประชุม ก็ดูไม่มีสมาธิ

    แค่คิดอะไรเพลินๆ ก็ได้เวลาแล้วครับผมรีบหอบหิ้วงานที่ค้างคาใส่กระเป๋าเอกสาร แล้วรีบตรงดิ่งไปที่รถ ท่ามกลางสายตาของลูกน้องที่งงงวยกันอาการของผมพักนี้ เพราะปรกติผมจะอยู่ทำงานค่ำมืดดึกดื่น แต่สองสามวันมานี้ผม ออกจากที่ทำงานเร็วเป็นพิเศษ

    ใช้เวลาไม่นานผมก็ขับรถมาถึงโรงเรียนเจ้าเด็กแสบมากิแล้วอันที่จริงมารอเจ้าเด็กบ้านี้ก็ดีเหมือนกัน มีเด็กสาวๆ ที่เดินผ่านไปผ่านมาก็พอเป็นอาหารตาให้กล่อมแกล้มไปได้บ้าง แต่จะให้ว่ากันจริงๆ ไอ้เด็กมากินะ หน้าตามันก็น่ารักน่าฟัดกว่าสาวๆหลายคนเสียอีก อ่ะมาแล้ว มาแล้วต้องเก็กหน้าหน่อยครับเดี๋ยวมันจับได้ว่าผมมีเจตนาแอบแฝง

    "อยากกลับบ้าน" มาถึงเจ้าเด็กมากิก็งองแงอยากกับบ้านซ่ะงั้น เป็นอะไรหว๋า

    "เป็นอะไรมาร้องกลับบ้าน" ผมถามเห็นมันทำหง๋อยๆแล้วใจไม่ดีแฮะ

    "ก็อยากกลับบ้านแล้วนี้ไม่อยากไปไหนทั้งนั้นน่ะ" ไม่พูดเปล่าครับเอามือเล็กๆมาดึงเสื้อผมแถมมองหน้าทำหน้าตาออดอ้อนเดี๋ยวปัด......

    "มีอะไรบอกฉันได้ไม๊...เดี๋ยวฉันพาไปหาที่คุยกันอย่ากลับบ้านด้วยสภาพนี้เลยเดี๋ยวคุณนามิจะไม่สบายใจ" ผมต้องเข้าโหมดผู้ใหญ่ใจดีไปก่อน...อย่าพึ่งรีบร้อนแสดงธาตุแท้ไปเดี๋ยวไก่ตื่นหมด

    "อืออ...ก็ได้...ไปร้านไอติมน่ะ" อ้าวไหนมันบอกว่าไม่อยากไปไหนไหงมาร้องกินไอติมซ่ะงั้นฟ่ะ...เอ้า!ตามใจเด็กมันหน่อยดูทำหน้าแล้วแบบนี้วันนี้ฉันจะแกล้งแกได้ไงว่ะมากิ

    พอมาถึงร้านเจ้ามากิก็สั่งนู้นสั่งนี้มาหม่ำซ่ะ...กินแบบนี้ทำไมมันไม่ยักกะโตฟ่ะตัวกระเปี๊ยกเดียว แต่ท่าทางตอนกินนี้มองแล้วเพลินครับน่ะรักจริงๆมากิของฉัน~....เออออเอาเป็นว่ามื่อกี้ไม่ได้ยินกันใช้ไมครับ

    "ยูยะไม่ยอมโทรมาหาเลย...โทรไปก็ไม่มีคนรับสายสามวันมาแล้วเป็นไงบ้างก็ไม่รู้" อยู่ๆก็พูดออกมาทำเอาผมสะดุ้งเลยครับ จริงสิเรื่องที่ทำให้เจ้าเด็กนี้หงอยได้คงมีแค่เรื่องเดียวเท่านั้นเรื่องของน้องชาย ที่เจ้าไคโต้มาพาไปผมเองก็ลืมเรื่องนี้เสียสนิด

    "ไม่มีอะไรหรอกมั๊ง คงเรียนหนักน่ะพวกค่ายวิชาการจะมีอะไรนอกจากเรียนกับเรียน แล้วยูยะนะเขาเป็นพวกใช้สมองไม่ใช้เอาแต่เล่นไปวันๆ แบบนายนี้จะได้ว่างมาโทรหาได้บ่อย" ผมปลอบไปหนึ่งยก แต่มันเบ้หน้า...ถ้าไม่ติดว่าอยู่กลางห้างแกโดนฉันจูบแน่ๆ ไอ้เด็กบ้า...เป็งไงวิธีทำโทษผมน่ากลัวไม๊

    "เรียนหนักยังไงก็น่าจะโทรหากันบ้างสิ...ไม่ใช้เงียบหายแบบนี้ผมคิดถึงจะตายอยู่แล้ว" มันหง่อยแต่ยังเถียงได้คงเส้นคงวาจริงๆครับ

    "เอ้า~กินเข้าไป กินเข้าไป" ผมรีบตัดบทเปลี่ยนเรื้องเพราะชักใจไม่ดีแล้วเพราะเท่าที่ดูๆ อาการเจ้าไคโต้มันเองก็ดูจะเสียการควบคุมตัวเองทุกทีที่เป็นเรื่องของยูยะ แล้วนี้ได้ตัวไปอยู่ด้วยมันจะทำอะไรรุนแรงหรือเปล่าคงต้องเข้าไปดูเสียหน่อยแล้ว

    พอเจ้าเด็กมากิหม่ำขนมต่างๆเสร็จผมก็รีบไปส่งที่บ้านพร้อมให้ค่าใช้จ่ายของเจ้าเด็กนั้นกับคุณนามิ แล้วรีบตรงไปบ้านเจ้าไคโต้ทันที

    .........................................................................................

    "สวัสดีครับคุณโทรุ" พ่อบ้านสูงอายุเอาหน้าเหี่ยวๆ มาต้อนรับผมด้วยรอยยิ้มแต่ตอนนี้ผมไม่อยากเสียเวลากับเรื่องหยุมหยิมพวกนี้เลยเปิดประเด็นความต้องการทันที

    "ไคโต้ อยู่ไหนครับคุณฮิโระ" ผมถามเสียงเครียด ผมไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมรู้สึกร้อนใจเหลือเกินกับเรื่องเจ้าเด็กนั้น

    "คุณไคโต้ เก็บตัวอยู่แต่ในห้องมาสามวันแล้วครับ" พอคุณพ่อบ้านฮิโระ บอกผมแค่นั้นผมก็ตรงลิ่วไปทางห้องเจ้าไคโต้ทันที โชคดีที่ประตูห้องไม่ได้ล๊อกผมเลยเปิดเข้าไป

    ....แล้วภาพที่เห็นทำให้ผมตัวเย็นเชียบ ยูยะที่นอนนิ่งบนเตียงโดยมีเจ้าไคโต้นั่งกุมมือเล็กข้างแก้ม ผมอยากจะรู้สึกดีกับภาพที่เห็นหรอกถ้าไม่ติดที่โซ่สีเงินที่โพล่พ้นผ้านวมผืนหนาออกมา

    "มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้น...ทำไมถึงกับต้องล่ามโซ่" ผมถามเสียงเครียด ก็ทั้งๆที่ผมเป็นยากุซ่าผมเองยังไม่เคยทำกับใครอย่างนี้มาก่อน จะฆ่าก็ฆ่า จะยิงก็ยิง หากถูกใจใครก็คบหากันไปหากไม่พอใจก็เลิกลาไม่เคยต้องบังคับขนาดต้องล่ามโซ่สักครั้ง

    "เรื่องของฉัน" ไคโต้ตอบผมโดยไม่หันมามอง สมองผมตอนนี้นึกไปถึงเจ้าเด็กมากิ หากเจ้านั้นมาเห็นแบบนี้เข้าจะเป็นอย่างไร จะเจ็บปวดแค่ไหนผมไม่น่าคิดเกมส์บ้าๆ นี้ขึ้นมาเลยไม่น่าคิดว่าจะแยกเด็กสองคนนี้ออกมาจากกัน ไม่น่าคิดว่าหากยูยะ ได้อยู่กับเจ้าไคโต้นี้แล้วทุกอย่างจะดีขึ้น ที่มันจะมีหัวใจอยู่ใกล้ตัว

    "ยูยะไม่ใช้สัตว์เลี้ยงน่ะจะได้ต้องล่ามโซ่กันแบบนี้...แล้วนี้เขาเป็นอะไร" พอผมเข้าไปดูใกล้ๆ จึงสังเกตุเห็นว่า ยูยะนอนเหงื่อโทรมกาย ถ้าเดาไม่ผิดร่างใต้ผ้านวมนั้นคงเปลือยเปล่าแน่ๆ 

    "เป็นไข้" ไคโต้ตอบผมสั้นๆ อีกครั้ง

    "ไปตามหมอมาหรือยัง" ผมถามต่อทันที

    ".........."

    "ยังไม่ได้ให้หมอมาดูอาการใช้ไม๊!" ผมชักเลือดขึ้นหน้าไอ้บ้านี้มันจะบ้าไปใหญ่แล้ว ผมกระชากคอเสื้อไคโต้ขึ้นมา

    "........."

    "ถ้ายูยะเป็นอะไรไปน่ะฉันไม่เอาแกไว้แน่ไอ้ไคโต้....คุณฮิโระโทรตามหมอมาเดี๋ยวนี้! แล้วไอ้โซ่บ้าๆ นี้ถอดออกด้วย" ผมตะโกนสั่งการประหนึ่งว่าเป็นบ้านตัวเองดัวยเสียงเชียบขาดในเมื่อผมเป็นคนก่อเรื่องนี้ขึ้นผมก็ต้องแก้ไข

    "ไคโต้เราคงต้องคุยกันยาว" ผมลากมันออกจากห้องไปยังห้องหนังสือด้านหนึ่งที่ไม่หางนัก แล้วปล่อยเสือไอ้ตัวการ

    "นายกอดยูยะแล้วใช้ไม๊" ผมถามตามตรง

    "ใช้"

    "แล้วเขาไม่เต็มใจใช้ไม๊ถึงได้เป็นแบบนี้"

    "ใช้"

    "แล้วเขาคิดจะหนีใช้หรือเปล่าถึงได้..."

    "ก็ใช้!....ทำไมฉันแค่ต้องการให้เขาอยู่กับฉัน ฉันแค่ต้องการให้ได้เขามา ทำไมแกต้องเข้ามายุ่งด้วย" ไคโต้ตะโกนลั่น ทำให้ผมเข้าใจสถานการแล้ว ไคโต้คงลงมือหักหาญเอาแต่ใจจนยูยะหวาดกลัวเป็นแน่ ถึงได้พยามหนี แล้วไอ้ที่ไข้ขึ้นคงเพราะเจ้าบ้าไคโต้ควบคุมตัวเองไม่ได้ลงมือรุ่นแรงกับยูยะแน่ๆ

    "นายทำแบบนี้อย่างมากก็ได้แต่ตัวยูยะแต่หัวใจเขาน่ะนายไม่มีทางได้มาแน่ๆ" ผมเตือนด้วยเสียงอ่อนลงมา

    "แล้วจะให้ฉันทำไง...ในหัวของเขามีแต่มากิ มากิ แล้วก็มากิ ไม่มีฉันเลยซักนิด" เสียงเจ้านั้นสั่นเครือ...เฮ้ออ มันอิจฉาเจ้าเด็กมากินี้เองถึงได้บ้าขนาดนี้

    "ก็สองคนนั้นเป็นพี่น้องกันนายเองทุกครั้งที่เจอกับเขาเคยอ่อนโยน เคยทำให้เขาเห็นหรือเปล่าว่าคิดอย่างไงกับเขา" ผมถามแล้วจ้องหน้าเจ้าญาติผู้น้องของตัวเอง

    "ต่อไปฉันควรทำไง"

    "ก่อนอื่นให้หมอมาดูอาการก่อนเลยเล่นซ่ะไข้ขึ้นแบบนี้ แล้วคุยกับเขาดีๆ แสดงความรู้สึกของนายออกไป แต่...ไม่ใช้ปล้ำเขาอีกหล่ะฉันหมายถึงการดูแลแล้วก็ให้อิสระเขาบ้าง เด็กๆ น่ะหลอกง่ายจะตาย" พอมาถึงไอ้คำว่าหลอกง่ายจะตายนี้ทำไมหน้าไอ้มากิมันลอยมาว่ะ

    หลังจากคุยกับเจ้าไคโต้ได้สักพักพ่อบ้านฮิโระ ก็เขามาบอกว่าหมอมาแล้วผมสองคนจึงพากันกลับเข้าไปในห้องนอนของไคโต้อีกครั้ง

    "แค่อ่อนเพลีย แล้วก็เครียดเท่านั้นครับไม่มีอะไรมากผมฉีดยาบำรุงให้แล้วปล่อยให้พักผ่อนแบบนี้ก็พอครับ" คุณหมอวัยกลางคนบอกแล้วขอตัวกลับ

    "หวังว่านายคงไม่เกิดบ้าขึ้นมาอีกน่ะ อ้ออีกอย่างถ้ายูยะตืนแล้วให้เขาโทรหามากิด้วยนั้นน่ะจะทำให้นายดูดีขึ้นในสายตาเขานิดนึง" ผมตบบ่าเจ้าไคโต้แล้วขอตัวกลับบ้าง ทำไมน๊าตอนเห็นสภาพยูยะแล้วผมต้องกลัวเจ้าเด็กมากิเจ็บปวดด้วยผมไม่เข้าใจตัวเองเลยจริงๆ เอาเป็นว่าพรุ้งนี้ถ้ายูยะโทรหาเจ้าเด็กบ้าแล้วผมคงได้เห็นรอยยิ้มสดใสนั้นอีกแน่ๆ กลับบ้านนอนดีกว่าลาล่ะครับ

    *****************************

    เมื่อวานไปวิ่งเล่นกับเด็กที่เนิสฯมา (เป็นเด็กที่คุณพ่อคุณแม่ฝากเรียนพิเศษค๊า) เล่นเอาซ่ะยอกค่ะลืมไปว่าแก่แย้ว เด็กๆน่าร๊าก ปาดน้ำลาย แต่อยู่ได้แค่แป๊บเดียค่ะพอเจอเสียงร้องไห้นัง Big ก็หายหัวหนีทันที่ค่าเค้าไม่ชอบเด็กร้องไห้นี้  
    เหตุการต่อเนื่องจากยางรถแตกค่ะ โดนค่ายางไปหมื่นสองอ๊อก! กระอักเลือดค๊าแพงโคตรงานนี้กินแกลบจนกว่าจะสิ้นเดือน(เดือนกุมภาค่ะไม่ใช้มกรา) แถมเดือนหน้ามีโครงการเอานังอาเวนเข้าอู่ทำสีเนื่องจากเธอลายไปทั้งตัวแถมก้นบุ๊บเนื่องจากอีฮันเอาเข้าไปเยี้ยมชมดงเฟื้องฟ้าเมื่อครั้งกระนู้น(เพราะมันใกล้หมดประกันแล้ว) หึ หึ ต่อไปนี้ท่านใดพบเห็นสตรีร่างถึกชนิดสามารถฆ่าหมูด้วยมือเปล่าได้ขึ้นรถเมย์ขอความกรุณาแม่ตาด้วยน่ะค๊า

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×