อะแฮ่ม...
ไม่อยากจะบอกเลยว่าวงจรชีวิตและความคิดเดิมๆ มันวนเวียนกลับมาอีกแล้ว
จะเรียกว่ายังไงดีนะ ช่วงจิตตก หรือว่าผลกระทบจากความเครียดหลังสอบเสร็จน่ะหรือ... ที่จริงมันก็ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก
เหมือนจะปรับตัวและรับอารมณ์เหล่านี้ได้ง่ายขึ้น เลยไม่ถึงขั้นจิตตกหรอก พัฒนาการออกจะเป็นไปในทางที่ดี
ส่วนเรื่องสอบก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรโดยตรง เป็นแค่การโบ้ยความผิดไปเท่านั้น ตอนแรกเราก็อารมณ์ดีๆ อยู่เลย แต่หงุดหงิดเลยไม่พอใจขึ้นมาด้วยสาเหตุอื่นต่างหาก...
ไม่พอใจจนถึงขั้นที่แต่งนิยายที่กำลังเขียนอยู่ลื่นๆ ต่อไม่ได้ ต้องหยุดพักไปทำอย่างอื่น และเมื่อคิดกลับไปกลับมาว่า เพราะเรื่องที่มาทำให้ไม่พอใจนั่นแหละเลยทำเขียนนิยายไม่ได้ ก็ยิ่งไม่พอใจใหญ่
อารมณ์ตอนนั้นคงเป็นโกรธกระมัง เหมือนถูกหักหลัง เหมือนถูกลบล้างความเชื่อใจที่เคยมีมา แล้วยังมาหยามกันให้เห็นอย่างนั้นอีก
ตอนนั้นก็รู้ซึ้งแล้วว่า โลกนี้ยากที่จะหาใครเชื่อใจได้ ความลับอันใดก็พึงเก็บไว้กับตัวเองเท่านั้น แม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อย ก็อย่าได้ไว้ใจใคร
...รู้สึกโกรธ จนต้องเตือนตัวเองว่าหากได้โกรธ หากโกรธก็เท่ากับเราพ่ายแพ้แล้ว
ตอนนี้ไม่ได้เจอตัวการต้นเหตุเหล่านั้น และเวลาที่ผ่านไปก็ทำให้หายขุ่นเคืองไปได้บ้าง คิดว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาโลก แต่ก็ไม่รู้ว่ากลับไปเจออีกครั้งจะให้อภัยได้อย่างหมดใจหรือยัง จะมองโดยไม่เคลือบแคลงระแวงไม่ไว้ใจได้ไหม
เราไม่ควรคาดหวังให้คนอื่นมีมาตรฐานในการคิดหรือปฏิบัติเหมือนเราเสียแต่แรกเลย... ก็คงได้แต่โทษตนเองเช่นนี้ล่ะนะ
...
ตอนแรกรู้สึกว่าเขียนนิยายได้ลื่น และสนุกกับการเขียนดี แม้จะเขียนได้ช้า ไม่เร็วนัก แต่ก็ดีใจที่เรายังสนุก แต่ตอนนี้ไม่มีอารมณ์จะเขียนแล้ว ถึงรู้สึกว่าอยากเขียน แต่ก็ทำได้ไม่ดีอย่างที่คิด
บางทีก็คิดอยากมาระบายอารมณ์ในนี้ทันทีตั้งแต่ต้น ให้เป็นไดอารี่ฟุ้งเฟ้อตามประสาวัยรุ่นเหมือนเมื่อก่อนที่ทำ แต่เดี๋ยวนี้มีเหตุผลหลายๆ อย่างมาแย้ง บอกว่า ถ้ายังเสียเวลากับเจ้าสิ่งนี้ได้ เอาเวลาไปทำอย่างอื่นที่ให้ประโยชน์มากกว่าไม่ดีหรือ หรือเกิดคิดถึงมัน แล้วหายโกรธไปทีเดียวเลย เพราะเขียนไปก็มีน้อยคนนักที่จะพยายามอ่าน ศึกษา หรือค้นคว้าความเข้าใจในตัวผู้อื่น (= ตัวเรา) ร่วมไปกับเรา ตัวเราเองก็นานๆ ครั้งถึงจะกลับมาอ่านอะไรเก่าๆ ที่เคยเขียนไว้ (หนังสือที่ชอบยังไม่ค่อยอ่านซ้ำ) เพราะคิดว่าเป็นการเสียเวลา ชีวิตควรจะก้าวไปข้างหน้า
แต่ละครั้งที่นึกทบทวนก็ใช่จะได้คำตอบที่กระจ่างแน่วแน่ เรายังคงนึกสงสัยเสมอๆ สงสัย ลังเล และไม่แน่ใจ สุดท้ายสิ่งที่เรียกเราให้กลับมาก็คือความเป็นจริง
ชีวิตก็ยังคงต้องก้าวเดินต่อไป ยังต้องไปเรียน ยังต้องทำงาน ยังมีหลายอย่างให้ทำ ให้รับผิดชอบมากกว่านี้ ต่อให้ไม่มีเป้าหมายส่วนตัวที่กำหนดขึ้นเอง เป้าหมายของสังคมและคนรอบข้างก็ยังขับเคลื่อนเราอยู่ดี
สรุปง่ายๆ ว่าชีวิตช่วงนี้...
สอบเสร็จ > เขียนนิยายด้วยอารมณ์ดีๆ ค่อนข้างลื่น > มีเรื่องแทรก ทำให้โกรธ ไม่พอใจ > พยายามใช้เหตุผลควบตัวเองไว้ อยากเขียนนิยายต่อ แต่ทำได้ไม่ดี > กลับมาใช้ชีวิต ทำงานด้านอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวเนื่องกับอารมณ์เช่นงานนิยายนัก แต่ก็ยังมีอารมณ์ไม่พอใจค้างเติ่งอยู่ และอยากเขียนนิยายอยู่ดี
ถ้าปลีกวิเวกไปเขียนนิยายได้โดยไม่มีใครมารบกวนก็ดีสิ...
ความคิดเห็น
^ That's what I need but I never had...LOL