C&J Story (โปรเจกต์เว็บนิยายที่จะทำส่งอาจารย์ร่วมกับเพื่อนอีกคน) >> 65%
ทำส่วนที่คิดว่ายากเสร็จเกือบหมดแล้ว เหลือระบบค้นหาอีกหนึ่งอย่าง ซึ่งที่จริงก็ไม่จำเป็นนัก ถ้าทำไม่ทันก็ตัดออกก็ได้ ส่วนที่โค้ดคิดว่าสามารถก็อปโค้ดเก่าที่เขียนไว้มาใช้ได้
นอกจากนั้นก็เหลือแค่ทดลองใช้งานตรวจสอบบั๊ก และตกแต่งออกแบบเท่านั้น ทว่าถึงส่วนเหล่านี้จะไม่ใช่ส่วนหลักใจความสำคัญ แต่ถ้าจะทำให้สมบูรณ์ก็ต้องใช้เวลานานเหมือนกัน
...คาดว่าปิดเทอมเดือนตุลาฯ คงสามารถเปิดใช้งานจริงได้
ICT Notebook by The Exception Team (สมุดที่ทำส่งประกวด SCG เมื่อครั้งกระนู้น) >> ขายไปแล้วประมาณ 30%
งานนี้ทำให้รู้ว่า ขายของที่เหนื่อยและเปลืองเวลากว่าที่คิดเหมือนกัน
และก็ทำให้รู้อีกว่า... ถ้าไม่ลงมือทำอะไร เงินก็ไม่มีทางงอกขึ้นมาหรอก (แต่จริงๆ อยากให้คนอื่นรู้ข้อนี้มากกว่า ตัวเรารู้เองแฮะ - -)
อัตราการขายออกเป็นไปด้วยดี แต่นี่ก็ยังเพิ่งวันแรกๆ เท่านั้น ที่เหลือก็ต้องรอดูกันต่อไปล่ะนะ
* Note: คราวหน้าคราวหลังต้องจริงจังกับการหาสปอนเซอร์ให้มากกว่านี้
ตราบฝัน (นิยายเล่มล่าสุดที่วางแผง) >> กราฟความยินดีขึ้นๆ ลงๆ
เมื่อสองวันก่อน (วันพฤหัส) ที่บ้านเพิ่งโทรมาบอกว่า สำนักพิมพ์ส่งมาให้สามเล่ม (ถือว่าให้น้อยกว่าที่อื่น) แต่ด้วยความงก เราจึงยังไม่มีไว้ในครอบครองเลยสักเล่ม แต่เวลาผ่านร้านหนังสือก็มักจะแวะเดินไปดูว่ามีวางขายบ้างไหม (คิดว่าเป็นอาการทั่วไปของนักเขียนที่นิยายเพิ่งวางแผง)
สรุปว่าก็ได้เห็นนิยายตัวเองแล้ว แต่ไม่ได้มีเก็บไว้กับตัว
หน้าปกของจริงออกมาสีสันสดใสกว่าที่คิด ช่วงคุยกันหลังร้านที่เขาเคยบอกให้เขียนให้ก็ถูกตัดออกไป ...ก็ไม่ได้เป็นแนว Magic Cafe นี่นะ
มีหลายคนถามว่าเรื่องนี้เป็นแนวใหม่ของแจ่มใสเหรอ ขอตอบว่า ไม่ใช่ เขาจัดให้อยู่ในหมวดวรรณกรรมอ่านสนุกน่ะ แจ่มใสไม่ได้เปิดไลน์ใหม่หรอก
ที่ว่ากราฟความยินดีขึ้นๆ ลงๆ ก็เป็นเพราะ ตราบฝันเป็นเรื่องที่เขียนแล้วกังวลต่อเสียงตอบรับของผู้อ่านเป็นที่สุด พอมีคนคอมเมนต์มาตรงจุดที่เราเองก็รู้อยู่แล้วว่ายังเขียนได้ไม่ดีพอ ก็เฟลเล็กน้อยถึงปานกลางอยู่ช่วงหนึ่ง ตอนนั้นเกิดความรู้สึกอยากตะโกนบอกให้ทุกคนไม่ต้องไปอ่านไม่ต้องซื้อหามาแล้ว ...ยังดีที่มีเพื่อนๆ พี่ๆ ช่วยปลอบใจอยู่ เลยยังไม่ได้ลงมือทำอะไรเลยเถิดไป
เมื่อรู้อยู่แล้วว่ามีข้อบกพร่อง แล้วทำไมถึงไม่แก้?
เป็นเพราะตอนนั้นรู้สึกว่าไม่ไหวแล้ว ถึงรู้ว่าไม่ดี แต่ก็ไม่รู้ว่าจะแก้ยังไง ไม่ไหว ไม่อยากทำ อยากให้มันจบๆ ไป แล้วสำนักพิมพ์ก็ไม่ได้ว่าอะไร เราเลยคิดเข้าข้างตัวเองว่า มันคงดีพอใช้ได้กระมัง
แต่เอาจริงๆ ก็เป็นเราที่อ่อนแอและด้อยความสามารถเอง เลยทำให้สมบูรณ์กว่านี้ไม่ได้ ถึงมีเหตุผลมากมายเบื้องหลังก็คงมีน้อยคนที่จะมาสนใจรับฟัง คนอ่านไม่ผิดที่จะประเมินจากผลงานที่ออกมาให้เห็นล้วนๆ พวกเขาไม่จำเป็นต้องมารับรู้ถึงเบื้องหลังหรือความยากลำบากของคนเขียนอะไรพวกนี้หรอก
เราเข้าใจจุดนั้นดี และยอมรับได้หากใครจะตำหนิอะไรที่จุดไหนมา แม้ส่วนใหญ่เราจะรู้ดีอยู่แล้ว...
...คิดในแง่ดีเสียว่า ถ้าเขียนเรื่องต่อไปให้ดีกว่านี้ได้ คนอ่านก็คงจะเห็นได้ชัดว่าเรามีพัฒนาการ
อย่างไรก็ตาม เราต้องขอขอบคุณคอมเมนต์จากเพื่อนๆ พี่ๆ ทั้งหลาย ที่ไม่ได้มองนิยายเรื่องนี้ในด้านเดียว ยังคงเห็นคุณค่าด้านอื่นๆ ในผลงาน
อ่า...พล่ามมากเดียวจะเสียเวลาไป รอไว้ให้มีคอมเมนต์มามากกว่านี้ แล้วจะเขียนสรุปอีกทีล่ะกัน ตอนนี้ก็มีกำลังใจเพิ่มขึ้นเยอะแล้วล่ะนะ ^^
Special Ones หนึ่งในคนพิเศษ >> สรุปว่าคงเอาชื่อนี้, ปัจจุบันแต่งได้ 30+ หน้า
อดไม่ไหวต้องหยิบขึ้นมาแต่งจนได้ เรื่องนี้ก็คือนิยายที่เล่าให้ฟังว่าหมดอารมณ์เขียนไปในบล็อกที่แล้วนั่นล่ะ แต่ตอนนี้กลับมาเขียนเพิ่มนิดหน่อยได้แล้ว (เขียนไปสลับกับทำเว็บไป)
เริ่มเห็นโทนเรื่องและบุคลิกตัวละคร (โดยเฉพาะของนายวิลเลียม) มากขึ้น เป็นอีกเรื่องที่โทนจริงเขียนแล้วออกมาต่างจากที่คิดไว้นิดหน่อย แต่ถือว่ายังยอมรับได้ และคิดว่าน่าสนุกดี เลยลองดูต่อไปก่อน
ตัวเอกของเรื่องออกมามีความเป็นตัวเรามากกว่าที่คิดไว้ทีแรกเสียอีก อารมณ์ประมาณ อันเวส + ไมอา ล่ะมั้ง 55+ (...ไม่ใช่ล่ะ)
...คิดว่าเรื่องนี้จะเป็นเรื่องที่ใช้เปิดตัวเว็บนิยายด้วยล่ะ ^__^
การเรียน + กิจกรรมอื่นๆ >> ค่อยข้างเรื่อยๆ
น่าหวันคะแนนควิซและคะแนนมิดเทอมที่ยังไม่ออกเสีย แต่เพราะยังไม่รู้จึงทำเป็นไม่ชี้ได้สบายใจ
อย่างไรปีนี้เราก็ไม่ได้หวังจะเอาโน้ตบุ๊กเหมือนปีก่อน ถ้าไม่ดีจริงๆ ค่อยฟิตตอนไฟนอลอีกทีล่ะกัน
กิจกรรมอื่นๆ ก็คืบหน้าไปได้ด้วยดี MUMU18 ใกล้ออกแล้ว SAMART พอเห็นแนวทาง งานสภาก็ไปฟังเขาบ่อยๆ
...
โดยภาพรวมก็มีเท่านี้ล่ะ
ตอนนี้อยากเคลียร์งานเว็บให้เสร็จโดยเร็ว จะได้ไปทำอย่างอื่นได้เต็มที่ยิ่งขึ้น งานเว็บที่ตั้งใจทำมาใช้จริง ถึงเป็นงานใหญ่กว่าโปรเจกต์วิชาอื่นๆ น่ะนะ
ความคิดเห็น