สวัสดีค่ะเพื่อนๆ
ขอฝากเนื้อฝากตัวกับรีวิวอันแรกของเราด้วยน๊า
เชื่อว่า🇬🇧ประเทศอังกฤษ🇬🇧คือประเทศที่หลายๆคนใฝ่ฝัน
เราก็คือหนึ่งในคนนั้น👏🏼👏🏼
ซึ่งเดิมทีแล้วป้าเราอาศัยอยู่ที่อังกฤษอยู่แล้วพอปิดเทอมทีป้าก็จะบินมาเที่ยวไทยที
พร้อมกับช็อคโกแลต🍫และของฝากเยอะแยะไปหมดเราเลยฝันว่าโตขึ้นเราจะมีโอกาสไปเที่ยวสักครั้ง
…
ก่อนหน้าที่เราจะเรียนจบไม่เคยมีแพลนมาก่อนเลยว่าจะได้ไปเรียนต่อที่นู่น
เราเรียนจบด้านบริหารธุรกิจการโรงแรมและการท่องเที่ยว(2012) ก็เลยอยากเพิ่มเติมด้านภาษา
…
พอเรียนจบรับปริญญาเรียบร้อยเรายังไม่มีแผนในการสมัครงานเพราะยังไม่รู้จะทำงานอะไรด้านไหน😂
ป้าเลยคุยกับแม่ว่าจะให้เราไปเรียนต่อทางด้านภาษาสักคอร์สนึง
📚📚
เมื่อเราได้ยินเราทั้งดีใจตกใจและตื่นเต้นไปในครั้งเดียวกัน
ไม่อยากเชื่อว่าความฝันจะมาเร็วขนาดนี้และที่สำคัญเราจะได้ไปเรียน
**ในโปรไฟล์จะได้เป็นนักเรียนอังกฤษแบบในละครอ่ะ! 😆**
…
เรารับปริญญาตรีตอนพฤศจิกายน2012 เราช่วยทางบ้านค้าขายอยู่ประมาณพักนึง
พอต้นปี2013 เราดำเนินการขอวีซ่าอังกฤษ(ซึ่งขึ้นชื่อว่าขอยากเอกสารเยอะ)
…
ป้าจัดแจงสมัครโรงเรียนทางที่อังกฤษไว้ให้แล้วซึ่งเป็นโรงเรียนเอกชน(นักเรียนไม่สามารถทำงานเสริมได้)
โรงเรียนอยู่ทางWest London ห่างจากบ้านที่เราอยู่(บ้านป้า)ใช้เวลานั่งบัสประมาณ1ชั่วโมงต่อบันสองรอบนะ
…
เครพอป้าสมัครเสร็จสรรพแล้วป้าก็ส่งเอกสารของทางโรงเรียนมาให้ที่ไทยเพราะต้องใช้ประกอบกับการยื่นวีซ่า
^^^^^
^^^
^
🎡วีซ่าที่เราขอเป็นประเภทวีซ่านักเรียนนะยว
🎡ใช้Statement ของแม่เป็นคนsupport
~~~ การขอวีซ่าในตอนนั้นอังกฤษจะดูstatement ตามเมืองที่เราจะไปอาศัยขณะอยู่ที่นู่นเราไปลอนดอนเลยเพราะบ้านป้าอยู่ไม่ไกลจากสนามบินฮีทโทวขับรถประมาณไม่เกินครึ่งชั่วโมง|| ใกล้มากจนขนาดเครื่องบินขึ้นลงมองได้ว่าเป็นสายการบินไหน😆~~~
💸ตอนนั้น1ปอนด์ตกเงินไทย= 50 บาทนะถ้าจำไม่ผิด🤪🤪🤪
🎡เอกสารที่ใช้ประกอบตอนนั้นก็จะมี>>
~~~ เอกสารแสดงตัวตนผู้เดินทางPassport, Transcript ฉบับภาษาอังกฤษ, เอกสารยืนยันการทำงาน(เพราะทางนู่นจะกลัวมากกลัวเราไปไม่กลับ)
~~~ เอกสารสมัครจากทางโรงเรียนที่อังกฤษพร้อมใบเสร็จจ่ายเงินค่าเทอม
ค่าใช้จ่ายคอร์สที่เราลงเรียนจะประมาณ2,500ปอนด์ระยะเวลาเรียน6เดือนแต่ค่าใช้จ่ายจะขึ้นอยู่กับคอร์สที่เราลงเลยนะ**ถ้าเป็นโรงเรียนของรัฐบาลทางอังกฤษจะแพงกว่าเอกชนนะไม่เหมือนที่ไทยนะจ๊ะ** น่าจะแพงกว่าอีก1,000-2,000ปอนด์นะแต่สามารถทำงานระหว่างเรียนได้แต่ไม่เกินชั่วโมงตามที่กฏหมายเค้ากำหนดนะไม่งั้นเขาจะส่งเรากลับไทยทันทีเลย\\
~~~ เอกสารตรวจสุขภาพ(ปอด) หรือIOM X-Ray ปอดตรวจเพื่อหาเชื้อวัณโรคสำหรับผู้ที่อาศัยในสหาราชอาณาจักร(UK) เป็นเวลานานเกิน6เดือนแสดงต่อทางสถานทูตด้วยเพราะเราไปนานมากกว่า6เดือนเลยจำเป็นต้องใช้เอกสารตัวนี้ถ้าไปเที่ยวระยะเวลาสั้นหรือคอร์สสั้นก็ไม่ต้องใช้นะ
>>ค่าใช้จ่ายในการตรวจปอดประมาณ3,800บาทมีให้เลือกอยู่2ที่คือรพ.กรุงเทพคริสเตียนกับร.พ.พญาไท2
>>เราเลือกอะไรก็จำไม่ได้ล่ะอ่ะ555 แต่เอ็กซ์เรย์เสร็จถ้าผลปิดปกติไม่มีปัญหาก็รับCertificate กลับได้เลยจ้าผ่านค๊าาาเย้…
~~~ Statement ของแม่แสดงรายได้หมุนเวียนย้อนหลัง6เดือนและต้องมั่นใจว่าครอบคลุมกับค่าใช้จ่ายประมาณการทั้งหมดตลอดระยะเวลาที่เราไปที่นู่นให้ทางธนาคารแปลงค่าเป็นGBP ให้ด้วยนะ
ตัวอย่างน๊า// เช่นไปลอนดอนค่าใช้จ่ายตกเป็นเงินไทยประมาณเดือนล่ะ30,000 ก็นำไปคูณจำนวนเดือนที่เราไปเราต้องโชว์ตัวเลขต่อสถานทูต| ทางเอเจ่นเขาจะถามก่อนว่าเราไปพักที่เมืองไหนหรือเรียนที่เมืองไหนเขาจะช่วยดูเรื่องค่ครองชีพท่นู่นให้เพื่อให้เราตกแต่งบัญชีให้สวยงามไว้แสดงต่อสถานทูตเลยแต่ถ้าใครมีเงินเดินเยอะอยู่แล้วก็ไม่ต้องกังวลเลยน๊า
~~~ เอกสารอาชีพของคนsupport ของแม่นั้นเอง(แม่เราค้าขายนะ)
คนsupport ทำอาชีพอะไรทำมานานแล้วแค่ไหนรายได้ต่อเดือนประมาณเท่าไหร่
🎡ค่าใช้จ่ายในการยื่นวีซ่านักเรียนตอนนั้น7,500 บาทนะถ้าจำไม่ผิด
……………
***ลืมบอกไปว่าเราจ้างagency ในการเตรียมเอกสารต่างๆนะไม่รวมที่เรียนทางเราหาเองแต่ตอนไปยื่นไปเองเลยนะทางเอเจ่นเราไม่ได้ไปด้วย***
แต่เขารับรองว่าถ้ารอบแรกไม่ผ่านจะแก้ไขเอกสารยื่นรอบที่สองให้ฟรี*** เอเจ่นอยู่แถวอนุสาวรีย์นะแต่ไม่รู้ตอนนี้จะย้ายหรือยังนานมากกกกกกแล้ววว
……………
1.ทางเอเจ่นก็จะกรอกรายละเอียดทุกอย่างที่เรายื่นให้เค้าไปในVFS
2.จากนั้นทางเอเจ่นจะให้ใบนัดหรือAppointment มาให้เรา
3.จากนั้นสวดมนต์ภาวนารอวันไปยื่นได้เลยจ้า😆 ขำขันนะเพราะเราตื่นเต้นมากกกกก
……………
ขั้นตอนการยื่นวีซ่า>>>วันยื่นก็มาถึงตื่นเต้นก็ตื่นเต้นแต่ก็ต้องยิ้มสวยสวยไป<<<
ใช่เราลืมบอกไปว่าเราอยู่เชียงใหม่นะซึ่งตอนนั้นยังไม่สามารถยืนที่เชียงใหม่ได้เลยต้องบินไปนอนที่กทมคืนนึงก่อนที่อีกวันจะไปยื่นวีซ่า
- วันนัดก็ไปที่ตึกๆTrendy สุขุมวิท13 ไปถึงก็นำใบAppointment ไปยื่นที่เค้าเตอร์ด้านหน้าเพื่อรอรับคิวเข้าไปยื่นเอกสาร
- แนะนำว่าถ้ามีเพื่อนไปด้วยให้ฝากของกระเป๋าไว้ข้างนอกเพราะเขาจะสแกนและไม่ให้นำอะไรติดตัวเข้าไปเลยได้เฉพาะเอกสารที่จะยื่นเท่านั้น!
- ตอนยื่นเขาจะแบ่งเป็นล็อคเป็นห้องเขาก็จะสัมภาษณ์เราภาษาไทยนี่แหละเพราะพนักงานคนไทย(สมัยแม่เราไปตอนค่าเงินปอนด์70บาทตอนนั้นเป็นฝรั่งสัมภาษณ์เลยแต่ก็จะมีคนไทยช่วยแปลเครเขาก็จะถามประมาณว่าไปเรียนที่ไหนเคยไปมาก่อนมั้ยไปแล้วกลับตอนไหนก็แล้วแต่ว่าเขาจะถามอะไรเรา**เราเจอไม่กี่คำถามนะน่าจะ2-3คำถามได้จากนั้นเขาจะให้เราถ่ายรูปโดยที่มีกล้องอยู่ทุกมุมของห้องเลยถ่ายหน้าตรงเงยหน้าถ่ายด้วยประมาณว่าทุกมุมอ่ะรวมถึงสแกนนิ้วทุกนิ้วที่มี*นิ้วมือนะ555*
- พอยื่นเสร็จเขาจะถามว่าจะมารับวีซ่าเองที่นี่หรือส่งไปรษณีย์เราเลือกส่งไปรษณีย์นะเพราะเราให้ส่งไปเชียงใหม่ราคาจำไม่ได้แล้วอ่ะแต่ไม่แพงค่ะ
……………
นับวันรอวีซ่าอย่างใจจดจ่อตื่นเต้นวาจะได้หรือไม่ได้… !
- พอถึงวันมีซองสีน้ำตาลมาส่งที่บ้านหน้าซองจากสถานทูตตื่นเต้นมากกกไม่กล้าแกะ
- ทำใจอยู่แป๊บก็รีบแกะแอบๆส่องด้านในเปิดหน้าที่ถัดจากรูปหน้าเราในพาสปอร์ตสรุปว่าเขาไม่สแตมป์วีซ่าให้เราที่หน้านี้
ไปสแตมป์ให้ตรงกลางเล่มของพาสปอร์ตตื่นเต้นและดีใจมากกกกกกแบบทำอะไรไม่ถูกเหมือนฝันไปนั่งดูอยู่นานมากพร้อมทั้งอ่านรายละเอียดต่างๆ
>>> Ep ต่อไปจะมาเล่าถึงเตรียมตัวและวันเดินทางน๊า<<<
<< ฝากติดตามติชมด้วยนะคะ>>
ความคิดเห็น