Chatrudee1989
ดู Blog ทั้งหมด

วีซ่าอังกฤษยากหรือไม่ ลุ้นสุดๆ

เขียนโดย Chatrudee1989

สวัสดีค่ะเพื่อนๆ

ขอฝากเนื้อฝากตัวกับรีวิวอันแรกของเราด้วยน๊า

 

เชื่อว่า🇬🇧ประเทศอังกฤษ🇬🇧คือประเทศที่หลายๆคนใฝ่ฝัน

เราก็คือหนึ่งในคนนั้น👏🏼👏🏼

 

ซึ่งเดิมทีแล้วป้าเราอาศัยอยู่ที่อังกฤษอยู่แล้วพอปิดเทอมทีป้าก็จะบินมาเที่ยวไทยที

พร้อมกับช็อคโกแลต🍫และของฝากเยอะแยะไปหมดเราเลยฝันว่าโตขึ้นเราจะมีโอกาสไปเที่ยวสักครั้ง

ก่อนหน้าที่เราจะเรียนจบไม่เคยมีแพลนมาก่อนเลยว่าจะได้ไปเรียนต่อที่นู่น

เราเรียนจบด้านบริหารธุรกิจการโรงแรมและการท่องเที่ยว(2012) ก็เลยอยากเพิ่มเติมด้านภาษา

พอเรียนจบรับปริญญาเรียบร้อยเรายังไม่มีแผนในการสมัครงานเพราะยังไม่รู้จะทำงานอะไรด้านไหน😂

ป้าเลยคุยกับแม่ว่าจะให้เราไปเรียนต่อทางด้านภาษาสักคอร์สนึง

📚📚

เมื่อเราได้ยินเราทั้งดีใจตกใจและตื่นเต้นไปในครั้งเดียวกัน

ไม่อยากเชื่อว่าความฝันจะมาเร็วขนาดนี้และที่สำคัญเราจะได้ไปเรียน

**ในโปรไฟล์จะได้เป็นนักเรียนอังกฤษแบบในละครอ่ะ😆**

เรารับปริญญาตรีตอนพฤศจิกายน2012 เราช่วยทางบ้านค้าขายอยู่ประมาณพักนึง

พอต้นปี2013 เราดำเนินการขอวีซ่าอังกฤษ(ซึ่งขึ้นชื่อว่าขอยากเอกสารเยอะ)

ป้าจัดแจงสมัครโรงเรียนทางที่อังกฤษไว้ให้แล้วซึ่งเป็นโรงเรียนเอกชน(นักเรียนไม่สามารถทำงานเสริมได้)

โรงเรียนอยู่ทางWest London ห่างจากบ้านที่เราอยู่(บ้านป้า)ใช้เวลานั่งบัสประมาณ1ชั่วโมงต่อบันสองรอบนะ

เครพอป้าสมัครเสร็จสรรพแล้วป้าก็ส่งเอกสารของทางโรงเรียนมาให้ที่ไทยเพราะต้องใช้ประกอบกับการยื่นวีซ่า

^^^^^

^^^

^

🎡วีซ่าที่เราขอเป็นประเภทวีซ่านักเรียนนะยว

🎡ใช้Statement ของแม่เป็นคนsupport

~~~ การขอวีซ่าในตอนนั้นอังกฤษจะดูstatement ตามเมืองที่เราจะไปอาศัยขณะอยู่ที่นู่นเราไปลอนดอนเลยเพราะบ้านป้าอยู่ไม่ไกลจากสนามบินฮีทโทวขับรถประมาณไม่เกินครึ่งชั่วโมง|| ใกล้มากจนขนาดเครื่องบินขึ้นลงมองได้ว่าเป็นสายการบินไหน😆~~~

💸ตอนนั้น1ปอนด์ตกเงินไทย= 50 บาทนะถ้าจำไม่ผิด🤪🤪🤪

 

🎡เอกสารที่ใช้ประกอบตอนนั้นก็จะมี>>

 

~~~ เอกสารแสดงตัวตนผู้เดินทางPassport, Transcript ฉบับภาษาอังกฤษเอกสารยืนยันการทำงาน(เพราะทางนู่นจะกลัวมากกลัวเราไปไม่กลับ)

~~~ เอกสารสมัครจากทางโรงเรียนที่อังกฤษพร้อมใบเสร็จจ่ายเงินค่าเทอม

 

ค่าใช้จ่ายคอร์สที่เราลงเรียนจะประมาณ2,500ปอนด์ระยะเวลาเรียน6เดือนแต่ค่าใช้จ่ายจะขึ้นอยู่กับคอร์สที่เราลงเลยนะ**ถ้าเป็นโรงเรียนของรัฐบาลทางอังกฤษจะแพงกว่าเอกชนนะไม่เหมือนที่ไทยนะจ๊ะ** น่าจะแพงกว่าอีก1,000-2,000ปอนด์นะแต่สามารถทำงานระหว่างเรียนได้แต่ไม่เกินชั่วโมงตามที่กฏหมายเค้ากำหนดนะไม่งั้นเขาจะส่งเรากลับไทยทันทีเลย\\

 

~~~ เอกสารตรวจสุขภาพ(ปอดหรือIOM X-Ray ปอดตรวจเพื่อหาเชื้อวัณโรคสำหรับผู้ที่อาศัยในสหาราชอาณาจักร(UK) เป็นเวลานานเกิน6เดือนแสดงต่อทางสถานทูตด้วยเพราะเราไปนานมากกว่า6เดือนเลยจำเป็นต้องใช้เอกสารตัวนี้ถ้าไปเที่ยวระยะเวลาสั้นหรือคอร์สสั้นก็ไม่ต้องใช้นะ

 

>>ค่าใช้จ่ายในการตรวจปอดประมาณ3,800บาทมีให้เลือกอยู่2ที่คือรพ.กรุงเทพคริสเตียนกับ..พญาไท

>>เราเลือกอะไรก็จำไม่ได้ล่ะอ่ะ555 แต่เอ็กซ์เรย์เสร็จถ้าผลปิดปกติไม่มีปัญหาก็รับCertificate กลับได้เลยจ้าผ่านค๊าาาเย้

 

~~~ Statement ของแม่แสดงรายได้หมุนเวียนย้อนหลัง6เดือนและต้องมั่นใจว่าครอบคลุมกับค่าใช้จ่ายประมาณการทั้งหมดตลอดระยะเวลาที่เราไปที่นู่นให้ทางธนาคารแปลงค่าเป็นGBP ให้ด้วยนะ

 

ตัวอย่างน๊า// เช่นไปลอนดอนค่าใช้จ่ายตกเป็นเงินไทยประมาณเดือนล่ะ30,000 ก็นำไปคูณจำนวนเดือนที่เราไปเราต้องโชว์ตัวเลขต่อสถานทูตทางเอเจ่นเขาจะถามก่อนว่าเราไปพักที่เมืองไหนหรือเรียนที่เมืองไหนเขาจะช่วยดูเรื่องค่ครองชีพท่นู่นให้เพื่อให้เราตกแต่งบัญชีให้สวยงามไว้แสดงต่อสถานทูตเลยแต่ถ้าใครมีเงินเดินเยอะอยู่แล้วก็ไม่ต้องกังวลเลยน๊า

 

~~~ เอกสารอาชีพของคนsupport ของแม่นั้นเอง(แม่เราค้าขายนะ)

คนsupport ทำอาชีพอะไรทำมานานแล้วแค่ไหนรายได้ต่อเดือนประมาณเท่าไหร่ 

🎡ค่าใช้จ่ายในการยื่นวีซ่านักเรียนตอนนั้น7,500 บาทนะถ้าจำไม่ผิด

……………

***ลืมบอกไปว่าเราจ้างagency ในการเตรียมเอกสารต่างๆนะไม่รวมที่เรียนทางเราหาเองแต่ตอนไปยื่นไปเองเลยนะทางเอเจ่นเราไม่ได้ไปด้วย***

แต่เขารับรองว่าถ้ารอบแรกไม่ผ่านจะแก้ไขเอกสารยื่นรอบที่สองให้ฟรี*** เอเจ่นอยู่แถวอนุสาวรีย์นะแต่ไม่รู้ตอนนี้จะย้ายหรือยังนานมากกกกกกแล้ววว

……………

1.ทางเอเจ่นก็จะกรอกรายละเอียดทุกอย่างที่เรายื่นให้เค้าไปในVFS

2.จากนั้นทางเอเจ่นจะให้ใบนัดหรือAppointment มาให้เรา

3.จากนั้นสวดมนต์ภาวนารอวันไปยื่นได้เลยจ้า😆  ขำขันนะเพราะเราตื่นเต้นมากกกกก

……………

ขั้นตอนการยื่นวีซ่า>>>วันยื่นก็มาถึงตื่นเต้นก็ตื่นเต้นแต่ก็ต้องยิ้มสวยสวยไป<<<

ใช่เราลืมบอกไปว่าเราอยู่เชียงใหม่นะซึ่งตอนนั้นยังไม่สามารถยืนที่เชียงใหม่ได้เลยต้องบินไปนอนที่กทมคืนนึงก่อนที่อีกวันจะไปยื่นวีซ่า

วันนัดก็ไปที่ตึกๆTrendy สุขุมวิท13 ไปถึงก็นำใบAppointment ไปยื่นที่เค้าเตอร์ด้านหน้าเพื่อรอรับคิวเข้าไปยื่นเอกสาร

แนะนำว่าถ้ามีเพื่อนไปด้วยให้ฝากของกระเป๋าไว้ข้างนอกเพราะเขาจะสแกนและไม่ให้นำอะไรติดตัวเข้าไปเลยได้เฉพาะเอกสารที่จะยื่นเท่านั้น!

ตอนยื่นเขาจะแบ่งเป็นล็อคเป็นห้องเขาก็จะสัมภาษณ์เราภาษาไทยนี่แหละเพราะพนักงานคนไทย(สมัยแม่เราไปตอนค่าเงินปอนด์70บาทตอนนั้นเป็นฝรั่งสัมภาษณ์เลยแต่ก็จะมีคนไทยช่วยแปลเครเขาก็จะถามประมาณว่าไปเรียนที่ไหนเคยไปมาก่อนมั้ยไปแล้วกลับตอนไหนก็แล้วแต่ว่าเขาจะถามอะไรเรา**เราเจอไม่กี่คำถามนะน่าจะ2-3คำถามได้จากนั้นเขาจะให้เราถ่ายรูปโดยที่มีกล้องอยู่ทุกมุมของห้องเลยถ่ายหน้าตรงเงยหน้าถ่ายด้วยประมาณว่าทุกมุมอ่ะรวมถึงสแกนนิ้วทุกนิ้วที่มี*นิ้วมือนะ555*

พอยื่นเสร็จเขาจะถามว่าจะมารับวีซ่าเองที่นี่หรือส่งไปรษณีย์เราเลือกส่งไปรษณีย์นะเพราะเราให้ส่งไปเชียงใหม่ราคาจำไม่ได้แล้วอ่ะแต่ไม่แพงค่ะ

……………

นับวันรอวีซ่าอย่างใจจดจ่อตื่นเต้นวาจะได้หรือไม่ได้… !

พอถึงวันมีซองสีน้ำตาลมาส่งที่บ้านหน้าซองจากสถานทูตตื่นเต้นมากกกไม่กล้าแกะ

ทำใจอยู่แป๊บก็รีบแกะแอบๆส่องด้านในเปิดหน้าที่ถัดจากรูปหน้าเราในพาสปอร์ตสรุปว่าเขาไม่สแตมป์วีซ่าให้เราที่หน้านี้

  ไปสแตมป์ให้ตรงกลางเล่มของพาสปอร์ตตื่นเต้นและดีใจมากกกกกกแบบทำอะไรไม่ถูกเหมือนฝันไปนั่งดูอยู่นานมากพร้อมทั้งอ่านรายละเอียดต่างๆ

 

>>> Ep ต่อไปจะมาเล่าถึงเตรียมตัวและวันเดินทางน๊า<<<

<< ฝากติดตามติชมด้วยนะคะ>>

ความคิดเห็น

ยังไม่มีความคิดเห็น