^^^ ต่อจาก ep. ที่แล้วน๊า ^^^
หลังจากที่เราได้รับวีซ่าอังกฤษมาครอบครองแล้ว
..
ก็เตรียมตัวเดินทางกันเลย ...
...
..
.
หลังจากที่เราได้รับวีซ่าอังกฤษมาครอบครองแล้ว
..
ก็เตรียมตัวเดินทางกันเลย ...
...
..
.
**วีซ่าที่ออมได้มาเป็นประเภทวีซ่านักเรียน // Visa Visitor and Student Visa Visitor (no work) เป็นวีซ่าท่องเที่ยว และวีซ่านักเรียน ระยะเวลาวีซ่า 1 ปี***
**ทริคเล็กๆ เอาไปใช้ได้นะ คือเราซื้อตั๋วกลับก่อนวีซ่าจะหมดประมาณ 1 อาทิตย์ พอสวยงาม เผื่อครั้งหน้าขอไปใหม่ จะได้ง่ายๆ โปรไฟล์ดูดีนิดนึงเนาะ**
**ตอนนำพาสปอร์ต หน้าวีซ่าไปโชว์ให้กับทางดรงเรียนที่อังกฤษเค้าดู เค้าแปลกใจและว้าวกับวีซ่าของเรามาก เพราะได้ทั้งวีซ่านักเรียนและท่องเที่ยวไปพร้อมกัน ซึ่งดีมากๆเลย**
... กว่าเล่มวีซ่า (UK Visa) จะส่งมาถึงบ้านก็ประมาณวันที่ 10 เมษา 2013 แล้วสิ ซึ่งพอดูในหน้าวีซ่าที่เค้าอนุมัติให้ มีผลให้เราตั้งแต่วันที่ 2 เมษา 2013 แล้วง่ะ !! เสียโอกาสไปเปล่าๆตั้งเกือบสิบวัน แงๆ ...
พอได้เล่มมาปุ๊บ ก็รีบจัดแจงเรื่องตั๋วบิน และเตรียมข้าวของต่างๆ คือ หาซื้อตั๋วที่เร็วที่สุด เพราะโรงเรียนที่นู่นเริ่มเรียนกันไปแล้ว **แต่ดีนิดนึงที่คลาสเรียนมันเริ่มในหลายๆช่วง ป้าเลยโทรไปชี้แจงกับทางโรงเรียน ซึ่งเขาก็เลื่อนวันเริ่มเรียนให้เรา เย้ๆ
สรุปคือ บินเร็วสุดได้ตั๋วเดินทางวันที่ 15 เมษา 2013 ^_^ *ซึ่งตอนแรกกะเดินทางไปพร้อมป้าเลย เพราะป้ามาเที่ยวเมืองไทย และกะจะกลับพร้อมกับวีซ่าเราออก แต่วีซ่าเราดันมาไม่ทันวันป้ากลับ เลยจำเป็นต้องเดินทางคนเดียว บินเดี่ยวสินะเรา อิอิ
**เราเดินทางแบบ Direct Flight บินตรง กรุงเทพ-ลอนดอน ของสายการบินไทย ลงที่สนามบินฮีทโทลว์ เลยเพราะใกล้บ้านป้าเรามากๆ เราเลือกบินตรงเพราะว่า เราเดินทางไกลๆคนเดียวเลยไม่อยากไปเปลี่ยนเครื่อง ซึ่งจะเสียเวลาไปอีกด้วย แต่จะดีถ้าเราประหยัดนะ ราคาตั๋วตอนนั้นที่เราซื้อ คือ 60,xxx บาท นี่ขนาดใช้วีซ่านักเรียนนะ แต่คือไป-กลับเลย แต่วันเรายังไม่ระบุก็ได้ ประเทศนี้เคร่งคือซื้อตั๋วต้องไปและกลับ เพราะถ้าหากเราทำผิดกฎหมายของประเทศเค้าระหว่างเราพักอาศัยอยู่ เช่นแอบไปทำงาน แล้วเค้าจับได้ จะโดนส่งกลับไทยทันที ทุกเวลา !!
**ทริคเล็กๆ เอาไปใช้ได้นะ คือเราซื้อตั๋วกลับก่อนวีซ่าจะหมดประมาณ 1 อาทิตย์ พอสวยงาม เผื่อครั้งหน้าขอไปใหม่ จะได้ง่ายๆ โปรไฟล์ดูดีนิดนึงเนาะ**
**ตอนนำพาสปอร์ต หน้าวีซ่าไปโชว์ให้กับทางดรงเรียนที่อังกฤษเค้าดู เค้าแปลกใจและว้าวกับวีซ่าของเรามาก เพราะได้ทั้งวีซ่านักเรียนและท่องเที่ยวไปพร้อมกัน ซึ่งดีมากๆเลย**
... กว่าเล่มวีซ่า (UK Visa) จะส่งมาถึงบ้านก็ประมาณวันที่ 10 เมษา 2013 แล้วสิ ซึ่งพอดูในหน้าวีซ่าที่เค้าอนุมัติให้ มีผลให้เราตั้งแต่วันที่ 2 เมษา 2013 แล้วง่ะ !! เสียโอกาสไปเปล่าๆตั้งเกือบสิบวัน แงๆ ...
พอได้เล่มมาปุ๊บ ก็รีบจัดแจงเรื่องตั๋วบิน และเตรียมข้าวของต่างๆ คือ หาซื้อตั๋วที่เร็วที่สุด เพราะโรงเรียนที่นู่นเริ่มเรียนกันไปแล้ว **แต่ดีนิดนึงที่คลาสเรียนมันเริ่มในหลายๆช่วง ป้าเลยโทรไปชี้แจงกับทางโรงเรียน ซึ่งเขาก็เลื่อนวันเริ่มเรียนให้เรา เย้ๆ
สรุปคือ บินเร็วสุดได้ตั๋วเดินทางวันที่ 15 เมษา 2013 ^_^ *ซึ่งตอนแรกกะเดินทางไปพร้อมป้าเลย เพราะป้ามาเที่ยวเมืองไทย และกะจะกลับพร้อมกับวีซ่าเราออก แต่วีซ่าเราดันมาไม่ทันวันป้ากลับ เลยจำเป็นต้องเดินทางคนเดียว บินเดี่ยวสินะเรา อิอิ
**เราเดินทางแบบ Direct Flight บินตรง กรุงเทพ-ลอนดอน ของสายการบินไทย ลงที่สนามบินฮีทโทลว์ เลยเพราะใกล้บ้านป้าเรามากๆ เราเลือกบินตรงเพราะว่า เราเดินทางไกลๆคนเดียวเลยไม่อยากไปเปลี่ยนเครื่อง ซึ่งจะเสียเวลาไปอีกด้วย แต่จะดีถ้าเราประหยัดนะ ราคาตั๋วตอนนั้นที่เราซื้อ คือ 60,xxx บาท นี่ขนาดใช้วีซ่านักเรียนนะ แต่คือไป-กลับเลย แต่วันเรายังไม่ระบุก็ได้ ประเทศนี้เคร่งคือซื้อตั๋วต้องไปและกลับ เพราะถ้าหากเราทำผิดกฎหมายของประเทศเค้าระหว่างเราพักอาศัยอยู่ เช่นแอบไปทำงาน แล้วเค้าจับได้ จะโดนส่งกลับไทยทันที ทุกเวลา !!
...
..
.
..
.
คืนวันเดินทาง ...
เราบินออกจากเชียงใหม่ตอน 20.10น ไปต่อเครื่องที่สุวรรณภูมิ ซึ่งเราเช็คอินทั้ง2ขาจากเชียงใหม่เลย คือ เชียงใหม่-สุวรรณภูมิ และ กรุงเทพ-ลอนดอน แม่และน้องสาวไปส่งที่สนามบินเชียงใหม่ (แอบเศร้า ดราม่า แต่ไม่มาก เพราะอยากให้แม่กับน้องไปด้วย) แต่ทุกคนต่างมีภาระหน้าที่ที่ต้องทำ โอเค ... ตอนไปถึงสุวรรณภูมิ เครื่องเราจะออกอีกที คือ 01.10น ของเช้าวันที่ 15 เมษา 2013 พอเราไปถึงสุวรรณภูมิ เราก็สามารถ ไปรอที่เกตเตรียมตัวต่อเครื่องได้เลย โดยที่ไม่ต้องห่วงกระเป๋า เพราะทางสายการบินเขาจะ transfer กระเป๋าของเราไปที่ลำที่เราจะเดินทางเลย สบายสุดๆ แต่ง่วงมากๆ อยากนอนสุดๆเวลานั้น
รอขึ้นเครื่องประมาณ 2ชั่วโมง ง่วง นั่งรอวนไป ตื่นเต้นอีก เหงาอีก สุดๆไปเลยฟิลนั้น เพราะเราเดินทางคนเดียวไกลๆครั้งแรก แต่ใจชื้นเพราะยังไงก็เดินทางสายการบินไทย แอร์ก็คนไทย สบายหน่อย อิอิ
พอถึงเวลาขึ้นเครื่อง ใจหายวาป ณ เวลานั้น ขนลุก ใจหาย รู้สึกว่า อีกตั้งเป็นปีกว่าฉันจะได้กลับมา .. นี่เราจะไปอังกฤษจริงๆหรอเนี่ย (วนไปวนมาในหัว เหมือนฝันไป ๕๕๕)
พอขึ้นเครื่องปุ๊บ จัดแจงระเบียบกระเป๋าที่นั่งต่างๆ ที่จริงบนเครื่องจะบริการอาหารตลอดการเดินทาง 3 มื้อ น่าจะใช่นะ ถ้าจำไม่ผิด แต่ที่แน่ๆมื้อแรกที่บริการ เราไม่ได้กิน เพราะขึ้นเครื่องไป บินได้สักพักก็ตัดสินใจหลับดีกว่า เปิดเพลงใส่หูฟัง เหงาไปอีก บรรยากาศบนเครื่องเงียบๆ เสียงเครื่องบินบินยาวๆไป เห้อ คิดถึงแม่จัง ...
*เพลงที่ติดหูฟังวนไปวนมาตลอดไฟลท์ 13ชั่วโมง คือ รูปถ่ายที่หายไป (Boy Peachmaker) กับ ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้สำหรับฉัน (Lula) คือ จนวันนี้ก็ยังชอบฟังสองเพลงนี้อยู่ เวลาที่คิดถึงช่วงนั้น ก็เปิดฟัง ทำให้โมเม้นนั้นกลับมาอีกครั้งนึง
เราบินออกจากเชียงใหม่ตอน 20.10น ไปต่อเครื่องที่สุวรรณภูมิ ซึ่งเราเช็คอินทั้ง2ขาจากเชียงใหม่เลย คือ เชียงใหม่-สุวรรณภูมิ และ กรุงเทพ-ลอนดอน แม่และน้องสาวไปส่งที่สนามบินเชียงใหม่ (แอบเศร้า ดราม่า แต่ไม่มาก เพราะอยากให้แม่กับน้องไปด้วย) แต่ทุกคนต่างมีภาระหน้าที่ที่ต้องทำ โอเค ... ตอนไปถึงสุวรรณภูมิ เครื่องเราจะออกอีกที คือ 01.10น ของเช้าวันที่ 15 เมษา 2013 พอเราไปถึงสุวรรณภูมิ เราก็สามารถ ไปรอที่เกตเตรียมตัวต่อเครื่องได้เลย โดยที่ไม่ต้องห่วงกระเป๋า เพราะทางสายการบินเขาจะ transfer กระเป๋าของเราไปที่ลำที่เราจะเดินทางเลย สบายสุดๆ แต่ง่วงมากๆ อยากนอนสุดๆเวลานั้น
รอขึ้นเครื่องประมาณ 2ชั่วโมง ง่วง นั่งรอวนไป ตื่นเต้นอีก เหงาอีก สุดๆไปเลยฟิลนั้น เพราะเราเดินทางคนเดียวไกลๆครั้งแรก แต่ใจชื้นเพราะยังไงก็เดินทางสายการบินไทย แอร์ก็คนไทย สบายหน่อย อิอิ
พอถึงเวลาขึ้นเครื่อง ใจหายวาป ณ เวลานั้น ขนลุก ใจหาย รู้สึกว่า อีกตั้งเป็นปีกว่าฉันจะได้กลับมา .. นี่เราจะไปอังกฤษจริงๆหรอเนี่ย (วนไปวนมาในหัว เหมือนฝันไป ๕๕๕)
พอขึ้นเครื่องปุ๊บ จัดแจงระเบียบกระเป๋าที่นั่งต่างๆ ที่จริงบนเครื่องจะบริการอาหารตลอดการเดินทาง 3 มื้อ น่าจะใช่นะ ถ้าจำไม่ผิด แต่ที่แน่ๆมื้อแรกที่บริการ เราไม่ได้กิน เพราะขึ้นเครื่องไป บินได้สักพักก็ตัดสินใจหลับดีกว่า เปิดเพลงใส่หูฟัง เหงาไปอีก บรรยากาศบนเครื่องเงียบๆ เสียงเครื่องบินบินยาวๆไป เห้อ คิดถึงแม่จัง ...
*เพลงที่ติดหูฟังวนไปวนมาตลอดไฟลท์ 13ชั่วโมง คือ รูปถ่ายที่หายไป (Boy Peachmaker) กับ ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้สำหรับฉัน (Lula) คือ จนวันนี้ก็ยังชอบฟังสองเพลงนี้อยู่ เวลาที่คิดถึงช่วงนั้น ก็เปิดฟัง ทำให้โมเม้นนั้นกลับมาอีกครั้งนึง
...
..
.
..
.
ตลอดการเดินทางเป็นไปด้วยดี ข้างๆที่นั่งเป็นคนจีน ดูหนังตลอดไฟล์ท เรานั่งริมหน้าต่างก็เกรงใจเวลาจะลุกที เห้อกรี๊ดดด ... แต่ข้าวมื้อที่สองกับสามก่อนเครื่องลง เราได้กินนะ เพราะหิวมาก เป็นอาหารไทย รสชาติใช้ได้อยู่นะ อร่อย ลืมบอกว่า พนง.บนเครื่องที่เราบินต่างประเทศตอนขึ้นไปเค้าใส่ชุดผ้าไหมไทยสวยมากๆเลย สักพักก็จะเปลี่ยนเป็นยูนิฟอร์มแบบทางการ
...
..
.
..
.
กรี๊ด ... ในที่สุด ฉันก็ถึงน่านฟ้าอังกฤษแล้ววว ก่อนเครื่องจะลง บินวนอยู่สักพักเพราะว่า run way เต็มจ้า มองลงไปด้านล่าง บ้านเมืองสวยงาม เป็นระเบียบ เหมือนในนิยาย ดูเย็นตามากๆ เขียวๆสลับกับบ้านของผู้คน และคิดในใจอีกล่ะ "นี่หรอ ประเทศที่เราฝันอยากจะมา เหมือนฝันเลย" โมเม้นนั้นทั้งดีใจ และตื่นเต้น panic ในเวลาเดียวกัน
พอเครื่องแตะพื้น ...
พอเครื่องแตะพื้น ...
^^^ ไว้มาต่อใหม่ ep ถัดไปน๊า กำลังสนุกเลยใช้มั้ย ^^^
^^ ฝากติดตามติชมกันด้วยนะคะ ^^
^^ ฝากติดตามติชมกันด้วยนะคะ ^^
ความคิดเห็น