หลักในการคิดคำพูดตัวละคร
หลาย ๆ คนอาจจะกำลังประสบปัญหานี่อยู่ใช่มั้ยล่ะ ! เอ๊... พล๊อตเรื่องเราก็ดี ตัวละครก็แจ่ม เขียนบรรยายเราก็เจ๋ง แต่ดันมาตายน้ำตื้นซะได้ ก็จะอะไรล่ะ... ก็คิดคำพูดตัวละครไม่เป็นน่ะสิ คิดยังไงเขียนยังไงมันก็ออกมาไร้อารมณ์สิ้นดี แถมยังไม่เข้ากับที่บรรยายด้วย เฮ้อ... แล้วแบบนี้จะทำยังไงดีล่ะให้เราสามารถคิดบทคำพูดได้อย่างใจนึก เราก็ต้องมารู้เคล็ดลับกันก่อนน่ะสิ
แนวนิยาย คุณต้องมานั่งคิดก่อนว่าแนวนิยายของคุณเป็นแนวไหน แฟนตาซี ตลกขบขัน สารคดี หรื่ออะไรก็ว่าไป สมมติคุณแต่งนิยายสยองขวัญสั่นประสาทมีการฆ่ากันตายเกือบทั้งเรื่องผู้ร้ายเป็นโจรโรคจิตชอบฆ่าผู้หญิงวัย ๑๖ ปีและแลเนื้อเอาไปขายให้ร้านขายหมูในตลาด แต่คุณกลับใช้คำพูดคิกขุอาโนเนะกับตัวละครแบบนี้... "เค้าว่านะตัวเอง พวกคนร้ายโรคจิตนี่มันบ้าจริง ๆ เลยมาไล่ฆ่าคน เค้ารับไม่ได๊รับไม่ได้ แต่มันคงไม่มาฆ่าเค้าหรอกเพราะเค้าสวย อิอิ รักนะจุ๊บ ๆ" แล้วนี้แบบนี้นิยายคุณจะสยองขวัญมั้ยครับพี่น้อง !? โอ๊ย... รับไม่ได้ครับนิยายสยองขวัญแต่ตัวละครพูดแบบนี้มันดูเหมือนนิยายตลกขบขันมากกว่า
เวลา ใช่ครับเวลาคือสิ่งสำคัญในการคิดว่าคำพูดแบบไหนถึงจะเหมาะกับแนวนิยายที่คุณกำลังเขียน เวลาที่เราหมายถึงก็คือ เวลาในเรื่องครับว่ามันตรงกับยุคสมัยไหน อดีต ปัจจุบัน หรืออนาคต เวลาคือปัจจัยที่ขาดไม่ได้และไม่ควรลืมใส่ใจกับมันเลยครับ ลองมาอ่านดูว่าเวลาเนี่ยมีความสัมพันธ์กับคำพูดขนาดไหน
- คำพูดที่เหมาะสมสำหรับ นิยายแนวปัจจุบัน
นิยายสไตส์นี้คำพูดที่เหมาะคือคำพูดที่ใช้พูดในชีวิตประจำวันเอาคำพูดของคุณเองนี่แหละครับเป็นแบบในการเขียน ลองจินตนาการดูว่าถ้าเวลาเราพูดเนี่ยในเหตุการณ์แบบเนี้ย เราจะพูดยังไง และใส่อารมณ์และภาษาที่มันเหมาะสมลงไป นอกจากนี้วัยและสถานะที่ต่างกันก็มีผลกับคำพูดเช่นกันครับ เช่น คุณครูกับนักเรียนคุยกันควรจะคุยกันแบบไหน พ่อกับลูก ปู่กับหลาน เพื่อนกับเพื่อน พี่กับน้อง คนไม่เคยรู้จักกันคุยกันควรจะเป็นในรูปแบบไหน สมมุติว่าจะให้นางเอกของเรื่องพูดคุยกับเพื่อนสนิทคุณก็ลองคิดดูว่าเวลาคุณพูดกับเพื่อนสนิทเนี่ยคุณคุยแบบไหน
ตัวอย่างที่ดี
"แพร ฉันจะไปเที่ยวพรุ่งนี้ว่ะแกจะไปด้วยกันมั้ย พวกไอ้โม่ง ไอ้หลิวก็ไปด้วยนะ" ฉันพูด
"เอ๊ย แล้วไปเที่ยวไหน ถ้าไปห้างไม่เอานะเว้ย ฉันเบื่อแล้วว่ะ" แพรพูด
ตัวอย่างที่ไม่ดี
"แพร พรุ่งนี้ฉันจะไปเที่ยวเธอจะไปเที่ยวกับฉันหรือเปล่า พวกโม่งกับหลิวไปด้วยเหมือนกัน" ฉันพูด
"ไปเที่ยวที่ไหนหรือ ถ้าห้างฉันไม่ไป ฉันรู้สึกเบื่อ" แพรพูด
เห็นถึงข้อแตกต่างเลยมั้ยครับตัวอย่างที่สองทั้งสองคนพูดคุยกันซะแข็งทื่อเวลาอ่านไม่ลื่นไหลเอาซะเลย เพราะในตัวอย่างที่สองเเรเอาภาษาเขียนเข้ามาปนในภาษาพูด คนปกติไม่มีใครพูดเต็ม ๆ ประโยคขนาดนี้หรอกครับลองสังเกตจากตัวเองพูดดูสิครับสมมติคุณจะถามเพื่อนคุณจะถามเพื่อนด้วยประโยคแบบไหนระหว่าง "จะไปเที่ยวด้วยกันปะ ?" กับ "จะไปเที่ยวด้วยกันหรือไม่ ?" ทั้งสองประโยคมีความหมายเหมือนกันแต่มันต่างกันตรงที่ว่าอันแรกคือภาษาพูดส่วนภาษาที่สองคือภาษาเขียน
*สรุปคือ นิยายแนวนี้ ให้เรานำเอาภาษาพูดของตัวเองนี่แหละครับมาใช้
ข้อควรระวัง ต้องระวังในการคิดคำพูดด้วยเพราะว่าคุณใช้ลักษณะการพูดของตัวคุณเองมาใช้เพราะฉะนั้นทุกคนจะมีคำพูดที่ชอบพูดติดปากอยู่แล้ว เช่น "ไอ้บ้า แกจะเอายังไง" คุณเป็นคนชอบพูดคำว่า ไอ้บ้า นำหน้าประโยคเสมอทีนี้เกือบทุกประโยคคำพูดของตัวละครก็มีคำว่า ไอ้บ้า ไอ้บ้า ไอ้บ้า ยาวติดกันเป็นหางว่าวแบบนั้นไม่ดีแน่ครับ ต้องระวังคำพูดติดปากของตัวเองด้วยอย่าใส่ลงไปในนิยายจนบ่อยเกินงาม
- คำพูดที่เหมาะสมสำหรับ นิยายแนวย้อนยุค
หัวข้อก็บอกอยู่แล้วครับว่าแนวย้อนยุค ถ้าเป็นจะแต่งนิยายแนวช่วงยุคโบราณแน่นอนครับคำพูดตัวละครต้องดูโบราณตามไปด้วย สรรพนามที่นิยมเลยก็คือ ข้า เจ้า ท่าน ลองนึกสภาพนิยายแนวย้อนยุคแต่มีการใช้สรรพนามแบบปัจจุบัน เช่น ฉัน เธอ นาย แบบนี้มันจะทำให้นิยายเราหมดความขลังเลยครับ โดยเฉพาะถ้าคุณแต่งเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ด้วยแล้วถ้าใส่คำพูดของปัจจุบันลงไปจะทำให้ความลึบลับดูมีเสน่ห์ของประวัติศาสตร์ลดน้อยลงไปทันที
ตัวอย่างที่ดี
ฟาโรห์หนุ่มแห่งอียิปต์ทอดพระเนตรเหล่าพสนิกรที่พร้อมใจกันแห่แหนมารวมเคารพบูชาตนเองด้วยรอยยิ้มแสนปรีดี "ข้าฟาโรห์แห่งอียิปต์จะทุ่มเทปกครองพวกเจ้าด้วยความสามารถทั้งหมดที่มี"
ตัวอย่างที่ไม่ดี
ฟาโรห์หนุ่มแห่งอียิปต์ทอดพระเนตรเหล่าพสนิกรที่พร้อมใจกันแห่แหนมารวมเคารพบูชาตนเองด้วยรอยยิ้มแสนปรีดี "กระผมฟาโรห์แห่งอียิปต์จะทุ่มเทปกครองพวกคุณด้วยความสามารถทั้งหมดที่มี"
เห็นไหมครับว่าการที่เลือกใช้สรรพนามปัจจุบันลงไปในนิยายแนวย้อนยุคมันทำให้มนต์เสน่ห์ของมันลดน้อยลงไปขนาดไหน เพราะฉะนั้นอย่าบกพร่องเรื่องพวกนี้ครับ เพราะมันจะช่วยเสริมให้นิยายแนวย้อนยุคดูสมจริงสมจังมากขึ้น ทั้งน่าอ่านและเวลาอ่านไม่รู้สึกขัดตาด้วย
ข้อแนะนำ หากตัวละครในนิยายของคุณเป็นกษัตริย์หรือเชื้อพระวงศ์อย่าลืม คำราชาศัพท์ นะครับเพราะมันจะช่วยเสริมให้นิยายคุณสมจริงสมจังและได้บรรยากาศยิ่งขึ้น ภาษาไทยเราแตกต่างจากภาษาต่างชาติตรงที่เรามีคำราชาศัพท์เนี่ยแหละครับ เราไม่รู้นะครับว่าชาติไหนมีคำราชาศัพท์อีกบ้างเพียงแต่ว่าแต่ละชาติก็มีการใช้ภาษาต่างกัน แต่เมื่อเราแต่งนิยายให้คนไทยอ่านเราก็ควรใช้ คำราชาศัพท์ หากมีเชื้อพระวงศ์มาเกี่ยวข้องด้วย
- คำพูดที่เหมาะสมสำหรับ นิยายแนวผสมผสาน
ตามหัวข้อครับนิยายแนวผสมผสานเป็นยังไงก็อย่างเช่นตัวเอกเป็นตัวละครที่อยู่ในโลกอดีตแต่ถูกดึงตัวมาโลกยุคปัจจุบันด้วยของวิเศษหรืออะไรสักอย่างก็ว่าไป แค่นี้นิยายเราก็เป็นนิยายแนวผสมผสานด้านภาษาแล้วครับ เพราะตัวเอกจากอดีตจะต้องมีการพูดจาที่เป็นเอกลักษณ์ให้รู้ว่าเป็นคนโบราณแน่นอน และคนในยุคปัจจุบันเองก็ต้องใช้ภาษาอีกแบบหนึ่ง ทีนี้นิยายของคุณก็จะมีความหลากหลายด้านคำพูดยิ่งขึ้นกว่าเดิมแล้วครับ หรือจะเป็นแนวแฟนตาซีย้อนยุคบางเรื่องก็ใช้สรรพนามแบบปัจจุบันกับอดีตผสมกันเพื่อให้ตัวละครดูมีเอกลักษณ์น่าสนใจยิ่งขึ้น อันนี้ไม่ค่อยซีเรียสครับเพราะแฟนตาซีคือเรื่องของจินตนาการหากตัวละครของคุณจะใช้สรรพนามอะไรก็เรื่องของตัวละครเพียงแต่ว่าควรดูที่ความเหมาะสมและความสอดคล้องกับสไตส์ที่คุณกำลังแต่งด้วย
ตัวอย่างที่ ๑
"ข้าจะต้องฆ่าเจ้าให้ได้ ซินเซีย" เซอุสกล่าวด้วยวาจาแน่วแน่ดวงตาสีฟ้าบริสุทธิ์ของเขาดูเป็นประกายสง่างามเข้ากับผมสีทองจรัสของเขา
ตัวอย่างที่ ๒
"ฉันจะต้องฆ่าเธอให้ได้ ซินเซีย" เซอุสกล่าวด้วยวาจาแน่วแน่ดวงตาสีฟ้าบริสุทธิ์ของเขาดูเป็นประกายสง่างามเข้ากับผมสีทองจรัสของเขา
ทั้งสองตัวอย่างที่ลองให้อ่านจะเห็นได้ว่าทำให้บุคลิกของตัวละครตัวนี้ดูเปลี่ยนไปถนัดตาแค่การเลือกใช้สรรพนามในบุรุษต่าง ๆ เท่านั้นเองนะครับ เพราะฉะนั้นการคิดคำพูดหรือสร้างคำพูดก็ทำให้ตัวละครของเรามีเอกลักษณ์และมีเสน่ห์ได้อย่างไม่น่าเชื่อ ควรจะพิถีพิถันและใส่ใจกับรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ตรงส่วนนี้ด้วยครับผม
คาแรคเตอร์ตัวละคร นี่ก็เป็นอีกปัจจัยในการคิดคำพูดตัวละครครับ ตัวละครของคุณมีเพศอะไร อายุเท่าไร อุปนิสัยอย่างไร สิ่งเหล่านี้ส่งผลกับคำพูดตัวละครเช่ากันครับ หากคุณแต่งตัวละครผู้ชายแต่คำพูดของตัวละครคุณไม่ต่างจากตัวละครผู้หญิงเลยสักนิดแบบนี้คำพูดของละครของคุณจะขาดความสมจริงได้ และอีกสิ่งหนึ่งที่คาแรคเตอร์ตัวละครมีความสำคัญกับคำพูดเพราะ คำพูดจะสามารถทำให้อุปนิสัยของตัวละครคุณโดดเด่นขึ้นได้
ตัวอย่างเช่น คุณต้องการแต่งคาแรคเตอร์ตัวละครคุณเป็นผู้ชายบ้าดีเดือด ห่ามสุดกู่ ชั่วสุดขีด คำพูดที่เหมาะสมกับตัวละครแบบนี้น่าจะเป็นอย่างไรครับ ...โอเค เราไม่มีเวลาให้คุณคิดนานเพราะฉะนั้นจะเฉลยเลยนะครับว่าคำพูดควรจะเถื่อนและหยาบคายที่สุดเท่าที่คุณจะสรรหามาได้และเหมาะสมพออ่าน เช่น "ข้าจะฆ่าล้างให้หมดไม่ให้เหลือ" "แกจะต้องตายด้วยเงื้อมือข้า" "ไปหยิบน้ำมาสิวะ" เป็นต้นครับ
จะเห็นได้ว่าแม้แต่คำพูดให้การแต่งนิยายก็ยังละเอียดอ่อนเพื่อให้คนอ่านเข้าถึงนิยายและซาบซึ้งไปกับสำนวนที่เราใช้จะต้องใช้ความตั้งใจพิถีพิถันเป็นอย่างมาก เพราะฉะนั้นเหล่านักเขียนมือใหม่ก็อย่าเพิ่งท้อซะก่อนนะครับ หากมีความพยายามไม่ว่าอะไรก็จะสำเร็จได้ครับ
ห้องเรียนสีส้มแห่งจินตนาการ CluB Writer
ความคิดเห็น
อยากเขียนให้มันน่าสนุกอะ
แต่บางทีภาษาที่เราใช้ออกมามันอาจจะทำให้คนอ่านไม่สนุกอะ
เขียนไม่ได้ซักที
ทำได้แต่เขียนบันทึกประจำวันอะ ..แต่ก็เขียนได้ไม่ดีอีก - -
คงอีกนานแหละกว่าจะเขียนได้เหมือนพวกเค้าอะ - -
ท่านอาจารย์ผมสอนให้ลองพูดคำพูดออกมาดังๆด้วยปากเราเอง เเล้วลองฟังดูว่ามันไปได้หรือเปล่า
ถ้าได้ก็เอาใส่ ถ้าไม่ได้ก็ลองพูดประโยคนั้นใหม่ดูเเล้วปรับเอา
ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ
ปล. ไม่ทราบว่าเป็นท่านผู้ใดจาก Club writer หรือไม่ ที่บอกจะช่วยมาติชมนิยายกระผม ถ้าใช่ก็ขอบคุณเเละจะรอครับ
คารวะ
อยากเขียนมั้งอะคับแต่ทามไม่ได้สักกะที
PS. ผิดด้วยหรอที่เรามีหัวใจเเล้วรักเค้าข้างเดียว
ขอบคุณค่ะ!!
เป็นความรู้ที่ดีมากๆ