CluBWriter
ดู Blog ทั้งหมด

บทบรรยายเจ้าปัญหา

เขียนโดย CluBWriter

               มาจะกล่าวบทไปถึงบทบรรยายชวนปวดหัวสำหรับนักเขียนหลาย ๆ คนอาจมีปัญหากับบทบรรยาย เดี๋ยวก็ขาดนู่นเดี๋ยวก็ขาดนี่บรรยายยังไงมันก็ไม่ถูกใจคนอ่านเสียที บรรยายยังไงอ่านไปก็ไม่รู้เรื่องเสียที แล้วแบบนี้เราควรจะทำยังไงดี ? โอเค ถ้าใครมีปัญหาตรงนี้ครั้งนี้เราจะมาแนะนำเรื่องนี้ให้ได้รู้ถึงวิธีคิดบทบรรยายให้น่าอ่านน่าสนใจและคนอ่านอยากจะอ่านซ้ำแล้วซ้ำอีก

                สิ่งแรกที่ต้องกล่าวถึงคือคุณกำลังแต่งนิยายแนวอะไรหรือเขียนเกี่ยวกับอะไรครับ และใช้สรรพนามแบบไหนเป็นตัวบรรยาย ใครยังไม่เข้าใจเรื่องนี้ให้กลับไปอ่านเรื่อง การเขียนนิยายโดยใช้สรรพนามบุรุษต่าง ๆ ดูก่อนนะครับเพื่อความเข้าใจและแจ่มแจ้งในเรื่องนี้



บทบรรยายแบบสรรพนามบุรุษที่ ๑
 

               หากคุณใช้สรรพนามบุรุษที่ ๑ ในการแต่งแน่นอนว่าตัวละครจะเป็นผู้เล่าและบรรยายทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนจบ เพราะฉะนั้นบทบรรยายของคุณจะต้องอ่านแล้วดูลื่นไหลเหมือนกำลังมีคนมานั่งเล่าเรื่องให้ให้คุณฟังทีละบททีละขั้น สิ่งแรกที่คุณต้องคำนึงถึงคือคุณใช้ตัวละครที่มีลักษณะนิสัยแบบไหนและเพศอะไรวัยไหน หากคุณกำลังสวมบทบาทเป็นเด็กชายตัวน้อยอายุสิบสามกำลังอยากรู้อยากเห็นบทบรรยายของคุณก็ควรจะเป็นอีกอารมณ์หนึ่ง หากคุณกำลังเป็นยัยคุณหนูตัวร้ายดีกรีนักเรียนนอกแสนไฮโซคุณก็ต้องบรรยายในอีกรูปแบบหนึ่ง เพื่อให้คนอ่านเชื่อในตัวละครว่าตัวละครที่เขากำลังอ่านอยู่เนี่ยมันคือตัวนี้จริง ๆ นะ

ตัวอย่างบทบรรยายผู้หญิง

ฉันสาวออฟฟิตวัยยี่สิบสามเพิ่งจะเรียนจบมาหมาด ๆ ด้วยเกรดเฉลี่ยสุดห่วยที่แทบจะกราบเท้าอ้อนวอนอาจารย์ได้โปรดปราณีปล่อยลูกศิษย์ตาดำ ๆ ผมยาว ๆ หน้าสวย ๆ หุ่นดี๊ดีคนนี้ผ่านสักทีเถอะ เพราะฉันคงไม่อยากจะเรียนพร้อมกับรุ่นน้องอีกเทอม ไม่งั้นพวกนั้นคงได้เรียกฉันว่าป้าแน่

ตัวอย่างบทบรรยายผู้ชาย

ผมนักแสดงดวงกำลังพุ่งงานกำลังรุ่งมาแรงแซงทางโค้งทุกคนในเวลานี้ ช่วงนี้ผมเลยแทบไม่มีเวลาพักผ่อนเท่าไรทั้งต้องออกไปถ่ายแบบ อัดรายการนู่นรายนี่ ให้สัมภาษณ์รายการนั้นทีนี้ที ถ้าเลือกได้ผมอาจจะไม่มาเลือกเข้าวงการนี้แต่แรกหรอกครับ ไม่ทันคิดว่าตัวเองจะโด่งดังขึ้นมาได้เหมือนทุกวันนี้

ตัวอย่างบทบรรยายเด็ก

หนูนั่งผู้คนที่พากันเดินขวักไขว้ไปมาอยู่เต็มท้องถนน ด้วยเสื้อผ้าเครื่องเต่งกายดี ๆ ต่างจากเด็กกำพร้าไม่มีที่ไปอย่างหนู หนูก้มมองมือสกปรกเปรอะเปื้อนของตัวเองและหัวเราะกับมันก็นิ้วโป้งหนูตอนนี้มันดูตลอดดีนี่หน่า หนูชอบดูดนิ้วโป้งตัวเองเวลาหิวอย่างน้อยก็ช่วยประทังอาการอยากอาหารไปได้บ้าง

ตัวอย่างบทบรรยายสัตว์

ผมมองเจ้านายหน้าขนของตัวเองที่กำลังอาบน้ำให้ผมอยู่ เจ้านายผมมีขนสีดำอยู่ตรงหัวขนของเจ้านายยาวกว่าขนสั้น ๆ สีน้ำตาลของผมตั้งเยอะ เมื่อไหร่ผมจะขนยาวเหมือนเจ้านายบ้างนะ ผมชอบกลิ่นเยลลี่สีแดง ๆ ที่เจ้านายเอามาฟอกตัวผมมันทำให้ผมสดชื่นแล้วก็รู้สึกสะอาด

               แค่บทบรรยายแค่นี้ก็ทำให้เห็นข้อแตกต่างของตัวละครแต่ละตัวแล้วใช่มั้ยครับ ทั้งบุคลิก สถานะความเป็นอยู่ และอุปนิสัย ให้คนอ่านและรู้สึกและค่อย ๆ เข้าใจตัวละครของคุณทีละนิดทีละหน่อย สิ่งสำคัญคือต้องให้คนอ่านเชื่อในตัวละครตัวนั้นว่ามันมีอยู่และกำลังเล่าเรื่องให้ฟัง หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่ชื่นชอบการใช้สรรพนามบุรุษที่ ๑ ในการแต่งนิยายนะครับ



บทบรรยายแบบสรรพนามบุรุษที่ ๒ และ ๓

               สำหรับบทบรรยายสไตส์นี้จะใช้การบรรยายที่ดูอลังการและสามารถใช้ศัพท์สูงได้เต็มที่เพราะมันเป็นการบรรยายให้เห็นภาพกว้าง ๆ โดยทั่วกัน และบทบรรยายแบบนี้คุณสามารถบรรยายตั้งแต่มดจรดช้างได้เลยครับ เพราะจะต้องเก็บรายละเอียดเยอะมากสำหรับการจะทำให้บทบรรยายสไตส์นี้สมบูรณ์ และการบรรยายจะช่วยสร้างบรรยากาศและอารมณ์ให้กับนิยายของคุณ

ตัวอย่างการบรรยายแบบละเมียดละไม

มาลีเด็กสาววัยสิบสองกำลังเยื้องย่างปลายเท้าลงไปจรดกับพื้นทรายละเอียดนุ่มสีขาวโผนอย่างกับหิมะเพิ่งจะโปรยปรายลงมายังหาดทรายแห่งนี้ น้ำทะเลสีฟ้าใสบริสุทธิ์จนเห็นฝูงปลาแหวกว่ายไปมาใต้ฟองละอองคลื่น ทำให้จิตใจของเด็กน้อยรู้สึกสดชื่นปลอดโปร่งและเป็นสุข เธอจับชายกระโปรงสีขาวบางเนื้อผ้าบางเบาไว้ไม่ให้ปลิวไปกับกระแสลมของคลื่นทะเลที่กำลังพัดโต้เข้ามาในหาด

ตัวอย่างบทบรรยายแบบกระชับฉับไว

มาลีสาวน้อยวัยสิบสองวิ่งเล่นอยู่กลางชายหาดใกล้บ้านพักตากอากาศริมทะเลของครอบครัว เธอมองดูฝูงปลาไล่ว่ายน้ำต้านกระแสน้ำทะเลสีฟ้าครามด้วยความขบขัน อากาศและลมเย็นสบายทำให้มาลีสดชื่นเธอดึงชายกระโปรงตัวเองขึ้นไม่ให้ผ้ามันปลิวไปตามลม

               บทบรรยายทั้งสองแบบให้ความหมายคล้ายคลึงกันเพียงแต่แตกต่างที่อารมณ์และความรู้สึก คุณควรดูด้วยว่าการแต่งของตัวเองเป็นแนวไหนและปรับใช้บทบรรยายให้สวยงามเหมาะสมกัน แต่งแนวรักจะบรรยายแบบไหนให้คนอ่านคล้อยตาม แต่งแนวบู๊จะบรรยายแบบไหนให้คนอ่านเห็นภาพและสนุกสนานไปกับมัน แต่แนวสืบสวนจะบรรยายแบบไหนให้คนอ่านจับไต๋เราไม่ได้



ลำดับขั้นการบรรยาย

               การบรรยายให้น่าอ่านและไม่ขัดกันควรมีการบรรยายไล่ให้ถูกต้องและเหมาะสม อย่างเวลาคุณจะบรรยายสถานที่ให้ฉากเนี่ยคุณควรจะเริ่มบรรยายจากไหน แน่นอนว่าควรเริ่มบรรยายจากสิ่งที่เห็นเป็นสิ่งแรก เช่น ประตูทางเข้าสถานที่บรรยายเรื่อยมาจนถึงห้องข้างในห้องแรก ห้องที่สอง สาม สี่ ห้าก็ว่ากันไป ไม่ใช่เริ่มต้นเข้าบ้านมาบรรยายห้องน้ำก่อนห้องรับแขก บรรยายห้องนอนก่อนจะพูดถึงสนามหน้าบ้าน เช่นเดียวกับการบรรยายคนหากคุณจะเริ่มบรรยายจากหัวจรดเท้า หรือเท้าจรดหัว การบรรยายของคุณก็ควรจะถูกต้องและมีลำดับ

ตัวอย่างการบรรยายลักษณะคน

ผมมองดูผู้หญิงผมม้าผมยาวปะบ่า นัยน์ตาสีน้ำตาล จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากสีชมพูอ่อน แต่งตัวด้วยเสื้อยืดคอโปโลลายขวางสีดำตัดกับกางเกงยีนส์ขายาวใส่เข้าคู่กับรองเท้าส้นสูงสีดำ รูปร่างสมส่วนกำลังดีแต่สไตส์การแต่งตัว... ห่วยที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมา

               เห็นมั้ยครับว่าถ้าเราบรรยายทีละขั้นทีละลำดับอย่างถูกวิธีคนอ่านก็จะสามารถนึกภาพตามเราไปได้อย่างกับเนรมิตภาพในหัวของคุณให้คนอ่านดูอย่างงั้นแหละ ลองคิดดูถ้าคุณเริ่มบรรยายจากหน้าแล้วลงไปบรรยายรองเท้าต่อมันจะรู้สึกตลกและขัดหูขัดตาบดบังจินตนาการที่กำลังจะบรรเจิดซะจริง



บทบรรยายขณะพูด

               ไม่ว่าตัวละครจะไปไหนหรือทำอะไรจงบรรยายอย่าให้ขาดตกบกพร่องครับ ตัวละครกำลังทำท่าทางแบบนี้นะก็บรรยายให้รู้ ตัวละครกำลังจะไปไหนก็บรรยายให้รู้ นักเขียนบางคนเขียนนิยายอย่างกับนิยายพูด คือมีแต่ตัวละคร พูด พูด พูด เอาแต่พูดไม่รู้เลยว่าตัวละครกำลังทำอะไรอยู่ ตอนนี้เอามือเท้าสะเอวอยู่นะ ตอนนี้กำลังจะเดินไปไหนนะ ช่วยบรรยายให้คนอ่านได้รับทราบและนึกภาพตามไปด้วยหน่อยเถอะครับ เพราะคุณกำลังแต่งนิยายให้คนอ่านนะครับไม่ได้มานั่งเขียนบ่นให้คนอ่าน อ่านกัน การบรรยายลักษณะท่าทางขณะพูดของตัวละครจะช่วยให้บทบรรยายของคุณช่วยเสริมคำพูดได้อย่างดี

ตัวอย่างนิยายพูด

"หวัดดีสมชาย" สมหญิงพูด

"ว่าไงสมหญิง" สมชายพูด

"กินข้าวยัง" สมหญิงถาม

"ยัง แล้วสมหญิงล่ะ" สมชายตอบ

"ยังเหมือนกัน" สมหญิงหัวเราะ

"งั้นเราไปก่อนนะ"  สมชายพูด

ตัวอย่างบทบรรยายประกอบคำพูด

"หวัดดีสมชาย" สมหญิงทักทายสมชายเพื่อนซี้ที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะใต้สวนหย่อมข้างตึกเรียน

"ว่าไงสมหญิง" สมชายโบกมือทักทายกลับ

"กินข้าวยัง"

"ยัง แล้วสมหญิงล่ะ"

"ยังเหมือนกัน" สมหญิงหัวเราะถึงอยากจะกินข้าวขนาดไหนแต่ตอนนี้ก็ใกล้เวลาเข้าแถวเคารพธงชาติเต็มทียังไงก็คงไม่ทัน

"งั้นเราไปก่อนนะ"  สมชายนึกได้ว่าตัวเองติดธุระเลยต้องรีบขอตัวไปก่อน

               แต่แน่นอนครับถึงเราจะแนะนำให้มีบทบรรยายตัวละครขณะพูดแต่ไม่ใช่ว่าจะต้องมีบทบรรยายต่อท้ายทุกประโยคทุกท่วงท่าคือให้มันอยู่ในความเหมาะสมและพอดีนั่นแหละครับดีที่สุด เพราะบางทีตอนตัวละครพูดคนอ่านก็ทราบอยู่แล้วครับว่าตัวละครตัวนี้เป็นคนพูดคุณไม่จำเป็นต้องเติมต่อท้ายประโยคไปตลอดว่าตัวนี้พูดนะ ตัวนี้พูดอยู่นะ และไม่ควรเติมบรรยายมากไปจนเกินพอดี

ตัวอย่างบทบรรยายที่มากเกินไป

"หวัดดีเพื่อน"  สมชายหนุ่มนักเรียนนอกดีกรีเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง เพิ่งลงท่าอากาศย่านสุวรรณภูมิตรงที่นั่งชั้นซียี่สิบเอ็ด สายการบินนกกระจิบบินออกจากรัง ที่เปิดให้บริการมาร่วมสิบปีมีผู้บริหารมาแล้วสิบคน คนล่าสุดชื่อนายวิบูลย์ เดินมาทักทายบรรดาเพื่อน ๆ ในกลุ่มทั้งสิบเอ็ดคนที่ไม่ได้เจอกันมานานร่วมปีที่ต่างมายืนรอรับเขาอยู่หน้าสนามบินตรงสถานีที่สิบสี่ใกล้กับร้านคอฟฟี่ช๊อปข้างร้านขายยาตรงข้างมีร้านเคเอฟซีมีพนักงานหน้าตาน่ารักกำลังยืนขายให้บริการลูกค้าอยู่ประมาณสามสี่คน

              ขอโทษเถอะครับบรรยายขนาดนี้ไม่ทราบว่าจะมีเล่าประวัติสายการบินนี้เลยมั้ยครับ แล้วร้านเคเอฟซีนั่นก็มากจนเกินไปแค่บอกแล้วยืนอยู่ใกล้แถวนั้นแค่นี้คนอ่านก็พอเข้าใจแล้วครับแล้วตัวละครทั้งหมดยืนอยู่ตรงไหนกัน ไม่มากไปไม่น้อยไปนะครับอยู่ในความพอดี

**ข้อควรระวัง จากประสบการณ์ที่อ่านนิยายในเว็บมาจุดบกพร่องที่พบบ่อยที่สุดก็คือ นักเขียนหลายคนขี้เกียจบรรยาย อ่านมาตั้งแต่ต้นจนจบเรื่องยังไม่รู้เลยว่าตัวละครรูปร่างหน้าตาประมาณไหนรู้แต่ว่าชื่อนาย ก ข ค ง ฉากสถานที่ก็รู้ว่าตอนนี้อยู่โรงเรียนนะจบ ตอนนี้อยู่ห้องนอนนะจบ บางสถานที่ถ้าตัวละครต้องอาศัยหรือว่าอยู่ในฉากนั้นบ่อย ๆ เราแนะนำให้คุณบรรยายสภาพของมันสักหน่อยครับเพื่อให้คนอ่านได้เห็นภาพตัวละครตามไปกับคุณด้วย

 

               หวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะสามารถช่วยให้คุณนำไปพัฒนาบทบรรยายของคุณได้นะครับ หมั่นเขียนนิยายเป็นประจำสม่ำเสมออ่านหนังสือบ่อย ๆ จะช่วยพัฒนาทักษะการบรรยายได้เช่นกันครับ 

ห้องเรียนสีส้มแห่งจินตนาการ CluB Writer

~(..>.<..)~


ความคิดเห็น

candycherry
candycherry 19 พ.ค. 50 / 13:21

เป็นอะไรที่สอนเราได้หลายอย่าง ขอบคุณค่า! ข้าน้อยขอคารวะเจ้าค่ะ!!!


PS.  ต้องออกเดินทางกับหมาป่าคล้ายกับเรื่องหนูน้อยหมวกแดง แล้วถ้าหนูน้อยหมวกแดงหลงรักหมาป่า แล้วหมาป่าขอหนูน้อยหมวกแดงเป็นแฟนล่ะ!? ยังไม่หมดแค่นี้นะ...>>http://my.dek-d.com/Writer/story/view.php?id=273869
Echo9
Echo9 22 พ.ค. 50 / 12:06
ขอบคุณ รู้สึกว่ามาอ่านแล้วได้ความรู้เพิ่มจากที่เคยรู้มากๆ
PS.  “ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นชีวิตก็ต้องดำเนินต่อไปจนเจอ กับคำตอบของปัญหาและจะค้นพบการมีชีวิตอยู่ของตนเอง เข้าสักวัน....”
Mr-musashi
Mr-musashi 26 พ.ค. 50 / 04:27

ขอบคุณมากคับผม

ความคิดเห็นที่ 4
จัยมากที่มาโพสไว้นะคับ
ohhello-lily
ohhello-lily 11 มิ.ย. 53 / 11:23
ขอบคุณมากค่ะ
ความคิดเห็นที่ 6
ดีมากเลย ค่ะ มีงานส่งแล้ว อิอิ
ความคิดเห็นที่ 7
ขอบคุณค่ะ :~)
ความคิดเห็นที่ 8
ขอพรรณนาบ้างดิ