ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ว่าด้วยเรื่องของ...{ฮวงจุ้ย}

    ลำดับตอนที่ #2 : ว่าด้วยเรื่องของ...หยินและหยาง

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 797
      0
      16 เม.ย. 52




    ว่าด้วยเรื่องของ "หยิน" กับ "หยาง"


    (ที่จริงลงรูปเดียวก็ได้ แต่กลัวว่าเดี๋ยวจะงง - -*)

              ว่ากันไปตามพื้นฐานเลย "หยิน"(Yin) คือฝั่งสีดำ ส่วน "หยาง"(Yang) จะเป็็นฝั่งสีขาว

    (ดูรูปซะนะ -..-)
    /me โดนตบ โทษฐานกวนตีน

              ตามที่นักปรัชญาชาวจีน (ใครก็ไม่รู้)คิด เกี่ยวกับ แบบแผนการหมุนวนของธรรมชาติ (งงๆไหม?) ได้ถูกกำหนดให้ตรงข้ามกันเป็นสองขั้ว

              ตอนเริ่มแรก "หยิน" ถูกใช้เป็นสัญลักษณ์แทนความชั่วร้าย ฝ่ายมืด คงเพราะเป็นสีดำล่ะมั้ง?

              ส่วน "หยาง" แทนความดี คุณธรรม แสงสว่าง น่าจะเป็นเพราะ...หยางมีสีขาวอีกนั่นแหละ

              แต่ถ้ามองดูที่สัญลักษณ์แล้ว เห็นรึเปล่า?

              ในความมืด มันก็ยังมีจุดสีขาวเล็กๆอยู่เหมือนกัน ในคนที่เลวร้าย เขาก็ยังต้องมีความดีอยู่บ้าง

              เหมือนกับที่ในคนดี...ย่อมต้องมีความชั่วร้ายอาศัยอยู่

              ประมาณนั้นล่ะ

              ความแข็งกับความอ่อน(เฮ้! อย่าคิดลึก!) ข้างบนกับข้างล่าง

              "หยาง" ใช้แทนส่วนที่เป็น "ผู้ชาย" ความเข้มแข็ง พลังอันแสนลึกล้ำจากวิญญาณ (ประมาณดราก้อนบอลรึเปล่าหว่า???)

              ส่วน "หยิน" แทน "ผู้หญิง" ความอ่อนโยน พลังสมาธิ พลังจิต

              ว่ากันต่อดีกว่า เพราะพล่ามไร้สาระมาเยอะแล้ว - -* 
    (อันที่จริง ข้างบนนั่น อาจต้องรวบไปขยายที่บทถัดไป จะได้ไม่มึนน่ะ)

              ว่ากันไปตามหลักที่หลายๆที่ (แต่ไม่รู้ว่าหลายตำรารึเปล่านะ)

              บอกมาว่า "หยินและหยาง" ถูกสร้างขึ้น เพื่อใช้แทนความหมายของการเคลื่อนไหว และการหยุดนิ่ง

              เพราะมีการ "เคลื่อนไหว" และการ "หยุดนิ่ง" นี่ล่ะ โลกเราถึงเกิดขึ้นมาได้ (อย่าคิดลึกเฟ้ย!!!)

              "หยิน" แทน "ดิน" หรือการ "หยุดนิ่ง"

              ลองนึกๆดู...ถ้าพื้นดินมันเคลื่อนไหว...ว่ากันไปตามภาษาปากก็ "แผ่นดินไหว" นั่นล่ะ มันจะเกิดอะไรขึ้น???

              ไม่แคล้วว่าต้องซี้แหงกันหมดแน่ๆ (หรือจะวิวัฒนาการ อีโวลูชั่นก็ว่ากันไป - -*)

              ดังนั้น แผ่นดิน จึงเป็นสิ่งแสดงความหยุดนิ่ง ความหนักแน่น มั่นคง เก็ทรึเปล่า??? (ขนาดคนอธิบายยังงงๆ แหงะ - -*)

              ส่วน "หยาง" แทน "น้ำ" หรือ การ"เคลื่อนไหว"

              ถ้าวันไหน น้ำไม่ไหล ก็คงจะอาบน้ำไม่ได้...เอ้ย!!! ไม่ใช่ละ!!!

              ถ้าน้ำไม่ยอมเคลื่อนไหว มันจะเกิดอะไรขึ้น?

              น้ำก็จะเน่า เพราะขาดออกซิเจน แล้วพอน้ำเน่า ปลาก็ตาย จริงไหม?

              ดังนั้น น้ำจึงต้องเคลื่อนไหวตลอดเวลา จะได้ไม่เน่า (เอ้อ! สรุปง่ายไปรึเปล่าฟะตู -*-)

              น้ำต้อง "เคลื่อนไหว" ตลอดเวลา ส่วนดินก็ต้อง "หยุดนิ่ง" ตลอดเวลา เพื่อรักษาความสมดุล

              ถ้าสมมุติว่าโลกนี้มีแต่"หยิน" อย่างเดียว จะเกิดอะไรขึ้น???

              ทุกสิ่งก็หยุดนิ่ง ไม่ขยับ กลายเป็นอนุสรสถานเต่าล้านปี ถ้ามีแต่ดิน ก็แห้งแล้งอดอยาก ตายกันหมด

              แล้วถ้ามีแต่ "หยาง" ล่ะ???

              ผู้คนเอาแต่เคลื่อนไหวตลอดเวลา ไม่รู้จักพักผ่อน เหนื่อยตายทั้งๆที่ยังวิ่งไปวิ่งมานั่นล่ะ หรือถ้ามีแต่น้ำ ขนาดสัตว์น้ำก็อยู่ไม่ได้หรอก เพราะไม่มีดิน แล้วสาหร่าย ตะไคร่ ดอกไม้ทะเลจะอยู่ยังไง? จริงไหม?

              ดังนั้น ทั้งหยินและหยาง จึงต้องเกื้อหนุนกัน เพื่อให้สรรพสิ่งดำรงอยู่ต่อไปได้

              ว่าแล้วก็แอบบ่นซักนิดนึง

              ปัจจุบันนี้ โลกเรามันเสียสมดุลไปซะมาก ที่นึงมีแต่หยิน อีกที่มีแต่หยาง

              ไม่ใช่เพราะธรรมชาติบันดาล แต่เพราะ "มนุษย์" เรานี่ล่ะที่ไปทำลายความสมดุลนั้น

              ตัดไม้ ทำลายป่า เวลาฝนตก น้ำก็เลยท่วม กลายเป็นว่า มีหยางเกินขนาด แต่ดันกักไว้ไม่ได้ซักกะจึ่ง สุดท้าย หยินก็เดือดร้อน

              ควัีนรถ ควันแอร์ สารพัดสารพิษที่ทำลายชั้นโอโซน พาลจะทำให้ภูเขาน้ำแข็งละลาย เอ้า!!! หยางมากเกินขนาดอีกแล้ว

              แล้วผลเป็นไง? น้ำท่วม อุทกภัยล้่วนๆ สัตว์ป่าก็สูญพันธุ์เพราะอยู่ไม่ได้ คนเราก็เจอมลภาวะ อากาศเป็นพิษ ทำให้ปอดเสียหายอีก...

              สรุปแล้ว...ง่ายๆ

              มาร่วมกันรณรงค์ลดภาวะโลกร้อนกันเถอะ~~~~ (เกี่ยวกันไหมนี่ ฮา~~~)
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×