Horae
ดู Blog ทั้งหมด

[แปลเพลง] Gyoukou no Uta

เขียนโดย Horae

และแล้ว เพลงที่ 3 ก็ตามมาติด ๆ ทั้งที่ตั้งใจว่าจะแปลไปเรื่อย ๆ แบบไม่รีบร้อนแท้ ๆ

และทุกคนก็อาจจะงงว่า อะไรของอินี่เนี่ย แปลกระโดดไปกระโดดมา ไม่ยอมเรียงตามลำดับอัลบั้ม แล้วตรูจะเข้าใจมั้ยเนี่ย! ( -`д´-)

*ฉะนั้น เอาเรื่องย่อแบบกะทัดรัดมาก ๆ ๆ ๆ ไปก่อนค่ะ อิอิ >> http://my.dek-d.com/Farra_jung/blog/?blog_id=10165049*

แบบว่า... มันอินดี้ (?) อ่ะค่ะ นึกอยากแปลเพลงไหนก็จัดไป แหะ ๆ

คงจะแปลตามใจฉันไปเรื่อย ๆ จนครบทุกเพลงในชุด Märchen ล่ะค่ะ ถ้าเสร็จเมื่อไหร่ จะรวมลิงค์ + review อัลบั้มสั้น ๆ แบบปะติดปะต่อเรื่องเอง *โดนบ้อง

อ่ะ เลิกแพล่มดีกว่าค่ะ 

เพลง Gyoukou no Uta หรือ Song of Dawn's Light เป็นเพลงปิดอัลบั้ม เหมือนกับเป็นบทส่งท้ายในนิยายนั่นล่ะค่ะ

ไว้จะเขียนสรุปไว้ให้ท้ายบล็อก (?) นะคะ ♪






 

\"\"

 





 






 

Gyoukou no Uta

sayonara  zutto  kimi to  onaji jikan o  ikitakatta
saredo  kami wa  kesshite bokutachi o yurusanai darou

ikutsu mo no tsumi  kasanenagara mo  bokutachi ga motometa no wa
sore wa hikari  sore wa hikari  sore wa hikari  sore wa hikari

kurayami no toki ni umarete  mama  kimi to deai
hikareau  sono omoi  shiseru nochi mo  tomerarezu ni

  "mori no doubutsutachi dake datta..."
  "umee da yo"
  "ittadakimaasu!"
  "un, watashi ganbaru!"
  "dokidoki da wa..."
  "takaramono ga kakusarete iru wa..."
  "yakusoku o mamotte kureta no ne"

yoiyami no uta o atsumete  kono bohi ni sasagu
fukushuu wa taga tame ni  mori mo  ido mo  nana no Epitaph to naru

  "ufufu... aishite'ru wa Meru"
  "samukunai? Meru"

["naruhodo, sou ka. kono mori ga, kono ido ga, boku no...
  sou da ne, Elise. bokutachi no jikan wa mou owatte ita n da ne"]

kimi ga ima waratte iru  mabayui sono jidai ni
dare mo uramazu  shiseru koto o uramazu  kanarazu doko de aou

[Sieben, Sechs, Fuenf, Vier, Drei, Zwei, Eins]

[Die Totenglocke an ende siebte Zeitalters.
 Es verschwinden...]

["mutti. hikari, attakai ne"]





 

\"\"
 






 

ลาก่อน... ทั้งที่ข้าอยากอยู่กับเจ้าตลอดไป
แต่หากเป็นเช่นนั้น พระผู้เป็นเจ้าคงไม่ยินยอมอภัยให้เราทั้งสอง

ภายหลังจากก่อบาปครั้งแล้วครั้งเล่า แท้ที่จริงแล้วเราต้องการอะไรกันแน่ ...
สิ่งนั้นคือความดีงาม (แสงสว่าง) สิ่งนั้นคือความรัก (แสงสว่าง) สิ่งนั้นคือความสุข (แสงสว่าง) สิ่งนั้นคืออนาคต (แสงสว่าง)

เราต่างถือกำเนิดขึ้นมาในช่วงเวลาอันมืดมิด ได้พบกันและได้รักกัน
ความรู้สึกนั้นไม่มีวันสิ้นสุดลงแม้กระทั่งหลังความตายก็ตาม

- เสียงของตัวละครหลักจากแต่ละเพลง -

  "เหล่าสัตว์ตัวน้อยในป่า..." #Nonne
  "ดีจริง ๆ ..." #Buran-ko
  "ทานล่ะนะ!" #Schneewittchen (สโนว์ไวท์)
  "เข้าใจแล้ว! ข้าจะทำให้ดีที่สุดเลย!" #Idoko
  "ข้าตื่นเต้นจังเลย..." #Dornröschen (เจ้าหญิงนิทรา)  
  "สมบัติถูกซ่อนอยู่ในนั้น...." #Aohigeko
  "เจ้ายังคงรักษาสัญญาที่ได้ให้ไว้กับข้า..." #เอลิซาเบ็ธ

ข้าได้รวบรวมบทเพลงแห่งสายัณห์เพื่อนำไปวางไว้ที่สุสานเหล่านั้น
ข้าแก้แค้นใครและแก้แค้นไปเพื่ออะไร?
ทั้งความต้องการและความปรารถนาเหล่านั้นต่างก็กลายมาเป็นคำจารึกบนหลุมฝังศพทั้งเจ็ด

  "หุหุ ข้ารักเจ้านะ เมล" #เอลิเซ่
  "หนาวไหม เมล?" #เทเรซ่า

["เข้าใจล่ะ ป่าแห่งนี้ บ่อน้ำแห่งนี้ และ ...
  นั่นสินะ เอลิเซ่ เวลาของเราได้หมดลงเมื่อนานมาแล้ว"]

ในยุคที่เต็มไปด้วยแสงสว่างที่เจ้ากำลังส่งยิ้มมาให้ในตอนนี้
ในยุคที่ปราศจากความเกลียดชังและความเคียดแค้น
และสักวันพวกเราจะได้พบกันที่นั่น...อย่างแน่นอน

[เจ็ด... หก... ห้า... สี่... สาม... สอง... หนึ่ง...]

[เสียงระฆังแห่งงานศพได้ดังกังวานขึ้นในจุดจบของยุคที่เจ็ด
 ความต้องการ ความปรารถนาต่างก็เหือดหายไปในที่สุด...]

["แม่จ๋า... แสงสว่างช่าง...อบอุ่นเหลือเกิน"]





 


 

\"\"





ประโยคสุดท้ายนี่... ตามใจฉันมากค่ะ ≧▽≦

แบบว่าชอบอ่ะ มันฟังดูโมเอ้ดี (เกี่ยว?)

อย่างที่ได้บอกไปในตอนต้นค่ะ

Gyoukou no Uta เป็นเพลงสุดท้ายของอัลบั้มเมลเช่น ซึ่งเปรียบเสมือนกับบทสรุปของเรื่องราวทั้งหมด

หลังจากที่วิญญาณของเอลิซาเบ็ธได้หายไปพร้อมกับแสงอาทิตย์แรกของวัน เมลก็เข้าใจแล้วว่าเวลาบนโลกนี้ของเขาได้สิ้นสุดลงไปนานแล้ว *ตั้งแต่ตอนที่เอ็งโดนเตะตกบ่อน้ำนั่นแหละ* และไม่รู้ว่าตัวเองจะฝืนชะตากรรมต่อไปทำไม เพราะการใช้ชีวิตอยู่บนโลกที่ปราศจากเอลิซาเบ็ธมันไร้ความหมายอีกต่อไป (เอ่อ... ใส่สีตีไข่ เอ๊ย เรียบเรียงได้เน่ามาก)

ความจริงคือ เมลตระหนักได้ว่าการแก้แค้นของเขามันไร้ความหมาย เพราะไม่รู้ว่าทำไปแล้วได้อะไรทำนองนั้นน่ะค่ะ *ส่วนเรื่องของเอลิซาเบ็ธมีเอี่ยวนิดหน่อย*

จากการที่แก้แค้นมาโดยตลอดเพราะถูกเอลิเซ่ (หรืออีกนัยหนึ่งคือเทเรซ่า) เป่าหู เอ่ย ทำไปตามสัญชาตญาณ คืออารมณ์แค้นที่มันค้างคาอยู่ก่อนตาย เมลเข้าใจแล้วว่าความจริง เขาก็แค่อยากพบกับเอลิซาเบ็ธอีกสักครั้งแค่นั้นเอง



เอ่อ.. อย่างที่เคยบอกไปในตอนต้นนะคะว่าทั้งหมดนี้เกิดจากการยำความคิดของตัวเองล้วน ๆ

ไม่แน่ใจว่ามันจะถูกต้องตามออริจินัลทั้งหมดรึเปล่า ;w;

ฉะนั้น หนีก่อนดีกว่า ก่อนที่จะมีคนปาขวดใส่

*แว้บบบบ

 

ความคิดเห็น

ยังไม่มีความคิดเห็น