คำเตือน : เรทจ้า !!! โปรดระวังการเสียเลือด เราเตือนแล้วนะ ฮุ ๆ ^^
Special Chapter : Blue Moon Cupid (Service Tyki X Ravi NC-17)
“เอาเรือเข้าจอดเกาะที่ใกล้ที่สุดเร็วเข้า !” กัปตันเรือเร่งตะโกนสั่งลูกเรือเสียงดังลั่น ทำให้เกิดความโกลาหลยุ่งเหยิงกันไปทั้งลำเรือ เพราะดันล่องเข้าใกล้เขตปะการังมากเกินไปเสียได้ เลยทำให้เรือไปชนกับหินโสโครกเข้าอย่างจัง เป็นเหตุให้ต้องหาที่จอดเทียบท่าตรวจเช็คความเสียหาย
“ชิ !” ร่างสูงใหญ่สบถอย่างไม่สบอารมณ์ ให้อเลนที่อยู่ไม่ไกลยิ้มแหย ๆ ก็แหม...กำลังล่องเรืออยู่ดี ๆ นี่นะ ชนหินโสโครกเข้าโดยไม่ทันตั้งตัว เป็นใครก็ไม่สบอารมณ์ทั้งนั้น
“ใจเย็น ๆ นะครับยู อย่าเครียดนักสิ ก็แค่ชนหินโสโครก ไม่น่าจะเป็นอะไรมากนักหรอกครับ” อเลนว่าพร้อมกับยื่นผ้าขนหนูให้ ดวงตาสีรัตติกาลหันมามองก่อนจะถอนใจเฮ้ออย่างยอมแพ้รอยยิ้มหวานของสุดที่รัก แล้วรับผ้าขนหนูมาเช็ดหน้า กลิ่นผ้าขนหนูนุ่ม ๆ ที่หอมแดดทำให้รู้สึกสดชื่นขึ้นมาทันที
หลังจากที่หยุดเรือลงที่เกาะร้างแห่งหนึ่ง เหล่าลูกเรือก็พากันลงมาตรวจสอบสภาพของเรือ
“เป็นยังไงบ้าง ?” ราวี่ตะโกนถาม
“แย่เลยราวี่ ! ชนหินโสโครกเข้าอย่างจัง ต้องซ่อมอีกแล้วล่ะ แต่ไม่หนักหนาเท่าตอนระเบิดที่ดาร์กแลนด์ ใช้เวลาไม่ถึงวันก็น่าจะเสร็จ แต่ก็กินเวลาพอดู” ลูกเรือคนหนึ่งว่าอย่างไม่สบอารมณ์ “แถมไม้ในเรือของเราตอนนี้ก็ไม่มากพอที่จะเอามาซ่อมซะด้วย”
“ถ้างั้นก็ไปตัดไม้ในเกาะนี้มาเพิ่ม” กัปตันเรือว่าเมื่อมองไปรอบ ๆ เกาะ ก็พบว่ามีต้นไม้หลากหลายชนิด แถมยังมีหลากหลายประเภทอีกต่างหาก ทั้งไม้ล้มลุกไม้ยืนต้น แถมบางสายพันธุ์ก็ยังให้ผลไม้ที่สามารถกินได้อีกด้วย
บ๊ะ ! เกาะนี้สวยไม่เลวเลยแฮะ ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นเกาะร้าง
ร่างสูงคิด ก่อนจะหันไปมองเจ้าของผมสีขาวที่ดูจะตื่นเต้นกับเกาะแห่งนี้ไม่แพ้กัน ก็ลอบยิ้มกับความไร้เดียงสาที่ราวกับเด็กนั่น
สงสัยช่วงนี้เขาคงจะเครียดมากไปหน่อยอย่างที่อเลนว่าไว้จริง ๆ
“ยูครับ เกาะนี้สวยจังเนอะ” อเลนว่าพร้อมยิ้มอย่างสดใส ให้คนที่เห็นหลาย ๆ คนอมยิ้มตามไปด้วย
“งั้นค้างที่นี่สักคืนเป็นไง” ร่างสูงถามพลางเดินไปโอบไหล่เอาไว้ ให้อเลนหันมามอง
“ได้เหรอครับ ?”
“ก็ไม่เห็นเป็นไรเลย อีกอย่าง...” อยู่ดี ๆ ดวงตาคมก็มีประกายเจ้าเล่ห์ ก่อนจะก้มลงไปกระซิบข้างหู “ตั้งแต่แต่งงานกันมา ยังไม่ได้พานายไปฮันนีมูนเลย ถือว่ามาเที่ยวพักผ่อนกันที่เกาะนี้ก็แล้วกันนะ”
“บ้า !” ใบหน้าหวานแดงเรื่อ ก่อนจะตีไปที่อกแกร่งเบา ๆ อย่างเขินอาย แต่คนบ้าก็ยังคงหัวเราะอย่างพอใจ แถมยังโอบกระชับให้แน่นขึ้นอีกต่างหาก
“วู้ ! ยู !! มดจะกัดฉันตายอยู่แล้ว !!!” ราวี่ได้ทีแซวใหญ่ แม้จะไม่รู้ว่าเจ้าสองหน่อนี่มันซุบซิบอะไร แต่จากออร่าสีชมพูที่เปล่งประกายก็พอจะรู้ว่ามันกำลังสวีทกันอยู่ ทำให้อเลนหน้าแดงอาย ส่วนคันดะหันมาจ้องตาเขม็ง แทนความหมายว่า อย่าสอใส่เกือกให้มันมากนัก
กระโจมเต็นท์ภายในเรือถูกนำออกมาขึงกางเอาไว้บนเกาะใหญ่ เพื่อใช้เป็นที่พักอาศัยชั่วคราว ลูกเรือส่วนใหญ่ถือขวานกับเลื่อยเข้าป่าไปตัดไม้เอามาเพื่อซ่อมเรือ เสียงตอกตะปูกับกบไสไม้ดังครืดคราด ลูกเรือบางคนก็ร้องรำทำเพลงไปด้วยในขณะที่ซ่อมเรืออยู่ ทำให้บรรยากาศครื้นเครงไม่น่าเบื่อ
ลูกเรือที่เข้าป่าไปบางส่วนที่กลับมาพร้อมด้วยไม้ก็ไม่ได้เอามาเพียงไม้เท่านั้น บางคนยังอุตส่าห์ได้สัตว์ป่าประเภทเก้งกวางติดไม้ติดมือมาด้วย ทำให้ทั้งลำเรือพากันโห่ร้องอย่างดีใจ เพราะการได้สัตว์ป่ามาด้วยเช่นนี้ ย่อมหมายความว่าอาหารเย็นวันนี้จะได้กินเนื้อสดเป็นแน่
และเมนูยอดฮิตประจำชายหาดก็หนีไม่พ้นเนื้อย่างหอมฉุยฝีมือยอดกุ๊กประจำเรือ บาร์บีคิวปาร์ตี้นั่นเอง
เสียงน้ำมันจากเนื้อกวางที่ถูกเสียบเหล็กแหลมยาวย่างบนเตาหยดลงกองไฟ กับกลิ่นหอมจากเครื่องหมักเนื้อสูตรพิเศษของเจรี่ที่ส่งกลิ่นหอมไปทั่ว ทำให้ลูกเรือหลาย ๆ คนที่เพิ่งละจากการซ่อมเรือนั่งมองน้ำลายหก
“เอาล่ะ บาร์บีคิวกวางสูตรพิเศษของเจรี่เสร็จแล้วค่า~ !” เสียงยอดกุ๊กบอกเมื่อบาร์บีคิวกวางหลายไม้ถูกย่างจนสุกเรียบร้อย และเมื่อเอามาตั้งไว้ที่โต๊ะเล็กเท่านั้น เหล่าลูกเรือก็พากันพุ่งเข้ามาหยิบไปกินอย่างหิวโหย และก็ไม่ผิดหวังเลยแม้แต่น้อย เพราะรสเนื้อกวางย่างนั้นโอชาเลิศรส ความหวานมันของเนื้อกวางกับกลิ่นเครื่องหมักหอมกรุ่นฟุ้งไปทั่วปาก ทำเอาคนกินถึงกับเคลิ้มทีเดียว
“เอานี่ของหัวหน้ากับอเลนคุงจ้า~” เจรี่ว่าอย่างอารมณ์ดี พร้อมกับถาดบาร์บีคิวที่เยอะเป็นพิเศษมาเสิร์ฟให้กับคู่รักที่นั่งอยู่กับเก้าอี้ตัวใหญ่สุด แล้วตัวกุ๊กใหญ่เองก็ไปจัดการทำเพิ่มอีกเมื่อพบว่าที่เสิร์ฟให้กับพวกลูกเรือหมดเร็วเกินคาด
มือใหญ่หยิบไม้บาร์บีคิวกวางขึ้นมาสองไม้ แล้วส่งให้กับร่างเล็กที่รับไปกินก่อนจะเริ่มกัดเนื้อย่างบ้าง
“อร่อยจังเลยนะครับ” อเลนว่าพลางกัดสับปะรดที่ย่างจนหวานฉ่ำอย่างเอร็ดอร่อย ทำให้ร่างสูงละจากบาร์บีคิวที่กำลังกินอยู่ให้หันมามองก่อนจะอมยิ้มเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายมัวแต่เพลินกับรสชาติหวานของเนื้อกวางย่าง เลยทำให้ซอสหมักเลอะมุมปาก
เคยคิดว่าคนที่กินอาหารเลอะปากนั้นไม่น่าดู
แต่ให้ตายเถอะ...กับคนตรงหน้านี่ทำไมมันน่ารักแบบนี้นะ
ร่างกายไปก่อนความคิด ใบหน้าเคลื่อนเข้าไปใกล้ มือข้างหนึ่งจับใบหน้าหวานให้หันมามอง ดวงตาสีเงินเบิกมองอย่างประหลาดใจก่อนจะเบิกค้างเมื่อรู้สึกถึงลิ้นหนาที่ลิ้มเลียรสซอสหมักที่มุมปากของตัวเอง
“ยู !!!” อเลนร้องเสียงหลงเมื่อร่างสูงถอนใบหน้าออกไป แถมยังตวัดลิ้นเลียปากตัวเองอีกต่างหาก ไม่ได้สนใจใบหน้าที่ขับสีเลือดจนแดงก่ำแม้แต่น้อย
“อร่อยดีอย่างที่นายว่าจริง ๆ ด้วย” แล้วก็คว้าเจ้าตัวเล็กเข้ามากอดอย่างมันเขี้ยว โอบหัวไหล่เล็กเอาไว้ก่อนจะหันไปสนใจกับเนื้อย่างต่อ
“ทีหลังถ้ามันเลอะปากก็บอกผมก็ได้ ไม่ต้องเช็ดให้หรอกครับ !” อเลนว่าอย่างเขินอาย แต่พอจะระบายความเขินด้วยการกินบาร์บีคิวต่อก็ต้องคิดหนักว่าคราวนี้คงจะต้องกินให้ดี ไม่ให้เลอะอย่างเมื่อครู่อีก
ราวี่กับพวกลูกเรือก็ได้แต่กินบาร์บีคิวกันต่อไป โดยทำไม่รู้ไม่เห็นกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่ เพราะหนึ่งไม่อยากจะยุ่งเรื่องสามีภรรยา สองขืนยุ่งสิมีหวังได้โดนมุเก็นเชือดคอหมกป่าบนเกาะร้างนี้แน่ หรือไม่ก็โดนเชือดไปทำบาร์บีคิวแทนเนื้อกวาง แต่ไม่ว่าทางไหนก็สยองพองเกล้าทั้งนั้น
ไม่รู้ไม่ชี้ไม่สน...ดีที่สุด
.......
...
สองร่างโอบกอดกันมองพระจันทร์สีน้ำเงินบนฟ้า ตอนนี้ก็ตกดึกมากแล้ว พวกลูกเรือที่อิ่มหมีพลีมันกับบาร์บีคิวกวางก็คุยกันจอแจอยู่ที่บริเวณเรือ ไม่สนใจกับกัปตันเรือและเจ้าหญิงที่ปลีกวิเวกไปนั่งจี๋จ๋ากันที่อื่น ซึ่งก็ไกลจากรัศมีพวกกอขอคอพอสมควร
เสื่อที่เอาปูนั่งเล่นบนหาดทรายขาว รองรับร่างสองร่างที่กอดก่ายกันอย่างสบายใจ ดวงตาสองสีมองพระจันทร์สีสวยบนฟ้า สองหูได้ยินเสียงคลื่นที่ซัดทรายเข้าฝั่งก็จริง แต่เสียงหัวใจเต้นของกันและกันนั้นกลับได้ยินชัดกว่าเยอะ
“คืนนี้ก็พระจันทร์สีน้ำเงินอีกแล้วนะครับ” อเลนว่า “สวยจังเลย”
“ฉันก็ว่าอย่างนั้นเหมือนกัน” มือที่ลูบหัวไหล่เล็กเริ่มซุกซนของมันเอง เป็นเหตุให้บรรยากาศโรแมนติกชักจะเริ่มเอนไปทางอีโรติกทีละน้อย ร่างเล็กที่รู้สึกตัวรีบปราม
“ยู อย่านะครับ !” อเลนร้องห้าม
“ทำไมล่ะ เวลาอย่างนี้ บรรยากาศแบบนี้ แถมยังได้อยู่กันตามลำพังอีกต่างหาก” ริมฝีปากเริ่มทำงาน ขโมยจุ๊บแก้มใส ก่อนจะไล่จูบไปทั่วทั้งหน้า มือก็ทำหน้าที่ของมันได้ดีเยี่ยม ลูบไล้ควานสำรวจร่างเล็ก ๆ ในอ้อมแขนไปทั่ว
“อื้อ...ยู แต่ว่า...เดี๋ยวมีคนมาเห็นนะ” ร่างเล็กที่ถูกกระชากอารมณ์ให้คล้อยตามยังคงมีสติบาง ๆ ปรามไว้อีก แต่ก็ไม่ได้ทำให้คนปลุกเร้าอารมณ์รับฟังแต่อย่างใด
“ไม่มีหรอก ใครจะกล้ามาขัดฉันกับนายล่ะ” ร่างสูงกระซิบข้างหู ก่อนจะเริ่มขัดใจเมื่อร่างเล็กยังไม่ยอมหยุดดิ้น “ฉันยังไม่ได้ลงโทษนายที่ตบฉันเลยนะ แล้วยังเรื่องที่นายหนีจากฉันไปอีกด้วย”
“ก็มัน...” อเลนชักพูดไม่ออก เพราะคนตรงหน้าเริ่มหาเรื่องเอาเปรียบ
“ได้เวลาลงโทษเจ้าหญิงแล้ว” ร่างสูงว่าก่อนจะเริ่มปฏิบัติหน้าที่ทันที จับร่างเล็กเอนหลังลงไปนอนกับเสื่อ ก่อนจะพรมจูบไปทั่วทั้งตัว โดยคนโดนลงโทษไม่อาจต่อต้านได้เพราะยังไงก็สู้แรงไม่ได้อยู่แล้ว ยิ่งสติถูกทำลายไปแล้วด้วยแบบนี้...
ได้แต่ปล่อยให้ร่างสูงปรนเปรอไปตามอำเภอใจ จนความรักส่งเสียงร้องครางระงมอยู่ภายใต้ศรกามเทพบนฟ้าที่ชื่อบลูมูนคิวปิด
.......
...
เจ้าของเส้นผมสีส้มที่เผ่นป่าราบออกมาจากพื้นที่อันตราย เนื่องจากกะว่าจะไปเดินเล่นย่อยอาหารเสียหน่อย ดันไปจ๊ะเอ๋เอากับคู่สมรสที่กำลังฮันนีมูนกันเสียได้ ดีที่ซิ่งออกมาทันก่อนที่จะได้ดูหนังสด ไม่งั้นมีหวังได้นอนจมกองเลือดตายแน่
“เจ้าเพื่อนบ้าเอ๊ย ! ทำอะไรไม่ยอมดูสถานที่เอาซะเล้ย !!” บ่นพึมพำอยู่คนเดียวในซุ้มกอปอปิรุสที่สูงขึ้นมาจากพื้นจนแทบจะปิดตัวเองมิด นี่ถ้าเล่นซ่อนหาอยู่ล่ะก็ หลบในนี้ได้สบาย ๆ เลยเชียวล่ะ ใบหน้าแดงเรื่อของต้นหนเรือเพราะวิ่งหนีฉากที่ไม่สมควรดูกับความเขินอายแทนคู่สมรสนั่น
เพราะมัวแต่หอบกับบ่นพึมพำ ๆ เลยไม่ทันรู้ตัวว่ามีมือปริศนายื่นออกมาจากกอปอปิรุส มือนั้นใกล้เข้ามาทุกที ๆ อย่างเชื่องช้าจากด้านหลัง
“เฮ้ย ! อุ๊บ !!!” กว่าจะรู้ตัวก็โดนมือปริศนาปิดปากหมับก่อนจะโดนลากเข้าไปในกอด้วยกัน ดิ้นรนขัดขืนไปสักครู่ก่อนจะศอกใส่เจ้าคนข้างหลังดังพลั่กจนปล่อยมือจนได้
“อู้ย...เจ็บนะครับคุณต้นหนเรือ” เสียงทุ้มบอกพลางจับเสื้อคนตรงหน้าไว้ก่อน ส่วนอีกมือก็กุมท้องตัวเองที่โดนศอกเข้าไปเต็ม ๆ ดวงตาสีมรกตหันมามองขวับก่อนจะเบิกค้างอย่างตกใจ
“เหวอ !!! เจ้าชายทิกี้ !!! อุ๊ !!!???” ปากโดนปิดอีกครั้งด้วยฝ่ามือแกร่ง แต่เพราะไม่ทันตั้งตัวกันทั้งสองฝ่ายเลยเป็นอันได้ล้มไปทั้งคู่ ยิ่งทำให้ต้นหนเรือต้องผวามากกว่าเก่าเพราะโดนเจ้าชายแห่งดาร์กแลนด์คร่อมเอาไว้นี่สิ
“อย่าเอะอะไปสิครับ แหม...ไม่นึกเลยนะครับว่าจะบังเอิญได้มาเจอกันน่ะ” ร่างสูงแสยะยิ้มอย่างไม่น่าไว้ใจ
“นาย !! นี่คิดจะมาแย่งอเลนไปอีกรึไง !!??”
“เปล่านะครับ ผมอุตส่าห์ล่องเรือมาเรื่อยเปื่อยแถวนี้กะจะมาทำใจเรื่องงานแต่งงานคราวนั้น แต่จะว่าไปความคิดของคุณต้นหนก็ไม่เลวนะนี่” ว่าแล้วก็เงยหน้าขึ้นไปมองทางที่เจ้าหญิงผู้เป็นที่รักอยู่อย่างเจ้าเล่ห์
“นายอยากโดนฆ่ารึไง !!”
“ผมไม่กลัวตายหรอกนะครับ แต่ช่างเถอะ...ผมเองก็ไม่อยากจะบังคับฝืนใจเจ้าหญิงอีกแล้วล่ะ” ว่าแล้วก็หันมาสนใจคนที่อยู่ใต้ร่างของตัวเอง มือใหญ่จับคางเชยขึ้นมามองอย่างพิจารณา “ดู ๆ ไปคุณก็น่ารักดีนะ”
“คิดอะไรของนายอยู่ ??!!!” ราวี่ชักรู้สึกไม่ดี
“แหม...ไหน ๆ ก็พลาดเป้าหมายไปแล้ว ก็คว้าที่อยู่ใกล้ ๆ ก็ไม่เลวหรอกนะครับ” แล้วต้นหนเรือก็ต้องสะดุ้งโหยง เมื่อริมฝีปากร้อนได้ประทับลงมาที่ใบหน้า
“ไอ้ !!!! อื้อ !!!!” จะโวยวายร้องประท้วงก็โดนจูบปิดปากเสียได้ ลิ้นร้อนบุกรุกเข้ามาดูดเอาความหวานในโพรงปากไปอย่างร้อนแรง แถมยังโดนอีกฝ่ายรุกรานตวัดแลกลิ้นอีกต่างหาก จะหนีก็หนีไม่รอดเพราะพื้นที่จำกัดเอาไว้ เลยโดนล่าเสียจนหายใจจะไม่ออก
เมื่อถอนใบหน้าออกไปก็เห็นอีกฝ่ายที่กำลังหอบหาบใจอยู่ ใบหน้าของต้นหนเรือยามนี้แดงขับสีเลือด ทำให้ใบหน้าคมดูน่ารัก เจ้าชายแห่งดาร์กแลนด์พิจารณาใจในอย่างละเอียด
ทำไมถึงไม่สังเกตนะ ว่าคน ๆ นี้ที่จริงก็น่ารักไม่เบา
“น่ารักจริงนะครับ ราวี่” เอ่ยข้างหูก่อนจะเริ่มปลดดุมเสื้ออีกฝ่ายช้า ๆ ราวี่ที่ได้สติรีบห้ามทันที
“จะบ้าเรอะ ฉันไม่ใช่อเลนนะเฟ้ย ไม่ใช่ตัวแทนด้วย !!!”
“ก็ไม่ได้ให้เป็นตัวแทนใครนี่ครับ” ทิกี้ยังคงพูดด้วยน้ำเสียงเรียบ ก่อนจะเอื้อมมือไปลูบใบหน้าเบา ๆ “ก็บอกแล้วไงว่าผมมาที่นี่เพื่อทำใจ จะหาคนมาดามใจก็ไม่เห็นแปลกไม่ใช่เหรอครับ”
“อย่างนายคงมีแต่ความใคร่น่ะสิ !!” ราวี่ตวาด ก่อนจะพยายามดันตัวเองออกห่าง แต่ก็โดนอีกฝ่ายจับเอาไว้จนอยู่หมัด หนีไปไหนไม่รอด
“ความรักก็มีนะครับ เพียงแค่เมื่อก่อนมัวแต่หลงใหล ‘เดือน’ เลยลืมมอง ‘ดาว’ ที่อยู่ข้าง ๆ ไปก็เท่านั้นเอง” ดวงตาสีอำพันมีแววเจ็บปวดขึ้นมาวูบหนึ่ง ก่อนจะรีบกลบเกลื่อนอย่างรวดเร็ว
“นายจะพูดอะไรกันแน่ ??” ราวี่ชักงง
“ยามราตรีบางคืน มีเพียงเดือนที่ฉายแสงโดยไร้ดาว ทำให้คืนนั้นท้องฟ้าดูเย็นเยียบและแสนเศร้า แม้จะสวยงามก็ตามที...” เจ้าชายเริ่มออกคารม “แต่บางคืน มีเพียงดาวที่ส่องแสงแต่ไร้เดือน กลับดูสดใสมากกว่าคืนที่มีเดือนแต่ไร้ดาว”
“นายคิดอะไรของนายกันแน่ ???!!! จะพูดอะไรก็รีบพูด ไม่ต้องมายืดเยื้อให้เสียเวลา” ราวี่เริ่มว้าก ไอ้คนตรงหน้าไม่รู้มันจะมามุขไหนอีก ถึงได้อารัมภบทซะซึ้ง
“บางที...ความรู้สึกของผมที่มีให้อเลนอาจจะแค่หลงใหลก็ได้ไงครับ อีกอย่างหนึ่ง...นี่ยังไม่เข้าใจอีกเหรอครับว่าผมหมายความว่าไง หือ ?” ริมฝีปากร้อนก้มลงไปจูบเบา ๆ ที่หน้าผาก ทำให้คนไม่ชอบคารมคำคายชักเคลิ้มตาม แต่ยังไงอีกฝ่ายก็เคยทำร้ายเขาจนเกือบตายไอ้จะให้มาเคลิ้มตามนี่ก็หวาดเสียวจะถูกเชือดยังไง ๆ อยู่
“จะบอกว่าชอบฉันนี่นะ ? อย่ามาเล่นมุขซะให้ยากเลย !”
“งั้นไม่เล่นก็ได้” ร่างสูงละออกไป ทำให้ราวี่ลอบถอนใจอย่างโล่งอก แต่ก็เพียงพริบตาเดียวเท่านั้น อีกฝ่ายก็จับเขากดลงไปกับพื้นหญ้าทันที มือใหญ่เริ่มไปยุ่งกับกางเกงเสียแล้ว
“ไอ้บ้านี่ ! ไหนว่าไม่ไงล่ะ ??!!”
“ผมบอกว่าไม่เล่น แต่ผมจะทำจริงเลยต่างหากล่ะครับ” ยังมายิ้มกริ่มอีก แถมพอจะโวยวายก็โดนขโมยจูบอีกรอบ คราวนี้ไม่มีคำว่าปรานีกันแม้แต่น้อย เล่นรุกไล่ล่าจนหนีไม่รอด แถมยังบดขยี้หนักดูดเอาทุกอย่างไปจนหมด มือก็รุกรานสำรวจร่างกายไปทั่วจนรู้สึกเสียวซ่านขึ้นมา
“อื้อ !! ปละ... อู้ !!!” ได้แต่ร้องอู้อี้ในลำคอ ก่อนจะโดนอีกฝ่ายเอาผ้าเช็ดหน้าขึ้นมามัดปิดปากเอาไว้ แล้วริมฝีปากหนาก็ไล่ลงมาที่แผ่นอกกว้างซึ่งจัดการปลดเสื้อออกไปแล้ว ปลายลิ้นตวัดไล่โลมเลียเจ้าแต้มหมุดอย่างกระหาย แถมขบกัดจนทั้งตัวสะดุ้งขึ้นมา
“อ๊ะ ! ขอโทษครับ เผลอกัดแรงไปหน่อย” ว่าแล้วก็รีบเลียปลอบใจทันที ราวี่ที่เริ่มดิ้นหนีทุบหัวไหล่คนเอาเปรียบทันทีจนดังพลั่ก แต่กลับไม่แรงพอที่จะทำให้อีกฝ่ายสะเทือนได้นอกจากแค่สร้างเสียงเท่านั้น
เหลือบไปมองก็พลันรู้สึกขัดใจ เลยจัดการปลดริบบิ้นที่ผูกคอเสื้อตัวเองออกมามัดข้อมือทั้งสองข้างไว้เหนือศีรษะ เมื่อกำจัดปัญหาได้แล้วก็เริ่มทำหน้าที่ต่อไป กางเกงถูกกำจัดไปให้พ้นทางพร้อมกับปราการตัวจิ๋ว มือใหญ่คว้าหมับสิ่งที่ถูกปิดซ่อนไว้ทันที เสียงร้องอู้อี้ดังขึ้นประท้วงพร้อมดวงตาสีเขียวที่ขุ่นเคือง
ร่างสูงเพียงแค่ยิ้มกริ่ม ก่อนจะเริ่มสั่งการให้มือทำงานทันที ขยับขึ้นลงตามความยาวของเจ้าของที่อยู่ในมือ ทำให้เสียงประท้วงในคอดังขึ้นมาไม่ขาดสาย อยากจะเอาผ้าปิดปากออกอยู่เหมือนกัน เพื่อจะได้ฟังเสียงครวญคราง แต่ก็กลัวว่าจะดังไปจนทำให้คนอื่น ๆ เอะใจได้
มือที่ทำงานถี่ขึ้นจนรัวเร็วเร่งให้ความร้อนในร่างกายของราวี่ทวีตามไปด้วย ยิ่งอีกฝ่ายเร่งเร็วเพียงใด ตัวเขาเองก็แทบจะระเบิดด้วยความคุกรุ่นภายใน จะร้องระบายก็ทำไม่ได้ ได้แต่บิดตัวพยายามหนีเท่านั้น
“อื้ออออ !!!!” เสียงร้องลากยาวเมื่อในที่สุดความอึดอัดก็ถูกปลดปล่อยจนโล่ง ความร้อนในร่างกายถูกระเบิดออกมาในสภาพของเหลวขาวขุ่นเต็มมือของทิกี้ ซึ่งก็พออกพอใจไม่น้อยทีเดียว
“รสชาติดีนะครับ” ทิกี้ว่าหลังจากลองลิ้มเลียดู ส่วนราวี่ทีอายจนไม่กล้ามองหน้าก็หันหน้าหนีไปอีกทาง ตอนนี้ถ้าจะหนีก็คงจะไม่รอดอีกแล้วเพราะหมดแรงไปเรียบร้อย
“คราวนี้ตาผมบ้างนะครับ” ก้มหน้าลงกระซิบข้างหูก่อนจะจัดการตัวเองบ้าง กางเกงถูกดึงลงจนเห็นแกนกายที่ผงาดขึ้นมาด้วยแรงอารมณ์ ทำให้ราวี่ที่เห็นเข้าถึงกับกลืนน้ำลายไม่ลงคอ เจ้านั้นขนาดไม่ใช่เล็ก ๆ ถ้าเกิดเข้ามาล่ะก็มีหวังเขาได้แหลกเป็นชิ้น ๆ แน่
“จะเข้าไปแล้วนะ” กระซิบบอกอีกครั้งก่อนขยับตัวเข้าไปใกล้ ค่อย ๆ สอดใส่ดันตัวเองเข้ามาทีละน้อย ร่างต้นหนเรือสะดุ้งขึ้นมาเมื่อตอนนี้ทุกอย่างมันแนบแน่นไปหมด หยาดน้ำตาเริ่มไหลออกมาจากดวงตาสีอัญมณีด้วยความเจ็บ มือของทิกี้ก็ยื่นมาซับน้ำตาให้อย่างแผ่วเบาก่อนจะเริ่มขยับตัว
การกระทำอย่างช่ำชองกับความเร็วที่เพิ่มทีละน้อย ไม่ได้ทำให้คนได้รับสัมผัสรู้สึกดีขึ้นเลย ยิ่งเสียงที่อยากจะกรีดร้องให้ดังลั่นก็ถูกปิดทางเอาไว้ ทำให้ความอัดอั้นมากกว่าเดิมเป็นเท่าตัว ความร้อนและความตึงแน่นยิ่งทวีความเจ็บปวดให้มากกว่าเดิม แต่ไม่นานนักก็เริ่มที่จะชิน ร่างกายปรับสภาพเข้าหาจนเผลอตัวขยับสะโพกตามจังหวะ
ทั้ง ๆ ที่ห้ามตัวเองเอาไว้ว่าอย่าเผลอไผลตามคนตรงหน้า แต่ความหฤหรรษ์ที่ได้รับกลับทำให้สติทุกส่วนกระเจิดกระเจิง ร่างกายร้อนไปหมด ร้อนไปทั้งตัวตั้งแต่หัวจรดเท้า
“รักนะครับ ราวี่” เสียงร่างสูงที่แหบพร่ากระซิบข้างหู ทำเอาความรู้สึกหลากหลายถาโถมโจมตีต้นหนเรือจนแทบทนไม่ไหว เคยเคืองคน ๆ นี้ที่คิดจะทำร้ายเพื่อนของเขา เคยโกรธแค้นยามที่มันเยาะเย้ยกัปตันเรือที่พรากอเลนไปได้ แต่คำพูดเพียงไม่กี่คำกลับดูเหมือนจะไปทำให้ความคิดเหล่านี้หยุดชะงักลง
ในที่สุดความร้อนรุ่มที่สุมอยู่ในร่างกายของสองคนก็ได้รับการปลดปล่อยออกมา เสียงร้องสูดปากเป็นของเจ้าชายแห่งดาร์กแลนด์ที่ถอนตัวออกมา คราบเลือดกับคราบขาวขุ่นที่เปรอะทั้งตัวเขาและต้นหนเรือทำให้พึงพอใจไม่น้อย พลันหันกลับไปมองคนที่ปลดปล่อยออกมาอีกครั้งก็เอื้อมมือไปดึงผ้าปิดปากออกให้อย่างสงสาร
“เจ็บมั้ยครับ ?”
“ลองมาเป็นฉันดูเองสิ ไอ้บ้า !!!” ราวี่ตวาดลั่นปนหอบ ตอนนี้เขาหมดแรงแม้แต่จะขยับตัวด้วยซ้ำไป ไอ้บ้าตรงหน้าก็ยังจะมายิ้มกริ่มอยู่ได้
“โอ้โห ถ้ามีแรงว่าผมได้แบบนี้คงไม่ต้องห่วงเลยมั้งเนี้ย” ว่าแล้วก็หยิบเอาเสื้อผ้าของอีกฝ่ายขึ้นมาจัดการสวมใส่คืนให้ โดยไม่ลืมเช็ดล้างคราบหลักฐานให้ด้วยจนกระทั่งเรียบร้อยรวมทั้งตัวของเขาเองด้วย
“เฮ้ย ! คิดจะทำอะไร !!” ราวี่ว้ากเมื่ออีกฝ่ายจัดการอุ้มเขาขึ้นมา
“ก็พาต้นหนเรือกลับไปรวมกลุ่มกับเพื่อนไงครับ ไม่ต้องห่วงหรอกครับจะเอาไปส่งให้ถึงห้องเลยล่ะ รับรองไม่มีใครเห็น”
แล้วก็ทำได้อย่างที่พูด ร่างสูงใหญ่ของชายผิวเข้มที่ไม่รู้ใช้วิชาตัวเบาหรืออย่างไร เผลอเพียงพริบตาเดียวก็พาเขากลับขึ้นมาบนเรือที่ซ่อมเสร็จแล้วได้อย่างรวดเร็ว แถมยังนำทางส่งกลับไปที่ห้องของเขาได้อีกต่างหาก
พอวางต้นหนเรือลงกับเตียงเรียบร้อย ก็หยิบเอาแหวนสีนิลอันหนึ่งขึ้นมา ราวี่จำได้ว่ามันคือเพชรดาร์กมาเธอร์ที่ครั้งหนึ่งคนตรงหน้าเคยเอาให้อเลนในวันแต่งงาน มือสีเข้มหยิบมันส่งให้ราวี่
“อะไร !!”
“ของหมั้นครับ อันนี้ไม่ใช่แหวนแต่งงานวงนั้นหรอกนะครับ วงนี้ผมสั่งทำขึ้นอีกวงหนึ่ง ผมให้ราวี่ละกัน” ว่าแล้วก็หยิบมันยัดใส่มือให้ทันที “เดี๋ยวผมต้องไปแล้ว ขืนอยู่ที่นี่นานไปเดี๋ยวคุณกัปตันเรืออารมณ์ร้ายนั่นจะไล่ฆ่าผมอีก”
พอจะเดินออกจากห้องไป ก็แวะกลับมาอีกครั้ง ให้ราวี่มองตามอย่างงง ๆ ก่อนจะแทบร้องเสียงหลงเมื่ออีกฝ่ายดันเข้ามาขโมยจูบไปดื้อ ๆ
“รักราวี่นะครับ เอาไว้วันไหนได้มีโอกาสเจอกันอีกก็จะแวะมาหานะครับ บาย” ว่าแล้วก็สลายตัวไปอย่างรวดเร็วราวกับเงา ให้ราวี่ได้แต่นั่งเอ๋ออยู่คนเดียว
โดนทำอย่างนั้นไป แทนที่จะโกรธแล้วอาละวาดให้สมกับที่โดนย่ำยี...
แต่แปลก...ที่เหมือนจะไม่ได้โกรธอะไรมากมายนัก
แถมหัวใจยังเต้นไม่เป็นจังหวะอีกต่างหาก
ไอ้บ้าทิกี้...
นี่นายมาทำอะไรไว้กับฉันน่ะ หา !
ทำไมนายถึงได้ปั่นป่วนฉันได้ขนาดนี้...
นายก็บ้า ราวี่...
บ้าที่ไปหลงเคลิ้มตามคนแบบนั้น
แล้วจะโทษใครได้ นอกจากหัวใจเจ้ากรรมนี่แหละ
พลันก้มลงไปมองแหวนดาร์กมาเธอร์ในมือ หัวใจก็เต้นไม่เป็นส่ำ ใบหน้าเริ่มออกสีแดงเรื่อแถมยังร้อนผ่าวอีกต่างหาก ใบหน้าของคนที่เพิ่งจะจากไปก็ปรากฏขึ้นมาในมโนภาพอีกครั้งอย่างไม่ได้ตั้งใจ
และแล้ว...บลูมูนคิวปิดก็แผลงศรใส่อีกคู่หนึ่งจนได้
*-----*-----*-----*-----*-----* THE END *-----*-----*-----*-----*-----*
ความคิดเห็น
นิดว่าจะไม่มีคู่นี้ซะแล้ว
ดีจังเลยชอบมากมายค่า>////<
หนุกมากเลยค่า คู่นี้ต้องมีคู่กับดะเลน^^ถึงจะชอบมาก
กรี๊ดดดดดดด!!!!~ อ่านไปหื่นไป แฮ่ๆๆ ขออีกๆ
หนุกมากกกกกกก
สุดยอด
มีดะเลนก็ต้องมีกี้วี่
น่ารักที่สุดเลยยยย >w<
กี้บี้นี่ดีที่สุดจริงๆ!!!
ดะเลน-กี้บี้ น่ารักกกกกกกกก >/////<
อยากให้มีภาคพิเศษต่ออ่ะ จะได้ว่าคู่นี้จะรอดไหม ^^~
//อ๊ากเลือดเต็มจอ มองไม่เหนนนนน