ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เล่ห์หวานรัก

    ลำดับตอนที่ #2 : บทนำ (2)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 10.68K
      47
      2 มี.ค. 64



                    “ฉันรู้ว่าแผลคุณ แต่ฉันหมายถึงคุณต้องทำแผล”

                    “ใช่ ต้องทำแผล...แต่ไม่จำเป็นต้องหาหมอ” ตอบพลางมองไปรอบตัวอย่างระแวดระวังอีกครั้ง

                    ท่าทางหวาดระแวงของเขาทำให้อนินทิตายิ่งสงสัยว่าเขากำลังหนีอะไรกันแน่ เพราะเท่าที่เจอกันครั้งสุดท้ายเขาก็ดูปกติดี หรือว่าไปทำเรื่องที่ไหนมาอีก แล้วทำไมมาโผล่ที่นี่ มีคำถามมากมายที่เธออยากได้คำตอบ แต่ไม่ทันได้ถามเพราะรู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่จ่อที่เอวของเธอ

                    ให้ตายเถอะ...เขามีปืนด้วยหรือนี่!

                    “และคนที่ต้องทำแผลให้ผม...ก็คุณไง อนินทิตา โรซาเลส!

     

    อนินทิตาถึงกับชะงัก ไม่คิดว่าเขาจะรู้ทั้งชื่อและนามสกุลของเธอ แต่คงเพราะมัวตะลึงนานไปหน่อย เธอไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่าถูกเขาลากถูลู่ถูกังเข้ามาในบ้านตั้งแต่เมื่อไร กว่าจะรู้ตัว...ทั่วทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ มีเพียงเสียงลมหายใจหนักๆ ของคนที่กำลังขบฟันอดทนต่อความเจ็บปวดที่บาดแผลเท่านั้น ทั้งที่เป็นช่วงปีใหม่ที่อากาศค่อนข้างเย็น ทว่าหนุ่มสาวที่นั่งอยู่ด้วยกันบนเดย์เบดในห้องนั่งเล่นกลับมีอาการเหงื่อตกด้วยกันทั้งคู่

                    หนุ่มสาวนั่งเผชิญหน้ากันท่ามกลางบรรยากาศตึงเครียดภายในห้อง อนินทิตาจ้องมองผู้ชายตรงหน้าอย่างเอาเป็นเอาตาย เธอสงสัยตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกันแล้ว เขาดูประหลาดหลุดโลกมากๆ แต่พอเจอกันครั้งที่สอง เขาก็มาพร้อมกับเลือด กระสุน คนตามล่า ทั้งยังชักปืนขู่เธออีก

                    ราม รามิเรซ...เขาเป็นใครกันแน่

                    สายตาเต็มไปด้วยความหวาดระแวงของสาวตรงหน้ายิ่งทำให้รามโมโห เขาเจ็บจะตาย เลือดไหลจะหมดตัวอยู่แล้ว แต่แม่คุณยังเอาแต่จ้องอยู่ได้

                    “ทำแผลให้ผมสิ” หนุ่มมาดเข้มออกคำสั่ง

                    “คุณหนีอะไรมากันแน่ราม” เจ้าของบ้านถามเสียงเครียด ดวงตากลมโตหรี่แคบลง มองเขาราวกับจะพิจารณาไปให้ถึงสิ่งที่ซ่อนอยู่ในใจ

                    ชายแปลกหน้ายิ้มเล็กน้อย เขาไม่ตอบ แต่กลับยกปืนขู่เธอเสียอย่างนั้น จนอนินทิตาชะงัก ถ้าเป็นเวลาอื่นเธอคงไม่กลัว แต่นี่ดึกแล้ว ทั้งบ้านเหลือแค่เธอกับเขา ทั้งยังปิดประตูหน้าต่างเสียมิดชิด สู้ไปก็ตายเปล่า จึงจำต้องทำตามที่เขาสั่งแต่โดยดี

                    “หันหลังสิ ฉันจะถอดเสื้อให้” หญิงสาวบอกเสียงดุ ถ้าคิดหาทางหนีทีไล่ ก็ต้องกำจัดสายตาที่จ้องมองมานี่เสียก่อน

                    “ไม่ละ ผมกลัวถูก แทงข้างหลัง “เขาบอกยิ้มๆ แต่เป็นรอยยิ้มกวนประสาทที่ดูแล้วน่าซ้ำมากกว่าน่าให้ความช่วยเหลือเสียเหลือเกินในความคิดของอนินทิตา

                    หญิงสาวถอนหายใจ แต่ก็ขยับเข้าไปใกล้คนเจ็บที่ก็ขยับเข้ามาเช่นกัน เธอก้มลงมองเสื้อสีทึมๆ ที่เขาสวมแล้วเงยหน้าขึ้นสบตากับเขาเล็กน้อย จากนั้นจึงถอดเสื้อเขาออกสำรวจบาดแผลที่ต้นแขนของชายหนุ่ม ก็พบว่าแผลมีผิวหน้าเรียบเสมอกันเหมือนรอยบาดจากของมีคม ถ้าไปโรงพยาบาลก็คงต้องเย็บ

                    แต่น่าแปลก...ก่อนหน้านี้เธอได้ยินเสียงปืน แล้วรามก็มานอนเจ็บอยู่หน้าบ้านของเธอ เขาคือผู้ชายคนเดียวกับที่วิ่งตัดหน้ารถเธอไม่ผิดแน่ แต่ถูกยิงไม่ควรมีแผลแบบนี้ไม่ใช่หรือ

                    “คุณไปโดนอะไรมา” เธอถามเสียงดุ

                    “แล้วคิดว่าอะไรล่ะ” รามยังโยกโย้ ทั้งยังเป็นฝ่ายตั้งคำถามกลับเสียอย่างนั้น

                    “ฉันได้ยินเสียงปืน คุณวิ่งตัดหน้ารถฉัน ฉันคิดว่าคุณจะโดนยิงเสียอีก”

                    “ก็นี่ไง...ที่โดนยิงน่ะ” เขาตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อย ไม่ทุกข์ร้อนเลยสักนิด ทั้งที่เพิ่งบอกว่าตัวเองโดนยิงเนี่ยนะ

                    อนินทิตากำลังจะอ้าปากเถียง แต่พอเห็นตาวาววับของเขา ไหนจะปืนในมือนั่นอีก เอเถอะ...โดนยิงก็โดนยิง เธอขี้เกียจเถียงกับคนเพี้ยนๆ อย่างเขาแล้ว

                    “แผลลึกคงต้องเย็บ” เธอบอกเสียงหวาน

                    “คุณก็ทำสิ”

                    “ฉันไม่ใช่หมอ  ฉันทำไม่ได้“ อนินทิตาบอกปัด ไม่ใช่ว่าเธอทำไม่ได้ แต่เธอจะไว้ใจให้คนที่วิ่งหนีลูกปืนมาอยู่ในบ้านของเธอได้อย่างไร

                    “คุณทำได้” เขายิ้มเจ้าเล่ห์ ทำเหมือนจะใจดี แต่กลับจ่อปืนมาทางเธออีกแล้ว

                    สาวเจ้าของบ้านถอนหายใจแล้วบอกเสียงเรียบ “ถ้าเจ็บมากๆ อย่าบ่นก็แล้วกัน”

                    “ไม่บ่นหรอก”

                    คำตอบของเขาทำให้เธอต้องเงยหน้าแล้วเลิกคิ้วมองเขาด้วยสายตาเต็มไปด้วยความกังขา

                    “ยิงทิ้งเลยง่ายกว่า” รามตอบเสียงนุ่มทั้งยังยิ้มหวาน ทว่ายกปืนขึ้นใส่หน้าเธอเสียอย่างนั้น


                    รอยยิ้มเจ้าเล่ห์บนใบหน้าคมเข้มชื้นเหงื่อดูแล้วเหมือนคนบ้าโรคจิตที่อาจจะควบคุมตัวเองไม่ได้ในชั่วเวลาเสี้ยววินาที และไม่ว่าจะเป็นแค่คำขู่หรือไม่ แต่ลูกปืนตัดสินใจเองไม่ได้ เธอไม่เสี่ยงให้รามคลุ้มคลั่งแล้วพลั้งมือลั่นไก เกิดหนเดียวตายหนเดียว ถ้าจะตายจริงๆ ขอตายแบบสภาพดูดีหน่อย อย่างเช่นการได้สวมชุดของเวอร์ซาเชคอลเล็กชันใหม่ล่าสุดพร้อมนั่งจิบไวน์สวยๆ ก่อนตายดีกว่า

                    อนินทิตาถอนหายใจเล็กน้อยแล้วบอกห้วนๆ “ไม่มียาชาหรอกนะ”

                    “ตามสบายเลยครับคุณผู้หญิง” คนเจ็บยังมีอารมณ์กวนประสาททั้งที่กำลังขบฟันกลั้นความเจ็บปวดจากบาดแผล

                    สาวเจ้าของบ้านหันไปหยิบกล่องปฐมพยาบาล เธอสบตาเขาเล็กน้อยเผื่อว่าเขาจะเปลี่ยนใจ แต่รามกลับเบนหน้าไปอีกทางทั้งที่ยังถือปืนจ่อเธอเนี่ยนะ เกิดเขาทนเจ็บไม่ไหวแล้วลั่นไกใส่เธอล่ะ ตายทั้งเลือดเปื้อนเปรอะเสื้อผ้าไปทั่ว...ไม่สวยเลย!

                    “วางปืนก่อนได้ไหมคุณ”

                    รามลังเลเล็กน้อย แต่ก็ขึ้นเซฟแล้ววางลงบนโต๊ะเตี้ยตรงหน้า

                    “ฉันจะทำแผลแล้วนะ อดทนหน่อยแล้วกัน”

                    อนินทิตารอให้คนเจ็บพยักหน้าแล้วจึงเริ่มลงมือ แม้ไม่ใช่หมอหรือพยาบาล แต่เพราะทำงานเกี่ยวกับอาชญากรมาตลอดทำให้เธอพอทำแผลได้ เย็บแผลได้ เธอไม่กลัวเลือด แต่กลัวคนมากกว่า ดูอย่างรามนี่ปะไร อยู่ๆ ก็หนีความตายมานอนแบ็บอยู่หน้าบ้านเธอ แล้วตอนนี้ยังมายกปืนขู่เธออีกด้วย

                    “คุณดูชำนาญมากเลยนะ ทำงานอะไรล่ะ” เจ้าของเสียงเข้มถาม

                    พยาบาลจำเป็นชะงักมือที่กำลังทำความสะอาดรอบปากแผลแล้วเงยหน้าขึ้นสบตาเขา เธอไม่ตอบ แล้วก้มหน้าลงไปทำแผลต่อ

                    “เป็นหมอ หรือพยาบาลล่ะ”

                    “นักจิตวิทยา” เธอตอบสั้นๆ

    “นักจิตวิทยาหรือ...น่าสน งั้นบอกได้ไหมว่าดูแล้วผมเป็นคนยังไง”

                    “นักจิตวิทยาไม่ใช่หมอดู” เธอตัดบท ทั้งที่รู้ดีว่าควรจะคุยเป็นเพื่อนเขา รามกำลังพยายามชวนคุยเบี่ยงเบนความเจ็บ แต่...ก็สมน้ำหน้าแล้วเจ็บต่อไปเถอะ

                    อนินทิตาลอบยิ้ม ยิ่งเห็นรามกำลังกัดฟันแน่นแล้วเบนหน้าไปอีกทางเหมือนกำลังกลัวเลือดตัวเองก็ยิ่งสะใจนิดๆ จึงไม่เบามือเลยสักนิด ทำเอาคนเจ็บเกร็งจนสั่นไปทั้งตัว

                    “เสร็จแล้ว” พยาบาลจำเป็นบอกหลังจากทำแผลเสร็จเรียบร้อย

                    รามถอนหายใจยาว ทิ้งตัวนอนพิงเดย์เบดแล้วหลับตาลง ใบหน้าของหนุ่มลูกครึ่งอเมริกัน-อินเดียซีดขาวบ่งบอกถึงความเหนื่อยอ่อน

                    “คุณควรออกไปจากบ้านฉันได้แล้ว” เจ้าของบ้านออกปากไล่ คนอันตรายอย่างนี้สมควรให้อยู่ที่บ้านเสียที่ไหน

                    “คุณใจดำขนาดนั้นเชียว”

                    “เราไม่รู้จักกันเสียหน่อย”

                    “ก่อนหน้านี้คุณก็เรียกชื่อผมถูกนี่” เขาย้อนทั้งที่ยังนอนหลับตา

                    อนินทิตาชะงักไปเล็กน้อย ไม่คิดว่าเขาจะทันสังเกตที่เธอเรียกชื่อเขา และที่สำคัญเขาก็เรียกชื่อเธอเต็มปากเต็มคำด้วย เธอไม่แปลกใจที่เขารู้จักเธอ ถ้าเคยเจอกันจังๆ แบบนั้นแต่ทำเป็นไม่รู้จัก...แบบนี้สิแปลก

                    สาวเจ้าของบ้านมองผู้ชายแปลกประหลาดตรงหน้าอย่างพิจารณา รามนอนนิ่ง แผงอกกว้างกำยำผิดจากที่คิดกำลังสะท้อนขึ้นลงเป็นจังหวะสม่ำเสมอ ราวกับว่าเขาหลับไปแล้ว เธอจึงขยับเข้าไปใกล้ๆ แล้งชะโงกหน้าไปมองอย่างระมัดระวัง

                    ตั้งแต่วันที่เดินสวนกันที่ลิฟต์บนชั้นผู้บริหารที่อะลอนโซ ทาวเวอร์ก็ผ่านไปหลายเดือนแล้ว แต่รามก็ยังเหมือนเดิมทุกอย่าง ใบหน้าคมเข้มแบบลูกครึ่ง ผมหยักศกยาวที่เคยไว้ยาวอย่างไรก็อย่างนั้น ไหนจะหนวดเครานี่ก็อีก ปกติแล้วอนินทิตาไม่ใช่คนประเภทตัดสินใจที่รูปลักษณ์ภายนอก แต่กับรามนี่ทำให้เธอหวาดระแวงได้ตลอดเวลาจริงๆ

                    “มีปัญหาอะไรหรือเปล่าคุณโรซาเลส”

    จู่ๆ คนที่นอนหลับตาก็พูดขึ้น ทำเอาคนที่แอบมองอยู่นานถึงกับสะดุ้ง...เขารู้ได้อย่างไร

                    “ฉันแค่...” เจ้าของเสียงหวานอึกอักเล็กน้อย “ฉันแค่จะดูว่าคุณเป็นยังไงบ้าง”

                    “ยังไม่ตาย”

                    “แต่คุณจะมาตายในบ้านฉันไม่ได้”

                    “ผมยังไม่มีแผนจะตายตอนนี้” คนเจ็บตอบกวนๆ และ...นอนต่อ

                    เจ้าของบ้านขึงตามองผู้บุกรุกด้วยสายตาเหลือเชื่อ คนอะไรหน้าด้านระดับสิบ รู้จักกันแค่ผิวเผิน แต่มาหนีตายอยู่ในบ้านเธอเนี่ยนะ ใครจะใจเย็นก็ใจเย็นไปเถอะ แต่เธอจะไม่ประมาทแน่

                    อนินทิตาเอามือคลำไปยังกระเป๋ากางเกงด้านหลังทันที แต่กลับไม่พบโทรศัพท์มือถือที่เธอเก็บไว้...มันหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่!

                    “หานี่อยู่หรือเปล่า”

                    อนินทิตาหันขวับ แล้วก็พบว่าของที่หาอยู่นานบัดนี้อยู่ในมือรามเสียแล้ว...เขาเอาไปตั้งแต่ตอนไหนกัน


    ม่มีแบบหนังสือนะคะ 

    E-book มาแล้วค่า 
    รักร้ายอุบายมาร (เชสก์+ผักหวาน) มาแล้ว จิ้มเลยยยย https://bit.ly/2Xe7R0P

    E-book กับดักรักล้อมใจ (วูล์ฟ+นิมา) มาแล้ว จิ้มเลยยยย https://bit.ly/3oIyR5e

    เรื่องแสนรักซ่อนใจ (อัลเบอร์โตxหนูนา) มีวางขายแล้วค่า

    E-book มาแล้ว จิ้มเลยยยย https://bit.ly/2DnWxc6


    E-book ร้ายหวงรัก (ธิติ+คะนึงนิจ) จิ้มเลย https://bit.ly/33g2aC6
     ^^


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×