ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    อยากบอกนายว่า "ไปตายซะน่อ!!!"

    ลำดับตอนที่ #25 : บทที่ 23 จะจามทั้งที่ ควรเลือกเวลาและสถานที่ในการจามด้วยนะ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 996
      30
      1 มิ.ย. 58

    บทที่ 23 จะจามทั้งที่ ควรเลือกเวลาและสถานที่ในการจามด้วยนะ


                   

                    “ตามจับมัน อย่าให้หนีไปได้”

                    “ครับ”

                    เสียงฝีเท้าของคนจำนวนมากกำลังวิ่งไปทั่วเมืองในยามวิกาล จันทราเริ่มเคลื่อนที่จนอยู่เหนือศีรษะ เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าล่วงเข้าเวลายามราตรีไปค่อนข้างมาก โซโกะและคางุระหนีกลุ่มคนเหล่านั้นเข้ามาในป่าข้างทางและหลบอยู่ในพุ่มไม้ขนาดใหญ่ที่พอกำบังร่างของชายหญิงสองคนให้รอดพ้นจากสายตาของศัตรูได้ แต่ก็ยังไม่ปลอดภัยเพราะคนเหล่านั้นยังวนเวียนอยู่ใกล้ๆ

                    “พวกมันจะตามไปถึงไหนเนี่ย”

    โซโกะสบถเบาๆพอให้คนข้างๆได้ยิน เขาหันมามองเด็กสาวยาโตะที่เอาแต่นั่งหอบอย่างเดียวเพราะความเหนื่อย และเธอเองก็หันมามองหน้าเขาเช่นกัน

    “นี่อาตี๋ อั้วมีแผนน่อ” คางุระเสนอขึ้น

    “แผนอะไร”

    “ถ้าหนีพร้อมกันทั้งสองคนคงไม่รอดแน่ เพราะงั้นอั้วมีความคิดว่าให้ลื้อออกไปล่อพวกมันออกไปอีกทาง ส่วนอั้วจะกลับไปเรียกกำลังเสริมมาช่วยลื้อเองน่อ”

    “นี่หล่อน คิดจะหาทางเอาตัวรอดคนเดียวใช่มั้ยห่ะ”

    “ใช่ที่ไหนน่อ เพื่อความปลอดภัยของเราสองต่างหาก”

    “เพื่อความปลอดภัยของหล่อนคนเดียวละสิไม่ว่า คิดจะให้ฉันไปสู้กับคนมากมายขนาดนั้น วางแผนฆ่าฉันทางอ้อมรึไง”

    “ลื้อเก่งอยู่แล้วไม่ใช่รึงาย อีกอย่างถ้าให้เด็กผู้หญิงอย่างอั้วไปต้วยรังแต่จะเป็นตัวถ่วงให้ลื้ออ่ะน่อ”

    “อย่ามาอ้างความเป็นเด็กผู้หญิงในเวลาที่จำเป็นแบบนี้สิเฟ้ย”

     

    โครกคราก จู่เสียงท้องของคางุระก็ดังขัดการสนทนาของทั้งคู่

    “อั้วหิวข้าวแล้วน่อ” เธอเอ่ยขึ้นด้วยท่าทางอิดโรย

    “หิวก็กินซะสิ ซาลาเปาในมือก็มีนี่”

    คางุระมองถุงซาลาเปาในมือตัวเอง เธอหยิบมันออกมาแล้วทำท่าคิดอะไรบางอย่างจากนั้นจึงเก็บใส่ถุงไว้เหมือนเดิม โซโกะเห็นดังนั้นจึงเอ่ยถามขึ้น

    “ฉันสงสัยมานานแล้วนะ ว่าทำไมเธอถึงไม่ยอมกินซาลาเปาพวกนั้นเลย”

    “อั้วอยากเก็บไว้อ่ะน่อ”

                    “แล้วหล่อนจะเก็บไว้ทำไมมิทราบ”

                    “อากินจังสอนไว้ว่าถ้ามีคนให้ของมา เราต้องรักษาสุดชีวิตน่อ”

                    “ของที่ว่าเนี่ย มันรวมถึงของกินอย่างซาลาเปาด้วยรึไง”

                    “ก็อาคุงป้าอีใจดีน่อ และอั้วก็ชอบอีด้วย เพราะอีเหมือนหม่ามี้อั้วอ่ะน่อ”

                    คางุระยกถุงซาลาเปาขึ้นมาแล้วยิ้มกรุ่มกริ่มคนเดียว โดยลืมไปว่ามีสายตาของหนุ่มคนข้างๆจ้องมองเธออยู่

                    “หม่ามี้? แม่เธองั้นหรอ”

                    “ใช่เลี่ยว แม่อั้วเอง แต่อีจากอั้วไปนานแล้วน่อ” แม้ว่าเจ้าตัวจะพูดแบบยิ้มๆ แต่แววตาของเธอกลับฉายความเศร้าหมองออกมาอย่างเห็นได้ชัด

                    “งั้นหรอ คุณป้าคนนั้นทำให้เธอคิดถึงแม่สิน่ะ”

                    “หม่ามี้อั้วเป็นคนใจดีน่อ อยู่ด้วยแล้วอบอุ่นสุดๆเลยน่อ เหมือนอาคุงป้าคนนั้นเลย”

                    “เพราะป้าคนนั้นเหมือนแม่เธอ เธอเลยอยากเก็บซาลาเปาที่ป้าแกให้มาไว้งั้นสิ”

                    “ใช่แล้วน่อ อีจะได้ดีใจที่อั้วให้ความสำคัญกับสิ่งที่อีให้อั้วมาไงน่อ” เด็กสาวยิ้มเปล่งประกายตามแบบเด็กสาวทั่วๆไป

                    “แต่ฉันว่าป้าแกจะดีใจมากกว่าถ้าเธอกินมันน่ะ”

                    “ทำไมล่ะน่อ” คางุระหันมามองโซโกะที่เอาแต่นั่งมองลอดช่องเล็กๆของพุ่มไม้ที่ใช้กำบัง แล้วกวาดสายตาคอยระแวดระวังศัตรูอยู่ไม่ขาด

                    “ก็ถ้าเธอเก็บไว้มันก็เสียของน่ะสิ เพราะงั้น กินๆมันไปซะ”

                    “แต่อั้วอยากเก็บมันไว้ดูเวลาอั้วคิดถึงอาคุงป้าอ่ะน่อ” คางุระพูดพลางทำสีหน้าเศร้าสร้อย โซโกะเห็นดังนั้นจึงถอนหายใจเบาๆแล้วพูดขึ้น

                    “ถ้าคิดถึงเดี๋ยวฉันพามาหาแกอีกก็ได้”

                    “จริงๆหรอน่อ ขอบคุณนะอาตี๋” คางุระเผลอไปคว้าเอามือของโซโกะมาจับไว้อย่างลืมตัว

                    “อะ...อืม รีบๆกินไปซะ หิวไม่ใช่รึไง”

                    “แล้วลื้อไม่หิวหรอน่อ” คางุระหยิบซาลาเปาออกมาจากถุงแล้วลิ้มรถมันหนึ่งคำก่อนจะหันไปถามคนข้างๆ

                    “เธอกินไปเถอะ ฉันยังไม่......”

                   

                    จ๊อกกกกกก...กก..ก                                                                                                                                                                              เหมือนเขาถูกทรยศเมื่อท้องเจ้ากรรมดันส่งเสียงคำรามขัดขึ้นก่อนที่เขาจะพูดจบ เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกเสียหน้าต่อหน้าคนอื่น คิดได้ดังนั้นหน้าเขาก็เริ่มแดงขึ้นเรื่อยเพราะรู้สึกเขินแต่ก็ยังเก็บอาการไว้

                    “อั้วว่าลื้อเลิกวางมาดเก๊กเท่ได้เลี่ยวน่อ หิวก็บอกว่าหิวสิ”

                    “พูดมากน่า รีบๆกินไปซะ”

                            คางุระมองหน้าโซโกะสลับกับซาลาเปาในมือ ก่อนจะยื่นส่งไปให้เขา ซึ่งชายหนุ่มเองก็งุนงงเล็กน้อย

                    “อะไรน่ะ”

                    “อั้วให้  รีบๆกินไปซะ”

                    “..............................................”

                    “อะไรของลื้อ อั้วกัดไปคำเดียวเองรังเกียจรึไงน่อ งั้นอั้วเอาอันใหม่ให้ก็ได้” คางุระกำลังจะชักมือกลับแต่ก็โดนชายหนุ่มรั้งเอาไว้ด้วยมือของเขา

                    “ไม่ต้อง เอาอันนี้แหละ” โซโกะดึงซาลาเปาชิ้นนั้นออกจากมือคางุระแล้วกัดกินมันอย่างเอร็ดอร่อย

                    “ลื้อนี่ก็น่ารักดีเหมือนกันน่อ” คางุระพูดอย่างยิ้มๆ ก่อนจะหยิบซาลาเปาชิ้นใหม่ออกมากิน

                    “อะไรกัน อยู่ๆเกิดตกหลุมรักฉันขึ้นมารึไง ถึงพูดแบบนั้น”

                    “ลื้อนี่หลงตัวเองจริงๆ อั้วหมายถึงลื้อทำตัวน่ารักต่างหาก จะว่าไปหลังๆมาลื้อนี่ใจดีกับอั้วแปลกๆน่อ”

                    โซโกะชะงักเมื่อได้ยินแบบนั้น เขาแทบไม่รู้สึกตัวเลยว่าหลังๆมานั้น การกระทำที่เขามีต่อเธอมันเปลี่ยนไป เขามีความรู้สึกเป็นห่วงหญิงสาวที่ขึ้นชื่อว่าเป็นคู่กัดของเขาอย่างเห็นได้ชัด เพราะอะไรนั้นตัวเขาเองก็ยังไม่รู้                                        “แต่ช่างเถอะน่อ ลื้อคงมีเหตุผลส่วนตัวของลื้ออีกนั่นแหละ อาจจะหลอกให้อั้วตายใจแล้วเชือดอั้วทิ้งทีหลังก็เป็นได้น่อ” หญิงสาวพูดพลางกัดซาลาปาเข้าปากแล้วเคี้ยวอย่างสบายอารมณ์

                    “คง...อย่างนั้นมั้ง” ตอนนี้โซโกะเองก็ไม่รู้ว่าหลังๆมาเขาเป็นอะไรจึงตอบกลับแบบขอไปที เพื่อให้สาวหมวยหยุดสงสัย

                    “ลื้อนี่มัน....หือ!

                    จู่ๆก็มีแมลงตัวเล็กๆบินมาเกาะที่จมูกของคางุระ ทำให้เธอเริ่มรู้สึกคันจมูก

                    “ฮะ..ฮะ..ฮ้าดดด...อุ๊บ!

                    “นี่หล่อนทำบ้าอะไรเนี่ย” โซโกะเอามือมาปิดปากคางุระไว้ก่อนที่เจ้าหล่อนจะจามออกมา จนเป็นเหตุให้ศัตรูรู้ที่ซ่อน

                    “อ่อย อั้ว อ่อ (ปล่อย อั้ว น่อ)” คางุระพยายามดิ้นให้หลุดแต่ก็ทำไม่ได้

                    “ขืนหล่อนจามออกมา มีหวังถูกศัตรูเจอตัวแน่”

                    “อั้ว ไอ้ อ๋น อ่อย อั้ว (อั้ว ไม่ สน ปล่อย อั้ว)”

                    “อย่าดิ้นจะได้มั้ย ยัยบ้านี่” โซโกะพยายามใช้มืออีกข้างมากันมือของคางุระไว้

                    เมื่อเห็นว่าโซโกะไม่ยอมปล่อยมือ และด้วยความที่ว่ามันคันจมูกจนทนไม่ไหว คางุระจึงกัดมือของโซโกะไปอย่างเต็มแรง จนชายหนุ่มต้องรีบชักมือกลับ

                    “โอ้ย มันเจ็บน่ะเฟ้ย” โซโกะตวาดใส่หญิงสาวเบาๆ                        

                    “ช่วยไม่ได้นี่...ฮ้าดด..อุ๊บ!”                                                                  

    “นี่ยังไม่หายคันจมูกอีกงั้นหรอ”

    คราวนี้โซโกะใช้มืออีกข้างมาปิดปากเธออีกครั้ง แต่หญิงสาวก็ยังไม่ยอมหยุด ยังดิ้นเพื่อร้องหาอิสรภาพอีกครั้ง เธอทำท่าจะกัดมือชายหนุ่มอีกครั้งแต่เขาก็ชักมือออกมาทัน

    “ฮะ...ฮะ...ฮาดดด....อุ๊บ!

    ริมฝีปากของชายหนุ่มประทับลงบนริมฝีปากบางของเธออย่างไม่รอช้า เพื่อกันไม่ให้หญิงสาวตรงหน้าดิ้นเขาจึงใช้มือทั้งสองข้างจับศีรษะของเธอไว้แล้วดึงเข้าหาตัว คางุระเบิกตากว้างอย่างตกใจ อาการคันจมูกหายไปอย่างปลิดทิ้ง เธอชำเลืองมองชายหนุ่มตรงหน้าที่ยังคงหลับตาอยู่อย่างนั้น โดยที่ไม่มีทีท่าว่าจะถอนจูบนี้ซักที

                    คางุระพยายามใช้มือทั้งสองข้างดันเขาของชายหนุ่มออก แต่เขากลับปล่อยมือจากศีรษะเธอแล้วเปลี่ยนมาโอบหลังเธอไว้แทน เธอจึงพยายามดิ้นอีกครั้งแต่ยิ่งดิ้นหนักเท่าไหร่เขาก็ยิ่งรัดแน่นมากขึ้นเท่านั้น หญิงสาวจึงหยุดและอยู่นิ่งๆไปอย่างนั้น

                    ซักพักโซโกะก็ถอนริมฝีปากของตัวเองออกและปล่อยมือที่โอบกอดเธอไว้ออกมา เขาสบตาหญิงสาวที่ตอนนี้ตัวแข็งทื่อ หน้าแดงก่ำ เม็ดเหงื่อผุดเต็มหน้า

                    “ทีนี้ก็เลิกคันจมูกแล้วใช่มั้ย” เขาเอ่ยถามเธอ

                    “ละ...เลิกแล้วน่อ”

                    คางุระหลบสายตาของชายหนุ่มที่มองมายังเธอ เธอรับรู้ได้ว่าเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ทำให้เธอใจเต้นถี่มากกว่าทุกครั้ง  ทางโซโกะเองก็ไม่ต่างกัน แม้จะไม่แสดงออกทางสีหน้าแต่เขาก็รู้ดีว่าหัวใจของเขาเองก็เต้นรัวไม่แพ้กัน ใบหน้าที่ขึ้นสีทำให้ชายหนุ่มต้องเบี่ยงหน้าไปอีกฝั่ง

                    “พวกนั้นคงไปกันหมดแล้ว เรากลับกันเถอะ” โซโกะลุกขึ้นพูดเพื่อทำลายบรรยากาศที่แสนอึดอัดนี้ไป

                    “อะ..อืม” หญิงสาวเองก็ลุกขึ้นยืนเพื่อกลับไปยังซินเซ็นงุมิ ที่พักชั่วคราวของเธอ

                   

    “เจอตัวแล้ว”

                   

                   

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×